พรหมวิหารสี่ ความประมาท และโพธิสัตว์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 29 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ในอดีต ผ่านมาสัก 9-10 ปีกะมัง
    ท่านผู้เฒ่า กล่าวว่า ธรรมอันประเสริฐและเป็นที่ยกย่องและสรรเสริญของเหล่า มนุษย์และเทวดา คือพรหมวิหารสี่

    และทุกคนรู้ว่าพรหมวิหารสี่ประก่อบด้วย
    ๑ เมตตา มีความปรารถนาดีให้เขามีความสุข และคิดช่วยเหลือ
    ๒ การุณา (คิดช่วยเหลือแล้วและ)ลงมือช่วยให้เขามีความสุข
    ๓ มุทิตา ยินดีในความสุขที่ได้เกิดขึ้นแล้วจากที่เราช่วยเหลือเและจากที่ขามีอยู่เดิม
    ๔ อุเบกขา วางเฉยไม่ยินดี ไม่ยินร้าย

    ท่านยังกล่าวว่า ธรรมทั้งสี่ข้อเป็นธรรมที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่หาผู้ปฏิบัติให้ครบถ้วนได้ยาก
    โดยเฉพาะธรรมข้อที่สี่เป็นธรรมที่เข้าใจยากที่สุด
    และยังกล่าวอีกว่า เอ็งอย่าเถียง ไว้เอ็งพิจารณาธรรมเป็นแล้วเอ็งลองโต้ตอบสอบถามดู
    แล้วเอ็งจะรู้เอ็งจะเห็นเองในความซับซ้อนแห่งธรรม
    (กำลังคิดเถียงในใจอยู่ ว่าธรรมข้อนี้เป็นธรรมปากคอก เขารู้เขาเข้าใจกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว)

    และหลังจากนั้นไม่นาน
    สิ่งที่ท่านกล่าวก็ปรากฏให้เห็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กุมภาพันธ์ 2008
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สมัยหนึ่ง หลังจากการฝึกเริ่มเข้าไคล
    ขณะนั่งสมาธิอยู่ ให้ระลึกถึงท่านผู้เฒ่า ระลึกถึงคำกล่าวที่ท่านได้กล่าวไว้ในเรื่องพรหมวิหารสี่

    เออหนอ...ท่านกล่าวว่ามันลึกลับซับซ้อน..
    เอ...ธรรมนี้.. มันก็เป็นธรรมง่ายๆที่ทุกผู้ทุกคนรู้จักกันดี
    มันยาก ในการเข้าใจ ยากในการปฏิบัติอย่างไรหนอ....

    เรื่องได้ถูกตั้งขึ้นในจิต..แล้ว
    และคำถามก็ตามมา "สภาพธรรมที่ลึกซึ้งแห่งพรหมวิหารสี่เป็นเช่นใดหนอ.."
    ความปรารถนาใคร่ลิ้มรสแห่งธรรมนี้ปรากฏขึ้นสมบูรณ์พร้อม
    รวมลงในความสว่างใสที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า.....แล้วนิ่งอยู่

    ในห้วงแห่งมโนทวาร ปรากฏเรื่องราวมากมายผ่านสายตา ดุจดูละครในทีวี ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่องที่ 1 ความเมตตา กรุณา และมุทิตา

    ภาพปารกฏ เห็นท้องทุ่ง ชายป่าอันงดงานแห่งหนึง
    บุรุษหนึ่งผู้ตั้งความปรารถนาฝึกตนเพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นพระโพธิสัตว์ เดินทางผ่านมา
    กระต่ายน้อยน่ารักตัวหนึ่ง กระโดดไปมา หากินอยู่บริเวณนั้น
    มีนกใหญ่ตัวหนึ่งบินผ่านมาเห็นกระต่ายน้อย จึงโฉบลงหมายจับกระต่ายน้อยเป็นภักษา
    ด้วยจิตอันเปี่ยมด้วยเมตตา และกรุณา แห่งมานพหนุ่ม
    จึงหยิบท่อนไม้ขว้างไปที่นกใหญ่น้น ด้วยหมายใจขัดขวางการไล่ล่า
    ให้บังเอิญ ถูกนกใหญ่นั้นได้รับบาดเจ็บบินหนีไป

