ติดตามสถานะการณ์

Chalee Na Roied



ตอนนี้บังเกอร์หลบภัยในรัสเซีย มีการซักซ้อมและเตรียมพร้อมรองรับพลเมือง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียแล้วนะครับ การหายไปขอ ผู้นำรัสเซียหลายวัน แท้จริงแล้วเขาต้องการส่งสัญญาณไปยัง ชาวอเมริกันและยุโรป ให้ตระหนักถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น จากการที่รัฐบาลของพวกเขากำลัง กดดันและคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลครับ เพราะสื่อหลักๆยังไม่นำเสนอเรื่องดังกล่าว และตราบใดถ้าผู้นำอังกฤษ ไม่ถูกโค่นลงจากอำนาจ ก็ยากที่จะเลี่ยงสงครามได้
ตอนนี้บังเกอร์หลบภัยมากกว่า 5,000 แห่ง ในกรุงมอสโคว์ ที่สร้างขึ้นในปี2010 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 2012 ตอนนี้เริ่มมีการซักซ้อมการอพยพ รายละเอียดเยอะครับ แต่ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา รัสเซียมีการซ้อมรบแทบจะทั่วประเทศ
On Monday upon his return to Moscow, this MoD report continues, President Putin than initiated further actions of the Federations total war plan which include:
1.) The immediate opening of Moscow’s 5,000 new bomb shelters President Putin had ordered built in 2010 and which were completed in 2012.
2.) The immediate transferring to these bomb shelters all critical equipment and personnel belonging to the Central Clinical Hospital and Polyclinic Office of the President of the Russian Federation (CCHP).
3.) The immediate deployment of nuclear ballistic missile systems to Russia’s westernmost Kaliningrad region.
4.) The immediate deployment of strategic nuclear bombers to Crimea.
5.) The immediate activation to full combat alert of all Airborne forces in the northwest.
6.) The immediate activation of the tens of thousands of troops belonging to the Northern Fleet and Western Military District to full combat alert.
7.) The immediate activation of Siberian air defense forces.
http://www.eutimes.net/…/moscow-bomb-shelters-begin-to-fil…/

 

Chalee Na Roied



ช่วงนี้ซีเรียเริ่มส่งสัญญาณ ตอบโต้สหรัฐบ้างแล้วนะครับ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ทำลายอากาศยานไร้คนขับ ในการสอดแนมในพื้นที่นอกเป้าหมาย การยึดครองของเครือข่ายIS จริงๆพื้นที่ดังกล่าว เป็นเมืองท่าติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แน่นอนครับว่าการสอดแนมครั้งนี้ น่าจะเป็นการทดสอบระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย ในบริเวณดังกล่าว เพื่อรองรับปฏิบัติการทางอากาศในอนาคตนั่นเอง..

http://rt.com/news/241673-syria-us-surveillance-drone/

 

Thanong Fanclub



11. ยุคสุดท้าย (End Time)
เบนจามิน เนธันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลนำพาพรรคลิคุดของเขาได้ชัยชนะการเลือกตั้งในวันที่17 มีนาคม ทำให้เขาจะได้กลับมาเป็นผู้นำยิวอีกครั้งเป็นสมัยที่13 ชัยชนะของนายเนธันยาฮูอาจจะเป็นยุคสุดท้ายของชาวปาเลสไตน์ก็ได้ เพราะว่าเพียง1วันก่อนการเลือกตั้ง นายเนธันยาฮูประกาศว่าถ้าเขากลับมามีอำนาจอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมให้มีรัฐปาเลสไตน์
เท่ากับว่าปาเลสไตน์กำลังจะสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดินเข้าสู่ยุคสุดท้ายอย่างแท้จริง
ให้ดูแผนที่ ในปีคศ 1946หลังสงครามโลกครั้งที่2 ประเทศปาเลสไตน์ยังคงครอบครองแผ่นดินประเทศอิสราเอลทุกวันนี้เกือบจะ100% แต่หลังจากที่อังกฤษและสหประชาชาติสนับสนุนให้มีการสร้างรัฐยิวขึ้นมาในปีคศ1947 ปรากฎว่า ยิวจากยุโรปที่อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนในดินแดนปาเลสไตน์ผ่านลัทธิไซออนนิสท์ทำให้เกิดประเทศอินราเอลขึ้นมาและสามารถครอบครองและรุกที่ของชาวปาเลสไตน์ได้เกือบค่อนประเทศ ในปี1967 เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มประเทศอาหรับ อิสราเอลได้รับการสนับสนุนจากโรม ลอนดอน และดีซี สามารถชนะสงครามได้ ทำให้ได้ครอบครองดินแดนมากยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ปาเลสไตน์เหลือดินแดนแค่2กระจุกน้อยนิดเดียว คือWest Bank และฉนวนกาซ่า ชาวปาเลสไตน์กลายเป็นผู้อพยพไร้ที่อยู่ถึง5ล้านกว่าคน เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เนธันยาฮูสั่งถล่มฉนวนกาซ่าจนลูกเด็กเล็กแดงรวมทั้งผู้หญิงชาวปาเลสไตน์ตายเป็นเบือ
ขณะนี้มีการยอมรับหลักการของการดำรงอยู่ของ2รัฐในดินแดนปาเลสไตน์ที่ได้กลายเป็นอิสราเอลไปแล้ว คือรัฐปาเลสไตน์และรัฐยิว ในปี2009 เนธันยาฮูพูดว่าเขายอมรับหลักการของการดำรงอยู่ของ2รัฐ แต่ต้นสัปดาห์นี้เขาเริ่มที่จะเบี้ยวสัญญาแล้ว
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯรีบแถลงข่าวว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ของเนธันยาฮู และจุดยืนของสหรัฐฯคือรับรองรัฐปาเลสไตน์ ประเทศไทยก็รับรองรัฐปาเลสไตน์เหมือนกัน
แต่ดูท่าแล้ว เนธันยาฮูน่าที่จะรุกคืบเพื่อยึดดินแดนปาเลสไตน์ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ชาวปาเลสไตน์เหลือสภาพแค่เป็นชนกลุ่มน้อยที่ไม่มีปากมีเสียงอะไร เป็นอันว่าปาเลสไตน์กำลังก้าวเข้าไปในยุคสุดท้ายของการสิ้นชาติอย่างน่าอนาถใจ
thanong
18/3/2015
http://www.jpost.com/…/US-State-Department-ahead-of-officia…
Netanyahu: If I'm elected, there will be no Palestinian state - Israel election 2015 - Israel News | Haaretz

 

Thanong Fanclub

ขอแนะนำผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์อายุน้อยที่สุดในโลก
Jacob Wohl เด็กนักเรียนมัธยมอายุ17ปี เรียนหนังสือที่โรงเรียนSantiago High School ที่เมืองCorona กลายเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก จนได้รับฉายานามว่าthe Wohl of Wall Street คล้ายๆจะล้อเลียนคำว่าหมาป่าแห่งวอลล์สตรีท
ขณะนี้เขาบริหารกองทุนWohlที่ตั้งขึ้นมาเมื่อ4 เดือนที่แล้ว โดยแรกเริ่มลงทุนกับเพื่อนอีกคน ต่อมาเขาชักชวนเพื่อน ญาติพี่น้อง รวมทั้งครูที่โรงเรียนลงขันในเฮดจ์ฟันด์ ตอนนี้มีผู้ร่วมลงทุนอยู่20คน ที่ผ่านมากองทุนนี้ให้ผลตอบแทน22.8%หลังจากหักค่าบริหารกองทุนไปแล้ว ขนาดของกองทุนอยู่ที่$200,000
Jocobตื่นนอนตอนตี5ครึ่งทุกเช้า ตื่นก่อนพ่ออีก แล้วก็ชงกาแฟ เช๊คตลาดการเงิน คุยกับโบรกเก้อร์ เสร็จแล้วไปโรงเรียน เขาไม่ได้เป็นเด็กหนอนหนังสือเพราะว่าเล่นกีฬาทำกิจกรรมเหมือนเด็กทั่วไป คือเล่นทั้งฟุตบอลและบาสเก็ตบอล
ขณะที่เด็กส่วนมากหารายได้พิเศษด้วยการทำงานในร้านอาหาร หรือห้างสรพพสินค้า Jacobเอาดีทางเป้นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เล่นเทรดหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีชาร์ตวุ่นวายไปหมดหลายจอพร้อมกัน
นับว่านายJacobแน่มาก
thanong
18/3/2015

