บทสวดยอดพระกัณฯผู้แต่งแต่งมั่วจริงหรือคะ

ดิฉันมีข้อสงสัยเนื่องจากว่าได้ไปเจอเว็บไซด์นึงที่ตั้งกระทู้ขึ้นว่า
บทสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ผู้แต่งแต่งมั่ว ใช่หรือไม่.?? และขอคัดลอกคำตอบที่สำคัญบางช่วงมาลงดังนี้ค่ะ

ขออนุญาตคัดบทความของท่านอาจารย์วศิน อินทสระ จากหนังสือ “สิ่งที่ควรทำความเข้าใจกันใหม่เพื่อความถูกต้อง” มาแสดงไว้ โดยย่อ ดังนี้

“...พุทธศาสนิกชนมีความศรัทธาเลื่อมใสในคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกมาก ท่านตัดเป็นข้อ ๆ ไว้ ๒๕ ข้อ ยากและท่องยาก ที่ท่องยากก็เพราะว่าภาษาไม่ค่อยเป็นภาษาตั้งแต่ข้อ ๓ ไป ข้อ ๒ ปลาย ๆ ก็เริ่มไม่ค่อยถูกภาษาแล้ว เพราะฉะนั้น ทางวัดจึงไม่ได้สวด พระไม่สวด แต่ชาวบ้านเอาไปสวดกันมาก เห็นจะเป็นเพราะการโฆษณาการพรรณนาสรรพคุณของยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก”

“...ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกจริง ๆ หรือที่เป็นอักษรย่อของพระไตรปิฎกจริง ๆ มีอยู่ไม่กี่ตัว มีอยู่ในข้อ ๑๒ เท่านั้น นอกจากนั้นไม่มี เพื่อจะสวดได้ง่ายเข้า ไม่ปวดหัว สวดเฉพาะข้อ ๑๒ ไม่กี่ตัว
อา ปา มะ จุ ปะ (เป็นหัวใจของพระวินัย)
ที มะ สัง อัง ขุ (เป็นหัวใจพระสุตตันตปิฎก)
สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ (เป็นหัวใจพระอภิธรรม)
เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว (เป็นหัวใจของทศชาติคือชาดก ๑๐ ชาดก)
อิ สะ วา สุ (อิติปิโส สวากขาโต สุปฏิปันโน)
มะ อะ อุ (ความจริงควรเป็น อะ อุ มะ อะคืออรหัง อุคืออุตมธรรม มะคือมหาสงฆ์)
นี่คือยอดหรืออักษรย่อของยอดพระกัณฑ์หรือที่เกี่ยวข้องกับพระไตรปิฎก นอกจากนั้นก็ไม่เกี่ยวเลย เป็นภาษาที่ไม่ถูกต้อง เป็นภาษาที่เลอะเทอะมาก”

“ที่นิยมสวดก็เพราะว่าไปหลงเชื่อคำโฆษณาที่ว่า เปิดกรุได้ที่เมืองสวรรคโลก มีคำกล่าวนำในหนังสือว่า ผู้ใดมีไว้ประจำบ้านเรือน มีอานิสงส์ยิ่งกว่าได้สร้างพระเจดีย์ทองคำ สูงเทียมเทวโลก และป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ทำมาหากินเจริญ.. พระพุทธเจ้าเคยสอนแบบนี้ไหม การทำมาหากินเจริญก็ต้องทำมาหากินให้ถูกวิธี ไม่ใช่มีหนังสืออย่างนี้เอาไว้ในบ้านเรือนอย่างเดียว”

“..ภาวนาพระคาถาอื่น ๆ สัก ๑๐๐ ปี อานิสงส์ก็ไม่สูงเท่าภาวนาคาถานี้สักครั้งนี้....คำพูดอย่างนี้มันเป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่คาถาที่พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้ ทำไมไม่เอาที่พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้เช่น มงคลสูตร รัตนสูตร ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ธัมมนิยามสูตร อาทิตตปริยายสูตร ดีทั้งนั้น สวดง่าย รู้เรื่องด้วย”

