ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช
Dennis Rodman ทูตพิเศษของสหรัฐ (อย่างไม่เป็นทางการ) กลับจากเยือนคิมน้อยที่เกาหลีเหนือและบอกว่าเป็นการเดินทางที่ "เยี่ยมจริงๆ"
----------

วันที่ 17 มิ.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "'ท่านทูตร็อดแมน' กลับจากการเดินทางที่ 'เยี่ยมจริงๆ' จากเกาหลีเหนือ" (‘Ambassador Rodman’ returns from ‘really good’ trip to North Korea)

รายงานข่าวแจ้งว่า นายเดนนิส ร็อดแมน (Dennis Rodman) อดีตนักกีฬาบาสเกตบอลดาวเด่นแห่ง NBA ของสหรัฐได้เดินทางกลับจากเกาหลีเหนือซึ่งเขาได้อธิบายว่ามันเป็นการเดินทางที่ "ดีจริงๆ" แม้ว่าไม่ได้มีการเปิดเผยว่าเขาได้พบกับประธานาธิบดีคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือซึ่งเขาเรียกว่า "เป็นตลอดชีพ" (a friend for life) ในการเดินทางไปเกาหลีเหนือครั้งที่ห้านี้หรือไม่

"ทุกคนกำลังจะมีความสุข มันเป็นวันที่ดีครับ มันเป็นการเดินทางที่ดี การเดินทางที่ดีจริงๆ" Dennis Rodman กล่าวในตอนที่เขาเดินทางกลับ โดยสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำซึ่งมีโลโก "PotCoin.com" - สกุลเงินดิจิตอลที่ใช้โดยกลุ่มผู้ค้ากัญชาโดยถูกต้องตามกฎหมาย Rodman ปรากฎตัวที่สนามบินนานาชาติปักกิ่งเมื่อวันเสาร์นี้

ปัจจุบันนี้ Rodman อายุ 56 ปี ไม่ได้เปิดเผยว่าเขาได้พบกับปธน.คิม จอง-อึน ผู้นำของเกาหลีเหนือซึ่งครั้งหนึ่งเขาเรียกคิมว่าเป็น "เพื่อนตลอดชีพ" และตอบว่า "เดี๋ยวคุณก็จะรู้เองนั่นแหละ"

อดีตนักกีฬาบาสเกตบอลคนนี้กล่าวก่อนที่จะเดินทางออกจากกรุงเปียงยางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว่า ภารกิจของเขาก็คือพยายามสร้างสะพานระหว่างสหรัฐและรัฐที่สันโดษแห่งนี้

"นั่นคือเหตุผลหลักว่าทำไมพวกเราถึงต้องไป" Rodman กล่าวในคลิปวีดีโอที่โพสต์ในทวิตเตอร์ของเขาเอง "พวกเรากำลังพยายามนำทุกอย่างเข้าด้วยกัน ถ้าไม่ อย่างน้อยที่สุดพวกเราก็ได้พยายามแล้ว พวกเรากำลังพยายามเปิดประตูระหว่างสองประเทศนี้"

Rodman ได้สวมเสื้อ T-shirt ซึ่งมีข้อความว่า "Ambassador Rodman" (เอกอัครราชทูตร็อดแมน) และว่า "ผมมาโดยสันติ" (I come in peace) ในขณะที่เขากำลังเดินทางออกจากกรุงเปียงยาง แต่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่าเขา (Rodman) เดินทางไปด้วยเรื่องส่วนตัว

[เรื่องอะไรรัฐบาลสหรัฐจะพูดความจริงหละครับ ยกแรกก็ต้องหาคนที่สนิทกับคิมน้อยไปหยั่งเชิงเกาหลีเหนือดูซะก่อน ก็เหมือนกรณีที่รัฐบาลโอบามายอมจ่ายงานราว 400 ล้านเหรียญให้อิหร่านเพื่อแลกกับการปล่อยตัวนาวิกโยธินของสหรัฐจำนวน 10 นายที่ถูกกองทัพเรือของอิหร่านจับกุมตัวได้ในขณะที่กำลังละเมิดน่านน้ำและอธิปไตยของอิหร่าน แต่รัฐบาลสหรัฐก็ปฏิเสธว่าไม่ได้จ่ายเงินให้อิหร่านนั่นแหละ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกอีกว่า การเดินทางของ Rodman ไปยังเกาหลีเหนือก่อนหน้านี้ในปี 2013 และ 2014 นั้นเขาได้นำทีมนักบาสเกตบอลที่มีชื่อเสียงซึ่งเขาจัดขึ้นมาเองไปเล่นที่เกาหลีเหนือด้วย เหตุการณ์ครั้งนั้นได้มีการถ่ายทำวีดีโอเป็นสารคดีที่มีชื่อว่า "Big Bang in Pyongyang" และ Rodman ยังได้ร้องเพลง "Happy Birthday" ให้กับคิม จอง-อึนด้วย

ในครั้งนี้ Rodman ได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของเกาหลีเหนือ และได้มอบของขวัญต่างๆฝากไปให้ปธน.คิม จอง-อึน ด้วย

ของขวัญที่น่าสนใจประกอบด้วยสบู่ เสื้อนักกีฬาบาสเกตบอลสองตัว หนังสือ "Where’s Waldo?" หนึ่งเล่มสำหรับลูกสสาวของคิม จอง-อึน และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดก็คือ หนังสือ "The Art of the Deal" ที่โด่งดังของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

Rodman ได้ไปเยี่ยมอนุสรณ์สถานของเกาหลีเหนือหลายแห่ง และเป็นโคชให้กับทีมนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงของเกาหลีเหนือด้วย บรรยากาศมีความเป็นมิตรทั้งเจ้าภาพและ Rodman

"ในอดีต ท่านผู้นำสูงสุดที่เคารพของพวกเราได้พบกับคุณหลายครั้ง และท่านก็ใช้ช่วงเวลาที่มีค่าของท่านเพื่อการแข่งขันบาสเกตบอลกับผู้เล่นต่างๆที่คุณพามา ในอดีตนั้นท่านได้พบกับคุณมาแล้ว ดังนั้นประชาชนทุกคนของพวกเราจึงรู้จักคุณเป็นอย่างดี และดังนั้น พวกเราจึงมีความรู้สึกว่าคุณเป็นสหายเก่าแก่คนหนึ่ง" นาย Kim Il-guk รัฐมนตรีกระทรวงกีฬากล่าวกับ Rodman ระหว่างถ่ายภาพซึ่งมีสื่อมวลชนต่างประเทศเข้าร่วมด้วย

เป็นที่น่าสังเกตว่าการเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือของ Rodman ในครั้งบังเอิญกับการปล่อยตัวนาย Otto Warmbier นักศึกษามหาวิทยาลัย Virginia ชาวอเมริกัน (อายุ 21 ปี) ซึ่งถูกลงโทษจำคุกอยู่ในเกาหลีเหนือเป็นเวลา 17 เดือนจากโทษทั้งหมด 15 ปีได้รับการปล่อยตัวให้เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากที่ทางการเกาหลีเหนือแจังสหรัฐว่านาย Otto Warmbier อยู่ในอาการโคม่า

เนื่องจากมีอาการโรค โรคโบทูลิซึม (botulism เป็นโรคที่มีความผิดปรกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน อาจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Clostridium botulinum ในร่างกายอาจะเกิดจากการรับประทานอาหารมีปนเปื้อนหรือเข้าทางบาดแผล) ทำให้ผู้ป่วยอยู่ในลักษณะเป็นมนุษย์ผัก (คล้ายเจัาชายนิทราหรือเป็นอัมพาต) และอาจจะทำให้เสียชีวิตได้

หลังจากที่นาย Otto Warmbier ถูกนำตัวกลับไปยังสหรัฐและเขารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลแล้ว ทีมแพทย์ที่รักษาอาการของเขาก็แถลงว่า ไม่พบหลักฐานใดๆว่านาย Otto Warmbier เป็นโรค botulism ตามที่เกาหลีเหนือแจ้ง และไม่พบร่องกายการถูกทำร้ายตามร่างกายใดๆทั้งนั้น ผลการตรวจของแพทย์พบว่าผู้ป่วยได้รับความเสียหายในเนื้อเยื่อสมองบางส่วน ลืมตาได้ แต่ไม่ตอบสนองต่อการสื่อสาร

นาย Otto Warmbier ถูกจับกุมในข้อหาขโมยแผ่นป้ายทางการเมืองของรัฐบาลเกาหลีเหนือในโรงแรมแห่งหนึ่งที่เขาเข้าพัก และเขาก็สารภาพว่าเขาได้รับคำสัญญากับบางคนที่ประเทศสหรัฐว่าถ้าเขาสามารถนำป้ายโฆษาชวนเชื่อทางการเมืองของเกาหลีเหนือกลับไปได้ เขาจะได้รับรถยนต์มือสองราคา $10,000 เป็นรางวัล และถ้าเขาถูกจับกุมและติดคุกในเกาหลีเหนือ แม่ของเขาจะได้รับเงินบริจาคจำนวน $200,000

ดังนั้นในกรณีนี้ นาย Otto Warmbier จึงเป็นอาชญากรในเกาหลีเหนือ เพราะว่าเขากระทำผิดกฎหมายในเกาหลีเหนือ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่เดินทางไปยังเกาหลีเหนือถ้าไม่กระทำความผิดใดๆ ก็ไม่ถูกดำเนินคดีและไม่ถูกลงโทษ ไม่มีหลักฐานหรือการยืนยันใดๆว่าอาการป่วยของนาย Otto Warmbier เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเกาหลีเหนือหรือไม่ พ่อของนาย Otto Warmbier ยกย่องรัฐบาลของทรัมป์ที่ช่วยเหลือลูกชายของเขาออกมาได้ และได้ตำหนิรัฐบาลโอบามาที่ไม่ยอมช่วยเหลือลูกชายของเขาออกมาทั้งๆที่มีโอกาสและขณะนั้นเขาก็ยังมีอาการเป็นปรกติด้วย

วันที่ 14 มิ.ย.60 สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้รายงานว่านาย Lu Kang โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเดินทางไปเกาหลีเหนือของ Rodman และการปล่อยตัวนักศึกษาชาวอเมริกันว่า "ไม่ว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ก็ตาม เราควรจะตั้งคำถามตรงไปยังประเทศที่มีความเกี่ยวข้อง แต่โดยหลักการแล้ว ผมมองว่ามันเป็นกระแสที่เป็นบวกนะครับ" สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า จีนยินดีที่ Rodman เดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือ

[มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่การที่ Rodman ไปเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ไปในฐานะตัวแทนอย่างไม่เป็นทางการของทรัมป์ เพราะว่าเขานำหนังสือของทรัมป์ไปให้ผู้นำเกาหลีเหนือด้วย และเขาก็พูดเองว่า ข้าคือท่านทูตร็อดแมนนะเฟ้ย! และจีนก็แสดงท่าทีว่ายินดีด้วยที่ร็อดแมนไปเกาหลีเหนือ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
17/06/2560
------------
https://www.rt.com/news/392657-rodman-trip-north-korea/
https://www.rt.com/usa/392456-rodman-north-korea-trump/
https://www.theatlantic.com/health/archive/2017/06/could-botulism-cause-severe-brain-injury/530586/
https://www.rt.com/news/392096-north-korea-otto-warmbier/
https://www.rt.com/usa/334007-north-korea-student-confession/
http://english.yonhapnews.co.kr/search1/2603000000.html?cid=AEN20170614010700315

 

ปอกเปลือก ทรราช
เสียชีวิตจริง! พบศพทหารเรือของสหรัฐหลายนายจากเหตุการณ์เรือพิฆาตของสหรัฐชนกับเรือพาณิชย์ในน่านญี่ปุ่น กองทัพเรือแถลง
----------

วันที่ 18 มิ.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "ลูกเรือที่หายไปพบว่าเสียชีวิตในเรือพิฆาตของสหรัฐที่ได้รับความเสียหายหลังชนกันใกล้ญี่ปุ่น - กองทัพเรือแถลง" (Missing sailors found dead in damaged US destroyer following collision near Japan – Navy)

รายงานข่าวแจ้งว่า พบร่างของลูกเรือหลายนายซึ่งสูญหายในเหตุการณ์เรือชนกันเมื่อวันเสาร์นี้ระหว่างเรือพิฆาต USS Fitzgerald (DDG 62) ของอเมริกันกับเรือพาณิชย์ ACX Crystal นอกชายฝั่งญี่ปุ่นในซากชิ้นส่วนของเรือพิฆาตที่ได้รับความเสียหาย กองเรือที่ 7 ของสหรัฐยืนยัน

ทั้ง 7 ศพเป็นลูกเรือประจำเรือพิฆาตของสหรัฐที่ก่อนหน้านี้กองทัพเรือสหรัฐประกาศว่าสูญหายในเหตุการณ์นี้ และได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ซึ่งรวมทั้งผู้บัญชาการ Bryce Benson ด้วย

"จากการค้นหาและกู้ภัยลูกเรือ ซึ่งได้เข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากการชนกันในเช้าวันนี้ ลูกเรือที่สูญหายถูกระบุตำแหน่งในห้องพัก (berthing compartments) ที่ถูกน้ำท่วม" กองเรือที่ 7 ของสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง โดยไม่ได้ระบุว่าอย่างชัดเจนว่าพบร่างของลูกเรือจำนวนเท่าไร

(“As search and rescue crews gained access to the spaces that were damaged during the collision this morning, the missing sailors were located in the flooded berthing compartments,” the US 7th Fleet said in a statement on its website, not specifying how many of the bodies have been found.)