    กระต่ายน้อยจึงปลอดภัยหากินด้วยความสุข
    ยังความปิติให้มานพผู้นั้น
    เมตตา กรุณา และมุทิตา ที่มานพหนุ่มบำเพ็ญ พร้อมสมบูรณ์แล้ว

    เรื่องจบแล้ว เรื่องมันก็ง่ายๆเช่นนี้ ทุกคนรู้กันทั่ว
    เริ่มหายใจเข้าลึก เพื่อเปลี่ยนอารมภ์จิต "ยัง..ยัง...ๆๆ ไม่จบ..ๆ"
    เสียงกระซิบเล็กๆดังขึ้นที่ศูนย์กลางแห่งทันตา
    แล้วภาพก็ดำเนินต่อ
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ภาพที่ปรากฏ
    เป็นสถานที่แห่งหนึ่ง ในความรู้สึก สภาพคล้ายที่ว่าความตัดสินความดีและปูนบำเหน็จความชอบ คล้ายศาลตัดสินคดีความ

    มานพหนุมผู้นั้นปรากฏตัวขึ้น และถูกตัดสินชั่งน้ำหนักในความดีและเลว

    เขาได้รับปูนบำเหน็จแห่งคุณความดีที่ได้กระทำมา และเป็นที่สรรเสริญ ในธรรมคือพรหมวิหารสี่ที่ได้ปฏิบัติมาชั่วชีวิต
    ทว่ามานพผู้นี้ ยังต้องคดีฟ้องร้องอยู่คดีหนึ่ง โดยนางนกใหญ่ บรรยายคำฟ้องว่า

    นางเองเป็นนางนกใหญ่ มีปกติหาเลี้ยงชีวิตด้วยการจับสัตว์อื่นเป็นอาหารเพื่อยังชีพ
    มานพหนุ่มผู้นี้ เบียดเบียน ต่อนาง ขัดขวางการเลี้ยงชีพของนาง
    และยังบังอาจขว้างท่อนไม้ใส่นาง ทำให้นางได้รับบาดเจ็บ ออกหากินเลี้ยงชีพไม่ได้
    ทำให้นางต้องอดตายอย่างทุกข์ทรมารแสนสาหัส ก่อนเวลาอันควร
    ซ้ำยังทำให้ลูกน้อยอีกสามชีวิต ขาดผู้เลี้ยงดู ต้องพลอยอดตายไปด้วยความทรมาร

    มานพผู้นี้สมควรถูกปรับโทษชดใช้ชีวิตต่อนาง
    ไม่ควรได้รับการปูนบำเหน็จและสรรเสริญใดๆเลย

    และภาพทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้
    ในความรู้สึกได้สัมผัสกับความในใจของมานพหนุ่ม
    ผู้รู้สึกในความผิดพลาดของตน
    และรับรู้ถึงความปรารถนาอย่างรุนแรง (ตั้งสัจจะ) เพื่อแก้ไขความผิดพลาดครั้งนี้

    และยังไม่ทั้นถอนลมหายใจ..
    ภาพเรื่องที่สองก็ปรากฏขึ้น......ในโนนึก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2008
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่องที่ 2 อุเบกขาธรรม

    ภาพที่ปรากฏในสายตา
    มันก็ยังเป็นทุ่งหญ้าแลราวป่า สถานที่เดิม

    เจ้ากระต่ายน้อย ที่น่าเอ็นดู ก็ยังกระโดดโลดเต้นหากินอยู่เช่นเดิม และในสถานที่แห่งเดิม
    ดูบนท้องฟ้า นางนกใหญ่ บินเวียนว่อน หมายตาที่กระต่ายน้อย
    มานพหนุ่มผู้นั้น หยุดยืนมองที่กระต่ายน้อย และเหลือบมองนางนกที่โผบินอยู่บนฟากฟ้า ที่โฉบลงมาไล่ล่ากระต่ายน้อย ที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอยู่

    ใจสัมผัสได้ ใจแห่งมานพหนุ่มรู้ว่า นางนกมีปกติเลี้ยงชีพด้วยด้วยการจับสัตว์เล็กสัตว์น้อยเป็นอาหารเพื่อยังชีพ
    ด้วยเหตุนี้มานพหนุ่มจึงวางอุเบกขาไม่คิดยุ่งเกี่ยว แล้วแลอยู่
    ไม่นานนางนกก็จับกระต่ายน้อยได้โผบินสู่ท้องฟ้าบินลับหายไป