“..ถึงแม้อินทร์พรหมยมยักษ์ที่มีอิทธิฤทธิ์จะเนรมิตแผ่นอิฐเป็นทองคำก่อเป็นพระเจดีย์ ตั้งแต่มนุษยโลกสูงขึ้นไปถึงพรหมโลก อานิสงส์ก็ยังไม่เท่าภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้..คำอธิบายนี้เกินความจริงเหลือเกิน พุทธศาสนาบอกว่าถ้าเราต้องการผลอย่างไร ต้องปฏิบัติเอา ต้องการทำมาค้าขึ้นก็ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้าใจเพื่อนมนุษย์ทำนองนี้ ต้องการมีสตางค์ใช้ก็ต้องขยันทำมาหากิน รู้จักเก็บรักษา นี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้า”

“..ถ้าท่านยังมีศรัทธาที่จะสวดอยู่ ก็สวดแค่ข้อ ๑๒ กุสะลา ธัมมา อิติปิโส ภควา อะฮ้า นี่มันอะไร ภาษาอะไร มันเหมือนใครเป็นคนสวดกุสะลา ธัมมา อิติปิโส ภควา แล้วก็ร้องขึ้นมาว่า อะฮ้า นี่มันภาษาอะไร ยาวะชีวัง พุทธัง สรณัง คัจฉามิ อันนี้ถูกต้องแล้ว ชัมภูธี ปัญจะ อิสสะโร นี่คืออะไร ...”

“..ที่พูดมานี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปคัดค้านขัดแย้งอะไร อยากจะแนะนำว่าอะไรคือสิ่งถูกต้อง อะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ท่านควรจะได้ ถ้ามันเสียเวลาไปเปล่า ๆ ได้ประโยชน์แต่น้อย เกือบไม่ได้เลย เราจะเสียเวลาทำไม ให้เรารู้ ให้เข้าใจ และทำในสิ่งที่เรารู้เราเข้าใจในสิ่งได้ประโยชน์ดีกว่า เราจะได้ใช้เวลาเท่าที่เรามีอยู่ซึ่งแต่ละคนก็มีไม่มากนัก..”

ดิฉันทราบดีว่า เราไม่ควรจะมีข้อสงสัยกับบทสวดที่เราสวดอยู่ เราควรจะศรัทธากับบทสวดนั้นๆ พยายามห้ามใจไม่ให้สงสัยแต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ เนื่องจากดิฉันมีความรู้ทางด้านนี้น้อยมาก และเพิ่งจะเริ่มต้นสวดมนต์อย่างจริงจังมาไม่นานเท่าไร จึงอยากทราบจริงๆว่าบทนี้พระไม่สวดกันหรอคะ ตอนแรกคิดว่าเป็นบทสวดที่พระพุทธเจ้าใช้สวดเช่นเดียวกับบทอื่นๆ หากไม่ใช่ แล้วเราควรจะสวดบทไหนแทนได้บ้างคะ......
​

 

นั่นนะซีครับ ผู้เขียนผู้แต่งไปเอาอะไรมาใส่ให้เลอะเทอะก็ไม่รู้
ผมยอมรับนะ ผมเคยเป็นพระมาหลายปีไม่เคยสวดเลย เพราะเห็นว่ามีส่วนเพี้ยน ๆ ปนอยู่
เพราะพยายามแปลแล้ว แปลไม่ได้ความ ไม่เข้าใจ ไม่ลึกซึ้งในธรรม จึงไม่สวด
ส่วนบทที่มีเนื้อหาดี ก็ชอบที่จะท่องให้ได้ จะสวด เพราะได้ทั้งบุญ ได้ทั้งกุศล คือเข้าใจได้ปัญญา มีคติธรรม ที่สามารถนำไปปฏิบัติให้เป็นประโยชน์จริง แต่ถ้าท่านใดศรัทธาจะสวด
บทยอดพระกัณฑ์ไตร เพื่อผลคือความสงบจิตใจก็ดีนะครับ

