ฝึกนโนมยิทธิแบบผิดๆ จนเข้าโรงพยาบาล

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย mon251119, 4 ตุลาคม 2010.

  1. mon251119

    mon251119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +391
    พอดีเพิ่งออกจากโรงพยาบาล มาเลยมาพิมพ์เล่าให้ฟังครับ

    พอดีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมฝึกมโนยิทธิครั้งแรกที่บ้านครับ แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

    คือ ผมคิดว่าจะไปฝึกที่วัดท่าซุงของท่านหลวงพ่อ ก็ไกลเกินไป ผมอยู่เชียงใหม่ ผมก้เลยคิดว่า ฝึกเองก้ได้ เพราะผมอ่านในเว็บแห่งนี้มานานแล้วหละครับ อ่านจนจำได้หมด เลยปฏิบัติดู(อ่านมาเยอะแล้วลองของจริงซะเลย)

    ตอนกลางคืนผมก็เลยปฏิบัตรหน้าหิ้งพระในบ้าน โดยทำตามวิธีที่ท่านทั้งหลายเอามาโพส โดย สวดมนต์ทำวัตรเย็๋นก่อนแล้วเข้าญาณ3(ผมอยุ่แค่ญาณ2ครับเพราะได้แค่้ญาณ3) แล้วตามด้วยวิธีฝึกมโนมยิทธิตามแบบหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็ทำไปเรื่อยๆ ทำไปนั่งสมาธิไปเกือบ1ชั่วโมงได้ สดุ้งครับ ตัวร้อนซุ่ซ่า แล้วจิตในใจมองเห็น สระน้ำขนาดใหญ่สว่างจ้าไปหมดน้ำก็ใสมากๆ แล้วผมก็เห็นต้นปาริชาติดอกบ้านสพั่งเต็มต้นเลย ใจผมก็เลยคิดว่าต้องสอยดอกปริชาติ เอาไปใส่แจกันหิ้งพระที่บ้านซะหน่อย ก็เลยคิดขึ้นต้นปริชาติ โดยการไปหาบันไดเพื่อนปีนขึ้นไป หาเท่าไหร่ก้หาไม่เจอ พอดีเจอผู้่หญิงสาวคนนึงสวยมากๆๆๆๆแต่งตัวมีแต่เครื่องเพชรเต็มไปหมด เค้าก็บอกว่า อยากได้ดอกปริชาติหรือ? ก็เอากรรไกรมาตัดเอาไปสิ ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมไม่มีกรรไกรเลย มีดไรก็ไม่มี เค้าก็บอกว่านึกเอาสิ ผมก็เลยนึกเอา เห้ย ตกใจเลยครับ มันมาตามที่นึกเลย ก็เลยเอามีดนั้นตัดดอกปริชาตมาได้3ดอก แล้วก็จะเดินกลับบ้านผมก็หาทางกลับบ้านไม่เจออีก เดินหาทางออกเท่าไหร่ก็ไม่เจอแต่เจอแต่เจดีย์...มีเจดีย์องค์หนึ่งซึ่งสูงมากๆผมคิดว่าสูงไม่ต่ำกว่า500เมตรเลยก็เลยเอาดอกปริชาติ่ที่เด็ดมาวางที่หน้าเจดีย์ไป1ดอกแล้วก็เดินออกมา อีกทั้งผู้หญิงคนนั้นก็เดินตามมาอีก ก็เลยระแวงสิครับ ผมก้เลยถามว่า ทางออกอยู่ทางไหนครับ สาวเจ้ากลับตอบมาว่านิมมาน แหม่ตามทางกลับบ้านแต่กลับตอบว่านิมมาน.......ผมคิดในใจหญิงสวยแต่แล้งน้ำใจมากๆ ก็เลยถามคำถามเดิมแล้วถามใหม่อีกครั้ง ก้ได้คำตอบเลยยั่วโมโหผมซิครับ.......ถามทางกลับบ้าน แต่กลับพูดว่านิมมานๆ อยุ่นั่นแหละ ก็เลยเกิดอารมร์ชั่ววูบต่อยไปที่หน้าผู้หญิงคนนั้นสรุปว่า ผมสดุ้งตื่นครับ โดยอยู่ที่โรงบาล สายน้ำเกลือระโยงไปหมด ข้างๆเตียงมีแม่ผมเฝ้าอยู่

    พอแม่เห็นผมตื่นมาแล้วแกก็ดีใจครับ แต่ตอนนี้ผมเจ็บหน้าหนักหน้ามากๆ ผมก็เลยถามแม่ว่า ทำไมผมมาอยุ่โรงบาลนี้แม่ผมก็ตอบว่า...ผมสลบไป3วัน!!! สลบที่หน้าหิ้งพระนั่นแหละ สลบโดยนั่งสมาธิด้วย แม่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นก้เลยพามาโรงบาล....ตอนนั้นผมสดุ้งตื่นแล้วผมเ้จ็บหน้าไปหมด มึนตาแทบไม่ได้.