    มานพหนุ่มก็เดินทางต่อ บำเพ็ญพรหมวิหารธรรมเป็นที่เลื่องลือ จนจวบสิ้นอายุไข

    เอ้อ..ธรรมมันก็ง่ายๆดีเนาะ..
    เออ...งานนี้ โพธิสัตว์หนุ่มจะสอบได้หรือสอบตกหว่า......
    จิตที่คำนึงถึงผลสรุป แล้วภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไป
     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ภาพที่ปรากฏในมโนนึกพลันเปลี่ยนไป

    สถานที่ว่าความแห่งเดิม ผู้ตัดสินคนเดิม ทุกสิ่งเหมือนเดิมทั้งสิ้น
    ความผิดถูกชั่วดีแห่งมานพหนุ่มได้ถูกนำขึ้นตาชั่ง
    สิ่งบันทึกไว้มีแต่ความดี พรหมวิหารที่บำเพ็ญเป็นที่ยกย่องสรรเสริญแก่เหล่ามนุษย์และเทวดา
    งานนี้มานพหนุ่ม สอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย เสียงสรรเสริญอึงมี่

    ระหว่างการประกาศเกียรติคุณ
    เจ้ากระต่ายน้อยที่น่าเอ็นดูไม่รู้โผล่มาจากที่ใด
    ประกาศค้านการตัดสินครั้งนี้

    มานพผู้นี้บำเพ็ญพรหมวิหารได้ไม่ครบถ้วน
    ตนเป็นกระต่ายน้อย มีความรักชีวิต ปรารถนาหากินด้วยความปลอดภัย
    มานพผู้นี้ เห็นตนอยู่ในอันตราย โดยนางนกไล่ล่าอยู่
    มานพผู้นี้ กลับยืนดูอยู่เฉย ไม่ได้คิดเข้าช่วยเหลือ หรือแสดงสิ่งใดเลย
    อันแสดงถึงพรหมวิหารสี่ ในหัวข้อ เมตตา กรุณา และมุทิตา
    และถ้าจะประกาศเกียรติคุณยกย่องมานพผู้นี้ เขาต้องชดใช้หนี้ชีวิตต่อตนก่อน

    สรุป สอบตกอีกแล้ว
    จิตแห่งมานพหมุ่มคำนึงถึงความผิดพลาดครั้งนี้
    และตั้งความปรารถนาขอแก้ตัวอีก (ตั้งสัจจะ แสดงเงื่อนไข ขอแก้ตัว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2008
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่องที่ 3 บทสรุป สุดยอดแห่งพรหมวิหารสี่

    ด้วยสัจจะ ขอแก้ตัวในความผิดพลาด แห่งโพธิสัตว์หนุ่ม
    พลันภาพที่ปรากฏได้เปลี่ยนไป

    ภาพชัดขึ้น
    เอ...ยังคงเป็นสถานที่เดิม ราวป่าเดิม ทุ่งหญ้าเดิม
    กระต่ายน้อยตัวเดิม กระโดดโลดเต้นด้วยท่าเดิมๆ
    นางนกตัวเดิมก็ยังโบยบินอยู่บนฟากฟ้า และก็ยังหมายตาที่กระตายน้อยอยู่เช่นเดิม

    แต่มานพหนุ่มเปลี่ยนไปแล้ว ทรงอำนาจแห่งโพธิสัตว์เจ้า มองดูการไล่ล่ากระต่าย ของนางนกอยู่

    ในห้วงคำนึงแห่งมหาโพธิสัตว์ รู้ถึงปกติในการเลี้ยงชีพแห่งนางนก
    และรู้ถึงความรักชีวิตของกระต่ายน้อย
    จึงเจรจาต่อรองด้วยอำนาจแห่งโพธิสัตว์
    ขอชีวิตกระต่ายน้อยไว้ และยอมพลีเนื้อในกายชิ้นหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยน ให้นางนกพอยังชีพ
    และด้วยอำนาจ เรื่องก็จบลงด้วยดี นางนกยอมรับในการแลกเปลี่ยน

    เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจากเหล่าเทพยดา ณ. ราวป่าเบื้องหลังดังเซ็งแซ่
    โพธิสัตว์เจ้าหันไปมองยิ้มน้อยๆ แล้วจึงหันมามองกระต่ายน้อยด้วยความเอ็นดู

    พลันจิตท่านได้ยินคำกล่าว(ในใจ)ของเจ้ากระต่ายน้อย
    "ไอ้หน้าไง่ ข้าไม่เห็นจะต้องยินดีและรับในบุญคุณนี้
    เฮอะ ข้ากระโดดแค่ทีสองทีก็พ้นจากนางนกแล้ว
    ไอ้ไง่เอ้ย อวดฉลาดสละเนื้อตัวเอง ข้าไม่ยินดีในบุญคุณนี้"

    ด้วยความงุนงง เหลียวหน้าไปยังนางนกใหญ่ ก็ตะหนกไปกับความมาดมั่นของนางนก
    "เฮอะ ...เราได้ยินว่าเนื้อมนุษย์นี้เลิศรสนัก ยังไม่เคยลิ้มมาก่อน
    คราวนี้ได้กินเนื้อมนุษย์แล้ว ถ้าอร่อยจริง เราจักเลิกจับสัตว์อื่นเลี้ยงชีพ
    เราจักออกล่าเนื้อเด็กมนุษย์เป็นภักษาแทน"

    เห็นมหาโพธิสัตว์เจ้า ทำตาปริบๆ และภาพก็เริ่มเลือนหาย
    เอ....งานนี้สอบได้หรือสอบตกหว่า

    ภาพสถานที่ตัดสินความก็ไม่ปรากฏ เอ..ที่ถูกต้อง จะสรุปตัดสินอย่างไรวุ้ย..
    มีเสียงกระซิบส่งท้าย
    พิจารณาและตัดสินเองซิ

    (วันนี้หมดเวลาแล้วอีกวัน-สองวันจะกลับมาสรุบให้)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2008
  8. namprighom

    namprighom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +373
    ลึกซึ้งแท้.....

    การกระทำอันบริสุทธิใจ หมายให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ถูกเย้ยหยัน
    หาได้เป็นบาปไม่

    ถึงถูกด่าว่าโง่ แต่ก็เป็นบุญจ๊ะ

    ขอทายว่า มานพหนุ่มนั้น จะสอบผ่านจ๊ะ
     
  9. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    พรหมวิหาร 4 .. เป็นธรรมข้อที่สำคัญมากสำหรับพระโพธิสัตว์

    ..เราก็ประยุกต์ใช้เฉพาะกรณีเรา..ให้มันทำได้

    การอยู่อย่างมีความสุข คอยตัดจากความคิดไม่ดี คิดแต่เรื่องดีๆ .. เป็นพรหมวิหาร 4
     
  10. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +38,307
    ทำความดีนี้แสนยาก แล้วจะทำอย่างไรให้ถูกล่ะ
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เอ้าวววว... สหายธรรมทั้งหลาย
    ช่วยกันวิเคราะหน่อยเร็ววว...

    เรื่องที่สามนี่ สอบได้หรือสอบตกหว่า

    แล้วไอ้ที่จั่วหัวเรื่องไว้ มีคำว่า "พรหมวิหารสี่ ความประมาท และโพธิสัตว์"

    ไอ้คำว่า ความประมาท มันมาเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย

    เสาร์อาทิตย์นี้ มีเวลาว่างยาว จะมาสาธยายต่อ
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มาเล่าต่อจ๊ะ..

    เอ้าพิจารณาและตัดสินเองซิ เสียงกระซิบเบาดังขึ้นในมโนจิต
    จอภาพดับมืด และทุกสิ่งเงียบสนิท ในใจรู้สึกงุนงงเล็กๆ
    เอ..ทำไงต่อหว่า...

