พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พุทธคุณเด่นดีทุกด้าน

พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พุทธคุณเด่นดีทุกด้าน

คอลัมน์ หลังเลนส์ส่องพระ

เอกอุ



"พระเมืองพิจิตร" มักนิยมสร้างขนาดองค์เล็กจิ๋วเสมอ อย่างเช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า เนื้อชินเงิน ซึ่งมี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์แขนกลม อันเป็นพิมพ์นิยม และอีกพิมพ์คือ พิมพ์แขนหักศอก ทั้ง 2 พิมพ์นี้เป็นพระกรุเก่าขุดพบที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

พระพิจิตรยังมีพิมพ์อื่นๆ อีกหลายพิมพ์ แต่ "พิมพ์เม็ดข้าวเม่า" นี้ ในวรรณคดีมีพูดถึงว่า "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ทรงติดพระวรกายยามออกศึกสงคราม

การที่ชาวพิจิตรสมัยโบราณนิยมสร้าง "พระพิจิตร" ให้มีขนาดองค์พระเล็กๆ ก็เพื่อง่ายต่อการพกพานั่นเอง บางคนก็เอาไว้ในปาก หรือเสียบซ่อนไว้ในเส้นผมก็มี

"พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า" เป็นพระเครื่องที่มีลักษณะที่คล้ายเม็ดข้าวเม่าจึงเรียกว่า "พิจิตรเม็ดข้าวเม่า" มีขนาดตั้งแต่ 4 คูณ 5 ม.ม.ถึงขนาด 7 คูณ 9 ม.ม.มีลักษณะบางองค์ ปลายเกือบแหลม บางองค์ทรงรีหัวท้ายเกือบมนเกือบจะเป็นทรงกลม <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

พุทธลักษณะที่เห็นชัดคือ เป็นพระนั่งปางสมาธิและปางมารวิชัย ประทับอยู่บนฐานเขียง มีทั้งแบบเดี่ยวก็มี 2 ชั้นก็มี หรือไม่มีฐานก็มี มีทั้งแบบพิมพ์แขนกลม และพิมพ์แขนหักศอก โดยเฉพาะเกศมีทั้งแบบเกศคดและเกศตรง

พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พระต้นแบบ พิมพ์แขนหักศอก พระต้นแบบเป็นพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า เนื้อชินเงิน กรุพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิจิตร เชื่อว่าพบมาประมาณ 600 กว่าปีแล้ว ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

บริเวณเมืองเก่าของเมืองพิจิตรสมัยก่อน เนื่องจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นวัดหลวงของเมืองพิจิตร สร้างในสมัยสุโขทัยตอนปลาย บริเวณพระราชวังโบราณเรียกว่าเมืองเก่า ทั้งมีคนเชื่อกันว่าพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่านั้น มีส่วนผสมของเหล็กน้ำพี้ ซึ่งถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว

พุทธคุณดีโดดเด่นมากทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีและเมตตา แม้แต่ในลิลิตตะเลงพ่ายยังได้กล่าวถึงพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าคือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทรงอาราธนาพระเครื่องของพิจิตรติดพระองค์ไว้ตลอดเวลาขณะทำการออกศึก

"พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า" เป็นพระกรุขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างสูงตลอดกาลของนักสะสมพระเครื่อง ราคาเล่นหาในปัจจุบันประมาณ 20,000-40,000 บาท หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่ที่ความสวย

เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการสร้าง "พระชัยมาลา" หรือ "พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า" เนื่องในโอกาสบูรณะพระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2549 ผ่านพิธีพุทธาภิเษกอย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์แล้ว

"3 สมเด็จฯ" สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศฯ, กรุงเทพฯ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ กรุงเทพฯ เมตตาเป็นองค์ประธาน และอธิษฐานจิตปลุกเสก

ผู้สนใจสอบถามบูชาวัตถุมงคล "พระชัยมาลา" ได้ที่คณะกรรมการดำเนินงาน โทร.0-2422-8851-8 สำนักงานวัฒนธรรม จ.ตาก โทร.0-5551-7646 ศาลากลางจังหวัดตาก โทร.0-5551-1546 มูลนิธิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โทร.0-5551-6121 หลังวันที่ 1 ส.ค.2549 บูชาได้ที่ธนาคารทหารไทย ใน 9 จังหวัดดังนี้ จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.กำแพงเพชร จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี
จากนสพ.ข่าวสด

 

โมทนาสาธุครับ

.

