ทำบุญ 10000 บาท กับ ทำบุญ 100 บาท ได้บุญเท่ากันเปล่าครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย noumthebest, 5 สิงหาคม 2012.

  1. noumthebest

    noumthebest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +306
    ทำบุญ 10000 บาท กับ ทำบุญ 100 บาท ได้บุญเท่ากันเปล่าครับ

    พอดีผมไปนั่งเถึยงกับคนที่ทำบุญเยอะกว่านะครับ คือ งี้ครับ ผมบอกว่า พี่จะไปทำบุญหรอ ผมฝากไปทำด้วยซิครับ 100 บาท พี่เเกบอกว่า มีเท่าไหร่ก็ทำไปเถอะ เเต่ทำน้อยก็ได้บุญน้อยนะครับ ผมเลยหมดอารมณ์ไม่ทำเเม่งเเล้ว คือผมมองว่า จำนวนเงินที่ผมจะทำเนี่ย คือผมตั้งใจเเน่วเเน้เเต่ถ้าทำมากกว่านี้ผมรู้สึกว่ามันมากเกินไป คือไม่ก็ไม่มากหรอกเเต่เราคิดว่าเราอยากทำเเค่ 100 เดียวอะ ผมถามผู้รู้หน่อย ครับ ถ้าตายไป ผมทำ 100 เดียวกับ ทำ 10000 เดียว เนี่ยผมต้องอยู่สวรรค์ต่ำชั้นกว่าเค้าใช้เปล่าครับ ถ้าตัวเเปร คือเงินทำบุญ ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2012
  2. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +661
    ไปเถียงให้ตัวเองจิตตกเปล่าๆ เลยอดทำบุญเลย เรียกว่ามีทิฎฐิทั้งคู่
    ไม่เป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย เรารู้ๆกันอยู่ว่าบุญกุศลทั้งหลายทั้งปวง
    เกิดที่เจตนา ก่อน กลาง และหลังทำ เกิดจากความศรัทธา ไม่ใช่ความเชื่อ
    เกิดจากจิตอันเป็นกุศลเพื่อละกิเลส ไม่ใช่เพิ่มกิเลส ถ้ายังทำบุญหวังบุญ
    แล้วต้องเกิด ตายต่อไป นั่นเรียกว่าได้บุญหรือเปล่า อันนี้เราต้องพิจารณาดู
    ________________
    ดูจิต.........ด้วยสติ
     
  3. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    มีปัญญาทำบุญเท่าไหนก็เท่านั้นครับ ทำให้พอเหมาะโดยไม่ต้องเดือนร้อนตัวเองและคนอื่นๆ
    ทำบุญ 100 กับ 10000 ก็ตกนรกได้เหมือนกันครับ
     
  4. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    ทำบุญ 10000 บาท ให้ผู้ไม่มีศีล
    ทำบุญ 100 บาท ให้ผู้มีศีล
    ทำบุญให้ผู้มีศีลได้บุญมากกว่า


    ทำบุญ 10000 บาท ให้ผู้มีศีล เป็นเงินที่ได้มาจากการทุจริต
    ทำบุญ 100 บาท ให้ผู้มีศีล เป็นเงินที่ได้มาอย่างสุจริต
    เงินที่ได้มาอย่างสุจริตให้บุญมากกว่า


    ทำบุญ 10000 บาท ให้ผู้มีศีล เป็นเงินสุจริต แต่ทำแล้วเสียดายเกิดความไม่สบายใจ
    ทำบุญ 100 บาท ให้ผู้มีศีล เป็นเงินสุจริต ทำอย่างพอควร ไม่นึกเีสียดายจิตใจผ่องใส
    ทำอย่างพอสมควรไม่เกิดความเสียดายให้บุญมากกว่า


    สุดท้ายก็ทำบุญแล้วไม่หวังผลของบุญ ทำบุญเพราะเป็นการทำความดี
    ไม่หวังว่าจะได้บุญมากบุญน้อย ทำเพื่อสละความโลภของตัวเอง ให้บุญมากสุด


    คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ล่ะครับ
     
  5. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    การทำบุญ ไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน หรือ จำนวนเงิน อยู่ที่กำลังใจต่างหาก.....