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ได้มีการส่งร่าง (ของลูกเรือที่เสียชีวิต) ไปยังโรงพยาบาลของกองทัพเรือสหรัฐในเมือง Yokosuka (US Naval Hospital Yokosuka) เพื่อระบุตัวตน เหตุการณ์เรือชนกันในครั้งนี้เกิดขึ้นนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Yokosuka ประมาณ 56 ไมล์ทะเล (103 กิโลเมตร) RT รายงาน

ก่อนหน้านี้ BBC ของอังกฤษรายงานว่า เรือ ACX Crystal ซึ่งเป็นเรือพาณิชน์บรรทุกสินค้า ติดธงของฟิลิปปินส์ (ปัจจุบันนี้อยู่ในการเช่าเหมาลำโดยบริษัทเดินเรือแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น) ซึ่งมีความยาว 222 เมตร ได้เดินทางออกจากเมือง Nagoya เพื่อไปยังกรุงโตเกียว

ข้อมูลบันทึกการจราจรทางทะเลระบุว่า เรือ ACX Crystal ได้ตัดสินใจเลี้ยวกลับ (U-turn) อย่างกระทันหัน คาดว่าราว 25 นาทีก่อนที่จะชนเข้ากับเรือพิฆาต USS Fitzgerald ของกองทัพเรือสหรัฐ ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมเรือพาณิชย์ลำนี้ถึงเปลี่ยนเส้นทาง

ข้อมูลบันทึกการจราจรทางทะเลระบุอีกว่า เรือ ACX Crystal ใช้ความเร็วที่ 14.6 น็อต (27km/h) ในขณะเดินทางในช่วงเวลาที่เกิดเหตุชนกัน BBC รายงานว่า ข้อมูลบันทึกการจราจรทางทะเลของเรือพิฆาต USS Fitzgerald ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้

เรือพิฆาต USS Fitzgeraldเป็นเรือรบชั้น Arleigh Burke ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี มีลูกเรือทั้งหมดประมาณ 330 นาย ยาว 154 เมตร (505 ฟุต) ระวางขับน้ำ 8,900 ตัน

ส่วนเรือพาณิชย์ ACX Crystal ยาว 223 เมตร (733 ฟุต) ระวางขับน้ำ 29,060 ตัน มีลูกรือประมาณ 20 คน(ไม่ติดตั้งขีปนาวุธใดๆ มีแต่สมอข้างกราบเรือส่วนหน้าที่ใช้ฟัดกับเรือพิฆาตของสหรัฐในครั้งนี้ และดูเหมือนว่า the winner is CX Crystal) เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนประมาณ 2.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไม่ลูกเรือคนไหนของเรือ
ACX Crystal ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

กองเรือที่ 7 ของสหรัฐโพสต์ข้อความในเฟซบุคของตนเองว่า เรือพิฆาตรลำนี้กำลังมุ่งหน้ากลับไปยังเมือง Yokosuka ที่ความเร็ว 3 น็อต (5.56km/h) โดยความช่วยเหลือของเรือลากจูงจากกอบัญชาการกองเรือด้านกิจกรรมประจำเมืองโยโกะสึกะ (Commander Fleet Activities)

CNN รายงานว่า จราจรทางทะเลในพื้นที่ละแวกนั้นหนาแน่นมาก มีเรือต่างๆราว 400-500 ลำแล่นสวนกันไปมาในแต่ละวัน

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
18/06/2560
------------
https://www.rt.com/usa/392810-uss-fitzgerald-sailors-found-dead/
https://www.rt.com/usa/392625-uss-fitzgerald-navy-crash-japanese-ship/
http://edition.cnn.com/2017/06/17/us/missing-sailors-found/index.html
http://www.foxnews.com/world/2017/0...-bodies-found-on-stricken-navy-destroyer.html
http://www.c7f.navy.mil/Media/News/...ald-collision-update-1033am-jst-june-18-2017/

 

เตรียมส่งหุ่นยนต์ 'ปลาแสงอาทิตย์' สำรวจเตาปฏิกรณ์ฟุกุชิมะ 17 มิถุนายน 2017

หุ่นยนต์ 'ปลาแสงอาทิตย์' จะถูกส่งเข้าไปสำรวจเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิของญี่ปุ่นเดือนหน้า ถือเป็นภารกิจที่ยากลำบาก หุ่นยนต์หลายตัวที่ถูกส่งเข้าไปก่อนหน้านี้ไม่สามารถกลับออกมาได้

• AFP
  เมื่อคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งของญี่ปุ่นในปี 2011 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 18,000 คน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิก็ถูกคลื่นซัดถล่มด้วย ทำให้เกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์เชอร์โนบิล หลายส่วนของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายยังคงปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในระดับสูง และหุ่นยนต์กำลังมีบทบาทสำคัญในการกำจัดการปนเปื้อน
  
  
• AFP
  โตชิบาและคณะนักวิจัยได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่ว่ายน้ำได้ ซึ่งถูกเรียกว่า "ปลาแสงอาทิตย์" เพื่อใช้สำรวจพื้นที่ที่ยังจมอยู่ใต้น้ำของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
  
  
• AFP
  ปลาแสงอาทิตย์น้อยซึ่งมีขนาดเท่ากับก้อนขนมปังตัวนี้ต้องทำภารกิจที่ยากลำบาก มันได้รับการติดตั้งแสงไฟ และใบพัดที่หาง สามารถเก็บข้อมูลด้วยกล้องสองตัวและเครื่องวัดสารกัมมันตรังสี
  
  
• AFP
  หุ่นยนต์น้อยถูกส่งลงไปในน้ำที่สถานที่ทดสอบใกล้กับกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น และค่อย ๆ ออกสำรวจในการเดินทางครั้งแรก
  
  
• AFP
  จากนั้นปลาแสงอาทิตย์น้อยค่อย ๆ เคลื่อนผ่านท่อควบคุมการแพร่กระจายสารกัมมันตรังสีที่ถูกจำลองขึ้น
  
  
• AFP
  มันถูกควบคุมโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ผ่านการเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลตลอดเวลา เพื่ีอส่งภาพและข้อมูลที่บันทึกไว้ระหว่างทางกลับมาให้เจ้าหน้าที่
  
  
• AFP
  เมื่อหุ่นยนต์ว่ายน้ำเข้าไปในเตาปฏิกรณ์ของจริง ผู้เชี่ยวชาญคาดหวังว่ามันจะเก็บข้อมูลสำคัญ ที่สามารถใช้ในการกำจัดกากกัมมันตภาพรังสีออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายได้มากขึ้น
  
  
• AFP
  ถือเป็นภารกิจที่ยากลำบากของหุ่นยนต์ขนาดเล็ก โดยหุ่นยนต์ที่ควบคุมระยะไกลซึ่งถูกส่งเข้าไปก่อนหน้านี้ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ พวกมันติดอยู่ในเตาปฏิกรณ์ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ หรือ "ตาย" เพราะระดับกัมมันตภาพรังสีสูงมาก ถึงระดับที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที หวังว่า 'ปลาแสงอาทิตย์น้อย' จะโชคดีกว่าหุ่นยนต์ก่อนหน้านี้ ในการเข้าไปปฏิบัติภารกิจเดือนหน้า

http://www.bbc.com/thai/international-40314599?ocid=socialflow_facebook

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง!! “ดูเตอร์เต” จัดการ “มาอูเต” จน มาราวี กลายสภาพเป็นเมืองร้าง แต่ดีกว่าก่อการร้ายลุกลามจนแก้ไม่ได้
Publisher : 2017-06-18 16:57:40

กองทัพฟิลิปปินส์ ได้ออกแถลงการณ์ ในการเสริมกำลังทหารเข้าสู่เมืองมาราวี อีก 400 นาย ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น เพิ่มเป็น 310 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายมาอูเต แนวร่วมของกลุ่มไอเอส จำนวน 225 ราย ทหารจำนวน 59 ราย และมีพลเรือนอีกจำนวน 26 ราย ส่วนจำนวนพลเรือนที่จำเป็นต้องอพยพออกจากเมืองมาราวีและพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ที่ราว 300,000 คน



ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต กล่าวว่าการสู้รบครั้งนี้แม้ยืดเยื้อ เพราะเป็นการยากมากที่ทหารต้องสู้รบกับกลุ่มคนที่พร้อมตายตลอดเวลาโดยใช้พระเจ้าเป็นข้ออ้างในการสังหารผู้บริสุทธิ์ แต่เขาเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ใกล้ยุติแล้ว พร้อมกันนั้นทางด้านผู้นำฟิลิปปินส์ ได้ตำหนิพรรคฝ่ายค้านและนักสิทธิมนุษยชน ซึ่งวิจารณ์การที่เขาประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกครอบคลุมทั้งเกาะมินดาเนาโดยให้มีผลในเบื้องต้นเป็นเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมเป็นต้นมา ว่าพฤติการณ์ของกลุ่มมาอูเตถือเป็นทั้งกบฏ และก่อการร้าย ซึ่งโรดริโก ดูเตอร์เต ย้อนกลับไปยังบรรดาผู้ที่แสดงออกถึงการคัคค้านเหล่านั้นว่า ต้องให้พวกมาอูเตเผาบ้านเมืองให้วอดวายเสียก่อน จึงค่อยบอกว่าเป็นกบฏ ใช่หรือไม่?

ฟิลิปปินส์ ประสบปัญหาเรื่องก่อการร้ายครั้งนี้นับว่าใหญ่หลวงนัก ขณะนี้มาราวี กลายเป็นเมืองร้างสภาพไม่ต่างอะไรจากพื้นที่ในซีเรีย บ้านเรือนมีแต่ซากปรักหักพัง แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนของผู้นำฟิลิปปินส์คือความเด็ดขาด เมื่อเกิดเหตุ ก็ไม่ต้องรอให้ยืดเยื้อจัดการทันที อาจจะเสียหายหนัก แต่ก็คงจะรักษาผืนแผ่นดินเอาไว้ได้ ดีกว่าทำให้ก่อการร้ายลุกลามบานปลาย ท้ายที่สุดก็ควบคุมไม่ได้

เรียบเรียงโดย
สถาพร เกื้อสกุล : สำนักข่าวทีนิวส์

http://www.tnews.co.th/contents/bg/328811

 

อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 14 วิธี !!
By MedThai | POSTED: 24 มิถุนายน 2016, UPDATED: 27 พฤศจิกายน 2016
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis, Lower Urinary tract infection) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงจะสั้น และอยู่ใกล้ทวารหนักซึ่งเป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคมาก เชื้อโรคจากบริเวณดังกล่าวจึงเข้าทางท่อปัสสาวะของผู้หญิงได้ง่ายกว่าผู้ชาย
โรคนี้สามารถป้องกันและรักษาได้ง่าย ๆ แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษา เชื้อโรคอาจลุกลามขึ้นไปที่ไตทำให้เป็นกรวยไตอักเสบ และถ้าปล่อยให้เป็นเรื้อรังก็อาจทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังแทรกซ้อน ซึ่งยากแก่การเยียวยารักษาได้
ผู้หญิงแทบทุกคนมีโอกาสเป็นโรคนี้ในทุกช่วงของชีวิต นับตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ (พบได้สูงในช่วงอายุ 20-50 ปี) พบได้มากในผู้หญิงที่ชอบกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ หรือในหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ส่วนในผู้ชายนั้นมีโอกาสเป็นโรคนี้น้อยมาก เนื่องจากมีสรีระที่ยากต่อการติดเชื้อ ถ้าพบว่าเป็นก็มักจะมีความผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เนื้องอกกระเพาะปัสสาวะ ก้อนเนื้องอกในช่องท้อง ต่อมลูกหมากโต หรือมีความผิดปกติทางโครงสร้างของทางเดินปัสสาวะ
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบพบได้ทั้งจากการอักเสบเฉียบพลัน ที่มีอาการเกิดขึ้นทันทีและรักษาหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือจากการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการอักเสบเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ แต่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าการอักเสบเฉียบพลัน
สาเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มแกรมลบที่มีอยู่ในอุจจาระของคนเรา เช่น อีโคไล (E.coli), เคล็บซิลลา (Klebsiella), สูโดโมแนส (Pseudomonas), เอนเทอโรแบกเตอร์ (Enterobacter) เป็นต้น (แต่ส่วนใหญ่แล้วประมาณ 75-95% เกิดจากเชื้ออีโคไล) ซึ่งเชื้อเหล่านี้จะมีอยู่มากที่บริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก เนื่องมาจากการชำระหลังถ่ายอุจจาระไม่ถูกต้องสมบูรณ์ เชื้อโรคจึงปนเปื้อนผ่านเข้าท่อปัสสาวะ เข้ามาในกระเพาะปัสสาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่ปกติท่อปัสสาวะจะสั้นและอยู่ใกล้กับทวารหนัก จึงง่ายที่เชื้อโรคจะปนเปื้อนเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ
ส่วนในผู้ชายจะมีโอกาสติดเชื้อได้น้อยมาก เนื่องจากมีท่อปัสสาวะยาวและอยู่ห่างจากทวารหนักมาก อีกทั้งเมื่อเชื้อโรคเข้าไปอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ถ้ามีการถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวดก็จะสามารถขับเอาเชื้อโรคนั้นออกมาได้ จึงไม่ทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ แต่ในกรณีที่กลั้นปัสสาวะนาน ๆ เช่น รถติดหรือเดินทางไปต่างจังหวัด (ไม่มีห้องน้ำให้เข้าหรือกลัวการใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ไม่สะอาด) หรือหน้าน้ำท่วมที่ไม่กล้าเข้าห้องน้ำเพราะกลัวสัตว์มีพิษ หรือนอนกลางคืนแล้วขี้เกียจลุกไปเข้าห้องน้ำ หรือทำอะไรเพลิน ๆ จนลืมเข้าห้องน้ำ เป็นต้น เชื้อโรคที่เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะจึงมีเวลานานพอที่จะแบ่งตัวเจริญแพร่พันธุ์ จนทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ เกิดอาการขัดเบาขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบจึงมักพบได้ในผู้หญิงทั่วไปที่ไม่ระมัดระวังการชำระล้างทวารหนักและชอบกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ
ในผู้หญิงที่แต่งงานใหม่หรือหลังร่วมเพศ อาจมีอาการขัดเบาแบบกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ เรียกว่า “โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบจากฮันนีมูน” (Honeymoon cystitis) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการฟกช้ำจากการร่วมเพศ แล้วทำให้มีอาการอักเสบของท่อปัสสาวะ
สาเหตุกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ปัจจัยเสี่ยงของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ในบางคนยังอาจมีเหตุชักนำให้เกิดโรคนี้ได้มากกว่าทั่วไป (จัดเป็นกลุ่มเสี่ยง) เช่น
ผู้หญิง ด้วยเหตุผลทางด้านสรีระดังที่กล่าวมา
ผู้สูงอายุ เพราะมีสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดีนัก โดยเฉพาะผู้ที่ขาดคนดูแล นอกจากนั้นผู้สูงอายุมักไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย มักนั่ง ๆ นอน ๆ เป็นเวลานาน และดื่มน้ำน้อย ปัสสาวะจึงแช่ค้างอยู่นาน ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี
ผู้ที่ชอบกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เชื้อโรคที่เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะจึงมีเวลานานพอที่จะแบ่งตัวเจริญแพร่พันธุ์
ผู้ที่ดื่มน้ำน้อย มีผลให้ไม่ค่อยได้ปัสสาวะ ปัสสาวะจึงแช่ค้างอยู่นาน ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี
ผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำจะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ก็อาจเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้บ่อย ถ้าหากพบว่ามีอาการของโรคนี้เกิดขึ้นซ้ำซาก ก็ควรตรวจดูด้วยว่าเป็นโรคเบาหวานซ่อนเร้นที่ไม่แสดงอาการอยู่ด้วยหรือไม่
ผู้ป่วยที่มีภาวะอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ เช่น ต่อมลูกหมากโต (ในผู้สูงอายุ), ท่อปัสสาวะตีบ, นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งต่อมลูกหมาก, เนื้องอกกระเพาะปัสสาวะ, ก้อนเนื้องอกในช่องท้อง, เนื้องอกมดลูก, มีความผิดปกติทางโครงสร้างของทางเดินปัสสาวะ, ถ่ายปัสสาวะไม่ได้เนื่องจากเป็นอัมพาต เป็นต้น
ผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อของไต โรคนิ่ว นิ่วในไต
ผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังของท่อปัสสาวะ เช่น โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (เชน โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม) ซึ่งมักมีปัสสาวะแช่ค้างในกระเพาะปัสสาวะ เชื้อโรคจึงเจริญเติบโตได้เร็ว
ผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ต้องนั่ง ๆ นอน ๆ ตลอดเวลา เช่น โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์/อัมพาต ซึ่งส่งผลให้ปัสสาวะแช่ค้างอยู่นาน
ผู้ป่วยที่มีการสวนปัสสาวะ หรือมีการคาสายสวนปัสสาวะนาน ๆ หรือใช้เครื่องมือแพทย์สอดใส่ท่อปัสสาวะ เช่น ผู้ป่วยหลังผ่าตัด หรือผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต เพราะกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะเกิดการบาดเจ็บจากสายสวน จึงทำให้ติดเชื้อได้ง่าย รวมทั้งอาจติดเชื้อจากเชื้อที่ตัวสายสวนปัสสาวะเองด้วย
สตรีตั้งครรภ์ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้มากขึ้น เนื่องจากศีรษะของทารกในท้องกดดันให้เกิดการคั่งของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะไม่หมด เกิดปัสสาวะแช่ค้างในกระเพาะปัสสาวะ จึงก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
ผู้หญิงที่คุมกำเนิดด้วยยาฆ่าอสุจิ (Spermicide) หรือการใช้ฝาครอบปากมดลูก (Diaphragm) เพราะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อปากท่อปัสสาวะและปากช่องคลอด ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
การใช้สเปรย์ดับกลิ่นบริเวณอวัยวะเพศในผู้หญิง เพราะจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อปากท่อปัสสาวะและปากช่องคลอด จึงเป็นการเพิ่มโอกาสการบาดเจ็บและการติดเชื้อของเนื้อเยื่อ
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้ชาย มักพบร่วมกับนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือต่อมลูกหมากโต หรือจากการคาสายสวนปัสสาวะ
อาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ผู้ป่วยจะมีอาการขัดเบา คือ ถ่ายปัสสาวะกะปริดกระปรอย (ออกมาทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง) รู้สึกปวดขัดหรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ โดยเฉพาะตอนถ่ายปัสสาวะสุด มักต้องเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมงหรือชั่วโมงละหลายครั้ง มีอาการคล้ายถ่ายปัสสาวะไม่สุดอยู่ตลอดเวลา ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดที่ท้องน้อยหรือบริเวณหัวหน่าวร่วมด้วย ปัสสาวะอาจมีกลิ่นเหม็น สีมักใส แต่บางรายปัสสาวะอาจมีสีขุ่นหรือมีเลือดปน มักไม่มีไข้ (ยกเว้นถ้ามีกรวยไตอักเสบร่วมด้วย ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะสีขุ่น และมีอาการปวดเอวร่วมด้วย) ส่วนในเด็กเล็กอาจมีอาการปัสสาวะรดที่นอน และอาจมีไข้ เบื่ออาหาร อาเจียนร่วมด้วย โดยอาการมักเกิดขึ้นหลังกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ มีการสวนปัสสาวะ หรือหลังจากการร่วมเพศ
อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ภาวะแทรกซ้อนของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ส่วนมากโรคนี้มักจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษา เชื้อโรคอาจลุกลามขึ้นไปที่ไตทำให้เป็นกรวยไตอักเสบ และถ้าปล่อยให้เป็นเรื้อรังก็อาจทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังแทรกซ้อนได้ ส่วนในผู้ชายเชื้ออาจลุกลามเข้าไปทำให้ต่อมลูกหมากอักเสบ
นอกจากนี้ เมื่อการอักเสบติดเชื้อรุนแรง อาจลุกลามเป็นการอักเสบติดเชื้อในกระแสเลือดจนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตได้
การวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
แพทย์มักวินิจฉัยโรคนี้ได้จากอาการที่แสดง คือ อาการขัดเบา ถ่ายปัสสาวะกะปริดกระปรอย โดยไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ส่วนในรายที่มีอาการแยกจากสาเหตุอื่นไม่ชัดเจน หรือเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง อาจมีการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์ เช่น การตรวจปัสสาวะ (ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบจะพบปริมาณเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะมากกว่าปกติ) นำปัสสาวะไปเพาะหาเชื้อซึ่งจะพบเชื้อที่เป็นต้นเหตุ การตรวจเลือด การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy)
ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติที่ชัดเจน บางรายอาจมีอาการกดเจ็บเล็กน้อยตรงกลางท้องน้อย
ในเด็กเล็กที่มีอาการปัสสาวะรดที่นอนบ่อย ๆ หรือมีไข้ และอาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรนึกถึงโรคนี้ไว้เสมอ ซึ่งการตรวจปัสสาวะจะช่วยให้วินิจฉัยโรคได้แน่ชัด
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดจาก
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของอาการขัดเบา แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีโรคอื่น ๆ อีกหลายชนิดที่อาจมีอาการแสดงคล้ายกับโรคนี้ หากสงสัยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัดและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการขัดเบาร่วมกับการถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด
กรวยไตอักเสบ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่นข้น ปวดเจ็บตรงสีข้างหรือเอวด้านใดด้านหนึ่ง และอาจมีอาการขัดเบา ถ้ามีกระเพาะอักเสบร่วมด้วย
เบาหวาน ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายปัสสาวะออกมาทีละมาก ๆ ปัสสาวะมีสีใส ไม่มีอาการแสบขัด ที่สำคัญจะมีอาการกระหายน้ำและหิวข้าวบ่อย อาจมีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนักลดร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะไม่พบในคนที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคหนองใน (Gonorrhea) ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ หรือมีตกขาวออกมาเป็นหนองร่วมกับถ่ายปัสสาวะแสบขัด
ปัสสาวะบ่อยมีหลายสาเหตุ
ในคนปกติถ้าดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว (1,500-2,000 ซี.ซี.) จะปัสสาวะประมาณวันละ 3-5 ครั้ง และหลังเข้านอนจะไม่ตื่นมาปัสสาวะเลย แต่อาการปัสสาวะบ่อย ๆ (มากกว่า 5 ครั้งต่อวัน) อย่าเข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเพียงอย่างเดียว เพราะอาจมีสาเหตุดังต่อไปนี้
ไตขับปัสสาวะมากกว่าปกติจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ดื่มน้ำมาก, รับประทานยาขับปัสสาวะเนื่องจากเป็นโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งส่งผลให้ปัสสาวะที่มากักเก็บในกระเพาะปัสสาวะเต็มเร็ว จึงปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ (มากกว่า 5 ครั้งต่อวัน) และอาจต้องตื่นมาปัสสาวะหลังเข้านอนแล้วประมาณไม่เกิน 2 ครั้ง ที่สำคัญผู้ป่วยจะมีปริมาณปัสสาวะแต่ละครั้งเท่าคนปกติ (ประมาณ 350-500 ซี.ซี.) เมื่อตรวจปัสสาวะจะไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด
มีความผิดปกติที่กระเพาะปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถกักเก็บปัสสาวะได้นาน ปวดปัสสาวะเร็ว บางคนอาจปัสสาวะทุก 1-2 ชั่วโมง ที่สำคัญคือจะปวดปัสสาวะหลังนอนหลับแล้วตอนดึกก่อนถึงเช้าทุก ๆ คืนมากกว่า 2 ครั้ง ครั้งละน้อยกว่าปกติ (ไม่ถึง 300 ซี.ซี.) เช่น
กระเพาะปัสสาวะเล็กขยายไม่ได้ เนื่องมาจากถูกฉายแสงรักษามะเร็งปากมดลูก เป็นวัณโรคกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ผนังกระเพาะปัสสาวะชั้นกล้ามเนื้อขยายเพื่อเก็บปัสสาวะมากไม่ได้ หรือมีเนื้องอกขนาดใหญ่ในมดลูก หรือหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 6 เดือน มดลูกจึงกดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เก็บปัสสาวะไม่ได้และปัสสาวะบ่อย ๆ
มีสิ่งแปลกปลอมในกระเพาะปัสสาวะ เช่น ก้อนนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เนื้องอกขนาดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ปัสสาวะบ่อย
ประสาทควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะผิดปกติ ทำให้ผนังกล้ามเนื้อทำงานบีบตัวบ่อย จำเป็นต้องตรวจการทำงานของกระเพาะปัสสาวะด้วยเครื่องมือพิเศษเพื่อตรวจการบีบตัวของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ
มีความผิดปกติทางจิตใจ เช่น มีความเครียดจากการทำงาน มีปัญหาครอบครัว กลัวโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งผู้ป่วยส่วนมากจะปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางวันหรือหัวค่ำ เมื่อหลับแล้วจะไม่ตื่นมาปัสสาวะอีก เนื่องจากไม่มีความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ

วิธีรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
การดูแลตนเองในเบื้องต้นเมื่อเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ผู้ป่วยควรปฏิบัติดังนี้
ควรดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ ประมาณวันละ 3-4 ลิตร เมื่อไม่มีโรคที่ต้องจำกัดน้ำดื่ม (เช่น โรคหัวใจล้มเหลว) ซึ่งการดื่มน้ำจะช่วยขับเชื้อโรคออกและลดอาการปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะได้
ควรถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวด ไม่กลั้นปัสสาวะ
หลีกเลี่ยงสารอาหารที่ระคายเคืองต่อกระเพาะปัสสาวะ เช่น กาแฟ แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ใส่น้ำตาล
พยายามเคลื่อนไหวร่างกายเสมอ ไม่ควรนั่งแช่อยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ
การทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศหรือภายหลังการขับถ่าย (ในผู้หญิง) ต้องทำจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรคปนเปื้อนผ่านเข้าท่อปัสสาวะเข้ามาในกระเพาะปัสสาวะ
ในผู้หญิงไม่ควรใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยการใช้ยาฆ่าอสุจิหรือการใช้ฝาครอบปากมดลูก เพราะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อปากท่อปัสสาวะและปากช่องคลอด ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ไม่ควรใช้สเปรย์หรือยาดับกลิ่นตัวในบริเวณอวัยวะเพศ เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อปากท่อปัสสาวะและปากช่องคลอด ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสเกิดการบาดเจ็บและการติดเชื้อของเนื้อเยื่อ
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในอ่าง เพราะอาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ควรรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และลดโอกาสการติดเชื้อรุนแรง
ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้ได้ยาที่ไม่ตรงกับชนิดของเชื้อโรค หรือขนาดและระยะเวลาในการใช้ยาไม่ถูกต้อง จึงอาจส่งผลให้โรคไม่หาย และอาจกลายเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังจากเชื้อดื้อยาได้
ในขณะที่มีอาการให้ดื่มน้ำมาก ๆ ถ้าปวดมากให้รับประทานยาแก้ปวดชนิดคลายการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ และรับประทานยาปฏิชีวนะพื้นฐาน เช่น โคไตรม็อกซาโซล (Co-trimoxazole) 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง ทุก 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน หรืออะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) ครั้งละ 500 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง หรือวันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน แต่ถ้าสงสัยว่ามีการแพ้ยาหรือดื้อยาเหล่านี้ก็อาจให้ยาปฏิชีวนะในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน เช่น นอร์ฟล็อกซาซิน (Norfloxacin) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ทุก 12 ชั่วโมง นาน 3 วัน, โอฟล็อกซาซิน (Ofloxacin) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน หรือไซโพรฟล็อกซาซิน (Ciprofloxacin) ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน แต่ยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลนนี้ไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะยังไม่มีข้อมูลยืนยันถึงความปลอดภัย
ไปพบแพทย์ตามนัดเสมอ และควรรีบไปพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อมีอาการผิดปกติไปจากเดิม (เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด, มีอาการไข้ หนองไหล ตกขาว ถ่ายเป็นเลือด หรือกระหายน้ำบ่อยร่วมด้วย) หรืออาการต่าง ๆ เลวร้ายลง/อาการยังไม่ดีขึ้นหลังจากดูแลตัวเองมา 2-3 วัน หรือเป็น ๆ หาย ๆ อยู่บ่อย ๆ (เป็นซ้ำมากกว่า 2-3 ครั้ง) หรือเมื่อมีความกังวลในอาการ/ไม่มั่นใจที่จะดูแลรักษาตนเอง หรือพบว่ามีอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในผู้ชาย (อาการขัดเบา) แม้ว่าจะเริ่มเป็นครั้งแรกก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด แล้วรักษาไปตามสาเหตุที่ตรวจพบ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบรักษา
เมื่อรักษาหายแล้ว ต่อไปต้องพยายามอย่ากลั้นปัสสาวะเป็นอันขาด มิเช่นนั้นอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
โดยทั่วไปกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นโรคไม่รุนแรง ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็มักจะหายขาด แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาหรือเป็น ๆ หาย ๆ ก็อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้
วิธีป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ในผู้ที่เคยเป็นโรคนี้และรักษาหายแล้วควรป้องกันมิให้เป็นซ้ำโดยการ
พยายามดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณวันละ 6-8 แก้ว (ตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน)
อย่ากลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานโดยไม่จำเป็น ควรฝึกถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวดจนเป็นนิสัย เวลาที่ต้องเดินทางไกลก็ต้องฝึกให้เคยชินที่จะเข้าห้องน้ำนอกบ้าน ถ้ากลัวไม่สะอาดก็ให้ชำระล้างที่โถส้วมให้สะอาดเสียก่อน หรือเวลาเข้านอนตอนอยู่ในบ้าน ถ้าไม่สะดวกจะลุกเข้าห้องน้ำก็ควรเตรียมกระโถนไว้ข้างเตียง เพราะการกลั้นปัสสาวะจะทำให้เชื้อโรคอยู่ในกระเพาะปัสสาวะได้นานจนสามารถแบ่งตัวเจริญแพร่พันธุ์ ประกอบกับในภาวะที่กระเพาะปัสสาวะมีความยืดตัว ความสามารถในการขจัดเชื้อโรคของเยื่อบุผิวกระเพาะปัสสาวะลดน้อยลง จึงทำให้เกิดอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
พยายามเคลื่อนไหวร่างกายเสมอ ไม่ควรนั่งแช่อยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ
รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอยู่เสมอ หลังการถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ ควรล้างหรือใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง (ในผู้หญิง) เพื่อป้องกันมิให้เชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
ควรอาบน้ำจากฝักบัว
ไม่ควรใช้สเปรย์หรือยาดับกลิ่นตัวในบริเวณอวัยวะเพศ เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกของอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการติดเชื้อและเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่ายขึ้น
ในผู้หญิงไม่ควรใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยการใช้น้ำยาฆ่าอสุจิหรือการใช้ฝาครอบปากมดลูก เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสการติดเชื้อต่อช่องคลอด ปากท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะ
ในผู้ชายการขลิบอวัยวะเพศจะช่วยลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้
รักษาและควบคุมโรคต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยง
อาการขัดเบาหลังการร่วมเพศ (โรคกระเพาะปัสสาวะจากฮันนีมูน) อาจป้องกันได้โดยการดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนการร่วมเพศ ใส่ครีมหล่อลื่นที่ช่องคลอด และถ่ายปัสสาวะทันทีหลังการร่วมเพศเสร็จ
ควรรักษาสุขอนามัยพื้นฐานอยู่เสมอ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสการติดเชื้อต่าง ๆ รวมทั้งการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
กระเพาะปัสสาวะอักเสบวิธีรักษา
https://medthai.com/กระเพาะปัสสาวะอักเสบ/

 

สงสัยไหม? ทำไมต้อง ท่อง"นโม" ก่อนสวดหรือรับศีล เรื่องนี้ "หลวงปู่มั่น" มีคำตอบ... ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "นโม" Publish 2017-06-12 11:02:23

สาเหตุของการต้องตั้ง "นโมฯ" โดย..หลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ

ได้มีโยมคนหนึ่ง คือ อาชญาขุนพิจารณ์ สุวรรณรงค์ เป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชีอยู่ในอำเภอพรรณานิคม บุตรของพระเสนาณรงค์ เจ้าเมืองพรรณานิคมคนที่ 4 และเป็นนายอำเภอพรรณานิคม คนแรกในรัชสมัยของพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้นมัสการถามพระอาจารย์มั่นถึงเรื่อง "นโม" ว่าเหตุใดการให้ทานหรือการรับศีลจึงต้องตั้ง "นโม" ก่อนทุกครั้ง จะกล่าวคำถวายทาน และรับศีลเลยทีเดียวไม่ได้หรือ ?

