ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    วันที่ 18 พ.ย. 2552 ตรงกับเวลา 08.42 น.ของประเทศไทย
    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    วันที่ 18 พ.ย. 2552 ตรงกับเวลา 09.17 น.ของประเทศไทย
    ------------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    วันที่ 18 พ.ย. 2552 ตรงกับเวลา 10.21 น.ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • B1.jpg
      B1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.5 KB
      เปิดดู:
      1,434
    • B2.jpg
      B2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119 KB
      เปิดดู:
      1,471
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปะทะเดือด จนท.ปัตตานีปลิดชีพโจรใต้ 6 ศพ ทหารเจ็บ 2 ที่ปัตตานี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2552 19:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปัตตานี – จนท.3 ฝ่ายในปัตตานีสนธิกำลังเปิดฉากปะทะดุเดือด ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ขณะที่โจรใต้ถูกวิสามัญ 6 ศพ

    เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (17 พ.ย.) ขณะที่ พ.ต.อ.จีรวัฒน์ อุดมสุด รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน 20 นาย เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น บ้านเลขที่ 192/3 ม.5 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีแนวร่วมกลุ่มของนายปะดอ กบดานอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

    ระหว่างที่กำลังได้ปิดล้อมและได้เรียกให้คนที่อยู่ในบ้านออกมาเพื่อตรวจสอบ แต่ไม่มีเสียงตอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเปิดประตูเพื่อบุกเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงออกมาหลายนัด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระโดดหลบ พร้อมยิงตอบโต้จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น จากนั้นจึงได้เรียกกำลังมาสนับสนุน

    ต่อมา พันโท หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ปัตตานี 24 ได้นำกำลังทหารกว่า 50 นาย รถหุ้มเกราะ ติดอาวุธหนัก เข้าสนับสนุน พร้อมขอกำลังทางอากาศนำเฮลิปคอปเตอร์บินตรวจพื้นที่ เข้าปิดล้อมบริเวณรอบๆ บ้านหลังดังกล่าว เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายหลบหนี ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เกิดการยิงตอบโต้กันเป็นระยะ โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้นำศาสนา รวมไปถึง นายยูโซ๊ะ สาเมาะ ผู้ใหญ่บ้านและเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มาพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อให้ออกมามอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล

    จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องขอกำลังทหารชุดจู่โจมหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข เข้ามาเพื่อเตรียมที่จะจู่โจมหากสถานการณ์ตรึงเครียด จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วม 3 ชั่วโมง คนร้ายยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอบตัวและยังคงใช้อาวุธปืนยิงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจเข้าจู่โจมเพื่อไม่ให้เวลายืดเยื้อออกไป เพราะจะเกรงว่าไม่ปลอดภัย โดยชุดจู่โจมได้มีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อการปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จและให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด

    จนกระทั่งเวลา 16.00 น.ชุดจู่โจมตัดสินใจที่จะบุกเข้าไป โดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุดในการเข้าจู่โจม โดยชุดแรกได้มีการขว้างแก๊สน้ำตา จำนวน 10 ลูก เข้าไปเพื่อให้คนร้ายวิ่งออกมาจากบ้าน แต่ก็ไม่เป็นผลคนร้ายยังคงใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงใช้ระเบิดเสียงขว้างเข้าไปอีก 2 ลูก ก่อนบุกเข้าไปจู่โจมแบบประชันชิดและเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้เจ้าหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นายเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวออกมาเพื่อส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อ ส.อ.เฉลิมพล โพธิ์ศรี และ ส.อ.ศรชัย ไชยชมพู ทั้งสองถูกยิงเข้าแขน

    ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้บุกจู่โจมอีกครั้ง พร้อมกับใช้แก๊สน้ำตาอีกหลายลูกขว้างเข้าไป ทำให้คนร้ายต่างวิ่งหนีไปหลบตามบ้าน และมีการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง เป็นเวลาร่วมกว่า 4 ชั่วโมงเสียงปืนจึงสงบลง

    เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าเคลียร์พื้นที่พบอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืน 9 มม. จำนวน 2 กระบอก และระเบิดขว้าง 1 ลูก พร้อมคนร้ายเสียชีวิตจำนวน 6 คน ทราบชื่อคือ 1.นายอาหามะดือราแม หะยีมะ (ปะดอ) อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 ม.4 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ หัวหน้า RKK ระดับสั่งการและก่อเหตุและมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 12 คดี 2.นายอับดุลเลาะ โตะลาเละ 3.นายซาการียา ยาแม 4.นายฮัมดี มะแอ 5.นายมะสะปรี คาเร็ง และ 6.นายนารูดิง ดอมะ

    อย่างไรก็ตาม หลังการปะทะกันดุเดือดนั้น ทางผู้บัญชาการทั้ง 3 ฝ่ายในพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้มีการกำชับให้กองกำลังในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ให้มีความพร้อมและดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ รวมไปถึงประชาชน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการตอบโต้ของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชษฐ์ ผบช.ศจต. พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.จีระศักดิ์ ชมประสบ ผบ.ฉก.ปัตตานี แพทย์โรงพยาบาลโคกโพธิ์ และชุดวิทยาการ เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับให้มีการเก็บหลักฐานอย่างละเอียด


    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000139114
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เสือขาวเหลืองเข้ามาหากระยาหาร เข้ารุกรานเราตายเป็นเบือจะเชื่อไหม?

