ติดตามสถานะการณ์

InPics: “ไมค์ เพนซ์” รองปธน.สหรัฐฯ เซอร์ไพรซ์บุกเข้าเขตห้ามปฎิบัติการทหาร DMZ ขู่เปียงยาง “ใช้ทุกทางเลือกที่มี” อย่าประมาทสหรัฐฯ โดย MGR Online
17 เมษายน 2560 12:58 น. (แก้ไขล่าสุด 17 เมษายน 2560 13:00 น.)


(ภาพล่าง) ทหารเกาหลีเหนือถ่ายภาพการเยือนเขต DMZ ของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์

เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางแบบปิดลับ ไปยังเขตบัฟเฟอร์โซนทางทหาร DMZ กั้นระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ เป็นจุดที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีคลินตัน เคยประกาศ “DMZเกาหลีใต้ เป็นสถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก” แต่ในวันนี้(17 เม.ย) เพนซ์พร้อมกับ พลเอกวินเซนต์ บรู๊คส์(Vincent Brooks ) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯประจำเกาหลีใต้เดินทางไปถึง 1 วันหลังผู้นำเกาหลีเหนือยิงมิสไซล์รับ ประกาศห่างจากเส้นแบ่งทางทหารไปไม่กี่ก้าว “ทุกทางเลือกยังวางอยู่บนโต๊ะ” และคนเกาหลีเหนือรวมไปถึงกองทัพของเปียงยาง..อย่าประมาทสหรัฐฯต่อพันธะและสัญญาที่มีให้กับชาติพันธมิตร "เกาหลีใต้"

NBC NEWS รายงานเมื่อวานนี้(16 เม.ย) ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีบิดาเป็นอดีตนายทหารรบสงครามเกาหลี รับรางวัลเกียร์ติยศในความกล้าหาญเหรียญบรอนซ์ เดินทางมายังเกาหลีใต้ พร้อมครอบครัวเมื่อวานนี้(16 เม.ย)

และในวันนี้(17 เม.ย) ในกำหนดการปิดลับเพื่อความปลอดภัย เพนซ์ ที่ถูกเรียกในอเมริกาว่า วีพ เพนซ์(VEEP หรือรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพนซ์) เดินทาง ที่มี พลเอกวินเซนต์ บรู๊คส์(Vincent Brooks ) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯประจำเกาหลีใต้ร่วมอยู่ด้วย มายังเขตห้ามปฎิบัติการทางทหาร ที่เรียกว่า เขต DMZ กั้นระหว่างเกาหลีใต้ และเกาหลีเหนือ

สื่อสหรัฐฯชี้ว่า เพนซ์ที่อยู่ในชุดสูท พร้อมเนคไทสีแดง ขนาบข้างพร้อมกับพลเอกบรู๊คส์ในชุดเครื่องแบบลายพรางทางทหาร และตำรวจลับคุ้มกันความปลอดภัยรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ห่างออกไปจากเขต DMZ ไม่กี่หลา วีพเพนซ์ประกาศ “ นี่คือพรมแดนแห่งเสรีภาพ” ซึ่งโซน DMZ นี้ เร็กซ์ ทิอลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่ เดินทางมายังหมู่บ้านพันมูนจอม( Panmunjom) ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ก่อนหน้านี้

และในปี 2012 อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้เดินทางมาสำรวจจุด DMZ เส้นแบ่งเขตระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน โดยโอบามาต่างจากตัวแทนระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์ที่เดินทางมาในชุดสูทธุรกิจ แต่โอบามาอยู่ในชุดทะมัดทะแมง พร้อมแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลรูปเครื่องหมายตราประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมป้ายชื่อ ที่บริเวณหมู่บ้านสงบศึก 2 เกาหลี ใช้กล้องอินฟราเรดจับความเคลื่อนไหวแบบ 2 ตา ส่องชมวิวไปยังเขตเกาหลีเหนือ ซึ่งบริเวณจุดที่โอบามายืนนั้นมีกระจกหนากั้นสูงกว่าตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯกั้นไว้

และเขต DMZ นี้เป็นสถานที่ครั้งหนึ่ง บิล คลินตัน อดีตผู้นำสหรัฐฯได้เคยกล่าวไว้ว่า “เป็นสถานที่อันตรายมากที่สุดในโลก”

แต่ในวันจันทร์(17 เม.ย) ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจากเขตห้ามปฎิบัติการทางทหารว่า “ทุกทางเลือกยังวางอยู่บนโต๊ะ” พร้อมประกาศกร้าวต่อว่า “ ประชาชนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีเหนือ และกองทัพเกาหลีเหนือ ไม่ควรเข้าใจผิด ต่อพันธะและสัญญาของสหรัฐฯต่อจุดยืนของเราที่มีต่อพันธมิตรของพวกเรา”

ในแถลงการณ์ของเพนซ์ ยังชี้ต่อว่า “ความเป็นพันธทมิตรระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯนั้นแข็งแกร่ง”

NBC NEWS รายงานว่า ในระหว่่างการทัวร์เอเชีย 10 วัน วีพเพนซ์ได้ประกาศกลางงานเลี้ยงอาหารค่ำเทสกาลฉลองอีสเตอร์ภายในฐานทัพสหรัฐฯ USAG Yongsan ใกล้กรุงโซลว่า การทดสอบมิสไซล์ในช่วงเช้าวันอาทิตย์(16 เ.ย) นั้นถือเป็นการยั่วยุออกมาจากเกาหลีเหนือ และตัวเขาได้ติดต่อพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึง 2 ครั้งในวันอาทิตย์(16 เม.ย)

โดยในการเดินทางมาเยือนเอชียครั้งนี้ เพนซ์เดินทางมาพร้อมกับสุภาพสตรีหมายเลข 2 ของสหรัฐฯ และบุตรสาว 2 คน ซึ่งในช่วงอาหารค่ำร่วมกับบรรดานายทหารสหรัฐฯ เพนซ์กล่าวว่า “ถือเป็นเกียร์ติอย่างยิ่งที่ผมได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่”

และกล่าวต่อว่า “บิดาผมเป็นนายทหารทำงานรับใช้กองทัพสหรัฐฯในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งในระหว่างการเดินทางมาที่แห่งนี้ เราได้มีโอกาสได้เห็นพื้นที่ซึ่งพ่อของผมได้ร่วมรบ” และกล่าวต่อว่า “เรารู้สึกยินดีทุกวัน และนี่ถือเป็นเกียร์ติที่ได้มายืนอยู่ที่ตรงนี้”

เดลีเทเลกราฟรายงานเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯต้องการใช้ทางเลือกที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะเพื่อทำให้เกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์

ซึ่งเพนซ์ได้กล่าวต่อกลุ่มนักข่าวในระหว่างที่เขาอยู่ใกล้โซน DMZ ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการเห็นปักกิ่งใช้ “แรงกดดันพิเศษ” เพื่อเปลี่ยนให้เปียงยางหันเหความสนใจจากการพัฒนานิวเคลียร์

โดยในการให้สัมภาษณ์ วีพเพนซ์ยืนยันว่า “ยุคสมัยแห่งความอดทนเชิงยุทธศาสตร์ของอเมริกาได้จบสิ้นลงแล้ว”

สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯได้บินต่อไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังค่ายแคมป์โบนิฟาส( Camp Bonifas) ซึ่งเป็นค่ายบัญชาการขององค์การสหประชาชาติที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำประจำอยู่ ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรทางใต้ของโซน DMZ

และจากที่นั่น เดลีเทเลฟราฟรายงานว่า เชื่อว่า เพนซ์จะถูกนำต่อเข้าไปยังหมู่บ้านสงบศึก หมู่บ้านพันมูนจอม ซึ่งในจุดนี้เอเอฟพีรายงานผ่านภาพว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯอยู่ในชุดทะมัดทะแมง สวมแจ็คเก็ตสีเข้มพร้อมป้ายชื่อและตำแหน่งกำกับ

ซึ่งจากการรายงานของเอเอฟพีผ่านภาพถ่ายพบว่า ภายในฝั่งเกาหลีเหนือ ได้มีการจับภาพเคลื่อนไหวของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีก่รถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ที่ผ่านมา โดนัดล์ ทรัมป์ ได้เคยประกาศว่า เขาไม่สามารถอนุญาตให้เกาหลีเหนือทำการพัฒนามิสไซล์ข้ามทวีป ที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งสามารถโจมตีชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯได้

ซึ่งในวันอาทิตย์(16 เม.ย) ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศระดับสูงของทำเนียบขาว เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯล่าสุด ที่ออกมาเตือนว่า ในขณะที่แรงกดดันทางการทูตยังถือเป็นทางเลือกแรกที่ต้องการสำหรับอเมริกา แต่อออปชันปฎิบัติการทางทหารของสหรัฐฯยังคงถูกวางอยู่บนโต๊ะ

โดยแหล่งข่าวเตือนว่า “ เรามีตัวเลือกที่หลากหลายวางอยู่บนโต๊ะสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯในการเลือกใช้”










การแถลงของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯภายในตัวอาคารของหมู่บ้านสงบศึก หมู่บ้านสงบศึก หมู่บ้านพันมูนจอม








