ธรรมะ จากเพจ พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย สายหลวงปู่มั่น, 4 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  2. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  3. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  4. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  5. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  6. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  7. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  8. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    1f341.png ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี
    พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า 1f341.png

    ขอให้ท่านทั้งหลายได้พินิจพิจารณา พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เอก เราจะไปหาพระพุทธเจ้าองค์ไหนอีก มาแข่งพระศาสดาของเราไม่มีในโลกนี้ ที่ตรัสไว้ชอบแล้วที่สุดแล้วเวลานี้ ศาสดาองค์เอกที่บริสุทธิ์สุดส่วนแล้วคือพระพุทธเจ้า สอนจนกระทั่งเป็นสาวกขึ้นมา เป็นอรหัตอรหันต์วิเศษด้วยกันทั้งนั้นๆ แล้วมาสอนพวกเราก็ให้เป็นคนดิบคนดีจนถึงขั้นวิเศษด้วยกัน อย่าปล่อยอย่าวางคำสอนพระพุทธเจ้านะ นอกนั้นมีแต่สิ่งที่หลอกลวงต้มตุ๋นทั้งนั้น ขอให้พากันพินิจพิจารณาให้ดี

    พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมพระวันเข้าพรรษา ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อค่ำวันที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
    นักปฏิบัติให้ยึดการพิจารณาร่างกายเป็นหลัก
    พระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล
    www.luangta.com

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  9. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  10. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ผู้พิพากษาที่ยุติธรรมที่สุด
    คือ ” กรรม ”
    ไม่ใช่ ” มนุษย์ ” หรือ ” สัตว์ ” ตนใด
    ใครทำกรรมอันใดไว้
    ย่อมได้รับ ” ผล ” ของ “กรรม “นั้นๆ

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  11. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  12. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราว
    จำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก
    ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะ
    นึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิด
    ทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลัง
    พระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์
    ไม่ได้…”

    พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จ
    พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

    สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
    อันเปี่ยมล้นหาที่สุดมิได้
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

    1505621106_282_การปิดทองหลังพระนั้น-เ.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  13. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  14. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    เมืองไทย..เมืองของพระโพธิสัตว์ เกิดมาบำเพ็ญสร้างบารมี และอานิสงส์ของการเป็นพระนิยตโพธิสัตว์ ”

    “ บารมี ๑๐ ทัศของพระพุทธเจ้าของเราองค์ปัจจุบัน ท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธัมโม)ได้บอกกล่าวไว้ว่า…… ”

    – ทานบารมี เสวยพระชาติเป็น พระเวสสันดร อยู่มหาชัย จำปาศักดิ์

    – ศีลบารมี เสวยพระชาติเป็น พญานาคเผือกภูริทัตต์ อยู่อำเภอจอมทอง เชียงใหม่

    – เนกขัมมบารมี เสวยพระชาติเป็น เตมียะใบ้ อยู่เมืองพาราณสี

    – ปัญญาบารมี เสวยพระชาติเป็นมโหสถ กรุงเทวหะ

    – วิริยบารมี เสวยพระชาติเป็น มหาชนกตกน้ำ ว่ายน้ำอยู่กลางทะเล ๗ มื้อ ๗ คืน เป็นไทเงี้ยว

    – ขันติบารมี เสวยพระชาติเป็นจันทกุมาร เมืองญวน ตุมวังฟ้ารอนหาด ตังเง้ชายง่วนเดี่ยว

    – สัจจบารมี เสวยพระชาติเป็นวิธุรบัณฑิต จังหวัดสุโขทัย

    – อธิษฐานบารมี เสวยพระชาติเป็น เนมิราช เมืองม่านอ่างวะหงสา

    – เมตตาบารมี เสวยพระชาติเป็น สุวรรณสาม จังหวัดอุตรดิตถ์

    – อุเปกขาบารมี เสวยพระชาติเป็น พรหมนารท กรุงกบิลพัสดุ์

    อย่าสงสัย ด้วยเหตุนี้เองศาสนาพุทธยังย้ายมาอยู่เมืองไทยตั้งมั่นอยู่ได้…

    ชาติที่เกิดเป็นนกยูงทอง ก็อยู่วัดพระเจ้าน้ำโมง ท่าบ่อ หนองคาย

    ชาติที่เกิดเป็นพญาลิงเผือก ก็อยู่วัดหินหมากเป้ง หนองคาย

    ชาติที่เกิดเป็นนกคุ่มเท่าดุมเกวียน ก็อยู่ธาตุพนม นครพนม

    ชาติที่เกิดเป็นช้างฉัททันต์ก็อยู่เขานกกระแซว ระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์กับ จังหวัดสุโขทัย