 

บทที่ควรสวด ก็มีอยู่มากมายนะครับ ถ้าอยากทราบว่าบทใดควรสวด ก็ขอเชิญท่านไป
เลือกหาซื้อหนังสวดมนต์ฉบับแปลเป็นไทยมาอ่านดูนะครับ ท่่านจะได้เข้าใจความหมาย
จะได้สวดอย่างมั่นใจว่า สวดแล้วได้บุญ ได้สมาธิ ได้กุศลหรือปัญญา อย่างแน่นอนครับ
เช่นบทธััมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร สุดยอดเลย หรือ บทธัมมะนิยามสูตร หรือบทที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า เอวัมเม สุตตัง เอกัง สะมะยัง ภะคะวา... ซึ่งเชื่อว่าเป็นบทที่พระอานนท์ ได้ฟังมาจากพระโอฐ ของพระพุทธเจ้า แล้วท่านพระอานนท์มาเล่าต่อ หรือบทอื่น ๆ ก็เชิญเลือกตามสบายครับ

 

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละท่านไม่สามารถนำมาเป็นข้อเท็จจริงได้ หากเข้าใจเนื้อหาในพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ก็จะเข้าใจเรื่องขันธ์5 พระพุทธศาสนา กระจายไปทั่วโลก มีหลายนิกาย บทสวดก็มีเป็นร้อยเป็นพันบท ต้นฉบับจริง ๆ ไม่รู้เป็นอย่างไร นำมาเขียนกันผิด ๆ ถูก ๆ ดูแล้วเหมือนหลอกลวง หากไม่มั่นใจเราก็ไม่ต้องสวด เปลี่ยนบทอื่นไปก็เท่านั้นเอง หากไปปรามาสก็มีแต่บาปกรรมเพราะไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างแท้จริง บทคาถาบางที่ พระท่านก็ผูกเป็นภาษาบาลี ส่วนใหญ่เป็นพระดัง ๆ เช่น คาถาชินบัญชร หากเป็นดังเหตุผลดังกล่าวอาจทำให้ คนหลายคนอาจเลิกสวดมนต์ก็ได้...

 

สมัยก่อนจะสวดบทนี้ เวลาสวดทีไรก็เห็นหมาหอนทุกที แสดงว่า มีอานิสงล์ ในการสวด ก็เลยสวด แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้สวดแล้ว เพราะ มาสวดบทจักรพรรดิ

 

บทสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก บางเล่มมีทั้งบทสวดบาลี พร้อมแปลเป็นภาษาไทยด้วย

มีอยู่เยอะแยะ ลองหาอ่านดูสิครับ จะได้รู้ว่ามันแปลว่าอะไรบ้าง

จะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น จะได้หายข้อสงสัย

 

ผมไม่เคยสวด อะฮ้า นะครับ หาอ่านดูดีๆนะครับ
คือ... กุสะลา ธัมมา อิติปิ โส ภะคะวา อะอา ยาวะชีวัง...
เดียวคุณจะพลอยซวยกับคนเขียนข้อความนั้นไปด้วยนะครับ

-------
“..ถ้าท่านยังมีศรัทธาที่จะสวดอยู่ ก็สวดแค่ข้อ ๑๒ กุสะลา ธัมมา อิติปิโส ภควา อะฮ้า นี่มันอะไร ภาษาอะไร มันเหมือนใครเป็นคนสวดกุสะลา ธัมมา อิติปิโส ภควา แล้วก็ร้องขึ้นมาว่า อะฮ้า นี่มันภาษาอะไร ยาวะชีวัง พุทธัง สรณัง คัจฉามิ อันนี้ถูกต้องแล้ว ชัมภูธี ปัญจะ อิสสะโร นี่คืออะไร ...”