    พอออกจากโรงพยาบาลแล้วผมก็กลับมานั่งเรียบเรียงเหตุการณ์เรียงไปเรียงมาก็....เห้ย ตกใจสิครับ หรือว่า เมื่อตอนที่จิตเราไปเที่ยวนั้นมันเป็นจริงๆ พอผมคิดเช่นนั้นแล้วเล่าให้แม่ผมฟังแม่ผมก็ตกใจมากๆครับ ก็เลยวันอังคารหน้าตกลงกับแม่แล้วผมจะขอบวช7วัน เพื่อขมา สิ่งสักสิทธ์ ที่ผมลบหลู่และซนเกินไป เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผม

    ผมจะขอบาชเพื่อขอขมาท่านที่ผมไปชกหน้าท่าน ทำให้ผมเจ็บหน้าแทน(ตอนนี้ผมก็ยังเจ็บอยู่) มีเท่านี้แหละครับ


    นี่แหละครับ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ท่านอื่นอย่างเลียนแบบผมนะครับ เดี๋ยวจะเป็นเหมือนผม เ

    และตอนนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกว่า ที่ เทวดาผูั้้หญิงท่านนั้นพูดว่า นิมมาน มันคืออะไร และดอกปริชาตของผมมันหายไปไหน ช่วยไขข้อกระจ่างให้ผู้โง่เขลาคนนี้ด้วยครับ

    อนุโมทนาทุกท่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  2. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    สวรรค์ชั้นที่ ๕
    นิมมานรดีเทวภูมิ


    [​IMG]

    สวรรค์ชั้นนิมมานรดี เป็นสวรรค์ชั้นที่ ๕ จัดอยู่ในกามภพ เป็นปรโลกฝ่ายสุคติภูมิ เป็นสวรรค์ ที่มีอายุทิพย์ วรรณทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ ละเอียดและประณีตกว่าสวรรค์ทั้ง ๔ ชั้นที่ผ่าน และมีความพิเศษ กว่าสวรรค์ทั้งชั้น ๔ ที่ผ่านมาในเรื่องของสมบัติอันเป็นทิพย์ที่สามารถเนรมิตได้ตามใจปรารถนา ซึ่งเป็นสวรรค์อีกชั้นหนึ่งที่น่าศึกษายิ่ง

    นิมมานรตี มีความหมายว่า เทวดาที่มีความสุขความเพลิดเพลินในกามคุณทั้ง ๕ ที่ตนเนรมิตขึ้นตามความพอใจของตนเองทุกประการ หรืออีกความหมายหนึ่ง คือ ที่อยู่ของเหล่าเทวดาผู้มีท้าวสุนิมมิตเป็นผู้ปกครอง

    นอกจากนั้น พื้นภูมิภาคยังมีสภาวะเป็นทองราบเรียบเสมอกัน มีสระโบกขรณี และ สวนอุทยานอันเป็นทิพย์
    สำหรับเป็นที่เที่ยวเล่นสำราญแห่งเหล่าชาวสวรรค์นิมมานรดีทั้งหลาย
    เช่นเดียวกับสมบัติทิพย์ในสวรรค์ชั้นดุสิต ต่างกันแต่ว่าทุกอย่างที่นี่มีสภาวะสวยสดงดงามกว่า
    และประณีตกว่าทิพยสมบัติในดุสิตภูมิ

    เทพยดาทั้งหลายในสวรรค์ชั้นนี้ มีรูปทรงสวยงามน่าดูชม ยิ่งกว่าชาวสวรรค์ชั้นที่ต่ำกว่าทั้งหลาย
    และมีกายทิพย์ ซึ่งมีรัศมีรุ่งเรืองเป็นยิ่งนัก หากเขาเกิดความปรารถนาจะเสวยสุขด้วยกามคุณารมณ์สิ่งใด
    เขาย่อมเนรมิตเอาได้ตามความพอใจชอบใจแห่งตนทุกสิ่งทุกประการ ไม่มีความขัดข้อง
    และเดือดเนื้อร้อนใจในกรณีใด ๆ เลย ปรองดอง รักใคร่ และได้รับความสุขสำราญชื่นบาน ทุกถ้วนหน้า

    [​IMG]

    ทางไปสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
    ผู้ที่จำอุบัติในสวรรค์ชั้นนี้ ต้องเพียรบริจาคทานเป็นอันมาก อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จิตใจบริสุทธิ์
    รักษาศีลไม่ขาดตกบกพร่อง ต้องอุตส่าห์ก่อสร้างกองบุญกุศลให้ยิ่งใหญ่ อบรมจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
    ไม่ให้สกปรกลามกมีมลทิน พยายามรักษาศีลไม่ให้ขาด มีใจสมบูรณ์ด้วยศีล ผลวิบากแห่งทาน
    และศีลอันสูงส่งเท่านั้น จึงจะบันดาลให้ไปอุบัติเกิดในสวรรค์ชั้นนี้ได้