<iframe width="487" height="274" src="https://www.youtube.com/embed/D0j0TWcyuGE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Thanong Fanclub



12. ยุคสุดท้าย (End Time)
โดยทั่วไปแล้ว เวลาเราพูดถึงยุคสุดท้าย เราจะนึกถึงภาพใหญ่ของหลายๆเหตุการณ์ที่เวียนมาบรรจบกันโดยความจำเป็น มีสัญญลักษณ์หรือลางร้ายเกิดขึ้นมายมาย ก่อนที่สถานการณ์จะค่อยๆเสื่อมลง วงรอบนอก (peripherals) เกิดความปั่นป่วนและวิกฤติ จนกระทั่งศูนย์กลาง (Center)รับไม่ไหว ในที่สุดแค่ใบไม้ร่วงเพียงใบเดียวก็สามารถจุดปะทุให้เกิดขบวนการของการทำลายอย่างรุนแรง จนทุกสิ่งทุกอย่างพังพินาศลงมา ผู้ที่เห็นเหตุการณ์จะช๊อค จนไม่สามารถจะอธิบายความอะไรออกมาได้ เพราะว่าความวิบัติที่อยู่ต่อหน้าต่อตามันเกินความนึกคิด หรือจินตนาการที่มีมาตลอดทั้งชีวิต
แต่เราอาจมองยุคสุดท้ายในแง่ประสบการณ์ทางจิตวิทยาส่วนบุคคล หนังสือนิยายชื่อHeart of Darkness (หัวใจมืดทมิฬ) พิมพ์ออกมาครั้งแรกในปีคศ 1899 โดยผู้แต่งคือJoseph Conrad นักเขียนชาวโปลิชก่อนที่จะโอนสัญชาติมาเป็นอังกฤษ Heart of Darknessกลายเป็นวรรณคดีระดับคลาสสิคที่หลอกหลอนจิตใจคนอ่านในยุคศตวรรษที่20ที่ผ่านมา เพราะว่ามันสะท้อนถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนอันเกิดมาจากการปะทะกันของอารยะธรรมของผู้ล่าจากตะวันตกและอารยะธรรมของผู้ถูกล่าในแอฟริกา ไม่มีอะไรจะโหดเหี้ยมและสะเทือนใจมากไปกว่าการกระทำการของมนุษย์ผู้มีอำนาจมากกว่าต่อมนุษย์ผู้ที่มีอำนาจน้อยกว่า และไม่มีทางสู้ในป่าดงดิบที่ห่างไกลความเจริญ ณ ที่ซึ่งความดีและความชั่วเกือบจะมาบรรจบเป็นเนื้อเดียวกัน
Heart of Darkness หมุนไปตามตัวละครชื่อว่าMarlow นักเดินทางทางเรือ ที่ได้ล่องแม่น้ำคองโกในป่าดงดิบเพื่อที่จะไปพบกับKurtz ผู้มีชื่อเล่าขนานกันว่าทั้งเก่งกล้าสามารถและเป็นนักอุดมคติ Marlowทำงานเป็นกัปตันให้กับบริษัท Conradใช้Cตัวใหญ่เวลาเรียกคำบริษัท Company แทนที่จะใช้c ตัวเล็กหรือ companyเพื่อสะท้อนอำนาจของพ่อค้านายทุนที่อยู่เบื้องหลังฉาก บริษัทนี้มีสัญชาติเบลเยี่ยม ทำการค้าในประเทศคองโก โดยที่งาช้างเป็นสินค้าหายากที่มีค่า ในขณะที่เดินทางเลียบแม่น้ำคองโกผ่านสถานีการค้าของบริษัท Marlowได้พบกับความโหดร้ายนานัปการ เพราะว่าคนท้องถิ่นถูกจับใช้ทำงานเยี่ยงทาส มีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น และส่วนมากต้องจบชีวิตลงเพราะว่าทนความลำบากกับโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้ ใน๘ระเดียวกันพวกผิวขาวที่มาทำงานกลับมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายแตกต่างกันราวฟ้ากับดินในโลกที่มืดสนิท
ตลาดระยะเวลาของการเดินทางที่ทุลักทุเล เพราะว่าเครื่องจักรไอน้ำของเรือเสียเป็นระยะๆ ต้องเสียเวลานานในการซ่อมแซม แต่Marlowเริ่มค่อยๆเรียนรู้รายละเอียดเกียวกับตัวKurtz ยิ่งทำให้เขายิ่งอยากจะพบกับKurtzที่ดูเหมือนว่าได้กลายเป็นตำนานของป่าดงดิบของคองโก Marlowเดินทางพร้อมกับผู้จัดการที่ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจกับลูกเรือคนอื่นๆ บางคนดูเหมือนเป็นสายลับ แต่ตลอดระยะเวลาของการแล่นเรือขึ้นเหนือของแม่น้ำคองโก ความลึกของป่า และความเงียบที่ไร้วิญญานทำให้ทุกคนบนเรือรู้สึกผวา
Marlowแล่นเรือมาถึงจุดหนึ่ง พบกระท่อมมีฟืนอยู่ข่างใน และมีข้อความว่าให้เอาฟืนไปได้แต่ให้เดินทางกลับไป บังเอิญหมอกลงมาพอดี พอหมอกจางปรากฎว่าเรือโดนคนพื้นเมืองโจมตีด้วยธนู คนนำทางชาวแอฟริกาโดนฆ่าตาย Marlowกดแตรเรือส่งเสียงหวูดออกมาเพื่อขู่พวกคนพื้นเมือง ปรากฎว่าได้ผล ไม่ช้าพวกนั้นก็หลบหน้าหายไป ไม่นานหลังจากนั้นMarlowได้พบกับชาวรัสเซียคนหนึ่งที่อยู่ในป่า เขาเล่าให้Marlowฟังว่าKurtzมีจิตใจที่เปลี่ยนไปแล้ว จะเอาความคิดหรือมาตรฐานศีลธรรมของสังคมเมืองมาตัดสินเขาไม่ได้ เพราะว่าKurtzได้กลายเป็นพระเจ้าของคนท้องถิ่นไปแล้ว และได้บุกป่าลึกเพื่อล่างาช้าง และKurtzได้เสียบหัวมนุษย์บนยอดไม้ที่ปักเรียงรายรอบบ้านเขาเป็นเครื่องประดับ
ภาพแรกที่Marlowเห็น Kurtzคือเขานอนบนแคร่ที่มีคนแบกมา พวกนักรบท้องถิ่นล้อมMarlowและคณะ แต่Kurtzบอกให้พวกนักรบท้องถิ่นกลับออกไป และพวกเขาก็เชื่อฟังแต่โดยดี Kurtzถูกหามขึ้นเรือ โดยมีแฟนสาวซึ่งเป็นชาวท้องถิ่นตามมาด้วย ชาวรัสเซียนบอกกับMarlowว่า Kurtzสั่งให้โจมตีเรือเพื่อที่จะให้Marlowเพื่อให้Kurtzเชื่อว่าเขาตายแล้วและหันเรือกลับออกไป ตกกลางคืนKurtzแอบหนีจากเรือกลับที่พัก เขาป่วยมากจนต้องคลานด้วยมือและเท้า MarlowตามตัวKurtzจนพบและชักชวนให้เขากลับขึ้นเรือ รุ่งเช้าเรือเดินทางกลับ
สุขภาพของKurtzเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว เขาเล่าให้Marlowฟังเรื่องราวของเขา และมอบเอกสาร จดหมายและหนังสือบันทึกให้Marlow ซึ่งจบด้วยข้อความว่า "ฆ่าพวกคนป่าเถื่อนให้หมด" ก่อนตายKurtzเอ่ยวาจาสุดท้ายว่า "สะยอง! สะยอง!" Marlowฟังแล้วรู้สึกงุนงงไปหมด
Marlowกลับสู่ยุโรปและได้ไปเยี่ยมคู่มั่นของKurtz เธอพร่ำพรรณาถึงความดีละความเป็นวีระบุรษของKurtz เธอถามMarlowว่าคำพูดสุดท้ายของKurtzคืออะไรก่อนที่จะตาย Marlowไม่กล้าที่จะดูดความจริงให้คู่มั่นของKurtzเพราะว่าไม่ต้องการทำลายภาพลวงตาที่เธอมีอยู่ เขาบอกเธอว่าคำพูดสุดท้ายของKurtzคือเรียกหาชื่อของเธอ
Francis Ford Coppolaเอาเรื่องนี้มาสร้างหนังชื่อApocalypse Now นำแสดงโดยมารอน แบรนโด โดยปรับเนื้อเรื่องเล็กน้อยและย้ายฉากมาที่สงครามเวียดนามแทน แต่ปรัชญาโดยรวมยังคงไว้อยู่ โดยสะท้อนความโหดร้ายของการปะทะกันระหว่างอารยะธรรมของผู้รุกรานและอารยะธรรมของผู้ถูกรุกราน ทำให้ผู้พันKurtzที่ต่อมาทางการสหรัฐฯต้องการตัวไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องลงมือฆ่าคนด้วยกันทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นอะไรกัน Kurtzฆ่าคนและทำลายข้าวของบ้านเรือนต่างมากมายจนกระทั่งความเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจหายไปจนกลายเป็นคนบ้า และไม่สามารถกลับไปอยู่สังคมปกติได้ และท้ายที่สุดยอมที่จะให้ตัวเองเป็นเหยื่อของการฆ่าที่ไม่มีวันจบสิ้น
Heart of Darknessสะท้อนยุคสุดท้ายของจิตวิทยามนุษย์ระดับปัจเจกชนที่ถูกกระชากลงมาต่ำสุด จนถึงแตะระดับความบ้า และทำลายความสมดุลของทั้งร่างกายและจิตใจทั้งหมด ทำให้เราไม่สามารถกลับไปเป็นมนุษย์ปกติเหมือนเดิมได้
Hear of Darkness หมายถึงหัวใจดำทมิฬสุดของมนุษย์ที่ไม่น่าจะจะเป็นไปได้ Apocalypse Nowหมายถึงนรกอยู่ที่นี่ เดี่ยวนี้
thanong
18/3/2015

