ทะเลาะกับคุณย่าค่ะไม่สบายใจเลย

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 3 มิถุนายน 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ปรับตัวอยู่ร่วมกับย่าของตัวเองไม่ได้ค่ะ รู้ว่าท่านแก่แล้ว และเราควรดูแล แต่มีเรื่องจุกจิกเกี่ยวกับคำพูดของท่าน ซึ่งทำให้เรากดดันและเครียด เช่น ท่านชอบว่าปู่และพ่อของจขกท. ให้จขกท. ฟัง ชอบนินทาว่าคนในหมู่บ้าน รวมทั้งพระสงฆ์ ชอบบ่นว่าเรา มองเราแต่ในข้อเสีย โฟกัสแต่ด้านไม่ดีของเรา คือท่านเป็นคนที่พูดจาแย่มากๆ ไม่ใช่คำหยาบ แต่มักจะนำเรื่องไม่ดีทั้งที่จริงบ้างไม่จริงบ้างของคนอื่นมาพูด เช่น เรื่องของเพื่อนบ้าน จขกท. เตือนบ่อยๆว่าอย่าไปว่าเค้า ท่านก้อจะเถียงว่า ไม่ได้ว่า แต่พูดเรื่องจริง คือ จขกท. เครียดมากจิตใจหดหู่ที่ไปทะเลาะกับท่าน ทั้งๆที่อยากอยู่แบบร่มเย็นเป็นสุข คือสงสารท่านนะเพราะพ่อของจขกท. ก้อเข้ากับท่านไม่ได้ แล้วท่านมีลูกคนเดียวหลานคนเดียว แต่จขกท. คลุกคลีด้วย ก้อต้องมีเรื่องทะเลาะกันตลอด จขกท. ทำอะไรก้อไม่ดีไปหมด คือทุกคนมีข้อเสีย แต่ท่านจะขุดข้อเสียของเรามาตอกย้ำ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องเดียวก้อน่าจะดี เพราะเราจะได้ปรับปรุง แต่ท่านติติงไปหมดทุกเรื่อง เช่น จขกทซื้อดอกไม้มา2กำจะจัดแจกันไหว้พระ ดอกไม้ก้านยาวเพราะยังไม่ได้ตัด จขกท. ก้อใส่ไว้ในกะละมังทรงสูงสีดำ ท่านมาเห็นก้อบอกว่ากะละมังอันนี้ไว้ใช้ซักผ้าขี้ริ้ว ต้องใช้หม้อทำแกงมาใส่, วันสงกรานต์อีกจขกท. กราบท่านหน้าห้องน้ำ ท่านก้อบอกว่านี่มันหน้าห้องน้ำ จขกท. ก้อสะอึกไป ว่าเราไม่ได้กราบส้วมซะหน่อย คือ สติท่านเริ่มจะหลงๆแล้ว จขกท. ก้อพยายามเตือนเรื่องวจีกรรมกับท่าน แต่ท่านไม่ฟังเลย เคยวิจารณ์ลพ. จรัญอีก คือจขกท. ก้ออยากอยู่แบบอบอุ่น แต่อยู่กับท่าน ท่านก้อมีแต่จะว่าคนอื่นในทางเสียๆหายๆ คุณพ่อบอกว่าให้ทำงานบ้านแบ่งเบาภาระท่าน แต่ไม่ต้องคลุกคลีกับท่านมาก ก้อสงสารท่าน เพราะท่านชอบดูละครน้ำเน่าและอินกับมันมากๆ เทศน์ก้อฟังบ้างเฉพาะที่ท่านถูกใจ คือท่านมีเรื่องติได้ทุกเรื่อง แม้กับเพื่อนบ้านทุกคน ท่านก้อวิจารณ์ติติงไปหมด จขกท. จะทำยังไงดี เพราะปฏิบัติอย่างดีที่สุดตามกำลังแล้ว แต่ไม่สามารถอยู่ใกล้ชิดคุณย่าได้ อยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข ไม่สบายใจค่ะ คุณพ่อบอกคุณย่าเรื่องธรรมะ ท่านก้อเถียง คือท่านคิดว่าสิ่งที่ท่านเข้าใจนั้นใช่ที่สุดแล้ว ท่านเป็นคนไม่เปิดรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น คุณพ่อบอกว่าให้บริกรรมพุทโธ ท่านก้อไม่ทำ ท่านบอกว่าทำงานไปบริกรรมไปไม่ได้ ท่านเองก้อมักจะทะเลาะกับคุณปู่ ก้อมีแค่คุณแม่กับจขกท. ที่เข้ากับท่านได้ แต่ตอนนี้จขกท. ย้ายขึ้นมาอยู่ชั้นบนแล้ว ท่านอยู่ชั้นล่าง ท่านแก่แล้ว ก้ออยากให้ได้ไปเกิดเป็นนางฟ้า แต่ไม่รู้จะทำยังไง คุณพ่อบอกว่าพระอรหันต์บางรูปมารดายังอยู่ในนรกก้อมี ท่านบอกว่าให้ปล่อยคุณย่าไปอย่าเอาชีวิตของท่านมาแบกไว้ อย่าไปผูกติดอยู่กับท่าน คือท่านดูเป็นคนไม่มีความสุขเลยค่ะ ดูแต่ละครดราม่าแล้วก้ออิน และมักจะพูดถึงแต่อดีตที่เคยลำบาก คือชีวิตท่านมืดหม่นมากๆ เพราะท่านมองไม่เห็นสิ่งดีๆที่มีอยู่แม้เพียงเล็กน้อย เช่น อยู่กับจขกท. ก้อว่าว่าปู่สมัยหนุ่มๆพาเมียคนอื่นไปเที่ยว ชอบกินเหล้า ไม่สนใจเลี้ยงลูก ไม่ไปรับลูกจากร. ร. คือเรื่องเดิมๆหลายสิบปี ก้อยังพูดถึงอยู่ แล้วท่านเองก้อเข้ากับคุณปู่ไม่ได้ ตอนนี้ท่านทั้งสองยังอยู่ด้วยกันค่ะ อยู่ชั้นล่าง คุณปู่โลกส่วนตัวสูงไม่ชอบให้ใครไปจุกจิก แต่คุณย่าจะจุกจิกตลอด เลยมีผรุสวาสกันเสมอๆ เคยเอาหนังสือครูอ้อยให้ท่านอ่าน ท่านก้อบอกว่า ท่านไม่ใช่คนอย่างจขกท. ที่เรื่องเก่าไม่ปล่อยให้ผ่านไป คือท่านมองไม่เห็นตัวเองอ่ะค่ะ ท่านไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองเป็นอย่างไร ท่านไม่รู้ว่าท่านเป็นแม่บ้านที่ขยัน แต่ลูกหลานอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข เพราะท่านมักหาเรื่องมาติติงคนอื่นเสมอ
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    อันนี้ไว้เตือนตัวเองค่ะ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    สู้ต่อไป บริหารใจตัวเองให้ดี ส่วนคนอื่น ในที่สุดแล้ว ช่วยได้แค่ใหนก็แค่นั้น สาธุ!
     