    ในทานสูตรกล่าวไว้ว่า
    "ผู้ใดทำทานโดยไม่คิดว่าเราหุงหากิน แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่ได้หุงหากิน
    เราจะไม่ให้ทานก็ไม่บังควรอย่างยิ่ง แต่ได้คิดว่าเราจะให้ทานเหมือนอย่างฤาษีทั้งหลาย
    ที่ได้กระทำมาในอดีต เมื่อตายลงย่อมไปบังเกิดเป็นเทวดา ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี"

    .............................................................

    ขออนุโมทนาแก่เจ้าของกระทู้ด้วยครับ
    ที่ได้นำประสบการณ์จากการนั่งสมาธิมาบอกกล่าวเพื่อเป็นประโยชน์
    และเป็นอุทาหรณ์แก่กัลยาณมิตรทุกๆท่าน
    และหากท่านประสงค์ที่จะบวชแล้ว ขอให้ท่านเจริญในธรรม
    เพื่อดำรงค์พระพุทธศาสนา บุญรักษาครับ

    ขอขอบพระคุณ แหล่งที่มา :

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  3. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    เห็นชัดเท่าไหร่ ก็โดนหลอกง่ายเท่านั้น
    หวังว่าจะเข้าถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อนะครับ
    สิ่งเหล่านี้มีเอาไว้ใช้เพื่อการละกิเลสนะครับ ไม่ใช่สะสมกิเลส
    ตั้งใจตรงเพื่อนิพพาน เพื่อสาธารณะประโยชน์
    แทนคุณพระรัตนตรัยครับ
    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  4. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    สิ่งที่คุณเล่า ยังไม่ตรงกับความเป็นจริง จะทำอะไร ขอให้พิจารณา ผลดี และ ผลเสียที่จะตามมา ตัวคุณเองเท่านั้น ที่รู้ตัวคุณเอง

    และ ตรงนี้ คุณค้านคำสอน นะคะ

    ... นี่แหละครับ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ท่านอื่นอย่างเลียนแบบผมนะครับ เดี๋ยวจะเป็นเหมือนผม ...
     
  5. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    จงมองทุกบทความให้เห็นธรรม

    ไม่ว่าบทความนั้นจะเกิดจาก กุศล หรือ อกุศล

    ตามความเข้าใจของผม

    ผมเข้าใจว่าเจ้าของกระทู้คงหมายถึง อย่าเลียนแบบในการไปลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆ
    ทั้งในนิมิตรและในความเป็นจริง หากเราไม่เชื่อก็จงวางอุเบกขาอย่าไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ซึ่งเจ้าของกระทู้คงหมายถึง อย่าเลียนแบบในสิ่งนี้ ซึ่งผมก็เห็นด้วย
    และเข้าใจว่าเจ้าของกระทู้ก็คงนึกเสียใจในการกระทำที่ตนเองรู้เท่าไม่ถึงการณ์
    ผมจึงอยากให้ท่านทั้งหลายมองให้เห็นเจตนาที่แท้จริงเสียก่อน
    อย่าพึ่งตำหนิกันเลยครับ กัลยาณมิตร ให้อภัยกันนะครับ

    ผมเห็นด้วยนะครับในการเปลี่ยนชื่อกระทู้
    เพราะอาจจะทำให้ท่านอื่นเข้าใจผิดว่า เจ้าของกระทู้ฝึกมโนมยิทธิจนเข้าโรงพยาบาล
    ผมคิดว่าที่เจ้าของกระทู้ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะว่าไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  6. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    อ่านแล้วแปลก ๆ ครับ ขออนุญาตแสดงความเห็นเพิ่มเติมนะครับว่า

    วิชามโนมยิทธินั้นใช้แค่อุปจารสมาธิเท่านั้น หรือไม่ก็ญาณ 4

    ทึ่คุณเล่าว่ามาใช้ญาณ 2 ต่อไปญาณ 3 แล้วต่อมโน ฯ นั้น (ไม่แน่ใจว่าใช้ญาณอะไรไป)

    ผมว่า คุณไม่ได้ปฏิบัติตามตำราที่หลวงพ่อสอนไว้ครับ ดังนั้นไม่ควรอ้างว่า "มโนมยิทธิ" เพราะทำให้วิชาของแท้เสียหายได้ครับ

    ดังนั้น โปรดพิจารณาด้วยครับว่า เหมาะสมหรือไม่ที่จะเอามาเล่าครับ เพราะผมอ่านแล้วยอมรับว่า แปลก ๆ ครับ
    ยังไง รบกวนผู้ได้มโนมยิทธิทั้งหลายช่วงเสริมด้วยครับ