    หายใจเข้าลึก เปลี่ยนอารมภ์จิต ตั้งต้นใหม่ กำหนดจิตอยู่ที่แสงใสกระจ่างที่เบื้องหน้า
    ทำเช่นใดหนอ... เราจึงกระจ่างในสภาพธรรมทั้งมวลที่ได้ปรากฏให้เห็นแล้ว
    นิ่งในนิ่ง รอคำตอบ
    แต่ทุกสิ่งก็ยังเงี่ยบสนิท มีแต่แสงใสกระจ่างที่เบื้องหน้า นานแสนนานจนต้องทวงถาม

    พิจารณาและตัดสินเองซิ เสียงกระซิบดังขึ้นอีก
    อะไร...ให้ว่าความเองรึ...ทำไม่ค่อยเป็นนา....
    เอ...หรือลองดู...เอาก็เอาวะ

    หายใจเข้าลึก เปลี่ยนภาวะจิตใหม่ ประมวลภาพ และเรื่องราวทั้งมวลอีกครั้ง
    ตั้งแต่เริ่มแรก จนจบ พิจารณา ความทั้งปวงใหม่อีกครั้ง

    เอ..ทีสรุปไว้แล้วก็ถูกต้องนี่หว่า
    ใจลึกๆ รู้ว่า ในเรื่องที่สาม สอบตกอีกแน่ๆ... แต่เพราะเหตุใด ...ยังตอบไม่ได้
    พิจารณาวนเวียนเช่นนี้ ทั้งเดินหน้าแลถอยหลัง ซ้ำๆหลายสิบรอบ
    แต่ก็ยังหาคำตอบ ที่ไร้ข้อโต้แย้งไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2008
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เอ...จนมุมซะกระมัง ....สงสัยจะสอบตกเองซะแล้ว....ทำไงดีวุ้ย...
    เอ...หรือภาวะจิตใม่สมบูรณ์

    หายใจเข้าลึก สลัดคืนอารมภ์จิตทั้งปวง พิจารณา สำรวจ ภาวะแห่งจิต ด้วยธรรมอันเป็นเลิศ เจ็ดประการ คือ


    1. ทรงไว้ซึ่งสติและสัมปชัญญะอันเสมอกัน
    2. ตั้งบทศึกษาในธรรมนั้นให้ถูกส่วน
    3. กระทำแล้วด้วยความเพียร
    4. ทรงไว้ซึ่ง ปิติ
    5. ทรงไว้ซึ่งความสงบ
    6. ตั้งมั่น เฝ้ารู้ ในวงกว้างและหยั่งลึกในธรรมนั้น
    7. รับรู้และวางเฉย(อุเบกขา)ในสังขารธาตุ สังขารธรรมทั้งปวงที่บังเกิด ให้รู้ ให้เห็น ในขบวนการเฝ้าพิจารณานั้นๆ


    และเมื่อภาวะแห่งจิตสมบูรณ์พร้องด้วยธรรมอันเป็นเลิศ 7 ประการแล้ว
    การพิจารณาก็เริ่มใหม่ เหตุการณ์ทั้งปวงถูกนำขึ้มาประมวลผลใหม่ เดินไปข้างหน้า และย้อยกลับ (อนุโลม, ปฏิโลม)

    ความต่างๆค่อยๆปรากฏเป็นข้อสรุปให้เห็น
     
  14. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    คุณลืมการปล่อยวางการปฏิบัติ

    ไม่ต้องปฏิบัติ ไม่ต้องตั้งท่า ให้เห็นการตั้งมั่นที่มันเกิดเอง ดับเอง ควบคุมไม่ได้

    เมื่อเห็น และประจักษ์ในจุดๆนี้ จะเข้าใจว่า ประมาท นั้นจำกัดถึงแค่ไหน
    และยังมีอะไรให้ตามรู้อีกมากแค่ไหน มีอะไรที่รู้โดยไม่ต้องวิจัย
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เมื่อจิตสมบูณ์พร้อมด้วย ธรรมอันเลิศเจ็ดประการ แล้ว
    <O:p</O:pจิตจึงมีสภาพรู้รอบควรแก่งานแล้วการพิจาราณาจึงเริ่มใหม่

    เรื่องที่เคยปรากฏแล้วได้ถูกนำขึ้นมาดูอีกครั้งอย่างพินิจพิเคราะห์
    เดินไปข้างหน้าและย้อนกลับ เหมือนดูหนังกลับไปกลับมา
    บางครั้งวางจิตลงบนตัวละครตัวนั้นบ้างตัวนี้บ้างแล้วซึมซับความรู้สึก(เวทนา)ในขณะจิต ที่ตัวละครนั้นๆแสดงอยู่วาระแล้ววาระเล่า