ทหารเกาหลีเหนือถ่ายภาพการเยือนเขต DMZ ของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์




ไมค์ เพนซ์ และบุตรสาวทั้งสอง












อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ในปี 2012 เยือนหมู่บ้านพันมูนจอม ใกล้พรมแดนเกาหลีเหนือ

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000038633

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียและจีนส่งเรือสอดแนมไล่ประกบหลังกองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐในทะเลจีนตะวันออก สหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในทะเลญี่ปุ่น ติ๊กต๊อกๆๆ...
------------

1.) วันที่ 17 เม.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "เรือรบรัสเซียและจีนตามติดกองเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vison ของสหรัฐในทะเลจีนตะวันออก" (Russian, Chinese Ships Tail USS Carl Vinson in East China Sea)

กรุงปักกิ่งและกรุงมอสโคได้ส่งเรือสอดแนมรวบรวมข่าวกรองตามหลังเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของสหรัฐในขณะที่กำลังมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลี แหล่งข่าวต่างๆในรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าว

เชื่อว่ากลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐเข้าถึงน่านน้ำในทะเลจีนตะวันออกแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลี

จีนและรัสเซียซึ่งให้ความสำคัญกับเสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลีเป็นอันต้นๆได้แสดงความกังวลต่อจุดยืนของสหรัฐที่แข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือ โดยนาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขโดยสันติวิธีผ่านความพยายามทางการเมืองและการทูตเท่านั้น

การส่งเรือรบรวบรวมข่าวกรองออกไป อาจจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนบางอย่างต่อสหรัฐก็ได้ รายงานคาดการณ์ สื่อรายงานว่า เกาหลีเหนือไม่ได้ทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์รอบใหม่ แม้ว่าจะมีประสบความล้มเหลวในการพยายามปล่อยขีปนาวุธหลังการจัดงานครบรอบนเกิดปีที่ 105 ของอดีตประธานาธิบดี Kim Il-sung ผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือก็ตาม

2.) ส่วนอีกข่าวหนึ่ง Sputnik พาดหัวข่าวว่า "เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐสามลำพากันมุ่งหน้าเข้าสู่ชายฝั่งเกาหลีใต้" (Three US Aircraft Carriers Directed Toward South Korean Shores)

ท่ามกลางความตึงเครียดในเอเซียตะวันออก เพนตากอนได้ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน 3 กองเข้าไปยังคาบสมุทรเกาหลี สื่อเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาล

เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐจำนวนสามลำซึ่งประกอบด้วย USS Carl Vinson, USS Ronald Reagan และ USS Nimitz จะเข้าสู่เขตทะเลญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้รายงาน อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลเกาหลีใต้

กรุงวอชิงตันและกรุงโซลกำลังหารือกันถึงการซ้อมรบร่วมกัน ซึ่งจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินจำนวน 3 ลำซึ่งรวมทั้งเรือ USS Carl Vinson ซึ่งคาดว่าจะไปถึงทะเลญี่ปุนในวันที่ 25 เมษายนนี้เข้าร่วมด้วย รายงานข่าวจากสื่อเกาหลีใต้กล่าว

ในคืนวันอาทิตย์กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐลงบันทึกสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าน่าจะเป็นความล้มเหลวในการทดลองขีปนาวุธของกรุงเปียงยาง

นาย Mike Pence รองประธานาธิบดีของสหรัฐกล่าวเมื่อวันจันทร์นี้ในเกาหลีใต้ว่า จะไม่มี "ความอดทนอดกลั้นทางยุทธศาสตร์" (strategic patience) อีกต่อไป ในขณะที่เขากำลังเยี่ยมฐานทัพของสหรัฐในเกาหลีใต้ เพียงหนึ่งวันหลังกจากมีรายงานข่าวเกาหลีเหนือล้มเหลวในการพยายามปล่อยขีปนาวุธ Sputnik รายงานโดยอ้างข่าวจาก CNN วันนี้นาย Mike Pence กำลังไปสำรวจฐานทัพ Camp Bonifas ของสหรัฐในเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone - DMZ) ใกล้ชายแดนเกาหลีเหนือ

[กฎมีไว้ให้แหก สำหรับสหรัฐ... ชื่อมันก็บอกอยู่ว่า Demilitarized Zone (เขตปลอดทหาร/เขตปลอดกิจกรรมททางทหาร) แต่สหรัฐก็ไปตั้งค่ายทหารของตนเองอยู่ในเขต DMZ ซึ่งกั้นระหว่างสองเกาหลีซะงั้น - ผู้แปล]

วันที่ 17 เม.ย.60 Sputnik รายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการอพยพผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ในสถานการณ์ฉุกเฉินในคาบสมุทรเกาหลี

"เมื่อพิจารณาถึงมาตรการต่างๆเช่น กระบวนการแลนดิ้ง การให้ที่หลบภัย และการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าใครบ้างที่มีความต้องการการปกป้องคุ้มครองอย่างแท้จริงในฐานะผู้ลี้ภัยจากประเทศของเรา ญี่ปุ่นจะดำเนินการเตรียมความพร้อมที่จำเป็นเพื่อปกป้องพลเรือนชาวญี่ปุ่นในคาบสมุทรเกาหลี" นายกฯ อาเบะกล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่น

ล่าสุดทรัมป์โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ของตนเองว่า "เรากำลังสร้างกองทัพและก็จะกลายเป็นกองทัพที่เข้มแข็งกว่าแต่ก่อน ก็ยุติธรรมดี เราไม่มีทางเลือก" (Our military is building and is rapidly becoming stronger than ever before. Frankly, we have no choice!) RT รายงาน

[คิมน้อย อิหร่าน จีน และรัสเซีย หรือประเทศอื่นๆทั่วโลกก็คงจะอ้างได้เช่นกันว่า "เราจำเป็นต้องพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อเป็นไม้ตีสุนัข มันก็ยุติธรรมดีนี่ เราไม่มีทางเลือกเช่นกัน" - ผู้แปล]

ป.ล. รัสเซียและจีนไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนถึงรุ่นของเรือรบหรือเรือสอดแนมของตนเองที่ส่งออกไปจับตาและตามหลังกองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐตามที่มีการรายงานข่าว

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
17/04/2560
------------
https://sputniknews.com/military/201704171052699565-russia-china-chase-carl-vinson/
https://sputniknews.com/asia/201704171052700019-three-us-aircraft-carriers-korean-peninsula/
https://sputniknews.com/asia/201704171052700838-pence-nort-korea-no-patience/
https://sputniknews.com/asia/201704171052700314-pence-base-korean-dmz/
https://sputniknews.com/asia/201704171052701219-japan-refugees-measures/

https://www.rt.com/usa/384993-trump-military-power-no-choice/

 

ปอกเปลือก ทรราช



เกาหลีใต้บอกว่าจะส่งขีปนาวุธ KM-SAM ภาคพื้นสู่อากาศเข้าประจำการในกองทัพระหว่างปี 2018-2019 นี้ เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง รัศมีทำการราว 40 กิโลเมตร พัฒนาตั้งแต่ปี 2001-2011 เริ่มกระบวนการผลิตในปี 2015
-------------
https://sputniknews.com/asia/201704171052701465-south-korea-missile-defense-system/
https://en.wikipedia.org/wiki/KM-SAM

 

ปอกเปลือก ทรราช
กองทัพ Libyan National Army (LNA) ของรัฐบาลกรุง Tobruk ของนายพล Khalifa Haftar ส่งเครื่องบินรบ MiG-23 ขึ้นถล่มพวกผู้ก่อการร้ายบางกลุ่มที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาล Government of National Accord (GNA) ของกรุง Tripoli รัฐบาลกรุง Tripoli ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและยูเอ็น ส่วนรัฐบาล Tobruk กำลังจะได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย (16 เม.ย.60)
------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
หนูน้อยชาวซีเรียเพิ่งรอดตายมากจากการลอบโจมตีขบวนรถบัสขนผู้อพยพจากลิดลิบโดยพวกกบฏและผู้ก่อการร้าย ยิ้มสู้กล้อง สู้ๆครับ (16 เม.ย.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียถล่มพวกผู้ก่อการร้ายและพวกกบฏหัวรุนแรงทางเหนือของจังหวัด Hama ใกล้จังหวัด Idlib รังใหญ่ของพวกอัลนุสราฟรอนท์ (FSA) ยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ (16 เม.ย.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
หลังจากได้รับ MiG-29 ฟรีหนึ่งฝูงบินจากรัสเซีย ผู้นำเซอร์เบียบอกว่าพี่ปูตินครับหนูอยากได้ S-300 ด้วยครับ ช่วยจัดให้ด้วยนะครับ ราคาเท่าไรว่ามาเลยครับลูกเพ่
------------

วันที่ 16 เม.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "เซอร์เบียต้องการที่จะซื้อระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-300 กำลังเจรจากับรัสเซียและเบลารุส - ประธานาธิบดีกล่าว" (Serbia wants to buy S-300 missile systems, talking with Russia & Belarus – president)