 

Thanong Fanclub



13. ยุคสุดท้าย (End Time)
(อ่านโดยใช้วิจารณญาณ)
ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียได้เตรียมตัวให้รัสเซียเข้าสู่ยุคสุดท้ายที่จะต้องตัดสินกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์แล้ว
รายงานข่าวของกระทรวงกลาโหมรัสเซียแจ้งว่า ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งให้มีการเตรียมพร้อมเปิดหลุมหลบภัยนิวเคลียร์5,000แห่งภายในประเทศรัสเซียแล้ว เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ภาวะสงคราม หลังจากที่ได้ส่งสัญญานลับไปให้ผู้นำสหรัฐฯและอียูให้ได้รับทราบว่านายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษต้องออกจากตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบ
สืบเนื่องจากข่าวก่อนหน้านี้ที่ทางรัสเซียได้แฮ๊คข้อมูลที่ส่งระหว่างเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัสและลอนดอนและได้พบว่าอังกฤษมีการเตรียมแผนยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ใส่รัสเซียก่อน ทำให้รัสเซียอยู่ในสภาวะเตรียมพร้อมการทำสงครามนิวเคลียร์กับอังกฤษและพันธมิตรตะวันตก
ระหว่างที่หายตัวไป10วันระหว่างวันที่5ถึง15มีนาคม ปรากฎว่าประธานาธิบดีปูตินไปร่วมประชุมที่ศูนย์บัญชาการใต้ดินที่Mount Yamantau ในเทีอกเขาอูรัล เพื่อเตรียมพร้อมทั้งแผนรุกในการรบ แผนรับ แผนลวงและแผนจิตวิทยาทางทหารเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบกับตะวันตก ถ้าห้องกันไม่ให้เกิดสงครามไม่ได้ ปูตินจะเลือกดำเนินการทหารทุกรูปแบบรวมทั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์
หนึ่งในแผนการรบเชิงจิตวิทยา คือการออกข่าวสารคดีในทีวีเมื่อเร็วๆนี้ โดยที่ปูตินออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงระหว่างที่รัสเซียกำลังผนวกไครเมียเมื่อปีที่แล้ว มีการเตรียมพร้อมอาวุธนิวเคลียร์เพื่อยิงนาโต้ ถ้าหากว่านาโต้ขัดขวางการยึดไครเมียในช่วงนั้น เพราะว่าไครเมียเป็นฐานทัพเรือยุทธศาสตร์ของรัสเซียมาตั้งแต่สมัยโบราณ จะปล่อยให้อยู่ในมือของนาซีเคียฟไม่ได้
ข่าวที่รัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ในวิกฤติยูเครน/ไครเมียนี้ ก็เพื่อที่จะส่งสัญญานไปให้ประชาชนของสหรัฐฯและอียูได้รับทราบถึงความเสี่ยงและอันตรายของสงครามที่รัฐบาลของพวกเขากำลังก่อสงครามในเชิงลับโดยที่ประชาชนทั่วไปไม่รู้ข้อมูล
หลังจากกลับมาทำงานในวันจันทร์ที่ 16มีนาคม ปูตินสั่งการให้
1. เปิดหลุมหลบภัยนิวเคลียร์5,000แห่ง ที่ปูตันสั่งให้สร้างระหว่างปี2010 2012
2.) ลำเลี่ยงอุปกรณ์แพทย์และพยาบาล รวมทั้งยาไปอยู่ที่หลุมหลบภัยนิวเคลียร์
3.) ติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่Kaliningrad
4.) ติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่ไครเมีย
5.) ให้กองทัพอากาศทางแคว้นตะวันตกเฉียงเหนือเตรียมพร้อมการรบ
6.) ให้ทหารหลายหมื่นนายที่Northern Fleet และWestern Military Districtเตรียมพร้อมการรบ
7.) บริเวณไซบีเรียให้พร้อมในการปกป้องการจู่โจมทางอากาศ
ปูตินเตรียมพร้อมแล้วที่จะนำพารัสเซียเข้าสู่ยุคสุดท้าย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อทุกๆประเทศบนโลกนี้ที่จะต้องเผชิญกับชะตากรรมของยุคสุดท้ายร่วมกัน
thanong
19/3/2015
Moscow Bomb Shelters Begin To Fill As Russia Prepares For War

 