    [​IMG]

    มองแสนยานุภาพชายแดนไทย-มาเลย์ โดย สิริอัญญา วันที่ 25 กันยายน 2548 เวลา 18:23 น.

    ในพลันที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่หมู่บ้านตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ก็ปรากฏข่าวจากทางด้านมาเลเซียว่า กองทัพมาเลเซียได้เคลื่อนกำลังทหารจำนวนสามกองพันมาประชิดที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อป้องกันสกัดกั้น ไม่ให้คนไทยข้ามแดนไปมาเลเซียโดยผิดกฎหมาย

    สื่อมวลชนไทยก็รายงานข่าวไปตามนี้คือเป็นการเคลื่อนกำลังมาเพื่อป้องกันคนไทยข้ามแดนไปมาเลเซียโดยผิดกฎหมาย ความหมายมันอยู่เพียงเท่านั้นจริง ๆ หรือ? ความจริงไม่อยากกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะมีความละเอียดอ่อนอยู่มากและเกี่ยวกับความสัมพันธ์ต่างประเทศ แต่เมื่อพิเคราะห์แล้วก็เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงเรื่องนี้สักครั้งหนึ่ง มิฉะนั้นเพื่อนร่วมชาติของเราก็จะมองข้ามหรือลืมมองเรื่องสำคัญที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อบ้านเมือง

    คงจะจำกันได้ว่าหลังเกิดกรณีกรือเซะและตากใบแล้ว มาเลเซียได้เคลื่อนกำลังทหารขึ้นมาที่ชายแดนหลายระลอก ครั้งละสองกองพันบ้าง สามกองพันบ้าง และหลาย ๆ กองพันในแนวหลังที่พอเห็นได้ว่าพร้อมจะเป็นกำลังหนุนกำลังส่วนหน้าที่วางกำลังอยู่ตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

    ไม่เคยปรากฏข่าวว่ามีการถอนกำลังทหารเหล่านั้นออกไปจากชายแดนไทย และมาบัดนี้เคลื่อนกำลังเพิ่มเติมเข้ามาอีกสามกองพันพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย หากประมาณคร่าว ๆ ถึงแสนยานุภาพที่เคลื่อนขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วก็เห็นจะมีกำลังร่วมสองกองพลแล้ว

    ไม่รวมถึงแสนยานุภาพทางนาวีที่มาเลเซียเตรียมกองเรือดำน้ำเพ่นพ่านอยู่ในทะเลหลวง ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถมาถึงแนวคลองกระแถวสงขลาและไม่ช้าไม่นานก็ถึงแนวคลองกระชั้นบน แม้กระทั่งถึงพังงาด้วยซ้ำไป ไม่รวมถึงแสนยานุภาพทางอากาศที่ ณ วันนี้ใครรู้ดีช่วยบอกทีเถิดว่าหากเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางอากาศกันแล้วระหว่างไทยกับมาเลเซียจะเป็นประการใด?

    กองกำลังมากมายขนาดนี้ มันเป็นไปเพียงเพื่อสกัดกั้นคนไทยไม่ให้ข้ามแดนเท่านั้นหรือ? ตรงนี้แหละขอให้ช่วยกันคิดให้ดี แล้วแสนยานุภาพของเราในพื้นที่นั้นละมีเท่าใด? รับมือเขาไหวหรือ?

    และนี่ไม่ใช่หรือที่เป็นพลังแอบแฝงแล้วหนุนช่วยให้ปฏิบัติการก่อความไม่สงบยืดเยื้อรุนแรงอยู่จนถึงทุกวันนี้ กระทั่งบางหน่วยงานและบุคคลสำคัญบางคนของมาเลเซียถึงกับประกาศว่าจะต้องแยกดินแดนสามจังหวัดออกเป็นรัฐอิสระหรือเป็นเขตปกครองพิเศษ แล้วทำให้รัฐบาลไทยต้องกระอักกระอ่วนใจตลอดมา!

    ก่อนอื่นก็ต้องขอย้ำว่าเราคัดค้านสงคราม เราต้องการสันติ เราต้องการสันติภาพ ต้องการความสงบสุข การกระทำใด ๆ ไม่ว่าของใครและของชาติใดที่เกื้อหนุนต่อการเกิดสงคราม ทำลายสันติ ขัดขวางสันติภาพ และสร้างความทุกข์ยากขึ้นแก่มนุษยชาตินั้นล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชาติไทยและประชาชาติใด ๆ ในภูมิภาคนี้เลย

    วันก่อนได้แย้มพรายไว้บ้างแล้วว่าเมื่อราว 2 เดือนก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านของเราได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยื่นต่อสภาผู้นำศาสนาอิสลามโลกที่กรุงเตหะราน กล่าวหาประเทศไทยอย่างหน้าด้าน ๆ ว่ากีดกันข่มเหงรังแกมุสลิม นั่นก็เพื่อบอกสัญญาณให้เพื่อนร่วมชาติได้รู้ว่ามีอันตรายซ่อนตัวอยู่ ควรที่พี่น้องร่วมชาติทุกคนจะตื่นตัวขึ้นมาเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจไม่คาดคิด

    ทั้งยังได้เตือนด้วยว่าควรที่นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะคนที่รู้เรื่องนี้ในประเทศไทยของเราก็มีอยู่ ต้องบอกอีกว่าบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียนั้นมีคนสองสัญชาติอยู่เป็นจำนวนร่วม 300,000 คน และเป็นไปในทางมากกว่า 300,000 คน ส่วนจะเป็นจำนวนแน่นอนเท่าใดนั้น ถึงวันนี้ย่อมเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยจะต้องทำความกระจ่างและให้เกิดความชัดเจนเพื่อที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงจะได้ใช้เป็นฐานข้อมูลในการปฏิบัติการ

    นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงคนสองสัญชาติเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2548 ซึ่งค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก แต่ก็นับว่าเป็นการเสนอประเด็นที่ถูกเป้าเข้าจุด และขออย่าให้เป็นการพูดเลื่อน ๆ ลอย ๆ เพราะนี่คือปมเงื่อนสำคัญที่เกี่ยวพันกับชะตากรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    ตามกฎหมายสัญชาติประเทศไทยถือหลักสองหลักคือหลักดินแดนและหลักสายเลือด นั่นคือใครเกิดในดินแดนไทยและมีพ่อหรือแม่เป็นไทยก็จะได้สัญชาติไทย แต่ขณะเดียวกันหากละสัญชาติไทยไปถือสัญชาติอื่นหรือไปถือสัญชาติอื่นโดยไม่สละสัญชาติไทยก็เป็นอันว่าสิ้นสัญชาติไทยด้วย

    ทว่านั่นเป็นหลักกฎหมาย แต่ในการปฏิบัติกลับไม่มีการปฏิบัติกันเลย จึงเป็นเหตุให้คนในพื้นที่นั้นนอกจากถือสัญชาติไทยแล้วยังไปถือสัญชาติมาเลเซีย โดยได้รับการเอื้อเฟื้อเป็นพิเศษให้ถือสัญชาติมาเลเซียด้วย หากจะว่ากันตามกฎหมายคนเหล่านี้เป็นอันสิ้นสัญชาติไทยแล้ว

    การที่สิ้นสัญชาติไทยเพราะถือสัญชาติใหม่แล้วฉวยโอกาสข้ามแดนไปมาเลเซียแล้วบอกว่าเป็นคนไทยอพยพหลบภัยจึงไม่เป็นธรรมกับประเทศไทย และเป็นเรื่องที่หน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ของรัฐพึงชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจนทั้งภายในประเทศและต่อประชาคมโลก

    มิฉะนั้นก็จะมีบางชาติฉวยเป็นโอกาสกระหน่ำซ้ำตีประเทศไทยเพื่อดึงสหประชาชาติให้เข้ามาจัดการปัญหาภายในของประเทศไทย คนที่สิ้นสัญชาติไทยไปแล้วแต่ยังแอบอิงว่าเป็นคนไทย หากยังมีสิทธิ์ลงประชามติกันในวันข้างหน้าก็พอจะคิดได้แล้วว่าอะไรจะเกิดกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    แม้ว่าโอกาสจะเกิดขึ้นได้น้อยเพราะเรายังมีมิตรประเทศในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เข้าใจและยืนข้างประเทศไทย แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เรื่องนี้จึงต้องป้องกันเอาไว้แต่เนิ่น ๆ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม รวมทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณาอย่างจริงจัง

    ที่มันน่าเจ็บใจก็คือมีการสวมรอยเอาคนชาติอื่นทำทีมาเป็นคนไทย ทำอะไร ๆ ลงไปในพื้นที่นั้นแล้วบอกว่าเป็นการกระทำของคนไทย ทำให้คนไทยฆ่ากันเอง

    กลับมาที่กองกำลังทางบกของมาเลเซียตามแนวชายแดนที่ประมาณการว่ามีจำนวนร่วมสองกองพลนั้นมันหายไปไหนเป็นส่วนใหญ่? เพราะถ้าหากไม่ถอยออกไปก่อน จำนวนที่เคยเคลื่อนขึ้นมานั้นก็พอเพียงอยู่แล้วถ้าหากจะมีบทบาทเพียงสกัดคนไทยข้ามแดน เว้นเสียแต่ว่ากำลังพลเหล่านั้นได้สลายตัวไปแล้วแปรสภาพเคลื่อนย้ายเข้ามาในแดนไทย ทำตัวเป็นคนสองสัญชาติ

    แปลงตัวเป็นคนสองสัญชาติทดแทนจำนวนคนที่ย้ายถิ่นฐาน ซึ่งปรากฏตามข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยว่ามีจำนวนถึงเดือนละประมาณ 15,000 คน คนสองสัญชาติแปลงกายที่เนื้อแท้เป็นทหารของฝ่ายตรงกันข้ามย่อมมีศักยภาพที่จะทำการสงครามทั้งนอกรูปแบบและทำสงครามแบบแผนได้โดยไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารของไทยเลย

    หรือว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยเหมือนเมื่อครั้งที่ทหารเวียดนามสวมรอยเป็นทหารลาวแล้วเปิดศึกร่มเกล้ากับประเทศไทยในอดีต! ดังนั้นการที่กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทวีความรุนแรงมากขึ้น ขยายตัวมากขึ้น และยืดเยื้อมากขึ้น จึงแยกไม่ออกกับการเปลี่ยนโฉมแปลงร่างดังกล่าว มันเป็นปรากฏการณ์สวมรอยและฉวยโอกาสหลังจากสถานการณ์พลิกผันจากปัญหาผู้มีอิทธิพลอำนาจมืดมาเป็นปัญหาแบ่งแยกดินแดนแล้ว ก็อยากบอกเตือนรัฐบาลว่าการฟังรายงานที่ผิดพลาดอย่างต่อเนื่องแล้วย่อมทำให้เกิดผลเช่นนี้

