พระพิฆเนศ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย พนมกุเลน, 10 พฤษภาคม 2009.

  1. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    พระพิฆเนศ




    [​IMG]


    พระคเณศ หรือพระพิฆเนศวร เป็นเทพแห่งปราชญ์ ความรอบรู้ เป็นเทพแห่งการขจัดอุปสรรคขัดข้อง เป็นผู้บันดาลความสำเร็จทั้งมวล

    [​IMG]



    และเป็นเทพชั้นผู้ใหญ่ที่ทรงมหิธานุภาพ และมีคุณธรรมปกป้องผู้กระทำดี ปราบปรามสิ่งเลวร้าย


    หากผู้ใด ต้องการประสบความสำเร็จต่อกิจการที่ชอบด้วยคุณธรรมทั้งปวง ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใด ให้ทำการบูชาพระพิฆเนศวรก่อนกระทำการ



    คาถาบูชาพระพิฆเณศ-เพื่อขอความสำเร็จในศิลปะแขนงต่างๆ ขอให้พระองค์ขจัดอุปสรรคทั้งปวง ประทานความรู้ และความมีโชคและทรัพย์



    " โอม ศรี คเณศา ยะ นะ มะ ฮาฯ "




    สนับสนุนให้ทุกท่านที่ศรัทธาในองค์พระพิฆเนศวร ได้บูชาองค์ท่านอย่างมีสติ ไม่ฟุ่มเฟือย


    เลิกพฤติกรรมการเลือกหาแต่องค์พระที่มีราคาแพงจนเกินไป ไม่ยึดติดกับพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่


    ไม่หลงงมงายไปกับร่างทรง และมวลสารที่รวบรวมมาด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์




    [​IMG]




    .....ขอทุกท่านพึงระลึกไว้เสมอว่า.....

    พระพิฆเนศจะสถิตอยู่ที่ใจของท่าน จะคุ้มครองท่าน ทุกเมื่อที่ท่านระลึกถึงพระพิฆเนศ ทุกเมื่อที่ท่านได้สวดมนต์

    ทุกเมื่อที่ท่านถวายของตามฐานะและสถานการณ์จะเอื้ออำนวย ทุกเมื่อที่ท่านกระทำความดี...

    ดังเช่นที่องค์พระพิฆเนศได้ประพฤติตนเป็นมหาเทพที่เป็นแบบอย่างแห่งความดีงามและมีเมตตา

    พระพิฆเนศไม่ได้เลือกประทับลงบนวัตถุทองคำ หรือมวลสารที่มีค่าและหายาก

    แต่ท่านจะประทับลงในใจของผู้ที่ศรัทธาท่านด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์เท่านั้น





    [​IMG]


    <TABLE class=middledetails cellSpacing=8 cellPadding=10 width=550 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TD colSpan=2>คาถาบูชา บทสวดมนต์ง่ายๆ สำหรับบูชาพระพิฆเนศ


    หมายเหตุ : บทสวดของพราหมณ์-ฮินดู จะลงท้ายด้วย...นะมะห์ หรือ นะมะฮา หรือ นะมะหะ

    ใช้คำไหนก็ได้ไม่ผิดเพี้ยน ภาษาอังกฤษจะเขียนว่า NAMAH
    </TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TD width=283>โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา

    (เป็นบทสวดหลักในการบูชาพระพิฆเนศ
    ฟังวิธีออกเสียงที่ถูกต้อง คลิกที่นี่)

    โอม พระพิฆเณศวร
    สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
    ทุติยัมปิ พระพิฆเณศวร
    สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
    ตะติยัมปิ พระพิฆเณศวร
    สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ

    (บทสวดของไทย แต่งขึ้นในภายหลัง สวดทุกวันเพื่อเป็นสิริมงคล)

    </TD><TD width=203>โองการพินทุ นาถัง อุปปันนัง
    พรหมมะโน จะอินโท
    พิฆเณศวรโต มหาเทโว
    อะหัง วันทามิ สัพพะทา
    สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง
    สิทธิการิยัง ประสิทธิเมฯ

    (สวดเพื่อขอพร)





    [​IMG]


    ยังมีบทสวดมนต์
    ให้ศึกษาอีกมากมาย
    เชิญอ่านที่
    รวมบทสวดมนต์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    บทสวด "คเณศา คายตรี"
    โอม กัง คณปัตเย นะมะฮา
    เอกทันตายะ วิดมาเฮ
    วักระทุนดายะ ดีมาฮี
    ตันโน ดันถิ ประโชดยาตุ





    [​IMG]



    บทสวด "อัญเชิญพระพิฆเนศ"
    วักกระตุณดะ มหากายา
    สุริยาโกติ สมาปราภา
    นิรวิกนัม คุรุเมเดวา
    สารวการ เยสุ สารวาดา




    [​IMG]



    หากท่านต้องการให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ควรหมั่นทำความดี ทำบุญตามโอกาสอำนวย มีความเมตตาต่อผู้อื่น ขยันทำงาน ขยันหารายได้ ขยันหาความรู้

    และขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราศรัทธาอย่างมุ่งมั่นและแน่วแน่ อย่าหาทางออกด้วยการไปพึ่งพาร่างทรงหรือเข้าหาไสยศาสตร์

    เนื่องจากผู้ที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้นั้นก็คือตัวเราเอง ไม่ควรพึ่งผู้อื่น...


    ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ไม่มีการทรงเจ้าเข้าผี

    (กล่าวโดย : พระราชครูวามเทพมุนี - หัวหน้าคณะพราหมณ์ สำนักพระราชวัง)
    .......................................................................................................................

    พฤติกรรมที่ไร้สาระของบรรดาร่างทรง ทำให้โลกร้อนขึ้นมากมาย
    คนทรงเจ้า เป็นกลุ่มคนที่ทำให้ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ต้อง เสื่อม และ เปื้อนมลทิน

    ขอให้ผู้ศรัทธาทั้งหลายจำไว้เสมอว่า...
    พระพิฆเนศ และมหาเทพทางศาสนาฮินดู จะไม่เข้าทรงผู้ใดเพื่อทำการใบ้หวย

    พระพิฆเนศไม่ต้องการให้ผู้ศรัทธาเสียเงินเพื่อรับขันธ์ ไม่ต้องการรับเงิน ไม่ต้องการรับถวายหัวหมู ไม่ต้องการค่าดอกไม้ราคาแพง

    ไม่ต้องการเงินค่าทำพิธีไร้สาระใดๆ...ท่านไม่ดื่มน้ำแดง น้ำโค้ก เหล้าขาว เคี้ยวหมาก สูบกัญชา ตลอดจนสาปแช่ง ด่ากราด

    หรือทำตัวสั่นๆ เหมือนเช่นที่คนทรงเจ้าทั้งหลายได้บังอาจลบหลู่องค์ท่าน

    พระพิฆเนศไม่ประสงค์ให้ผู้ศรัทธาต้องเสียเงิน เสียทอง เสียเวลา แม้กระทั่งเสียตัว!! ให้กับองค์ท่าน...

    แม้หากผู้ใดไม่ได้ศรัทธา หรือยังไม่พร้อมที่จะศรัทธา พระพิฆเนศก็จะไม่อาฆาต ไม่ทำอันตรายใดๆ แก่ผู้นั้นเลย

    พระพิฆเนศจะสถิตอยู่ที่ใจของผู้ศรัทธาเท่านั้น...ขอย้ำ!!! พระพิฆเนศจะสถิตอยู่ที่ใจของผู้ศรัทธาเท่านั้น

    หากท่านต้องการบริจาคเงิน เพื่อทำนุบำรุงศาสนาพราหมณ์ ขอเชิญทำบุญที่โบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า

    อันเป็นโบสถ์หลวงใช้ทำพิธีทางราชการ เป็นโบราณสถานและเป็นสมบัติของประเทศชาติ

    เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านบริจาคแก่โบสถ์พราหมณ์ จะถูกนำไปใช้ในพระราชพิธีต่างๆ อันเป็นสิริมงคลต่อประเทศชาติ

    (เช่น พิธีโล้ชิงช้าตรียัมปวาย พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคล วันฉัตรมงคล ฯลฯ)

    ซึ่งทีมงานของเราได้ให้การสนับสนุนเผยแพร่โบสถ์พราหมณ์มาโดยตลอด

    หรือนำเงินไปบริจาคตาม มูลนิธิ วัดวาอาราม โรงพยาบาลและองค์กรการกุศลที่มีอยู่ทั่วไป ทั่วประเทศและทั่วโลก

    เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รับกุศลอันบริสุทธิ์ เกิดสิริมงคลแก่ตนเองอย่างแท้จริง

    หากท่านไม่ต้องการบริจาคเงิน ก็ให้ปฏิบัติธรรม ตั้งอยู่ในศีล

    หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ขอให้มีพรหมวิหาร 4 คือ มีความเมตตา กรุณา มุฑิตา และอุเบกขา ท่านก็จะได้รับกุศลเช่นเดียวกัน

    หยุด!!! นำเงินของท่านที่ได้มาอย่างยากลำบากจากการประกอบอาชีพสุจริต

    ไปยื่นให้แก่คนทรงเจ้าที่วันๆ เอาแต่นั่งตัวสั่นและพูดจาหยาบคาย โลภมากและทำบาปอยู่เป็นนิจ

    การทรงเจ้าของพราหมณ์ ณ วัดแขกสีลม นั้น เป็นการเข้าทรงเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา มีขึ้นเฉพาะในพิธีนวราตรี

    โดยมีวัตถุประสงค์ในการประทับทรงที่ชัดเจน กระทำโดยพราหมณ์ชาวอินเดีย และมีการปฏิบัติตามคติของอินเดียอย่างถูกต้อง

    แตกต่างกับการทรงเจ้าตามตำหนักทรงต่างๆ ซึ่งเราขอยืนยันว่าส่วนใหญ่เป็นการจัดฉากเพื่อรีดไถกับผู้หลงเชื่อ

    ผู้ที่ทำการทรงเจ้าพร่ำเพรื่อใน วัดแขกสีลม ผู้นั้นจะถูกตำรวจหิ้วปีกออกมาจากวัด

    ผู้ที่ทำการทรงเจ้าใน โบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า ผู้นั้นจะถูกพราหมณ์ขับไล่ให้ออกจากสถานที่

    ผู้ที่ทำการทรงเจ้าใน วัดเทพมณเฑียร ผู้นั้นจะถูกเจ้าหน้าที่ลากออกมาทิ้งหน้าโบสถ์

    ผู้ที่ทำการทรงเจ้าและหลอกลวงในวัดของประเทศอินเดีย ผู้นั้นจะถูกทุบตีจนเสียชีวิต!!!