    ถ้าเป็นไปได้อยากให้แก้ไขชื่อกระทู้ครับ เพราะไม่มีใครฝึกมโน ฯ แล้วเข้าโรงพยาบาลครับ แต่ที่ฝึกแล้วโรงพยาบาลเขาไม่ได้เรียกว่า "มโนฯ" ครับ
    เดี๋ยวคนอื่นมาอ่านแล้วจะตกใจได้ครับ

    ถ้าแก้เป็น "ฝึกมโน ฯ แบบผิด ๆ แล้วเข้าโรงพยาบาล" ก็ยังพอไหวครับ


    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  7. ศรีสิทธิ

    ศรีสิทธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1,515
    การฝึกมโนมยิทธิ ไม่มีโทษ และใช้กำลังแค่ อุปจารสมาธิ ฌาณ ๒ ตัดวิจารย์ คือ คำภาวนาหายไป และเป็นอารมณ์ ลื่นไหล เข้าสู่ฌาณ ๔ (จิต เริ่มไม่สัมผัส ร่างกาย) คุณจะเห็นภาพได้ ต้องอยู่ใน อุปจารสมาธิ หรือ ฌาณ ๔ ละเอียด ( เต็มกำลัง ) อย่างกรณี ของท่านจะไม่ขอวิจารณ์ ที่ออกมาแจงเพราะ คำพูดที่ว่า @@@@ แล้วตามด้วยวิธีฝึกมโนมยิทธิตามแบบหลวงพ่อวัดท่าซุง @@@@
     
  8. ศรีสิทธิ

    ศรีสิทธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1,515
    เห็นด้วย กับการเปลี่ยนชื่อ กระทู้ ตามคุณ Komodo ครับ
     
  9. รากแห่งธรรม

    รากแห่งธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    667
    ค่าพลัง:
    +3,173
    ผมว่าวิชา มโนยิทธิ ไม่มีอการแบบนี้นะครับ อีกอย่าง ญาณสอง กับญาณสามนี่คืออะไร มโนยิทธิใช้อารมณ์ที่ถึงฌาน4แล้วถอยลงมาที่อุปจารสมาธิแล้วกำหนดเป็นนิมิตให้เห็นยังไม่เคยได้ยินว่า ญาณสองญาณสามก็ไปได้แล้ว ผมว่าที่คุณพูดมาไม่นับเป้นมโนยิทธิด้วย ผมว่าการที่มาพุดแบบนี้ คนที่เค้าไม่รู้เรื่องจะเข้าใจผิด แล้วตกอกตกใจเอาเปล่าๆเลย
     
  10. Nuk036

    Nuk036 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +99
    ผมก็อยู่เชียงใหม่ครับ และ ก็อยากฝึก มโนมยิทธิ ( ซึ่งตอนนี้ ก็ยังไม่ได้ฝึก )

    แต่ผมไปหาข้อมูลมาแล้วครับ ที่เชียงใหม่ ก็มี

    อยู่แถวๆ สันติธรรม

    บ้านทิพย์ปฏิบัติธรรม เลขที่ 6 ถนนสันติรักษ์ ข้างวัดสันติธรรม ต. ช้างเผือก อ. เมือง จ. เชียงใหม่ 50300 โทร. (053) 219-831 โดย คุณแม่ เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ จะมาอยู่ทุกปี ๆ ละ 3-6 เดือน (ช่วงเดือน มิถุนายน - พฤศจิกายน) ฝึกทุกวันเวลา 19.00-21.00 น. ยินดีฝึกตามวัดโรงเรียน สถาบันต่าง ๆ ที่มีผู้สนใจติดต่อ แล้วแต่จะเห็นสมควร


    ผมเคยลองโทรไปถามแล้วครับ... คุณลองโทรไปดูนะครับ
     
  11. teera-chang

    teera-chang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +1,529
    เด็กเขายังใหม่ยังไม่เข้าใจ ดุกันจริงๆเลย
     
  12. mon251119

    mon251119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +391
    ผมจะบอกอย่างงี่นะครับ คือผมฝึก ครับ แต่เหตุผลที่เข้าโรงพยาบาลนั้นก็ขอให้ท่านอ่านให้ทะลุปรุโปร่งนะครับ ผมบอกว่า นั่งสมาธิไปแล้ว(ไม่รู้ว่านั่งไปนานเท่าไหร่)ก็สลบคาสมาธิไป3วันมารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่ ร.พ แล้ว ถามแม่ๆก็บอกว่า ผมนั่งแล้วก็สลบคาสามาธินั่นแหละ แม่ผมเรียกยังไงก็ไม่ตื่น ก็เลยพาส่งไปโรงบาล ผมมาสดุ้งตื่นอีกทีก้เข้าโรงบาลไปแล้ว3วัน ทีนี้เข้าใจกันยังงี้ครับ
    จากนั้นผมก็ไปถามหลวงพ่อ หลวงพ่อก็บอกว่าให้บวชปฏิบัตติธรรม7วันเพื่อน อุทิศส่วนกุศลให้สิ่งสักสิทธ์ แล้วจะดีเป็นปรกติ