Thanong Fanclub



14. ยุคสุดท้าย (End Time)
ไม่มีประสบการณ์ยุคสุดท้าย (End Time) ของใครจะหลอกหลอน ขนลุกชัน เจ็บปวดและบาดลึกเข้าไปถึงก้นบึงของหัวใจเท่ากับFyodor Mikhailovich Dostoevsky (1821-1881) นักเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัสเซียที่ตลอดทั้งชีวิตเต็มไปด้วยโชคร้ายและความทุกข์ทรมาณ
ในขณะที่เขามีอายุ27ปี เขาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว และกลายเป็นนักโทษประหารชีวิต เพียงเสี้ยวเดียวระหว่างความเป็นและความตายก่อนที่จะถูกยิงเป้าช่างระยะเวลาที่ทนทุกข์ทรมาณอาจมิอาจจะพรรณาได้ แต่Dostoevskyรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด และประสบการยุคสุดท้ายนี้ทำให้บุคคลิกและอุดมการณ์ชีวิตของเขาไม่เป็นคนเดิมอีกต่อไป แต่กลายเป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้งกับปรัชญาของชีวิตและศาสนา ทุกลมหายใจมีคุณค่าและเขาต้องใช้ที่ชีวิตที่เหลือให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการสร้างยุคใหม่ (the Age) ผ่านงานเขียนเรื่อง Crime and Punishment (1866), The Idiot (1869), Demons (1872) และ The Brothers Karamazov (1880) ซึ่งทำให้Dostoevskyเป็นนักเขียนระดับโลกไม่เป็นรองใครในด้านความลึกซึ้งจิตวิทยาของตัวละคร
Dostoyeskyเกิดที่กรุงมอสโควในปี1821ในยุคพระเจ้าซาร์ เขาได้เรียนรู้วรรณคดีและนิทานปรำปราตั้งแต่เด็ก หลังจากเรียนหนังสือจบที่Nikolayev Military Engineering Instituteแล้ว เขาทำงานเป็นวิศวกรและเป็นนักเขียน/นักแปลเพื่อหารายได้พิเศษ เขาเห็นความทุกข์ทรมาณของชนใช้แรงงานที่ทำงานเหมือนทาส และรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมของสังคมหรือระบบแรงงานทาส ทำให้เขามีแนวคิดโน้มเอียงไปทางด้านสังคมนิยม เขาอ่านหนังมากและต้องการเป็นนักเขียน
ต่อมาเขาเข้าร่วมกับPetrashevsky Circle ซึ่งเป็นสมาคบลับที่มีแนวคิดเสรีภาพของสังคมอุดมคติ อิทธิพลนี้มาจากยุโรปที่กำลังตื่นตัวในเรื่องสิทธิเสรีภาพและการแสดงออกในศตวรรษที่19 Dostoyeskyเข้าร่วมขบวนการใต้ดินที่มีอุดมการณ์ก่อการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม ในปี 1849เขาถูกทางการจับกุมเพราะว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่มีความคิดปฏิวัติ Dostoyeskyอ้างว่าเขาไม่ได้ต่อต้านรัฐบาล แต่เขาไม่เห็นด้วยกับระบบแรงงานทาส เขาถูกขังในคุกที่มีสภาพย่ำแย่ โดยนอนบนกองฟาง อากาศอับชื้น แทบจะไม่มีแสงสว่าง เป็นเวลา8เดือนที่เขาและเพื่อนที่ถูกจับด้วยกันถูกเรียกตัวไปสอบสวนและส่งกลับไปขังต่อ หนังสือไม่มีให้อ่าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ดูแลคุกอนุโลมยอมญาติให้มีการนำเอาหนังสือเข้ามาอ่านในคุกได้ Dostoyeskyมุ่งอ่านหนังสือไบเบิ้ลและหนังสือเกี่ยวกับจิตวิญญานต่างๆ
ในเดือนตุลาคมที่หนาวเหน็บ นักโทษถูกลำเลียงออกจากคุก ให้ไปขึ้นรถม้าที่คอยอยู่ Dostoyeskyและเพื่อนร่วมชะตากรรมชีวิตคิดว่าคงจะถูกนำไปตัดสินให้ลงโทษสถานเบา เมื่อรถม้่าหยุดลง นักโทษถูกสั่งให้ไปยืนเรียงกันเป็นไม้กระดาน ทุกคนถูกสั่งให้โดนยิงเป้า ผู้คุมให้ไม้กางเกนให้นักโทษจูบลาเป็นครั้งสุดท้าย เปิดโอกาสให้สารภาพบาปกับบาดหลวง และให้แต่งตัวเป็นชาวนามีฮู๊ดเพื่อการโดนยิงเป้า
นักโทษ3คนแรกถูกจับมัด นำพาไปหลักประหาร ทหารเข้าแถวประจำที่ ยกปืนขึ้นประทับบ่า เตรียมเหนี่ยวไกยิง ทันใดนั้นเอง มีเสียงกลองรัวขึ้นมา ขัดจังหวะ Dostoyesky ขณะนั้นอยู่อันดับ6ที่จะโดนยิงเป้า ตระหนักขึ้นมาทันทีว่าเขาและเพื่อนรอดตายแล้ว มีเจ้าหน้าที่ควบม้ามาพร้อมกับสาร์นจากพระเจ้าซ่าร์ที่1 ที่ถูกส่งมาอย่างทันควันว่าให้พระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษประหารทุกคน Dostoyeskyและเพื่อนร่วมตายถูกส่งกลับไปขังที่คุกเดิม ก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังไซบีเรียเพื่อทำงานหนักชดใช้โทษ
ฉากของจัตุรัสที่ประหาร นักโทษที่เตรียมตัวรับเคราะห์ และการได้รับพระราชทานอภัยโทษในนาทีสุดท้ายก่อนถูกยิงเป้า มีผลต่อจิตใจของนักโทษทุกคนอย่างมหาศาล รวมทั้งDostoyesky 2คนถึงกลับเป็นบ้าหลังจากนั้น แต่Dostoyeskyกลับใช้ประสบการณ์การรอดตายนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจและบ่มความเชื่อในทางศาสนามากยิ่งขึ้น ทำให้เขาเห็นคุณค่าใหม่ของชีวิต
ในนิยายเรื่องThe Idiot เขียนขึ้นมา20ปีหลังจากการรอดตายการการถูกยิงเป้า Dostoyesky ให้ตัวละครเจ้าชายMyshkinพูดถึงเรื่องการประหารชีวิตที่คล้ายกับประสบการณ์โดยตรงของเขา
"แต่มันจะดีกว่านะที่ฉันจะเล่าให้เธอเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันพบเมื่อปีที่แล้ว ผู้ชายคนนี้ถูกลากกับคนอื่นไปยังแดนประหารชีวิต มีการอ่านประกาศโทษประหารให้เขาฟัง อีก20นาทีต่อมา มีการอ่านประกาศอภัยโทษ และให้มีการลงโทษที่เบากว่า เขากำลังจะตายตอนอายุ27ปี ยังมีสุขภาพดีและแข็งแรง เขาบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าช่วงเวลานั้นที่ในห้วงความคิดที่ว่า: "ถ้าฉันต้องไม่ตายหล่ะ ฉันจะใช้ทุกๆนาทีให้เป็นยุค จะไม่มีการเสียเวลาให้ว่างเปล่า ทุกๆนาทีจะมีค่า....."
thanong
19/3/2015
http://community.middlebury.edu/…/stude…/Autobiography.shtml

 

Thanong Fanclub



15. ยุคสุดท้าย (End Time)
ปูตินเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคสุดท้าย ด้วยการสั่งทหารพร้อมรบด้วยการซ้อมรบและซ้อมป้องกันประเทศอย่างเต็มรูปแบบทั่วประเทศ ตามข่าวดังต่อไปนี้:
ซ้อมรบที่อาร์คติก
Large-scale drills in Arctic to demonstrate Russia’s military strength
TASS: Russia - Large-scale drills in Arctic to demonstrate Russia’s military strength — experts
ซ้อมรบที่ไซบีเรีย
Russia Begins Air Force Tactical Drills in Siberia
Russia Begins Air Force Tactical Drills in Siberia / Sputnik International
เครื่องบินรบซ้อมรบที่ไครเมีย
Supersonic strategic bombers heading to Crimea for drills – military source
http://rt.com/…/241441-strategic-bombers-crimea-redeployme…/
ซ้อมรบทหารและประชาชน40,000คนทั่วประเทศ
Russia starts nationwide show of force
http://www.reuters.com/…/us-russia-military-exercises-idUSK…
ซ้อมรบเสร็จก็ประจำการไปเลย แล้วรอดูว่าสหรัฐฯและอียูจะเจรจาว่าความกันอย่างไรต่อ
เราทุกคนเป็นDostoyesky ที่กำลังยืนอยู่แดนประหาร คอยถูกเรียกตัวไปยิงเป้า เราจะรอดตายเหมือนDostoyeskyหรือไม่ จะมีปฏิหาริย์หรือไม่? และถ้าเรารอดตาย เราจะใช้ชีวิตให้คุมค่าทุกนาทีเพื่อที่จะสร้างยุคใหม่ หรือยุคนางพญาให้ดีขึ้นหรือไม่?
thanong
19/3/2015

 

“โคโนโคฟิลลิปส์” บริษัทน้ำมันชื่อดัง ประกาศปลดพนักงาน 200 ตำแหน่งในแคนาดา ชี้ราคาน้ำมันตกต่ำเป็นเหตุ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2558 04:47 น.



เอเอฟพี-“โคโนโคฟิลลิปส์” บริษัทน้ำมันชื่อดังสัญชาติอเมริกันประกาศในวันพุธ (18 มี.ค.) ปลดพนักงาน 200 ตำแหน่งหรือราวร้อยละ 7 ของตำแหน่งงานในแคนาดาจากผลพวงของราคาน้ำมันที่ตกต่ำ

แอนเดรีย อูร์บาเนค โฆษกหญิงของบริษัทเผยต่อเอเอฟพี โดยระบุถึงความท้าทายด้านสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ทางโคโนโคฟิลลิปส์จำเป็นต้องตัดสินใจในเรื่องที่ยากลำบากนี้

โฆษกหญิงของโคโนโคฟิลลิปส์ยังเผยว่า ธุรกิจของบริษัทในแคนาดาได้แจ้งข่าวร้ายนี้แก่พนักงานของตนแล้ว ถึงการปรับลดกำลังคนลงราวร้อยละ 7 หรือราว 200 คน

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทพลังงานหลายแห่งทั้งเชลล์ , ซันคอร์ และเน็กเซน เอนเนอร์จี ต่างประกาศปลดพนักงานไปแล้วหลายร้อยตำแหน่งในแคนาดาเช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับเหมืองทรายน้ำมันในแคว้นอัลเบอร์ตา จากผลพวงของราคาน้ำมันที่ตกต่ำในตลาดโลก

ทั้งนี้ ข้อมูลจากหน่วยงานด้านสถิติของทางการแคนาดาระบุว่า มีพนักงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับทรายน้ำมัน ถูกปลดจากงานไปแล้วกว่า 20,000 คนนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 เป็นต้นมา

 

หุ้นมะกัน-น้ำมันพุ่ง ทองคำบวกหลังเฟดย้ำระมัดระวังขึ้นดอกเบี้ย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2558 05:25 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มีนาคม 2558 10:47 น.)



เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทและราคาน้ำมันวานนี้ (18 มี.ค.) พุ่งแรง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณอย่างระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยนี้ฉุดดอลลาร์อ่อนค่าลงและผลักให้ทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 227.11 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,076.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.22 จุด (1.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,099.50 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 45.39 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,982.83 จุด

แม้เฟดตัดคำว่า “จะยังอดทน” เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย ส่งสัญญาณว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงกลางปี หลังจากคงในระดับใกล้ 0 เปอร์เซ็นต์มานานกว่า 6 ปี

แต่อีกด้านหนึ่งของถ้อยแถลงเฟดที่ย้ำว่าจะยังไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ได้กลายเป็นแรงสนับสนุนต่อวอลล์สตรีท

ด้านราคาน้ำมันในวันพุธ (18 มี.ค.) พุ่งขึ้นแรง หลังถ้อยแถลงระมัดระวังของเฟด กลบความกังวลต่อภาวะอุปสงค์อันอ่อนแอของสหรัฐฯ ที่พบว่าสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ถ้อยแถลงเฟดที่บอกว่าจะยังไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักให้ราคาน้ำมันวานนี้ ปิดบวกอย่างแรง

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (18 มี.ค.) มีขึ้นแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลว่าในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 มีนาคม คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 9.6 ล้านบาร์เรล ทำให้สต๊อกน้ำมันดิบของประเทศแตะระดับสูงสุดที่ไม่เคยพบเห็นมาอย่างน้อยๆ ก็ 80 ปี บ่งชี้ว่าอุปสงค์อ่อนแออย่างมาก

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ตามหลังคำแถลงของเฟด ผลักให้ราคาทองคำวานนี้ (18 มี.ค.) ปิดบวกเช่นกัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,151.30 ต่อออนซ์

 

In Pics: งดงามน่าสะพรึง! “ภูเขาไฟวิลลาริกา” ในชิลีกลับมาปะทุระลอกใหม่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2558 11:09 น.


@ภาพถ่ายมุมสูงบริเวณปากปล่องภูเขาไฟวิลลาริกาทางตอนใต้ของชิลี เมื่อวันที่ 18 มี.ค.

รอยเตอร์ – ภูเขาไฟวิลลาริกาทางตอนใต้ของชิลีปลดปล่อยเถ้าถ่านและกลุ่มควันขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เพิ่งปะทุครั้งล่าสุดไปเมื่อต้นเดือนและทำทีท่าเหมือนจะสงบลง ทางการชิลีแถลงวานนี้ (18 มี.ค.)

วิลลาริกา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองรีสอร์ตปูกอน (Pucon) และห่างจากกรุงซันติอาโกไปทางใต้ราว 750 กิโลเมตร จัดเป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลังมากที่สุดลูกหนึ่งของชิลิ

ภูเขาไฟทรงกรวยลูกนี้เกิดปะทุในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม แต่ก็ทำให้ทางการชิลีต้องสั่งอพยพประชาชนหลายพันคนเพื่อความปลอดภัย

สำนักงานธรณีวิทยาแห่งชาติชิลีเตือนว่า ภูเขาไฟวิลลาริกาจะปะทุหนักขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และอาจมีลาวาไหลออกจากปากปล่องภูเขาไฟในช่วงค่ำ แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรง


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000032061

 

ตะวันออกเฉียงเหนือแดนจิงโจ้เตรียมพร้อมรับ “ไซโคลนนาธาน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2558 12:21 น.



เอเอฟพี – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียเตรียมพร้อมรับพายุไซโคลนกำลังแรงที่มีการพยากรณ์ในวันนี้ (19) ว่าจะเข้าซัดหลายพื้นที่ชายฝั่งทางตอนเหนือของเมืองแคนส์ หนึ่งในประตูสู่สวรรค์ของนักดำน้ำอย่างเกรทแบร์เรียรีฟ (Great Barrier Reef)

ไซโคลนเขตร้อนนาธาน ซึ่งปัจจุบันถูกจัดความรุนแรงที่ระดับ 3 กำลังเคลื่อนตัวกลับมาสู่เขตคุกทาวน์ ที่อยู่ห่างจากจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างเมืองแคนส์ไปราว 260 กิโลเมตร หลังจากที่เคยเฉียดคุกคามพื้นที่ชายฝั่งแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกสู่ทะเลไป

อิทธิพลของไซโคลนลูกนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดแผ่นดินถล่มขณะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 4 ในช่วงเช้าวันศุกร์ (20) หอบความเร็วลมกระโชกมาสูงสุดถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ระบุ

“ไม่ใช่ทุกบ้านจะได้รับอิทธิพลจากแรงลมระดับ 3 หรือระดับ 4 แต่ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่เตือนภัย มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำการเตรียมพร้อมของคุณต่อไป หรือหากว่ายังก็ต้องเริ่มเสียแต่ตอนนี้เลย” ร็อบ เว็บบ์ ผู้อำนวยการสำนักงานอุตุฯ ของรัฐควีนส์แลนด์ กล่าว

เขตคอกทาวน์มีประชากรราว 2,500 คน และคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติรัฐควีนส์แลนด์ได้ประชุมกันที่เมืองบริสเบนเพื่อทบทวนแผนการฉุกเฉินต่างๆ แล้ว

“ดิฉันขอเน้นย้ำกับทุกคนว่า นี่เป็นสถานการณ์ตึงเครียด แต่เรายังมีเวลาเหลือในวันนี้เพื่อเตรียมพร้อม” แอนนาสตาเซีย ปาลัส์ซซุค นายกเทศมนตรีรัฐควันส์แลนด์ กล่าว

“อีกข่าวดีคือ เราไม่ได้คาดการณ์ว่ามันจะเกิดขึ้นพร้อมกับช่วงน้ำขึ้น”

ไซโคลนนาธานเคลื่อนเข้ามาหลังจากที่ซุปเปอร์ไซโคลนแพมสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับวานูอาตู ประเทศซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของรัฐควีนส์แลนด์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13) และมาตามหลังพายุเกรี้ยวกราด 2 ลูกที่เข้าซัดภาคเหนือของออสเตรเลียภายในเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่ชั่วโมงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000032108

 

เฟดตัดคำว่า “อดทน” บ่งชี้ใกล้ปรับขึ้นดอกเบี้ย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2558 03:17 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มีนาคม 2558 10:45 น.)



รอยเตอร์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (18 มี.ค.) เคลื่อนไหวขยับเข้าใกล้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 หลังถอดคำว่า “อดทน” ออกจากถ้อยคำที่ใช้ เปิดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน แต่ตลาดคาดคะเนว่ากว่าจะปรับขึ้นจริงก็น่าจะเป็นเดือนกันยายน หลังจากลดประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดขึ้นทันทีขานรับถ้อยแถลงดังกล่าวของเฟด ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอเมริกา ลดลงต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังดูเหมือนว่ามีเจ้าหน้าที่เฟดสายกลางมากขึ้นที่ไม่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

“ส่วนใหญ่แล้วเป็นไปตามความคาดหมาย พวกเขาไม่ได้แถลงถึงเวลาที่แน่นอนของการขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่ายังมีความกังวลต่อพวกเฟดสายเหยี่ยวอยู่บ้าง และมันสามารถอธิบายถึงการปรับขึ้นของตลาดหุ้นในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี” จอห์น คารีย์ ผู้จัดการการลงทุนของไพโอเนียร์ อินเวสต์เมนท์ แมนเนจเมนท์ ในบอสตันกล่าว

ในถ้่อยแถลงที่เผยแพร่ออกมาตามหลังการประชุม 2 วัน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ย้ำถึงมุมมองที่ว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวแล้ว พร้อมระบุการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยวางอยู่บนโต๊ะพิจารณา แต่ก็เปิดทางให้เฟดมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะเคลื่อนไหวดังกล่าวในช่วงปลายปีแทน ด้วยยืนกรานว่าการตัดสินใจใดๆจะขึ้นอยู่กับข้อมูลต่างๆ ที่กำลังเข้ามา