    ลัทธิการทรงเจ้าเข้าผี เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ

    เช่น ผู้ที่อ้างว่าเป็นร่างทรงของกษัตริย์และทำการหลอกลวงผู้คน

    อาทิ ร่างทรงของเสด็จพ่อ ร.5 , สมเด็จย่า , กรมหลวงชุมพรฯ (เสด็จเตี่ย) และกษัตริย์พระองค์อื่นๆ

    กรุณาร้องเรียนโดยแจ้งเบาะแสมาทางเว็บไซต์สยามคเณศ ทีมงานเราจะประสานไปยังผู้เกี่ยวข้อง

    เพื่อจับกุมข้อหาแอบอ้างเบื้องสูงทันที!!!!!

    คนมีองค์...มีจริง !! องค์ท่านลงมาคุ้มครองผู้ศรัทธา

    มนุษย์ทุกคนสามารถมีองค์ได้เอง ถ้าหมั่นบูชาเทพ หมั่นทำบุญและทำความดี

    แต่ คนทรงเจ้า...เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์หลอกลวง!!!

    มีเพียง 1% เท่านั้นที่เมตตาช่วยเหลือผู้คนจริงๆ โดยไม่มีการเรียกเก็บเงิน

    ขอท่านทั้งหลายจงเลือกศรัทธาด้วยปัญญาและขอให้มีสติ


    [​IMG]



    <TABLE width=800><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=792 bgColor=#8a8a8a height=125>>>> อ่านต่อเรื่องร่างทรง เรื่องที่ 1 <<<
    เรื่องร่างทรง 2 - คนมีองค์ กับ ร่างทรง ต่างกันอย่างไร ?
    เรื่องร่างทรง 3 - ร่างทรงกำลังทรงเทพเจ้า...หรือกำลังโดนผีสิง???
    เรื่องร่างทรง 4 - การรับขันธ์ อันตรายถึงชีวิต!!!
    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>



    การนับถือพระพิฆเนศและองค์เทพต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับร่างทรง

    การประทับทรง ไม่ใช่แนวทางของศาสนา พราหมณ์-ฮินดู-พุทธ ที่แท้จริง


    มีแต่ชาวไทยเท่านั้น ที่นำองค์เทพและมหาเทพต่างๆของศาสนาพราหมณ์

    มาข้องเกี่ยวกับการ ประทับทรง หรือ เข้าทรง จนถูกชาวต่างชาติดูถูกว่างมงายไร้สาระ

    ตลอดจนวงการทรงเจ้าในประเทศไทยนั้น ยังทำให้ชาวฮินดูในประเทศไทย

    ต้องถูกชาวไทยพุทธด้วยกันดูถูกเหยียดหยามเหมือนตัวประหลาดไม่มีการศึกษา

    ทั้งๆที่ชาวฮินดูไทย ได้ปฏิบัติตนบูชาเทพอย่างถูกต้อง อยู่ในกรอบและระเบียบที่พึงกระทำ

    การนับถือองค์เทพของชาวอินเดีย ชาวฮินดูและชาวต่างชาติที่หันมาสนใจองค์เทพโดยเฉพาะพระพิฆเนศและพระกฤษณะ

    จะเป็นการเลือกนับถือองค์เทพที่ตนศรัทธา ให้เป็นเทพเจ้าสูงสุด เป็นเทพผู้ช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ เป็นเทพผู้บำบัด

    และเป็นเทพที่จะชี้นำทางไปสู่โมกษะธรรมอันสูงสุดที่มนุษย์พึงมี มีการปฏิบัติโยคะ ปฏิบัติจักรัน การสวดมหามนต์บูชา


    การทำสมาธิ การศึกษาคัมภีร์ การปฏิบัติตามคำสอนแห่งพระเป็นเจ้า

    และการจัดพิธีบูชากันอย่างเป็นระเบียบ มีหลักการ มีตำรา มีคัมภีร์..

    แต่การ ทรงเจ้า เข้าผี ประทับทรงองค์เทพ ของชาวไทยในปัจจุบัน

    จะปรากฎว่า หลุด ออกจากวงจรและกระบวนการที่ถูกต้อง

    มีการแอบอ้างพระนามขององค์เทพฮินดูให้อยู่ในระดับเดียวกันกับ ผี

    จน มหาเทพ กลายเป็น ผี ที่หลายๆคนต้องหลีกเลี่ยงและดู เลวทราม ต่ำช้า งมงาย ในสายตาของหลายๆคน

    ขอยืนยัน ว่า การประทับทรงองค์เทพนั้น ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องในการนับถือเทพพราหมณ์-ฮินดู




    [​IMG]




    <TABLE borderColor=#cccccc cellSpacing=5 cellPadding=15 width=800 align=center bgColor=#ffffff border=1><TBODY><TR bgColor=#999900><TD class=unnamed3 vAlign=center align=middle colSpan=2 height=79>ดาวน์โหลดเพลงบูชาแบบ MP3 ได้ที่นี่</TD></TR><TR bgColor=#999900><TD class=middledetails vAlign=center align=middle width="50%" bgColor=#999900>สุดยอด "มหามนต์" บูชาพระพิฆเนศ!!!
    MP3 - Ganesha Mantra


    (คเณศา มนตรา) ควรเปิดอัญเชิญเป็นเพลงแรก
    คำอ่าน : โอมปารวตี ปัตตเย ฮารา ฮารา ฮารา มหาเทพ

    คาชะนะนัม ภูตะคะณาธิเสวะตัม
    กะปิตะชัมพู ผะละจารุภักษะณัม
    อุมาสุตัม โศกะวินาศะ การะกัม
    นะมามิ วิฆเนศวะระ ปาทะปังกะชัม

    ความหมาย : พระพิฆเนศทรงเป็นสิ่งสูงสุด
    พระองค์มีเศียรเป็นช้าง ทรงมีสาวกมากมาย
    พระองค์ทรงโปรดผลมะขวิดและผลหว้า (บางตำราคือผลชมพู่)

    พระองค์ทรงเป็นบุตรแห่งพระแม่ปารวตี
    ทรงเป็นผู้ทำลายความทุกข์ยากและความเจ็บปวด
    ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการ เทพผู้ทรงมีพระบาทดั่งดอกบัว

    MP3 - Ganesh Sukhakarta

    ( ผู้นำมาซึ่งความสุข ผู้ขจัดซึ่งความทุกข์ )

    เปิดสรรเสริญ ขณะสวดมนต์บูชา

    คำอ่าน : สุขะขารตา ทุกขะหารตา วารตาวิฆนาชิ
    นุรวี ปุรวี เปรมมาครุปาจะยาชี
    สารวันกิ สุนทารา อุติเฉนทุราชี
    ขันติ ไสยกิ มาลา มุกดา ฝาราชี

    * ไชยเทวะ ไชยเทวะ ไชยมงคลมูรติ
    ดารชันมาเตรมานะ กามานะปูรติ
    ไชยเทวะ ไชยเทวะ

    รัตนัก กสิตะ ฝาระ ตุจเการี กุมรา
    จันดา นาชี อุติ กุมกุม กิเชรา
    หิเร จาติตา มุกุตา โชพาโตพารา
    รุนะ ชุนติ นูปุริ ชารนีกา เกรยา
    ไชยเทวะ ไชยเทวะ ( * )

    ลัมโพทาร ปิตัมพาร ภนิวาร บันทะนา
    สารละ โสนทะ วักกระตุนทะ ตรีนัยนา
    ตาสรามาชา วัตปาเห สทนา

    สันกาษติ ปาวาเว นิรวานี รักษาเว สุรวาร วันทานา ไชยเทวะ ไชยเทวะ ( * )

    MP3 - Ganesh Pooja โศลกสรรเสริญพระพิฆเนศ

    พราหมณ์ร้องขับกล่อมขณะประกอบพิธีบูชาพระพิฆเนศ

    </TD><TD vAlign=center align=middle width="50%">MP3 - Ganapati Ki Sewa Mangal </B>
    เพลงสรรเสริญพระพิฆเนศ
    (คณปติกิเสวะ มงคล)

    MP3 - Jai Ganesha Deva
    (ชยะ คเณศา เทวา) เปิดขณะทำ อารตี หรือ การบูชาไฟ
    การบูชาไฟ หมายถึง การถวายแสงไฟต่อเทพ
    ด้วยการนำเทียน ประทีป ตะเกียงหรือการบูร จุดให้ติดไฟแล้วยกชูขึ้น
    จากนั้นหมุนวนเป็นวงกลม ตามเข็มนาฬิกา ต่อหน้าเทพที่เราบูชา
    เริ่มจากพระบาท หมุนวงกลม 3 รอบ
    แล้ววนๆ ขึ้นไปทุำกส่วนของพระวรกาย ขึ้นไปจนถึงพระพักตร์ของท่าน

    เมื่อวนเสร็จแล้วให้วางลง ใช้มือสองข้างอังไฟแล้วมาแตะที่หน้าผาก
    เพื่อความเป็นสิริมงคล เสมือนได้รับพระพรจากองค์เทพ
    ควรกระทำอารตีนี้ หลังจากสวดมนต์ถวายของเสร็จแล้ว
    หากมีกระดิ่ง ให้ใช้มือข้างหนึ่งถือกระดิ่ง
    แล้วสั่นกระดิ่งไปพร้อมกับการวนด้วยมืออีกข้างหนึ่งด้วย
    หากไม่ถนัดสามารถวนไฟก่อนแล้วค่อยสั่นกระดิ่งได้
    (สามารถดูได้ตามวัดหรือเทวสถานที่มีการทำอารตีถวายเทพ)

    MP3 - Ganesha Sharanam
    (คเณศา ศารนัม)
    เพลงสรรเสริญพระพิฆเนศ
    ยกย่องพระองค์ว่าเป็นผู้ปกป้องเราจากภัยร้าย
    (Sharanam แปลว่า เกราะป้องกันภยันตราย)
    คำอ่าน : คเณศา ศาระนัม ศาระนัม คเณศา (2 รอบ)
    กัม กัง คณปติ ศารนัม คเณศา (2 รอบ)
    ไชยคเณศา ไชยะ ไชยะ คณนาถา (2 รอบ)