  4. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    นึกดูก็โชคดีอยู่บ้าง ที่แม่ผมที่เคยมีลักษณะแบบนี้ แทบไม่มีหรือมีน้อยแล้ว

    การไปบอกไปแนะนำให้คนแก่แก้ไขตัวเองนั้นไม่ทันแล้ว..
    ผมใช้วิธีอัดบุญแรงๆส่งไปให้เลย เมื่อจิตมีความอิ่ม ผ่องใส
    อาการเหล่านี้ก็จะลดลงไปได้เองด้วย
     
  5. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    จขกท. ทำอะไรผิดที่ผิดทางเองป่าวครับ ท่านบอกก็ถูกแล้วนี่ครับ

    ส่วนเรื่องที่ท่านพูดมาก แม่ผมอายุ 74 ปี ท่านก็เป็นเหมือนกัน เป็นไปตามอายุ เวลาผมบอกท่านก็จะบอกว่า บางเรื่องก็ไม่ควรพูดมันทำให้เกิดความเสียหายต่อคนอื่นได้ คนแื่นก็จะว่าเราชอบนินทาชอบให้ร้ายผู้อื่นเขาจะมองท่านไม่ดีบ้าง บางเรื่องก็บอกท่านว่ามันเป็นกรรมบางเรื่องต้องระวัง บางครั้งท่านก็ว่าเตี่ยผมที่ตายไปแล้วประจำว่าเตี่ยไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เลยถามแม่ว่า..แม่รักเตี่ยมั้ย ถ้ารักเตี่ยก้ไม่ควรขายเตี่ยให้เตี่ยเสื่อมเสีย ถ้าแม่ไม่รักเตี่ยตอนเตี่ยตายแม่จะตอมใจทำไม ตอนเตี่ยไม่ดีแม่จะยังคอยอยู่กับเตี่ยทำไม ดังนั้นเรื่องบางเรื่องควรละเพราะมันไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์เลย หรือแม่มีความสุขที่ได้ด่าสาปแช่งให้คนรอบๆกายแม่เสื่อมเสียฉิบหาย แล้วใครจะมาดูแม่ล่ะทีนี้ เขาก็หนีแม่หมดมันไม่ดีเลย

    - พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเรื่องที่มันผ่านไปแล้วมันเป็นอดีตไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มันจบไปแล้ว เราจะไปรื้อฟื้นหวนระลึกถึงก็เศร้าหมองใจ เจ็บปวด เสียใจ โกรธแค้น เหมือนเรื่องมันเพิ่งดกิดขึ้นทั้งๆที่มันผ่านไปหลายสิบปีจนจำวันเดือนปีนั้นไม่ได้แล้วแท้ๆ ไปหวนระลึกถึงให้ไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ มันเผากายใจเราเปล่า เวลาที่เราไม่ระลึกถึงมันไม่มีจิตเข้าไปติดใจข้องแวะสิ่งใดๆให้มัวหมอง เราก็มีความสุขสงบเย็นใจเป็นที่สบายใช่มั้ย ดังนั้นระลึกถึงแต่สิ่งที่ดีที่สบายกายใจดีกว่าให้เป็นกำลังใจให้ชีวิตเรา แล้วทำปัจจุบันให้แจ้งคือรู้ว่าสิ่งนี้มันผ่านไปแล้วเป็นอดีตเราไม่เอาจิตไปยึดอดีต ไม่หน่วงนึกถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ให้ยึดสัมปะชัญญะรู้เพียงปัจจุบันนี้ๆเราอยู่อย่างไรรับรู้อะไรเป็นไปแบบไหน ทำกิจการงานอะไร อิริยาบถใดๆ แล้วแม่จะเลิกคิดพร่ำเพื่อให้เศร้าหมองสงบสบาย

    เมื่อคอยบ่อกท่านเท่าที่มีปัญญาจะพึงทำได้ที่เหลือจะเป็นอย่างไรก็ต้องปล่อยท่านมันเป็นจริตท่าน เราทำได้แค่แนะนำเตือนสติ ประครองให้ท่านเป็นไป ขนาดตัวเรายังทำไม่ได้เลยจะบังคับให้ท่านเป็นดั่งใจคงไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มิถุนายน 2016
  6. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ผิดที่ผิดทางตลอดค่ะ ไม่เคยมีอะไรดี มีอีกเป็นพันเรื่องขี้เกียจจะเล่า โฟกัสแต่ข้อเสียของทุกคนที่อยู่ด้วย ไม่เคยพูดชื่นชมถึงสิ่งดีๆที่คนรอบข้างมี มันก้อทำให้ท้อเหมือนกันนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2016
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    รู้สึกทนไม่ไหว โดนญาติด่าและดูถูกทุกเรื่องในชีวิต เขาคิดว่าเราไม่มีอะไรในชีวิตเลย