    กำลังใจในการทำบุญ ไม่มีคำว่าเล็กน้อย

    พระอาจารย์ กล่าวถึงเรื่องกำลังใจในการทำบุญว่า "ในเรื่องของกำลังใจในการทำบุญไม่มีคำว่าเล็กน้อย สมัยช่วงพรรษาแรกๆ ที่อาตมาบิณฑบาตอยู่ที่วัดท่าซุง มีบ้านยายอยู่หลังหนึ่ง เขาจะเก็บเอาดอกไม้พื้นๆ อย่างดอกหงอนไก่ ดอกสร้อยทอง ดอกซ่อนกลิ่น แล้วก็เอาใบตองพันเป็นกรวยอย่างดี มาถวายพระทุกวัน

    ความรู้สึกของอาตมาในตอนนั้น ก็คือ เป็นของที่ไม่ได้มีราคาอะไรเลย แต่ก็รับมา เวลาเดินเข้าหอฉัน ก็จะเอาไปไหว้พระตรงศาลาหลวงพ่อสี่พระองค์แล้วเสียบไว้ตรงรั้วศาลา เป็นเครื่องบูชาหลวงพ่อสี่พระองค์ ทำอย่างนี้แต่ใจก็คิดอยู่อย่างเดียวว่า ทำไมยายถวายของอะไรอย่างนี้ได้ทุกวัน ? คนรับรู้สึกรำคาญ ข้าวของก็ไม่ได้มีราคาอะไรสักหน่อย

    ถัดมาเป็นวันปาฏิโมกข์ลงโบสถ์ พอฟังพระปาฏิโมกข์เสร็จมีเวลาเหลือ หลวงพ่อ ก็สรรเสริญเจริญพรด่าซะจมดินไปเลย ท่านบอกว่า "ไอ้พวกที่ไปตีราคากำลังใจคนเป็นตัวเงิน เลวเสียยิ่งกว่าหมาอีก..!

    ถ้า แกไม่ได้บวชเข้ามา ข้าวของแม้แต่ชิ้นเดียวเขาก็ไม่ให้แกหรอก แต่ที่แกบวชเข้ามา ด้วยอาศัยคุณของพระรัตนตรัย ทั้งข้าว ทั้งน้ำ ทั้งผ้าผ่อนท่อนสไบ ทั้งที่อยู่อาศัย ญาติโยมเขาสงเคราะห์ให้หมด เราไม่สามารถจะตีราคาวัตถุเป็นราคาเงินในท้องตลาดได้

    ช้อนคันหนึ่งเราอาจจะซื้อในท้องตลาดสามบาทห้าบาท แต่ พอถวายมาด้วยศรัทธาเป็นเครื่องบูชาคุณพระรัตนตรัย ถวายมาตามคำที่พระพุทธเจ้าท่านสอน อานิสงส์และราคานั้นจะประมาณเป็นตัวเงินไม่ได้แล้ว ใครที่ยังเอากำลังใจต่ำๆ ของตัวเองไปประเมินราคาของๆ คน โดยที่คิดว่า เป็นของที่ไม่มีราคา ให้รู้ด้วยว่านั่นเป็นกำลังใจของสัตว์นรก..!"

    "วันรุ่งขึ้นพอบิณฑบาต เห็นยายแล้วแทบจะกระโดดอุ้มเลย รีบๆ ส่งดอกไม้มาเลยยาย อาตมาจะรีบรับ..! เพราะฉะนั้น..ใน เรื่องของกำลังใจในการทำบุญ เราจะวัดเป็นราคาหรือเป็นตัวเงินไม่ได้ เพราะคุณของพระพุทธ คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ เราไม่สามารถที่จะประมาณได้

    บาลีท่านบอกว่า พุทโธ อัปปมาโณ ธัมโม อัปปมาโณ สังโฆ อัปปมาโณ คุณของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ ไม่มีที่จะประมาณได้ เปรียบอย่างไรก็เปรียบไม่ได้

    ในเมื่อเป็นดังนั้น สิ่งที่เขาตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย จึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ถ้าเกิดว่าเขามีอันเป็นไป ได้ไปอยู่ข้างบน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะกลายเป็นทิพย์สมบัติที่คิดเป็นราคาในโลกมนุษย์ไม่ได้

