....พระผู้มีพระเจ้าตรัสว่า....

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ไม่มีเพศ, 25 มกราคม 2017.

  1. ไม่มีเพศ

    ไม่มีเพศ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    134
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +66
    FB_IMG_1485320608645.jpg

    ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ
    ถึงความไม่หวั่นไหวแล้วอย่างนี้
    ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อญาณ
    เป็นเหตุสิ้นอาสวะ เธอย่อมรู้ชัด
    ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย
    นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
    นี้เหล่าอาสวะ นี้เหตุเกิดอาสวะ
    นี้ความดับอาสวะ นี้ข้อปฏิบัติ
    เครื่องให้ถึงความดับอาสวะ เมื่อเธอรู้อย่างนี้
    เห็นอย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้นจากกามาสวะ
    แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ
    เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า
    หลุดพ้นแล้ว ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
    พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว
    กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกมิได้มี
    ดูกรพราหมณ์ บุคคลนี้เรียกว่า
    ผู้ไม่ทำตนให้เดือดร้อน ไม่ประกอบความขวนขวาย
    ในการทำตนให้เดือดร้อน ทั้งไม่ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน
    ไม่ประกอบความขวนขวาย ในการทำผู้อื่นให้เดือดร้อน
    เขาไม่ทำตนให้เดือดร้อน ไม่ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน
    ไม่มีความหิว ดับสนิท เป็นผู้เย็น เสวยแต่ความสุข
    มีตนเป็นดังพรหมอยู่ในปัจจุบันเทียว

    (โฆฏมุขสูตร-พระไตรปิฎก ฯ.ล,๑๓)

    เครดิต เฟสบุ้ค แก้วดารา บารมีธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...