    MP3 - Om Gan Ganapatye Namo Namah
    (ไฟล์ขนาดใหญ่ 13MB)
    เ้พลงนมัสการพระพิฆเนศ ให้ร้องวนไปเรื่อยๆ เหมาะสำหรับการเปิดขณะนั่งสมาธิตั้งจิตระลึกถึงพระพิฆเนศ หรือจะเปิดขณะจุดกำยาน ถวายของ หรือเปิดฟังยามว่างก็ได้ครับ
    คำอ่าน : โอม กัง กันปัตเย นะโม นะมะห์
    ศรี สิทธิ วินายักกะ นะโม นะมะห์
    อัสตะ วินายักกะ นะโม นะมะห์
    คณปติ บัปปา โมริยา
    ความหมาย : ขอนมัสการพระคณปติ หัวหน้าบริวารแห่งพระศิวะ

    ขอนมัสการเทวรูปศรีสิทธิวินายักกะ
    ขอนมัสการเทวรูปพระพิฆเนศ 8 แห่ง อันเกิดจากธรรมชาติ
    ขอพระคณปติจงเจริญ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>


    [​IMG]


    เพลงบูชาพระพิฆเนศ

    ทั้งหมดนี้คือ "มนตรา" หรือ บทสวดมนต์

    บทเพลงสำหรับบูชาองค์พระพิฆเนศ มีท่วงทำนองอันศักดิ์สิทธิ์

    แต่งขึ้นมาเพื่อสรรเสริญ ยกย่อง เชิดชู มหาเทพพิฆเนศวร

    ซึ่งมีอยู่หลายเพลง เชิญเปิดฟังหรือเปิดบูชาต่อองค์ท่านได้ตามต้องการ

    โดยจะเลือกเปิดเพลงไหนก็ได้ เปิดให้วนหลายๆรอบไปเรื่อยๆ

    ตลอดเวลาที่บูชาอยู่ หรือเปิดไว้ขณะทำงาน ขณะอ่านหนังสือ

    หรือเปิดตอนนั่งสมาธิก็ได้ (เมื่อคลิกแล้วให้รอสักครู่)


    <TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=8 cellPadding=25 width=298 align=center border=1><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=228 bgColor=#999999>1. Ganesha Yanamah
    2. Gan Ganapati
    3. Jai Ganesh Deva
    4. Ganesh Gayatri
    5. Sankat Nashanam Ganesh
    6. Ganesh Chalisa
    7. Ganesha Aum Vigneswara
    8. Ganesha Sthavah
    9. Vagratunda Mahagaya
    10. Ganesh Panjaratna
    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>



    [​IMG]



    <TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=8 cellPadding=25 width=350 align=center border=1><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle bgColor=#999999>สุดยอด "มหามนต์" บูชาพระพิฆเนศ!!!
    Ganesha Mantra (คเณศา มนตรา)

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>



    [​IMG]


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=820 align=center><TBODY><TR vAlign=center align=middle bgColor=#339999><TD class=unnamed3 colSpan=3 height=74>>>> รวมรูปภาพพระพิฆเนศ จากเว็บทั่วโลก <<<

    </TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#339999><TD width="33%" height=66>รูปภาพพระพิฆเนศ ชุดที่ 1</TD><TD width="33%">รูปภาพพระพิฆเนศ ชุดที่ 2</TD><TD width="33%">รูปภาพพระพิฆเนศ ชุดที่ 3</TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#339999><TD width="33%" height=66>รูปภาพพระพิฆเนศ ชุดที่ 4</TD><TD width="33%">รูปภาพพระพิฆเนศ ชุดที่ 5</TD><TD width="33%">รูปภาพพระพิฆเนศ ชุดที่ 6</TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#339999><TD width="33%" height=66>รูปภาพพระพิฆเณศ ชุดที่ 7</TD><TD width="33%">รูปภาพพระพิฆเณศ ชุดที่ 8</TD><TD class=middledetails width="33%">(แต่ละชุด จะเพิ่มรูปใหม่เรื่อยๆ)</TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#339999><TD class=unnamed3 colSpan=3 height=43>>>> ภาพถ่ายพระพิฆเนศจาก Flickr <<<</TD></TR><TR class=middledetails vAlign=center align=middle bgColor=#339999><TD height=43>ภาพถ่ายพระพิฆเนศวร ชุดที่ 1</TD><TD height=43>ภาพถ่ายพระพิฆเณศวร ชุดที่ 2</TD><TD height=43>ภาพถ่ายพระพิฆเณศวร ชุดที่ 3</TD></TR><TR class=middledetails vAlign=center align=middle bgColor=#339999><TD height=43>ภาพถ่ายพระพิฆเณศวร ชุดที่ 4</TD><TD class=middledetails height=43>กำลังรวบรวมจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม</TD><TD class=middledetails height=43>กำลังรวบรวมจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม</TD></TR></TBODY></TABLE></B>



    [​IMG]


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=800 align=center bgColor=#a67979><TBODY><TR vAlign=center align=middle bgColor=#9c6b6b><TD class=unnamed3 colSpan=2 height=52>สถานที่สักการะ เทวรูป เทวาลัยพระพิฆเนศ</TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD class=middledetails vAlign=top align=left width="50%" bgColor=#9c6b6b height=30>- สถานที่กราบไหว้ สักการะ "พระพิฆเนศ" 6 แห่งใน กทม.

    - วัดวิษณุ สมาคมฮินดูธรรมสภา ซอยวัดปรก ยานนาวา

    - วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก สีลม)

    - พระพิฆเณศสี่แยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก

    - พิพิธภัณฑ์พระพิฆเณศ จ.เชียงใหม่

    - "สิทธิวินายัก" องค์พระพิฆเนศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
    เทพเจ้าผู้เติมเต็มให้สรรพชีวิต ณ วัดสิทธิวินายัก ประเทศอินเดีย

    - "อัสตะวินายัก" และการ "ยาตรา" แสวงบุญสักการะพระพิฆเนศ
    เดินทางสู่ดินแดนต้นกำเนิดศาสนาพราหมณ์ ณ ประเทศอินเดีย


    </TD><TD class=middledetails width="50%" bgColor=#9c6b6b>>>>>> เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า
    สูงสุดแห่งสถานเทวะ ประจำประเทศไทย
    </B>

    - วัดเทพมณเฑียร สมาคมฮินดูสมาช
    และเหตุการณ์เทวรูปดื่มนมในประเทศไทย
    <<ใหม่!!

    - เสาชิงช้า โบราณสถานสำคัญเพื่อประกอบพิธีของพราหมณ์

    เทวาลัย ศาลพระพิฆเนศ แห่งอื่นๆ ที่น่าสนใจไปกราบสักการะ
    - พระพิฆเนศ กรมศิลปากร
    - พระพิฆเณศ เซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์-ประตูน้ำ
    - เทวรูปพระพิฆเนศ โบสถ์พระแก้ว วังหน้า
    - พระพิฆเนศ วัดศรีสุดาราม
    - ศาลพระพิฆเนศ วัดหัวลำโพง พระอารามหลวง
    - พระพิฆเนศ โรงละครแห่งชาติ
    - ศาลพระคเณศ สถาบันราชภัฏพระนคร
    - เทวรูปพระพิฆเณศ วิทยาลัยนาฏศิลป กรุงเทพ

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=800 align=center bgColor=#a67979><TBODY><TR vAlign=center align=middle bgColor=#9c6b6b><TD class=middledetails bgColor=#8c5e5e>วัด เทวาลัย ศาลพระพิฆเนศ ที่น่าสนใจไปกราบสักการะ</B>
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=780 align=center><TBODY><TR class=middledetails vAlign=top align=left bgColor=#a47777><TD class=middle14 width="50%">- พระพิฆเนศ กรมทหารมหาดเล็ก กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
    - เทวรูปพระพิฆเณศ กองดุริยางค์ทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต
    - ศาลพระคเนศ กองดุริยางค์ทหารเรือ ถนนอิสรภาพ
    - ศาลเทวรูปพระพิฆเนศ สถานีวิทยุกองทัพบกช่อง 5
    - ศาลพระพิฆเนศ สถานีวิทยุกองทัพบกช่อง 7
    - ศาลพระพิฆเนศ ย่าน Queen's Park Plaza สุขุมวิท 22
    - พระคเณศโรงแรมเฟลิกซ์ อโนมา สวิสโซเทล ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์
    - ศาลพระพิฆเนศ ตลาดนัดสวนจตุจักร ใกล้ธนาคารทหารไทย
    - เทวาลัยพระพิฆเนศ 2 องค์ สถานีขนส่งหมอชิต
    - ศาลพระพิฆเนศ บริษัท โฟล์ค ธนบุรี จำกัด
    - เทวาลัยพระพิฆเณศ อาคาร ซอฟท์แวร์ปาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ
    - เทวาลัยพระคเณศ พระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม
    - พระพิฆเนศ ศาลหลักเมือง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
    - ศาลพระพิฆเนศ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จ.สมุทรปราการ
    - พระพิฆเนศเมืองโบราณ บางปู จ.สมุทรปราการ
    - เทวรูปพระพิฆเนศ มูลนิธิอุบลรังสีจุฬามณี จ.นครปฐม
    - วิหารพระพิฆเนศ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
    - เทวรูปพระพิฆเนศ วัดห้วยตะโก จ.นครปฐม
    - เทวรูปพระพิฆเนศ ปราสาทนครหลวง พระนครศรีอยุธยา
    - ศาลพระพิฆเนศ ปางช้างอยุธยา พระนครศรีอยุธยา
    - พระพิฆเนศ วัดป่าไทรย้อย จ.ปราจีนบุรี
    </TD><TD width="50%">- พระพิฆเนศ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.เพชรบุรี</B>
    - พระพิฆเนศ วัดเกาะ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี
    - พระพิฆเนศ อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม จ.เพชรบุรี
    - พระพิฆเนศ วัดเขาเข้เทพนิมิตวนาราม จ.กาญจนบุรี
    - พระพิฆเนศ ศาลพ่อศรีหริดมงคล พ่อหินช้าง จ.ชุมพร
    - พระพิฆเนศ พระศิวะ หอพระอิศวร จ.นครศรีธรรมราช
    - พระพิฆเนศวิทยาลัยนาฏศิลป์ จ.นครศรีธรรมราช
    - พระพิฆเนศ ศาลาแก้วกู่ จ.หนองคาย
    - พระพิฆเนศ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา
    - วัดพระพิฆเนศ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
    - พระพิฆเนศ วัดหนองพะยอม จ.พิษณุโลก
    - พระพิฆเณศวร วัดดอนจั่น อ.สารภี จ.เชียงใหม่
    - พระพิฆเณศ พระศิวะ พระวิษณุ วัดเทพมณเฑียร จ.เชียงใหม่
    - พระพิฆเณศสถาบันราชภัฏเชียงใหม่
    - พระพิฆเณศศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่
    - พระพิฆเณศวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่
    - เทวรูปพระพิฆเณศวัดท่าสต๋อย จ.เชียงใหม่
    - เทวรูปพระพิฆเณศวัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
    - เทวรูปพระพิฆเณศวัดชัยศรีภูมิ จ.เชียงใหม่
    - องค์พระพิฆเณศวัดนันทาราม จ.เชียงใหม่
    - องค์พระพิฆเณศวัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>