“คณะกรรมการคาดหวังว่าจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเหมาะสมตามขอบเขตเป้าหมาย เมื่อพบเห็นการฟื้นตัวเพิ่มเติมในตลาดแรงงานและมีความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 2 ตามเป้าหมายระยะกลาง” เฟดระบุในถ้อยแถลง

เฟดชี้แจงด้วยว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมคราวต่อไปในเดือนเมษายน และบอกว่าการเปลี่ยนแปลงในคำชี้แนะล่วงหน้าเกี่ยวกับแนวทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ไม่ได้หมายความว่าธนาคารกลางแห่งนี้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกรอบเวลาของการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่ประชุมครั้งก่อนหน้านี้ เฟด ใช้ถ้อยคำว่าจะ “อดทน” ในการพิจารณากำหนดเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ เฟดมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยปรับลดมุมมองต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจลง โดยระบุจะเติบโตค่อนข้างปานกลาง แตกต่างจากเมื่อเดือนธันวาคม ที่อ้างว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับเตี้ยติดพื้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 โดยหนสุดท้ายที่ธนาคารกลางสหัฐฯ ปรับขึ้น คือ ในเดือนมิถุนายน 2006 ช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเฟื่องฟูและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง กระตุ้นให้เฟดต้องดันอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับร้อยละ 5.25


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031980

 

อิหร่านระบุ! ไม่ว่าพรรคไหนของอิสราเอลก็ล้วนเป็น “ผู้รุกราน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มีนาคม 2558 19:36 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มีนาคม 2558 10:29 น.)


@นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล

รอยเตอร์ - กระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ระบุในวันนี้ (18 มี.ค.) ว่า พวกเขาไม่เห็นถึงความแตกต่างระหว่างบรรดาพรรคการเมืองของอิสราเอล และเรียกพรรคการเมืองเหล่านี้ว่า ล้วนแต่เป็นผู้รุกรานทั้งนั้น เมะห์ร นิวส์ เอเจนซี (Mehr News Agency) สำนักข่าวกึ่งทางการของอิหร่านรายงาน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลชนะการเลือกตั้ง

เนทันยาฮู หัวหน้าพรรคลิคุด ที่ชนะการเลือกตั้งรัฐยิวอย่างเหนือควาดคาดหมายเมื่อวานนี้ (17) เตือนรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ในเดือนนี้ว่า วอชิงตันกำลังเจรจา “ข้อตกลงเลวร้าย” กับอิหร่านในเรื่องโครงการนิวเคลียร์

สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรสงสัยอิหร่านว่ากำลังหาทางได้มาซึ่งศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ เตหะราน ระบุว่า โครงการนิวเคลียร์ของพวกเขาเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสันติภาพอย่างหมดจด แต่อิสราเอลมองว่าโครงการนี้เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของพวกเขา และปฏิเสธที่จะตัดโอกาสที่จะดำเนินทางทหารออกไป

“สำหรับเราแล้ว หาได้มีความแตกต่างใดๆ ระหว่างบรรดาพรรคการเมืองของระบอบปกครองไซออนิสต์ พวกเขาล้วนเป็นผู้รุกรานโดยธรรมชาติ” มาริเซะห์ อัฟคาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน บอกกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ที่กรุงเตหะราน สำนักข่าวเมะห์รรายงาน

นับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามเมื่อปี 1979 ของพวกเขา อิหร่านก็มีจุดยืนปฏิเสธให้การรับรองอิสราเอลในฐานะประเทศมาโดยตลอด

จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นถึงการเลือกตั้งของอิสราเอลครั้งนี้ หลังจากที่ถูกผู้สื่อข่าวถามระหว่างการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์กับอิหร่านที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

เนทันยาฮูกำชัยศึกเลือกตั้งอิสราเอล ปาเลสไตน์ลั่นคนยิวทิ้งแผนสันติภาพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มีนาคม 2558 21:28 น.


@นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล โบกมือให้กลุ่มผู้สนับสนุนที่สำนักงานใหญ่พรรคลิคุดในกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เนทันยาฮู ชนะศึกเลือกตั้งรัฐสภาครองเก้าอี้นายกฯ ยิวได้เป็นสมัยที่ 3 พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาแข็งกร้าวว่าจะไม่ยอมให้มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์โดยเด็ดขาด

เอเจนซีส์ – ลิคุดกำชัย เนทันยาฮูผูกขาดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลอีกสมัย หลังทิ้งทวนหาเสียงด้วยการปลุกกระแสขวาจัดและประกาศขวางการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ ล่าสุด ปาเลสไตน์ออกมาวิจารณ์รุนแรงว่า คนยิวเลือกการยึดครองและการสร้างถิ่นฐานมากกว่าการเจรจาสันติภาพ และเตรียมฟ้องศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศในเดือนหน้ากรณีที่ยิวยึดครองเวสต์แบงก์ยาวนานเกือบ 50 ปี และสงครามนองเลือดในกาซาเมื่อปีที่แล้ว

ผลการเลือกตั้งเมื่อวันอังคาร (17) ที่นับคะแนนเกือบครบถ้วนแล้วบ่งชี้ว่า พรรคลิคุดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กวาดที่นั่งในสภาเนสเซ็ต 30 ที่นั่ง จากทั้งหมด 120 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเต็งหนึ่งในโพลล์ก่อนการเลือกตั้งอย่างไซออนนิสต์ ยูเนียน กลับทำได้เพียง 24 ที่นั่ง

เนทันยาฮูประกาศว่า นี่เป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ของพรรคลิคุดและชาวอิสราเอลทั้งหมด ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคลิคุดในเทล อาวีฟ ฉลองกันอย่างครึกครื้นตั้งแต่กลางดึกวันอังคาร

ด้านไอแซ็ก เฮอร์ซ็อก ผู้นำพรรคไซออนนิสต์ ยูเนียน ยอมรับความพ่ายแพ้พร้อมแสดงความยินดีที่เนทันยาฮูได้บริหารประเทศสมัยที่สาม

วันพุธ (18) เนทันยาฮูประกาศว่า จะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ และว่า ได้ทาบทามพรรคการเมืองฝ่ายขวา เช่น พรรคยิววิช โฮม ปาร์ตี้ ที่สนับสนุนการก่อตั้งถิ่นฐานชาวยิว และพรรคการเมืองสายศาสนาเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ แน่นอนว่า เนทันยาฮูจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่ประธานาธิบดีรูเวน ริฟลิน จะขอให้ทำหน้าที่จัดตั้งรัฐบาล หลังจากผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการออกมา ซึ่งน่าจะเป็นในวันพฤหัสฯ (19)

ภายใต้ระบบการเลือกตั้งของอิสราเอลนั้น นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำพรรคที่ได้ที่นั่งในสภามากที่สุด แต่ต้องเป็นคนที่สามารถรวบรวมแนวร่วมและรวมที่นั่งในสภาได้อย่างน้อย 61 ที่นั่ง
ดังนั้น ตัวแปรสำคัญในการชี้ขาดผู้ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอิสราเอลจึงเป็นโมเช่ คาห์ลอน อดีตรัฐมนตรีที่เป็นที่ชื่นชอบของพรรคลิคุด ที่ออกไปจัดตั้งพรรคใหม่ชื่อว่า คูลานู และได้ที่นั่งในสภาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ 10 ที่นั่ง

ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง เนทันยาฮูชูประเด็นความมั่นคงเป็นจุดขาย โดยอ้างว่า ตนเป็นคนเดียวที่สามารถปกป้องอิสราเอลจากภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ของอิหร่าน แถมยังประกาศว่า หากได้รับเลือกเป็นผู้นำประเทศอีกสมัย จะขัดขวางการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ รวมทั้งสร้างบ้านหลายพันหลังให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวในเยรูซาเลมตะวันออก เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องมอบพื้นที่เพิ่มเติมให้ปาเลสไตน์ในอนาคต ซึ่งเท่ากับเป็นการลบล้างคำมั่นของตนเองในปี 2009 ว่า จะสนับสนุนการเจรจาเพื่อปูทางสู่การตั้งรัฐปาเลสไตน์เคียงข้างรัฐยิว

ยิ่งไปกว่านั้น ในวันเลือกตั้ง เนทันยาฮูยังเรียกร้องให้ประชาชนไปกาบัตรเลือกพรรคลิคุด เพื่อสกัดพรรคการเมืองอิสราเอล-อาหรับ