    เพราะฉะนั้น..ในส่วนของอริยทรัพย์จะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าสายตา ทั่วๆ ไปจะเห็นและคิดถึง ถ้าหลวงพ่อท่านไม่เมตตาด่า อาตมาก็ยังคงคิดชั่วๆ อยู่เหมือนเดิม"



    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔





    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=2399&page=5
     
  6. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    เสียดายจริงๆ... เสียโอกาสในการทำความดีไป
    เรื่องบุญนี่ ก็ตามที่ท่านอื่นๆ ได้กล่าวมาแล้วนะครับ มันมีหลายปัจจัย
    และ บุญนี้ ก็สำเร็จที่ใจ ต่อให้ปัจจัยอื่นๆ เหมือนกัน ทำบุญกับพระ หรือ วัด หรือ คน คนเดียวกัน แต่จิตของคนทำขณะทำบุญ บริสุทธิ์ต่างกัน เงินไม่เท่ากัน ก็ได้บุญเท่ากันได้ และ เงินเท่ากัน ก็ได้บุญไม่เท่ากันได้นะ

    คราวหน้าแก้ตัวใหม่นะครับ ตั้งกำลังใจเสียใหม่ บุญนี้ สำเร็จที่ใจ ตอนทำบุญทำใจให้บริสุทธิ์ แล้วก็ทำไปเลย มากน้อย ไม่สำคัญเท่าใจ

    มีน้อยอย่าทำมาก มีมากอย่าทำน้อย

    เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ที่เขาบอกว่า นิวรณ์ คือ อุปสรรคเครื่องกั้นความดี
    โดนพยาบาทนิวรณ์เข้าแทรก ทำให้อดสร้างบุญ...
     
  7. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    ผมคิดว่าตัวแปรที่จะทำให้ได้บุญมากหรือน้อยมีหลายอย่างนะคับ ไ้ด้แก่
    1. ที่มาของเงินที่ใช้ทำบุญ ได้มาสุจริตหรือไม่ เบียดเบียนใครเค้ามาหรือปล่าว

    2. ความประณีตของอามิสทาน เป็นสามีทานหรือปล่าว

    3. เจตนาในการทำบุญ ทำเพื่ออะไร เช่น ทำเพราะหวังในผลบุญนั้น ได้บุญน้อยสุด ทำเพราะคิดว่าเป็นการกระทำความดี ทำเพราะคิดว่าสมณะชีพราหมณ์ ไม่มีเงิน เราต้องช่วย ทำเพราะปู่ย่าตาทวดทำกันมา เราเลยต้องทำ หรือทำเพราคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ใจเราผ่องแผ้ว

    4. เนื้อนาบุญ คือใคร สัตว์เดรัจฉาน คนทุศีล สมมติสงฆ์ พระอริยเจ้า พระพุทธเจ้า สังฆทานอันมีพระพุทธเจ้า้เป็นประธาน วิหารทาน

    5.ความรู้สึกปิติในการทำบุญ ตั้งแต่ก่อนทำ ขณะทำ หลังทำ มีครบทั้ง 3 วาระหรือปล่าว

    6.จำนวนเงินที่ใ้ช้ทำบุญ

    ถ้าเรา Assume ว่า ตัวแปรที่ 1-5 เท่ากันทุกประการเลยนะ
    ตัวแปรที่ 6 ก็คือจำนวนเงินจะเป็นตัวกำหนดว่าจะได้บุญมากหรือปล่าว
     
  8. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    การทำบุญสำคัญที่ใจกำกับครับ มิได้เกี่ยวกับมูลค่าทรัพย์สินเงินทอง
    แต่ทรัพย์ที่หามาทำบุญนั้นต้องบริสุทธิ์ มีเจตนาเพื่อส่งเสริม สืบสาน บวรพระพุทธศาสนาให้สืบทอดต่อไป โดยมิหวังผลใดๆตอบแทน ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังจากทำแล้ว
     