    [​IMG]



    <TABLE borderColor=#cccccc cellSpacing=5 cellPadding=5 width=800 align=center bgColor=#a67979><TBODY><TR vAlign=center align=middle bgColor=#996666><TD class=unnamed3 colSpan=2 height=81>รวมบทความน่าอ่านเกี่ยวกับพระพิฆเนศ
    ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (รวบรวมจากแหล่งอื่นๆ)
    </TD></TR><TR class=middledetails vAlign=top align=left bgColor=#9c6b6b><TD vAlign=top align=left width="50%" bgColor=#9c6b6b>


    <HR>
    ******** เรื่องน่ารู้เบื้องต้น ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู********

    ********การนับถือพระพิฆเนศ ต้นแบบในอินเดีย********

    <HR>
    - สิ่งที่ควรรู้สั้นๆ เกี่ยวกับพระพิฆเนศ

    - ตำนานกำเนิดพระพิฆเนศ

    - ตำนานว่าด้วยเศียรช้าง งาข้างเดียว และหนูบริวาร

    - ตำนานพระพิฆเนศในเอเชียแปซิฟิก

    - ตำนานพระพิฆเนศในประเทศไทย

    - พระคเณศ ในฐานะเทพแห่งปัญญาและความรู้

    - พระพิฆเณศในคติเทพเจ้าผู้บันดาลให้เกิดอุปสรรค!!!

    - พระพิฆเณศในฐานะหัวหน้าบริวารของพระศิวะ- พรที่พระพิฆเนศได้รับจากมหาเทพ-มหาเทวี

    - เทวปรัชญาของพระศรีคเณศ และพระสกันท์ (พระขันทกุมาร)

    - เหตุใดจึงต้องเป็นช้าง? และเรื่องราวเกี่ยวกับช้างศักดิ์สิทธิ์

    - อีกตำนานของ หนู พาหนะบริวารของพระพิฆเนศ


    </TD><TD width="50%">- อานิสงค์จากการบูชาพระพิฆเนศ</B>

    - คเณศจตุรถี...วันประสูตรพระพิฆเนศ

    - สติปัญญา และไหวพริบของพระพิฆเนศ
    จากเหตุการณ์ชิงผลมะม่วงและการอภิเษกสมรส


    - อวตารทั้ง 8 ของพระคเณศ

    - เทพสุดฮ็อต..มหาเทพพิฆเนศ ความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม

    - องค์พระพิฆเนศที่แตกหักเสียหาย ควรทำอย่างไร?

    - ความหลากหลายในการเผยแพร่พระพิฆเนศ

    - วันสำคัญทางศาสนาพราหมณ์ นวราตรี วันสงกรานต์และวันอื่นๆ

    - ควรบูชาพระพิฆเนศอย่างไร ?
    คำแนะนำจากคุณปัณฑร ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ


    - ต้องอ่าน!! ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการบูชาเทพ
    การถวายของ การบูชา การระลึกถึงเทพอย่างถูกต้อง


    เรื่องร่างทรง 1 - เตือนใจเรื่องร่างทรง มารสังคมที่ต้องระวัง
    เรื่องร่างทรง 2 - คนมีองค์ กับ ร่างทรง ต่างกันอย่างไร ?
    เรื่องร่างทรง 3 - ร่างทรงกำลังทรงเจ้า หรือกำลังโดนผีสิง ?
    เรื่องร่างทรง 4 - การรับขันธ์ อันตรายถึงชีวิต!

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>



    [​IMG]


    - รวมบทสวดมนต์บูชาพระพิฆเนศ

    - ต้องอ่าน!! ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการบูชาเทพ

    - รวมบทสวดสรรเสริญ สดุดี พระพิฆเนศ (แบบยาว)

    - บทสวดสรรเสริญพระนาม 108 ของพระพิฆเณศวร

    - บทสวดโศลก 8 บท การนมัสการและการขอพร

    - การบูชาพระพิฆเนศควบคู่กับพระพุทธเจ้า

    - เครื่องหมายโอม...และการสวดบูชา

    - เครื่องหมายสวัสดิกะ...สัญลักษณ์แห่งพระพิฆเนศ

    - การบูชาพระพิฆเนศด้วยใบไม้ 21 ชนิด


    [​IMG]

    http://www.siamganesh.com/index.html


     
  2. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=24nobold vAlign=center align=middle bgColor=#cccccc height=91>ร่างทรง..กำลังทรงเจ้า...หรือโดนผีสิง?
    จากเว็บไซต์ sanyana.com และ saisunya.com / เราขอขอบคุณมา ณ ที่นี้
    </TD></TR><TR><TD class=middledetails vAlign=center align=middle bgColor=#e5e5e5><TABLE class=middle14 cellSpacing=5 cellPadding=5 width=850><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=middledetails vAlign=center align=middle width="100%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD class=middledetails vAlign=center align=left bgColor=#cccccc>ความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ต่างๆ โดยขาดการพิจารณาไตร่ตรอง หลงยึดติดในเรื่องอิทธิฤทธิ์จนเกินไป ทำให้หลงเป็นเหยื่อของเหล่า 18 มงกุฎ ที่ชอบอวดอ้างตนเอง ตั้งตัวเองเป็นเกจิอาจารย์ ใช้เล่ห์กลมายาและหน้าม้าขบวนการหลอกล่อ กระทำเรื่องราวต่าง ๆ อวดอ้างเป็นผู้วิเศษในเรื่องราวต่าง ๆ จนผู้คนหลงเชื่อ ในที่สุดก็ต้องสูญเสียเงินทองไปกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างช่วยไม่ได้


    การเจ็บป่วยของมนุษย์นั้น จัดได้ว่าเป็นความทุกข์อย่างหนึ่งที่พบเห็นกันอยู่ทุกวัน ดังได้กล่าวมาแล้ว หากเกิดจากดินฟ้าอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ก็อาจเจ็บป่วยเป็นไข้หวัด ไอหรือจาม เพียงกินยาหรือหาหมอก็หาย บางคนอาจมีวิตกจริตมากชอบคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ อย่างมากมายจนเกิดความเครียด นำไปสู่โรคหัวใจ โรคประสาท ก็เป็นไปได้ แต่บางโรคเพียรพยายามจะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย กินยากันเป็นปี ผ่าตัดกันเป็นประจำ ก็ไม่หาย

    ดังนั้นหนทางแห่งการแก้ไข ก็เลยหนีจากทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาเป็น ไสยศาสตร์ หาร่างทรงองค์เทพกันไป หายก็มี ไม่หายก็มี เพราะถ้าโชคดี พบกับผู้มีภูมิความรู้จริง ๆ ก็คงจะหาย แต่ถ้าพบผู้แอบอ้างแฝงมาหากิน ก็คงจะเสียเงินมากกว่าจะหาย

    สิ่งหนึ่งที่มักจะพบเห็นมักได้แก่ ถูกทักทายว่ามีองค์ และจะต้อง ครอบขันธ์ครู รับองค์เทพไปบูชามิฉะนั้นจะไม่หายป่วย บางทีอาจถึงตาย คนเรามาถึงขั้นนี้มีหรือจะไม่ยอม ส่วนใหญ่จะยอมรับขันธ์กัน เพราะ อยากหาย และ อยากรวย ดังนั้นเมื่อถูกทักว่ามีองค์ก็อย่าเพิ่งหลงดีใจ เพราะอาจจะเป็นก้าวแรกที่ท่านจะต้องเสียเงินให้แก่ตำหนักนี้อีก เรื่อย ๆ เช่น การครอบขันธ์ งานไหว้ครู เป็นต้น ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ท่านมีองค์จริง? หรือว่าถูกหลอก??

    (ร่างทรงพระพิฆเนศ ร่างทรงพระพิฆเณศ ร่างทรงพระพิคเนตร ร่างทรงพระศิวะ ร่างทรงพระวิษณุ ร่างทรงพระนารายณ์ ร่างทรงเจ้าแม่กาลี ร่างทรงเจ้าแม่อุมาเทวี ร่างทรงเจ้าแม่ลักษมี ร่างทรงเจ้าแม่ทุรกา ร่างทรงเจ้าแม่ทุรคา ร่างทรงพระขันทกุมาร ร่างทรงพระกฤษณะ ร่างทรงพระแม่กาลี ร่างทรงพระแม่อุมาเทวี ร่างทรงพระแม่ลักษมี ร่างทรงพระแม่ทุรกา ร่างทรงพระแม่ทุรคา ร่างทรงพระราม)

    <HR>
    เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เรามีองค์หรือเปล่า หรือชอบไปเที่ยวหาร่างทรงตามตำหนักต่าง ๆ เป็นเทพจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงสัมภเวสีที่แอบอ้างหากินไปวัน ๆ พอถูกเขาทักว่ามีองค์ก็เลยพาลรับขันธ์ 5 ไปเลยก็มี ถ้าทำถูกต้องก็ดีไป ถ้าทำไม่ถูกต้อง กลายเป็นว่าเอาผีมาใส่ไว้ในตัวก็จะซวยไปกันใหญ่

    เพราะบางทีเราไม่ทราบว่า ตำหนักไหนแท้หรือเทียม บางคนไม่มีอะไร แต่พอเห็นเขามีองค์ก็พาลอยากจะเป็นบ้าง ก็เลยทำให้มีทั้ง คนทรงเจ้า หรือ เจ้าเข้าทรง ก็อยู่ในวิจารณญาณของท่านที่ต้องพิจารณาศึกษาให้ดีเสียก่อน


    เทพแต่ละองค์มีบารมีสูงมาก ไม่มานั่งสั่นๆ การสั่นที่เราพบเห็นกันคืออาการของ ผีเข้า หรือ สัมภเวสีเข้า เนื่องจากบุญของผู้ที่กำลังจะเข้านั้นน้อยมากๆ และการใช้พลังงานมากในการเข้าออก เทพจริงๆ สวมร่างได้ไม่ต้องเชิญและไม่ต้องสั่น (สวมตามบารมีของผู้นั้นว่ามีธาตุกุศลมากน้อนแค่ไหน)

    การสั่น หรือการทรมานร่าง ให้อาเจียน หงายท้อง ปวดหัว ปวดบ่า นั้นเป็นบาปมหันต์ เราเองไปทรมารสัตว์ยังบาปเลย แล้วเทพ หรือมหาเทพมาทรมานมนุษย์ ให้จริต ร่างผิดเพี้ยนไป ยิ่งบาปมาก หรือพูดง่ายๆ คือ "สัตว์โลก ย่อมไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน" เทพเทวดาส่วนใหญ่ ก็ไม่เสี่ยงกับการถูกขับลงจากสวรรค์ หรือหมดอายุขัยง่ายๆ ด้วยวิธีนี้

    ข้อสำคัญ ที่สั่นๆ นั้นเรียกว่าการเข้าทรง แล้ว ทำประโยชน์อะไรให้ร่างนั้นบ้าง นอกจากมาเกาะกิน บุญ เครื่องเซ่นไหว้ แล้ววันหนึ่งก็ไป..ในระหว่างการลง ผู้ที่ไม่เคยเห็นหรือศึกษา ก็คิดว่าเป็นความวิเศษ...