----------------

“..ที่พูดมานี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปคัดค้านขัดแย้งอะไร อยากจะแนะนำว่าอะไรคือสิ่งถูกต้อง อะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ท่านควรจะได้ ถ้ามันเสียเวลาไปเปล่า ๆ ได้ประโยชน์แต่น้อย เกือบไม่ได้เลย เราจะเสียเวลาทำไม ให้เรารู้ ให้เข้าใจ และทำในสิ่งที่เรารู้เราเข้าใจในสิ่งได้ประโยชน์ดีกว่า เราจะได้ใช้เวลาเท่าที่เรามีอยู่ซึ่งแต่ละคนก็มีไม่มากนัก..”


แนะนำครับ ถ้าคนเขียนเค้าคิดว่ามันเสียเวลา ใครที่คิดว่าเสียเวลา คิดว่าไม่ดีก็อย่าไปสวดครับ เดียวคุณจะปรามาสไปโดยไม่รู้ตัวนะครับ แต่สวดดีแล้วครับ ลองศึกษาให้ดีนะครับ เจ้าของกระทู้ จะได้ลึกซึ้ง อย่าฟังใครก่อน ให้ค้นพบด้วยตนเองครับ

 

ขอบคุณที่ช่วยเตือนนะคะ รู้สึกผิดยังไงไม่ทราบค่ะที่เกิดสงสัยและลังเลขึ้นมา แต่ก็จะขอฝึกสวดบทนี้ต่อไปค่ะ จะไม่ลังเลที่จะสวดบทนี้อีกต่อไปแล้ว

 

พระกริ่งอันลือลั่นที่สร้างโดยสมเด็จพระสังฆราช(แพ) นั้นท่านก็ใช้บทยอดพระกัณในการปลุกเสก

 

อย่าลืมขึ้นไปขอขมาพระรัตนตรัยด้วยนะครับ เผื่อเผลอ

 

โดยปกติเราก็สวดบทนี้(ยอดพระกันฑ์ไตรปิฏก)เคยมีเรื่องปรากฏกับตาว่าขณะที่สวดอยู่ฟ้าแจ้งพอสวดไปเรื่อยๆฝนตกอย่างมาก เท่านั้นไม่พอในห้องพระมีเส้นฝนตกลงมาอยู่ประมาณ 5วินาที แต่ไม่เปียกแต่เป็นเส้นสายฝนเราเห็นกับตาเลย เราเชื่อในบทพระคาถายอดพระกันฑ์เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ มีความหมายเในขั้นตอนการปฏิบัติเอาตั้งแต่วิปัสนาขั้นแรกการแยกธาตุต่อมาเป็นเรื่องการปฏิบัติของสมาธิตั้งแต่ปฐมฌานไล่ไปตามลำดับ ลองพิจารณาดูดีๆพิจารณาให้ถี่ถ้วนคุณจะเข้าใจในความหมายของพระคาถาบทนี้

 

ควรสวดด้วยความตั้งใจ แล้วจะรู้เองครับ ดีทุกบท (ประสบการณ์เจอกับตัวเอง) หลายปีที่มาแล้วผมไปดูดวง หลายที่ครับ เค้าดูว่าผมจะถึง........งงเหมือนกัน ทำไมมันตรงกัน ก่อนหน้านั้นไม่เชื่อเลย แต่พอลองมาทบทวนดู ก็รู้สึกแปลกๆ ว่าทั้งๆ ที่อยู่คนละที่ทำไมดูตรงกัน ผมเผอิญมาเห็นคาถายอดพระกัณฑ์ฯ ก็เลยมาสวดมนต์ ประมาณ 7 วัน ติดต่อกัน หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เกิดอุบัติเหตุหนักแบบเป็นตายเท่ากัน แบบผ่ากระโหลก กระดูกหักทั่วตัว แบบไม่หน้ารอด แต่ผมรอดและออกมาจากเพียง 4 วัน เท่านั้น และถ้าใครเจอแบบนี้คงอาจไม่รอดแน่ๆ พระพุทธคุณ ช่วยให้รอดแท้ๆ ครับ สวดเลยไม่ต้องสงสัย การันตีให้ครับ

