พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ดื่มน้ำสะอาด...วิธีรับมือโรคที่มากับอุทกภัย



    ดื่มน้ำสะอาด...วิธีรับมือโรคที่มากับอุทกภัย (ไทยโพสต์)

    ในช่วงที่มีน้ำท่วมขังอย่างนี้ การเตรียมพร้อมรับมือกับสารพัดโรคที่มาพร้อมน้ำท่วม เช่น โรค ทางเดินอาหาร โรคทางเดินหายใจ โรคอุจจาระร่วง โรคตาแดง โรคน้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู ฯลฯ นั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเด็กเล็ก ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดและสังเกตอาการเบื้องต้นของโรค และรีบพบแพทย์ทันทีหากพบความผิดปกติรุนแรง สามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคที่แฝงมากับน้ำท่วมลงได้

    รอ.นพ.พันเลิศ ปิยะลาศ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การดูแลตนเองและสังเกตอาการผิดปกติในเบื้องต้น จะช่วยป้องกันโรคได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญควรดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ไม่สวมเสื้อผ้าที่เปียกชื้น เช็ดตัวให้แห้ง หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันอันตรายจากไข้หวัดใหญ่และปอดบวม

    ขณะเดียวกันก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด หรืออาหารกระป๋องที่ยังไม่หมดอายุ กระป๋องไม่บวมหรือเป็นสนิม รวมทั้งดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำจากขวดที่ฝาปิดสนิท หรือน้ำต้มสุกเพื่อทำลายเชื้อโรคในน้ำ ใน ส่วนของน้ำใช้หากไม่แน่ใจว่ามีความสะอาดเพียงพอหรือไม่ ให้ใช้ผงปูนคลอรีนทำลายเชื้อโรคในน้ำ โดยคลอรีนสามารถทำลายเชื้อโรคได้มากกว่า 99% รวมทั้งเชื้อ อีโคไล (E.coli) และเชื้อไวรัส นอกจากนี้ผงปูนคลอรีนสามารถเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำได้ ซึ่งการใช้คลอรีนอย่างระมัดระวังจะไม่เกิดอันตราย และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการถ่ายอุจจาระลงในน้ำ ซึ่งจะเป็นบ่อเกิดของโรคระบาด

    สำหรับการป้องกันตัวเองจากโรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส ที่เป็นโรคยอดฮิตในช่วงน้ำท่วมนั้น ควรหลีกเลี่ยงการลุยน้ำลุยโคลน และ ป้องกันไม่ให้บาดแผลสัมผัสถูกน้ำ โดยการสวมร้องเท้าบู๊ตยาง หากไม่สามารถเลี่ยงได้ควรรีบล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่ แล้วเช็ดให้แห้งโดยเร็วที่สุด แต่หากพบอาการระคายเคืองบริเวณตา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตาแดง ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดทันที หรือถ้ามีฝุ่นละอองหรือน้ำสกปรกเข้าตาไม่ควรขยี้ตาด้วยมือที่สกปรก อย่าให้แมลงตอมตา และหลีกเลี่ยงที่จะใช้ของร่วมกับผู้ป่วยเพื่อป้องกันการระบาดของโรค

    นอกจากนี้ อุบัติเหตุที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วมได้แก่ ไฟดูด จมน้ำ เหยียบของมีคม สามารถป้องกันได้โดยถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า สับคัตเอาต์ตัดไฟฟ้าในบ้านก่อนที่น้ำจะท่วมถึง ขณะเดียวกันคุณหมอกล่าวว่า การเก็บกวาดขยะวัตถุแหลมคมในบริเวณอาคารบ้านเรือน และตามทางเดินอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากของมีคมได้แล้ว ยังช่วยป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นงู ตะขาบ แมงป่อง ซึ่งหนีน้ำมาหลบอาศัยในบริเวณบ้านเรือนได้ด้วย

    อย่าง ไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม คุณหมอกล่าวว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือ มีสติ อย่าตกใจหรือกลัวจนขาดสติ ควรเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ ติดตามรายงานของทางราชการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนศึกษาขั้นตอนการอพยพ ระบบการเตือนภัยและเส้นทางการเคลื่อนย้ายในกรณีเร่งด่วน


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก -http://thaipost.net/x-cite/071111/47686-

    [​IMG]