    ชาติที่เกิดเป็นกษัตริย์ นางพิมพาเกิดเป็นกินรี พระธาตุลำปางหลวง อยู่เมืองลำปาง

    ชาติที่เกิดเป็นพญากระต่าย ” สสบัณฑิต ” ให้ทานเนื้อ โดนเข้ากองไฟให้พรามณ์ (พระอินทรธิราชแปลงกาย) ก็อยู่วัดป่าบ้านห้วยทราย นี่ล่ะ หลายภพหลายชาติก็อยู่เมืองเหนือ…

    “…บำเพ็ญบารมีเกิดตายในเมืองไทยนี้มากนะ พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ปัจจุบันนี้…เมืองไทยจึงเป็นเมืองของพระโพธิสัตว์เกิดมาบำเพ็ญบารมี ”…

    ” และอานิสงส์ของการเป็นพระนิยตโพธิสัตว์ ”

    คัมภีร์วิสุทธชนวิลาสินี กล่าวว่าพระนิยตโพธิสัตว์ (ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว) จะได้อานิสงค์ ๑๘ อย่างอยู่ตลอดจนได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้

    ๑. ไม่ตาบอด หูหนวก มาแต่กำเนิด

    ๒. ไม่เป็นคนบ้า

    ๓. ไม่เป็นคนใบ้

    ๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย ไม่เกิดในมิลักขประเทศคือประเทศป่าเถื่อน

    ๕. ไม่เกิดในท้องนางทาส (ไม่เป็นทาสในเรือนเบี้ย)

    ๖. ไม่เป็นนิยตมิจฉาทิฐิ

    ๗. ไม่เปลี่ยนแปลงเพศ

    ๘. ไม่ทำอนันตริยกรรม

    ๙. ไม่เป็นโรคเรื้อน

    ๑๐. ไม่เป็นเดรัจฉานที่มีกายเล็กกว่านกกระจาบ และไม่โตกว่าช้าง

    ๑๑. ไม่เกิดเป็นขุปปิปาสิกเปรตและนิชฌานตัณหิกเปรต

    ๑๒. ไม่เกิดเป็นกาลกัญชิกาสูร

    ๑๓. ไม่เกิดในอเวจีนรก

    ๑๔. ไม่เกิดในโลกันตริกนรก

    ๑๕. ไม่เกิดเป็นมาร

    ๑๖. ไม่เกิดในอสัญญสัตตาภูมิ

    ๑๗. ไม่เกิดในพรหมสุทธาวาสภูมิ

    ๑๘. ไม่เกิดในอรูปภูมิและไม่เกิดในจักรวาลอื่น

    ” จริยธรรม ๑๐ ประการของพระโพธิสัตว์ ” ประกอบด้วย

    ๑. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า ร่างกายจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ

    ๒. พระโพธิสัตว์ ครองชีพโดยไม่ปรารถนาว่าจะไม่มีภัยอันตราย

    ๓. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีอุปสรรคในการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์

    ๔. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีมารขัดขวางการปฏิบัติภารกิจ

    ๕. พระโพธิสัตว์ ถือว่าทำงานให้นานที่สุด โดยไม่ปรารถนาจะให้สำเร็จผลเร็ว

    ๖. พระโพธิสัตว์ คบเพื่อน โดยไม่ปรารถนาจะได้รับผลประโยชน์จากเพื่อน

    ๗. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาว่า จะให้คนอื่นต้องตามใจตนเองเสมอไปทุกอย่าง

    ๘. พระโพธิสัตว์ ทำความดีกับคนอื่น โดยไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทน

    ๙. พระโพธิสัตว์ เห็นลาภแล้ว ไม่ปรารถนาว่าจะได้รับ

    ๑๐. พระโพธิสัตว์ เมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ติเตียนนินทาแล้ว ไม่ปรารถนาที่จะตอบโต้

    ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม(วัดหนองน่อง) บ.ห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    และ คัมภีร์วิสุทธชนวิลาสินี กล่าวถึงพระนิยตโพธิสัตว์ (ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว) และจริยธรรม ๑๐ ประการของพระโพธิสัตว์

    ๑๗ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของภาพวาดลายเส้นนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    1505641593_590_เมืองไทย-เมืองของพระโพธ.jpg
    1505641593_865_เมืองไทย-เมืองของพระโพธ.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  15. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…ใจให้เป็นความดี วาจาให้เป็นความดี

    กายให้เป็นความดี ให้มีสติยับยั้งดีชั่วของตน

    จิตใจนี้เป็นอยู่กับเรามานานแล้วนับแต่อเนกชาติ

    เศร้าหมองก็เป็น แจ่มใสก็เป็น จึงว่าให้อบรม

    ให้รักษา ให้สะอาดให้ผ่องใส ทำดีอย่าขี้คร้าน …”

    โอวาทธรรมองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม(วัดหนองน่อง) บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    ๑๗ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของภาพถ่ายนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    1505637846_987_ใจให้เป็นความดี-วาจาให.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  16. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “….อย่าพากันเล่นมากนะ ครูบาอาจารย์เหลือน้อยลงทุกทีแล้วนะฝ่ายปฏิบัติ

    สักหน่อยมันก็จะเป็นทางโลกไปหมดแล้วนะ

    อย่างหลวงปู่มั่น (ภูริทัตโต) ท่านได้ทำนายไว้แล้วนะเรื่องศาสนาว่า

    “ วัดป่ามันจะกลายเป็นวัดบ้าน วัดบ้านจะกลายเป็นคนตาย

    คนตายจะกลายเป็นบ้า ” ท่านทำนายไว้หมดแล้วนะ…

    เดี๋ยวนี้ดูสิโลกมันร้อนมากนะ พอได้เข้าหาพระหาเจ้า

    พอได้เห็นครูบาอาจารย์ จิตใจมันก็สบาย

    ดูซิ คนได้เข้าหาครูบาอาจารย์ มันก็สบายเย็นใจ

    แค่เห็นวัดเท่านั้นแหละ เห็นกริยามารยาทของครูบาอาจารย์

    จิตมันก็สงบสบาย ถ้าได้ออกไปทางโลก

    เดี๋ยวก็วิ่งกลับมาทางธรรมอีก เป็นอยู่อย่างนั้นสังเกตดูซิ

    ถ้าใจมันไม่ร้อน ไม่วิ่งกลับมาหรอก วุ่นวายมากนะสมัยนี้

    ความเจริญกับความเสื่อมอยู่ด้วยกันนะ จะไปอะไรมากมาย

    แต่ขนาดครอบครัวก็แย่งชิงกันเป็นใหญ่ในบ้านแล้ว

    เรื่องเป็นเจ้าเป็นนายก็เหมือนกันนะ แย่งชิงเก้าอี้

    เพื่อความเป็นใหญ่กันอยู่นั้นแหละ สักหน่อยก็ปลดออกจากตำแหน่ง

    สักหน่อยก็แต่งตั้งขึ้นใหม่อยู่อย่างนั้น

    โลกนี้คิดไปคิดมาแล้วที่ไหนมันมีความสุข ไม่เห็นมีความสุขนะ

    ถ้าคิดใคร่ครวญดูจริง ๆ ให้ไปคิดอ่านใคร่ครวญ เข้าไปดูซิ…..”

    โอวาทธรรมองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง (วัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    ๑๗ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    1505639709_484_อย่าพากันเล่นมากนะ-ครู.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  17. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…พระคาถามหาจักรพรรดิก่อให้เกิดพุทธนิมิตครอบสถิตผู้ทรงคาถา พระคาถามหาจักรพรรดิที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แต่งขึ้นมานั้น นอกจากท่านจะได้ทำการอธิษฐานบารมีให้ผู้สวดได้รับพลังจากพระรัตนตรัยอย่างมหาศาลแล้ว ยังก่อให้กิด “พุทธนิมิต” เป็นวิมานแก้วพระพุทธเจ้ามาครอบสถิตผู้สวดด้วย โดยมีลักษณะเป็นมณฑปแก้วจัตุรมุข ปรากฎฉัพพรรณรังสีหกประการสว่างไสวพร้อมด้วยโพธิสัตตราวุธ ทั้ง ๔ ประการ ประจำอยู่ทั้ง ๔ ทิศ ได้แก่ พระมหามงกุฎ ตรีศูล จักรแก้ว และ พระขรรค์เพชร ทั้งหมดล้วนเป็นของคู่บุญบารมีของพระศรีอารย์โพธิสัตว์ โดยมี “พระมหามงกุฎ” เป็นศิราภรณ์ที่ปี่ยมไปด้วยบุญญฤทธิ์ (หลวงปู่บุดดา ถาวโร พระอรหันต์ระดับจตุปฎิสัมภิทาญานได้เคยนำมาถวายหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นพุทธบูชาอีกองค์หนึงด้วย)

    ส่วนอาวุธที่เหลือทั้ง ๓ ล้วนเป็นเทพศาสตราวุธชั้นสูงมีไว้เพื่อประดับบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ และเปี่ยมไปด้วยอิทธิฤทธิ์อย่างยิ่ง

    หากสวดเป็นประจำสามารถอธิษฐานให้เกิดเป็นองค์พระพุทธนิมิตปางมหาจักรพรรดิได้ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์มีความศักสิทธิ์อย่างมาก ประดับด้วยเครื่องทรงแห่งพระมหาจักรพรรดิอย่างวิจิตรอลังการเปล่งรัศมีหลากสีด้วยแสงแห่งรัตนอัญมณีเรียกว่า “พระมหาวิษิตาภรณ์” มาครอบสถิตผู้ภาวนา บารมีของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่ท่านน้อมนำอธิษฐานจิตจึงมีความศักสิทธิ์ป็นอย่างมาก เพราะท่านใช้บารมีทั้งหมดของท่านอัญชิญกระแสบารมีแห่งพระรัตนตรัย และตั้งองค์พระพุทธนิมิตปางมหาจักรพรรดิบรรจุลงไปในวัตถุมงคลที่บารมีท่านมาประจุอีกด้วย

    คำแปล

    นะโมพุทธายะ : ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชา ต่อพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ คือ

    นะ – พระกกุสันธะ
    โม – พระโกนาคม
    พุท – พระกัสสป
    ธา – พระสมณโคดม
    ยะ – พระศรีอริยเมตไตรย

    พระพุทธไตรรัตนญาณ : พระพุทธเจ้าซึ่งมีพระญาณแก้วทั้งสาม อันหมายถึง ปุพเพนิวาสานุสติญาณ, จุตูปปาตญาณ, อาสวักขยญาณ

    มณีนพรัตน์ : มีสมบัติคือแก้ว ๙ ประการ มีเพชร, ทับทิม เป็นต้น ซึ่งหมายถึงพระนวโลกุตรธรรม

    สีสะหัสสะ สุธรรมา : มีมือถึงพันมือ หมายถึงการที่พระพุทธองค์ ทรงแจกแจงหลักธรรม คือ พระไตรปิฎก ถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์

    พุทโธ : ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
    ธัมโม : พระธรรมของพระพุทธเจ้า
    สังโฆ : พระสาวกผู้ปฏิบัติตาม

    ยะธาพุทโมนะ : ขอพระพุทธเจ้าปางมหาจักรพรรดิ ซึ่งมีชัยแก่พญาชมพูผู้มีฤทธิ์มาก พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ จงบังเกิดขึ้น ณ บัดนี้ด้วยเทอญ

    พุทธบูชา : ข้าพเจ้าขอบูชาพระพุทธเจ้า
    ธัมมะบูชา : ข้าพเจ้าขอบูชาพระธรรม
    สังฆะบูชา : ข้าพเจ้าขอบูชาพระสงฆ์

    อัคคีทานัง วะรังคันธัง : ด้วยสิ่งเหล่านี้ ได้แก่ ธูป เทียน ไฟ หรือแสงสว่าง และของหอมทั้งมวล มีดอกไม้และน้ำอบ เป็นต้น