    ตัวอย่างล่าสุดที่นายกรัฐมนตรีแถลงว่านาวิกโยธินสองนายถูกสังหารตั้งแต่ตอนรุ่งสาง แล้วหมอพรทิพย์เผยผลการชันสูตรว่าถูกสังหาร ณ เวลา 14.00-15.00 น. ก็คือความซ้ำซากของความผิดพลาดของรายงาน และถ้าความผิดพลาดนั้นขยายไปถึงบุคคลที่ถูกระบุว่า “รู้ตัวคนร้ายหมดแล้ว” ก็จะนำไปสู่การจับกุมหรือปฏิบัติการที่ผิดพลาดและขยายผลร้ายต่อไป

    และอยากจะบอกย้ำด้วยว่าอย่าไปเชื่อรายงานว่าไม่มีเขตปลดปล่อย ทั้งอยากจะถามด้วยว่าสิ่งที่เรียกว่าเขตปลดปล่อยนั้นรู้จักมันดีแล้วหรือว่ามันคืออะไร? มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? มันพัฒนาและดำเนินการไปอย่างไร? และระดับไหนที่ถือว่าเป็นเขตปลดปล่อย?

    เพราะในวันนี้กว่า 760 หมู่บ้านในจำนวนทั้งหมดราว 1,500 หมู่บ้านมีแกนหลักปฏิบัติงานและเป็นเขตปฏิบัติการของฝ่ายตรงกันข้าม โดยที่เราให้ความคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินแก่ประชาชนไม่ได้ และกลไกรัฐก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติไม่ได้ นี่คือสิ่งที่จะต้องสะกิดใจและพิจารณาไตร่ตรองให้จงดี

    การที่มีแสนยานุภาพของต่างชาติแอบแฝงเข้ามาในรูปคนสองสัญชาติก็ดี และมาประจัญอยู่ที่ชายแดนร่วมสองกองพลเป็นอย่างน้อยก็ดี มันไม่สมกับข้ออ้างที่ว่าเพื่อสกัดคนไทยข้ามแดน และความจริงก็คือมาเลเซียไม่เคยจับคนข้ามแดนเลยแม้แต่คนเดียว แต่นั่นมันคือปรากฏการณ์ให้ความคุ้มครองกับฝ่ายที่ก่อความไม่สงบ ป้องปรามแสนยานุภาพของกองทัพไทยให้ขยับตัวไม่ได้ คิดเรื่องนี้กันบ้างหรือยัง?

    ในพื้นที่นั้นแสนยานุภาพทางบกของเราก็มีเพียงบางจุด และมีอัตรากำลังไม่ถึงสองกองพล โดยยังไม่ต้องพูดถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ว่าของใครมีประสิทธิภาพกว่ากัน และยิ่งงานมวลชนด้วยแล้วก็ยิ่งไม่ต้องพูดอีกเลย

    เมื่อรวมแสนยานุภาพทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ตลอดจนมวลชนของฝ่ายตรงกันข้ามแล้ว มันด้อยกว่า พอ ๆ กัน หรือเหนือกว่าแสนยานุภาพของกองทัพไทยกันแน่? ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องให้ความสนใจโดยพลัน เพราะเราอาจเสียดินแดนได้โดยพลันเหมือนกัน!

    บทเรียนในอดีตที่เวียดนามเคยเสนอให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยยืมกำลังทหารร่วมสามสิบกองพันเพื่อเป็นกองหน้าตัดภาคอีสานออกจากประเทศไทย โดยมีแสนยานุภาพของนายพลเทียนวันดุง 300,000 คนหนุนอยู่ข้างหลังนั้นควรจะได้หยิบยกขึ้นพิจารณาศึกษาว่ามันกำลังเกิดขึ้นซ้ำรอยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่?

    ดีที่ว่าครั้งกระโน้นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมีจิตใจรักชาติจึงปฏิเสธข้อเสนอ หาไม่แล้ววันนี้ภาคอีสานก็อาจจะไม่ใช่ของไทยอีกต่อไป แล้วกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่นั้นน่ะหรือจะมีความคิดจิตใจแบบเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต แล้วเราจะทำกันอย่างไร?

    รัฐบาลจะมัวถือว่าเรื่องนี้ไม่สร้างสรรค์ไม่ได้แล้ว และจะมัวเห็นว่าเรื่องการเร่งตัวเลขต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจสำคัญกว่าปัญหาความมั่นคงไม่ได้แล้ว เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจนั้นขึ้นลงได้ ขาดดุลแล้วก็ได้ดุลได้ แต่หากเสียดินแดนแล้วก็ยากที่จะได้คืน ดังนั้นจึงควรต้องยกเอาปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาหลักเร่งด่วนที่สุดของชาติตั้งแต่บัดนี้ไป

    รัฐบาลทักษิณ 2 จะเป็นประการใดก็เห็นจะชี้ขาดกันด้วยปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นี่แหละ!