พระอาจารย์มั่นได้เทศน์ชี้แจงเรื่อง "นโม" ให้ฟังว่า... "เหตุใดนักปราชญ์ทั้งหลาย จะสวดก็ดีจะรับศีลก็ดี หรือจะทำการ
กุศลใดๆ ก็ดีจึงต้องตั้งนโมก่อนจะทิ้ง นโมไม่ได้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้ นโม ก็ต้องเป็นสิ่งสำคัญ จะยกขึ้นพิจารณา ได้ความ
ปรากฏว่า น คือธาตุน้ำ โมคือธาตุดิน พร้อมกับบทพระคาถาขึ้นมาว่า มาตาเปติกสมฺภโว โอทนกุมฺมา สปจฺจโย สัมภวธาตุ ของมารดาบิดา
ผสมกันจึงเป็นตัวตนขึ้นมาเมื่อคลอดจากครรภ์มารดาแล้วก็ได้รับข้าวสุกและขนมกุมมาสเป็นเครื่องเลี้ยงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาได้ "น" เป็น ธาตุ ของมารดา โม เป็นธาตุของบิดา ฉะนั้น เมื่อธาตุทั้ง 2 ผสมกันเข้าไป ไฟธาตุของมารดาเคี่ยวเข้าจน ได้นามว่า "กลละ" คือ น้ำมันหยดเดียว ณ ที่นี้เอง
ปฏิสนธิวิญญาณเข้าถือปฏิสนธิได้ จิตจึงได้ปฏิสนธิในธาตุ "นโม" นั้น เมื่อจิตเข้าไปอาศัยแล้ว "กลละ" ก็ค่อยเจริญขึ้นเป็น "อัมพุชะ"

คือ เป็นก้อนเลือด เจริญจากก้อนเลือดมาเป็น "ฆนะ" คือ แท่งและเปสี คือ ชิ้นเนื้อ แล้วขยายตัวออกคล้ายรูปจิ้งเหลน จึงเป็น ปัญจสาขา คือ แขน 2 ขา 2 หัว 1 ส่วนธาตุ "พ" คือ ลม "ธ" คือ ไฟนั้น เป็นธาตุเข้ามาอาศัยภายหลัง เพราะจิตไม่ถือ เมื่อละจาก" กลละ" นั้นแล้ว กลละ ก็ต้องเข้ามาอาศัยภายหลัง เพราะจิต ไม่ถือ เมื่อละจากกลละนั้นแล้ว กลละ ก็ต้องทิ้งเปล่า หรือ สูญเปล่า ลม และไฟก็ไม่มี คนตายลมและไฟก็ดับหายสาบสูญไป จึงว่าเป็นธาตุอาศัย ข้อสำคัญจึงอยู่ที่ธาตุ ทั้ง 2 คือ นโม เป็น ดั้งเดิม

ในกาลต่อมาเมื่อคลอดออกมาแล้วก็ต้องอาศัย "น" มารดา"โม" บิดาเป็นผู้ทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมา ด้วยการให้
ข้าวสุก และขนมกุมมาสเป็นต้น ตลอดจนการแนะนำสั่งสอน ความดีทุกอย่าง ท่านจึงเรียกมารดาบิดา ว่า "ปุพพาจารย์"
เป็นผู้สอนก่อนใครๆ ทั้งสิ้น มารดาบิดาเป็นผู้มีเมตตาจิตต่อ บุตรธิดาจะนับจะประมาณมิได้ มรดกที่ท่านทำให้กล่าว คือ
รูปกายนี้แลเป็นมรดกดั้งเดิมทรัพย์สินเงินทองอันเป็นภายนอก ก็เป็นไปจากรูปกายนี้เอง ถ้ารูปกายนี้ไม่มีแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้ ชื่อว่าไม่มีอะไรเลย เพราะเหตุนั้นตัวของเราทั้งตัวนี้เป็น"มูลมรดก" ของมารดาบิดา ทั้งสิ้น จึงว่าคุณของ ท่านจะนับจะประมาณ มิได้เลย
ปราชญ์ทั้งหลายจึงหาได้ละทิ้งไม่ เราต้องเอาตัวเราคือ นโม ตั้งขึ้นก่อน แล้วจึงทำกิริยาหาได้แปล ต้นกิริยาไม่มูลมรดก นี้แลเป็นต้นทุนทำการฝึกหัดปฏิบัติตนไม่ต้องเป็นคนจน ทรัพย์สำหรับทำทุนปฏิบัติ นโม เมื่อกล่าวเพียง 2 ธาตุเท่านั้น ยังไม่สมประกอบ หรือยังไม่เต็มส่วน ต้องพลิกสระพยัญชนะดังนี้ คือ เอาสระอะ จากตัว "น" มาใส่ตัว "ม" เอา สระโอจากตัว "ม" มาใส่ตัว "น" แล้วกลับตัวมะ มาไว้หน้าตัว โน เป็น มโน แปลว่าใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงได้ทั้งกายทั้งใจ เต็มตามสมควรแก่การใช้เป็นมูลฐานแห่งการปฏิบัติได้ มโน คือ ใจนี้เป็นดั้งเดิมเป็น มหาฐานใหญ่ จะทำจะพูดอะไรก็ย่อมเป็นไปจากใจนี้ทั้งหมดได้ในพระพุทธพจน์ว่า

มโนปุพฺพงฺ คมา ธมฺมา มโนเสฎฐา มโมยา ธรรมทั้งหลายมีใจ ถึงก่อน มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ
พระ บรม ศาสดาจะทรงบัญญัติพระธรรมวินัย ก็ทรงบัญญัติ ออกไปจากใจ คือ มหาฐานนี้ทั้งสิ้น เหตุนี้เมื่อพระสาวกผู้ได้มาพิจารณาตามจนถึงรู้สึก นโมแจ่มแจ้งแล้ว มโน ก็สุดบัญญัติ คือพ้นจากบัญญัติทั้งสิ้น สมบัติทั้งหลาย ในโลกนี้ต้องออกไป จาก นโม ทั้งสิ้น ของใครก็ก้อนของใครต่างคนต่างถือเอาก้อน อันนี้ ถือเอาเป็นสมบัติ บัญญัติตามกระแสแห่งน้ำ โอฆะ จนเป็นอวิชชาตัวก่อภพก่อชาติด้วยการไม่รู้เท่า ด้วยการหลงถือว่าตัว เป็นเราเป็นของเราไปหมด"

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : BuddhaSattha

เรียบเรียงโดย
จินต์จุฑา เจนสระคู : สำนักข่าวทีนิวส์

http://www.tnews.co.th/contents/y/326904

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events
ชาวมะกันกำลังทำอะไรอยู่ในขณะที่มีแผ่นดินไหว 296 แห่งในเขตปริมณฑลของ Yellowstone Supervolcano ภายใน 7 วันที่ผ่านมา

เป็นไปได้ไหมที่ซุปเปอร์วอลคาโนเยลโลว์สโตนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปะทุครั้งใหญ่? ถ้าใครที่ติดตามเป็นประจำจะรู้อยู่แล้วว่าเปลือกดาวเคราะห์ของเรากำลังกลายเป็น "ไม่เสถียรมากขึ้น"

แผ่นดินไหว 15 ครั้ง ชาวบ้านเชื่อเพราะสิ่งลี้ลับ
แรงสั่นสะเทือนเหมือนรถสิบล้อวิ่งผ่าน ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงในพื้นที่พากันทำพิธีเรียกขวัญ เพราะส่วนหนึ่งเชื่อว่าเรื่องลี้ลับที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

การสั่นเป็นผีเข้านี้เกิดขึ้นทั้งไทยที่ส่วนใหญ่ไม่สนใจ - ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจ แต่เรา.. ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่อาจเปลี่ยนชีวิตเราได้ทั้งหมดในชั่วกระพริบตา ตัวอย่างเช่นการปะทุเต็มรูปแบบของ supervolcano เยลโลว์สโตนจะมีศักยภาพในการเป็น ELE (เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์) นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกว่ามีแผ่นดินไหว 296 แห่งในบริเวณใกล้เคียงของ supervolcano Yellowstone ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
https://www.intellihub.com/yellowst...its-entire-park-more-than-60-on-friday-alone/
http://www.ktvq.com/story/35677986/earthquake-and-aftershocks-rattle-west-yellowstone-area
https://earthquake.usgs.gov/earthqu...utc","viewModes":["map","list"],"event":null}

แผ่นดินไหวเพิ่มมากขึ้นก่อนที่ภูเขาไฟจะปะทุขึ้น และตามที่นักฟิสิกส์ทฤษฎี Michio Kaku เตือน
https://www.intellihub.com/yellowst...its-entire-park-more-than-60-on-friday-alone/

อเมริกันเสี่ยงดินไหว เสี่ยงภูเขาไฟระเบิด มากยิ่งขึ้น?..
นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าว่ามันจะปะทุขึ้นอีกครั้งในวันหนึ่ง และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นทุกชีวิตจะเปลี่ยนในช่วงเวลาเดียว

https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/?hc_ref=NEWSFEED

 

ปอกเปลือก ทรราช
เอาแล้วไง! อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพของพวกผู้ก่อการร้ายในภาคตะวันออกของซีเรีย, F/A-18 ของสหรัฐยิงเครื่องบินรบ Su-22 ของซีเรียตกทางใต้ของเมืองรัคคา
----------

1.) วันที่ 18 มิ.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "อิหร่านยิงขีปนาวุธใส่ 'ฐานทัพผู้ก่อการร้ายหลายแห่ง' ในภาคตะวันออกของซีเรียเพื่อเป็นการแก้แค้นสำหรับการโจมตีกรุงเตหะราน - รายงานกล่าว" (Iran fires missiles against 'terrorist bases' in E. Syria in retaliation for Tehran attacks – report)

กองทัพพิทักษ์การปฏิวัติ (Revolutionary Guards) แห่งอิหร่านได้ปล่อยขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยกลางโจมตีตำแหน่งต่างๆของพวกผู้ก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัด Deir ez-Zor เพื่อเป็นการล้างแค้นต่อการโจมตีกรุงเตหะราน สำนักข่าว Tasnim ของอิหร่านรายงาน

ตามรายงานบอกว่ากองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) ได้ปล่อยบอลลิสติกมิสไซล์พิสัยกลางภาคพื้นสู่ภาคพื้นจากจังหวัด Kermanshah และจังหวัด Kurdistan ทางตะวันตกของอิหร่านไปยังพื้นที่ในจังหวัด Deir ez-Zor ทางตะวันออกของซีเรีย

"การกระเด็นของเลือดบริสุทธิ์ใดๆจะไม่จางหายไปโดยปราศจากคำตอบ" แถลงการณ์ของกองทัพปฏิวัติกล่าว อ้างโดยสำนักข่าว Tasnim

กองทัพปฏิวัติ (ของอิหร่าน) ได้กำหนดเป้าหมายไปที่ฐานทัพและกองบัญชาการต่างๆของพวกผู้ก่อการร้าย ซึ่งอิหร่านเชื่อว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อการโจมตีกรุงเตหะราน รายงานข่าวแจ้งว่าขีปนาวุธของอิหร่านได้สังหารพวกผู้ก่อการร้ายเป็นจำนวนมาก และได้สร้างความเสียหายด้านวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญด้วย สำนักข่าว Tasnim รายงาน

ส่วน Press TV ของอิหร่านรายงานว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้ต่อพวกผู้ก่อการร้ายดาอิชที่ได้ก่อการร้ายโจมตีกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน และได้รับบาดเจ็บ 50 กว่าคน และกลุ่มก่อการร้าย Daesh Takfiri (ไอซิส) ก็อ้างว่าเป็นฝีมือของตนเอง ทางการอิหร่านได้จับกุมสมาชิกผู้ก่อการร้ายดาอิชในประเทศอิหร่านหลายสิบคน หลังการโจมตีกรุงเตหะราน

2.) ไม่กี่วินาทีต่อมา RT พาดหัวข่าวอีกว่า "พันธมิตรนำโดยสหรัฐได้ยิงเครื่องบินรบของซีเรียตกในพื้นที่ทางใต้ของเมืองรัคคา - แถลงการณ์จากกองทัพซีเรียกล่าว" (US-led coalition downed Syrian army plane in southern Raqqa - Syrian army statement)

รายงานข่าวแจ้งว่า การโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐได้ทำลายอากาศยานของฝ่ายรัฐบาล กองทัพซีเรียประกาศในแถลงการผ่านเฟซบุค นักบินสูญหาย

แถลงการณ์ระบุว่า เครื่องบินรบ (ลำหนึ่ง) กำลังปฏิบัติภารกิจในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายไอซิส ในเขตชนบรอบเมืองรัคคาในขณะที่ตกเป็นเป้าหมาย ทำให้เครื่องบินตกและสูญเสียนักบิน ซึ่งปัจจุบันนี้สูญหาย

"การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กองทัพอาหรับซีเรีย และพันธมิตรของตนเองกำลังมีความก้าวหน้าในการต่อสู้พวกผู้ก่อการร้ายไอซิส ซึ่งกำลังได้รับความพ่ายแพ้ในทะเลทรายในซีเรียในหลายด้านด้านมากกว่าหนึ่ง" แถลงการณ์กล่าว

