พญานาคลุ่มน้ำมูล

พระธาตุมหาชัย จ.นครพนม

เรื่องของภพภูมิพญานาคการปรากฏตัวของนาคให้มนุษย์ได้พบเห็น หรือสัมผัสมีเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในบางครั้งปรากฏแก่บุคคลใดโดยบุคคลผู้นั้นไม่ได้ตั้งตัว เรื่องพญานาคที่สัมพันธ์กับพระธาตุมหาชัยเกิดขึ้นอีก จากการสนทนาธรรมกับพระอาจารย์สมัย รักขิตธรรมโม เจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย ได้รับข้อมูลว่ามีครั้งหนึ่งปี 2549 หลังจากหลวงปู่ฯ มรณภาพไม่นานได้มีบุคคลสามคนมาหาท่านครั้งไม่พบ ครั้งที่สองมาอีกได้พบท่านและขอกราบอาราธนานิมนต์ท่านไปที่พระธาตุมหาชัยเพื่อทำพิธีกรรม ด้วยความเมตตาท่านจึงรับปากและเดินออกจากกุฏิไปที่พระธาตุ พอไปถึงบุคคลทั้งสามรออยู่แล้ว หนึ่งในจำนวนนั้นได้เอาขัน5มากราบคารวะท่าน พระอาจารย์ถามถึงเหตุผลที่นิมนต์มาที่พระธาตุมหาชัยเพื่ออะไร พวกเขาตอบเดี่ยวรู้ และเดินสักพักได้มีบุคคลหนึ่งค่อยๆ บิดลำตัวไปมาตอนแรกเบาๆ และค่อยๆ เคลื่อนไหวมากขึ้น พระอาจารย์ท่านสังเกตดูคล้ายงู เหมือนแขกเป่าปี่ให้เต้นระบำ บุคคลนั้นได้อ้าปากทำเหมือนเสียงพญานาคพ่นพิษเสียงดังซู่ซ่าๆ หลายครั้งและบิดตัวเองลงกับพื้นและเลื้อยเหมือนงูมาที่เท้าพระอาจารย์สมัย พระอาจารย์บอกว่าเป็นใคร ทำไมถึงทำเช่นนี้ บุคคลที่ทำตัวเหมือนพญานาคได้มากราบที่เท้า และพูดภาษาอีสานแปลเป็นไทยว่า เกล้ากระผมเป็นพญานาคอยู่เขตลุ่มน้ำมูล พระอาจารย์ถามว่าแล้วมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร ทำไมไม่อยู่แถวแม่น้ำมูล บุคคลผู้นั้นได้เล่าเหตุการณ์พอสรุปได้ว่า ช่วงหลวงปู่สร้างพระธาตุมหาชัย เสียงทวยเทพสาธุการดังไปสามโลก เจ้าเมืองนาคเขตน้ำมูลมีความศรัทธา จึงให้ข้าพเจ้ามารับใช้ปกปักษ์รักษาพระธาตุแห่งนี้ พระอาจารย์ถามว่าแล้วมาแสดงตนให้รู้เพื่ออะไร บุคคลผู้นั้นตอบว่า ผู้ที่จะอนุญาตให้กลับเมืองเก่าได้ มีรูปเดียวเท่านั้นคือหลวงปู่ฯ แต่ตอนนี้หลวงปู่ท่านได้มรณภาพแล้ว จึงต้องให้เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ซึ่งมีสิทธิ์อนุญาตแทนได้อีกรูป วเท่านั้นคือหลวงปู่ฯ แต่ตอนนี้หลวงปู่ท่านได้ ด้วยความเมตาพระอาจารย์จึงอนุญาตให้กลับได้ หลังจากนั้นเขาก็ก้มกราบที่เท้าและลุกขึ้นพูดเหมือนบุคคลทั่วไป พระอาจารย์ท่านก็ให้ศีลให้พรต่อจากนั้นบุคคลทั้งสามก็ลาท่านกลับไป