    ถาม - ตามตำหนักทรงทำไมต้องเจิมหน้าผาก ?

    ตอบ - การเจิมหน้าผากเป็นการสะกด หรือกดให้สังขารวิญญาณนั้นอยู่ภายใต้อำนาจตนเอง หรือกดให้เป้นบริวาร พระพุทธเจ้าสอนธรรมมะ ให้กับสาวก แม้แต่องคคุลีมาร ยังสำเร็จอรหันต์ มิได้ให้เจิมหน้าผากใคร

    ถาม - เหตุใดวันพระจึงไม่ยอมเข้าทรง?

    ตอบ - วันพระคือวันที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมโปรด สรรพสัตว์ทั้งหลาย และเหล่าทวยเทพเทวดา มาฟังธรรม เทวดาก็ต้องการหลุดพ้นเหมือนกัน การที่ตำหนักต่างๆ ไม่ทรง เรียกว่าไม่กล้าเข้า เพราะเกรงกลัวอำนาจ

    ...จึงขอให้ใช้สติพิจารณาไตร่ตรอง...

    จากเว็บไซต์ sanyana.com และ saisunya.com / เราขอขอบคุณมา ณ ที่นี้


    <TABLE width=780 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle height=628>องค์ลง หรือ ผีสิง !!
    โดย พระพันธกานต์ อภิปญฺโญ / เว็บ samyaek.com

    "... คนปกติเขาก็มีกันแค่ หนึ่งใจกับหนึ่งกายและดำเนินชีวิตไปตามปกติ
    แต่คนที่ไม่ปกติ ก็จะมีหลายใจอยู่ในร่างกายเดียว และดำเนินชีวิตไม่ค่อยปกติเหมือนคนอื่น
    เขาเรียกคนแบบนี้ว่า คนถูกผีสิง

    ยิ่งมีมากก็คือถูกสิงมาก มันไม่ใช่องค์ใช่แอ็งค์อะไรหรอก
    พวกผีเร่ร่อนอยู่แถวๆโลกนี้แหละ ทำเป็นอ้างเทพองค์นั้นองค์นี้ ไอ้พวกผีขี้บาปมันก็อ้างไปเรื่อยนั่นแหละ
    เพราะมันไม่รู้จักบุญ-บาป อะไรหรอก ถ้ามันรู้จัก บาป-บุญ แล้ว การกระทำแบบนี้พวกผีต้องไม่ทำ

    เพราะร่างกายนี้มีใจดวงหนึ่งครอบครองอยู่ก่อนแล้ว และมีสิทธิเกี่ยวกับร่างกายนี้อย่างชอบธรรมด้วย
    การสิง - การทรง นี้เป็นบาปมากนะ ต้องไปตกนรกเพราะทำบาปเกี่ยวกับการสิงคนนี้แหละ พวกผีเร่ร่อนทั้งหลายนั้น ก็หาสิ่งหลอกล่อ

    มาอ้างนั้นอ้างนี้เพื่อจะได้เข้าสิงร่างกายคน (อ้างว่าตนเป็นองค์เทพ หลอกเจ้าของร่าง) และหาวิธีที่จะครอบครองร่างกายนี้และพยายามที่จะมีอำนาจเหนือใจดวงที่เป็นเจ้าของร่างกายนั้นด้วย

    พวกมนุษย์ก็ไม่ทันเหลี่ยมผี ไปกราบไปไหว้หาว่าพวกผีนี้ดีนัก (ที่ตนดันเข้าใจว่าเป็นเทพ) แล้วก็ยินยอมทำตามที่ผีมันบอกทุกอย่าง

    พวกผีก็เลยได้โอกาสวางมาด เพราะคนทั้งหลายไม่มีที่พึ่งให้ใจของเจ้าของ
    พาใจของเจ้าของสะเปะสะปะ อ่อนระโหยโรยแรงไปเรื่อยหาจุดหมายปลายทางไม่เจอ

    ทั้งๆที่คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ยังคงอยู่คู่โลก ก็ไม่พากันเชื่อมั่น หาว่าเป็นเรื่องตกยุคตกสมัยบ้าง โบราณแล้วบ้าง เป็นเรื่องที่เข้าใจยากบ้าง เป็นเรื่องทำตามได้ยากบ้าง

    ข้ออ้างทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไปเข้าแผนของพวกผีทั้งนั้น
    แม้แต่ผีกิ๊กก๊อกก็ยังหลอกให้คนเชื่อได้ แสดงอานุภาพนิดๆหน่อยๆ ก๊อกๆแก๊กๆ แค่นี้คนก็ไปจุดธูปบูชามันแล้ว

    ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเหมือนกัน เพราะคนขาดการศึกษา ขาดการทำความเข้าใจเรื่องศาสนานี้อย่างมาก ...

    แต่จะว่าไปก็คงจะเป็นเพราะคนไปก้มหัวยอมรับนับถือให้พวกผีเลอะเทอะมันสิงเอาด้วย
    เพราะเรื่องแบบนี้ปรบมือข้างเดียวก็คงไม่ดัง คนนี่ก็แย่พอๆกันกับผีนั่นแหละ

    ยิ่งพวกผีที่มาหาสิงคนแล้วอวดอ้างนั่นๆนี่ๆบ้าๆบอๆ มันไม่ได้วิเศษห่าอะไรของมันหรอกนะ
    ไม่ยุ่งกับมันได้เป็นดีที่สุด ไอ้พวกผีสกปรกพรรค์นี้ นับวันมีแต่จะสร้างบาปเหยียบย่ำทำลายตัวเองให้หนักขึ้นๆ "


    èҧ?ç ?Ӆѧ?ç਩Ҡ˃׍ⴹ?Պԧ?ѹṨ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2009
  3. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=24nobold vAlign=center align=middle bgColor=#cccccc height=91>คน "มีองค์" กับ "ร่างทรง" ต่างกันอย่างไร?
    โดย : ประชาบดีบุตร Siamganesh.com
    </TD></TR><TR><TD class=middledetails vAlign=center align=middle bgColor=#e5e5e5><TABLE class=middle14 cellSpacing=5 cellPadding=5 width=850><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=middledetails vAlign=center align=middle width="100%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=left bgColor=#cccccc height=1034>คนมีองค์ หมายความได้ถึง คนที่มี องค์พระ หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาคุ้มครอง หรือมีความเกี่ยวพันกับชีวิตมาตั้งแต่เกิด อาจจะเป็นพันธะสัญญาแต่ชาติปางก่อน หรือทำบุญกุศลมามาก ทำให้เกิดมาชาตินี้เป็นคนที่สามารถสื่อจิตไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นคนที่ไม่มีองค์มาแต่กำเนิด แต่อาศัยการฝึกฝนจิต นั่งสมาธิ สวดมนต์บูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนสามารถสื่อจิตถึงเทพเจ้าได้ เมื่อคนมีองค์แล้ว ไม่หมั่นฝึกจิต สวดมนต์ นั่งสมาธิ การรับรู้สื่อจิตไปถึงองค์ก็จะค่อยๆหายไป กลับมาเป็นคนที่ ไม่มีองค์ ไปในที่สุด...

    ร่างทรง คือคนที่ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือสามัญชนทั่วๆไป ด้วยการแสดงอิทธิฤทธิ์ เช่น อมควันธูป เดินลุยไฟ เหยียบหนาม เสกของ จัดสร้างวัตถุมงคลระดับต่ำ ทำนายทายทัก รักษาโรค ทำไสยศาสตร์ เล่นของดำ โดยส่วนใหญ่มักจะแอบอ้างพระนามของเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ดูยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์

    นอกจากเรื่องเข้าทรง ยังมีเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ภาพนิมิต เสียงแว่วๆ พูดภาษาแปลกๆ อะไรต่อมิอะไรมั่วไปหมด ทำให้ศาสนาเสื่อม การทำนายทายทักที่เห็นว่าพวกร่างทรงนั้นสามารถทำได้อย่างแม่นยำ ก็เพียงแค่คาดเดา หรือไม่ก็หากแม่นจริงๆ ก็คือการเล่นวิชา ไสยศาสตร์ของเขมร (พวกนี้มีจริงๆครับ แต่ไม่ใช่แนวทางของศาสนาฮินดู) พวกที่นิมิตเห็นอดีตของเรา ทายเงินในกระเป๋าสตางค์ได้ถูกต้อง ทายชื่อแฟนเก่า ทายใจ ตอบได้ว่าสามี-ภรรยามีชู้อยู่ที่ไหน ตลอดจนการเสกของเข้าท้อง ฯลฯ พวกนี้มีอยู่จริง แต่เป็นวิชามาร (ทางเขมร หรือพม่า) คนโดนของจากพวกนี้จะถูกฉุดดึงให้ชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น คนที่รู้ตัวและต้องการจะหลีกห่างจากร่างทรงพวกนี้ก็จะโดนไสยศาสตร์เช่นกัน ขอจงเข้าใจว่า วิชามารพวกนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์และฮินดูทุกพระองค์

    คนที่ถูกทักว่า มีองค์ อย่าเพิ่งไปหลงเชื่อหลงดีใจ เพราะคนมีองค์ไม่ใช่ว่ามีได้ง่ายๆ บุญกุศลไม่ถึงพอก็ไม่สามารถมีได้เลยตลอดชีวิตนี้ ถามตัวคุณเอง ก่อนว่าคุณได้ปฏิบัติศีล ปฏิบัติธรรม ทำบุญกุศลไว้มากมายเพียงพอที่จะ มีองค์ ได้แล้วหรือไม่ แม้แต่นักบวช พราหมณ์ พระสงฆ์ เกจิอาจารย์ ผู้ปฏิบัติธรรมแก่กล้ามีวิชา ก็มีอีกนับไม่ถ้วนที่ยัง "ไม่มีองค์" เลย!!!!