ด้วยเหตุนี้ หลังผลการนับคะแนนบ่งชี้ว่า เนทันยาฮูคือผู้ชนะ ปาเลสไตน์จึงออกมาตอบโต้อย่างแข็งกร้าว โดยประกาศว่า จะเดินหน้ามาตรการทางการทูตอย่างเต็มที่เพื่อก่อตั้งรัฐ

ยัสเซอร์ อาเบ็ด เจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (พีแอลโอ) วิจารณ์ว่า ชัยชนะของพรรคฝ่ายขวาของเนทันยาฮูบ่งชี้ว่า อิสราเอลเลือกเส้นทางการเหยียดผิว การยึดครอง และการสร้างถิ่นฐานชาวยิว และทิ้งเส้นทางในการเจรจาสันติภาพ และการเป็นพันธมิตรกับปาเลสไตน์

ซาเอ็บ เอราคัต หัวหน้าคณะเจรจาของปาเลสไตน์ยังบอกอีกว่า จะยื่นเรื่องต่อศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ที่กรุงเฮกในเดือนหน้า กรณีที่อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์ยาวนานถึง 48 ปี รวมทั้งสงครามนองเลือดในกาซาเมื่อปีที่แล้ว

ความสัมพันธ์ปาเลสไตน์-อิสราเอลตกต่ำรุนแรงหลังจากการเจรจาที่มีอเมริกาเป็นตัวกลางล่มลงเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยความรุนแรงในเยรูซาเลม สงครามนองเลือกระหว่างอิสราเอลกับขบวนการอิสลามิสต์ ฮามาสในฉนวนกาซา

นอกจากนั้น ชัยชนะของเนทันยาฮูยังมีแนวโน้มทำให้ความบาดหมางระหว่างอิสราเอลกับคณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยืดเยื้อต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการประกาศขัดขวางการตั้งรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นเป้าหมายการสร้างสันติภาพตะวันออกกลางของนานาชาติ

หากเนทันยาฮูทำอย่างที่หาเสียงไว้จริง นอกจากจะกระทบกระทั่งกับวอชิงตันรุนแรงขึ้นแล้ว อิสราเอลยังอาจถูกลงโทษจากสหภาพยุโรป (อียู) ที่กำลังพิจารณาขั้นตอนต่างๆ ซึ่งรวมถึงมาตรการทางการค้า

๷ѹ

 

พี่หมีกางเล็บ! รัสเซียจ่อลงนามสัญญาพันธมิตรกับเซาต์ออสเซเตีย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มีนาคม 2558 20:27 น.



เอเอฟพี - รัสเซียเดินหน้าเตรียมที่จะลงนามเซ็นสัญญาการเป็นพันธมิตรกับเซาต์ออสเซเตีย ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลหมีขาวสามารถควบคุมดูแลดินแดนที่แยกตัวออกมาจากจอร์เจียแห่งนี้ได้มากขึ้น แม้ว่าจะโดนประณามอย่างหนักจากชาติตะวันตก

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เตรียมที่จะลงนามในข้อตกลงร่วมกับ เลโอนิด ติบิลอฟ ผู้นำเซาต์ออสเซเตีย ที่กรุงมอสโก ซึ่งนั่นจะทำให้รัสเซียรับหน้าที่ปกป้องดินแดนแห่งนี้อย่างเป็นทางการ โดยที่ผ่านมารัสเซียได้วางกำลังทหารหลายพันนายไว้ที่นั่น นับตั้งแต่ตอนทำสงครามกับจอร์เจียในปี 2008

บรรดาเจ้าหน้าที่จอร์เจียต่างพากันวิจารณ์การกระทำในครั้งนี้ ว่าไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เคยเกิดเมื่อปีก่อนระหว่างรัสเซียกับอับเคเซีย ซึ่งเป็นดินแดนที่แยกตัวออกจากจอร์เจียเช่นกัน พร้อมชี้ว่าการเป็นพันธมิตรกันดังกล่าว ในทางพฤตินัยแล้วก็คือการผนวกดินแดนเข้ากับรัสเซียนั่นเอง

เฟเดริกา โมเกรินี ประธานนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ได้เตือนว่า สัญญาฉบับนี้อาจจะสร้างความปั่นป่วนให้กับภูมิภาคนั้นมากยิ่งขึ้น

คำแถลงของโมเกรินี ระบุว่า การลงนามของสหพันธรัฐรัสเซีย ในเอกสารที่เรียกว่า "สนธิสัญญาพันธมิตรและการรวมตัว" ซึ่งทำกับเซาต์ออสเซเตีย ดินแดนที่แยกตัวออกมาจากจอร์เจีย จะเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวที่ขัดขวางความพยายามเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคนั้น

ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต อับเคเซียและเซาต์ออสเซเตียก็ได้ แยกออกมาจากจอร์เจียหลังเกิดสงครามกลางเมืองในช่วงยุคปี 90 ซึ่งทางรัสเซียได้รับรองเอกราชของทั้งสองดินแดนหลังจบสงคราม 5 วันกับจอร์เจียในปี 2008 แต่ประเทศอื่นๆ มีแค่ไม่กี่แห่งที่ให้การรับรอง

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031913

 

เพนตากอนทบทวน “โครงการป้องกันขีปนาวุธ” หลังบิ๊กกองทัพชี้ ยุทธศาสตร์เดิม “ฟุ่มเฟือย” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มีนาคม 2558 15:24 น. (แก้ไขล่าสุด 18 มีนาคม 2558 18:30 น.)



รอยเตอร์ – กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เริ่มดำเนินการทบทวนโครงการและศักยภาพด้านการป้องกันขีปนาวุธครั้งใหญ่ หลังจากผู้บัญชาการทหารเรียกร้องว่า ยุทธศาสตร์ที่ “ไม่ยั่งยืน” ในปัจจุบันทำให้เกิดความกดดันด้านงบประมาณอย่างหนัก และส่งผลให้ภัยคุกคามทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น

ชัค เฮเกล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอธิบายถึงการทบทวนดังกล่าวในบันทึกลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ต่อเจ้าหน้าที่อาวุโสในกองทัพบกและกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งทางรอยเตอร์ได้รับฉบับคัดลอกมาชุดหนึ่ง

การทบทวนในปีนี้จะยังครอบคลุมถึงประเด็นการป้องกันภูมิภาคจากขีปนาวุธพิสัยไกล , ขอบเขตคอบคลุมทั่วโลกของระบบป้องกันขีปนาวุธ ยู.เอส. แพทริออท และศักยภาพด้านการประเมินกำลังของสหรัฐฯ

เฮเกล กล่าวว่า การทบทวนยุทธศาสตร์โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสของเพนตากอนเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วสรุปได้ว่า นโยบายการป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกลในปัจจุบันมีความเข็มแข็งดี แต่แนะนำให้มีการอัพเดทการศึกษาร่วมเมื่อปี 2011 เพื่อช่วยทำให้กระบวนการงบประมาณประจำปี 2017 ของเพนตากอนออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

พล.ร.อ.โจนาธาน กรีเนิร์ท หัวหน้าหน่วยยุทธการทหารเรือสหรัฐฯ และพล.อ.เรย์ โอดิเออร์โน เสนาธิการใหญ่กองทัพบก เรียกร้องในบันทึกลงวันที่ 5 พฤศจิกายนให้ เพนตากอนทำการประเมินใหม่

พวกเขาเขียนว่า การทุ่มความสนใจที่การประจำการถาวรของกำลังพลในต่างแดนของเพนตากอนนั้นฟุ่มเฟือยเกินไป และเรียกร้องให้เบนเข็มมาที่วิธีการแบบองค์รวมให้มากกว่านี้ ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยี “หยุดก่อนยิง” แบบไม่เคลื่อนไหว (non-kinetic left of launch technology) อย่างเช่น การแพร่กระจายแม่เหล็กไฟฟ้าและการโจมตีทางไซบอร์

พวกเขาระบุว่า มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพัฒนาวิธีการระยะยาวที่แก้ไขลำดับความสำคัญของการป้องกันมาตุภูมิและภูมิภาคจากขีปนาวุธให้คุ้มทุนและยั่งยืนกว่านี้

เฮเกล ตอบสนองว่า กระทรวงจะยังคงมองหาวิถีทาง “ด้านนวัตกรรม” เพื่อจัดการกับความท้าทายต่างๆ ต่อไป และเรียกร้องให้ กรีเนิร์ท และ โอดิเออร์โน แสดงบทบาทเชิงรุกในการทบทวนที่หลากหลายนี้