    ด้วยเหตุนี้เรารับรู้ถึงความรู้สึกของมานพหนุ่ม ในขณะถูกตัดสิน
    รับรู้ถึงความรู้สึกที่จะขอแก้ตัวใหม่
    รับรู้ถึงการตั้งสัจจะที่จะแก้ไขเรื่องราวที่จะไม่ให้เกิดความผิดดังกล่าวขึ้นอีก
    และตามดูการแก้ไขแล้วแก้ไขอีกของมานพหนุ่ม

    ผิดจากเรื่องแรกแล้วมาผิดซ้ำสองในอีกเรื่องที่เคยสอบผ่านแล้วและผิดซ้ำสาม ในดวามอวดดีถือในอำนาจ

    แต่ในขณะจิตที่มานพหนุ่มกระทำเพื่อการแก้ไข
    กลับไม่รู้ตนเลยมีสติอยู่ด้านเดียว ที่จะแก้ความผิดพลาดเดิม เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้นี่เป็นความประมาทในความประมาทโดยแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2012
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ในเรื่องที่ 1
    มานพหนุ่มสอบผ่านอย่างทุลักทุเล(50%) ในข้อเมตตา กรุณา และอุเบกขา
    แต่กระทำด้วยความประมาท จึงทำให้นางนกตาย และลูกนกตายด้วย
    ช่วยหนึ่งชีวิตแต่ทำให้อีกสี่ชีวิตต้องตาย แพ้คดีอยู่เห็นๆ

    แต่คำฟ้องที่ว่ามานพหนุ่มผู้นี้เบียดเบียนต่อนาง......”แทบจะกล่าวได้ว่าลบล้างคุณความดี ข้อเมตา กรุณา มุทิตาที่แสดงออกจนเกือบจะหมดสิ้น
    จึงพูดได้ว่าสอบผ่านอย่างทุลักทุเล(ใครได้ฟังก็ส่ายหัว)
    ตัวมานพหนุ่มเองก็รู้ดีจึงตั้งใจ(สัจจะ)ว่าจะไม่กระทำผิดเช่นนี้อีก
    นี่คือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง(เรื่องไม่ทันเกิดก็ตั้งใจทำผิดแล้ว)
    เป็นความประมาทในความประมาทโดยแท้

    เรื่องที่ 2
    ด้วยสัจจะที่ตั้งไว้ทำให้มานพหนุ่มกำหนดงานไปตามความตั้งใจ
    จิตไม่ตั้งบน"ความรู้รอบควรแก่งาน"กระทำไปด้วยสัจจะที่ชี้นำ
    จึงวางอุเบกขาแล้วแลอยู่ด้วยพิจารณาแล้วว่าวิธีนี้จึงจะรอดจากคำกล่าวหาของนางนก
    ตกลงสอบตกข้อที่เคยสอยได้ 50% (อย่างทุลักทุเล)จึงกลายเป็นสอบตกอย่างไม่น่าเชื่อ
    งานนี้มานพหนุ่มยังไม่รู้ตัวในความประมาทจึงตั้งสัจจะซ้ำ ขอแก้ตัวอีก
    และตกลงใจจะไม่ให้ทั้งนางนกและกระต่ายน้อนฟ้องซ้ำได้อีก
    และอุเบกขาที่มานพผู้นี้กระทำก็มิใช่อุกเบกขาที่แท้จริงที่แท้แล้วนี่คือการเพิกเฉย(ละทิ้งงาน)

    เรื่องที่ 3
    ด้วสัจจะที่ตั้งมานพหนุ่มจึงยอมตัดใจกำหนดวิธีที่จะไม่ถูกฟ้องโดนนางนกและกระต่ายน้อย
    ก็มีแต่วิธีนี้ สละเนื่อตัวเองเอาบุญ (ใครๆก็คิดออกนิ)
    แต่ถูกซ้อนแผน(โดยผู้กำกับการแสดง-เป็นใครก็ไม่รู้)
    โดนชมเชยแซ่ซ้องสรรเสริญโดยเทวดา(ปิติ)
    โดนตำหนิค่อนขอดโดยกระต่าย(หดหู่)
    เห็นความพยาบาทมาดมั่นของนางนก(ตะหนก)

