เรื่องเด่น ปริศนาธรรม? พระพุทธเจ้า ประทับนั่งบนเศียรพระศิวะ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 27 สิงหาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    สังคมไทยแม้คมส่วนมาก จะประกาศตนว่าเป็นชาวพุทธ แต่พิธีกรรมต่างๆ มีความเชื่อไปทางพราหมณ์ ฮินดูมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอพรเทพเจ้า ซึ่งจริงๆ แล้วหลักพุทธศาสนา คือเชื่อในเหตุและผล เหตุที่เกิดจากการดลบรรดาลของเทพเจ้าไม่ใช่แก้นของพุทธศาสนา

    1024_a7dfg5daf8ahhda5jb8ie.jpg

    มีพระพุทธรูปปางค์หนึ่งที่ผสมผสานความรู้สึกนึกคิดของผู้คนในยุคต้นๆพุทธศตวรรษ ที่ต้องต่อสู้กับความเชื่อที่ปะปน ในพหุสังคม หรือศาสนาพราหมณ์ กับศาสนาพุทธ

    เฟซบุ๊ค ของคุณ Jaruvat Chanposri เขียนระบุไว้เมื่อสองปีที่แล้ว แต่โพสต์นี้ กลับสะดุดตา และสะดุดกับความนึกคิดของผมเป็นอย่างมา เขาเขียนว่า “หากใครมีโอกาสไปเชียงใหม่ลองแวะไปวัดศรีดอนมูล ที่นี่มีพระพุทธรูปปางหนึ่งเรียกว่า พระปรไมยไอศวร มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปนั่งประทับเหนือศีรษะของพระพรหมหัวจุกหรือพระปรไมยไอยศวร หรือนัยหนึ่งก็คือพระอิศวรหรือพระศิวะนั่นเอง”

    640_kcacf5a87dei5j6fkeb5a.jpg

    ตามตำนานกล่าวว่าพระอิศวรทรงเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้สร้างโลกสร้างจักรวาล ความคิดนี้พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยอำนาจเจโตปริยญาณ

    เหตุที่พระอิศวรหรือท้าวพกาพรหมนี่แหละหรือพระปรไมยไอยศวรมีหลายชื่อแต่ก็คืองค์เดียวกันสำคัญผิดว่าตนเป็นพระผู้สร้างเนื่องจากตนมีอายุยืนนาน นานมากจนเห็นการเกิดตายของสรรพสิ่งรวมทั้งจักรวาล

    เหตุที่พระองค์มีอายุยาวนานเช่นนั้นเพราะสำเร็จสมาบัติสูงสุดเดิมเป็นอรูปพรหมผู้ไม่มีรูป เรียกกันว่าปรมาตมัน นานเท่านานจนฌานถอยลงมาสู่รูปฌานก็บังเกิดกายศิริโสภาสว่างไสวด้วยกำลังฌานเกิดขึ้น เมื่อคิดนึกสิ่งใดก็อุบัติสิ่งนั้นเป็นอัศจรรย์ด้วยกำลังจิตแห่งตน บางครั้งเล่าก็กลับเข้าอรูปฌานไปเป็นปรมาตมันใหม่วนเวียนเช่นนี้นานแสนนานจนเกิดทิฐิที่ผิดเข้าใจว่าตนมีก่อนจักรวาลและเป็นพระผู้สร้างทุกสิ่ง

    เหตุนี้พระพุทธองค์จึงขจัดเสียซึ่งมิจฉาทิฐิโดยไปประลองฤทธิ์กับท้าวพกาพรหมหรือพระอิศวร

    การประลองนั้นก็เล่นซ่อนหา ท้าวพกาซ่อนก่อนไปสุดขอบจักรวาลพระพุทธองค์ก็ทราบ ไปใต้บาดาลก็รู้ เรียกว่าจะซ่อนตัวจากพระพุทธองค์หาได้ไม่

    พอคราวพระพุทธองค์ซ่อนพระวรกายบ้าง ท้าวพกากลับหาไม่เจอ ได้ยินแต่เสียงพระพุทธองค์แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

    สุดท้ายยอมแพ้เนรมิตบันไดทองพาดขึ้นพระพุทธองค์ก็ทรงเฉลยว่าไปหลบอยู่ในมวยมุ่นพระเกศาแห่งท้าวพกานั่นเอง

    เรื่องนี้สำคัญมากเพราะเป็นการสะท้อนว่าการหาพุทธธรรมแท้มิได้ หาได้จากสุดขอบรอบจักรวาลแต่หาได้จากกายในกายจิตในจิตของเรานั่นเอง

    ตำนานนี้ครูบาอาจารย์นำมาเป็นชัยชนะข้อที่ ๘ ในบทพาหุง และมีการสร้างพระพุทธปางพระเหนือพรหมในภาคกลางและพระปรไมยไอยศวรขึ้นอย่างที่เห็น

    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.nationtv.tv/main/content/social/378565090/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 สิงหาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...