    ที่มา http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=7383.msg177712

    ปรมวลภาพแสนยานุภาพของกองทัพประเทศมาเลเซีย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    น้ำมาจากไหน

    เมื่อเช้าฟังข่าวว่าฝนดาวตกครั้งนี้มากเป็นประวัติกาล
    เค้าว่าฝนดาวตกก็คือน้ำจากนอกโลก เมื่อตกผ่านชั้น
    บรรยากาศก็เลยเกิดประกายไฟ
    เหมือนที่คุณหนุมานเคยบอกไว้ ว่ามีน้ำมาเพิ่ม
    จากนอกโลกมาก ก็เลยพอจะเข้าใจว่า อ๋อ...
    มาอย่างนี้นี่เอง
    อีกไม่นานจะสิ้นปีแล้ว ระวังเรื่องน้ำกันหน่อยนะคะ
     
  5. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 12.09 ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.jpg
      untitled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114 KB
      เปิดดู:
      981
  6. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    การเตรียมการที่หลบภัย ฐานผาแบ่น จ.เลย : การนัดพบครั้งที่ 3

    สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วม ตามไปอยู่ฐานผาแบ่น อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
    จะมีการนัดพบครั้งที่ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย. 52 ที่หน้าสถานีรถไฟ
    ดอนเมือง ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เวลา 10.00 น. ถึง 11.00 น.
    คุณอา k_isara จะไปรออยู่ที่นั่นนะคะ (ให้สังเกตุ ชายสะพายย่าม)
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,947
    *** ฝนดาวตก ****

    ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์โลก แต่จะทำให้โลกอบอุ่นขึ้น
    โลกจะสมบูรณ์ขึ้น น้ำในโลกจะมากขึ้น สิ่งที่ไม่เคยเกิดก็จะเกิด สิ่งที่ไม่เคยเห้นก็จะได้เห็น
    มันจะอุดมสมบูรณ์ไปหมด เพราะน้ำจะแทรกอยู่ทุกอณู แม้แต่สังขารของเรา
    ต่อไป โลกจะพิจารณาคัดเลือกแต่ผู้ที่เชื่อสัจจะทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,947
    *** ดาวตก ****

    การแจกจ่าย ผู้ที่เขาจะมาเป็นอรหันต์ ไปทั่วโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,947
    *** ฝนเหล็ก ****

    จะเป็นอันตรายต่อสัตว์โลก เป็นไฟล้างทั้งโลกแล้วเริ่มต้นใหม่

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เตือนเอเซียเสี่ยงภัยพิบัติจากภาวะโลกร้อน

    Download PDF : http://www.tmd.go.th/programs\uploads\weatherclimate\warm.pdf

    ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภาพยนตร์ "2012" วันสิ้นโลก หรือ โลกาวินาศ เกี่ยวข้องกับพระศรีอารย์อย่างไร?

    [​IMG]

    คิดถึงเหตุผล ไม่ควรหวังในอิทธิปาฏิหาริย์

    ผู้เขียนใช้เวลากว่า 16 ปี ศึกษาเรื่องพระศรีอารย์ตามความเชื่อของศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆด้วยเหตุผล มีที่มาที่ไป ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์เกี่ยวข้อง โดยนำข้อมูลเช่น จากพุทธทำนาย คำภีรย์ของศาสนาต่างๆ การพยากรณ์เช่นของนอสตราดามุส (นอสตระดามัส) และจากตำราที่อาจารย์ในสถาบันการศึกษาต่างประเทศได้รวบรวมไว้ เป็นต้น แล้ววิเคราะห์การเข้ากันได้ ความต่อเนื่อง ความเป็นไปได้และสรุปเป็นผลเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ พระศรีอารย์จะเกี่ยวข้องกับมหันตภัยโลก ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ โปรดติดตาม

    ความจริง หรือ ความเชื่อใน 2012 มหันตภัยโลก

    ภาพยนตร์ “2012” หรือ วันสิ้นโลกในปี ค.ศ. 2012 หรือ พ.ศ. 2555 จะฉายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน 2552 ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นถึงโลกามหาวินาศที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยผู้สร้างภาพยนตร์คงไม่ได้คิดสร้างขึ้นมาเพื่อจงใจให้ผู้ชมได้ชมการถล่มทะลายของโลกให้สะใจ หรือให้คนบนโลกแตกตื่น แต่คงต้องการให้คนทั่วไปได้รู้ว่าอะไรอาจจะเกิดขึ้นได้

    ผู้สร้างได้ยึดเอาเรื่องการพยากรณ์ของชาวมายันที่เจริญรุ่งเรืองสุดๆบนทวีปอเมริกากลางเมื่อ 1500 ปีก่อนพุทธกาลมาเป็นหลักในการสร้างภาพยนตร์ โดยประเด็นอยู่ที่ชาวมายันได้ศึกษาดาราศาสตร์ผสมผสานกับเรื่องของเทพเจ้าแล้วสร้างปฏิทินที่มีวันจบขึ้นมา โดยมายันนับถอยหลังจากกี่พันปีในเวลานั้น กลับมาปีที่ 0 ซึ่งถือว่าเป็นวันสิ้นสุดของโลก

    ดังนั้นปี พ.ศ. 2552 เวลานี้เป็นปีที่ 3 ปี 2553 จะเป็นปีที่ 2 ... และปี พ.ศ. 2555 หรือ ค.ศ. 2012 จะเป็นปีที่ 0 คือปีสิ้นสุดโลก ซึ่งต่างกับปฏิทินที่เราใช้กันอยู่ทุกๆวันนี้ ที่สามารถใช้และดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งลี้ลับที่ชาวมายันหาวันสิ้นโลกได้นั้น คนในปัจจุบันยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าชาวมายันรู้วันสิ้นโลกได้อย่างไร

    เมื่อก่อนเราดูปฏิทินของชาวมายันดูเหมือนจะเป็นตำนานมากกว่าที่จะเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือเป็นที่รู้จักกันดีคือ “นาซ่า” ได้ประกาศว่าในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 จะเกิดการระเบิดบนดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่สุด ไม่เพียงเท่านี้ นักวิทยาศาสตร์ยังบ่งว่าโอกาสการสลับขั้วแม่เหล็กโลกคือเหนือเป็นใต้และใต้เป็นเหนืออาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย

    ถ้าการระเบิดบนดวงอาทิตย์ประกอบกับการกลับขั้วแม่เหล็กโลกเกิดขึ้นจริง แผ่นดินย่อมไหวใหญ่ ไฟร้ายแรงจะเกิดขึ้นจากการระเบิดของท่อส่งแก็ส ประกอบกับไฟจากใต้พื้นโลก มนุษย์จะหาหาทางดับไม่ได้ ไฟฟ้าจะไม่มี พายุจะเกิดรุนแรงที่สุด คลื่นยักษ์ขนาดตึกร้อยชั้นจะโถมเข้าหาฝั่ง เรื่องเช่นนี้น่าจะเกิดขึ้นเพราะการขาดการสมดุลของสนามแม่เหล็กระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดโลกามหาวินาศ ซึ่งความรุนแรงจะสงบได้เมื่อความสมดุลทั้งหลายกลับมาใหม่

    พระพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องแผ่นดินไหวใหญ่ ภูมิอากาศผิดปกติเช่นกัน ซึ่งบ่งอยู่ในมหาปรินิพพานนั้น จะเห็นว่าพระผู้มีพระภาคย่อมทรงทราบเรื่องเช่นนี้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไรได้เช่นกัน ถ้าโลกาวินาศเกิดขึ้นจริง นั่นย่อมหมายถึงเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ คงเหลือน้อยเต็มที แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ย่อมมีเหตุผลว่าโลกาวินาศจะเกิดทำไม แต่ก่อนอื่นจะพิจารณาว่า อะไรที่มาทำให้เรื่องของการพยากรณ์และงานทางวิทยาศาสตร์ประจวบเหมาะเป็นเวลาเดียวกันเช่นนี้

    เรื่องนี้คงหาคำตอบไม่ได้ แต่ถ้าจะศึกษาต่อไปว่ามีการพยากรณ์อื่นๆที่บ่งบอกเวลาที่โลกาวินาศจะเกิดขึ้นอีกบ้างไหม คำตอบคือ มี เช่นพุทธทำนายที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ เกี่ยวกับโลกาวินาศ “แผ่นดินถล่มทะลายเป็นทะเล” ในปี 2556 หรือ ค.ศ. 2013 ซึ่งปลายปี 2012 ของนาซ่าและมายัน กับปี 2013 ของพุทธทำนายต่างกันแค่ไหน ความแตกต่างไม่มี นับว่าเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันมากเมื่อนับระยะเวลาที่พระผู้มีพระภาคตรัสกับพระอานนท์มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีคำภีร์อื่นๆได้บ่งไว้ในทำนองเดียวกัน ดังนั้นเราไม่ควรประมาทในสิ่งที่ศาสนาและวิทยาศาสตร์ได้บ่งไว้ว่าจะเกิดขึ้น

    หนทางหยุด โลกาวินาศ

    ผู้ที่ศึกษาค้นคว้าคำทำนายทางศาสนาจะเห็นว่าศาสนาที่สำคัญๆของโลกได้ชี้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการกระทำโดยทางธรรมชาติ แต่สวรรค์เป็นผู้กำหนด เพื่อการเปลี่ยนจากกลียุคที่มีคนทำบาปถึง 3 ใน 4 ไปเป็นกฤดายุคหรือยุคทองที่มีคนดีทั้ง 4 ส่วน ดังนั้นโลกาวินาศจะเป็นการล้างคนบาปคนชั่ว เป็นวันพิพากษาที่กฎหมายไม่มีความยุติธรรม หรือ ผู้กระทำผิดกฎหมายก็ไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ วันพิพากษาจะเป็นวันที่ทางสวรรค์จะดำเนินการเองโดยผ่านมาทางพระศรีอารย์หรือมีชื่อเรียกตามศาสนาและภาษาต่างๆ ที่คนทุกชาติศาสนายอมรับ

    พระศรีอารย์มีจริงหรือไม่ ตามคำทำนายที่คล้องจองกัน ได้บ่งบอกว่าพระศรีอารย์มีพระองค์จริงในปัจจุบัน แต่ไม่ปรากฏพระองค์ การที่จะให้พระศรีอารย์ปรากฏก็มีวิธีเดียวคือผู้คนต้องหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่เชื่อแบบที่ได้กระทำกันมา ซึ่งนับว่าเป็นความยุติธรรมที่สุดแก่ทุกๆฝ่าย ในเรื่องพระศรีอารย์นั้นมีข้อมูลอยู่มากที่เป็นเหตุผล มีที่มาที่ไป ยกเป็นตัวอย่าง เช่น พระศรีอารย์เกิดที่ไหน เรื่องนี้สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงตรัสชื่อกรุงเทพมหานคร

    ไว้ตอนหนึ่งคือองค์เทพผู้ที่จะมาปราบยุคเข็ญหรือพระศรีอารย์นั้น ได้ให้พระวิษณุกรรม(พระวิศวกรรม) มาสร้างกรุงเทพฯเพื่อจะได้มาจุติ ในขณะที่นอสตราดามุส (นอสตระดามัส) ได้บ่งว่าพระศรีอารย์เป็นลูกคนจน เกิดที่เมืองที่เคยเป็นทะเลมาก่อน และเมืองนี้ไม่สามารถวัดระยะได้ ซึ่งนอสตราดามุสได้ชี้ถึงเมืองที่วัดไม่ได้คือเมืองเทวดา และเมืองเทวดาที่เคยเป็นทะเลมาก่อนคือกรุงเทพมหานคร