    เพียงยินดีในสรรเสริญ หดหู่ไปกับการข่อนขอดนินทาหรือตะหนกไปกับความพยาบาทมาดมั่น
    งานนี้ก็สอบตกแล้วตกในข้ออุเบกขา
    นี่คือธรรมในข้ออุเบกขาอย่างแท้จริง
    อ้อเขาคงรู้ว่ามานพหนุ่เข้าใจผิดเรื่องอุเบกขา จึงซ้อนเรื่องอุเบกขามาให้ฝึกสอบตกอีกจนได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2012
  17. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    อืมม การตั้งจิตที่ถูกต้องเหมาะสมต่อการกระทำใดๆ นับเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก มิน่าเราถึงได้มีกรรมให้ชดใช้ไม่รู้จักหมด
     
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เอ....
    แล้วถ้าจะไม่ให้เรื่องราวเกิดพิศดารอุตลุดอย่างที่เห็น มานพหนุ่มควรทำอย่างไรหว่า

    โอ้ย..ง่ายจะตาย
    ในเรื่องที่1 ถือไม้ท่อนนึ่ง เข้าไปยืนเอ็ดตะโล ตรงกลางระหว่างกระต่ายน้อยกับนางนก ทั้งคู่ก็ตกใจ ก็แยกย้ายกันไปแล้ว

    แล้วเรื่องที่ 2 ละ
    ก็ทำแบบเดิมซิละไม่เห็นจะยาก
    เออ..จริงวุ้ยไม่ยากจริงๆ

    แล้วเรื่องที่ 3 ละ
    ก็ทำแบบเดิมนะแหละ จะไปทำอะไรให้มันยากพิศดารหวือหวา จะให้คนมาชมเชยยกย่องเหรอ
    เออ..จริง ทั้งสามเรื่องไม่เห็นต้องทำอะไรให้หวือหวา

    เอ..แล้วพวกโพธิสัตว์เขาทำไปทำไมกันหว่า ตั้งเยอะแยะอุตลุด ความจริงไม่เห็นต้องทำอะไรมากเลย
    อ้าว..ถ้าไม่ทำอะไรแล้วเอ็งจะได้อะไรล
    เออ..จริงถ้าไม่ทำอะไรแล้วจะได้อะไร

    แล้วทีเอ็งเห็นด้วย ถึอไม้ท่อนนึ่งไปยืนเอ็ตะโล จะว่าไปขวางนางนกก็ไม่ใช่ จะว่าไปไล่กระต่ายก็ไม่เชิง แล้วเอ็งได้อะไรละ
    เออ..จริงแล้วจะได้อะไรวุ้ย (ชักงงงงเฮะ...)

    แล้วมานพหนุ่มได้อะไรจึ่งทำเรื่องพิศดารปานนั้น
    ก็ บารมี ไง

    อ้าว แล้วทีไปขวางทางปึนแบบไง่ๆเซ่อๆ จะว่าขวางนางนก็ไม่ใช ไล่กระต่ายก็ไม่เชิงละคืออะไร......
    สุดยอดแห่งพรมวิหารสี่ไง......
    สรรพเพธรรมาอนัตตาติ.....

    เสียงสุดท้ายแว่วๆมาแล้วจางหายไป
    แล้วเรื่องนี้ก็จบลงแบบ มึนๆ งงงงงงงงงง<O:p</O:p


    ความจริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่จบ
    ยังมีสิ่งที่พิศดาร จนยากอธิบาย
    ข้าน้อยหมดภูมิที่จะกลั่นกรองเป็นคำพูดหรือภาษาเขียน ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2008
  19. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    อยากรู้ต้องลองทรงเมตตาเป็นอารมณ์ดูสิคะ

    ข้าพเจ้าซึ้งคำว่า สรรเสริญ และ นินทา อย่างแท้จริง เมื่อทรงพรหมวิหารสี่อยู่
     
  20. ma_nun_@

    ma_nun_@ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +18
    โมทนา สาตุ กำลังคิดไม่ตกเรื่องนี้เหมือนกัน เรื่องมีอีกรึป่าวคะ อยากรู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...