พบ “ไก่ทอด” แบรนด์ดังสารโพลาร์เกินมาตรฐาน เสี่ยงมะเร็งลำไส้-ความดันสูง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย mahamettayai, 13 มีนาคม 2013.

  1. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    พบ “ไก่ทอด” แบรนด์ดัง
    มีสารโพลาร์เกินมาตรฐาน
    ชี้เสี่ยงมะเร็งลำไส้-ความดันสูง ​



    [​IMG]

    “ฉลาดซื้อ” ตรวจไก่ทอดแบรนด์ดังพบสารโพลาร์เกินมาตรฐาน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแนะใช้น้ำมันพืชให้ถูกประเภท

    ชี้หากใช้น้ำมันถั่วเหลืองทอดอาหารจะเร่งเกิดสารโพลาร์และ PAHs ไวขึ้น เสี่ยงความดันสูง มะเร็งลำไส้ และมะเร็งปอด

    วอน สธ.จับมือผู้ประกอบการ เทศบาล จัดระบบน้ำมันทอดซ้ำทำไบโอดีเซล

    เมื่อวันที่ 13 มีค ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ภก.วรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 อุบลราชธานี

    เปิดเผยว่า ในอดีตการประกอบการอาหารนิยมใช้น้ำมันจากสัตว์ ซึ่งมีคอลเลสเตอรอลสูง

    จึงมีการรณรงค์ให้เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช ซึ่งมีคอลเลสเตอรอลและกรดไขมันอิ่มตัวน้อย จึงมีความปลอดภัยมากกว่า

    อย่างไรก็ตาม น้ำมันพืชสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มทนความร้อนได้ดี เช่น น้ำมันปาล์ม ที่นิยมน้ำมาใช้ทอด

    และกลุ่มทนความร้อนไม่ค่อยดี เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ซึ่งเหมาะกับการผัดมากกว่า

    แต่ประชาชนจำนวนมากยังไม่มีความรู้เรื่องดังกล่าว จึงมีการใช้น้ำมันผิดประเภท หากนำน้ำมันกลุ่มที่ทนความร้อนไม่ค่อยดีมาใช้ในการทอด

    ก็จะเร่งให้เกิดสารโพลาร์ได้เร็วกว่า

    ภก.วรวิทย์ กล่าวอีกว่า น้ำมันที่ใช้ในการทอดอาหารจะเกิดการเสื่อมสภาพไปและมีสารเกิดขึ้น 2 กลุ่ม คือ

    1.กลุ่มสารโพลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ โรคหัวใจวาย โรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาต

    โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 283 พ.ศ.2547 กำหนดให้มีสารโพลาร์ในน้ำมันไม่เกิด 25% และ

    2.กลุ่มสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยจากการศึกษาพบว่า

    หากน้ำมันทอดซ้ำมีสารโพลาร์สูงก็จะมีสารกลุ่ม PAHs สูงตามไปด้วย ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้

    ที่สำคัญสารกลุ่ม PAHs บางชนิดมีน้ำหนักเบาจะระเหยเป็นไอ ทำให้ผู้ประกอบอาหารซึ่งสูดดมควันมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดได้ด้วย


    “ทุกวันนี้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการได้รับสารโพลาร์และ PAHs เนื่องจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามักนิยมใช้น้ำมันทอดซ้ำ

    ทำให้มีสารโพลาร์เกินเกณฑ์ ที่สำคัญเมื่อน้ำมันใกล้เสื่อมสภาพก็มีการเติมน้ำมันใหม่เข้าไปผสม ทำให้น้ำมันยิ่งเสื่อมสภาพไวขึ้น



    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

    เครดิตที่มา Quality of Life - Manager Online - พบ “ไก่ทอด” แบรนด์ดังสารโพลาร์เกินมาตรฐาน ชี้เสี่ยงมะเร็งลำไส้-ความดันสูง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    ภก.วรวิทย์ กล่าวอีกว่า น้ำมันที่ใช้ในการทอดอาหารจะเกิดการเสื่อมสภาพไปและมีสารเกิดขึ้น 2 กลุ่ม คือ

    1.กลุ่มสารโพลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ โรคหัวใจวาย โรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาต

    โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 283 พ.ศ.2547 กำหนดให้มีสารโพลาร์ในน้ำมันไม่เกิด 25% และ

    2.กลุ่มสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยจากการศึกษาพบว่า

    หากน้ำมันทอดซ้ำมีสารโพลาร์สูงก็จะมีสารกลุ่ม PAHs สูงตามไปด้วย ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้

    ที่สำคัญสารกลุ่ม PAHs บางชนิดมีน้ำหนักเบาจะระเหยเป็นไอ ทำให้ผู้ประกอบอาหารซึ่งสูดดมควันมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอด


    “ทุกวันนี้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการได้รับสารโพลาร์และ PAHs เนื่องจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามักนิยมใช้น้ำมันทอดซ้ำ

    ทำให้มีสารโพลาร์เกินเกณฑ์ ที่สำคัญเมื่อน้ำมันใกล้เสื่อมสภาพก็มีการเติมน้ำมันใหม่เข้าไปผสม

    ทำให้น้ำมันยิ่งเสื่อมสภาพไวขึ้น ซึ่งสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยสุ่มเก็บตัวอย่างน้ำมัน

    มาตรวจสอบกว่า 2 พันตัวอย่าง ทั้งจากต่างจังหวัดและกทม. พบน้ำมันเสื่อมสภาพและใกล้เสื่อมสภาพถึง 34%