    สรุป...คนมีองค์ ไม่จำเป็นต้องเป็น ร่างทรง...
    ร่างทรง อาจจะ ไม่มีองค์ เลยก็ได้ (ผู้ที่เข้าข่ายหลอกลวง)
    คนมีองค์ ไม่จำเป็นต้อง รับขันธ์ เพราะการรับขันธ์ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดูแม้แต่น้อย
    ถ้ามีคนทักว่า มีองค์ ก็ให้เฉยๆไว้ อย่าหลงเชื่อ... คุณอาจจะมีองค์จริง หรือไม่มีองค์ ก็ไม่มีใครทราบ และไม่จำเป็นต้องทราบ...
    อย่าไปเสียเงินค่าพิธีแม้แต่บาทเดียว เพราะถ้าเสียเงินครั้งแรกจากการรับขันธ์..คุณจะโดนของเขมรทันที...และต้องเสียไปเรื่อยๆจนหมดตัวในที่สุด!!

    ขอให้กลับไปสวดมนต์ภาวนาบูชาพระอย่างเดิม และประพฤติตนเป็นคนดี ถือศีล 5 หรือตั้งอยู่บนพรหมวิหาร 4 มีความเมตตา กรุณา ต่อผู้อื่น ทำบุญบ้างเมื่อมีโอกาส จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตตัวเองและผู้อื่นมากกว่าครับ...


    ........................................................................................................................................................................

    คุณอาจจะเคลิบเคลิ้ม เมื่อถูกร่างทรงทักว่าคุณมีองค์ของเทพองค์นั้นองค์นี้..การได้ไปอยู่ในสถานที่ที่เป็นจุดอับ อัดแน่นไปด้วยควันธูป กลิ่นกำยาน กลิ่นดอกไม้ รอบข้างเต็มไปด้วยผู้คนพนมมือไหว้ มีเทวรูปของเทพเจ้ามากมาย เต็มไปด้วยเศียรของฤาษีพ่อแก่ หัวโขน กุมารทอง เจ้าพ่อเจ้าแม่ ฯลฯ บรรยากาศเหล่านี้จะก่อให้เกิด ความกลัว , ความกลัวก่อให้เกิดความศรัทธา , ความศรัทธาและบรรยากาศ จะก่อให้เกิดความเคลิบเคลิ้ม... และความเคลิบเคลิ้มนี่เอง ที่จะทำให้คุณเกิดอุปาทานคล้อยตาม จิตประหวัดก่อให้เกิดอาการมือชา ตัวชา ตัวสั่น ปวดหัว ดนตรีไทยที่บรรเลงทำให้เกิดการร่ายรำ เมื่อผู้คนรอบข้างคุณเริ่มมีอาการ คุณก็จะมีอาการ เมื่อคุณมีอาการ คนอื่นๆก็คล้อยตาม...ทำการทรงเจ้ากันมั่วไปหมด!!

    >>>> ตามตำหนักทรง เราสามารถพบเห็นเรื่องทุเรศๆ ที่บิดเบือนไปจากศาสนาพุทธ-พราหมณ์-ฮินดู ได้มากมาย เช่น ร่างทรงพระพิฆเนศอ้วกแตกเพราะสูบบุหรี่ใบจากในขณะประทับทรง , พระแม่อุมาลงประทับลงร่างทรงที่เป็นกะเทย , พระวิษณุนารายณ์ต่อสู้กับนางตะเคียน , พ่อแก่ฤาษีประทับทรงแล้วกระโดดกอดสีกา , พระแม่ลักษมีดูดวงให้ลูกศิษย์ , พระนารายณ์อวตารสูบบุหรี่ยี่ห้อ Marlboro , พระพรหมลงมาใบ้หวยให้เลขเด็ดแก่ลูกศิษย์ , พระพุทธเจ้ามาลงประทับร่างคนหน้าเหมือนโจร , พระศิวะคุยภาษาแขกกับเจ้าแม่กวนอิม (อันนี้ฮาสุดๆ) ฯลฯ แล้วคุณทั้งหลายยังจะคิดว่าองค์เทพเจ้าต่างๆที่ลงมาประทับนั้น เป็นองค์จริงๆแน่หรือ??

    ก็เพราะคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" นี่เองที่ทำให้ประเทศไทยเราไม่เจริญสักที หากพบเห็นสิ่งที่ไม่น่าจะใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดูท่าจะเป็นการหลอกลวง เป็นการแหกตา ก็สมควร ลบหลู่ ให้รู้แล้วรู้รอดกันไป!! คนไทยกลัวกันเยอะครับ ประเทศชาิติเลยไม่ไปถึงไหนสักที...

    การอัญเชิญทิพยสภาวะของเทพเจ้าลงมาสู่กายแห่งมนุษย์ หรือการประทับทรงนั้น หาใช่เรื่องที่ใครๆ จะทำกันได้ทั่วไป ผู้ที่สามารถอัญเชิญพลังบารมีแห่งองค์เทวะมาประทับหรือสื่อจิตไปถึงองค์เทวะได้นั้น จะต้องได้รับการฝึกจิต ปฏิบัติธรรม เพื่อชำระกาย ชำระใจของตนให้สะอาดเสียก่อน ขอได้โปรดเข้าใจและศึกษาอย่างถ่องแท้นะครับ / เขียนโดย - ประชาบดีบุตร Siamganesh.com
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=left>บางคนอาจสงสัยว่า แล้วพราหมณ์อินเดียที่เป็นร่างทรงของวัดแขกสีลมทั้ง 3 ท่านนั้น เป็นเรื่องหลอกลวงด้วยหรือไม่? ผู้เขียนขอตอบว่า สำหรับในวัดแขกนั้น นับว่าเป็นของจริง และกระทำอยู่ในขอบเขต ไม่มีการทำนายทายทัก ไม่มีการเสกของ ไม่มีการเรียกเงินทองจากผู้ศรัทธา ไม่มีการให้รับขันธ์ ผู้ที่จะเป็นร่างให้พระแม่อุมา พระแม่กาลี และพระขันทกุมาร ของวัดแขกสีลมนั้น จะต้องเก็บตัวอยู่ในวัดตลอด 3 เดือน ถือปฏิบัติเป็นโยคี ทานมังสวิรัติ และจะต้องเก็บตัวอยู่ตลอด 3 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิ ฝึกจิต ทรมานตน ฯลฯ จะเห็นว่าแตกต่างจากการทรงเจ้าที่ปรากฎตามตำหนักทั่วๆไปมากพอสมควร (แต่ในวันนวราตรีที่จัดในวัดแขก ก็จะเห็นว่ามีร่างทรงจากตำหนักทรงทั่วประเทศไปปรากฏตัว ตั้งโต๊ะบูชากันมากมายเหมือนกัน)
    <HR>***เพิ่มเติมเรื่องวัดแขก***
    ทั้งนี้ทั้งนั้น...บรรยากาศภายในวัดแขกสีลม มีความอึกทึกครึกโครม เสียงดัง และต้องรีบไหว้ รีบถวาย รีบกลับ!!
    ไม่สามารถอยู่ชมความงามขององค์เทวรูปได้นานนัก โดยเฉพาะการนั่งสมาธิ จะไม่สามารถทำได้ (เพราะมีเจ้าหน้าที่โวยวายเสียงดัง คอยต้อนคน ให้รีบๆไหว้ เนื่องจากแต่ละวันคนเยอะมาก และทุกๆวันจะมีพวกร่างทรงเนี่ยแหละ เข้าไปไหว้เทพกัน คุณอาจจะเดินกระทบไหล่พวกเขาก็ได้ !!!) อาจทำให้หลายคนเกิดอคติ ไม่ชอบวัดแขกไปโดยปริยาย