คิงส์ตัน เรฟ หัวหน้าฝ่ายนโยบายด้านการปลดอาวุธและลดภัยคุกคามจากสมาคมควบคุมอาวุธ (Arms Control Association) ระบุว่า ความกังวลที่กองทัพบกและกองเรือชูขึ้นมานี้ตอกย้ำถึงปัญหามากมายที่ระบบปัจจุบันยังกำลังเผชิญอยู่

ริคิ เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งสมาพันธ์ Missile Defense Advocacy Alliance กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เพนตากอนและคนอื่นๆ มากมายทำงานมาหลายปีในเรื่องยุทธศาสตร์ "หยุดก่อนยิง" ที่ทำให้ค่าใช้จ่ายลดน้อยลงได้ด้วยการจับสัญญาณเรดาห์ไฟฟ้าของระบบสั่งการและควบคุมของศัตรู หรือพุ่งเป้าที่ระบบของขีปนาวุธที่กำลังใกล้เข้ามา

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า การอาศัยศักยภาพเช่นนี้เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือหรืออิหร่าน แทนการยิงสกัดกั้นจากภาคพื้นในปัจจุบัน ยังมีปัญหาอยู่ เนื่องจากมันจะนำมาซึ่ง “การชิงโจมตีก่อนที่จะถูกโจมตี” (pre-emptive strike) อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจมีผลลัพธ์ทางการเมืองและยุทธศาสตร์ที่ร้ายแรง

ྐྵ

 

มะกันเตือนพายุสุริยะรบกวนดาวเทียม
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 มี.ค. 2558 05:50



เมื่อ 17 มี.ค. นายโทมัส เบอร์เกอร์ ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์สภาพอวกาศแห่งสหรัฐฯ ประกาศเตือนประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารผ่านระบบดาวเทียมให้เฝ้าระวังผลกระทบจากพายุสุริยะ หรือโซลาร์ สตรอม ความรุนแรงระดับจี 4 ซึ่งเป็นระดับเกือบสูงสุด และเคยบันทึกได้เมื่อปลายปี 2556 จากระดับสูงสุดจี 5 ซึ่งพบยากมาก

เหตุครั้งนี้ทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กปกคลุมท้องฟ้าและชั้นบรรยากาศเหนือรัฐอลาสกา, มินเนโซตา, วิสคอนซิน, วอชิงตัน รวมถึงนอร์ทและเซาท์ดาโกตาของสหรัฐฯ ตลอดทั้งวัน ซึ่งจะส่งผลให้สัญญาณดาวเทียมถูกคลื่นรบกวน รวมถึงเกิดปรากฏการณ์แสงหลากสี หรือออโรร่าให้เห็นบนท้องฟ้าบริเวณรัฐที่ได้รับผลกระทบ แต่คาดว่าจะไม่เกิดความเสียหายรุนแรงใด รวมถึงนักบินอวกาศที่ประจำการอยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส)

ขณะเดียวกัน สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ตรวจพบแผ่นดินไหวขนาด 6.6 แมกนิจูด เกิดขึ้นใต้ทะเลโมลุกะ ห่างจาก จ.เทอร์นาเต ประเทศอินโดนีเซียไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 134 กม. โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่ความลึกใต้ทะเลประมาณ 41 กม. แต่ไม่มีการประกาศสัญญาณเตือนภัยสึนามิ และรายงานความเสียหายรุนแรง นอกจากแรงสั่นไหวที่รับความรู้สึกได้ในระดับปานกลางที่เมืองมานาโด บนเกาะสุลาเวสี.

มะกันเตือนพายุสุริยะรบกวนดาวเทียม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

น้ำจะท่วมโลก 3 เท่าภายใน 15 ปี
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 มี.ค. 2558 12:01


ขอบคุณภาพ : REUTERS

สถาบันวิเคราะห์ทรัพยากรโลกได้กล่าวทำนายคาดหมายไว้ว่า โลกจะโดนถูกน้ำท่วมสูงขึ้นอีกเกือบ 3 เท่าภายในเวลา 15 ปีข้างหน้านี้

ทางสถาบันกล่าวว่า สาเหตุที่จะทำให้น้ำท่วมโลกสูงขึ้นอีก ก็ด้วยสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเท่ากับปริมาณพลโลกเพิ่มสูงขึ้น การวิเคราะห์หนนี้นับเป็นครั้งแรกในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมตามสองฟากฝั่งของแม่น้ำสายต่างๆขึ้นเป็นครั้งแรก

รายงานกล่าวว่า อันเนื่องมาจากระดับน้ำที่จะท่วมสูงขึ้น อาจจะมีผลกระทบกระเทือนถึงประชากรโลกเป็นปริมาณมากถึงเกือบ 20 ล้านคน ทั้งยังอาจจะสร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามากถึง 5,189 พันล้านบาท?

จากผลการวิเคราะห์หลังสุดยังได้ส่อลางให้เห็นว่าจะมีชาวโลกได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นเกือบสูงถึง 50 ล้านคนก็อาจเป็นได้ ซึ่งหากเป็นถึงขนาดนั้น จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับโลกสูงถึงปีละ 16,660 พันล้านบาท?

น้ำจะท่วมโลก 3 เท่าภายใน 15 ปี - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

นาซาเผยภาพดาวระเบิดเมื่อ 114 ปีก่อน


องค์การนาซาของสหรัฐ เผยภาพถ่ายการระเบิดอันน่าตื่นตาของดาวแคระขาว ที่เกิดขึ้นเมื่อราว 114 ปีก่อน

วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 19:30 น.
เว็บไซต์ข่าว รัสเซียทูเดย์ รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซา) เผยแพร่ภาพถ่าย "จีเค เพอร์เซอาย" ซึ่งเป็นภาพการระเบิดของดาวแคระขาวดวงหนึ่ง เป็นการซ้อนทับภาพ 3 ภาพ โดยจุดสีน้ำเงินตรงกึ่งกลางมาจากการจับรังสีเอ็กซ์โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา จุดแสงสีเหลืองโดยรอบเป็นภาพจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล และส่วนที่เป็นสีชมพูรอบนอกมาจากกล้องโทรทรรศน์เวรีลาร์จแอร์เรย์ของมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ โดยการระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2444 หรือราว 114 ปีที่แล้ว

นาซาอธิบายว่า การระเบิดดังกล่าวไม่เรียกว่าเป็นซูเปอร์โนวา แต่คือ "คลาสสิคัล โนวา" เนื่องจากดาวแคระดวงนี้ไม่ได้ถูกทำลายหายหมดไปในการระเบิด โดยหลังจากเกิดการระเบิด ในช่วงระยะเวลา 2 - 3 วันต่อจากนั้นมันจะดูเป็นดาวที่มีความสว่างมากและจะค่อยๆ อับแสงลงอย่างรวดเร็ว นาซาได้เริ่มศึกษาการระเบิดครั้งนั้นเมื่อปี 2543 หรืออีกราว 100 ปีถัดมา โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา และกลับมาสังเกตอีกครั้งในปี 2556 ซึ่งในช่วงระยะเวลา 13 ปี ระหว่างการสังเกตทั้ง 2 ครั้ง นักดาราศาสตร์ได้ตรวจสอบร่องรอยที่เปลี่ยนแปลงไปของการระเบิด

นาซาเผยว่า แรงระเบิดทำให้เศษซากของดวงดาวกระจายออกไปด้วยความเร็ว 1.12 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเคลื่อนที่ออกไปไกลถึง 144,000 ล้านกิโลเมตรในช่วงเวลานั้น โดยรายงานฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับการเลือนของการระเบิดถูกเผยแพร่ในวารสารฟิสิกส์ดาราศาสตร์ "แอสโตรฟิสิคัล เจอนัล" เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยนักวิทยาศาสตร์ยังเผยอีกว่า จากการจับภาพรังสีเอ็กซ์พบว่า ในช่วงที่การระเบิดเลือนลงราวร้อยละ 40 ปรากฏว่าอุณภูมิของก๊าซในบริเวณนั้นยังคงสูงคงที่อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านองศาเซลเซียส โดยการค้นพบในครั้งนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและลักษณะการระเบิดของดาว.

นาซาเผยภาพดาวระเบิดเมื่อ 114 ปีก่อน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์