    นอกจากนี้ยังมีพุทธทำนายที่บ่งบอกสถานที่ที่พระศรีอารย์มาจุติคือประเทศในชมพูทวีปหรือทวีปของพระพุทธศาสนา ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในชมพูทวีป และเป็นประเทศเดียวที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ฉะนั้นพระศรีอารย์จึงเป็นคนไทย

    ที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรู้ของพระศรีอารย์นั้น นอสตราดามุสบ่งไว้ว่าพระศรีอารย์จะรูุ้้ว่านักวิทยาศาสตร์ทำอะไรผิดและจะแก้ไขอย่างไร แต่งานสำคัญที่พระศรีอารย์ต้องทำคือสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นบนโลก และทำให้คนเลวคนชั่วหมดไป

    มีศาสตราจารย์หลายท่านที่ศึกษาเรื่องพระศรีอารย์ มีคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เช่น พระศรีอารย์จะทำอย่างไรให้เกิดศาสนาเดียวทั้งๆที่พระศรีอารย์ไม่ได้เป็นศาสดาหรือผู้สอนศาสนา และ พระศรีอารย์จะแก้ด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร เป็นต้น แต่ที่แน่ๆคือคำทำนายของศาสนาต่างๆบ่งว่า ยุคพระศรีอารย์นั้นผู้คนจะมีสันติสุขอย่างแท้จริง

    ผู้ที่คิดว่าจะพบพระศรีอารย์ปลอมนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีการพิสูจน์ความจริง พระศรีอารย์องค์จริงจะต้องปรากฏ และจะต้องทำตามคำทำนายและี่ตำนานได้บ่งไว้ และพระศรีอารย์จะพามนุษย์ผ่านเข้าไปสู่ยุคทอง โดยไม่เกิดโลกามหาวินาศขึ้น


    จากตัวอย่างเบื้องต้น การพิสูจน์ความจริงเรื่องพระศรีอารย์เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ไม่มีผลเสียใด เรื่องของพระศรีอารย์มีมาก และมีรายละเอียดโดยไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์เกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องที่มีที่มาที่ไปเป็นเหตุผลและสามารถพิสูจน์หลักฐานในทาง วิทยาศาสตร์ได้ ท่านผู้สนใจดูเวปภาษาไทยได้ที่ Metteya พระศรีอารย์ ความจริงที่หนีไม่พ้น หรือภาษาอังกฤษที่ Truth: Last Judgment of God and true Messiah at present. ซึ่งเวปนี้กำลังเป็นที่นิยมอยู่ทั่วโลก

    ก่อนจากกัน ขอฝากตัวอย่างภาพยนตร์ “2012” ไว้ดู ก่อนที่ของจริงจะฉายเดือนพฤศจิกายน ใน 2552 ปีนี้

    [​IMG]
    ไฟบรรลัยกัลป์ คือ ไฟล้างโลกเมื่อสิ้นกัป

    [​IMG]
    คลื่นยักษ์สูงกว่าตึก 100 ชั้น เรือบรรทุกเครื่องบินกลายเป็นของเด็กเล่น

    [​IMG]
    ที่พระพุทธเจ้าตรัส "แผ่นดินถล่มทลายเป็นทะเล"

    [​IMG]
    และ "ลูกไฟจะตกจากฟ้า" จะเป็นไปอย่างนี้หรือ

    [​IMG]
    จะหนีไปไหนก็ไม่พ้น ขอบคุณ

    ที่มา http://www.metteya.org/sriann/2012.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนายต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระเจ้าจักรพรรดิ์ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว!!!

    [​IMG]

    รายละเอียดของเหตุการณ์ก่อนพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์หรือมีชื่อเรียกตามศาสนาและภาษาของประเทศนั้นจะปรากฏในปัจจุึบัน ดูเรื่องราวได้จาก The Last Day: Events(s) ใน www.selfwisdom.net หรือที่ MESSIAH: Promise of God and the Last Day are True.
    คำทำนายก่อนพุทธกาลจากศาสนาและลัทธิที่ยอมรับโดยคนทั่วโลกชี้ว่า ถ้าเหตุการณ์ดังที่กล่าวปรากฏขึ้น พระจักรพรรดิมีชื่อเรียกตามภาษาและศาสนานั้นๆ ย่อมปรากฏตนอีกในไม่ช้า ดังเช่น


    [​IMG]

    วัวขาวของอเมริกันอินเดียน เกิดปี พ.ศ. 2537 คำทำนายบ่งไว้ว่าสันติสุขที่แท้จริงจะเกิดขึ้น (ข้อสังเกต วัวป่าของชาวอเมริกันอินเดียน จะมีสีออกสีีน้ำตาล)

    [​IMG]

    วัวแดงของชาวยิว เกิดปี พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นการนำหน้ามาก่อนพระจักรพรรดิ (ข้อสังเกตโดยปกติวัวชาวยิวจะเป็นวัวขาวดำดังรูป)

    [​IMG]
    [​IMG]

    ESE & NASA แสดงดาวพระเคราะห์เข้าแถว พ.ศ. 2543 ตรงกับตำนานของฮินดู ใน Vishnu-Purana เกี่ยวกับถึงเวลาที่พระนารายณ์อวตารเป็นกัลกีหรือพระจักรพรรดิเพื่อล้างความชั่วร้ายและนำโลกเข้าสู่กฤดายุคหรือยุคทอง

    [​IMG]