    ไม่มีความสงสัยในโลก และไม่มีความจริงในโลก...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  13. nutt_nst

    nutt_nst เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,470

    ผมคิดว่าเข้าใจคุณนะครับ ทั้งๆที่ผมไม่เคยได้ผลจากการฝึกมาก่อน
    เรื่อง ฌาน นี่ผมว่าคุณน่าจะหลุดไปโดยฌาน 4 นะครับ ถ้าจะเทียบเป็นมโนก็แบบเต็มกำลัง แล้วที่ว่าไป 3 วันนั้นก็เป็นเรื่องปกติครับ เพราะเวลานั้นจะต่างกัน ผมว่าดีแล้วครับที่คุณกลับมาเพราะส่วนใหญ่ถ้าเราๆไปจะไม่ให้เกิน 7 วันมนุษย์ เพราะร่างกายจะรับไม่ไหว

    คราวหน้าผมแนะนำให้นึกถึงหลวงพ่อหรือใครซักคนที่คุณศรัทธาและพอจะนึกออกดูครับเวลาหลุดไปแบบนี้
     
  14. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมอ่านทะลุปรุโปร่งแล้วครับ เลยแนะนำไปว่า สิ่งที่คุณเขียนนั้น "แปลก" และการใช้คำอธิบายยังไม่ชัดเจน ทำให้คนเข้าใจผิดได้ โดยเฉพาะหัวข้อกระทู้ที่บอกว่าฝึกมโนฯ จนเข้าโรงพยาบาล คนที่เข้ามาอ่านก็อาจเข้าใจผิดได้ และอาจจะมองว่า วิชามโนมยิทธิเป็นอันตราย ซึ่งก็จะเป็นการไปขวางความดีของคนอื่น

    ผมขออ้างอิงที่คุณเขียนว่า

    "พอแม่เห็นผมตื่นมาแล้วแกก็ดีใจครับ แต่ตอนนี้ผมเจ็บหน้าหนักหน้ามากๆ ผมก็เลยถามแม่ว่า ทำไมผมมาอยุ่โรงบาลนี้แม่ผมก็ตอบว่า...ผมสลบไป3วัน!!! สลบที่หน้าหิ้งพระนั่นแหละ สลบโดยนั่งสมาธิด้วย แม่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นก้เลยพามาโรงบาล....ตอนนั้นผมสดุ้งตื่นแล้วผมเ้จ็บหน้าไปหมด มึนตาแทบไม่ได้"

    สีแดงที่คุณเขียนมา คนอื่นแล้วตีความได้ 2 ความหมาย คือ
    1. คุณสลบไป 3 วัน หน้าหิ้งพระ แล้วแม่ถึงพามาโรงพยาบาล
    2. คุณสลบไป 1 วัน และแม่พาโรงพยาบาลแล้วสลบต่ออีก 2 วัน รวม 3 วัน

    อีกเรื่องที่คุณเขียนมาว่า

    "ผมก้เลยคิดว่า ฝึกเองก้ได้ เพราะผมอ่านในเว็บแห่งนี้มานานแล้วหละครับ อ่านจนจำได้หมด เลยปฏิบัติดู"

    คำว่า "อ่านจนจำได้หมด" อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณฝึกผิดพลาด นั่นเพราะการฝึกวิชามโนมยิทธิ ต้องอาศัยการทำความเข้าใจมิใช้การจำ

    ที่ผมต้องมา "แย้ง" มิใช่ว่าผมมาจับผิด หรือ ทำให้เสียหน้า แต่เนื่องจากห้องหลวงพ่อมีคนเข้ามาอ่านจำนวนมาก การสื่อความหมายที่คลุมเคลือ และตีความได้หลายมุม อาจทำให้ผู้อ่านสับสนและเกิดความกลัวในการฝึกได้

    นอกจากนั้น มโนมยิทธิเป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตน การเล่าให้บุคคลอื่นฟังต้องทำการเรียบเรียงคำพูดให้เข้าใจง่าย และเข้าใจตรงกัน ที่สำคัญ คือ ควรแยกแยะว่า สิ่งใดควรเล่า สิ่งใดไม่ควรเล่า นอกจากนั้น ต้องพิจารณาว่า เล่าแล้วเกิดผลประการใดตามมา

    เรื่องที่คุณเล่า ถ้าเล่าให้คนอ่านฟังว่า คุณฝึกผิด ลัดขั้นตอน รวมทั้งปรามาสพระขณะฝึก (ต่อยเทวดา) คุณก็โดนกรรมสะท้อนทำให้ "ติดในญาณ" และต้องเข้าโรงพยาบาล