  9. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    สลึงนึง ก็ทำได้ หากเป็นทานที่มาจากใจบริสุทธิ์จริง นั้นล่ะคือ อนิสงค์แท้
    เดี๋ยวนี้มีคนอายและหมิ่นตัวเองกันเยอะ คุณ 100 เหรอ อ่ะผมให้ 200 ประมาณนี้
    แต่วันนั้นทั้งวันไม่มีเงินกินข้าว หมดไปกับทาน ถามว่า สุขจริงไหม
    บางคนจะปิดซองที แอบแล้วแอบอีก กลัวคนอื่นรู้ว่าทำน้อย มันสุขไหม
    ใจครับ ถึงไม่มีเงินบริจาคนะ แค่ส่งใจร่วมอนุโมทนาบุญด้วย ก็เกิด อนิสงค์ครับ
    พระคถาคตไม่ได้สอนให้เราเป็นคนตะหนี่ จนเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น
     
  10. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ถูกต้องที่สุด สลึงนึงก็ทำได้
    หากเป็นเงินที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องอายใคร
    ถ้าจะทำบุญ เงินมาก เงินน้อย ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
    กำลังใจต่างหาก สำคัญ
     
  11. MaximusDeximus

    MaximusDeximus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +117
    เป็นความเห็นที่ชัดเจนตามพระไตรปิฎกครับ ใช้หลักพิจารณาตามนี้ละครับ

    เสริมนิดนึง

    ทานนั้น "สิ่งสำคัญ" คือการ "ตัด" ความหวงแหนในทรัพย์ครับ หากทำอย่างนี้ไม่ได้การจะทำทานให้ถูกตามหลักก็เป็นไปไม่ได้ ยิ่งทรัพย์มีค่ามากความ "หวง" ก็มากด้วย
     
  12. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ======

    ขออธิบายเสริมนะครับ
    การละความตระหนี่ถี่เหนียวได้ ย่อมเป็นกุศลแก่ตนเองด้วยเพราะละกิเลสได้
    มากขึ้น
    การให้ทานมีอานิสงค์ตามที่กล่าวมา ย่อมได้บุญ คือมีความสุขใจเบื้องต้น
    ส่วนวิบากกรรมหรือผลที่จะได้รับ เมื่อถึงกาลอันเหมาะสมบุญนี้จะให้ผล
    แก่เรา การให้ผลจะแตกต่างกันนะครับ ขึ้นอยู่กับว่า

    1เงินที่เราให้ทานนั้น เราได้เงินนั้นมาอย่างไร บริสุทธิ์หรือไม่ เหนื่อยยากลำบากแค่ไหน ยิ่งบริสุทธิ์ และเหนื่อยยากลำบากมาก ก็ย่อมมีอานิสงค์มาก

    2ผู้รับเงินเราไปแล้วเอาไปทำประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดประโยชน์มากเราก็จะได้รับผล อันเกิดประโยชน์แก่เรามากด้วยเช่นกัน คำว่าเกิดประโยชน์นี่ให้หมายรวมถึงวัตถุที่เจริญรุ่งเรื่อง และจิตใจที่เจริญก้าวหน้าคือช่วยให้เขาเข้าถึงธรรมละกิเลสได้มากขึ้น ก็จะมีอานิสงค์มากตามมานะครับ เพราะอย่าลืมว่าทานที่เราให้ไป อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมในการสร้างสาธารณประโยชน์และพร้อมกับช่วยให้คนได้ปฏิบัตืธรรมและหลุดพ้นจากกิเลสได้ ย่อมมีอานิสงค์มากมายครับ
     
  13. korakots14

    korakots14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +872
    ตกลงคนถามต้องการรู้เฉพาะตัวแปรเงินอย่างเดียวหรือเปล่านี่ถ้าตัวแปรเงินอย่างเดียวทำมากย่อมได้มาก
    ถ้ามีตัวแปรอื่นเช่นเจตนาด้วยก็อีกเรื่อง. ทำหมื่นบาทเจตนาอยากได้บุญกับไม่ทำไม่เอาหรอกบุญทำหมื่นบาทดีกว่า
     