    รู้สึกไม่ไหวแล้วคะ เราก็ไม่รู้ว่าเราทำตัวไม่ดีตรงไหน ไม่เคยทำตัวนอกกรอบ
    วาจาที่เขาชอบพูดให้เรามีดังนี้คะ
    - เพื่อนที่คบเราก็หวังเอาวิชากับเราทั้งนั้น ไม่ได้อยากจริงจังด้วยหรอก
    - คิดว่าผู้ชายที่เข้าหาเธอ เขาจะจริงจังกับเธอหรอ (เราคิดกับคนที่เขามาคุยเป็นเพื่อนเรียนคะ ช่วยเหลือกันเรียน งานกลุ่มก็ช่วยกัน แต่เขาคิดเกิน)
    - เรียนได้แค่นี้ เก่งสู้ใครเขาก็ไม่ได้ สู้คนพิการเรียน วิศวะ ฬ ก็ไม่ได้ (แต่สาขาที่เราเรียนเราก็ขยันตั้งใจเรียนเพื่อนชมครูชม
    ก็มาเล่าให้เขาฟัง เขาไม่ใช่แม่คะเป็นญาติเขาไม่เคยพูดถึงเลยคะ )
    - โง่ ซื่อบื่อ เดี๋ยวก็ถูกหลอก ทั้งๆที่เขาก็โดนหลายคนหลอก โกงเงิน เวลาทำนั่นนี่
    - เธอมันคนไม่มีอะไร คนอื่นมองว่าเธอครบ แต่จริงๆเธอไม่มีอะไร (เขาชอบพูดแบบนี้ทั้งๆที่เราคิดว่า สิ่งที่เรามีนั่นคือความขยันตั้งใจเรียน
    มีความรู้ ซึ่งเราคิดว่าเรามีความสามารถ เป็นที่พึ่งของเพื่อน ทำงานตามที่ครูมอบหมายครูก็ชมและรัก เราว่านี่คือสิ่งที่เรามั่นใจว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด
    แต่เขาก็มักจะชอบพูดให้เราทุกครั้ง)
    - มีวาจาดูถูกว่า ผู้หญิงบางคน แค่เขาเลี้ยงน้ำ 1 แก้ว ก็ง่ายไปนอน กับเขา จู่ๆก็ชอบพูดทำนองนี้ขึ้นมา เราจึงบอกว่า นั่นมันแล้วแต่คนแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล คนทุกคนไม่เหมือนกัน ซึ่งเราไม่เคยทำอะไรแบบนั้นไม่เคยเป็นแบบนั้น เพื่อนกันคุยกัน กินจ่ายหารสอง
    - ชอบแนะนำเราให้เข้าหาคนที่รวยคะ ให้เราเอาของกับผู้ชายที่รวย ซึ่งเราไม่เคยคิดที่จะเอาของใครฟรีๆ ถ้าซื้อของต้องจ่ายคืนอยู่แล้ว
    กินข้าวต้องหารสอง ไม่เคยคิดเอาของใครฟรี เขาก็บอกว่า ถ้าคนคนนี้แค่ของฟรียังไม่ให้ จะเลี้ยงเราได้ในอนาคตได้ไง
    เราบอกว่า เราไม่มีความคิดที่จะเอาของใครฟรี เงินตัวเองมีต้องจ่าย ทำแบบนี้มันเหมือนเห็นแก่ตัว
    - ตอนแม่เรารถล้ม มีคนมาบอกเขาว่า แม่เรารถล้ม เขาบอกว่า ล้มได้ก็ลุกได้ให้มันคลานมาเอง แม่เราก็ไป รพ คนเดียว กลับมาคนเดียว
    เขาไม่ไปดูเลยสักนิด
    - เวลาเราป่วย เขาไม่เคยคิดมาเยี่ยมเรา มีแต่แม่เราดูแลเรา มีครั้งนึงมา ก็มาด่าเรากลาง รพ รีบๆหาย อยู่เป็นภาระเขา
    - ณ วันนี้เขาป่วย เขาให้เราพาเขาไป รพ เราจะซื้อข้าวเซเว่นก็ไม่ให้เราซื้อ ต้องกินพร้อมเขาตรวจเสร็จ ซึ่งปาไป 7 ชม. เราก็ไม่ได้ว่าอะไรคะ
    กินน้ำ กินขนม แถวนั่นก็ได้
    - เขาว่าเราโง่ เราไร้ค่า เราคนไม่มีอะไร ทั้งๆที่เขารู้ว่า เพื่อนที่มอเรา หรือ ครูที่มัธยมและมอ ชื่นชมเรา เรื่องเราเป็นคนทำงานขยัน ตามที่ได้รับมอบหมาย
    ช่วยเพื่อน เป็นที่รักของเพื่อน เขาไม่เคยพูดถึงตรงนี้เลยคะ เขามีแต่พูดว่า เรามันไปไม่ถึงไหนหรอก เพื่อนสนิทผู้หญิงที่เราไปด้วยกันเก่งกว่าเราด้วยซ้ำ
    เราสู้เพื่อนไม่ได้ แถม ยังว่า เพื่อนเราคบเราเพราะวิชา ไม่จริงจังด้วย (เรากับเพื่อนช่วยกันเรื่องเรียนมาตลอดคะ เพื่อนถนัดอีกอย่างเราถนัดอีกอย่าง เหมือนเขาอยากให้เราเกลียดเพื่อนเรา จากคำพูด คบเราเพราะวิชา ไม่จริงจังด้วย แต่เพื่อนเราคนนี้ช่วยเหลือเรานอกการเรียนก็มีคะ ดูแลเอาใจใส่ (ผู้หญิงนะ))
    - เธอมันไม่มีอะไร อย่าเอาเลือดชั่วของพ่อแกมาใช้นะ ตระกูลเลว (ไม่เข้าใจว่าพ่อเราไปทำอะไรให้เขา)
    - ชอบดูถูก พ่อกับแม่ เรา ครั้งนึงพ่อเราเอาข้าวเป็นถังมาให้เราที่มอ เขามาเยี่ยม เขาเห็นข้าวสารพ่อของเรา เขาเอาให้ยามบอกว่าเราไม่ต้องกินหรอก
    เดี๋ยวซื้อให้ใหม่ (ซึ่งวันนี้ทุกอย่างมันหมดขีดจำกัดจริงๆ จึงได้ถามเขาว่า ข้าวสารที่พ่อเราเอาให้ ทำไมถึงไม่อยากให้เรากิน ทำไมถึงให้ยาม เขาบอกเราว่า
    ข้าวพ่อเธอมันมีพระคุณมากสินะ เสียดายมากหรอ)