 

บทสวดนี่อาจจะไม่มีอะไรหรอกครับ
แต่คนที่ยุให้คนอื่นสวดนี่แหละ ก็เอาอะไรต่อไรมาล่อ ให้คนอยากสวดไงครับ
ถ้าสวดมนต์ด้วยจิต ที่บริสุทธิ์ ไม่ได้มีความโลภ ไม่มีความอยากได้นั่นได้นี่ ก็คงจะไม่มีอะไร สวดบทไหนๆ ก็ให้อานิสงค์ครับ

 

ตอนนี้ไม่มีข้อสงสัยอะไรแล้วค่ะ เพราะวันนี้ลองสวดดูแล้วรู้สึกอารมณ์ดีมากๆ(ถึงแม้จะเจอปัญหามาทั้งวันเลย) แล้วก็สวดขอขมาพระรัตนตรัยตามที่บางท่านช่วยแนะนำเข้ามาแล้วนะคะ พอสวดแล้วรู้สึกจิตใจสงบมากค่ะ รู้สึกเหมือนกันว่า ไม่ว่าจะสวดบทไหนขอเพียงแค่ตั้งใจและบริสุทธิ์ใจ เราก็มีความสุขได้ และเริ่มมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นบ้างในบางครั้งเหมือนกันค่ะ

 

จะอย่างไรก็ขอให้มีกุศลจิตสวดไปเรื่อยๆ นะครับ เพื่อความสงบจิตใจได้สมาธิของเราเอง
ส่วนผลที่ได้อย่างอื่น ขอให้ถือว่าเป็นกำไรที่ล้ำเลิศ ไม่มีเสียหายหรอกครับ สาธุ

 

ขอเล่าน่ะครับ เริ่มแรกเลยผมเจอบทสั้นก่อนคือก่อนได้รับการแก้ไข จากพระผู้แปลที่มีความรู้ ผมว่าสวดแล้วดูขลังกว่าบทที่ปรับปรุงแล้ว

 

สงสัยคะ สวดบทนี้ สวดจบแล้ว ห้ามขออะไรทั้งนั้นให้แผ่เมตตาอย่างเดียว สิ่งที่อยู่ในใจเราไม่ได้ขอ เทวดาจะให้พรสมหวังจริงไหมคะ แบบไม่เกินวาสนาของตัวเอง

 

สวดแล้วมีศรัทธาต่อพระรัตนตรัย นับว่าเป็นกุศล
ขณะสวดน้อมจิตระลึกถึงคุณของพระธรรมในพระไตรปิฎกไปก็จะมีอานิสงส์มากขึ้น

ส่วนใครที่มุ่งจะได้ปัญญา ก็ต้องหาบทอื่นๆสวด
เช่น ปฏิจสมุปบาท เป็นต้น สวดไปพิจารณาไป แปลไป
นอกจากจิตสงบแล้วได้ยังได้ปัญญาพิจารณาธรรมด้วย

เสนอเป็นทางเลือกเพิ่มเติม

 

ช่วงนี้ท่องบทยอดพระกัณ อย่างจริงจังค่ะ มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นคือ เมื่อเช้าประมาณตีห้ากว่าๆ ฝันว่ากำลังสวดบทนี้อยู่ แต่ในฝันญาติผู้ใหญ่ที่เคารพมาก(สิ้นบุญไปนานแล้ว)นั่งกระซิบอยู่ข้างๆบอกว่าให้สวดบทชินบัญชรด้วย สะดุ้งตื่นมาเลยออกไปใส่บาตร ก็แปลกดีเหมือนกันที่ฝันแบบนี้ เพราะบทชินบัญชรไม่ได้อยู่ในความคิดเลยช่วงนี้ ก็เลยคิดว่า หากสวดยอดพระกัณได้คล่องแล้วจะลองฝึกสวดบทชินบัญชรด้วยอีกบท