เซอร์เบียต้องการระบบขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของรัสเซียและจำนวนสองกองพล (two divisions) รวมทั้งหน่วยบัญชาการด้ว้ยเพื่อปกป้องน่านฟ้าของตนเอง นาย Aleksandar Vucic ประธานาธิบดีของเซอร์เบียกล่าว กำลังมีการหารือกันถึงความเป็นไปได้ในการจัดซื้อระบบดักกล่าวกับรัสเซียและเบลารุส

ประธานาธิบด Aleksandar Vucic กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์นี้ว่า ตนเองได้หารือเกี่ยวกับการจัดซื้อ S-300 เป็นการส่วนตัวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียและประธานาธิบดี Aleksandr Lukashenko แห่งเบลารุส

"ไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับ S-300 ผมได้พูดถึงเรื่องนี้ระหว่างการสนทนากับประธานาธิบดีปูติน และพวกเราก็ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เราได้หารือเรื่องนี้กับประธานาธิบดี Lukashenko เช่นกัน" ผู้นำเซอร์เบียกล่าว

ในเดือนมกราคม นาย Zoran Djordjevic รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเซอร์เบียได้เอ่ยว่ากุรงเบลเกรด (Belgrade) ได้วางแผนที่จะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับการจัดซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศกับเบลารุส

ในการเดินทางไปเยือนกรุงมินส์ เมืองหลวงของเบลารุสครั้งล่าสุดของนาย Vucic เมื่อปลายเดือนมกราคม และกรุงมอสโคในเดือนธันวาคม ซึ่งตอนั้นเขายังคงเป็นนายกรัฐมนตีของเซอร์เบีย

"สำหรับพวกเราแล้ว มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะต้องมี (S-300) ซักสองกองพล และหนึ่งกองบัญชาการ ซึ่งจะเป็นคำตอบสำหรับพวกเราสำหรับอีกหลายปีข้างหน้านี้" ผู้นำเซอร์เบียกล่าว

ประธานาธิบดีเซอร์เบียยังได้แสดงความคิดเห็นต่อรายงานเมื่อเร็วๆนี้ของสื่อที่อ้างว่ารัสเซียได้ขายระบบ S-300 ให้กับประเทศโครเอเทียในปี 1990s ซึ่งเป็นการละเมิดการคว่ำบาตรทางอาวุธของยูเอ็นที่มีต่อสงครามกลางเมืองยูโกสลาเวีย

"เมื่อพวกเราไม่มีข้อมูลว่าโครเอเทียได้ครอบครอง S-300 หรือไม่ โดยปรกติแล้ว คนเราจะไม่สามารถซ่อนเล้นสิ่งของลักษณะนั้นได้เลย มันไม่ใช่เข็มเย็บผ้านะครับ" ปธน. Vucic กล่าว

กรุงมอสโคได้ออกมาปฏิเสธรายงานของหนังสือพิมพ์ Vecernji List ของโครเอเทียที่บอกว่ารัสเซียเคยขาย S-300 ให้กับประเทศดังกล่าว และได้ตำหนิบทความฉบับนั้นว่าเป็นการยั่วยุ บิดเบือนข้อเท็จจริง และมีจุดมุ่งหมายเพื่อใส่ร้ายป้ายสีรัสเซียในเรื่องการเมืองในกลุ่มประเทศบอลข่าน

นาย Artem Kozhin รองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า "รัสเซียได้ปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายระหว่างประเทศเสมอมา ซึ่งรวมถึงข้อห้ามต่างๆที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรทางอาวุธสำหรับฝ่ายต่างๆที่ขัดแย้งกันในวิกฤตยูโกสลาเวียในปี 199-1995"

[ปัจจุบันนี้ยูโกลาเวียไม่มีในแผนที่โลกอีกต่อไป ได้เกิดความแตกแยกชิงดีชิงเด่นกันภายในทั้งจากปัญหาความขัดแย้งทางกลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา ดินแดน การเมือง และการแทรกแซงทางการเมืองจากภายนอก รวมทั้งกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงด้วย หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต กลายเป็นประเทศเล็กประเทศน้อยถึง 9 ประเทศด้วยกัน และยังคงขัดแย้งกันมาเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ในบางพื้นที่

หลังจากแยกจากโซเวียตแล้ว กลุ่มประเทศเหล่านั้นในยุโรปก็พากันเข้าเป็นพันธมิตรของแก๊งนาโต้บ้าง เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพอียูบ้าง มีเพียงเซอร์เบียเท่านั้นซึ่งเป็นไข่แดงกลางดงแก๊งนาโต้และอียูที่ยังคงเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับรัสเซีย แต่พักหลังมานี้เซอร์เบียก็แสดงท่าทีว่าต้องการที่จะเข้าร่วมกับอียูเช่นกัน แต่จะไม่เข้าร่วมแก๊งกับนาโต้ เพื่อรักษาสัมพันธภาพทั้งฝ่ายอียูและรัสเซียเอาไว้ - ผู้แปล]

วันที่ 29 มีนาคม 2560 RT รายงานว่า คาดว่าการจัดส่งเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 6 ลำไปให้ประเทศเซอร์เบียจะเกิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์นี้ การเตรียมงานด้านเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว กระทรวงกลาโหมเซอร์เบียกล่าว ทางรัสเซียยกเครื่องบินรบ MiG-29 (มือสอง) ให้กับเซอร์เบียฟรีๆ ยกเว้นค่าซ่อมบำรุงและอัพเกรท

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า MiG-29 หกลำนี้มีราคารวมกันประมาณ 200 ล้านยูโร ($216 ล้าน) เป็นฝูงบินของประเทศเบลารุส กล่าวคือเบลารุส (อาจจะ) ขายคืนให้รัสเซีย และรัสเซียก็ยกให้เป็นของขวัญแก่เบลารุส เพื่อไม่ให้ย้ายค่ายไปอยู่กับพวกนาโต้ และยังแถมจรวด Buk ให้อีกสองกองด้วย

ล่าสุดรายงานข่าวบอกว่า ตามข้อตกลงนี้ทางรัสเซียและเบลารุสจะจัดส่ง MiG-29 หกลำ รถถังหลัก T-72 30 คัน และยานเกราะ BRDM-2 อีก 30 คันไปให้กับเซอร์เบียโดยไม่คิดค่าขนส่ง (ส่วน MiG-29 ยกให้ฟรีๆ) ดูเหมือนว่าทางเบลารุสกำลังโละของเก่า อาจจะเปลี่ยนไปใช้ของใหม่จากรัสเซียก็ได้

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
17/04/2560
------------
https://www.rt.com/news/384950-serbia-s300-russia-belarus/
https://www.rt.com/news/382634-serbia-russia-mig29-warplanes/
https://www.rt.com/news/377184-serbia-russian-jets-delivery/
http://tass.com/politics/941728
http://tass.com/defense/937813

 

Bank of Thailand Scholarship Students
(Apr 17) รองผู้นำสหรัฐขู่เกาหลีเหนือ "อย่าคิดวัดใจ" ทรัมป์: รองประธานาธิบดีสหรัฐเตือนเกาหลีเหนือว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรียและอัฟกานิสถานในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่ควร “วัดใจ” กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และกองทัพสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ว่านายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวระหว่างการเข้าพบนายฮวาง คโย-อัน รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ทำเนียบบลูเฮาส์ ในกรุงโซล ว่าตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐได้แสดงความแข็งแกร่งและพลังแห่งแสนยานุภาพให้โลกได้ประจักษ์แล้ว ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรียและอัฟกานิสถาน ซึ่งล้วนมาจากการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ เกาหลีเหนือจึงไม่ควร “ทดสอบ” หรือ “วัดใจ” กับทรัมป์ หรือแม้แต่กับกองทัพสหรัฐ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวของเพนซ์มีขึ้นหลังการเดินทางเยือนเขตปลอดทหาร ( ดีเอ็มซี ) เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน และเพนซ์กล่าวว่านโยบายความอดทนทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐต่อเกาหลีเหนือนั้น "ไม่มีอีกแล้ว" แต่ยืนยันว่าเหนือสิ่งอื่นใดรัฐบาลวอชิงตันต้องการให้สถานการณ์คลี่คลายอย่างสันติ

ขณะเดียวกัน เพนซ์กล่าวถึงท่าทีของจีนในการร่วมแก้ไขสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีว่าเป็นเรื่องที่ “น่าชื่นชม” แต่สหรัฐรู้สึก “ไม่สบายใจ” ต่อมาตรการของรัฐบาลปักกิ่งที่มีต่อเกาหลีใต้ หลังรัฐบาลโซลอนุญาตให้สหรัฐเริ่มการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธเพดานบินสูง ( ทาด ) ที่เมืองซองจู ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อเดือนที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของรองผู้นำสหรัฐในเรื่องทาดได้รับการตอบหลับแทบจะทันทีจากนายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ซึ่งกล่าวว่ารัฐบาลปักกิ่งมีจุดยืนหนักแน่นในการคัดค้านการติดตั้งระบบดังกล่าว เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ

ทั้งนี้การเดินทางเยือนเกาหลีใต้ของเพนซ์ถือเป็นจุดหมายแรกในการเดินสายเยือนเอเชียและโอเชียเนียเป็นเวลา 10 วัน โดยจุดหมายต่อไปคือญี่ปุ่น ตามด้วยอินโดนีเซีย และปิดท้ายที่ออสเตรเลีย

ส่วนที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า หากสหรัฐเปิดฉากโจมตีฝ่ายเดียวต่อทางเกาหลีเหนือ เป็นเรื่องที่เสี่ยงอย่างยิ่ง ทางรัสเซียเองก็ไม่ยอมรับการกระทำที่ไม่ระมัดระวังของเกาหลีเหนือเรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดมติสหประชาชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ใครก็สามารถละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศได้ ตนเองก็หวังว่าจะไม่มีการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียวจากทางสหรัฐเหมือนกับที่ได้เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในซีเรีย

ขณะเดียวกันสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า แอร์ไชน่า สายการบินแห่งชาติของจีนได้ระงับเส้นทางบินระหว่างปักกิ่งกับเปียงยาง ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวลือว่าทางการจีนต้องการที่จะกดดันกับเกาหลีเหนือในเรื่องโครงการอาวุธนิวเคลียร์ เรื่องนี้ นายหลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงว่า การระงับเที่ยวบินดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องการตลาดล้วนๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นสายการบินใดๆก็คงจะตัดสินใจทำเช่นนี้ ส่วนตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าของสายการบินแอร์ไชน่า สายการบินต่างชาติเพียงสายเดียวที่เปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ไปยังเกาหลีเหนือ กล่าวว่า การระงับเส้นทางบินดังกล่าวเพราะลูกค้าที่มาใช้บริการน้อยมาก

Source: เดลินิวส์ออนไลน์ : https://www.dailynews.co.th/foreign/568662

 

ผู้เชี่ยวชาญชี้จรวดที่โสมแดงยิง “ล้มเหลว” อาจเป็นรุ่นใหม่ที่โลกไม่เคยรู้จักมาก่อน โดย MGR Online 18 เมษายน 2560 09:10 น. (แก้ไขล่าสุด 18 เมษายน 2560 10:40 น.)



เอเอฟพี - จรวดที่เกาหลีเหนือนำออกมายิงทดสอบและล้มเหลวครั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (16 เม.ย.) อาจเป็นระบบขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่ทั่วโลกยังไม่เคยรู้จักมาก่อน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธระบุวานนี้ (17)

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่ชี้ชัดว่า จรวดที่ “ระเบิดเกือบจะทันที” หลังพุ่งออกจากฐานยิงใกล้ๆ เมืองซินโป (Sinpo) บนชายฝั่งตะวันออกของรัฐโสมแดงเมื่อช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ (16) เป็นชนิดใด ขณะที่ทำเนียบขาวก็เพียงแต่บอกว่าเป็น “ขีปนาวุธพิสัยกลาง” เท่านั้น

จอห์น สกิลลิง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธจากกลุ่ม 38 North ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ ระบุว่า การทดสอบที่ล้มเหลวครั้งนี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าจรวดที่ถูกนำมายิงอาจเป็น “ระบบใหม่”

“การที่จรวดล้มเหลวตั้งแต่เริ่มปล่อยออกจากฐานยิงนั้นเกิดขึ้นเป็นประจำกับจรวดของเกาหลีเหนือที่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นพัฒนา และพวกเขายังต้องแก้ไขข้อบกพร้องในระบบขับเคลื่อนและนำวิถี” สกิลลิง บอกกับเอเอฟพี

“ถ้าเราทราบรายละเอียดมากกว่านี้ก็คงจะดี แต่ผมสงสัยว่านี่คือจรวดรุ่นใหม่ หรือไม่ก็ต้องเป็นรุ่นที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่”

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ระบบอาวุธที่โสมแดงนำออกมาทดสอบล่าสุดคือจรวดสกั๊ดรุ่นใหม่ KN-17 ที่ใช้เชื้อเพลิงเหลว และมีองค์ประกอบของตัวขับเคลื่อนเพียงส่วนเดียว (single-stage) โดยจรวดรุ่นนี้อาจนำไปใช้สำหรับโจมตีเรือ

สกิลลิง เชื่อว่า สิ่งที่ถูกทดสอบน่าจะเป็นจรวดรุ่นใหม่ที่ คิม จองอึน นำออกมาอวดสายตาชาวโลกในพิธีสวนสนามกองทัพที่กรุงเปียงยางเมื่อวันเสาร์ (15)

เขายืนยันว่า แม้จรวดรุ่นนี้จะถูกติดตั้งไว้บนรถบรรทุกสำหรับขีปนาวุธพิสัยกลางมูซูดัน แต่ไม่ใช่จรวดชนิดเดียวกัน

“นี่คือสิ่งที่เรายังไม่เคยเห็นพวกเขาทดสอบมาก่อน และถ้าเกาหลีเหนือต้องการอวดว่ามันใช้การได้จริง การรีบเร่งทดสอบทันทีหลังจากเปิดเผยให้ทั่วโลกได้เห็น ก็เป็นอะไรที่เข้าเค้าอยู่”

ซูซาน ทอร์นตัน รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะสืบข้อมูล เนื่องจากจรวดระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ หลังพุ่งออกจากฐานยิงไม่กี่วินาที

“เราเข้าใจว่ามันคงไม่ใช่ขีปนาวุธพิสัยไกล แต่น่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางที่ยังคงใช้เทคโนโลยีต้องห้าม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันขบคิดต่อไป” ทอร์นตันกล่าว

ผู้สังเกตการณ์บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ อาจจะมีส่วนทำให้การยิงทดสอบจรวดของเกาหลีเหนือล้มเหลวเมื่อวันอาทิตย์ (16)

เมื่อเดือนที่แล้ว หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้สั่งให้มีการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือเพื่อทำลายจรวดตั้งแต่ก่อนยิง หรือขณะพุ่งออกจากฐานยิง

มัลคอล์ม ริฟคินด์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า “เป็นไปได้อย่างมากว่าปฏิบัติการทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการขัดขวางการทดสอบเหล่านี้ และทำให้มันล้มเหลวไปแล้วหลายครั้ง”

อย่างไรก็ดี สกิลลิง กลับมองว่าเรื่องการแฮ็กขีปนาวุธของโสมแดงนั้นออกจะเป็นการพูดเกินจริงไปหน่อย

“เท่าที่เราทราบเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการขับเคลื่อน นับว่ายังเป็นแบบดั้งเดิม (primitive) อยู่มาก และแทบไม่มีระบบดิจิทัลหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะแฮ็กได้เลย”

เมื่อวานนี้ (17) รัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส ได้ออกคำสั่งตรวจสอบระบบป้องกันนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ “เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมต่อการรับมือภัยคุกคามในศตวรรษที่ 21 และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาติพันธมิตร”

การตรวจสอบในลักษณะนี้จะมีขึ้นทุกๆ 7 ปี

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000038889

 

Thanong Fanclub



เกาหลีเหนือไม่สนคำขู่สหรัฐ จะเดินหน้าทดสอบอาวุธต่อไป
รองรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือHan Song-ryolกล่าวกับบีบีซีว่า เกาหลีเหนือจะเดินหน้าทดสอบอาวุธรายสัปดาห์ รายเดือน รายปีต่อไปตามความจำเป็น และถ้าหากสหรัฐถล่มเกาหลี จะเกิดสงครามที่ขยายวง
ถือว่าเกาหลีเหนือได้ออกมาท้าทายสหรัฐโดยไม่เกรงกลัว แม้ว่ารองประธานาธิบดี Mike Penceเตือนว่า เกาหลีเหนืออย่าได้ลองใจสหรัฐ เพราะว่าสหรัฐหมดความอดทนทางยุทธศาสตร์ต่อเกาหลีเหนือแล้ว
เหตุการณ์มาถึงจุดวิกฤติจนได้ ถ้าทรัมป์บอมบ์เกาหลีเหนือสงครามจะขยายวง
ถ้าทรัมป์ไม่ทำอะไรในขณะที่เกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบอาวุธ สหรัฐจะเสียหน้า หรือเสียเหลี่ยมความเป็นมหาอำนาจจนกู่ไม่กลับ เพราะว่าไม่สามารถทำอะไรประเทศเล็กๆอย่างเกาหลีเหนือได้
นาทีนี้ต้องวัดใจกันแล้ว
Thanong
18/4/2017

 

Imm Journal
รัสเซียเตือนสหรัฐถึงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือว่า ทุกการตอบโต้ของสหรัฐต่อการเคลื่อนไหวทางด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ จะต้องไม่ละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ ท่ามกลางความเสี่ยงในการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

เซอร์เก ลาฟรอฟ รมต.ต่างประเทศรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อไม่กี่ชั่วโมงหลังนาย ไมค์ เพนซ์ รองปธน.สหรัฐแถลง หมดยุคแห่งนโยบาย อดกลั้นทางยุทธศาสตร์ กับเกาหลีเหนือและเตือนรัฐบาลเปียงยางอย่าท้าทายอำนาจ ปธน.โดนัล ทรัมป์ ด้วยการทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธต่างๆ
โดยนายลาฟรอฟระบุ การทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่เป็นการฝ่าฝืนมติสหประชาชาติ อาจเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีผู้ใดสามารถละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศด้วยการใช้กำลังทหารรุกรานชาติอื่นได้