    ....ผู้เขียนและทีมงานสยามคเณศทุกท่าน จึงขอแนะนำให้ลองไปกราบนมัสการเทพเจ้าของศาสนาพราหมณ์ในวัดหลักอีก 3 วัดที่มีความสำคัญเช่นกัน นั่นก็คือ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ (เสาชิงช้า) , วัดเทพมณเฑียร (ใกล้โบสถ์พราหมณ์) และ วัดวิษณุ (ยานนาวา) ซึ่งทั้ง 3 แห่งนี้ไม่มีการทรงเจ้า สถานที่เงียบสงบ สามารถนั่งสมาธิได้ มีทั้งคนไทยและแขก แขกส่วนใหญ่ในวัดเทพมณเทียรและวัดวิษณุจะพูดไทยได้ เพราะอาศัยอยู่ในประเทศไทย คนไทยหลายๆคนอาจจะเคอะเขิน หรือทำอะไรไม่ถูกเมื่อไปครั้งแรก แต่ต่อๆไปก็จะชินเอง สามารถสอบถามขอความรู้จากคนข้างในได้ ...ที่วัดเทพมณเฑียรและวัดวิษณุ จะไม่มีการจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนในเชิงพาณิชย์ หากต้องการถวายดอกไม้เราก็ต้องเตรียมของไปถวายเอง และวัดทั้ง 3 แห่งที่กล่าวมานี้ จะประกอบพิธีกรรมโดยยึดถือหลักปฏิบัติตามวิถีอินเดียโบราณที่ถูกต้อง (มีข้อมูลที่หน้าแรกของเว็บ)</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle bgColor=#cccccc height=100>บทความ : มติขององค์กรทางศาสนาฮินดูเกี่ยวกับเรื่องการเข้าทรง
    คัดลอกมาจาก Hindumeeting และ
    TrueLife : Club : Content Folder: Content List
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=861><TBODY><TR><TD vAlign=center align=left width=839 height=133>เนื่องจากว่าหลายท่านสงสัยเรื่องการทรงเจ้า มันจะจริงเท็จอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทรงเจ้าที่มีการอ้างถึงเทพเจ้าต่างๆ ในศาสนาฮินดู
    ผมซึ่งได้ทำงานรับใช้องค์ศาสนาฮินดูบ้างตามวาระโอกาส และได้มีโอกาสสอบถามพูดคุยกับท่านพราหมณ์ อาจารย์ผู้รู้ต่างๆที่ได้สังกัดในองค์กรทางศาสนาฮินดูอย่างถูกต้อง จึงๆได้นำมติของท่านเหล่านี้มาเผยแพร่ให้ทราบกัน
    องค์กรทางศาสนาฮินดูในประเทศไทย องค์กรหลักคือเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ และของชาวอินเดีย ได้แก่ สมาคมฮินดูสมาช (วัดเทพมณเฑียร) , สมาคมฮินดูธรรมสภา (วัดวิษณุ) วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) รวมทั้งองค์กรอื่นๆ ที่ไม่ใช่องค์กรหลัก คือ อารยสมาช
    องค์กรทั้งหมดถือว่า ท่านพระราชครูวามเทพมุนี ประธานพราหมณ์ฝ่ายไทย เป็นประมุขขององค์กรศาสนาฮินดูทั้งหมด
    ซึ่งในเรื่องการทรงเจ้า ท่านพระราชครูวามเทพฯ ได้มีมติ ในเรื่องนี้ ซึ่งท่านปรารภไว้ในคำนำของหนังสือทางโบสถ์พราหมณ์ไว้ว่า
    "..ความมั่นคง โดยไม่มีความงมงาย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าองค์เทพเจ้าเป็นภาวะ อาจบันดาลสิ่งที่ผิดปกติ หรือเนรมิตสิ่งที่ปรารถนาโดยไม่มีการสร้างคุณงามความดีเป็นที่ประจักษ์ และยังมีการแอบอ้างกล่าวถึงองค์เทพต่างๆ ว่าตนนั้นมีภาวะอย่างนั้นอย่างนี้เทียบเท่าองค์เทพเจ้า สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่อยู่ในแนวทางเพื่อความหลุดพ้น พราหมณ์ผู้ประพฤติปฏิบัติและประกอบพิธีเองก็ไม่เคยกล่าวอ้างหรือแอบแฝงองค์เทพต่างๆ แต่ได้ปฏิบัติต่อองค์เทพด้วยความนอบน้อมและเกรงกลัวต่อบาป...."
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=850 bgColor=#d3d3d3><TBODY><TR><TD class=middledetails vAlign=center align=left width="33%" height=199>ผมยังได้มีโอกาสกราบเรียนถามท่านโดยตรงถึงเรื่องนี้ ท่านกรุณาตอบกลับผมว่า การเข้าทรงนั้น ไม่มีในศาสนาของเรา ผู้ที่ประพฤตินั้น เรียกได้ว่า กระทำบาปหนัก แต่ท่านก็ไม่สามารถเอาผิดได้เพราะเป็นสิทธิทางกฏหมายที่จะเชื่อ เว้นเสียแต่ว่าได้กระทำการหลอกลวงหรือผิดกฏหมายข้ออื่นๆ แต่ท่านกล่าวว่า จะต้องให้บรรดาร่างทรงและศาสนิกชนทั่วไปรู้ว่า สิ่งที่กระทำนั้นเป็นบาป แต่หากเขายอมที่จะบาป เราก็คงไปหยุดเค้าไม่ได้
    ส่วนฝ่ายของอินเดียนั้น ท่านบัณฑิต ลลิต โมหัน วยาส ประธานพราหมณ์วัดเทพมณเฑียร ฮินดูสมาช ซึ่งเป็นอาจารย์ของผมกล่าวว่า การเข้าทรงไม่มีในศาสนาฮินดู เพราะเทพเจ้านั่น ไม่ได้อยู่ในฐานะเทพตามวิธีคิดแบบคนไทยเท่านั้น แต่พระองค์คือการสำแดง ของพระเจ้า ดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่บริบูรณ์ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ที่เจือด้วยกิเลสมากมาย
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=850><TBODY><TR><TD class=middledetails vAlign=center align=left width="24%">[​IMG]</TD><TD class=middledetails vAlign=center align=left width="76%">ส่วนในทาง อินเดียภาคใต้ ที่มีการเข้าทรง (กลุ่มเดียวกับร่างทรงของวัดแขกสีม) นั้น เป็นเพราะวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวทมิฬเอง ที่ประสมเข้ากับศาสนาฮินดู ไม่ได้มีอยู่ในคัมภีร์ทางศาสนาใดๆ และมีเฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้ อีกอย่างหนึ่งการเข้าทรงในวัฒนธรรมอินเดียใต้นั้น ไม่ได้มีการเข้าทรงกันอย่างพร่ำเพรื่อ แต่เป็นการทรงในเทศกาลเฉพาะ ซึ่งเกี่ยวเนื่องด้วยการกสิกรรมในอดีต จึงเป็นเรื่องวัฒนธรรมของท้องถิ่นโดยแท้ ไม่ใช่เรื่องที่จะอ้างเพื่อมาเลียนแบบหรือกระทำตาม
    การเข้าทรงนั้นเกี่ยวข้องกับคนไทยมานานเพราะศาสนาที่เป็นส่วนประกอบในวัฒนธรรมไทยคือ พุทธ - พราหมณ์ - ผี...ดังนั้น เมื่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เริ่มมีความแพร่หลาย จึงมีคนนำเอา การเข้าผี ที่มีอยู่แล้วไปผสมปนเปจนเละเทะ และคนส่วนใหญ่ก็รับได้ เพราะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยดี
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=370 cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=left bgColor=#cccccc height=342>ขอให้ท่านทั้งหลายยึดหลักศาสนาไว้ครับ และขอให้ทราบไว้ว่าพวกที่เข้าทรงในปัจจุบันนั้น มีอยู่เพียง 2 ประเภท...
    1. ตั้งใจหลอกลวง พวกนี้ทำเป็นขบวนการ ตั้งใจทำมาหากินจริง พวกนี้มีมาก และผิดกฏหมายด้วย
    2. พวกที่มีความผิดปกติของจิตใจ หรืออาจเป็นโรคจิตเภท มีภาวะของโรคทางจิตและประสาท หรือภาวะจิตเภทวัยทอง มีปัญหาปมบางอย่างในชีวิต พวกนี้ ไม่ได้ตั้งใจหลอกลวง แต่มีอาการเจ็บป่วย เป็นโรคจิต คนบางคนที่ถูกทักว่ามีองค์แล้วหลงไหลไปก็เกิดจากอาการเหล่านี้
    ดังนั้นหากมีการอ้างเจ้าทรงที่เป็นเทพเจ้าของทางศาสนาพราหมณ์ฮินดู ให้ฟันธงไปเลยครับว่า ไม่จริงทั้งสิ้น และเรื่องนี้เป็น มติขององค์กรทางศาสนาฮินดู รวมทั้งท่านประมุขของทางศาสนาด้วยนะครับ
    ส่วนท่านที่ถูกทักให้รับขันธ์มีองค์ อย่าไปเชื่อครับ เพราะอาจถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ยิ่งหากท่านมีปัญหาชีวิต ก็อาจถูกชักจูงให้ง่ายขึ้น
    ทั้งนี้มิใช่ว่าองค์การทางศาสนาหรือตัวผมจะไม่เชื่อว่าอิทธิปาฏิหารย์ขององค์เทพนั้นมี เพียงแต่ว่า อิทธิปาฏิหารย์ไม่ควรเน้นเป็นสาระสำคัญ และองค์เทพย่อมช่วยเหลือมนุษย์ตามวิธีทางที่เหมาะสมดีงามเอง
    ขอให้ทุกท่านมีความเข้าใจเช่นนี้ครับ และขอให้ประพฤติศาสนาอย่างมีความสุขศานติ ไม่งมงายครับ


     
  4. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=24nobold vAlign=center align=middle bgColor=#cccccc height=91>การรับขันธ์อันตรายถึงชีวิต
    จากเว็บไซต์ sanyana.com และ saisunya.com / เราขอขอบคุณมา ณ ที่นี้
    </TD></TR><TR><TD class=middledetails vAlign=center align=middle bgColor=#e5e5e5><TABLE class=middle14 cellSpacing=5 cellPadding=5 width=850><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=middledetails vAlign=center align=middle width="100%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD class=middledetails vAlign=center align=left bgColor=#cccccc>มีผู้คนจำนวนมากถูกทักว่า "มีองค์" เป็นช่องทางทำมาหากินของพวก มิจฉาชีพ อาสัยช่องทางของเรื่องลี้ลับมาหลอกลวงต้มตุ๋น

    แท้จริงแล้วมนุษย์เราเกิดมามีองค์เทพปกปักษ์รักษา อย่างน้อย 2 องค์ (อยู่ห่างจากเราเพียง 3 ศอก) ตำหนักทรง

    ร่างทรงต่างๆ หลอกให้ไปรับขันธ์ ล้วนแล้วแต่เป็นผี หรือสัมภเวสีทั้งสิ้น!!!!!


    เนื่องจากผีเหล่านี้ร่อนเร่พเนจร ไม่มีสังขาร จึงมาอาศัยร่างมนุษย์เกาะกินบุญ ทำบุญไปเท่าไหร่สัมภเวสีพวกนี้เอาไปหมด ทำบุญมาก แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้น

    มันจะดีได้อย่างไรในเมื่อท่านไปรับ "ผีเข้าตัว" บางขันธ์มีเป็นสิบวิญญาณ ขึ้นอยู่กับสำนักไหน สำนักที่เป็นเสือสมิง บรรดาที่ถูกหลอกรับขันธ์มาก็เป็นวิญาณเสือสมิงเข้าตัวทั้งนั้น

    ร่างทรงต่างๆ ไม่รู้ว่าตัวเองถูกผีเข้า แต่เข้าใจว่าเป็นเทพเจ้า อ้างตนเป็นเทพองค์ใหญ่ๆ เพราะถ้าบอกว่าเป็นผี.. ก็คงไม่มีใครศรัทธาเชื่อถือ เลยอ้างตนเป็นพระแม่อุมาบ้าง พระศิวะบ้าง พระพิฆเนศบ้าง พระพรหมบ้าง เสด็จพ่อ ร.5 บ้าง (ท่านไม่มาดูหมอดูดวง หรือมายุ่งกับเรื่องผัวเมีย ทำนายทายทักอะไร เพราะท่านไม่มีหน้าที่จุกจิกกับเรื่องแบบนี้)

    บ้างก็อ้างเป็นกรมหลวงชุมพรบ้าง พระเจ้าตาก ฯลฯ ก็วนเวียนกันอยู่แค่นี้ เพราะกษัตริย์ไทยดังๆ มีอยู่ไม่กี่องค์ หากินง่าย ยิ่งเป็น ร.5 ก็หลอกคนได้มากที่สุดเพราะคนนับถือเยอะ ..