    สีวลี จะมหาเถรัง : ขอนมัสการพระสีวลีเถระเจ้า ผู้เป็นเลิศทางลาภสักการะ

    อะหังวันทามิ ทูระโต : ขอนมัสการสถานศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป มีสังเวชนียสถาน เป็นต้น

    อะหังวันทามิ ธาตุโย : ขอนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ
    อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
    และพระธาตุทั้งหลาย ทั่วทั้งแสนโกฏิจักรวาล
    อะหังวันทามิ…”

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  18. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  19. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    เรื่อง “ท่านเจ้าคุณนรฯกระซิบบอก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ว่า…ไอ้บ้า”

    (เล่าโดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช)

    ผมเพิ่งได้ทราบข่าวเดี๋ยวนี้เองว่า พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต ได้มรณภาพเสียแล้วที่วัดเทพศิรินทร์ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2514 เมื่อเวลาหลังเพลเล็กน้อย

    นามฉายาของท่านคือ “ธมมวิตกโก ภิกขุ”

    ตอนนี้ท่านอายุ 20 กว่า เป็นพระยาและได้สายสะพายแล้วด้วย ท่านรับราชการกรมมหาดเล็กหลวง และมีตำแหน่งเป็นต้นห้องพระบรรทม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าที่ของท่าน คือ อยู่รับใช้ใกล้ชิดพระองค์ในที่รโหฐาน และเป็นผู้บังคับบัญชามหาดเล็กพระบรรทมคนอื่นๆ ซึ่งมีอยู่หลายคน

    เจ้าคุณนรรัตนฯสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนข้าราชการพลเรือนที่หอวัง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเรียนสำเร็จแล้วก็ต้องเข้าไปรับราชการในกรมมหาดเล็ก เพื่อศึกษาราชการตามระเบียบ ก่อนที่จะไปรับราชการกรมกองอื่นๆ

    แต่เจ้าคุณนรรัตนฯ คิดอยู่ที่กรมมหาดเล็ก และอยู่ที่ห้องพระบรรทมอยู่จนตลอดรัชกาล ความจำของเด็กเล็กๆ ซึ่งบัดนี้แก่แล้ว จะต้องกระจัดกระจายเป็นธรรมดา ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ผมนึกออกเกี่ยวกับเจ้าคุณนรรัตนฯ ครั้งหนึ่งเห็นท่านกำลังติดพระตรากับฉลองพระองค์ ซึ่งสวมไว้กับหุ่นช่างตัดเสื้อ ท่านติดจนเสร็จแล้วท่านก็ถอยออกมานั่งดูอยู่นาน ไม่พูดจากับใคร

    อีกครั้งหนึ่งเห็นท่านนั่งชุนกางเกงจีนเก่าๆของใครอยู่ เสือกเข้าไปถามท่านตามวิสัยของเด็กทะลึ่ง ว่าท่านชุนกางเกงของท่านเองหรือ ท่านบอกให้ผมลงกราบกางเกงที่ท่านกำลังชุนอยู่นั้น แล้วบอกว่าเป็นพระสนับเพลาจีนของพระเจ้าอยู่หัว แล้วท่านก็บ่นอุบอิบอยู่ในคอว่า “เป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน แต่ก็ชอบนุ่งกางเกงขาดๆ เก่าๆ อย่างนี้แหละ หาใหม่ให้ก็ไม่เอา ครั้นจะปล่อยให้นุ่งกางเกงขาดก็ขายหน้าเขา”

    จำได้ว่าเวลาท่านพูดกับเด็กอย่างผม แล้วท่านใช้วาจาหยาบคายสิ้นดี พูดไม่เว้นแต่ละคำ แต่ท่านมีทอฟฟี่แจก เด็กก็เมียงเข้าไปบ่อยๆ เด็กที่วิ่งๆอยู่ในวังสมัยนั้นมีมากและบางคน(อย่างผม) ก็เป็นเด็กที่ซุกซน ขนาดเหลือขอจริงๆทีเดียว บางครั้งเข้าไปซุกซนใกล้ที่ประทับจนถูกกริ้วต้องพระราชอาญา มีรับสั่งให้เจ้าคุณนรรัตนฯ เอาไปตีเสียให้เข็ด