  14. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    สั้นๆ

    คุณทำบุญ 100 บาท ทำได้ครั้งเดียว

    กับคนทำบุญ 10000 บาท ทำครั้งละ 100 ได้ ทำบุญ 100 ครั้ง

    คุณ จขกท คิดว่า บุญ ใคร ได้มากกว่ากัน


    หรือเอาใหม่


    คุณทำบุญ 100 บาท เลี้ยงพระ ได้ 1 รูป

    กับคนทำบุญ 10000 บาท เลี้ยงพระได้ 100 รูป

    คุณ จขกท คิดว่า ใครได้บุญมากกว่ากัน


    หรือ ตัวอย่างสุดท้ายละ

    คุณทำบุญ 100 บาท ไปใช้สร้างวิหารทาน

    กับคนทำบุญ 10000 บาท ไปสร้างวิหารทาน ได้ 1 หลัง

    คุณคิดว่าใครได้บุญมากกว่ากันครับ


    โปรดใช้ ปัญญา ในการ พิจารณา ครับ



    ไอ้การ ยกเรื่อง คนรวย กับ คนจน ทำบุญ 1 บาท นั้น

    เค้าเปรียบเทียบ คนที่ มีกำลังใจ ทำบุญ ด้วยความ ถวายมาด้วยศรัทธา ครับ

    ถ้าคนทำบุญ 1 บาท ทำด้วยความ ศรัทธา

    กับคนทำบุญ 10000 บาท แต่ไม่มีความ ศรัทธา

    บุญ อนิสงค์ คนทำ 1 บาท ก็ย่อม มากกว่าคนทำ 10000 บาท



    แต่ถ้าคน ทำบุญ 100 บาท มี ศรัทธา

    คนทำบุญ 10000 บาท ก็มี ศรัทธา


    คนที่ทำบุญมากกว่า ก็ย่อม ได้รับผล บุญ มากกว่านั้นเอง


    เป็นไปตาม จริง ของ ผล นั้นๆ ครับ


    ไม่ใช่ ประเภท ที่ว่า ตูมี 100 บาท ทำครั้งเดียว ตูก็ได้บุญ เท่าคนทำบุญ 10000 บาท


    ทำอะไร ก็ต้องว่ากันด้วย หลักฐาน ตามความเป็น จริง ของเหตุผล นั้นๆ ครับ จขกท


    .

    คนที่ทำบุญ เยอะครั้งกว่า ทำบุญ บ่อยๆกว่า ทำบุญ มากกว่า ก็ย่อมได้รับผล มากกว่า

    คนที่ทำบุญ น้อยครั้งกว่า ทำบุญ ไม่บ่อย ก็ย่อมได้รับผลบุญ น้อยกว่านั้นเอง


    .
     
  15. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ไม่ต้องลงทุนด้วยเงินก็ได้ครับ ทำบุญอยู่ที่ใจ

    ทำหมื่นหนึ่งแล้วมามีความคิดแบบนี้ กับ คนที่มีรายได้วันละ 20 บาท ทำ 1 บาท แต่คิดว่าเป็นทานบารมี เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆะบูชา เพื่อสละกิเลสที่ชื่อว่าความโลภ อย่างงี้ 1 บาทได้มากกว่า 1 หมื่น

    ไม่ต้องทำบุญ เห็นคนอื่นทำ แล้วโมทนาก็ได้บุญครับ
     
  16. เอ คอร์

    เอ คอร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +30
    กระทู้นี้มีประโยชน์คงไม่ข้องใจ ผมตาสว่างแล้วขอบคุณทั้งคนตอบและเจ้าของกระทู้ครับ
     
  17. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    "เด็กน้อยหยอดเหรียญ 10 ลงกล่อง เสียงดังก้องถึงสวรรค์

    พ่อกำนัลหยอดแบงค์พัน เสียงนั้นเงียบกริบไร้สำเนียง..."