เขากล่าวเสริม หวังว่าเหตุการณ์ที่เป็นการกระทำโดยลำพังฝ่ายเดียวเหมือนที่เกิดขึ้นในซีเรียจะไม่เกิดขึ้นอีก.....

http://217.218.67.231/Detail/2017/0...orea-US-Lavrov-nuclear-Homs-Syria-Trump-Pence

 

ปอกเปลือก ทรราช
ย้อนอดีตสหรัฐสร้างภาพให้เกาหลีเหนือเป็นจอมปีศาจและคุกคามต่อเกาหลีเหนือมาโดยตลอดและเคยขู่ว่าจะนุกเกาหลีเหนือมาแล้วหลายครั้ง
------------

วันที่ 17 เม.ย.60 RT ของรัสเซียพาย้อนอดีตเกี่ยวกับท่าทีของสหรัฐที่มีต่อเกาหลีเหนือมาอย่างยาวนาน สหรัฐกำลังพิจารณา "ทุกตัวเลือก" (all options) ต่อเกาหลีเหนือ รัฐบาลทรัมป์กล่าว การขยายความตึงเครียดกับกรุงเปียงยางกรณีโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และการรื้อฟื้นความขัดแย้งซึ่งมีมายาวนานที่สุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

[รัฐบาลโอบามาบอกว่าโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของคิมน้อยเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพของโลก จึงยัดเยียดระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ THAAD ของสหรัฐให้กับเกาหลีใต้ โอบามาและพรรคพวกก็ฟาดค่าคอมและค่าการตลาดไปเรียบร้อยแล้วหวานหมู! ถึงยุคของทรัมป์บ้าง มุกนี้ (อาวุธนิวเคลียร์) ใช้ได้ผลมาโดยตลอดแฮะ เราก็เอาบ้างสิ ว่าแต่จะทำอย่างไรถึงจะหาทางรีดเงินจากเกาหลีใต้ได้อีกนะ จะเอาอะไรไปติดตั้งในเกาหลีใต้นะ จ็อบแรกบรรลุเป้าหมายเพราะว่าทางญี่ปุ่นบอกว่ายินดีช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ในกรณีเกิดสงครามในคาบสมุทรเกาหลี แต่จะทำอย่างไรถึงจะได้เงินเป็นก้อนจากเกาหลีใต้แบบโอบามาบ้างนะ? ทรัมป์คิด - ผู้แปล]

เมื่อวันจันทร์นี้ นาย Mike Pence รองประธานาธิบดีของสหรัฐได้เดินทางไปยังเขตปลอดกิจกรรมทางทหาร (DMZ) ระหว่างชายแดนเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ และได้ประกาศว่า "พอกันทีกับความอดทนอดกลั้นด้านยุทธศาสตร์" ที่มีต่อเกาหลีเหนือ ทรัมป์พูดแบบขวานผ่าซากว่า "เกาหลีเหนือจะต้องปรับปรุงพฤติกรรม" [หนึ่งในคุณลักษณะประจำตัวที่โดดเด่นของพวกลิเบอร์ร่านก็คือ "นิยมการชี้นิ้วออกคำสั่งกับคนอื่น" - ผู้แปล] การกวัดแกว่งกระบี่อวดศักดาเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่การทดลองขีปนาวุธครั้งล่าสุดล้มเหลวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ญี่ปุ่นได้เข้ายึดครองและปกครองเกาหลีในปี 1910 ต่อมาเกาหลีก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพสหรัฐและโซเวียตในปี 1945 ได้มีการก่อตั้ง สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) (เกาหลีใต้) ขึ้นในปี 1948 โดยพื้นที่ทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลีถูกยึดครองโดยสหรัฐ

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (Democratic People’s Republic of Korea) (เกาหลีเหนือ) เกิดขึ้นในพื้นที่ฝั่งเหนือในอีกสี่เดือนต่อมาภายใต้ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ Kim Il-Sung กองทัพ DPRK (เกาหลีเหนือ) ได้บุกเข้าไปในเกาหลีใต้ในเดือนมิถุนาย 1950 ซึ่งพยายามที่จะรวมแผ่นดินให้เป็นเอกภาพโดยการใช้กำลัง กองทัพของยูเอ็นนำโดยสหรัฐได้เข้าแทรกแซง และรุกกลับยึดพื้นที่ของเกาหลีเหนือได้บางส่วน จีนก็เข้าแทรกแซงเช่นกัน (ช่วยฝ่ายเหนือ) ผลที่ตามมาก็คือการประจันบานกันระหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่าย (เหนือกับใต้) ถูกแช่แข็งด้วยการสงบศึก (ชั่วคราว) ในปี 1953 (แต่สหรัฐไม่ยอมลงนามในสนธิสัญญายุติสงครามกับเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ และไม่ยอมถอนกองทัพของตนเองออกจากเกาหลีใต้ด้วย ในขณะที่จีนยอมถอนกองทัพของตนเองออกจากเกาหลีเหนือไปตั้งนานแล้ว)

+ ยุคโอบามา ปธน.โอบามาบอกว่า "เราสามารถทำลายพวกคุณได้" (Obama: ‘We could destroy you’)
[ถ้าเกาหลีเหนือพูดคำนี้ สหรัฐก็จะบอกว่า "เกาหลีเหนือยั่วยุ เกาหลีเหนือวอนหาเรื่องใส่ตัว เกาหลีเหนือเป็นตัวอันธพาล" แต่พอโอบามาพูด ลิเบอร์ร่านปรบมือกันสนั่น - ผู้แปล]

แถลงการณ์ของทรัมป์และเพนซ์ได้เปลี่ยนจากนโยบายสวมกอดของโอบามา ซึ่งมีต่อคาบสมุทรเกาหลีด้วยการติดตั้งขีปนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้ ในฐานะเป็นมาตรการตอบโต้ต่อภัยคุกคามระดับต่ำจากจรวดของเกาหลีเหนือ [วาทกรรมที่ใช้ตบตาพวกโลกสวยเขาใช้คำว่า "นโยบายสวมกอด" ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "นโยบายหลอกแDก" โอบามาฟาดค่าคอมจากการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ไปเท่าไรครับ? - ผู้แปล]

"มันชัดเจนอยู่แล้ว พวกเราสามารถที่จะทำลายเกาหลีเหนือด้วยคลังแสงของพวกเรา (We could, obviously, destroy North Korea with our arsenals.)" โอบามกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CBS News ในเดือนเมษายน 2016 "แต่นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแล้ว พวกเขาก็อยู่ถัดจากประตูบ้านของพันธมิตรที่สำคัญของพวกเรา" [สรุป โอบามานุกเกาหลีเหนือไหมครับ? จะนุกทำไมหละ สู้ประโคมข่าวสร้างสถานกาณณ์ให้ตึงเครียดจากนั้นก็ขายอาวุธกินค่าคอมค่าการตลาดแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่ดีกว่าหรือ? peaceeeee! - ผู้แปล]

+ ยุคบุช ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ด่าเกาหลีเหนือว่าเป็น "แกนหลักแห่งความชั่วร้าย" (Axis of evil)
ในเดือนมกราคม 2002 ประธานาธิบดี George W. Bush ได้พูดในที่ประชุม State of the Union โดยบรรยายถึงเกาหลีเหนือว่าเป็น "แกนหลักของความชั่วร้ายซึ่งกำลังเสริมอาวุธเพื่อคุกคามต่อสันติภาพของโลก"

[นี่เป็นคำพูดของผู้นำที่เพิ่งจะก่อสงครามอัฟกานิสถานในปี 2001 และตามด้วยสงครามอิรัคในปี 2003 เกาหลีเหนือได้มีส่วนร่วมในสงครามทั้งสองประเทศเหมือนสหรัฐกับพรรคพวกไหมครับ? ไม่! หลังจากปี 1953 เป็นต้นมาเกาหลีเหนือได้่ส่งทหารของตนเองไปก่อสงครามในต่างประเทศหรือแม้กระทั่งกับเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นไหม? ไม่ครับ ใครที่ก่อสงครามรุกรานประทศอื่นมากที่สุดในโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ? สหรัฐและแก๊งนาโต้! ใครถูกตราหน้าว่าเป็น "แกนหลักแห่งความชั่วร้าย" และ "เป็นจอมปีศาจ" เกาหลีเหนือ! ตลกฝืด แต่จริงครับ - ผู้แปล]

+ ยุคโรนัล เรแกน บอกว่าเกาหลีเหนือ "ไม่มีอารยธรรม" (Uncivilized) [คงเป็นเพรวะ่าเกาหลีเหนือไม่ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองชาวอินเดียนแดงเหมือนพวกตะวันตก และไม่ได้มีการลอบสังหารผู้นำของตนเองที่มาจากการเลือกตั้งหลายคนเหมือนที่เกิดขึ้นในสหรัฐหละมั๊ง เรแกนจึงบอกว่า เกาหลีเหนือไม่มีอารยธรรม - ผู้แปล]