    พระจันทร์แดง ปี พ.ศ. 2543 (ภาพจากนิวซีแลนด์) ฝรั่ง ญี่ปุ่นถ่ายภาพสด (เป็นที่น่าสังเกตว่าทำไมประเทศไทยถึงมีเมฆปกคลุมทั่วประเทศ มองไม่เห็น หรือน่าจะกล่าวว่า “ใกล้เกลือกินด่าง” จะผิดไหม เมื่อคนไทยส่วนมากไม่รู้เรื่องพุทธทำนาย) พระจันทร์สีแดงนี้เกิดขึ้นเมื่อไร พระจักรพรรดิจะปรากฏพระองค์ในอีกไม่ช้า

    รายละเอียดของเหตุการณ์ก่อนพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์หรือมีชื่อเรียกตามศาสนาและภาษาของประเทศนั้นจะปรากฏในปัจจุบัน ดูเรื่องราวได้จาก The Last Day: Events(s) ใน www.selfwisdom.net หรือที่ MESSIAH: Promise of God and the Last Day are True.

    ที่มา http://www.metteya.org/sriann/End-Time-Prophecies.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  13. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    วันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 ตรงกับเวลา 08.14 น. ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • B5.jpg
      B5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.6 KB
      เปิดดู:
      1,428
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    ชมดาวตกพร่างพรู : ฝนดาวตกสิงโต (Leonids) คืน 17 พฤศจิกายน - เช้ามืด 18 พฤศจิกายน 2552

    นางสาวประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย แจ้งข่าวว่ามีปรากฎการณ์ฝนดาวตกสิงโตที่มอง เห็นด้วยตาเปล่า ช่วง คืนวันที่ 17 พฤศจิกายนถึงเช้ามืดวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ช่วงเวลาประมาณ 04:00 ถึง 05:30 น. จะสังเกตเห็นฝนดาวตกสิงโตได้ประมาณ 200 ดวงต่อชั่วโมง
    วิธีการดู ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ถึง 04:00 น.ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก กวาดสายตาจากขอบฟ้าจนถึงกลางฟ้า และเวลา 04:00 น. - 05:30 น. มองไปที่กลางฟ้า (เหนือศีรษะ) ฝนดาวตกจะมีลักษณะแสงสว่างวาบเคลื่อนที่ผ่านอย่างรวดเร็ว มีสีสันสวยงาม เช่น สีน้ำเงินเขียว สีส้มเหลือง และมีลูกไฟ (Fireball)
    เงื่อนไขในการดู ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆ หมอก และแสงไฟฟ้ารบกวน สามารถดูได้ทั่วประเทศ
    คืน 13 - เช้า 14 ธันวาคม : ชมฝนดาวตกคนคู่ 2552 (Geminids)

    นายอารี สวัสดี อุปนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่าถ้าหากพลาดการชมฝนดาวตกสิงโตก็สามารถดู ฝนดาวตกคนคู่ด้วยตาเปล่า ของคืนวันที่ 13 ธันวาคม - เช้ามืดวันที่ 14 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 20:00 ถึง 02:00 น. คาดว่าดาวตกค่าเฉลี่ยประมาณ 60 ดวงต่อชั่วโมงเวลาประมาณ 02:00 น.
    วิธีการดู ในช่วงหัวค่ำให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกกวาดสายตาจากขอบฟ้าไปยังกลางฟ้า
    ในช่วงเที่ยงคืนถึง 02:00 น. ให้มองไปที่กลางฟ้า ประชาชนสามารถดูด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศ เงื่อนไขต้อง ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆ หมอก และแสงไฟฟ้ารบกวน
    สมาคมดาราศาสตร์ไทย จึงขอเชิญชวนประชาชน ผู้สนใจ เข้าร่วมชมมหกรรมฝนดาวตก
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    จากฟอร์เวิร์ดเมลล์จ้า

    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image001.jpg
      image001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27 KB
      เปิดดู:
      1,581
    • thai_new1.jpg
      thai_new1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      1,483
    • Thai-Ridgeback.jpg
      Thai-Ridgeback.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.6 KB
      เปิดดู:
      1,492
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,947
    *** เมืองเทวดา ****

    กรุงเทพมหานคร ...
    อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
    อวตารสถิต ....

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ
    -มหาโมทนากับทุกท่านครับ
    -เป็นกระทู้ที่ยาวมากจริงๆครับ อ่านเพลินดี
    สาธุครับ
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,947
    *** มาร คือใคร...มาร อยู่ที่ไหน ****

    มาร คือ นิสัยสันดานตน
    มาร อยู่ในตัวเอง
    การเอาชนะมาร คือการไม่ทำตามใจ ตามนิสัยสันดานตน
    หนทาง คือสัจจะปฏิบัติตัดลดนิสัย ที่พระโคดมสั่งสอน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +2,883
    กรุณาเรียกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    หรือ พระพุทธเจ้า ได้ใหม

    ลองไปอ่านพระไตรปิฏกดู
    มีแต่คนนอกศาสนาเท่านั้นที่เรียกอย่างนั้น:'(
     
  20. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    อันนี้ คำแปง เคยอ่านมาเป็นปีแล้วครับ ยังโทรไปจะไปขอมาเลี้ยงบ้าง
    ปรากฎว่า ติดต่อไม่ได้นะครับ

    แล้วเพื่อนก็บอกว่า เคยได้รับมาแล้วเป็นปีเหมือนกัน โปรดใช้พิจารณญาณนะครับ :)


     

แชร์หน้านี้

Loading...