    ประโยคนี้ผมจำได้ขึ้นใจ แต่กลับจำไม่ได้ว่าไปได้ยินมาจากที่ไหน แต่มันก็เป็นเรื่องจริงครับ การทำบุญ ขอเพียงทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ ใจที่ให้โดยไม่คิดหวังสิ่งใดตอบแทน ไม่หวังรางวัล ไม่หวังคำชม ไม่หวังเอาหน้า ไม่หวังให้ชื่อตัวเอง เข้าไปอยู่ในรายนามบริจาค นี่แหละได้บุญมากมายจริงๆ แต่กับการทำบุญที่หวังเอาหน้า อยากให้คนชื่นชม นั่นแหละ ต่อให้บริจาคเป็นล้าน ผลบุญก็แทบไม่เหลือเลย เพราะจิตนั้นเป็นไปด้วยอกุศล หวังลาภ หวังยศ ยึดติดอยู่กับคำว่าชื่อเสียง บริจาคมาก บริจาคน้อย อยู่ที่ใจล้วนๆครับ ไม่มีหรอกครับ บริจาคน้อย ได้บุญน้อย บุญนะครับไม่ใช่แต้ม 7-11 ที่จะวัดกันเป็นบริมาณ ซื้อครบ 100 บาท จะได้ 1000 แต้มน่ะ บุญ ย่อมเกิดจากใจที่เป็นบุญครับ ^__^

    ปล.ครั้งหน้าแก้ตัวใหม่เนาะ เขามาบอกบุญอีก ก็บอกไปเลยครับ "ผมทำเท่านี้นะครับ เพราะเงินจำนวนนี้ มันไม่เดือดร้อนกระเป๋าผม" แล้วก็ยิ้มเข้าไว้ เขาจะเหยียดเรายังไง ขอให้ระลึกไว้ในใจเถอะว่า "Let it be~~" 5555+
     
  18. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ======

    ขอชื่นชมและเห็นด้วยกับการยกตัวอย่างเปรียบเทียบในหลากหลายแง่มุมครับ
    ผู้ที่มีปัญญา ย่อมพิจารณาในเหตุปัจจัยทั้งปวง แล้ว ย่อมสามารถพิจารณาในผลที่จะได้รับได้ เป็น แน่แท้ไม่เป็นอื่น เราชาวพุทธควรละเอียดรอบคอบไม่ประมาทในการทำบุญนะครับ ขออนุโมทนาครับ
     
  19. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    เคยได้ยินมาว่าศูนย์ไม่มีค่า
    1 บาท
    100 บาท
    10000 บาท
    สุดท้ายมันก็เป็น หนึ่ง

    มันอยู่ที่กำลังทรัพย์
    ส่วนผลลัพธ์เหมือนกัน*

    (*เหมือนในที่นี้มิได้เท่ากับหนึ่ง)

    บุญมันแบ่งเกรดกันไม่ได้

    หากทำมากเพื่อต้องการเอาหน้านั่นก็ต่างแล้ว
     
  20. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ในจุดนี้เราต้องตีโจทย์ของ จขกท. ให้แตกครับ เพราะบางท่านอาจอ่านไม่จบ หรืออาจอ่านเพียงบางส่วนเท่านั้น (บางคนอาจถึงขั้นอ่านเพียงหัวข้อด้วยซ้ำ) คือประเด็นมันอยู่ที่ว่า คุณ จขกท. จะฝากคนรู้จักไปทำบุญ 100 บาท แล้วคนๆนั้นบอกว่า "ทำเท่าไหร่ก็ทำไปเถอะ แต่ทำน้อยก็ได้บุญน้อยนะ" ในข้อนี้ผมได้ตอบไปก่อนหน้านี้แล้วครับ ส่วนคำถามที่คุณ จขกท. นั้นถาม (ซึ่งเนี่ย คือคำถาม) เขาถามว่า

    "ผมถามผู้รู้หน่อย ครับ ถ้าตายไป ผมทำ 100 เดียวกับ ทำ 10000 เดียว เนี่ยผมต้องอยู่สวรรค์ต่ำชั้นกว่าเค้าใช้เปล่าครับ ถ้าตัวเเปร คือเงินทำบุญ ขอบคุณครับ"

    นี่แหละครับ คือคำถามเดียวที่คุณ จขกท. สงสัย... แต่คือ~ มันไม่มีสวรรค์ชั้นที่ต่ำกว่า ของคนที่มีศรัทธาที่เท่าเทียม แต่ทำด้วยจำนวนเงินที่ต่างกันหรอกนะครับ จริงอยู่ครับที่เงิน 10,000 ถ้าทำด้วยศรัทธาที่จริงแท้ ย่อมได้มาซึ่งผลบุญอันดี แต่ในที่นี้ผมมั่นใจว่าคุณ จขกท. กำลังหมายถึง "คนที่ทำบุญด้วยจำนวนเงินเยอะๆ เพื่อเอาหน้า" แน่ๆครับ... ดังนั้นขอตอบแบบไม่เกรงใจกันเลยนะครับว่า