    แต่ถ้าคุณตั้งหัวข้อแบบเดิมที่ว่า "ฝึกมโนมยิทธิ จนเข้าโรงพยาบาล" ถ้ามีคนมาอ่าน ก็จะเข้าใจผิดได้ เพราะคนบางคนเขาอ่านแค่หัวข้อ บางคนอ่านหัวข้อและอ่านข้างใน ดังนั้น หัวข้อจึงมีความสำคัญ ซึ่งเจ้าของกระทู้ต้องพิจารณาให้ดีว่า ตั้งอย่างไร ไม่ให้เกิดโทษ

    นอกจากเนื้อหาแล้ว ในการโพสต์ควรจะตรวจทานคำผิดให้เรียบร้อย
    ซึ่งจะเป็นการฝึก "สติ" ไปในตัว เพราะบางครั้งเราอาจจะพิมพ์เร็ว
    ทำให้ขาดการตรวจทาน ดังนั้นเมื่อโพสต์แล้ว ควรจะตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง

    ในกรณีของคุณมีข้อความผิดในกระทู้บ้างเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ทำให้ความหมายผิดไปมากนัก แต่อยากให้แก้ไขชื่อกระทู้อีกนิดนึงนะครับ เพราะคำว่า "มโนมยิทธิ" คุณพิมพ์ผิดครับ

    โมทนา

    กัลยาณมิตรย่อมตักเตือนกันนะครับ สิ่งใดล่วงเกินหรือทำให้ไม่สบายใจก็ต้องขออภัย แต่อย่าไปคิดอะไรมากครับ เพราะผมโมทนาในประสบการณ์ของคุณ
     
  15. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ทุกวันนี้ผู้ปฏิบัติ ต่างแตกยอดแตกแขนงการปฏิบัติของตนเอง ไปมากมาย ทั้งที่จริงก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมาแล้วทั้งสิ้น
    เหตุนี้หลาย ๆ ท่านจึงเห็นความไม่สมควร จึงทักท้วง ทุกคนทั้งผู้ถูกทัก และผู้ทักจึงควรจะยอมรับและเอาไปปรับปรุง หากเราถูกดีแล้ว ก็นิ่งเฉย วางเฉยเสีย อย่าโกรธ เพราะเป็นโทสะ หากเราไม่ถูก ก็อนุโมทนาที่มีใครเข้ามาแนะนำเรา จะได้เกิดมุทิตา ถูกหรือผิดพิจารณา โดยธรรมไม่เข้าข้างตัวเองทั้งสิ้น ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่เอาพระพุทธเจ้าและพระธรรมเป็นที่ตั้ง

    การแนะนำผู้อื่น และใครต่อใครนั้นย่อมได้บุญหากสิ่งที่แนะนำไปนั้นถูกต้อง เป็นจริงตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่หากบิดเบือนเอาความคิดตนเองเข้าใส่ แนะนำไปตามอารมณ์ของเราที่ชุ่มไปด้วยกิเลส ตัณหา จะก่อให้เกิดอกุศลกรรม สอนให้ผู้อื่นเป็นมิจฉาทิฐิ

    อนึ่งการปฏิบัติ อย่ารีบร้อน รีบเร่ง หลายคนหลายครั้ง เมื่อปฏิบัติไปได้จุดหนึ่ง จะมีอารมณ์อยากแนะ อยากสอน อยากบอก มันจะพลาดได้ง่าย แนะให้ดูตัวเองให้มากที่สุด อย่างตรงไปตรงมา ว่าเรายังมีจุดพลาดตรงไหน อะไรไม่ดีบ้าง เพราะอารมณ์ที่เราอยากแนะนี้แหละ จะเป็นอารมณ์ที่พาเราตกต่ำได้ง่าย เพราะมีการกระทบเยอะ

    นะครับ อย่าเพิ่งคิดว่ามาว่า หรือมาสอน จริงใจอยากให้ได้ดี ฝึกได้ทำได้ ผมย่อมยินดีด้วยมาก ๆ เพราะจะได้ไปเป็นครูเขา แนะนำใครต่อใครได้อีก แต่ต้องยึดเอาอารมณ์พระ หลวงพ่อเป็นที่ตั้งเสมอนะครับ ห้ามหลงเชื่ออารมณ์ตนเอง เพราะอาจจะเจือไปด้วยกิเลสได้ เมื่อถึงเวลาถึงละถึงวางอารมณ์ยึดสิ่งต่าง ๆ ได้เองครับ

    *ส่วนเรื่องคำและความแนะให้ไปอ่าน และทำความเข้าใจให้มาก เมื่อบอกต่อจะได้ไม่ผิดพลาดครับ
     