ประธานาธิบดี Ronald Reagan ของสหรัฐได้ประณามเกาหลีเหนือว่า "มีพฤติกรรมที่ไร้อารยธรรม" (uncivilized behavior) ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมัชชาแห่งชาติของเกาหลี (Korean National Assembly) ในกรุงโซลในปี 1983

[อ้อ… ตอนนั้นเกาหลีเหนือยังไม่ได้เริ่มโครงพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์นะครับ ถูกสบประมาทแบบนี้ มันหยามกันชัดๆนี่ ต่อมาเกาหลีเหนือจึงเริ่มพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมา ได้รับคำชมจากสหรัฐไหมครับ? เปล่าครับ ถูกด่าว่าเป็นจอมปีศาจอีกต่างหาก กรรม! อะไรแว๊.... พอไม่มีอาวุธนิวเคลียร์และดาวเทียมเป็นของตนเองก็หาว่า "ไม่มีอารยธรรม" พอพัฒนาได้เอง สหรัฐกลับไม่ปลื้มซะงั้น เอาใจยากจริงวุ๊ย! - ผู้แปล]

+ ยุคนิกสันและจอห์นสัน เกาหลีเหนือเกือบจะถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ (ตอนนั้นเกาหลีเหนือยังไม่มีนิวเคลียร์)
ในเดือนเมษายน 1969 ประธานาธิบดี Richard Nixon ได้ร้องของตัวเลือกทางทหาร - ซึ่งรวมทั้งความเป็นไปได้ในการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ - หลังจากเกาหลีเหนือได้ยิงเครื่องบินสอดแนม EC-121 ของสหรัฐตกในทะเลญี่ปุ่น (สะใจ! Oopz! เก็บอาการหน่อยครับแอ็ดมิน) อย่างไรก็ตาม ในปี 1971 ปธน.นิกสันได้สั่งลดจำนวนทหารของสหรัฐในเกาหลีใต้ลงเกือบ 20,000 นาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายผ่อนคลายความตึงเครียดกับจีน

ในปี 1968 ประธานาธิบดี Lyndon Johnson ของสหรัฐได้พิจารณาถึงการโจมตี (เกาหลีเหนือ) ด้วยอาวุธนิเคลียร์ หลังจากที่เกาหลีเหนือยึดเรือสอดแนม USS Pueblo พร้อมทั้งลูกเรือทั้งหมดของสหรัฐได้ (ปัจจุบันนี้เกาหลีเหนือนำไปจอดโชว์นักท่องเที่ยวต่างชาติ) ได้มีการเจรจาต่อรองกัน เกือบหนึ่งปีต่อมาลูกเรือทั้งหมดของสหรัฐที่ถูกจับเป็นตัวประกันก็ได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน

+ ยุคทรูแมน การทำสงครามโดยตรงกับเกาหลีเหนือ
วันที่ 27 มิถุนายน 1950 ปธน. Harry S. Truman ของสหรัฐได้มีคำสั่งให้กองทัพอากาศและกองทัพเรือของสหรัฐให้การคุ้มครองและสนับสนุนกองทัพของฝ่ายรัฐบาลเกาหลี และเสริมกองทัพของตนเองในฟิลิปปินส์ให้เข้มแข็งขึ้น รับประกันความปลอดภัยต่อรัฐบาลจีนในการแยกประเทศไต้หวัน (Formosa) และส่งความช่วยเหลือไปให้ฝรั่งเศสในอินโดไชน่า จากนั้นก็เริ่มเข้าร่วมในสงครามเวียตนามเป็นครั้งแรก (1955-1975)

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
18/04/2560
------------
https://www.rt.com/usa/385090-presidents-north-korea-history/
https://sputniknews.com/military/201704171052724015-us-south-korea-japan-threat/
https://sputniknews.com/politics/201704171052721724-trump-north-korea/

 

ปอกเปลือก ทรราช
โป๊ะเช๊ะ! ในที่สุดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์จนได้ เพนตากอนอนุมัติงบประมาณ $133.4 ล้าน (ประมาณ 4,735,700,000 บาท) เพื่อสร้างฐานทัพใหม่ของสหรัฐ 2 แห่งในเกาหลีใต้ โล่งงงง ที่แฮ๋ๆ ใส่กันและขู่กันไปขู่กันมาเช้าเย็น และอุตส่าห์ลงทุนขนกองเรือบรรทุกเครื่องบินไปซ้อมรบที่คาบสมุทรเกาหลีก็เพื่อสิ่งนี้หรือ? ก็แค่นี้แหละคร้าบบบ จะเอาอะไรอีกหละครับ สบายใจหรือยังครับคุณทรัมป์? ทรัมป์และกลาโหมสหรัฐคงจะต้องโทรไปขอบคุณคิมน้อยที่ทำให้มีการอนุมัติงบประมาณก้อนนี้แล้วหละนะ Sputnik รายงาน (18 เม.ย.60)
------------
https://sputniknews.com/asia/201704181052727620-usa-korea-base-construction/
.

 

รอให่เรือรบสหรัฐมาถึงคาบสมุทรเกาหลีก่อนดีกว่าจะได้รู้จริงๆ ว่าจะมีอะไรเกิดไหม

 

ปอกเปลือก ทรราช
นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 8 มิถุนายน ปีนี้ หลังประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี (18 เม.ย.60)
---------------

https://sputniknews.com/europe/201704181052735639-theresa-may-early-general-election/
http://edition.cnn.com/2017/04/18/europe/uk-snap-election-theresa-may/index.html

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ยังไม่หายบ้า สหรัฐส่งนาวิกโยธิน 1,250 นายไปเตรียมพร้อมรบเกาหลีเหนือที่ออสเตรเลีย อ้างโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อกรุงแคนเบอร์ร่า กรรม!
------------
วันที่ 18 เม.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "พร้อมรบและชนะ: สหรัฐส่งหน่วยนาวิกโยธินไปประจำการในออสเตรเลียท่ามกลางภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ" (‘Ready to fight & win’: US marines deployed to Australia amid N. Korean ‘nuclear threat’)
นายวิกโยธินของสหรัฐเริ่มทะยอยเข้าไปเมือง Darwin ในเขตร้อนทางเหนือของออสเตรเลีย ชุดแรกประมาณ 1,250 นายซึ่งเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบเกาหลีเหนือ ท่ามกลางการแจ้งเตือนซึ่งโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของกรุงเปียงยางเป็น "ภัยคุกคามที่ร้ายแรง (serious threat)" ต่อกรุงแคนเบอร์ร่า
[เท่าที่ตามข่าวมานี่ ยังไม่เคยได้ยินคิมน้อยบอกว่าจะโจมตีประเทศออสเตรเลียเลยนะครับ ทำไมจู่ๆสหรัฐถึงอ้างว่านิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อกรุงแคนเบอร์ร่าหละนี่? หรือว่าอยากจะขยายฐานทัพของตนเองเพิ่มในออสเตรเลียเหมือนในเกาหลีใต้อีกอย่างนั้นรึ? - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่าการส่งทหารไปในครั้งนี้จะได้เห็นฝูงบินอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐบินไปออสเตรเลียในประวัติศาสตร์ช่วงที่ปราศจากสงคราม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน โดยกล่าวเพิ่มว่า โครงการส่งทหารไปปฏิบัติการประจำปีเป็นเวลา 25 ปีนี้เริ่มขึ้นด้วยการสนับสนุนของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ "ปักหมุดในเอเซีย" ของอเมริกัน ระหว่างการประจำการตลอดหกเดือนนั้น นาวิกโยธินของสหรัฐจะทำการซ้อมรบกับกองทัพออสเตรเลีย และจะไปเยือนกองทัพจีนด้วย [นั่นไง... เป้าลวงคือเกาหลีเหนือ เป้าหลักคือ "จีน" - ผู้แปล]
การมาเยือนของเหล่านาวิกโยธินสหรัฐเกิดขึ้นในช่วงที่นาง Julie Bishop รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลียส่งเสียงแสดงความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ "กรุงเปียงยางกำลังดิ้นรนที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาขีปนาวุธพิสัยโค้งข้ามทวีปซึ่งมีศักยภาพในการบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ไปไกลถึงประเทศสหรัฐ" สำนักข่าว ABC รายงาน
"ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงว่ามันจะมาถึงประเทศออสเตรเลียด้วย ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีการป้องกันจากการดำเนินการเช่นนั้น มันจะเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพต่อภูมิภาคของพวกเรา และนั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจจะยอมรับได้" นาง Julie Bishop กล่าว
[เคยเล่าให้ฟังแล้วว่า แม้ว่าเกาหลีเหนือจะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือขึ้นมาได้ 69 ปีมานี้ สหรัฐและตะวันตกต่างก็จ้องจะหาทางเล่นงานเกาหลีเหนือมาโดยตลอด และขู่แล้วขู่อีกว่าจะนุกเกาหลีเหนือแทบจะทุกรัฐบาลของสหรัฐก็ว่าได้ - ผู้แปล]
อ้อ… มีอีกข่าวหนึ่งเป็นท่าทีล่าสุดจากฝ่ายรัสเซียที่ออกมาเตือนสหรัฐเกี่ยวกับการพยายามหาเรื่องคิมน้อย วันที่ 17 เม.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียเตือนสหรัฐอย่าได้กระทำการ 'ซีเรียสไตล์' ในเกาหลีเหนือเป็นอันขาด (ไม่คุ้มหรอก เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือนนะครัช)" (Russia warns US against ‘Syria-style’ actions in N. Korea)
นาย Sergey Lavrov รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า "ผมหวังว่าจะไม่มีการดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวเหมือนกับที่พวกเราได้เห็นเมื่อเร็วๆนี้ในซีเรีย และหวังว่าสหรัฐจะปฏิบัติตามนโยบายของทรัมป์ที่ได้ประกาศซ้ำแล้วซ้ำอีกระหว่างการรณรงค์หาเสียงของเขา" รมว.ต่างประเทศรัสเซียแสดงความคิดเห็นต่อแถลงการณ์ของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของสหรัฐซึี่งกล่าวในการเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์นี้ (ไปดูที่ทางสำหรับสร้างฐานทัพใหม่ของสหรัฐ 2 แห่งในเกาหลีใต้) ซึ่งรองปธน.สหรัฐกล่าวว่า "หมดความอดทนกันยุทธศาสตร์แล้ว" และเตือนเกาหลีเหนือด้วยว่า "อย่าได้คิดจะลองดีกับทรัมป์เป็นอันขาด"
ฝ่ายเกาหลีเหนือตอบโต้ว่า ต่อไปนี้เราจะทำการซ้อมยิงขีปนาวุธเพิ่มมากขึ้นทั้งรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปีด้วย (We'll be conducting more missile tests on a weekly, monthly and yearly basis) นาย Han Song-ryol รมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวกับผู้สื่อข่าว BBC ส่วนทางฮาวายก็รับมุกรัฐบาลทรัมป์เช่นกันโดยคณะกรรมาธิการความปลอดภัยแห่งสภาผู้แทนของรัฐได้ผ่านร่างมติที่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับสถานการณ์เป็นอย่างดีจากการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ กรรม!
[เพนตากอนอนุมัติงบประมาณ $133.4 ล้านเพื่อสร้างฐานทัพของสหรัฐสองแห่งในเกาหลีใต้แล้วครับ สบายใจได้ ไม่น่าจะมีสงครามนิวเคลียร์ในเร็วๆนี้แน่ เลิกปลุกกระแสความหวาดกลัวให้กับประชาชนได้แล้ว - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
18/04/2560
------------
https://www.rt.com/news/385172-us-marines-darwin-pyongyang/
http://www.abc.net.au/news/2017-04-...hing-as-latest-rotation-arrives-in-nt/8450218
https://www.rt.com/usa/385090-presidents-north-korea-history/