สำนักข่าว RUDAW ของเคิร์ดรายงานว่าเจ้าหน้าที่ภายในรัฐบาลเคิร์ดใน Rojava ทางเหนือของซีเรียประกาศเมื่อวันเสาร์นี้ว่า กองกำลังพันธมิตรได้ยิงเครื่องบินรบตก หลังจากที่เครื่องบินลำดังกล่าวได้โจมตีกองกำลัง SDF ของชาวเคิร์ดในพื้นที่ใกล้เขื่อน Tabqa (นอกเมืองรัคคา)

สื่อของฝ่ายเคิร์ดรายงานอีกว่า กองทัพประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) มีความคืบหน้าในการบุกเพื่อขับไล่พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสออกจากเมืองรัคคา SDF ได้รับการสนับสนุนทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินจากกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐ

[นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐแสดงพฤติกรรมถ่อยๆ แบบนี้ ปากก็บอกว่าเข้าไปในซีเรีย (โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรีย) เพื่อปราบปรามพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส (ตอแหล) แต่ในความเป็นจริงก็คือ คอยเตะตัดขาและขัดขวางกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียไม่ให้สังหารพวกไอซิส และก็อ้างว่าเพื่อปกป้องพันธมิตรของตนเอง และยังได้ฝึกกองกำลังกบฏชุดใหม่เข้าไปในซีเรียเรื่อยๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนชาวซีเรีย - ผู้แปล]

ล่าสุด สหรัฐยืนยันว่าได้ยิงเครื่องบินรบของซีเรียตกจริง "ณ เวลา 6:43 p.m. (18.43 น.) เครื่องบินรบ Su-22 ของรัฐบาลซีเรียได้ทิ้งระเบิดใกล้นักรบ SDF ทางใต้ของเมือง Tabqah (Al Tabqah, Syria) และตามกฎของการสู้รบกัน และในการป้องกันตนเองโดยรวมองกองทัพหุ้นส่วนพันธมิตร จึงถูกยิงตกในทันทีโดยเครื่องบินรบ F/A-18E Super Hornet ของสหรัฐ" แถลงการณ์กล่าว

[ก็อันธพาลมันจะหาเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านมันก็อ้างได้ทุกอย่างนั่นแหละ กับรัสเซียมันกล้าซะที่ไหนหละ การเที่ยวรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า โดยหลักการของสหรัฐแล้วถือว่าตนเองนั้นเก่งกล้าเหนือผู้ใดในโลกนี้ ต่อไปรัสเซียกับซีเรียควรจะปรับแผนรบใหม่ ให้เครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรียเล่นพวกลูกสมุนของสหรัฐในพื้นที่ที่ห่างจากกองทัพของสหรัฐและพรรคพวก และให้เครื่องบินรบของรัสเซียออกหน้าแทนในการโจมตีระยะไกล

เดี๋ยวสหรัฐก็หาทางเล่นงานซีเรียด้วยวิธีอื่นอีกนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ก็ยิงโทมาฮอว์คถล่มฐานทัพอากาศของซีเรียมาแล้ว ทั้งๆที่ซีเรียไม่ได้เปิดสงครามกับสหรัฐเลย และเมื่อๆเร็วนี้ก็ลอบโจมตีกองทัพฝ่ายโปร-รัฐบาลซีเรียใกล้เมือง Al Tant ล่าสุดก็แถวเขื่อน Tabqah นี่แหละ สันดานมันเป็นแบบนี้หละไอ้กัน มันต้องเจอซักครั้งแบบเรือพิฆาตที่โดนแถวญี่ปุ่นถึงจะรู้สึกตัวบ้างมั๊ง? - ผู้แปล]

3.) วันที่ 18 มิ.ย.60 สำนักข่าว FNA ของอิหร่าน และสำนักข่าว AMN ของเลบานอนต่างก็รายงานว่ากองกำลังภาคพื้นดินของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้รับชัยชนะในการต่อสู้กับพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสหลายแห่งในพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองรัคคา และสามารถยึดฐานทัพด้านยุทธศาสตร์ได้ด้วย

FNA รายงานว่า กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้เข้าควบคุมเมือง Banr al-Jaeq, Banr Mousa al-Hendi และ Bahr Abu Hamat หลังจากที่ได้มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสในพื้นที่ทางตะวันตกของรัคคา

ในสนามรบที่จังหวัด Deir ez-Zor ทางตะวันออกของซีเรียนั้น กองทัพซีเรียสามารถยึดพาหนะ (BMP-1) ของพวกไอซิสได้ด้วย โดยการสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินรบของรัสเซียและกองทัพอากาศซีเรีย ทั้งในพื้นที่หมู่บ้าน Hatlah, Al-Janenah , Huwyjat Qate`, Al-Baghiliyah , Aiyash และ Muhandiseen สังหารพวกผู้ก่อการร้ายได้เป็นจำนวนมาก และพวกผู้ก่อการร้ายหลายคนก็ได้รับบาดเจ็บด้วย ในขณะเดียวกัน AMN ก็ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอซึ่งระบุว่าเป็นพาหนะของพวกไอซิสที่ถูกทำลายโดยกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียในพื้นที่ใกล้เมือง Raqqa และ Aleppo

4.) [สถานการณ์แถวเมืองรัคคาในขณะนี้ก็คือ พื้นที่ทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของรัคคาถูกพวกเคิร์ดซึ่งมีสหรัฐหนุนหลังยึดไว้ได้ และเคิร์ดกับสหรัฐก็ข้ามแม่น้ำยูเฟรติสมาฝั่งทิศใต้จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อปิดล้อมหรือปิดทางหนีของพวกไอซิสที่อยู่ภายในเมืองรัคคาซึ่งอยู่ตรงกลางและอยู่ฝั่งเหนือของแม่น้ำยูเฟรติส แต่เพื่อสกัดไม่ให้กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียคลื่นอลงมาจากทางเหนือของอะเลปโปไปทางใต้ของรัคคาและเชื่อมไปยัง Deir ez-Zor ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัคคา

ในขณะเดียวกันทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียก็รุกคืบเข้าใกล้พื้นที่ยึดครองของกบฏเคิร์ดจนมีการปะทะกัน กบฏเคิร์ดอ้างว่าทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียโจมตีเคิร์ด ส่วนทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียก็ไม่ได้ปฏิเสธ และกล่าวอีกว่าโจมตีพวกไอซิส เมื่อไม่กี่วันมานี้สหรัฐได้เครื่องขีปนาวุธ HIMARS ซึ่งเป็นจรวดหลายลำกล้องและเป็นระเบิดดาวกระจาย จากจอร์แดนเข้าไปในพื้นที่ทางภาคใต้ของซีเรียแถวเมือง Al Tanf ซึ่งเป็นค่ายฝึกกำลังหนุนของพวกทหารรับจ้างที่สหรัฐฝึกขึ้นมาภายใต้หน้าการ "กบฏซีเรีย" หรือ "กองกำลัง FSA"

ไม่ใช่เพื่อต่อสู้พวกไอซิส แต่เพื่อขวางไม่ให้กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรเชื่อมถึงกันกับกองทัพของตนเองที่อยู่อีกฟากหนึ่งของค่าย Al Tanf ได้ รัฐบาลซีเรียและรัสเซียวิจารณ์ว่าการติดตั้งขีปนาวุธ HIMARS ของสหรัฐในครั้งนี้มีเป้าหมายที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียในพื้นที่

หนึ่งวันก่อนที่อิหร่านจะปล่อยขีปนาวุธถล่มรังพวกปีศาจไอซิสในซีเรียนั้น กองทัพเรือของอิหร่านก็ได้จัดซ้อมรบร่วมกันกับกองทัพเรือของจีนในน่านน้ำแถวช่องแคบฮอร์มุซด้วย สถานการณ์โดยภาพรวมในซีเรีย ณ ขณะนี้ กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรกำลังได้รับชัยชนะมากขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายกบฏซีเรียทั้งกบฏจริงและกบฏปลอมต่างก็ประทะกันเองในหลายพื้นที่ เพราะว่าพวกลูกพี่ของพวกกบฏเหล่าน้นกำลังแตกคอกันกรณีแก๊งซาอุดิอาระเบียคว่ำบาตรและตัดสัมพันธ์ทางการทูตและด้านอื่นๆกับกาตาร์

สหรัฐสนับสนุนทั้งฝ่ายกบฏ (ผู้ก่อการร้าย) และฝ่ายเคิร์ด แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ถูกกัน ในขณเดียวกันทั้งสองฝ่ายนี้ก็ไม่ถูกกับฝ่ายรัฐบาลซีเรียด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้เคิร์ดจะไม่ค่อยปะทะกับทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียมากเท่าไรนัก คาดว่าลึกๆแล้วสหรัฐก็คงอยากจะยิงเครื่องบินรบของรัสเซียให้ตกบ้างเช่นกัน แต่ทำไม่ได้ ขืนเอาอย่างแอร์โดกันมีหวังสุดท้ายสหรัฐได้คลานไปกราบปูตินแบบแอร์โดกันแน่ ดังนั้นจึงหันไปเล่นงานกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียแทน และถือว่าเป็นการยั่วยุทั้งรัสเซียและกองทัพซีเรียไปในตัวด้วย จะได้หาข้ออ้างเปิดสงครามถล่มซีเรียอย่างเป็นทางการซะเลย - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
19/06/2560
------------
https://www.rt.com/news/392940-iran-fires-missiles-syria/
https://sputniknews.com/middleeast/201706181054746460-iran-syria-missiles/
https://sputniknews.com/middleeast/201706181054747850-internationl-coalition-prevents-syria-forces/

https://www.rt.com/news/392941-us-led-coalition-downed-syrian-plane/
http://www.presstv.com/Detail/2017/06/18/525740/iran-irgc-missiles-syria

http://www.reuters.com/article/us-mideast-crisis-syria-usa-idUSKBN1990XI
http://www.rudaw.net/english/middleeast/syria/18062017
http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13960328001137
https://www.almasdarnews.com/article/syrian-army-reaches-outskirts-isils-west-raqqa-stronghold/
https://www.almasdarnews.com/article/syrian-army-overruns-isis-deir-ezzor-seizes-vehicle/
https://www.rt.com/news/392455-us-rocket-launchers-syria/
https://www.rt.com/news/392837-iran-china-hormuz-drills/
https://sputniknews.com/middleeast/201706181054746884-usa-coalition-shoots-down-syrian-aircraft/

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐยืนยันว่าได้ยิงเครื่องบินรบของซีเรียตกจริง "ณ เวลา 6:43 p.m. (18.43 น.) เครื่องบินรบ Su-22 ของรัฐบาลซีเรียได้ทิ้งระเบิดใกล้นักรบ SDF ทางใต้ของเมือง Tabqah (Al Tabqah, Syria) และตามกฎของการสู้รบกัน และในการป้องกันตนเองโดยรวมองกองทัพหุ้นส่วนพันธมิตร จึงถูกยิงตกในทันทีโดยเครื่องบินรบ F/A-18E Super Hornet ของสหรัฐ" แถลงการณ์กล่าว

[ก็อันธพาลมันจะหาเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านมันก็อ้างได้ทุกอย่างนั่นแหละ กับรัสเซียมันกล้าซะที่ไหนหละ การเที่ยวรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า โดยหลักการของสหรัฐแล้วถือว่าตนเองนั้นเก่งกล้าเหนือผู้ใดในโลกนี้ ต่อไปรัสเซียกับซีเรียควรจะปรับแผนรบใหม่ ให้เครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรียเล่นพวกลูกสมุนของสหรัฐในพื้นที่ที่ห่างจากกองทัพของสหรัฐและพรรคพวก และให้เครื่องบินรบของรัสเซียออกหน้าแทนในการโจมตีระยะไกล

เดี๋ยวสหรัฐก็หาทางเล่นงานซีเรียด้วยวิธีอื่นอีกนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ก็ยิงโทมาฮอว์คถล่มฐานทัพอากาศของซีเรียมาแล้ว ทั้งๆที่ซีเรียไม่ได้เปิดสงครามกับสหรัฐเลย และเมื่อๆเร็วนี้ก็ลอบโจมตีกองทัพฝ่ายโปร-รัฐบาลซีเรียใกล้เมือง Al Tant ล่าสุดก็แถวเขื่อน Tabqah นี่แหละ สันดานมันเป็นแบบนี้หละไอ้กัน มันต้องเจอซักครั้งแบบเรือพิฆาตที่โดนแถวญี่ปุ่นถึงจะรู้สึกตัวบ้างมั๊ง? - ผู้แปล]
-----------
https://sputniknews.com/middleeast/201706181054747850-internationl-coalition-prevents-syria-forces/
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
คลิปข่าวอิหร่านปล่อยขีปนาวุธหลายลูกถล่มพวกปีศาจไอซิสในซีเรีย สุดยอดดดด! ขออีกหลายๆยกได้ไหมครับอิหร่าน? (19 มิ.ย.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ปูตินใจดีบริการส่งปีศาจร้ายไอซิสกลับคืนสู่ขุมนรกรวดเดียว 180 ตัวโดยเครื่องบินรบในจังหวัดเดียร์เอซซอร์ทางตะวันออกของซีเรีย สะใจ!
----------

วันที่ 17 มิ.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินรบรัสเซียสกัดการโจมตีของพวกดาอิชในจังหวัดเดียร์เอซซอร์ กำจัดผู้ก่อการร้ายได้ 180 ตัว" (Russian Warplanes Foil Daesh Attack in Deir ez-Zor, Eliminate 180 Terrorists)

เมื่อวันเสาร์นี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า เครื่องบินรบของรัสเซียหลายลำได้ขัดขวางการโจมตีของพวกไอซิสในเมือง Deir ez-Zor ของซีเรียเมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงว่า การลาดตระเวนในหลายวิธีของรัสเซียได้ตรวจพบว่ามีพวกไอซิสหลายหน่วยกำลังเตรียมการที่จะบุกฝ่าการป้องกันของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียที่ประจำการอยู่ในเมือง Deir ez-Zor

"เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ กลุ่มกองทัพอากาศของรัสเซียในสาธารณรัฐอาหรับซีเรียได้บันทึกผ่านผ่านอากาศยานไร้คนชับเกี่ยวกับการเตรียมการของกลุ่มก่อการร้ายดาอิชหลายหน่วย เพื่อที่จะตีฝ่าแนวป้องกันของกองทหารรักษาการณ์ของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียซึ่งทำหน้าที่สกัดพวกไอซิส (ไม่ให้เข้าไป) ในเมือง Deir ez-Zor" (กลาโหมกล่าว)

เครื่องบินรบของรัสเซียได้กำจัดระดับผู้บัญชาการสนามของพวกดาอิชไปสองตัว และรวมทั้งลูกสมุนอีก 180 ตัวในซีเรีย ระหว่างปฏิบัติการทางอากาศเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนนี้