    ณ วันนี้เราได้มาทบทวนและมาคิดดู ทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ ซึ่งเราได้ปรึกษาเพื่อนรอบข้างเพื่อปรับทุกข์
    เราเป็นคนขยัน ตั้งใจรับผิดชอบหน้าที่ ทำไมเขา พูดให้เราแบบนี้ เราไม่อยากเกลียดชังเขา
    เพราะเรา มีเพื่อนที่มอมีแม่มีพ่อมีพี่ที่มอมีครู ชื่นชมเรา แต่มีเขาคนเดียวที่คิดต่างและพูดต่างจากที่เราได้ยินมา
    มันก็อดคิดไม่ได้ว่า ที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะมีเรื่องเบื้องหลังที่เราไม่รู้รึเปล่า
    อาจจะเป็นเรื่องของ พ่อ แม่ และ เขา (เขาโสดคะอายุขึ้นเลข5จะหกแล้ว)
    เพราะก่อนหน้านี้พ่อเราเคยสนิทกับเขามากถึงขั้นไปรับส่งและมีโทรหาหลายครั้ง
    ก็ไม่อาจรู้ เพราะเคยลองถามว่า ทำไมถึงเกลียดโคตรตระกูลพ่อนัก เขาด่าทอเสียหายๆ ในขณะที่เมื่อก่อน
    เขาชื่นชมว่าเก่ง ขยันทำงาน ทำได้ทุกอย่าง
    เรื่องนี้เราเคยได้รู้มาว่า แม่เราเคยถามเขาว่า พี่ต้องการสามีหนูเป็นผ.หรอ ? ซึ่งเขาก็แตกหักกับ แม่และพ่อของเรานับแต่นั้นมา
    เรียกชื่อพ่อเราว่าไอ้ ตลอด แต่ล่าสุดเจอพ่อเรา เขาก็ดูมีน้ำเสียงและแววตาอ่อนลง เรียกชื่อปกติ
    เราเลยคิดว่า มันมีอะไรรึเปล่า ที่เขาเอามาลงกับเราแบบนี้ เราถามแม่ แม่เราบอกว่าเขาเกลียดเราเพราะเราเป็นลูกพ่อหน้าเหมือนพ่อ
    เราเข้าใจว่า ที่เขาบาดหมางกับพ่อเป็นเพราะเรื่อง บ้าน แต่เริ่มมีปากเสียงกับแม่เราเรื่องหลังม้าน เรากลัวว่ามันจะเป็นเรื่องที่เราไม่รู้รึเปล่า
    แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เราไม่อยากให้เขาว่าเราแบบนี้ทุกวันทุกครั้งด้วยน้ำเสียงตะคอกให้อีกหลายบ้านได้ยิน
    เฮ้อ ขออนุญาติให้พื้นที่นี้ปรับทุกข์นะคะ

    รู้สึกทนไม่ไหว โดนญาติด่าและดูถูกทุกเรื่องในชีวิต เขาคิดว่าเราไม่มีอะไรในชีวิตเลย - Pantip

    เจอมาเคสคนอื่น
     
  8. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208


    คุณต้องการให้คุณย่าเป็นอย่างที่ตนปารถนามากไป มันเลยทุกข์มาก ลดความอยากให้ท่านเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ลงก่อนครับ