    -http://health.kapook.com/view33044.html-

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ่า เลี้ยงบ้างไหมครับ

    ผมไม่กล้าเลี้ยงอ่ะ ไม่ไหว

    ------------------------------------------------------

    อุบ๊ะ! คุณลุงแคนาดาเลี้ยงควายยังกะหมาชิสุ




    [​IMG]

    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย EdJournal

    แห ม่ะ ! เห็นรูปแล้วก็แอบตระหนกตกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อคุณลุง "จิม ซอว์ทเนอร์" วัย 64 ปี จากจังหวัดอัลเบอร์ตา ในแคนาดา เลี้ยงดูควายไบซันตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม อย่างกับเลี้ยงตูบสักตัวอย่างนั้นแหละ ทั้งนอนเกลือกกลิ้งเล่นด้วยกัน เกาหัว เกาคาง หรือไม่ก็พาไปนั่งรถกินลมเล่นชิล ๆ อีกด้วยนะ !

    รายงานจากเว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ ระบุว่า เจ้าควายไบซันตัวนี้มีชื่อว่า "ไบเล่ย์ จูเนียร์" อายุอานามก็แค่ 3 ขวบครึ่งเท่านั้น นับว่ายังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ และยังรักสนุก ชอบวิ่งเล่น เกลือกกลิ้งไปทั้งรอบ ๆ ทั้งในบ้าน รอบ ๆ บริเวณบ้าน แล้วก็กลางทุ่งอันเป็นพื้นที่ของครอบครัวซอว์ทเนอร์ แถมยังตามติดคุณลุงจิมแจ สงสัยคงคิดว่าคุณลุงเป็นแม่ของมันไปแล้ว และคุณลุงเองก็ดูตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น เมื่อเขาและลินดา ผู้เป็นภรรยา ได้เลี้ยงดูประคบประหงมมันมาเป็นอย่างดี หลังจากควายตัวแรกที่พวกเขาเคยเลี้ยงไว้ได้ตายลงจากอุบัติเหตุเรื่องการกิน อาหารผิดประเภท ทั้งคู่ก็ได้ไบล่ย์มาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่จากเพื่อนชาวไร่คนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นไบเล่ย์ยังเป็นเด็กน้อยตัวย่อม ๆ อยู่เลยด้วยซ้ำ


    [​IMG]



    ด้วยความผูกพันจากการตั้งใจเลี้ยงมันแบบสัตว์เลี้ยง เมื่อยามไบเล่ย์ยังเด็ก ๆ คุณลุงมักจูงมันไปนั่งจิบกาแฟที่คาเฟ่อยู่เป็นประจำ ส่วนพักหลัง ๆ นี้วันดีคืนดีชาวเมืองแคนาดาแถบนั้นก็จะได้เห็น ลุงจิมพาเจ้าไปเล่ย์นั่งหน้าเคียงคู่กันบนรถซีดาน ที่คุณลุงแต่งมาให้รับน้ำหนักถึง 825 กิโลกรัม ของควายไบซันที่สูงใหญ่ 6 ฟุต และตัวยาว 8 ฟุต ได้ แถมในรถยังมีกระบะใส่ข้าวโอ๊ตไว้เป็นของว่างสำหรับเจ้าไบเล่ย์ เผื่อว่ามันจะหิวระหว่างทางอีกด้วย


    แต่ด้วยความที่เจ้าไบเล่ย์ตัวใหญ่จนน่าสะพรึงแบบนี้ คุณลุงจึงต้องเลี่ยงที่จะวิ่งในเส้นทางหลวง เพราะเดี๋ยวจะทำให้ผู้คนผ่านไปมาที่ไม่คุ้นชินตกอกตกใจ แต่อย่างไรก็ตาม คุณลุงยังพามันไปโชว์ตัวอยู่บ่อย ๆ ในงานรื่นเริงของชาวสวนชาวไร่ ที่จัดกันเป็นประจำทุกปี


    [​IMG]



    "พวกเขาผูกพันกันอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ไบเล่ย์เองก็ท่าทางอยากจะอยู่ใกล้ ๆ เขาตลอดเวลา ส่วนเขาเองก็ชอบใจที่มันทำอย่างนั้นด้วย" นางลินดากล่าวถึงความสนิทสนม ระหว่างสามีกับสัตว์เลี้ยงตัวเขื่องที่พวกเขาไม่เคยนึกรังเกียจ



    [​IMG]