 

รับสืบทอดต่อมาจากปู่ทวดเมื่อวานพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พุทธคุณเด่นดีทุกด้าน

คอลัมน์ หลังเลนส์ส่องพระ

เอกอุ



"พระเมืองพิจิตร" มักนิยมสร้างขนาดองค์เล็กจิ๋วเสมอ อย่างเช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า เนื้อชินเงิน ซึ่งมี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์แขนกลม อันเป็นพิมพ์นิยม และอีกพิมพ์คือ พิมพ์แขนหักศอก ทั้ง 2 พิมพ์นี้เป็นพระกรุเก่าขุดพบที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

พระพิจิตรยังมีพิมพ์อื่นๆ อีกหลายพิมพ์ แต่ "พิมพ์เม็ดข้าวเม่า" นี้ ในวรรณคดีมีพูดถึงว่า "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ทรงติดพระวรกายยามออกศึกสงคราม

การที่ชาวพิจิตรสมัยโบราณนิยมสร้าง "พระพิจิตร" ให้มีขนาดองค์พระเล็กๆ ก็เพื่อง่ายต่อการพกพานั่นเอง บางคนก็เอาไว้ในปาก หรือเสียบซ่อนไว้ในเส้นผมก็มี

"พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า" เป็นพระเครื่องที่มีลักษณะที่คล้ายเม็ดข้าวเม่าจึงเรียกว่า "พิจิตรเม็ดข้าวเม่า" มีขนาดตั้งแต่ 4 คูณ 5 ม.ม.ถึงขนาด 7 คูณ 9 ม.ม.มีลักษณะบางองค์ ปลายเกือบแหลม บางองค์ทรงรีหัวท้ายเกือบมนเกือบจะเป็นทรงกลม <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

พุทธลักษณะที่เห็นชัดคือ เป็นพระนั่งปางสมาธิและปางมารวิชัย ประทับอยู่บนฐานเขียง มีทั้งแบบเดี่ยวก็มี 2 ชั้นก็มี หรือไม่มีฐานก็มี มีทั้งแบบพิมพ์แขนกลม และพิมพ์แขนหักศอก โดยเฉพาะเกศมีทั้งแบบเกศคดและเกศตรง

พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พระต้นแบบ พิมพ์แขนหักศอก พระต้นแบบเป็นพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า เนื้อชินเงิน กรุพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิจิตร เชื่อว่าพบมาประมาณ 600 กว่าปีแล้ว ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

บริเวณเมืองเก่าของเมืองพิจิตรสมัยก่อน เนื่องจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นวัดหลวงของเมืองพิจิตร สร้างในสมัยสุโขทัยตอนปลาย บริเวณพระราชวังโบราณเรียกว่าเมืองเก่า ทั้งมีคนเชื่อกันว่าพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่านั้น มีส่วนผสมของเหล็กน้ำพี้ ซึ่งถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว

พุทธคุณดีโดดเด่นมากทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีและเมตตา แม้แต่ในลิลิตตะเลงพ่ายยังได้กล่าวถึงพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าคือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทรงอาราธนาพระเครื่องของพิจิตรติดพระองค์ไว้ตลอดเวลาขณะทำการออกศึก

"พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า" เป็นพระกรุขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างสูงตลอดกาลของนักสะสมพระเครื่อง ราคาเล่นหาในปัจจุบันประมาณ 20,000-40,000 บาท หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่ที่ความสวย

เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการสร้าง "พระชัยมาลา" หรือ "พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า" เนื่องในโอกาสบูรณะพระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2549 ผ่านพิธีพุทธาภิเษกอย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์แล้ว

"3 สมเด็จฯ" สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศฯ, กรุงเทพฯ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ กรุงเทพฯ เมตตาเป็นองค์ประธาน และอธิษฐานจิตปลุกเสก

ผู้สนใจสอบถามบูชาวัตถุมงคล "พระชัยมาลา" ได้ที่คณะกรรมการดำเนินงาน โทร.0-2422-8851-8 สำนักงานวัฒนธรรม จ.ตาก โทร.0-5551-7646 ศาลากลางจังหวัดตาก โทร.0-5551-1546 มูลนิธิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โทร.0-5551-6121 หลังวันที่ 1 ส.ค.2549 บูชาได้ที่ธนาคารทหารไทย ใน 9 จังหวัดดังนี้ จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.กำแพงเพชร จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี
จากนสพ.ข่าวสด[/QUOTE]