    ดังนั้นคุณต้องยอมรับความจริงให้ได้ก่อน ดังนี้

    - อันดับแรกเลย คุณต้องยอมรับความจริงให้ได้ก่อนว่า จริตของคุณย่าคุณท่านเป็นอย่างนั้น เป็นมานานก่อนคุณเกิดเสียอีก แล้วคุณเกิดมาตอนท่านอายุเท่าไหร่ ท่านทับถมจริตแบบนั้นมากี่ปี สะสมความคิดนั้นๆมาทับถมใจไปมากมายเท่าไหร่ก่อนที่คุณจะเกิด จนเวลามาถึงปัจจุบัน คุณแค่เพียงโตขึ้นกล่้าพูดกับท่านได้ พูดแค่คำสองคำแต่พูดไม่ถึงใจท่านจะให้ท่านน้อมไปสะสมทำในสัมมาวาจาได้ยังไง
    - อันดับที่สอง ทำความเข้าใจท่าน ท่านได้เจออะไรร้ายๆมามากแค่ไหน อดทนมากเท่าไร ให้ความสำคัญสิ่งนั้นมากขนาดไหน ท่านจึงจดจำ เอาแต่คิดถึงเรื่องนั้นแล้วคอยพร่ำเพ้อกล่าวคำอย่างนั้นๆออกมา
    - อันดับที่สาม ค่อยพูดถามเหตุผลความรู้สึกกับท่าน เพราะคนเราเมื่อมีอายุมากความคิดกับคำพูดมันจะออกมาพร้อมกันไม่มาคอยนั่งคิดทบทวนคำพูดก่อนหรอก บางครั้งเวลาท่านรู้เรื่องนี้ๆแล้วหวนไปนึกสำคัญใจในสิ่งที่ท่านรู้อยู่นั้นๆในทางไม่ดี ในคำลามก ในคำร้ายๆ ท่านก็พูดออกมาอย่างนั้น โดยที่ตัวท่านไม่ได้เจตนาร้ายเลย
    ..เหมือนตัวคุณเองถ้าสำคัญใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าเกลียดเพราะสำคัญว่ามันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อคุณเจอสิ่งนั้นปุ๊ปใจคุณก็จะน้อมไปในความหมายรู้อารมณ์นั้นด้วยความคิดที่ไม่ดีทันที เช่น เกลียดที่ย่าคุณพูด พอเมื่อย่าพูดอะไรออกมาไม่ว่าจะถูกหรือผิด จะเป็นคำพูดสุภาพไม่สุภาพก็ตรามคุณก็จะตั้งแง่เกลียดชังไม่พอใจไว้ก่อนที่จะมาทบทวนดูว่าที่ท่านพูดนั้นมันถูกหรือผิด
    ยกตัวอย่างนะ เรื่องกะละมังที่คุณเอามาแช่ดอกไม้ กะละมังใบนั้นย่าคุณอาจจะเคยเอาผ้าขี้ริ้วลงไปซักก็ได้ท่านเลยบอกคุณอย่างนั้น หรือ เรื่องไปกราบท่านหน้าห้องน้ำ บางครั้งท่านอาจจะเห็นว่าหน้าห้องน้ำมันสกปรก คุณจะสกปรกไปด้วย หรืออาจจะมองว่าไหว้หน้าห้องน้ำมันเป็นสถานที่ทิ้งของเสียมันดูไม่สมกันกับที่คุณตั้งใจจะทำความเคารพท่านเหมือนมันสาดทิ้งเสียไปในห้องน้ำอย่างนี้เป็นต้น น่าจะให้ท่านไปนั่งในที่ๆเหมาะสักที่แล้วคุณค่อยกราบท่านจะดีกว่า คนยิ่งแค่คำพูดท่านจะเหมือนเด็กคือลำดับคำไม่ถูก พูดหยาบโดยใจไม่ได้คิดหยาบแต่นึกคำนั้นๆได้
    ..ที่ผมเข้าใจเรื่องนี้เพราะเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี้ แม่ผมเห็นผมไม่มีกางเกงจะใส่สงสารผมเพราะผมไม่มีเงินจะซื้อ แล้วท่านเห็นว่าลูกชายผมเค้าอ้วนทำให้ใส่กางเกง Size เดียวกับผม เค้ามีกางเกงหลายตัวซึ่งผมซื้อให้เยอะมาก แม้ผมเลยจัดเอากางเกง 2-3 ตัวที่คิดว่าผมใส่ได้พับวางใส่กระเป๋าไว้ให้ผม โดยบอกว่า "กางเกงลูกผม ผมซื้อให้มันหลายตัวแล้ว แม่เอาพับไว้ให้มึงไว้ใส่ในกระเป๋ามึง ลูกมึงมันมีเยอะแล้ว" ซึ่งเป็นกางเกงที่ผมพึ่งซื้อให้ลูกบ้างและซื้อให้นานแล้วก็มี ทีนี้ผมโกรธแม้ใหญ่ทำไมแม่ทำอย่างนี้ เสียใจมากๆๆๆๆๆ ผมซื้อให้ลูกไม่มีเงินอดข้าวหาซื้อให้ลูกเอาเงินให้แม่ เอาเงินให้ลูกกินทำไมแม่ทำกับผมอย่างนี้ ด้วยความไม่เข้าใจแม่ ผมจึงได้ไปคุยกับแม่ในห้องนอนท่านว่าผมโกรธแม่ที่แม่ทำอย่างนี้ทำไมแม่ทำอย่างนี้ พอแม่อธิบายว่า เพราะแม่ห่วงผมและกลัวผมไม่มีเสื้อผ่าจะใส่เพราะเห็นผมใส่แต่กางเกงตัวเดิมๆซักแล้วเปลี่ยนใส่อยู่แค่ 2-3 ตัว รู้ว่าผมไม่มีเงินจึงอยากเอากางเกงของลูกผมซึ่งมีเยอะแล้วให้ผมใส่เปลึ่ยน ผมนี้ร้องไห้เลย กราบเท้าแม่ขอโทษท่านที่คิดอคติกับท่านเพราะไม่รู้เจตนาจริงของท่านทั้งๆที่ท่านหวังดีกับเรา
    - อันดับที่สี่ ถามตัวคุณเองเลยว่า คุณมาเพื่อดูแลท่านหรือมาให้ท่านดูแลคุณ หากคุณมาให่้ท่านดูแลคุณก็ทำตามที่คุณต้องการไป แต่หากคุณมาเพื่อดูแลท่าน..คุณต้องทำทั้ง 3 ข้อข้างต้นนี้ให้แจ้งใจ คือ ยอมรับความจริง เข้าใจท่าน คุยกับท่านด้วยเหตุผลถามความรู้สึกท่าน แล้วอยู่ด้วยความยินดีให้ความสุขเกิดมีขึ้นแก่ย่าคุณ มีความเข้าใจยอมละความขุ่นเคืองใจที่มีต่ออย่าคุณ แล้วแบ่งปันสิ่งที่ดีงามมีประโยชน์ให้แก่ย่าคุณด้วยความเข้าใจเพื่อให้ท่านได้รับความสุขสำเร็จที่ดีงาม พร้อมค่อยๆสนทนาเข้าใจบอกท่านถึง สัมมาวาจาเป็นยังไง เราไม่รู้ว่าเราจะตายวันไหนถ้าเรามีศีลนี่เราจะไปสวรรค์แน่นอนไม่ล่วงสิ่งที่ชั่ว ยินดีให้กำลังใจเมื่อท่านได้ทำสิ่งที่ดีงาม ไม่มีความอคติลำเอียงตั้งแง่กับท่านเพราะรัก เพราะเกลียด เพราะกลัว เพราะไม่รู้ตามจริง

    กระทู้ผมตอบตั้งแต่กระทู้แรก ไม่ได้มาด่า มาว่าคุณ แต่ให้คุณทำความเข้าใจกับท่าน และ ละความขัดเคืองใจต่อท่านไป อย่างไปติดใจข้องแวะอะไรกับท่านจนเกิดไป ก่อนจะเผลอทำอะไรร้ายๆไม่ดีที่เป็นอนันตริยะกรรมต่อท่าน ไม่ว่าจะเป็นการด่า ว่ากล่าว ทำประชด นี่มันนรกเลยนะครับ เหมือนพระโมคคัลลานะท่านเจอ เอาแค่กระทู้ที่คุณโพสท์ว่า "วันสงกรานต์อีกจขกท. กราบท่านหน้าห้องน้ำ ท่านก้อบอกว่านี่มันหน้าห้องน้ำ" ในความหมายอันนี้ของคุณคืออะไร ท่านพึ่งเสร็จธุระออกมาจากห้องน้ำ ท่านยืนอยู่หน้าห้องน้ำแล้วคุณไปกราบท่าน หรือในห้องมีห้องน้ำในตัวดังนั้นเมื่อท่านอยู่จึงตรงกับห้องน้ำ ผมไม่เคยกราบแม้ผมหน้าห้องน้ำนะ ร้านค้าอะไรผมก็กราบแม่ผมก็บอกอายคน ผมก็บอกแม่ว่าทำดีผมไม่อาย ผมจะอายถ้าผมไม่ได้ทำ แต่ไม่เคยกราบแม่หน้าห้องน้ำ ถ้าแม่ผมอยู่ในห้องน้ำจะรอแม่ผมออกมาก่อนแล้วจัดเก้าอี้ให้ท่านนั่งแล้วเอาพวกมาลัยที่แช่น้ำอบลงในขันเงินถือไปกราบท่านพร้อมล้างเท้ากราบเท้าท่าน เอาเท้าท่านขึ้นเหยียบหัว เพราะผมทำแบบนี้ก็ไม่เข้าใจความหมายของคุณที่ไปกราบท่านหน้าห้องน้ำจึงว่าย่าคุณพูดถูกแล้วนี่แล้วอธิบายว่าคนแก่ก็เป็นแบบนี้