    "จนถึงตอนนี้ บางครั้งเจ้าไบเล่ย์ก็จะเข้ามาหาผม แล้วทำเสียงดูดปาก นั่นหมายความว่ามันอยากเล่นดูดนิ้วผมน่ะเอง" คุณลุงจิมเอ่ย พร้อมกับบอกว่าเขาอยากจะแสดงให้คนอื่น ๆ ได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกันขนาดนี้ระหว่างคนกับสัตว์ใหญ่ควายไบซันนั้น เป็นได้จริง ๆ

    ก็คุณลุงเล่นเลี้ยงเจ้าไบเลย์อย่างกับเลี้ยงเจ้าตูบ แบบนี้จะให้มันไม่รัก ไม่เชื่องกับคุณลุงยังไงไหวล่ะจ๊ะ จริงมั้ย :)




    ตามชมคลิปตามลิงค์ครับ
    คลิป คุณลุงแคนาดาเลี้ยงควายยังกะหมาชิสุ ​


    -http://pet.kapook.com/view33109.html-

    .

    http://pet.kapook.com/view33109.html

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    พิษน้ำเน่า!!! กระเบนราหู-สัตว์น้ำ ตายเกลื่อนบางปะกง



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

    น้ำเน่าทำพิษ!!! พบปลากระเบนราหู-สัตว์น้ำ ลอยตายเกลื่อนแม่น้ำบางปะกง อึ้ง! ค่าออกซิเจนในน้ำต่ำมาก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีชาวบ้านตำบลสาวชะโงก อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา แจ้งเข้ามาว่า ขณะนี้แม่น้ำบางปะกงเริ่มมีสีน้ำตาลส่งกลิ่นเหม็นมานานหลายวันแล้ว และยังพบสัตว์น้ำลอยตายอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ในวันนี้ (11 พฤศจิกายน) นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำบางปะกงที่ท่าน้ำวัด สาวชะโงก

    ทั้งนี้ จากการวัดคุณภาพน้ำที่ท่าน้ำวัดสาวชะโงก พบว่ามีค่าออกซิเจนเพียงแค่ 1.1 มิลลิกรัมต่อลิตรเท่านั้น ขณะที่เมื่อตรวจสอบในจุดอื่นก็มีค่าไม่แตกต่างกันนัก โดยเฉลี่ยค่าออกซิเจนอยู่ในระดับ 0.50-0.95 มิลลิกรัมต่อลิตร แสดงถึงว่าน้ำในแม่น้ำบางปะกงระยะนี้มีคุณภาพต่ำมาก ซึ่งนายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนายการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้คาดการณ์ว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องมาจากในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังนานจนน้ำเน่าเสียได้ปล่อยน้ำที่มี คุณภาพต่ำออกมาจนน้ำไหลมาสู่แม่น้ำบางปะกง

    ขณะเดียวกัน ระหว่างที่คณะล่องเรือลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำแม่น้ำบางปะกง ก็ได้พบปลากระเบนขนาดใหญ่ ความกว้างประมาณ 1.8 เมตร ยาวประมาณ 3.5 เมตร ลอยตายอยู่บริเวณท่าน้ำหน้าวัดสามร่ม อำเภอคลองเขื่อน และห่างออกไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ยังพบปลากระเบนยักษ์ขนาดไม่แตกต่างกันมากนักลอยตายอยู่เช่นกัน จึงได้ตรวจสอบพบว่า คุณภาพน้ำตรงจุดนี้มีค่าออกซิเจนเพียง 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตรเท่านั้น

    ทั้งนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลสุข ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ให้ข้อมูลว่า ปลากระเบนที่พบนั้น เป็นกระเบนน้ำจืด ที่เรียกกันว่า กระเบนราหู หรือ กระเบนเจ้าพระยา จัดเป็นปลากระเบนชนิดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยปลากระเบนชนิดนี้มักอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่ ๆ จนถึงบริเวณใกล้ปากแม่น้ำ และพบครั้งแรกที่แม่น้ำเจ้าพระ ยา จึงถูกตั้งชื่อเรียกว่า "กระเบนเจ้าพระยา" นอกจากนี้ยังพบในแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกงอีกด้วย ส่วนที่เรียกกันว่า "กระเบนราหู" นั้น เป็นเพราะเป็นปลาที่มีลำตัวที่ใหญ่เหมือนราหูอมจันทร์ตามคติของคนโบราณ