    100 ที่ให้ด้วยใจจริงๆ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย นั้นย่อมได้ผลบุญที่ดีกว่า การทำด้วยเงิน 10,000 เพื่อโชว์พาวน์ แล้วคิดว่าข้าเนี่ยทำเต็มที่ ข้าเนี่ยเจ๋ง ข้ารวยกว่า ข้าทำเยอะกว่า "ข้าบุญเยอะกว่า!!!" ซึ่งนั่นได้บุญน้อยนะครับ ระลึกไว้เถอะว่า "เขาทำเยอะเพื่อเอาหน้า ก็ไม่ได้ทำให้ป้าเขาบินได้" ไม่ได้วิเศษอะไรเลยครับ ทางกลับกันซะอีก เงินที่เขาทำบุญไปเกินนั้น เขาอาจต้องใช้กระทันหัน แล้วสุดท้ายก็ไม่มีไปจ่าย เช่น กลับจากทำบุญ ดันโดนหมาวัดฟัดแขนขาด หรือโดนเมียฟาดหน้าด้วยกาละมังจนดั้งแตก ทีนี้ทำไงครับ? 10,000 ไปแว้ว..ว..ว..ว จะไปขอคืนเหรอ ไปบอกกับหลวงพ่อว่า "ขอคืนก่อน" เหรอ? เป็น ไป บ่ ได้...

    แต่ถ้าคนทำบุญ 100 กับ 10,000 เขาทำด้วยใจเหมือนกัน ศรัทธาเท่าเทียมกัน 100 หรือ 10,000 นั้น ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเรื่องกำลังทรัพย์ใช้จ่าย ไม่ทำให้ตัวเองและคนรอบข้างเป็นทุกข์ ไม่ใช่เงินสกปรก ที่ได้มาอย่างซิหมิง แน่นอนว่าเขาทั้งสองย่อมได้ผลบุญที่ดีเช่นเดียวกันครับ แต่ถ้าถามว่า "ใครได้บุญมากกว่า" มันก็ต้องได้เท่ากันสิครับ...

    คิดง่ายๆ ถ้าคุณจะตีเกราะ +13 คุณจะใช้เพชรมากกว่ากันก็หาไม่ มันก็ต้องใช้เพชรม่วง และพูจำนวนเท่ากันวันยันค่ำ ต่อให้เป็น +13 Full Option อีก มันก็มีขีดจำกัดของการใส่เพชร ไม่ว่าคุณจะซื้อเพชรมาในราคาไหน สุดท้ายมันก็ยัดเพชรไปได้แค่เท่านั้นเหมือนกัน เว้นซะแต่ว่ายัดไปแล้วไม่ติดมันคนละเรื่องเลยนะ... ซึ่งโดยรวมแล้วก็ใช้ ม่วง 6 เม็ด พูอีก 3 เม็ดเพื่อ +9 แล้วค่อยไปตีเสริมต่อ สุดท้ายมันก็ใช้ปริมาณเท่ากันอยู่ดี ((เห็นมั๊ยการเล่นเกมไม่ใช่ผลเสียเสมอไป อิอิ)) แต่ในการทำบุญนั้น เราต้องดูที่การปฏิบัติตนด้วย เพราะทานบารมีไม่ใช่บารมีเดียวที่จะทำได้ อีกคนอาจมีศีลบารมี สมถะบารมี ฯลฯ ที่แตกต่างกัน และคำว่า ทานบารมี ก็ไม่ได้จำเพาะว่าต้องเกิดจากการบริจาคทรัพย์เพียงอย่างเดียว ไหนจะการบริจาคสิ่งของเป็นทาน ไหนจะการให้ธรรมะเป็นทาน ฯลฯ ป๊าด..ด..ด..ด เยอะแยะเหมือนแป๊ะขายถั่ว!! ดังนั้น อย่าคิดมากเลยคุณ จขกท. ทำ เท่าที่เรามี อย่าได้แคร์สื่อใดๆ ทำใจให้สบายๆ แล้วผลบุญจะอร่อยไปตราบนานเท่านาน ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...