https://sputniknews.com/asia/201704171052725796-hawaii-lawmakers-prepare-dprk-attack/
https://sputniknews.com/politics/201704171052721724-trump-north-korea/
https://www.rt.com/news/385039-russia-warns-us-north-korea/
https://www.rt.com/news/385095-pyongyang-us-nuclear-war/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวด่วน เฮลิค็อปเตอร์กองทัพซาอุดิอาระเบียตกในพื้นที่จังหวัด Marib ของเยเมนระหว่างปฏิบัติภารกิจการสู้รบ (/ภารกิจรุกรานอธิปไตยเยเมน) มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 12 นาย เป็นนายทหาร 4 นายและพลทหารอีก 8 นาย Al-Ikhbariya TV รายงาน สื่อซาอุดิอาระเบียกล่วาว่ายังไม่มีการะบุถึงสาเหตุของฮ.ตกในครั้งนี้ บางรายงานแจ้งว่าถูกยิงตก (18 เม.ย.60)
------------
https://sputniknews.com/middleeast/201704181052749065-saudi-helicopter-crashes-yemen/
https://www.rt.com/news/385184-saudi-plane-crash-yemen/
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ประกาศใครพบเห็นกองเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของสหรัฐช่วยแจ้งเพนตากอนและทำเนียบขาวด่วน ตอนนี้รัฐบาลสหรัฐไม่สามารถยืนยันพิกัดที่แน่ชัดของเรือรบตนเองได้ หรือว่าเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐกลายเป็น "เรือรบล่องหาย" ไปในพริบตาเหมือนกับจรวดโทมาฮอว์ค 36 ลูกกันแน่?
------------
วันที่ 19 เม.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "ซุปเปอร์เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐออกนอกเส้นทางเนื่องจากการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่างทำเนียบขาวกับเพนตากอน" (US Supercarrier Went Off Course Because White House, Pentagon Miscommunicated) ฮิ้ววววว
สื่อรัสเซียแฉว่า กลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของสหรัฐที่อ้างว่าถูกส่งออกไปเพื่อยับยั้งการเกาหลีเหนือในคาบสมุทรเกาหลีตั้งแต่สัปดาห์ทีแล้ว ยังไปไม่ถึงทะเลญี่ปุ่นเลย ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตำแหน่งปัจจุบันของเรือรบสหรัฐกลุ่มนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ เกิดจากความล้มเหลวในการสื่อสารและออกคำสั่งระหว่างทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เจ้าหน้าที่สหรัฐออกมาแก้ต่างว่า อ้อ… มันเป็นความลับ เราไม่ต้องการเปิดเผยตำแหน่งของเราให้ข้าศึกรู้ ว่าไปนั่น! พูดยังกับว่ากลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่เป็นเรือดำน้ำซะอย่างนั้นแหละ
+ กลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson จะขึ้นเหนือไปเกาหลีเหรือว่าจะลงใต้ไปออสเตรเลียกันแน่?
----------
เว็บไซต์ Stars and Stripes ของกองทัพสหรัฐพาดหัวข่าวเมื่อวันที่ 18 เม.ย.60 ว่า "พบเห็นกลุ่มเรือโจมตีวินสันใกล้อินโดนีเซีย ไม่ใช่คาบสมุทรเกาหลี" (Carl Vinson strike group seen near Indonesia, not the Korean peninsula)
17 เม.ย.60 เว็บไซต์ DefenseNews ของสหรัฐพาดหัวข่าวว่า "ที่นี่ไม่พบอะไร: เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐยังคงอยู่ห่างจากเกาหลีอีกหลายพันไมล์" (Nothing to see here: US carrier still thousands of miles from Korea)
18 เม.ย.60 CNN พาดหัวข่าวว่า "คาดว่ากลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson จะไปถึงชายฝั่งเกาหลีราวสิ้นเดือนเมษายนนี้" (USS Carl Vinson carrier group expected off Korea at end of April)
19 เม.ย.60 CNN พาดหัวข่าวว่า "เจ้าหน้าที่กล่าว: ทำเนียบขาวและเพนตากอนสื่อสารผิดพลาดเกี่ยวกับตำแหน่งของเรือบรรทุกเครืองบิน" (Official: White House, Pentagon miscommunicated on aircraft carrier's location) กรรม! ไม่ใช่ถูกกองเรือดำน้ำของคิมน้อยจมไปแล้วรึ? ฮ่าๆๆๆ
จริงๆแล้วมันอยู่ตรงไหนกันแน่? ไม่ทราบสิครับ เดี๋ยวจะแปลข่าวจาก Stars and Stripes ให้อ่านนะครับ...
ฐานทัพเรือ YOKOSUKA ประเทศญี่ปุ่น: "ถ้า" กลุ่มเรือโจมตี USS Carl Vinson กำลังมุ่งหน้าไปที่คาบสมุทรเกาหลี มันจะต้องใช้เวลา (แสดงว่าตอนนี้พวกนี้กำลังมึนงง ไม่แน่ใจด้วยว่า USS Carl Vinson จะไป (ถึง) คาบสมุทรเกาหลีหรือไม่)
เป็นเวลาถึงหนึ่งสัปดาห์กว่าแล้วหลังมีรายงานข่าวปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกว่า เรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบหลายลำที่มาด้วยกัน ได้รับคำสั่งให้มุ่งหน้าไปยังคาบสมุทร (เกาหลี) ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าเกาหลีเหนืออาจจะทาการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ ได้มีการเผยแพร่ภาพต่างๆของกลุ่มเรือรบ Vinson เมื่อวันเสาร์นี้ (15 เม.ย.60) อยู่นอกชายฝั่ง "อินโดนีเซีย" ซึ่งอยู่ห่าง (คาบสมุทรเกาหลี) ออกไปถึง 3,500 ไมล์ (ประมาณ 5,632 กิโลเมตร) เวรกรรม!
Defense News เป็นเจ้าแรกที่รายงานภาพถ่ายเหล่านั้น ซึ่งใช้กันอย่างกว้างขวางในเว็บไซต์ Navy.mil ของกองทัพสหรัฐ
ได้มีการเขียนคำบรรยายใต้ภาพกลุ่มเรือรบ USS Carl Vison ว่า "The destroyer USS Michael Murphy, left, and the cruiser USS Lake Champlain are underway with the aircraft carrier USS Carl Vinson in waters near Indonesia, Friday, April 14, 2017."
หากเดินทางที่ความเร็วๆสูงสุด ซึ่งอยู่ที่ 34.5+ mph เรือบรรทุกเครื่องบินและเรือพิฆาตอีกสองลำที่เดินทางไปด้วยกันจะต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 วันจึงจะไปถึงคาบสมุทร (เกาหลี) จากช่องแคบ Sunda ในอินโดนีเซีย
[ได้มีการยืนยันตำแหน่งล่าสุดของกลุ่มเรือ USS Carl Vinson ของสหรัฐ ณ วันที่ 14-15 เมษายนว่าอยู่แถวชองแคบ Sunda อินโดนีเซีย ตามรายงานข่าวของสื่อสหรัฐบอกว่ากำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือ? จริงรึ? - ผู้แผล]
รายงานข่าวกล่าวอีกว่า มีเรือดำน้ำหลายลำคอยให้การคุ้มกันแก่กลุ่มเรือโจมตีบรรทุกเครื่องบินตามปรกติด้วย เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการแฟซิฟิกของสหรัฐในฮาวายกล่าวเมื่อวันจันทร์นี้โดยอ้างถึงคำถามต่างๆเกี่ยวกับกลุ่มเรือโจมตีต่อกองเรือแปซิฟิก ซึ่งไม่ได้ถึงในรายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเรือรบ
"กลุ่มเรือโจมตี Carl Vinson ได้ยกเลิกการเดินทางไปเยือนท่าเรือแห่งหนึ่งตามที่ได้มีการวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในออสเตรเลีย และกำลังปฏิบัติภารกิจทั้งหมดตามที่ได้รับมอบหมายในแปซิฟิกตะวันตก" แถลงการณ์กล่าว
PACOM ซึ่งบัญชาการกลุ่มเรือโจมตีวินสัน "เพื่อให้มุ่งหน้าไปทางเหนือ และรายงานตำแหน่งในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกหลังเดินทางออกจากสิงคโปรเมื่อวันที่ 8 เมษายน… ดูเหมือนว่าจะดำเนินการไปเยือนท่าเรือในออสเตรเลียตามที่ได้มีการวางแผนไว้ก่อนหน้านี้
[ก่อนหน้านี้เว็บไซต์และเฟซบุคของเรือ USS Carl Vinson รายงานว่าเรือบรรทุกเครื่องบินได้ออกเดินทางจากสิงคโปรตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนแล้ว โดยจะมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลี หลังเสร็จสิ้นการทำกิจกรรมการกุศลในสิงคโปร แปลว่า "ขึ้นเหนือ" ต่อมา PACOM บอกว่า "ลงใต้" ไปออสเตรเลีย บางรายงานข่าวบอกว่ากำลังจะไปซ้อมรบกับกองทัพของออสเตรเลีย
ต่อมาบอกว่า เจอแล้วครับ อยู่แถวอินโดนีเซีย กำลังมุ่งหน้าจะขึ้นเหนือ? ฮ่าๆๆ... ขอสรุปแบบนี้นะครับ เพนตากอนบอกว่า "ลงใต้" ไปช่วยออสเตรเลียซ้อมรบกับจีนและสหรัฐด้วย ส่วนทำเนียบขาวบอกว่า "ขึ้นเหนือ" สิว้อย! ไปสั่งสอนเจ้าคิมน้อยซะหน่อย สุดท้ายก็วนอยู่แถวสิงคโปร-อินโดนีเซีย-ออสเตรเลีย นี่แหละ จะไปทำไมคาบสมุทรเกาหลี ทางนั้นเขาเคลียร์กันลงตัวแล้ว เพนตากอนได้รับงบประมาณสร้างฐานทัพสองแห่งในเกาหลีใต้ มูลค่า $133.4 ล้านเหรียญ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
19/04/2560
------------
https://sputniknews.com/military/201704181052754728-uss-carl-vinson-indonesia-korea/
https://sputniknews.com/us/201704191052762128-usa-supercarrier-lost-due-miscommunication/
https://www.stripes.com/news/carl-v...ot-the-korean-peninsula-1.464071#.WPckTemmDsN
http://www.defensenews.com/articles/us-carrier-still-thousands-of-miles-from-korea
http://edition.cnn.com/2017/04/18/politics/carl-vinson-korea-trump/index.html
http://edition.cnn.com/2017/04/18/politics/aircraft-carrier-vinson-location-korea-indonesia/