    ในส่วนของการแก้ปัญหาดังกล่าว นางชุติมา ฉายแสง ระบุว่า เบื้องต้นจะใช้แนวทางติดตั้งกังหันไชยพัฒนาในคูคลอง เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำเป็นอันดับแรก และวางแผนแก้ไขในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ สาเหตุที่คุณภาพน้ำในแม่น้ำบางปะกงลดต่ำลง เป็นเพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่รับการะบายน้ำที่ท่วมขังจากหลาย ๆ จังหวัด ซึ่งบางส่วนเป็นน้ำเน่าเสีย เพราะน้ำท่วมขังมานานแล้ว



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU1UQXdNVE16TXc9PQ==&sectionid=-

    -http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/47488/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99.html-


    [​IMG]

    [​IMG]



    -http://hilight.kapook.com/view/64671-

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เล็งกู้เพชรเกษม เปิดทางลงใต้ หากพระราม 2 ท่วม



    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    กทม.ส่ง หนังสือ ศปภ. ประสานให้เตรียมยกแบร์ริเออร์บนถนนพระราม 2 ออก หากน้ำท่วมสูง พร้อมเร่งสูบน้ำจากเพชรเกษมลงภาษีเจริญ เปิดทางลงใต้หากพระราม 2 ท่วม

    เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้ระดับน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำใหม่ไหลเข้ามาเพิ่มเติมอยู่อีก โดยเฉพาะที่ฝั่งตะวันตก ขณะนี้น้ำในคลองมหาสวัสดิ์ยังอยู่ในระดับสูง และยังมีน้ำใหม่เติมเข้ามาอีก ทำให้ขณะนี้ น้ำจากฝั่งตะวันตกได้ไหลถึงถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรลงใต้แล้ว

    ผู้ ว่าฯ กทม. ยังกล่าวต่อด้วยว่า หากน้ำทะลักท่วมถนนพระราม 2 จำเป็นต้องเปิดทางระบายน้ำ เพื่อให้น้ำไหลไปได้เร็ว ด้วยเหตุนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กทม. จึงได้ยื่นหนังสือถึง ศปภ. เพื่อประสานงานไว้ล่วงหน้าว่า หากน้ำทะลักท่วมถนนพระราม 2 สูงแล้ว ก็ขอให้ช่วยยกแบร์ริเออร์บนถนนพระราม 2 ออก เพื่อเปิดทางระบายน้ำ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะน้ำยังไม่ท่วมในระดับนั้น

    อย่าง ไรก็ตาม หากน้ำท่วมถนนพระราม 2 แล้ว จะเท่ากับว่าเป็นการตัดขาดเส้นทางสัญจรลงสู่ภาคใต้ ดังนั้น กทม.จึงเตรียมจะกู้ถนนเพชรเกษมที่ถูกน้ำท่วมไปแล้วกลับคืนมา แต่ต้องพิจารณาอีกครั้งว่า จะสามารถระบายน้ำที่ท่วมขังถนนเพชรเกษมลงสู่คลองภาษีเจริญได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอาจทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในคลองภาษีเจริญสูงอยู่แล้ว แต่หากสามารถติดตั้งเครื่องระบายน้ำได้ ก็จะสูบน้ำจากถนนเพชรเกษมลงคลองภาษีเจริญได้เลย โดยไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน


    -http://hilight.kapook.com/view/64513-

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    สมิทธ จับตารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ อาจเกิดแผ่นดินไหว


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3


    สมิทธ หวั่นอาจเกิดแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ต่อจากอุทกภัย จี้ทุกฝ่ายร่วมมือกันรวมข้อมูลเข้าศูนย์กลาง เพื่อการเตือนภัยล่วงหน้ารับมือภัยธรรมชาติ

    เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นายสมิทธ ธรรมสโรช คณะกรรมการวางยุทธศาสตร์น้ำ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือยังเหลืออีกประมาณ 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือน จึงจะสามารถระบายน้ำออกได้หมด ทั้งนี้ มหันตภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเพราะคนประมาทเกินไป และโยงเรื่องน้ำมาสู่การเมือง เป็นเหตุให้ไม่มีการตัดสินใจแบบรวมศูนย์ เพราะต่างฝ่ายต่างทำ