"ผลของการชิงลงมือโจมตีก่อนของกาองทัพอากาศรัสเซียเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนนี้ ได้สังหารพวกหัวหน้า (ปีศาจ) ไอซิสไปได้ 2 ตัวพร้อมกับพวก (ปีศาจ) ผู้ก่อการร้ายไอซิสไปทั้งสิ้น 180 ตัว รวมทั้งได้ทำลายยวดยานและยานพาหนะหุ้มเกราะของพวก (ปีศาจ) ผู้ก่อการร้ายไอซิส 16 คัน รวมทั้งคลังเก็บเครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดด้วย ในขณะที่มีการจู่โจมทางอากาศ"

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้ควบคุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งอขงเมือง Deir ez-Zor ซึ่งถูกปิดล้อมโดยพวกผู้ก่อการร้ายดาอิชเป็นเวลานานถึง 3 ปี กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียยังคงเดินหน้ารุกเข้าไปโดยมีจุดประสงค์เพื่อยกเลิกการปิดล้อม ละการสร้างเส้นทางขนกำลังหนุนและเสบียงให้ประชานที่อยู่อาศัยในเมืองนี้ ปัจจุบันนี้มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถจัดส่งเสบียงเข้าไปในเมืองนี้ได้โดยทางอากาศ

วันที่ 3 มิ.ย.60 Sputnik รายงานว่ากองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้ใช้เครื่องบินรบและทหารสังหารพวกปีศาจผู้ก่อการร้ายในเมือง Deir ez-Zor ที่ยังคงถูกปิดล้อม

ป.ล. วันก่อนนี้แอ็ดมินบอกว่าจะเลี้ยงขาหมูเยอรมัน ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ ลูกชิ้นหมู คอหมูย่าง และหมูหัน แต็ปหมูจิ้มน้ำพริกหนุ่มพวกมะเร็งร้ายโจรใต้ขี้ข้าปีศาจไอซิส ที่พวกมันพากันโผล่มาจากขุมนรกเพื่อขอส่วนบุญ วันนี้หลงมาตัวหนึ่ง มาช้าไปอ่ะ เหลือแต่กระดูกขาหมูเท่านั้น โยนให้ไปชิ้นหนึ่งให้มันไปแท็ะในนรกต่อไป

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
19/06/2560
------------
https://sputniknews.com/middleeast/201706171054724395-russia-daesh-commanders/
https://sputniknews.com/middleeast/201706031054274260-syria-deir-ez-zor-daesh/
https://www.rt.com/news/392783-isis-commanders-killed-syria/

 

ดีวันดีคืน รักษาอาการ “สายตาสั้น” ด้วยวิธีธรรมชาติ แล้วคุณจะเลิกใส่แว่นอีกเลย… minnion ข่าวโซเชี่ยล

คงมีเพียงไม่กี่คนที่อยากใส่แว่นอยู่ตลอดเวลา ส่วนใหญ่ด้วยการที่มองเห็นอะไรได้ไม่ชัด มองได้ลำบากถึงจะต้องใส่แว่นอยู่ตลอดเวลา การที่ “สายตาสั้น” คงไม่มีอะไรน่ารำคาญเท่าเจ้าแว่นเลนส์หนาเตอะที่ใส่อยู่ หรือบางคนอาจใส่คอนแทคเลนส์เพื่อตัดปัญหาการใส่แว่น แต่ก็มีผลกระทบต่อสุขภาพดวงตาอยู่ดี มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากสายตากลับมาเป็นปกติได้ ดังนั้นจึงขอแนะนำวิธีรักษาอาการสายตาสั้น ด้วยวิธีธรรมชาติ แล้วคุณจะต้องเมินแว่นอันเดิมของคุณตลอดไป…

บทความหนึ่งในนิตยสารด้านสุขภาพของอเมริกา เกี่ยวกับวิธีที่จะช่วยบำบัด อาการสายตาสั้นให้ดีขึ้น ซึ่งหากลองนำไปปฏิบัติประมาณ 2-3 อาทิตย์ทุกวัน จะรู้สึกว่าสายตาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

วิธีง่ายๆที่จะช่วยบำบัด อาการสายตาสั้น

สิ่งที่ต้องทำเป็นนิสัย คือ สวมแว่นสายตา เมื่อจำเป็นเท่านั้น พยายามอย่าสวมแว่น ไม่ว่าจะเวลาไหน เมื่อไรก็ตามเท่าที่จะทำได้ เพราะมันจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อตา และระบบประสาทรอบดวงตาของคุณ รู้สึกผ่อนคลาย

วิธีอ่านหนังสืออย่างถูกต้อง

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่อ่านหนังสือ ต้องถอดแว่นออกทุกครั้ง แล้วพยายามอ่านหนังสือโดยที่ พยายามให้ตาทั้งสองข้างอยู่ห่างจากหนังสือมากที่สุด แต่ต้องเป็นระยะที่สามารถอ่านตัวหนังสือได้อย่างชัดเจน หากทำจนติดเป็นนิสัยแล้ว จะรู้สึกว่า คุณจะค่อยๆ สามารถอ่านหนังสือได้ห่างมากขึ้นไปเรื่อยๆ

สำหรับที่คนสายตาสั้นไม่เท่ากัน ระยะห่างที่ชัดเจนของตาแต่ละข้างนั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือ ให้ใช้มือข้างใดก็ได้ ปิดตาข้างหนึ่งไว้ แล้วค่อยๆ อ่านด้วยตาทีละข้างสลับกันไป แต่ถ้าสายตาทั้งสองข้างต่างกันแค่นิดเดียว อ่านพร้อมกันทั้งสองข้างเลยก็ไม่เป็นไร

กระพริบตาให้บ่อย การฝึกกระพริบตาให้บ่อย (ประมาณ 1 ครั้ง ต่อ 10 วินาที) จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อตา รู้สึกผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด

วิธีบำบัดที่ต้องทำเป็นประจำ (ต้องทำทุกวิธี)

การบริหารกล้ามเนื้อดวงตา ให้ชำเลืองตาขึ้นไปข้างบน ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วชำเลืองตา ลงข้างล่าง ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วชำเลืองตา ไปทางซ้าย ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วชำเลืองตา ไปทางขวา ค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีเสร็จแล้วพักตาสักพัก แล้วเริ่มทำใหม่ไปอีกเรื่อยๆ วันละ 10 นาที

การบำบัดด้วยน้ำเย็น

เมื่อล้างหน้าเสร็จ ก่อนจะอาบน้ำ ให้เตรียมน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำอุ่น) ใส่กะละมังเล็กๆ ไว้ ก้มหน้าลงไปเล็กน้อย ทำมือทั้งสองให้เป็นรูปถ้วย แล้วกวักน้ำให้เต็ม ให้มืออยู่ห่างจากดวงตาประมาณ 6 เซนติเมตร หลับตาลง แล้วค่อยๆ สาดน้ำมากระทบเปลือกตาเบาๆ น้ำเย็นจะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบดวงตารู้ผ่อนคลายได้มา กขึ้น (ให้ทำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที)

การบำบัดด้วยการสร้างมโนภาพ

ให้หาหนังสืออะไรก็ได้มา 1 เล่ม เปิดหน้าไหนก็ได้ที่มีตัวหนังสือ ถอดแว่นออก แล้วเลือกคำอะไรก็ได้ 1 คำจากหน้านั้น จำรูปร่าง ของคำนั้นไว้ให้ดี ยื่นหนังสือออกไปให้ไกล ในระยะที่คุณมองเห็นไม่ชัดและเบลอ แล้วหลับตาลง นึกภาพในใจให้รู้สึกว่าคุณเห็นคำนั้นได้อย่างชัดเจน การทำเช่นนี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาค่อยๆ ปรับโฟกัส ให้ดีขึ้นได้อย่างอัตโนมัติ (ให้ทำทุกวัน วันละประมาณ 10 นาที)

การบำบัดด้วยอุ้งมือ

ก่อนนอน ให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่นั่งสบายๆ หลับตาลง แล้วใช้อุ้งมือซ้ายปิดตาซ้ายเบาๆ และใช้อุ้งมือขวาปิดตาขวาเบาๆ จะช่วยทำให้ไม่มี แสงเล็ดลอด เข้าสู่ตาได้ ความมืดมิดที่เห็น จะทำให้ดวงตารู้สึกสบายกว่าปกติ (ให้ทำทุกวันก่อนนอน วันละอย่างต่ำ 45 นาที)

หากปฏิบัติเป็นประจำ หรือทำเป็นนิสัย ไม่นานนักสายตาจะกลับเป็นปกติมากขึ้น จนตัวเองต้องตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ลืมไปเลยว่าเคยใส่แว่น
http://th.pandank.com/minnion-2017-198/
ที่มา : thaihitz.com
http://th.pandank.com/minnion-2017-198/

 

Richard Whitt

ผู้นำเกาหลีใต้ สั่งปิดโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์

New South Korean president vows to end use of nuclear power

• สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ประธานาธิบดี Moon Jae-in ของเกาหลีใต้ เดินทางไปยังเมืองปูซาน เพื่อทำพิธีปิดโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โกริ-1 (Kori-1) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศ หลังทางการตัดสินใจที่จะปิดโรงงานแห่งนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015

• พร้อมทั้งให้คำมั่นสัญญา จะยุติแผนการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่ รวมทั้งจะไม่ขยายเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มขึ้น แต่จะทำให้เกาหลีใต้เป็นชาติที่ปลอดการใช้พลังงานนิวเคลียร์ และพลังงานถ่านหิน

• นางคัง คยอง-ฮวา (Kang Kyung-Wah) รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของเกาหลีใต้ กล่าวภายหลังการปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องก้าวข้ามปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือให้ได้

• นอกจากนี้ ยังพูดถึงความจำเป็น ที่จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับจีน และรัสเซียด้วย

https://www.theguardian.com/world/2...-to-end-use-of-nuclear-power?CMP=share_btn_fb


https://www.facebook.com/profile.php?id=100004278316916&fref=ts

 

ปอกเปลือก ทรราช
ตำรวจอังกฤษกล่าวว่าเหตุการณ์คนร้ายขับรถตู้พุ่งชนผู้คนหน้าคลังสินค้ามุสลิม (Muslim Welfare House) ที่ถนน Seven Sisters ใกล้มัสยิด Finsbury Park ทางเหนือของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังเสร็จจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็น "การก่อการร้าย" ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นชายผิวขาวชาวอังกฤษ อายุ 48 ปี พยานในที่เกิดเหตุระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายผิวขาวชาวอังกฤษตามร่างกายมีรอยสัก มีผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 10 คนจากการก่อเหตุในครั้งนี้ (19 มิ.ย.60)
----------------
https://www.rt.com/uk/392955-london-finsbury-park-van-attack/
http://edition.cnn.com/2017/06/18/europe/urgent---london-vehicle-collision/index.html?adkey=bn

https://sputniknews.com/europe/201706191054755028-uk-secretaty-police-terrorist-attack/

 

ปอกเปลือก ทรราช
คิมน้อยประจานความชั่วของสหรัฐให้โลกได้รับรู้: สำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหนีเหนือประณามสหรัฐว่าอำพรางรัฐผู้ก่อการร้ายภายใต้แคมเปญจ์ในซีเรีย
----------

วันที่ 18 มิ.ย.60 Sputnik รายงานว่า สำนักข่าวกลางเกาหลี (Korean Central News Agency) ของรัฐบาลเกาหลีเหนือได้กล่าวกาสหรัฐที่ปฏิบัติการแคมเปญจ์รัฐขบวนการก่อการร้ายในซีเรีย และกล่าวว่ากรุงวอชิงตันกำลังขัดขวางความพยายามของรัฐบาลซีเรียในการรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ

"เนื่องจากการก่อการร้ายต่างๆภายใต้หน้ากากของรัฐบาลหนึ่ง สหรัฐกำลังขวางทาง [ความพยายาม] ของรัฐบาลซีเรียเพื่อปกป้องรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศนั้น มันเหมือนกับการเดินสะดุดเท้า ในขณะเดียวกันขีปนาวุธและระเบิดของพวกแยงกี้ (Yankees) ก็สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ในส่วนต่างทั่วโลกด้วย" สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือกล่าว

สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือได้ยืนยันอีกว่า กิจกรรมทางทหารของสหรัฐในซีเรียกำลังกลายเป็นเรื่องที่อุกอาจมากขึ้นทุกวัน KCNA ยันยันว่า "สหรัฐเป้นองค์ประกอบ (ปัจจัย) ที่สำคัญของขบวนการก่อการร้ายสากล (US is the key element of international terrorism) และได้ทำลายสันติภาพและความปลอดภัยในโลกนี้" Sputnik รายงาน

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
19/06/2560
------------
https://sputniknews.com/middleeast/201706181054744709-north-korean-media-slams-us/

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียประกาศยุติข้อตกลงป้องกันอุบัติเหตุทางอากาศกับเหนือน่านฟ้าซีเรีย เตือนว่าระบบขีปนาวุธของรัสเซียจะล็อกเป้าอากาศยานของพันธมิตรนำโดยสหรัฐทุกลำในพื้นที่ปฏิบัติการของอากาศยานรัสเซีย แต่สหรัฐไม่ต้องกังวลใจมากรัสเซียจะไม่ยิงโดยอัตโนมัติ (จะตั้งใจเล็งและเหนี่ยวเต็มที่ให้ร่วงไปเลย?)
-----------

วันที่ 19 มิ.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "กองทัพรัสเซียได้ยุติการการติดต่อกับสหรัฐเพื่อป้องกันสถานการณ์เหนือน่านฟ้าซีเรียตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนนี้ - กรุงมอสโคแถลง" (Russian military halts Syria sky incident prevention interactions with US as of June 19 – Moscow)

กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่ากำลังระงับความร่วมมือกับเหล่าหุ้นส่วนสหรัฐในกรอบข้อตกลงบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการป้องกันเหตุการณ์และรับประกันความปลอดภัยทางอากาศในซีเรีย หลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐยิงเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรียตก (ในขณะที่กำลังปฏิบัติการโจมตีขบวนการก่อการร้ายไอซิสทางทิศใต้ของเมืองรัคคา)

กลาโหมรัสเซียได้เรียกร้องให้กองบัญชาการของสหรัฐทำการตรวจสอบเหตุการณ์นี้เกี่ยวกับเครื่องบินรบของฝ่ารัฐบาลซีเรีย ซึ่งจะต้องแจ้งผลลัพธ์ให้ฝ่ายรัสเซียทราบด้วย

"ในหลายพื้นที่ที่มีการปฏิบัติภารกิจสู้รบของกองทัพอากาศรัสเซียในน่านฟ้าซีเรีย วัตถุทางอากาศใดๆ ซึ่งรวมทั้งอากาศยาน และพาหนะไร้คนขับของฝ่ายพันธมิตรนานาชาติ (นำโดยสหรัฐ) ซึ่งประจำอยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส จะถูกติดตามโดยกองกำลังป้องกันภัยทั้งทางบกและอากาศของรัสเซีย ในฐานะเป็นเป้าหมายทางอากาศ (ล็อกเป้า)" กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลง

กองทัพรัสเซียกล่าวว่า การยิงเครื่องบินรบของกองทัพ (ซีเรีย) ตก ภายในน่านฟ้าของซีเรีย เป็นการละเมิด "ที่เหยียดหยาม" อธิปไตยของสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย

การกระทำของกองทัพอากาศสหรัฐซึ่งในความเป็นจริงก็คือ "การรุกรานทางทหาร" (military aggression) ต่อซีเรีย แถลงการณ์กล่าวเพิ่มเติม

กระทรวงเน้นย้ำว่า เครื่องบินรบของรัสเซียได้ปฏิบัติภารกิจอยู่ในน่านฟ้าซีเรียระหว่างที่ฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐโจมตีเครื่องบินรบ Su-22 ของกองทัพอากาศซีเรีย ในขณะเดียวกันฝ่ายพันธมิตรก็ล้มเหลวในการใช้ช่องทางการสื่อสารเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว

"กองบัญชาการของกองกำลังฝ่ายพันธมิตรไม่ได้ใช้ช่องทางการสื่อสารที่มีอยู่ระหว่างกองบัญชาการทางอากาศของฐานทัพ Al Udeid Airbas (ในกาตาร์) และฐานทัพอากาศ Khmeimim ของรัสเซีย (ในจังหวัดลาตะเกีย ประเทศซีเรีย) เพื่อป้องกันเหตุการณ์ต่างๆในน่านฟ้าซีเรีย"

[สหรัฐไม่ได้ต้องการที่จะแจ้งให้รัสเซียทราบอยู่แล้ว และมีเจตนาที่จะยิงเครื่องบินรบของฝ่ายซีเรียตั้งแต่แรกแล้ว ก่อนหน้านี้ก็โจมตีตำแหน่งของกองทัพฝ่ายโปร-รัฐบาลซีเรียในพื้นที่ภาคใต้ของซีเรียใกล้ชายแดนอิรัคและจอร์แดน อ้างว่าเพื่อปกป้องพวกกบฏซึ่งเป็นพันธมิตรที่สหรัฐฝึกขึ้นมาเพื่อบ่นทำลายอธิปไตยของซีเรีย

พอกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียเสริมระบบป้องกันภัยทางอากาศเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว สหรัฐก็แอบไปยิงเครื่องบินรบของซีในพื้นที่อื่นแทน และส่งระบบจรวดหลายลำกล้อง HIMARS เข้าไปในดินแดนทางภาคใต้ของซีเรีย ซึ่งทางรัสเซียกล่าวว่าระบบดังกล่าวมีเป้าหมายที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธิตร

เกือบทุกครั้งที่สหรัฐตั้งใจโจมตีกองทัพซีเรีย สหรัฐก็จะอ้างว่าเพื่อปกป้องพันธมิตรของตนเอง ในขณะเดียวกันรัสเซียซึ่งพูดอยู่บ่อยๆว่า ซีเรียและอิหร่านเป็นพันธมิตรของตนเอง แต่เมื่อกองทัพซีเรียถูกสหรัฐรังแกซ้ำซาก รัสเซียกลับไม่สามารถตอบโต้เพื่อปกป้องพันธมิตรของตนเองได้เลย สิ่งที่รัสเซียทำได้ก็แค่ โวยวาย ประณาม วัวหายล้อมคอก เดินเกมตามหลังสหรัฐจอมอันธพาลเจ้าเล่ห์ตลอด เหมือนกับว่าสหรัฐจะดูว่ารัสเซียจะอดทนไปได้ซักกี่น้ำ และยั่วยุรัสเซียแรงขึ้นเรื่อยๆ สหรัฐจึงมองว่าอย่างมากที่รัสเซียทำได้ในตอนนี้ก็คือ ประกาศตัดช่องทางการสื่อสาร และบอกว่าจะไม่รับประกันความปอดภัย (ครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้แล้ว) แล้วไง? สหรัฐก็ก่อกวน ยั่วยุหาเรื่องไปแบบนี้เรื่อยๆ - ผู้แปล]

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียพิจารณาว่า การเคลื่อนไหว "ที่ล้มเหลวทางสามัญสำนึกเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการป้องกันเหตุการณ์และรับประกันความปลอดภัยทางอากาศในซีเรีย" และสิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดการยุติความร่วมมือกับสหรัฐภายในกรอบข้อตกลงบันทึกความเข้าใจในวันที่ 19 มิถุนายน แถลงการณ์สรุป

ก่อนหน้านี้นาย Sergey Ryabkov รมช.กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียได้ประณามการโจมตีในครั้งนี้ โดยระบุว่ามันเป็นการกระทำที่ก้าวร้าว ซึ่งเป็นการช่วยเหลือพวกผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐ (อ้างว่า) กำลังต่อสู้ อย่างแท้จริง

เมื่อวันอาทิตย์นี้ เครื่องบินรบ F/A-18E Super Hornet ของพันธมิตรนำโดยสหรัฐได้ยิงเครื่องบินรบ Su-22 ของกองทัพอากาศซีเรียตกหนึ่งลำ ในขณะที่ Su-22 กำลังปฏิบัติภารกิจต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในพื้นที่ห่างจากเมือง Raqqa ประมาณ 40 กิโลเมตร กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าว นักบินดีดตัวออกมาจากเครื่องบินได้เหนือพื้นที่ที่พวกไอซิสยึดครอง และยังคงสูญหาย

กรุงวอชิงตันอ้างว่า เครื่องบินรบ Su-22 ของซีเรียโจมตีกองกำลัง SDF ของพวกกบฏชาวเคิร์ดซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยสหรัฐและพรรคพวกซึ่งกำลังต่อสู้พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสในพื้นที่ทางใต้ของเมือง Tabqah

[ในความเป็นจริงก็คือ ในจุดนั้นทั้งกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและกองกำลังกบฏเคิร์ดกำลังปะทะกันบนภาคพื้นดิน เหมือนกับว่ากำลังแย่งเมือง Raqqa จากพวกไอซิส และฝ่าย SDF ของพวกเคิร์ดและสหรัฐก็พยายามขัดขวางกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียไม่ให้เดินหน้าไปได้มากกว่านั้น สถานการณ์ที่ภาคใต้ของซีเรียก็คล้ายกันนี้ สหรัฐใช้พวกทหารรับจ้างที่อ้างว่าเป็นพวกกบฏซีเรีย (SFA) ต่อต้านการรุกภาคพื้นดินของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตร นี่พฤติกรรมของสหรัฐที่พยายามทำลายอธิปไตยของซีเรียอยู่ในตอนนี้มันเป็นแบบนี้

ส่วนพวกกบฏชาวเคิร์ดพอเห็นสหรัฐถือหางหน่อยก็ได้ใจและขู่ว่าจะตอบโต้หากกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียโจมตีตำแหน่งของพวกกบฏในเมืองรัคคา ผลจากการแทรกแซงของสหรัฐและพรรคพวกทั้งตะวันตกและอาหรับในซีเรีย สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ประเทศซีเรียกำลังจะล่มสลาย และมีชะตากรรมไม่ต่างจาก ลิเบีย อิรัค และอัฟกานิสถาน

ใครก็อยากจะมีอำนาจและอยากเป็นใหญ่ ต่างก็พากันตั้งกองกำลังของตนเองขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลกลาง โดยมีตะวันตกนำโดยสหรัฐสนับสนุนด้านอาวุธและการเงิน แลกกับทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติราคาถูก - ผู้แปล]

วันที่ 19 มิ.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียยจะไม่สอยอากาศยานของฝ่ายพันธมิตรทุกลำในซีเรียโดยอัตโนมัติหรอก - วุฒิสมาชิกของรัสเซียกล่าว" (Russia Won't Down Every Coalition's Aircraft in Syria Automatically - Senator)

หลังจากที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศว่าจะไม่รับประกันความปลอดภัยต่ออากาศยานของพันธมิตรนำโดยสหรัฐเหนือน่านฟ้าซีเรีย และจะติดตามอากาศยานเหล่านั้นทั้งหมดในซีเรีย

นาย Frants Klintsevich รองประธานาคนที่หนึ่งของคณะกรรมาธิการฝ่ายความมั่นคงและการรักษาความปลอดภัยแห่งวุฒิสภาของรัสเซียได้กล่าวว่า "การตัดสินใจในครั้งนี้จะกระทำเป็นรายกรณีไป เป้าหมายต่างๆจะไม่ถูกทำลายโดยอัตโนมัติ แต่ในกรณีที่มีการกระทำที่แสดงออกถึงความก้าวร้าวจากสหรัฐ การกระทำเหล่านั้นจะถูกระงับอย่างเข้มงวดโดยกองทัพอากาศของรัสเซีย"

[ดูเหมือนว่าต่อไปนี้ หากรัสเซียจะสอยเครื่องบินรบหรืออากาศยานได้คนขับของฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐให้ร่วงซักลำในน่านฟ้าของซีเรีย ก็ถือว่ารัสเซียมีความชอบธรรม และไม่จำเป็นจะต้องแจ้งให้ทางสหรัฐทราบล่วงหน้าด้วย เพราะว่าพี่แกวอนเอง และมันจะนำไปสู่สงครามใหญ่ระหว่างสองยักษ์ใหญ่หรือไม่? 50-50 ครับ บางทีถ้าจอมอันธพาลโลกไม่เห็นเลือดหัวของตัวเองไหลซะบ้าง ก็จะไม่ยอมหยุดกร่างและหาเรื่องชาวบ้านแบบนี้ เพราะว่าสหรัฐไม่ได้เคารพกฎหมายระหว่างประเทศหรือเคารพในอธิปไตยของประเทศไหนเลย ถือว่าตัวเองมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีนาโต้หนุนหลัง จะเที่ยวรังแกประเทศไหนตามใจขอบของตนเองก็ได้

รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า สหรัฐเสริมพาหนะหุ้มเกราะ อาวุธหนัก และปืนกลให้พวกกบฏเคิร์ดซีเรีย เป็นรอบที่เจ็ด ดูเหมือนว่าคงจะหนีไม่พ้นศึกใหญ่ระหว่างกองกำลังกบฏเคิร์ด (SDF) กับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียซะแล้ว แม้ว่ารัฐบาลอัสซาดจะปราบพวกไอซิสและกบฏซีเรียแก๊งอื่นๆ (SFA) ได้หมด แต่ก็ต้องมารับมือกับพวก SDF นี่อีก - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
20/06/2560
------------
https://www.rt.com/news/393028-syria-russia-us-plane/
https://www.rt.com/news/393009-syria-plane-downing-aggression/
https://sputniknews.com/middleeast/201706191054758053-sdf-syria-army-raqqa/
https://sputniknews.com/middleeast/201706191054763888-russia-syria-downing-aircraft/
https://sputniknews.com/middleeast/201706191054760684-russia-us-syria-deconfliction-channel/
http://tass.com/defense/952119
http://tass.com/politics/952103
https://sputniknews.com/middleeast/201706191054778674-us-sends-machine-guns-syrian-rebels/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ล่าสุดบินรบของฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐสังหารพลเรือนชาวซีเรียอีก 12 คนเป็นอย่างน้อยจากการโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในซีเรีย
-----------

สำนักข่าว SANA ของรัฐบาลซีเรียเผยแพร่รายงานของกองทัพซีเรียซึ่งระบุว่า เครื่องบินรบของฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐได้สังหารพลเรือนอย่างน้อย 12 คน ในภารกิจที่อ้างว่าปราบปรามขบวนการก่อการร้ายไอซิสในพื้นที่ใกล้ชายแดนซีเรีย-อิรัค โดยทั้ง 12 ชีวิตนี้เป็นครอบครัวเดียวกัน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ในซีเรียแห่งสหประชาชาติได้เปิดเผยว่า มีพลเรือนประมาณ 300 กว่าคนเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศโดยฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐรอบเมือง Raqqa นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้เป็นต้นมา

"พวกเราได้จัดทำเอกสารเกี่ยวกับการเสียชีวิตซึ่งมีสาเหตุมาจากการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตร (นำโดยสหรัฐ) และมี 300 กว่าคนที่เสียชีวิต 200 คนในหนึ่งสถานที่ เฉพาะที่หมู่บ้าน al-Mansoura เพียงแห่งเดียวเท่านั้น" Karen Abuzayd ข้าหลวงใหญ่ชาวอเมริกันประจำคณะกรรมการชุดนี้กล่ว และคณะกรรมการผู้ตรวจสอบฯ แห่งยูเอ็นยังกล่าวอีกว่า มีประชาชนประมาณ 160,000 กว่าคนถูกบังคับให้ต้องทิ้งบ้านเรือนของตนเองไปอยู่ที่อื่น RT รายงาน
https://www.rt.com/news/393158-syria-coalition-strike-civilians/

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
20/06/2560
------------
https://www.rt.com/news/393158-syria-coalition-strike-civilians/
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ปอดนี่หว่า: สหรัฐย้ายเครื่องบินรบของตนเองในซีเรีย หลังรัสเซียประกาศจะล็อกเป้าอากาศยานของฝ่ายพันธมิตรทุกลำ, วุฒิสมาชิกสหรัฐกล่าวว่าฐานทัพของสหรัฐในซีเรียเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ, และยังกล่าวอีกว่าถ้าซีเรียเลือกตั้งตอนนี้ ประธานาธิบดีบัชชาร์ อัลอัสซาดจะได้คะแนนเสียงถึง 90% ชนะชัวร์
-----------

1.) วันที่ 19 มิ.ย.60 TASS พาดหัวข่าวว่า "เพนตาก้อนเมาขี้ตามโนว่าสายตรงลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับรัสเซียยังคงใช้งานได้อยู่" (Pentagon considers US-Russia deconfliction line effective) (พูดปลอบใจตัวเองหรือเปล่าครับเพนตากอน กลาโหมรัสเซียเพิ่งจะประกาศตัดสายเองนะครัช?)