    หากไม่เป็นประโยชน์ก็ขอโทษด้วยครับ หากแนะนำอธิบายคุณแล้วคุณยิ่งขึ้น โกรธ โมโห มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะบอกคุณอีก เพราะคุณก็คงไม่เข้าใจพร้อมไม่นำไปใช้แน่นอนจะทำ ผมยังแนะนำคุณที่ยังมีสติดีอยู่ให้เข้าใจไม่ได้ คงไม่มีทางใดที่จะให้คุณไปใช้กับย่าคุณให้เข้าใจและเกิดผลได้ครับ ขออภัยอย่างสูงครับ
     
  9. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    เอากระทู้เขามาโพสท์เยอะๆ จากที่อื่นตอบที่นี่คงไม่มีประโยชน์มั้ง 5555
     
  10. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ที่คุณบอกมาทั้งหมด เคยทำมาหมดแล้วค่ะ แล้วปีนี้พรวดพราดไปหน่อย ไม่ได้ตั้งโต๊ะพิธี เลยอุตริกราบหน้าห้องน้ำซะอย่างงั้น แต่เรื่องกะละมังดิฉันไม่เข้าใจ ความสกปรกจากหม้อที่เคยซักผ้าขี้ริ้วจะไปติดบนดอกไม้ ทำให้การบูชาพระไม่บริสุทธิ์หรืออย่างไร กะละมังดูแล้วว่าสะอาด เรื่องสัมมาวาจาก้อเตือนท่านตลอด แต่สังเกตว่ายิ่งท่านได้ว่าคนอื่นท่านยิ่งมีความสุข พระหลายๆรูปท่านก้อว่า คือท่านสนุกปาก ซึ่งตรงนี้ก้อคงต้องปล่อยเลยตามเลย เพราะที่เราเตือนท่านก้อเพราะไม่อยากให้ท่านเก็บแต่ขยะไว้ในใจ ไม่ได้อยากให้ท่านพูดเพราะ เพราะท่านก้อไม่เคยให้กำลังใจในสิ่งที่ดิฉันทำอยู่แล้ว ขายของก้อบอกว่าไม่มีใครซื้อ ทำงานบริษัทก้อบอกว่าร่วมงานกับคนอื่นเค้าไม่ได้หรอก ฯลฯ ซึ่งตัวอย่างที่ยกมาจากพันทิพ ก้อแค่มาแชร์ถึงความอัดอั้น ไม่ใช่จะย้ำว่าการที่เราต่อว่าท่าน เราทำถูก เพราะตัวอย่าง เช่นกะละมัง และกราบวันสงกรานต์เราอาจผิดจริง แต่จะชี้ว่าท่านเริ่มหลงแล้ว อีกอย่างคุณแม่คุณพ่อก้อไม่ได้ตำหนิใน2ข้อนี้เลย ปีนี้ไม่ได้จัดพิธีให้นั่งโต๊ะให้เรียบร้อย ก้อเข้าไปกราบและให้พวงมาลัยเลย ถ้าแค่2กรณีแล้วจะมองว่าดิฉันเป็นคนไม่ดี ก้ออาจจะถูกก้อได้ ที่ดิฉันไม่สามารถดูแลท่านได้ดีพออย่างที่มาตรฐานสังคมไทยพึงจะกระทำ
     
  11. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    แค่จะแชร์ถึงกรณีคนที่โดนแบบเดียวกันค่ะ และมีความอัดอั้น ไม่รู้จะระบายที่ไหน เพราะพูดไปเราก้อเป็นฝ่ายผิดอยู่ดี เพราะเราอยู่ในฐานะลูกหลาน แล้วที่หัวเราะคืออะไรคะงง จะเยาะเย้ยหรืออะไร
     
  12. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ในเวลาที่ลูกหลานต้องการกำลังใจ แต่ผู้ใหญ่กลับถากถางดูถูกเหยียดหยาม คงไม่มีลูกหลานคนไหนอยากได้ยินและเห็นท่าทีแบบนี้ บางทีคนเป็นลูกหลานก้อต้องมีภูมิต้านทานที่จะไม่รับอะไรที่ไม่สร้างสรรค์แก่ตนเอง
     
  13. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เรื่องคู่ก้อบอกว่าจะไม่ได้คนดี จะได้คนเตะเช้าเตะเย็น ก้อไม่รู้ว่าดิฉันเลวอะไรนักหนา ถามว่าเลวมั้ย ก้อคงเลว เพราะมองแต่ด้านที่เลวของคนอื่น
     
  14. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    อย่าเข้าใจไปว่าดิฉันคิดว่าตัวเองดี เพราะดิฉันเชื่อมาตลอดว่าตัวเองไม่เคยดีพอ คำพูดของย่ายืนยันได้ชัดเจน
     
  15. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
  16. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ย่าผมก็เป็นแบบนี้แหละ
    ตอนนี้เป็นอสุรกายไปละ
     