    นาย สมิทธ ยังระบุว่า ถึงเวลานี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพื่อมองอนาคตของประเทศ เพราะหากยังไม่มีแนวทางชัดเจน และยังไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิดการทำงาน ไม่เกิน 10 ปี กรุงเทพมหานครคงหายไปจากแผนที่โลกอย่างแน่นอน เพราะถึงวันนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงเพิ่มขึ้นเป็น 1-1.5 เมตร และทำให้กรุงเทพมหานครถูกน้ำท่วมทั้งหมด ดังนั้น ประเทศไทยต้องปรับข้อมูลทั้งหมด นำมารวมกันเป็นข้อมูลกลาง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนครั้งนี้ และที่สำคัญคือต้องจัดให้มีการเตือนภัยระยะไกล และคาดการณ์ล่วงหน้าก่อนเกิดภัย 3 เดือน อย่างที่ต่างประเทศใช้กัน

    ส่วนเรื่องการเตือนภัยอื่น ๆ นั้น ที่สำคัญมากก็คือการเตือนภัยแผ่นดินไหว เพราะเชื่อว่าในปีสองปีนี้มีสิทธิ์เกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้ เนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่บริเวณเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับอิทธิพลจากแผ่นดินไหวใหญ่ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า อีกทั้งขณะนี้พื้นดินใต้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย เพราะถูกน้ำท่วมขังนาน และน้ำยังได้เข้าไปกัดเซาะมากขึ้นด้วย ดังนั้น หากไม่มีการรวมศูนย์ข้อมูลเพื่อเตือนภัย ก็มีสิทธิ์จะเกิดภัยพิบัติอีกครั้งในเมืองไทย



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก มติชนออนไลน์ และ เดลินิวส์

    [​IMG] [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/64673-


    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    [FONT=Tahoma,]กรมชลคุยสูบแหลก กรุงลด สิ้นเดือนถนนแห้ง

    นิคมบางชันระทึกเตือนภัยขั้น1 เจาะถนนอ้อมน้อย-เปิดทางน้ำ กทม.อพยพเพิ่ม6แขวงฝั่งธนฯ


    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    จ่อสี่แยก- สภาพมวลน้ำที่เคลื่อนตัวผ่านห้าแยกลาดพร้าวมาตามแนวถนนวิภาวดีฯ ล่าสุดหัวน้ำมาจ่ออยู่บริเวณสี่แยกสุทธิสาร แล้ว คาดว่าจะแผ่ขยายต่อเป็นวงกว้างไปยังถนนทุกด้าน เมื่อ 10 พ.ย.

    </td></tr></tbody></table>สัญญาณ กรุงดีขึ้น น้ำเริ่มลดหลายจุด ทั้งหน้าจตุจักร-คลองสอง ผลบิ๊กแบ๊ก-เร่งระบายน้ำ อานนท์เผยระบายได้วันละ 30 ล้านลบ.ม. ในขณะน้ำเข้ากรุง 10-20 ล้านลบ.ม. ย้ำน้ำเขื่อนป่าสักฯ ไม่ซ้ำกรุงแน่นอน 'ทีมกรุ๊ป'เชื่อกทม.ชั้นในไม่ท่วม ฝั่งธนฯ ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ กรมชลประทานเร่งกู้ฝั่งตะวันตก ซ่อมพนังเสร็จ 13 จุดจาก 14 ที่ แจงน้ำเหนือหมดแล้ว เหลือแค่น้ำทุ่ง 4 พันล้านลบ.ม.ต้องเร่งสูบลงทะเล เผยระบายได้ 181 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ขยะล้นหน้าสถานีสูบน้ำวันละ 100 ตัน กทม. ระดมเจ้าหน้าที่เก็บเร่งระบายลงทะเล สั่งอพยพเพิ่ม 6 แขวง สมุทรสาครขุดถนนระบายอ้อมน้อย น้ำปริ่มพระราม 2 กู้ 340 ใกล้เสร็จ นิคมบางชันส่อวิกฤต เตือนขนของขึ้นสูง