    และในช่วงน้ำมันขาดตลาด มีการทำศึกษาแบบเร่งด่วนพบว่ามีสารโพลาร์สูงถึง 60%” ภก.วรวิทย์ กล่าว


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

    ที่มาQuality of Life - Manager Online - พบ “ไก่ทอด” แบรนด์ดังสารโพลาร์เกินมาตรฐาน ชี้เสี่ยงมะเร็งลำไส้-ความดันสูง
     
  3. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    ภก.วรวิทย์ กล่าวอีกว่า ที่น่าห่วงคือมีกลุ่มธุรกิจไปขอซื้อน้ำมันเก่ามาฟอกสี ซึ่งเมื่อก่อนสามารถแยกแยะได้

    แต่ปัจจุบันมีการขายในอินเทอร์เน็ต ทั้งเครื่องฟอกน้ำมันและเครื่องบรรจุอย่างดี ถ้าพิมพ์ฉลากจะทำให้สังเกตได้ยาก

    จึงอยากเสนอให้ สธ.ร่วมมือกับผู้ประกอบการอาหาร และท้องถิ่นเทศบาล จัดการน้ำมันอย่างเป็นระบบ

    โดยนำน้ำมันทอดซ้ำไปทำเป็นไบโอดีเซล และต้องทำให้ประชาชนมีความรู้ในเรื่องของการเลือกประเภทน้ำมันที่นำมาใช้ทอดด้วย

    เช่น น้ำมันที่ทนความร้อนได้ดี หากทอดตลอดเวลาจะใช้เวลา ถึง 10 ชั่วโมงจึงมีสารโพลาร์เกิน 25%

    ส่วนน้ำมันที่ทนความร้อนไม่ค่อยดีจะใช้เวลา 8 ชั่วโมง เป็นต้น

    นายพชร แกล้วกล้า ผู้ประสานงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลไกคุ้มครองผู้บริโภคความปลอดภัยด้านอาหารภาคประชาชน

    มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากการตรวจสารโพลาร์ในร้านขายไก่ทอดชื่อดังหลากหลายแบรนด์ พบว่า

    ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีเพียง 1 ร้านเท่านั้นที่มีสารโพลาร์เกินค่ามาตรฐาน 25%

    และอีก 3 ร้านที่น้ำมันใกล้เสื่อมสภาพ ดังนั้น ไม่ว่าระดับห้างใหญ่ แฟรนไชส์ใหญ่ หรือระดับชาวบ้าน ก็เสี่ยงพอกัน

    ซึ่งการรับประทานอาหารทอดนอกบ้านสัดส่วนในการได้รับสารโพลาร์มีถึง 1 ต่อ 3 แต่ที่น่าห่วงคือ

    ในร้านประเภทแฟรนไชส์จะไม่สามารถสังเกตน้ำมันได้เลย แต่หากเป็นร้านชาวบ้านทั่วไปยังพอสังเกตได้

    โดยให้ดูว่าน้ำมันมีสีคล้ำหรือไม่ หากดมกลิ่นแล้วเหม็นหืนแสดงว่ามีการทอดซ้ำมานาน หรือมีจุดดำๆ บนเนื้ออาหารที่ไม่ใช่รอยไหม้

    ทั้งนี้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับใหม่ มีเพิ่มการลงโทษผู้ประกอบการอาหารที่ใช้น้ำมันมีสารโพลาร์เกิน 25%

    โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

    เครดิตที่มาQuality of Life - Manager Online - พบ “ไก่ทอด” แบรนด์ดังสารโพลาร์เกินมาตรฐาน ชี้เสี่ยงมะเร็งลำไส้-ความดันสูง
     
  4. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    ต่างประเทศ มีการลงข่าวกันมานานมากแล้ว เข้มงวด และ ไก่ ถูกเร่งโตด้วย โฮโมนเร่ง ทั้งยา ก็มีส่วนสำคัญ ของป่วยเนื้องอก และ มะเร็ง
    บ้างก็ว่ารับประทานเนื้อมากๆ ไม่ดี อาจเป็นมะเร็งได้ บางคนก็ว่าทานสัตว์ใหญ่เป็นกรรมเยอะ

    แต่ก็ยังไม่ค่อยมีการกล่าวอ้างถึงผลการวิจัยที่บอกกันชัดๆ ไปเลยว่าตกลงแล้ว

    การกินเนื้อสัตว์อย่างเช่นเนื้อวัวเป็นประจำจะก่อผลเสียต่อปัญหาสุขภาพจริงอย่างว่าหรือเปล่า


    ล่าสุด วารสารการแพทย์ BMC Medicine รายงานผลการศึกษาที่ยืนยันแล้วว่า

    การบริโภคเนื้อที่ผ่านกระบวนการแปรูปมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแฮม ไส้กรอก

    จะทำให้เสียชีวิตเร็วกว่าปกติ สาเหตุของการเสียชีวิตมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคเนื้อสัตว์

    ได้แก่ โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง แพทย์ชี้ว่าเกลือและสารเคมีที่ใช้รักษาอาหารไม่ให้เน่าเสีย


    เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ...รู้แล้วก็ลด ละ เลิกรับประทานเนื้อกันเถอะ

    meat.jpg Photo by terryh11 | Photobucket
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ดีจัง เราอยู่บ้านนอก ไม่มีอาหารดังว่าให้กิน...:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...