"พวกเราได้เห็นรายงานฉบับเดียวกันนี้ซึ่งรายงานเกี่ยวกับแถลงการณ์ของรัสเซียเกี่ยวกับการลดความขัดแย้งในซีเรีย (ดูลีลาการเล่นลิ้นของสหรัฐ พริ้วเชียว) ฝ่ายพันธมิตรยังคงพร้อมที่จะลดความขัดแย้งกับฝ่ายรัสเซียเพื่อรับประกันความปลอดภัยของลูกเรือและการปฏิบัติภารกิจของฝ่ายพันธมิตรเสมอ สายตรงลดความขัดแย้งได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ การคำนวณที่ผิดพลาด และลดการขยายสถานการณ์ไม่ให้ตึงเครียด"

[นั่นคือความตอแหลและหน้าด้านของสหรัฐ ปากก็บอกว่ายังอยากจะคุยกันต่อ แต่การกระทำนั้นมันตรงข้ามกับสิ่งที่พูด จัดไปครับท่านปูติน - ผู้แปล]

+ เกี่ยวกับชะตากรรมของเครื่องบินรบของฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐในซีเรีย
รายงานข่าวแจ้งว่า สหรัฐได้ย้ายตำแหน่งของอากาศยานทั้งหมดของตนเองในซีเรียซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้หลายครั้งกับฝ่ายรัฐบาลซีเรียและกองทัพรัสเซีย:

"อากาศยานของฝ่ายพันธมิตรยังคงปฏิบัติภารกิจต่างๆทั่วซีเรีย กำหนดเป้าหมายที่กองทัพไอซิส (แต่ F/A-18 ของสหรัฐก็ยิง Su-22 ของซีเรียตกนี่นะ?) และให้การสนับสนุนทางอากาศแก่กองกำลังหุ้นส่วนของฝ่ายพันธมิตรบนภาคพื้นดิน (รวมถึงพวกไอซิสหรือเปล่า?)" แหล่งข่าว (ของกองทัพสหรัฐ?) กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า "ผลจากการเผชิญหน้ากันเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งรวมทั้งกองกองกำลังฝ่ายโปร-ซีเรียและกองทัพรัสเซียนั้น พวกเราได้ใช้มาตรการที่รัดกุมเพื่อ เปลี่ยนตำแหน่งของอากาศยานเหนือซีเรีย เพื่อให้สามารถโจมตีเป้าหมายกองทัพไอซิสต่อไปได้ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของลูกเรือซึ่งได้รับการพิจารณาว่าเป็นภัยคุกคามในพื้นที่สู้รบด้วย"

2.) ข่าวที่สอง (เดี๋ยวโปร-อเมริกาจะมาโวยวายว่าเอาหลายข่าวมารวมไว้ในบทความเดียวกันอีกหรือเปล่านี่?) วันที่ 20 มิ.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "วุฒิสมาชลิกของสหรัฐเรียกฐานทัพของสหรัฐในซีเรียว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ" (State Senator Calls US Base in Syria a Violation of International Law)

ส.ว. Richard Black จากรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐกล่าวว่า การก่อตั้งฐานทัพของสหรัฐในซีเรีย "ประเทศที่มีอธิปไตยซึ่งไม่เคยดำเนินการใดๆที่เป็นการรุกรานต่ออเมริกาเลย เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด"

"พวกเราได้สร้างฐานทัพขึ้นมาแห่งหนึ่งในเมือง Al Tanf พื้นที่ทางภาคใต้ (ของซีเรีย) มันเป็นฐานทัพของอเมริกันภายในประเทศซีเรีย" ส.ว. Black กล่าว "คุณไม่สามารถกระทำการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศได้อย่างอุกอาจไปมากกว่าการเคลื่อนเข้าไปตามปรกติ และก่อตั้งฐานทัพของตนเองขึ้นมาในประเทศที่มีอธิปไตยซึ่งไม่เคยกระทำการใดๆที่เป็นการรุกรานต่อประเทศของพวกเราเลย"

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสหรัฐได้ส่งพหานะบรรทุกขีปนาวุธ HIMARS (ที่บรรจุระเบิดดาวกระจายไว้จำนวนมาก สำหรับทำลายพาหนะและทหารราบของข้าศึกในวงกว้าง) เข้าไปในพื้นที่เมือง เมือง Al Tanf ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของซีเรียใกล้ชายแดนจอร์แดนและอิรัค

[โดยอ้างว่าสถานที่แห่งนั้นและพื้นที่โดยรอบเป็น "เขตลดความขัดแย้ง" ที่สหรัฐและรัสเซียตกลงร่วมกัน แต่ถูกรัสเซียตอกกลับว่า "อย่าโมเมทึกทักเอาเองและแอบอ้างชื่อรัสเซีย" รัสเซียไม่เคยตกลงกับสหรัฐในพื้นที่นั้นและพื้นที่ไหนๆในซีเรียซักครั้ง พื้นที่ลดความขัดแย้ง 4 แห่งที่ได้ตกลงร่วมกันระหว่างรัสเซีย อิหร่าน ตุรกี ฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และฝ่ายกบฏซีเรีย ตามข้อตกลงในกรุง Astana ประเทศคาซัคสถานเมื่อเร็วๆนี้ อยู่คนละพื้นที่กัน และสหรัฐก็ไม่เคยไปร่วมลงนามด้วย ซ้ำยังให้ท้ายกบฏซีเรียบางกลุ่มโวยวายและไม่ยอมร่วมลงนามในข้อตกลงด้วย

สหรัฐใช้ฐานหรือค่ายแห่งนี้เพื่อฝึกพวกกบฏซีเรียรุ่นใหม่ขึ้นมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องการจะยึดแผ่นดินซีเรียส่วนนี้ไว้ในครอบครองซะเอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรียหรือยูเอ็นหรือใครทั้งนั้น แคนาดาประกาศว่าจะไม่ส่งกองทัพของตนเองเข้าไปในความขัดแย้งนี้ จะดูอยู่ห่างๆ แต่ฝรั่งเศสและพวกอียูบางประเทศก็ร่วมมือกับสหรัฐในการรุกรานอธิปไตยของซีเรียด้วย - ผู้แปล]

3.) ข่าวที่สาม ส.ว. Richard Black ท่านเดิมของสหรัฐได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งในซีเรียในอนาคตว่า "ผมมีคนที่ผมได้ทำงานอย่างใกล้ชิดมากกับฝ่ายที่รวบรวมข่าวกรองจากซีเรีย... และมีหลายอย่างที่น่าสนใจโผล่มาจากรายงานเหล่านั้นซึ่งผมได้รับมา ขณะนี้ผมกล้าพูดได้เลยว่า ถ้าคุณจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นในซีเรีย... ประธานาธิบดีอัสซาดอาจจะได้รับเลือกอีกครั้งถึง 90% ของการออกเสียงลงคะแนน และรวมทั้งจากพื้นที่ที่ถูกพวกผู้ก่อการร้ายยึดครองด้วย"

ในเดือนเมษายน 2016 ส.ว. Richard Black ได้เดินทางไปเยือนซีเรียมาแล้ว และวุฒิสมาชิกท่านนี้ยังกล่าวอีกว่า "ประชาชนทั้งหมดสนับสนุนประธานาธิบดีอัสซาด และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง Asma Assad ผู้ที่ผมคิดว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"

"พวกเขาเป็นคนที่ยอมเสียสละตนเองอย่างแท้จริง ไม่เหมือนกับพวกผู้นำระดับโลกหลายคน พวกเขาไม่ตะกละ พวกเขาจะไม่กักตุนความมั่งคั่งของประเทศชาติ (เพื่อตัวเอง) พวกเขายอมเสียสละตัวเองเพื่ออนาคตของประเทศของพวกเขา ดังนั้นประชาชนจึงรักพวกเขา" ส.ว. Richard Black กล่าว

ส.ว.สหรัฐกล่าวอีกว่า "มีความเป็นเอกภาพทุกศาสนาเกือบจะทั้งหมด (ในซีเรีย) ชาวคริสต์ ชาวอะลาไวท์ ซุนนี ชีอะห์ และ ดรูซ พวกเขาทั้งหมดร่วมมือกันต่อสู้เพื่อรักษาซีเรียเอาไว้"

[ความแตกแยกและสงครามในซีเรียในปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างนิกายหรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์ มันเริ่มจากกระแสอาหรับสปริงและเงิน USAID ที่สหรัฐเทลงไปให้กับพวกฝ่ายค้านต่อต้านฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเดิมทีปธน.อัสซาดสืบทอดอำนาจผู้นำเผด็จการจากพ่อของตนเองโดยไม่มีทางเลือก

จากนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่การเลือกตั้งอย่างน้อย 3 ครั้ง (ครั้งล่าสุดปี 2014) และสหรัฐและพวกอียูก็ขัดขวางและไม่ยอมรับการเลือกตั้งของซีเรีย ปากก็บอกว่าจะเอาประชาธิปไตยและเสรีภาพ พอเขาสามารถจัดการเลือกตั้งได้ แต่ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งไม่ใช่ขี้ข้าของสหรัฐ สหรัฐก็บอกว่า "ไม่ยอมรับว่ะ!"

กบฏซีเรีย ซึ่งเป็นพวกร้อยพ่อพันแม่มาจากทุกสารทิศโลกรวมทั้งทหารซีเรียบางส่วนก็เข้าร่วมกับพวกกบฏด้วย ก็พากันหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้รัฐบาลอัสซาด โดยการสนับสนุนจากสหรัฐ อียู นาโต้ ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ ตุรกี และอิสราเอล ซีเรียจึงตกอยู่ในสภาพอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ในขณะที่พวกไอซิสและพวกกบฏซ๊เรียกำลังจะยึดซีเรียได้ทั้งประเทศอยู่แล้ว แม้ว่าอัสซาดจะมีอิหร่านและเฮชบอลเลาะห์ช่วยเหลือ แต่ก็ไม่กล้าออกหน้าอย่างเต็มที่

สุดท้ายอัสซาดหันไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย รัสเซียส่งกองทัพเข้า ไล่เด็ดหัวพวกสมุนของสหรัฐและพรรคพวก สหรัฐก็เดินเกมสร้างภาพปล่อยข่าวว่ารัสเซียและอัสซาดเข่นฆ่าประชาชนชาวซีเรีย เพื่อขัดขวางรัสเซีย แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะว่าต่อมารัสเซียแฉว่าหลายเหตุการณ์ที่พวกกบฏและสื่อหลักของตะวันตกกล่าวหารัสเซียนั้น เป็นการจัดฉาก สร้างสถานการณ์ขึ้นมาแทบทั้งนั้น แต่ที่เข่นฆ่าประชาชนชาวซีเรียอย่างแท้จริงและยูเอ็นก็ยืนยันด้วย ก็คือสหรัฐและพรรคพวกนั้่นแหละ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
20/06/2560
------------
http://tass.com/world/952196
https://sputniknews.com/middleeast/201706201054783501-us-base-syria-violation-international-law/
https://sputniknews.com/middleeast/201706201054785630-assad-win-election/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ออสเตรเลียปอด! กองทัพอากาศของออสเตรเรีย (RAAF) สั่งระงับเครื่องบินรบของตนเองบินเหนือน่านฟ้าซีเรีย หลังรัสเซียประกาศอย่างชัดเจนว่าจะล็อกเป้าเครื่องบินรบของพวกพันธมิตรทุกลำในน่านฟ้าซีเรีย
-----------

วันที่ 20 มิ.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "ออสเตรเลียระงับการโจมตีทางอากาศในซีเรียหลังเกิดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐกรณีสหรัฐลอบยิงเครื่องบินรบของกรุงดามัสกัสตก" (Australia halts air strikes in Syria after Russia-US tensions over downed Damascus jet)

กองทัพอากาศของออสเตรเลียได้ยุติการบินเหนือซีเรีย หลังจากที่รัสเซียกล่าวว่ารัสเซียได้ระงับข้อตกลงการติดต่อสื่อสารกับสหรัฐเกี่ยวกับการป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและรับประกันความปลอดภัยในการบินเหนือน่านฟ้าซีเรียเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนนี้ หลังจากเครื่องบินรบ F/A-18 ของสหรัฐลอบยิงเครื่องบินรบ Su-22 ของซีเรียตกในขณะปฏิบัติภารกิจต่อต้านพวกไอซิส สหรัฐอ้างว่าเพื่อป้องกันตนเองและปกป้องพันธมิตรของตนเองในพื้นที่ (ไอซิสหละสิที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐในพื้นที่?)

"ในฐานะที่เป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน ปฏิบัติกรโจมตีกองทัพป้องกันงออสเตรเลีย (ADF) ในซีเรียได้ถูกสั่งให้ยุติเป็นการชั่วคราว" กระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียกล่าวในแถลงการณ์ โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการต่างๆของตนเองในอิรัคจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตร

กระทรวงกลาโหมกล่่าวอีกว่า "บุคคลากรของ ADF กำลังจับตาดูสถานการณ์ทางอากาศอย่างใกล้ชิดในซีเรีย และการตัดสินใจกลับไปปฏิบัติการทางอากาศของ ADF ในซีเรียจะมีการดำเนินการในเวลาที่เหมาะสม" ("รอชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะ" ปูตินและอัสซาดไม่ได้กล่าว)

"การปกป้องกองทัพป้องกันออสเตรเลียได้รับการทบทวนตามปรกติในการตอบสนองต่อขอบเขตของภัยคุกคามที่อาจจะเป็นไปได้" กลาโหมออสเตรเลียกล่าว

[ไอ้พวกแก๊งโจรที่ไปหาเรื่องคนอื่น ในบ้านของคนอื่น ละเมิดอธิปไตยเขา สังหารประชาชนของเขา ยิงเครื่องบินรบของเขาที่กำลังปราบโจรไอซิสในพื้นที่ บอกว่าเจ้าบ้านและเพื่อนของเจ้าบ้านเป็นภัยคุกคามต่อโจร ตรรกะของพวกแก๊งโจรตะวันตกเขาหละ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
20/06/2560
------------
https://www.rt.com/news/393166-australia-halts-flights-syria/
https://sputniknews.com/middleeast/201706201054787863-australia-airstrikes-syria/

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐแค้นที่นาย Otto Warmbier หัวขโมยชาวอเมริกันป่วยโคม่าในเกาหลีเหนือเสียชีวิตที่อเมริกา จึงส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ B-1B ร่วมซ้อมรบกับฝูงบินรบ F-15K ของเกาหลีใต้ในคาบสมุทรเกาหลี ทรัมป์โทษเกาหลีเหนือกรณีนักศึกษาหัวขโมยของตนเองเสียชีวิตในอเมริกา ส.ว.จอห์น แม็คเคนของสหรัฐกล่าวหาเกาหลีเหนือว่าฆาตกรรมชาวอเมริกัน (แต่แม็คเคนไม่พูดอะไรซักคำกรณีสหรัฐสังหารพลเรือนชาวซีเรียไป 400 กว่าคน) นักการเมืองสหรัฐเรียกร้องให้คว่ำบาตรการท่องเที่ยวเกาหลีเหนือกรณีนาย Otto Warmbier เสียชีวิต

ทางรัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้แนนำเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ก่อนถ้าต้องการการเจรจากัน เกาหลีเหนือตอกกลับทันทีว่า "หุบปากไปเลยพวกขี้ข้าอเมริกา (Washington’s puppet = หุ่นเชิดของกรุงวอชิงตัน)" เกาหลีเหนือจะไม่เจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกรุงโซลแน่นอน
----------
https://www.nknews.org/2017/06/pyongyang-wont-discuss-nuclear-issues-with-seoul-north-korean-media/
https://www.rt.com/news/393173-south-korea-us-warplanes-drills/
https://www.rt.com/usa/393139-warmbier-north-korea-died/
https://sputniknews.com/world/201706201054787671-us-north-korea-tourism/
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2017/06/20/94/0401000000AEN20170620003852315F.html