    'ปู'มั่นใจน้ำเหนือไม่ซ้ำ

    เมื่อ วันที่ 10 พ.ย.เวลา 10.30 น. ที่โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อกังวลว่าน้ำจากทางตอนเหนือจะทะลักแนวบิ๊กแบ๊กเข้าท่วม กทม.อีกว่า เราวางมาตรการตั้งแต่ต้น โดยปิดประตูระบายน้ำคลอง 8-10 และเร่งเครื่องสูบน้ำประตูระบายน้ำคลอง 13 และให้กรมชลประทานเฝ้าดูระดับน้ำ หากลดลงก็จะระบายน้ำทางฝั่งตะวันออกให้มากขึ้น ส่วนน้ำที่ทะลักเข้าพื้นที่กทม. สั่งให้กทม.เร่งระบายน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำทุกพื้นที่ ส่วนการปกป้องนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือการควบคุมน้ำ และการปกป้องนิคม โดยกองทัพลงไปวางคันกั้นน้ำ ที่แข็งแรงระดับหนึ่ง และให้กระทรวงคมนาคมลงเคลียร์พื้นที่หรือแนวที่ขวางน้ำออกโดยเร็ว ส่วนฝั่งตะวันตก ต้องเร่งเคลียร์คูคลองต่างๆ เพื่อไล่น้ำลงสู่ระบบชลประทาน และแก้มลิงสนามชัยมหาชัย ต้องขอให้ประชา ชนทิ้งหรือเก็บขยะไว้ในถังขยะ เพื่อไม่ให้เข้าไปในท่อระบายน้ำ ทำให้ระบายน้ำลำบาก

    จับตาทะเลหนุน-จี้กทม.สูบน้ำ

    เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กระทรวงพลังงาน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำทะเลหนุนว่า ศปภ.จะติดตามสถานการณ์และประสานกทม.เพื่อระบายน้ำออกให้มากที่สุด ซึ่งประเมินไม่ได้ว่าน้ำจะท่วมสูงเท่ากับช่วงปลายเดือน ต.ค.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเครื่องสูบน้ำของกทม.ว่าดำเนินการได้มากน้อยเพียง ใด

    พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ส่วนคลองสามเสน และคลองบางซื่อ ทางการประปานครหลวง (กปน.) ปิดไม่ให้น้ำเข้าเพื่อลดปริมาณน้ำ ที่เหลือเป็นหน้าที่กทม.เร่งสูบน้ำออก ส่วนข้อต่อระบายน้ำที่ยังมีทิศทางไม่ถูกต้อง ก็ต้องปรับปลายท่อระบบระบายน้ำ ซึ่งปรับแล้วสองจุดคือ บริเวณถ.วิภาวดีรังสิต และถ.พหลโยธิน เพื่อส่งน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น

    น้ำอาจไม่ท่วมอนุสาวรีย์ฯ

    เมื่อ ถามว่าการปรับปลายท่อจะส่งผลให้น้ำไม่ท่วมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้หรือไม่ พล.ต.อ. ประชากล่าวว่า เป็นไปได้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ จะไม่ท่วม แต่ยังกังวลเรื่องมวลน้ำใต้ดินตามท่อ ที่ควบคุมไม่ได้ แต่น้ำที่ไหลจากตอนเหนือของกทม. เราปิดกั้นด้วยบิ๊กแบ๊กแล้วส่วนหนึ่ง ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก เห็นได้จากบริเวณการประปาเขตพญาไท น้ำลดลงจากเดิม 3-4 ซ.ม. จากนั้นขึ้นอยู่กับการทำงานของกทม.ว่าจะระบายน้ำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งศปภ.ก็ช่วยเต็มที่

    หาทางเลี่ยงพระราม 2

    เมื่อ ถามว่าหากการกู้ทางหลวงหมายเลข 9 และสาย 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) ไม่สำเร็จ และถ.พระราม 2 ถูกน้ำท่วมอีกจะทำอย่างไร พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ศปภ.ก็ห่วง แต่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมเร่งกู้ถนนทั้ง 2 สาย คาดว่า 2 วันนี้จะกลับมาใช้ได้ตามปกติ แต่หากเสีย ถ.พระราม 2 แต่ยังกู้ทางหลวงหมายเลข 9 และสาย 340 ไม่เสร็จ ยังมีเส้นทางสำรองคือ ถ.สายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 32) จ.อ่างทอง เข้าอ.วิเศษชัยชาญ ไปที่อ.เมืองสุพรรณบุรี และเข้านครปฐมเลี้ยวที่แยกมาลัยแมน จ.นครปฐม เข้าถ.เพชรเกษม แต่เป็นเส้นทางที่ต้องอ้อมไกล