    ในข้อเท็จจริงแล้ว ใครทรงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ท่านแจ้งความเรียกตำรวจจับได้เลย ..หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กฏหมายเค้ามีอยู่..!!

    ผู้ที่รับขันธ์มา ส่วนใหญ่แล้วชีวิตอัปปาง วิบัติ ลมสลายเกือบทุกรายไป ที่ยังไม่ออกเหตุก็เพราะบุญยังเยอะ สุดท้ายจบลงด้วย โรคมะเร็ง เบาหวาน อัมพฤกา อัมพาต หรืออุบัติเหตุ แทบทั้งสิ้น รวมถึงเจ้าของตำหนักคนทรงก็ตามมักจะจบชีวิตด้วยเหตุนี้ โดนผีกัดกินอวัยวะภายในเจ็บป่วยในบั้นปลายชีวิต...บ้างก็ล้มตายด้วยอุบัติเหตุไปเลย!!!



    <HR>

    ที่ผ่านมามีผู้ทนทุกข์ทรมานจากการรับขันธ์แล้วผีเข้าเป็นจำนวนมาก บางคนหมดเงินไปเป็นล้านๆ บางคนก็ถอนเอง แต่

    ส่วนใหญ่จะทำไม่ถูกวิธี ..ทิ้งขันธ์ไปก็มี แต่วิญญาณในขันธ์นั้นยังเกาะอยู่ที่เดิม..!! เหลือแต่ขันเปล่าๆ ก็ยังมีสิงสถิตไว้ที่เดิมอยู่ดี


    งานพิธีไหว้ครูต่างๆ เป็นการเต้นรำ บรรดาผีต่างๆ แต่งตัวมาเลียนแบบเทพ กันสนุกสนาน ท่านสังเกตุเกิดว่า พระแม่กวนอิมต้องมาฟ้อนรำกับกุมาร หรือพระศิวะ กุมารต่างๆ หรือมหาเทพอย่างพระแม่อุมา จะมาฟ้อนเต้นแร้งเต้นกากับผี หรือกุมารต่างๆ อย่างนั้นหรือ..!!

    เทพต่างๆ ล้วนอิ่มทิพย์ ไม่ต้องมาทรมานสังขารมนุษย์ (เพราะมันเป็นบาป) นั่งสั่นๆ หงายท้อง เคี้ยวหมาก หรือดูดบุหรี่ทีละ 4-5 มวน อันนั้นมันผีชัดๆ หรือพูดจาด่าทอสาปแช่งมนุษย์ หากมีจิตใจไม่ดี หรือไม่มีศีลธรรมคงไม่เป็นเทพหรอกครับ ยกเว้นพวกผีชั้นต่ำเท่านั้น..!!

    บางตำหนักทรงก็เป็นผีชั้นดี ต้องการสร้างบุญจริงๆ ไม่เก็บเงินใดๆ เอาไปทำบุญ แต่หากให้รับขันธ์ ก็ผิดอีกนั้นแหละ ไปเอาพวกผีด้วยกันมาใส่ตัวชาวบ้านให้ได้รับความเดือดร้อนกัน...!!

    บางท่านไม่ได้รับขันธ์ แค่นั่งสมาธิในบริเวณตำหนักทรง ก็โดนสัมภเวสีเข้าแทรกได้เช่นกัน มีอาการแปลกๆ ดังที่เห็นได้ในงานพิธีของตำหนักทรงต่างๆ

    บางครั้งเห็นว่าเพียงพรมน้ำมนต์ก็จะสงบลง แต่จริงๆแล้วผียังไม่ออกนะครับ...ผลสุดท้าย ตำหนักทรงนั้นเพียงเอาเรื่องนี้มาทำมาหากิน ขายพานดอกไม้ ขายวัตถุมงคล ฯลฯ

    มนุษย์เรา ไม่เข้าใจเรื่องของกฏแห่งกรรม ไปเอาวัตถุมงคลมาคุ้ม ถึงได้ผีเข้ากันมากมาย ใครรู้ตัวถอยออกมาก่อน ก็นับว่าเป็นบุญ...

    <HR>

    ความเข้าใจกรณีการรับขันธ์ ขันธ์ 5 ของมนุษย์นั้น ประกอบไปด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์


    เทพ เป็นจิตวิญญาณ มีขันธ์เพียง 3 ขันธ์ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ จึงต้องอาศัยการแต่งขันธ์ 5 ของมนุษย์ ที่จัดตบแต่งขึ้นมาเป็นตัวแทนของตน ว่าได้ยอมรับเป็นร่างให้กับเทพองค์นั้น ๆ และยังหมายถึงข้อตกลง ระหว่างเทพกับมนุษย์ผู้ตกลงปลงใจยอมรับหน้าที่เป็นสังขารขันธ์ให้กับองค์เทพผู้นั้นไว้ใช้ร่างของตนสร้างบารมี โดยมีองค์เทพผู้ทำพิธีมอบขันธ์ให้เป็นสักขีพยาน

    หากแม้นมีใครระหว่างเทพกับมนุษย์มีการผิดข้อตกลง ก็ต้องเดือดร้อนถึงผู้เป็นครูที่เป็นสักขีพยาน จะต้องทำหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนผู้กระทำผิดต่อไป

    ความหมายของขันธ์ต่างๆ

    ขันธ์ 5 หมายถึงการรับ ศีล 5 มาปฏิบัติโดยเคร่งครัด ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเผลอไปรับเข้า มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษได้

    ขันธ์ 8 หมายถึงการรับ ศีล 8 ซึ่งจะต้องประพฤติพรหมจรรย์ ห้ามร่วมหลับนอนฉันท์สามีภรรยา งดเว้นอาหารมื้อเย็น สวดมนต์
    ไหว้พระ เจริญสมาธิภาวนา เหมือนการถือศีลบวชพราหมณ์นั่นเอง

    ขันธ์ 9 หมายถึงการรับ ศีลอุโบสถ ถือศีล 8 เคร่งครัด เด็ดดอกไม้ก็ไม่ได้ ดมดอกไม้หรือเครื่องหอมก็ไม่ได้ กินแต่อาหารเจ หรือมังสวิรัติ

    ขันธ์ 10 หมายถึง ศีลของสามเณรหรือสามเณรี ก็เท่ากับการถือบวชโดยถือสิกขาบท 10 ประการ

    ขันธ์ 16 หมายถึง ศีลของนักบวช 227 ที่มุ่งการบำเพ็ญสมาธิภาวนา กินอาหารมือเดียว งดเว้นของสดของคาว กินแต่ผลไม้ เผือกมัน ไม่เที่ยวเดินพลุกพล่าน อยู่ด้วยการสำรวมปฏิบัติ นั่งสมาธิเป็นที่เป็นทาง แทบจะทำตัวเหมือนนักบวช เพียงแต่เป็นการบวชใจไม่ได้บวชกายเท่านั้น

    ดังนั้นหากถือปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ ก็จงอย่าได้รับขันธ์เลย หากแม้นมีใครแนะนำให้รับก็จงพิจารณาให้ถ้วนถี่เสียก่อน

    เพราะการรับขันธ์นั้นไม่ใช่เพียงนำมาบูชาเท่านั้น จะต้องปฏิบัติเป็นประจำด้วยก็คือ การสวดมนต์ไหว้พระ หรือเทพที่บูชา โดยเฉพาะการนั่งสมาธิ ต้องนังสมาธิให้ถึงขั้นสูงสุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้ รวมถึงการแผ่เมตตาถึงสรรพสัตว์ ไม่เช่นนั้นแล้วอาจสร้างปัญหาให้เดือดร้อนได้ เพราะถือว่าผิดสัจจะที่รับมา
    <HR>

    คำแนะนำเรื่องการรับขันธ์

    ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จะมีองค์หรือไม่ก็ตาม ก็จงอย่าไปรับขันธ์เลย ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถึงครูบาอาจารย์ และองค์เทพที่คุ้มครองตนเอง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะการที่เทพมาอยู่กับเราก็ด้วยเหตุที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น คือปรารถนาจะได้ร่วมสร้างบารมี และช่วยเหลือผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน พาร่างสร้างบารมีทำบุญไหว้พระ สร้างแต่กรรมดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

    ถ้าเราทำได้ดังนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปรับขันธ์ เทพเป็นผู้ที่มีจิตเมตตา ย่อมไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้กับร่างที่จะมาอยู่ด้วย เพราะท่านกลัวบาป การที่จะทำให้เจ็บป่วยหนักหนาแสนสาหัส หรือลงโทษอะไรหนักหนาคงไม่มี นอกจากช่วยเหลือเท่านั้น แต่ที่มันเจ็บป่วยหรือมีปัญหาในหน้าที่การงาน การเงิน จนล้มละลาย มันเป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ใครจะเข้าไปแก้ไขได้ นอกจากช่วยประคับประคองหรือดลจิตดลใจให้ไปหาผู้ที่สามารถแก้ไขวิบากกรรมส่วนนี้ได้

    ดังนั้นการที่เราได้กล่าวถึงกรณีการรับขันธ์นี้ ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ใช้วิจารณญาณในการแก้ไขตนเองให้ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้เงินแก้ไข มนุษย์เราไม่อาจฝืนกฏแห่งกรรมได้ แต่อาจได้รับการชี้แนวทางแก้ไขได้ เพราะปัญหาต่างๆ ทั้งชีวิตความรัก การงาน สุขภาพ ฐานะการเงิน ที่รุมเร้ามนุษย์นั้น มีกรรมเป็นต้นเหตุที่สำคัญ การแก้ไขเรามาแก้กันที่ปลายเหตุมันก็ไม่จบ ต้องรู้จักต้นเหตุ เพราะเหตุเกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น...


    ธนากร ปุสสวงษ์ saisunya.com

    ...จึงขอให้ใช้สติพิจารณาไตร่ตรอง...


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    èҧ?ç Ñ??ѹ?젃Ѻ?ѹ ?Պԧ ʑ??զlt;/a>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2009
  5. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    ผมคิดแค่ว่าท่านสถิตอยู่ทุกอณูอากาศครับ

    นับถือท่านด้วยใจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...