  17. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    - ของที่จัดทำไหว้พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ต้องแยกต่างหากไม่เอามาปะปนกัน และของต่ำใช้ซักผ้าขี้ริ้วเศษขี้เศษชยะคุณจะเอามาทำไหว้พระ กรรมคุณหนักนะบอกไว้ก่อน มันจะไม่เจริญ ถ้าแก้วไหนใช้ถวายน้ำพระก็ต้องใช้แก้วนั้นตลอด ทำให้สะอาดไม่ใช่ร่วมกับของต่ำ อย่างผมก็ซ์้อแก้วมาเลยใช้ถวายเฉพาะเท่านั้น หรือซื้อน้ำขวดเล็กมาถวายโดยเฉพาะ ไม่เอามาใช้ปนเปื้อนกับอย่างอื่น พระพุทธเจ้าท่านอยู่สูงสุดแล้ว
    - แต่ทำไมเรากินข้าวจานกับพ่อแม่ได้ทั้งๆที่พ่อแม่อยู่สูงกว่าบุตร เพราะเราต่างเป็นปุถุชนเหมือนกัน สมัยเด็กๆพ่อแม่กินข้าวต่อจากเราด้วยซ้ำนั่นเพราะความเมตตากรุณาของพ่อแม่ที่ให้ลูกอิ่มก่อนตนจึงกิน แล้วเราก็ใช้จาน ล้างจานจนสะอาดใช้ร่วมกันมานานตั้งแต่จำความได้แล้ว จึงเป็นเรื่องปรกติ และแม้สมัยคุณเป็นเด็กพ่อแม่ก็ต้องแบ่งแยกจานชามของคุณโดยเฉพาะ ต้มให้สะอาด เอามาใส่ข้าวป้อนคุณกิน ผมเป็นพ่อคนผมจึงรู้ดีในจุดนี้ดี
    - แต่ถ้าอะไรที่เป็นพิเศษเช่นถ้วยชามที่ใช้ไหว้เตี่ยผมซึ่งตายแล้ว ผมก็จะแยกจำเพาะเอาไว้จัดแจงของไหว้ท่านโดยเฉพาะไม่เอามาปะปน หรือ ซื้อถ้วยชามในเซเว่นที่ใช้ครั้งเดียวมาไว้ไหว้เตี่ยผม เพราะผมถือว่า เตี่ยและแม่ผมเป็นพรหม เป็นพระอรหันต์ในบ้าน เป็นผู้ให้กำเนิดร่างกายให้ชีวิต และ บอกโลกนี้แก่ผม ผมจะทำด้วยความเคารพ
    - เพราะมานะทิฐิคุณสูงเกินไป คิดเอาตนเป็นใหญ่และด้วยให้ความเคารพย่าน้อยเกินไปอะไรนิดนึงจึงขัดใจไปหมด คุณลองไปเคารพรักใครสักคนสิ เขาทำอะไรพูดอะไรก็เชื่อก็ศรัทธาเขาไปหมด แต่พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ตนไม่ฟัง ไม่เชื่อ ไม่ใส่ใจ อันนี้คือธรรมชาติของปุถุชน ลองไปคิดดูครับ แม้ขณะที่คุณอ่านข้อความที่ผมโพสท์ไปใจคุณมันก็เร่าร้อนโมโหแล้ว แทนที่จะพิจารณาทบทวนดูคุณและโทษจากสิ่งที่ตนทำเทียบเคียงกับที่ผมบอกไป
    - คุณยังห้ามตนเองไม่ให้โกรธย่าคุณยังไม่ได้ แล้วจะไปห้ามย่าคุณไม่ให้กล่าวคำพูดอกุศลได้ยังไง
    - คุณยังแทบไม่รับคนอื่นที่เขาแนะนำแถมใส่อารมณ์เร่าร้อนด้วยซ้ำ แล้วคุณจะให้ย่าคุณมารับฟังคุณได้ยังไง ขนาดคุณยังไม่รับฟังคนอื่น ย่าบอกดีๆที่ควรที่ถูกกาละเทศะกลับไปแค้นย่าซะงั้น
    - ถ้าไม่มีย่าคุณ พ่อคุณก็ไม่ได้เกิด คุณก็ไม่ได้เกิด เมื่อไม่ได้เกิดในครอบครัวนี้ อาจจะไปเกิดในครอบครังที่ยากลำบากยากอแค้น เกิดเป็นคนไม่ได้ก็ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานไปจนกว่าจะสามารถเกิดเป็นคนได้อีก สมัยคุณแรกเกิด พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายของคุณท่านลำบากอดหลับอดนอนเลี้ยงดูคุณให้นมให้น้ำ ป้อนข้าวยากลำบากมากๆวันๆนึงแทบจะไม่ได้นอน แล้วลำบากตากตรำทำงานเลี้ยงดูคุณจนโต ส่งเรียน ให้เงินใช้กินใช้จ่าย คุณอยากได้อะไรที่จะให้ได้ก็หาให้เต็มที่ ตอนเด็กคุณจะโกรธจะเสียใจเอาแต่ใจตนเองท่านก็คอยเอาใจใส่ ส่งเรียนจนจบ ทำงานได้ ได้สามี มีลูก แต่แค่คุณเลี้ยงย่าที่เป็นบุพการี เลี้ยงพ่อแม่ไม่ได้ชาตินี้จะไปทำอะไรได้อีก
    - ครูผมท่านเป็นพระอรหันต์ท่านเทศนาสอนโดยประมาณว่า ถ้าไม่มีพ่อแม่ให้ร่างกายนี้มาให้จิตเรามาอาศัย ไม่มีพ่อแแม่บุพการีคอยเลี้ยงดูอุ้มชูให้ชีวิต ให้การศึกษา ให้ข้าว ให้น้ำกิน เราก็เกิดก็โตมาเป็นคนในปัจจุบันนี้ไม่ได้ ดังนั้นแล้วหากเลี้ยงดูพ่อแม่บุพการีไม่ได้ ไม่ยอมเลี้ยงดูท่าน เพิกเฉยต่อท่าน ทำร้ายท่าน ว่ากล่าวอันไม่ควรไม่เหมาะสมต่อท่าน หรือตบตีทำร้ายท่านอันนี้มันกรรมหนักนะ อนัตริยะกรรมเลย พ่อแม่ที่ให้กำเนิดตนบุพการีผู้มีคุณต่อตนแท้ๆยังเลี้ยงดูไม่ได้ มันจะไปทำอะไรได้อีกในชาตินี้ ทำอะไรมันก็ไม่เจริญหรอก เสียชาติเกิดเปล่าๆ