    พล.ต.อ.ประชากล่าวถึง การวางแนวแซนด์ แบริเออร์กั้นน้ำบริเวณทางด่วนดินแดงและดอนเมืองโทลล์เวย์ว่า คิดว่าจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิ ศปภ.ได้รับการยืนยันจากพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ว่ามีระบบการป้องกันที่ดีและไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

    กู้ 340 ใกล้เสร็จ

    เวลา 17.00 น. ที่ศปภ. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม กล่าวถึงการกู้ทาง หลวงหมายเลข 9 และสาย 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) ว่า ขณะนี้การกู้เส้นทางใกล้เสร็จแล้ว เหลือระดับน้ำสูง 45 ซ.ม. ใน 2 ช่วงคือบริเวณหมู่บ้านสมบัติบุรีที่มีน้ำท่วมขังยาวจุดละ 600 และ 700 ม. ถือว่ามีน้ำไม่มาก ทางเจ้าหน้าที่จะสูบน้ำในวันที่ 11 พ.ย.นี้ให้ไม่เกิน 20 ซ.ม. เพื่อให้รถเล็กผ่านได้ เชื่อว่าการเดินทางลงสู่ภาคใต้จะไม่เป็นปัญหา ส่วนถ.พระราม 2 ขณะนี้น้ำยังไม่ท่วมแต่ใกล้ท่วมแล้ว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์พื้นที่ใต้สะพานทางด่วนต่างๆ เพื่อระบายน้ำสู่คลองบริเวณถ.พระราม 2 และทะเลต่อไป ทั้งนี้ยังถือว่าโชคดีที่น้ำด้านตะวันตกของกทม.ลดลงไปมาก

    ไม่วางบิ๊กแบ๊กฝั่งตะวันตก

    พล.อ.อ. สุกำพลกล่าวว่า สำหรับการวางแซนด์แบริเออร์ที่เชื่อมระหว่างทางด่วนดินแดงและทางด่วนโทลล์ เวย์นั้น จัดวางเรียบร้อย เหลือเพียงใส่ทรายอย่างเดียว แต่ที่ไม่ได้ใช้แนวแซนด์แบริเออร์บริเวณถนนสายเอเชีย เนื่องจากเพิ่งจะสั่งนำเข้าจากประเทศอังกฤษ และใช้ได้ดีในพื้นที่แห้งเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังก่อนแล้ว ส่วนการวางแนวกระสอบทรายยักษ์ หรือบิ๊กแบ๊กในพื้นที่ฝั่งตะวันตก 3 ก.ม. คงไม่ดำเนินการ เนื่องจากทำแล้วไม่มีประโยชน์ เพราะฝั่งตะวันตกมีคูคลองจำนวนมาก<table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    หนีน้ำ - ภาพหนุ่มสาวขึ้นไปเดินเลี้ยงตัวอยู่บนคันคอนกรีต ถ.วิภาวดีฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินฝ่าน้ำท่วมขังสูงตลอดแนวถนนบริเวณปากซอยโชคชัยร่วม มิตร เมื่อวันที่10 พ.ย.

    </td></tr></tbody></table>

    บางขุนเทียนจม-จ่อพระราม 2

    ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าที่ถนนบางขุนเทียนชาย ทะเล ช่วงจากสี่แยกบางบอนมุ่งหน้าออกถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน น้ำท่วมสูง 50-80 ซ.ม. และน้ำจากถนนเอกชัยข้ามทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัยแล้ว เหลืออีกแค่ 300 ม. จะเอ่อล้นบนผิวการจราจรของถนนพระราม 2 รถเล็กสัญจรลำบาก นอกจากนี้จากน้ำท่วมรางรถไฟ ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ต้องสั่งยุติการให้บริการตั้งแต่สถานีบางบอนจนถึงสถานีรางโพธิ์ชั่วคราวจน กว่าสถาน การณ์จะดีขึ้น

    ที่ถ.พระราม 2 น้ำผุดมาจากท่อบริเวณหมู่บ้านวีเค บิซซิเนส แลนด์ ปากทางถ.พระราม 2 สูงขึ้นต่อเนื่อง ในซอยต่างๆ ริม ถ.พระราม 2 เริ่มมีน้ำท่วมขังเพิ่มมากขึ้น

    บิ๊กแบ๊กได้ผล-ลดวันละ 10 ซ.ม.