 

ปอกเปลือก ทรราช
เพราะคิดถึง จึงมาหา... กลาโหมรัสเซียยืนยันสหรัฐส่ง F-22 สองลำสกัดกั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ Tu-95MS ของรัสเซียใกล้อะลาสกา
------------
วันที่ 19 เม.ย.60 Sputnik รายงานว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ยืนยันเมื่อวันพุธนี้ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS ของรัสเซียจำนวนสองลำได้รับการคุ้นกัน (escorted) โดยเครื่องบินรบ F-22 ของสหรัฐใกล้น่านฟ้าอะลาสกาของสหรัฐ
วันอังคาร สำนักข่าว Fox News ของสหรัฐรายงานว่าเครื่องบินรบของสหรัฐได้ทำการสกัดกั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียใกล้ชายฝั่งอะลาสกา
"เหนือน่านน้ำสากลใกล้อะลาสกา เครื่องบิน Tu-95MS สองลำได้รับการคุ้มกันโดยเครื่องบินรบ F-22 ของกองทัพอากาศสหรัฐเป็นเวลา 27 นาที" แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว
กระทรวงกล่าวว่า เครื่องบินของรัสเซียได้ปฏิบัติภารกิจบินลาดตระเวนตามปรกติเหนือน่านน้ำสากลในภูมิภาคอาร์คติก มหาสมุทรแอตแลนติก ทะเลดำ และมหาสมุทรแปซิฟิก
"เที่ยวบินทั้งหมดของกองทัพอากาศและอวกาศ (Aerospace Force) ได้ออกปฏิบัติภารกิจ และได้ปฏิบัติภารกิจตามรระเบียบสากลอย่างเคร่งครัดในการใช้น่านฟ้าเหนือน่านน้ำสากล โดยไม่ได้ละเมิดชาพรหมแดนของประเทศอื่นๆ" แถลงการณ์กล่าวเพิ่มเติม ฝ่ายสหรัฐได้ทำการยืนยันเหตุการณ์นี้ด้วย
Fox News รายงานว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS ของรัสเซียอยู่ห่างจากเขตป้องกันภัยทางอากาศ (Air Defense Identification Zone) ของสหรัฐประมาณ 280 ไมล์ เครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียซึ่งมีศักยภาพในการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ได้บินกลับหลังจากเครื่องบินรบของสหรัฐบินเข้าใกล้ประมาณ 12 นาที
ในปี 2015 เจ้าหน้าที่ในกองทัพสหรัฐกล่าวว่าอากาศยานของรัสเซียได้เข้าใกล้น่านฟ้าของรัฐอะลาสกาและแคลิฟอร์เนีย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สหรัฐต้องส่งเครื่องบินรบยุคที่ห้า F-22 จำนวนสองลำขึ้นบินขับไล่สกัดกั้น อากาศยานของรัสเซียบินกลับฐานของตนเอง
[แหมๆ… ก็เห็นสหรัฐประกาศว่าจะไปเปิดสงครามนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือในคาบสมุทรเกาหลีใต้ รัสเซียก็อุตส่าห์หวังดี ช่วยเป็นหูเป็นตาระวังหลังบ้านให้สหรัฐในฐานะเพื่อนบ้านกัน ไม่ถูกใจอีก รัสเซียไม่ขู่ด้วยคำพูดแบบเกาหลีเหนือและสหรัฐ แต่ส่ง Tu-95MS ออกไปเฉี่ยวน่านฟ้าสหรัฐเล่นๆให้เห็นกันจะๆไปเลย - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
19/04/2560
------------
https://sputniknews.com/military/201704191052762898-russian-bombers-intercepted-us-f-22/
https://sputniknews.com/military/201704181052751808-us-f-22-russian-tu-95/
http://edition.cnn.com/2017/04/18/politics/russian-bombers-f-22-intercept-alaska/
http://www.foxnews.com/us/2017/04/18/russian-bombers-fly-near-alaska-air-force-scrambles-jets.html
https://theaviationist.com/2015/07/07/f-22-and-f-15-intercepted-off-alaska/

 

ปอกเปลือก ทรราช
คลิปทหาร SAA ของฝ่ายรัฐบาลซีเรียจับตัวสมาชิกขบวนการก่อการร้ายแก๊ง Hay’at Tahrir Al-Sham (HTS) ได้คนหนึ่งในขณะที่กำลังวางแผนเตรียมการวางระเบิดข้างถนนระหว่างหมู่บ้าน Souran และ Taibat Al-Imam ในจังหวัด Hama รายงานข่าวแจ้งว่าผู้ก่อการร้ายคนที่ถูกจับตัวได้ในครั้งนี้เคยได้รับการปล่อยตัวจากฝ่ายรัฐบาลในการอพยพออกจากเมือง Daraya รอบนอกกรุงดามัสกัสเมื่อปีที่แล้ว ให้โอกาสแล้วแต่โจรก็ยังเป็นโจรอยู่วันยังค่ำ (18 เม.ย.60)
-------------

https://www.almasdarnews.com/articl...l-qaeda-militant-planting-roadside-bomb-hama/