    แนงทางแก้ไขของคุณ


    - ตัวคุณก็หัดอยู่คนเดียวให้เป็นไม่ใช่ทิ้งย่าหนีไปอยู่คนเดียวนะ หมายถึงไม่จำเป็นต้องไปปรึกษาใคร ทำใจให้สงบ สงบนิ่งเหมือนเด็กยืนสงบนิ่งหน้าเสาธง ทำใจให้ผ่อนคลาย
    - ระลึกเอาคุณของพระพุทธเจ้าว่า..พระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ด้วยเดชแห่งบุญนั้นขอคุณพระพุทธเจ้าช่วยน้อมนำพาให้คุณถึงความสงบใจจากกิเลสอันเร้าร้อน ร้อนรุ่ม ร้อนรนที่เป็นอยู่นี้ หลุดพ้นจากเพลิงทุกข์อันเร่าร้อนนี้ไป ดับไฟคือกิเลสนี้สิ้นไป แล้วก็หลับตาทำสมาธิรู้ลมหายใจเข้าออก ทำความสงบใจอย่างเดียว ระลึกถึงความว่าง ความสงบ ความไม่มี ความพ้นจากความกำหนัด แสวงหา ความโกรธแค้นขัดเคืองใจ ความลุ่มหลงยึดถือคล้อยตามตัวตนสมมติอันทำให้เกิด ราคะ โทสะทั้งหลายเหล่านี้ แล้วรู้ลมหายใจไปทำความสงบนิ่งไปเรื่อยๆ แล้วมันจะดับไปเอง
    - หากทำแล้วยิ่งปะทุ มันปะทุก็เพราะไปคิดถึงความเจ็บแค้นหรือความกำหนัดในใจนั้นๆ มันจึงร้อนรุ่มเป็นไฟสุมใจไม่หยุด เรียกว่า..หลงสมมติ เพราะติดคิดนั่นเอง คือเอาสิ่งที่ผ่านไปเป็นอดีตไฟแล้วมาเป็นที่ตั้งในใจแล้วปรุงแต่งสร้างเรื่องราวสมมติไปอย่างนั้นอย่างนี้ให้เหมือนเรื่องราวนั้นๆมันกำลังเกิดขึ้นต่อหน้า อันนี้เรียกหลงสมมติ หลงความคิดตนเอง เมื่อเป็นอย่างนี้ให้ถึงคิดว่าขนาดเราก็ติดใคร่เป็น กระสันอยากเป็น โกรธแค้นเป็น ไม่ฟังคนอื่นเป็น ทำผิดที่ผิดทางเป็น เอาแต่ใจตนเองเป็น ดื้อดึงไม่ฟังใครเป็น ในตนมีอย่างนี้ ผู้อื่นก็เป็นอย่างนี้ได้เช่นกัน เพราะเป็นเพียงปุถุชนเหมือนกัน มีใจเข้ายึดครองขันธ์ ๕ คือ ร่างกาย ความรู้สึกในสิ่งที่รู้สัมผัส เจตนาความทำใจต่อสิ่งที่รับรู้กระทบ ความคิด ความรู้เพียงสมมติที่คิด เหมือนกัน ดังนั้นเขาก็ย่อมโลภเป็น รักเป็น กระสันเป็น โกรธเป็น ดื้อดังเป็น ไม่ฟังใครเป็น เอาแต่ใจตนเองเป็น อยากว่ากล่าวติเตียนคนอื่นเป็น ด้วยเหตุดังนี้จึงกล่าวได้ว่า ติดใจข้องแวะติเตียนเขาไปมันก็เหมือนด่าตนเอง เพราะตนเองก็มีก็เป็นอย่างเขาเหมือนกัน ดังนั้นอย่าไปติดใจข้องแวะสิ่งไรๆในโลกเพราะมันหาประโยชน์ใดๆไม่ได้นอกจากทุกข์ ไม่ติดใจข้องแวะสิ่งใดก็ไม่ทุกข์
    - เวลาเมื่อรู้สึกตัวตื่นนอน ให้ทำสมาธิทั้งๆที่นอนนั้นแหบะโดย หายใจเข้าระลึก พุท หายใจออกระลึก โธ ไปเรื่อยๆสัก 5-10 นาที แล้วลุกขึ้น กราบ 5 ครั้ง ระลึกถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่บุพการี ครูบาอาจารย์ แล้วค่อยลุกไปทำกิจธุระ
    - เวลาก่อนนอนก็ให้ทำสมาธิทั้งๆที่นอนนั้นแหบะโดย หายใจเข้าระลึก พุท หายใจออกระลึก โธ ไปเรื่อยๆสัก 5-10 นาที แล้วลุกขึ้น กราบ 5 ครั้ง ระลึกถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่บุพการี ครูบาอาจารย์ แล้วค่อยนอน

    อันนี้ถือว่าผมแบ่งปันแล้วนะครับสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณให้คุณอยู่กับย่าคุณได้อยู่ในโลกที่ทำให้คุณเร่าร้อนได้ แล้วกล่าวให้คุณรับรู้สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่คุณ ถือว่าผมได้แบ่งปันสิ่งดีๆให้แล้วครับ ถ้ามันอัดอั้นใจมากทนไม่ไหวจริง คุณก็แอดไลน์ผมมาพูดคุยด้วยได้ ผมยินดีรับฟังและช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้

    ****แต่จะดีขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่เพราะคุณฟังผม พูดคุยกับผม แต่มันขึ้นอยู่กับกายใจคุณเองว่าจะปล่อยวางได้มากแค่ไหน และ ทำมันให้ดีขึ้นได้ไหม


    ยกตัวอย่างตามกระทู้นี้ วิธีผ่านทุกข์ ซึ่งคุณตั้งเอง แบ่งปันเอง ในวันที่ 11-04-2016, 01:16 PM คุณอ่านรู้เอง แล้วคุณทำหรือยัง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 มิถุนายน 2016
  18. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...