  16. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนากับคุณ pmbtr ด้วยครับ

    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านเคยสอนไว้ว่า

    เมื่อมีคนมาชี้ข้อบกพร่องของเรา เราต้องขอบคุณเขา เพราะเขายอมเสียเวลาในการพิจารณาดูว่า เรามีข้อบกพร่องอะไร และเขาได้ใช้ความคิดในการค้นหาหรือพยายามแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้เรา หรือ เตือนให้เรากลับไปคิดเพิ่ม สิ่งที่เขาทำนั้น อาจทำให้ผู้ถูกชี้แนะเกิดความไม่พอใจ หรือ รู้สึกไม่ดีกับผู้ชี้แนะได้ แต่เขาก็ยอมทำ เพราะเห็นว่า เป็นประโยชน์กับเรามากกว่า

    ผมอยากให้อ่านกระทู้นี้เพิ่มเติม จะมีท่อนหนึ่งที่ว่า

    "องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ไม่คำนึงถึงอันตราย ก่อนที่จะสงเคราะห์บุคคลผู้ใด ต้องการอย่างเดียวว่า วาจาที่กล่าวไปแล้วด้วยความจริง ถ้าบรรดามนุษย์ชาย หญิง หรือภิกษุสามเฌร จะบรรลุธรรมพิเศษตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ท่านทรงปรารถอย่างนั้น วาจาประเภทนั้นทำให้เขาบรรลุมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลจะตรัสวาจานั้น (ใครจะโกรธ หรือใครจะไม่โกรธ ก็ช่าง ไม่คำนึงถึง )"


    ที่มา :

    http://palungjit.org/threads/หลวงพ่...สามารถห้ามใครไม่ให้ตกนรกได้-กฏของกรรม.127206/
     
  17. bhothisata

    bhothisata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +5,182
    ถ้าเป็นจริงตามที่คุณบอกกล่าว กายในคุณน่าจะออกไปขณะที่คุณอยู่ในฌาน ๔ นะครับ เป็นการประยุกต์ใช้ของ มโนมยิทธิเต็มกำลัง คือคุณใช้หลักมโนฯ ผสมกับกสิณน้ำนำอทิสมานกายของคุณออกไป ซึ่งขณะที่ออกไปคุณไม่ได้ควบคุมตัวเอง หรือกายในออกไปโดยยังควบคุมไม่ได้ ทำให้คุณจับทิศทางไม่ถูก คราวหน้าหากจะทำใหม่ ขอให้ไปกับพระนะครับ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ อย่าตกใจ พยายามจับภาพพระหรือนึกถึงพระเวลาที่คุณเห็นภาพจากกายใน ขอบารมีพระช่วยจะทำให้ดีกว่าไปโดยกำลังของตัวเอง หรือหากอยากจะไปโดยกำลังของตัวเอง เวลาสงสัยหรือต้องการคำตอบให้นึกถึงพระครับ แล้วคุณจะได้คำตอบ ฝึกเข้าออกให้คล่องแล้วจะควบคุมกายในได้เอง คุณน่าจะมาจากสวรรค์ชั้นนิมมาฯ ถึงได้พบเพื่อนเก่าแล้วบอกถึงที่อยู่เก่ากับคุณ นั่นเป็นเหตุที่ทำให้คุณซุกซน เพราะท่านที่มาจากชั้นนี้มักเป็นนักประดิษฐ์ในโลกมนุษย์ ดูนิสัยส่วนตัวของคุณว่าเป็นคนชอบค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์หรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นละก็ใช่ครับ ท่านที่อยู่ชั้นนิมมาฯมักชอบเนรมิตสิ่งต่างๆให้กับท่านที่อยู่ชั้นปรนิมฯ ท่านเป็นพวกที่ได้ฌาน ๔ แล้วคล่องในกสิณ ๑๐ ขณะที่เป็นมนุษย์ คือได้อภิญญาสมาบัติ แต่เวลาตาย บังเอิญไปตายนอกฌาน (ไม่ยอมตายในบ้าน ชอบตายนอกชานน่ะครับ) ฉะนั้นการที่คุณออกไปแบบนั้นเป็นเรื่องไม่แปลก เพราะหากคุณมาจากชั้นนิมมาฯ ขณะภาวนาคุณใช้ นะ มะ พะ ธะ แต่พอจิตคุณทรงฌาน ๔ คุณเห็นน้ำแล้วจับกสิณน้ำตาม ทำให้กายในคุณออกโดยของเก่า(บุญเก่า)ของคุณ เพราะคุณคล่องในกสิณและสมาบัติมาก่อน ส่วนต่อไปคุณจะเลือกเดินทางไหนก็เป็นเรื่องของคุณละครับ คุณจะไปนิพพานหรือท่องโลกต่อ คงขึ้นอยู่กับวาระและผลบุญของคุณว่าจะตัดกิเลสได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นตัวผม เวลานั่งจะอธิษฐานจิตขอพบครูอาจารย์หรืิอขอเรียนตรงกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกอย่างนะครับ ให้ระวังจิตตัวเอง หากได้ฌานอภิญญาสมาบัติ ต้องควบคุมจิตตัวเองมากๆ หากเผลอคิดไม่ดีกับผู้อื่น ท่านผู้นั้นจะได้รับผลทันที และจะส่งผลสะท้อนกลับมาหาคุณ จะทำให้จิตคุณตก ผมประมวลเหตุการณ์จากที่คุณบอกเล่ามานะครับ ผนวกกับความรู้จากครูบาอาจารย์โดยเฉพาะท่่านพ่อฤๅษีฯ ที่ให้ความรู้กับผมมากๆ อย่าได้คิดว่าผมเป็นผู้รู้หรือได้ฌานขั้นสูงนะครับ ผมช่วยไขความกระจ่างตามที่ตัวเองคิด ถูกผิดประการใดโปรดใช้วิจารนาญาณด้วยครับ สำหรับเรื่องการเข้าโรงพยาบาลนั้น ผมคิดว่าคุณแม่คุณตกใจ หากไม่นำคุณเข้าโรงพยาบาล กายในคุณน่าจะกลับเข้่าร่างได้ตามปกติ แต่ควรเสาะหาครูอาจารย์เก่งๆที่แนะนำและตามจิตคุณได้นะครับ ขณะนี้คุณยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่ต่อไปเมื่อคุณศึกษาและคล่องในกรรมฐาน อภิญญาจะกลับมาและคุณจะเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น คุณจะรู้ว่าฌาน ๒ ที่คุณคิดว่าคุณทรงอยู่ เวลาที่มันวิ่งไปฌาน ๔ มันเร็วมาก ถึงเวลานั้นคุณอาจจะเป็นที่พึ่งของคนหลายๆคนครับ เจริญในธรรมครับ
     