    เจ้าคุณนรรัตนฯ ก็ลากตัวเข้าไปในห้องซึ่งอยู่ใกล้ที่ประทับ แล้วเอาไม้เรียวซึ่งเตรียมไว้แล้วมาหวดซ้ายป่ายขวา ลงไปกับเก้าอี้บ้างกระดานบ้างให้มีเสียงดัง “ร้องให้ดังๆ นะ ไม่ร้องพ่อตีตายจริงๆ ด้วยเอ้า” เด็กก็ร้องจ้าขึ้นมา และก็จะได้ยินพระสุรเสียงดังมาจากที่ประทับทันที “พอทีข้าสั่งให้ตีสั่งสอนมันเพียงหลาบจำ เอ็งตีลูกเขาอย่างกับตีวัวตีควาย ลูกเขาตายไปข้าจะเอาที่ไหนไปใช้เขา” เจ้าคุณนรรัตนฯ ก็กระซิบบอกเด็กว่า “ไหมล่ะ !”

    เด็กก็พ้นพระราชอาญาเพียงแค่นั้น และความรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ก็จะติดอยู่ในตัวในใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่มีวันที่จะลืมเลือนได้ ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าคุณนรรัตนฯได้อุปสมบทหน้าพระเพลิง อย่างที่สามัญชนเรียกว่าบวชหน้าไฟ และท่านก็ได้ครองสมณเพศตลอดจนจนถึงมรณภาพ เป็นเวลา46ปีเต็ม สี่สิบหกปีแห่งความกตัญญูอันมั่นคงหาที่เปรียบได้ยาก ความจริงเมื่อเสด็จสวรรคตนั้น เจ้าคุณนรรัตนฯ มีทั้งฐานะ ทั้งทรัพย์ และโอกาสที่จะหาความเจริญในโลกต่อไปอย่างพร้อมมูล

    ในทางชีวิตครอบครัวท่านก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่ท่านก็ได้สละสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดออกอุปสมบท และอยู่ในสมณเพศ ตลอดชีวิต เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระคุณแก่ท่าน นับว่าเป็นตัวอย่างแห่งความกตัญญูซึ่งควรจะจารึกไว้

    เมื่ออยู่ในสมณเพศนั้น เจ้าคุณนรรัตนฯ ฉันอาหารวันละหนเท่านั้น อาหารที่ท่านฉัน มีข้าวสุก มะพร้าว กล้วย เกลือ มะนาว และใบฝรั่ง ท่านลงไปโบสถ์ทำวัตรเช้าและเย็นวันละสองครั้ง ไม่เคยขาด จนมรณภาพ ดูเหมือนจะขาดอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถระ ขณะที่ท่านยังมีชีวิตและเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์อยู่ สั่งให้อยู่ที่กุฏิเพราะท่านอาพาธ

    ท่านเป็นพระที่สงบสงัดจากโลกแล้ว ไม่เคยโด่งดัง แม้แต่ธรรมที่ท่านได้แสดงไว้เมื่อพิมพ์แล้ว ก็ได้เป็นสมุดเล่มเล็กๆ มีเนื้อความเพียง 22 หน้ากระดาษ และแบ่งออกเป็นเรื่องสั้นๆ ได้ 8 บท บทที่ 7 นั้นมีเพียงเท่านั้น แต่ก็ขอให้ท่านอ่านเอาเองเถิดว่าเป็นความจริงเพียงไร และน่าประทับใจเพียงไร

    ครั้งหนึ่งมีคนเขาไปลือว่า ท่านสำเร็จพระอรหันต์แล้ว ผมพบท่านโดยบังเอิญที่วัดเทพศิรินทร์ก็เข้าไปกราบท่าน แล้วกราบเรียนถามท่านว่า เขาลือกันว่าใต้เท้าสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วจริงหรือครับ ท่านดึงหูผมเข้าไปใกล้ๆ แล้วกระซิบว่า “ไอ้บ้า”

    -ท่านเจ้าคุณนรฯกร.jpg
    1505667610_558_เรื่อง-ท่านเจ้าคุณนรฯกร.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  20. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...