  18. pataster

    pataster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +806
    ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปไม่อยากให้ใช้คำว่ามโนมยิทธิจะได้หรือป่าวครับ

    ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ไม่อยากให้ใช้คำว่ามโนมยิทธิจะได้หรือป่าวครับ
    ...
    เพราะดูแล้วน่าจะเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสมาธิจนต้องเข้าโรงพยาบาลมากกว่าานะครับ...เปรียบไปก็คล้ายกับ สมมตินะครับสมมติ คล้ายกับขับรถยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ แล้วขับผ่านสี่แยกไปกำลังเขียวเป็นเหลือง--ตัดสินใจฝ่าไปไม่ทันเลยโดนรถชนแล้วก็มาบอกว่า ขับวีโก้โดนชนจนเละ อะไรประมาณนี้ครับ

    ...จริงๆแล้วไม่อยากยุ่งหรอกครับพอเห็นชื่อกระทู้แล้วผมก็ไม่อยากเข้ามาอ่านแล้วกลัวจิตจะตกตาม(ต่างคนต่างสายมากมายผมไม่อยากแบ่งครับเพราะเราก็สายพระพุทธเจ้าเหมือนกันหมด) แต่ด้วยกลัวมีคนมาใส่ร้ายวิชานี้ พออ่านแล้วก็เลยทราบว่าคุณก็เป็นนักปฏิบัติแล้วนี่เป็นผลของสิ่งที่อยู่ในสมาธิเลยไม่อยากให้โพสต์อย่างนี้เลยครับ

    คิดดูว่าคนใหม่ๆที่ไม่เคยฝึกมโนฯมาอ่านแล้วไม่ได้เข้าอ่านข้างในเค้าจะอยากฝึกมโนฯไหมครับ แล้วคุณคิดว่านี่เป็นกรรมเพราะแค่ชื่อกระทู้ที่คุณตั้งหรือเปล่า?(หากบารมีเค้าสามารถใช้ผลของกสิณนี้ได้)

    ผมเข้าใจเจตนาดีก็เข้าใจนะครับว่าไม่อยากให้คนทำผิดเหมือนตัวคุณซึ่งก็เป็นสิ่งดีครับแต่ลองคิดดูครับ
    ปล.อยากให้ทั้งหมดมีแต่คุณกับคุณครับไม่มีโทษมีกรรมกันอีกต่อไป
     
  19. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348


    ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสมาธิ
    จนต้องเข้าโรงพยาบาล


    ใช้ชื่อกะทู้แบบนี้น่าจะดีกว่าครับ

    แต่ยังไงก็ของขอบคุณสำหรับเรื่องเล่านะครับ

    อ่านดูแล้วก็เชื่อว่ามีเจตนาที่ดีครับ

     
  20. Heartsutra

    Heartsutra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +98
    ต่อยหน้าผู้หญิง... - - ต่อยเทพธิดายังแค่ป่วย ถ้าต่อยหน้าคนเนี่ย เข้าคุกครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...