    ฝ่ายประชา สัมพันธ์ศปภ. แจ้งว่า การกั้นบิ๊ก แบ๊กเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ในพื้นที่ดังนี้ 1.แนวทางรถไฟสายเหนือ ในเขตจ.ปทุมธานี จรดถ.วิภาวดีรังสิต ยาว 6 ก.ม. 2.แนวถนนหัวสนามบินดอนเมือง 2 ก.ม. 3.แนวถนนจันทรุเบกษา 2.5 ก.ม. 4.แนวถนนเลียบคลองหกวาสายล่างถึงคลองพระยาสุเรนทร์ 4 ก.ม. และ 5.แถวถนนสายไหม 85 ยาว 1 ก.ม. ส่งผลให้ระดับน้ำตามแนวทางรถไฟสายเหนือนอกและในแนวคันกั้นน้ำ แตกต่างกันประมาณ 20-30 ซ.ม. และระดับน้ำที่ท่วมรางรถไฟช่วงหลักสี่-ดอนเมือง ภายในคันกั้นน้ำ ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 10 ซ.ม. จึงถือว่าบิ๊กแบ๊กกั้นน้ำได้น่าพอใจ

    ทร.ระดมผลักดันลงทะเล

    ทั้ง นี้พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. สั่งการให้ทุกหน่วยระดมสรรพกำลังและยุทโธป กรณ์เร่งผลักดันน้ำลงทะเลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางน้ำโดยกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ จัดกำลังพลและเรือตรวจการณ์ลำน้ำ 4 ลำ ผลักดันน้ำบริเวณคลองหกวาสายล่าง ปากคลอง 6 ถึงปากคลอง 8 และ ถ.ลำลูกกา ถึงถ.นิมิตใหม่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

    ขณะที่อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ใช้เรือขนาด 220 แรงม้า ผลักดันน้ำวันละ 100,000 ลบ.ม. ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ถ.บางนาตราด ก.ม. 28 บริเวณใต้สะพานพระราม 2 เขตบางขุนเทียน คลองสนามชัย และถ.เอกชัย เขตบางบอน และใช้เรือขนาด 320 แรงม้า ผลักดันน้ำวันละ 150,000 ลบ.ม. บริเวณคลองบางซื่อ วัดสะพานสูง เขตบางซื่อ คลองจระเข้ใหญ่ คลองลำปลาทิว เขตลาดกระบัง คลองมหาสวัสดิ์ บริเวณประตูน้ำฉิมพลี และคลองลาดพร้าว บริเวณวัดพระราม 9

    กทม.สั่งอพยพเพิ่ม 6 แขวง

    ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า กทม.ประกาศพื้นที่อพยพเพิ่มเติม ในพื้นที่แขวงบางขุนศรี แขวงบางขุนนนท์ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอก น้อย ถนนกำนันแม้น ซอยเอกชัย 8, 14, 36 ซอยกำนันแม้น 28 แขวงบางขุนเทียน ซอย วุฒากาศ 42 ชุมชนศาลาครืนรวมใจ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง และแขวงบางบอน เขตบางบอน ได้แก่ ชุมชนกำนันแม้น 3 ชุมชนสวนผัก ชุมชนริมคลองพระยาราชมนตรี ชุมชนวัดน้อย ชุมชนคลองบางพรานพัฒนา ชุมชนรางไผ่ หมู่บ้านสังสิทธิ์ หมู่บ้านภาสกร 2 หมู่บ้าน เอสเค หมู่บ้านธนบดี หมู่บ้านทวีทอง หมู่บ้าน วรารมย์ หมู่บ้านบางบอนการ์เด้นวิลล์ หมู่บ้าน 89 บางบอนวิลล์ ตลาดบางบอนและตลาดสุขสวัสดี ตลาดศิริชัย เคหะบางบอน โรงเรียนบ้านนายเหรียญ เนื่องจากระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น

    ขยะท่วม-ระบายยาก

    นาย ณรงค์ เรืองศรี ผอ.กองระบบอาคารบังคับน้ำ สำนักการระบายน้ำ เผยว่า กทม.เร่งระบายน้ำจากสถานีสูบน้ำต่างๆ ทำให้พบปัญหาขยะจำนวนมาก ลอยมาติดค้างตามสถานีต่างๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้การเร่งระบายน้ำล่าช้า ขยะบางส่วนยังติดค้างและกระแทกกับอุปกรณ์สถานีเสียหาย เราจึงต้องระดมกำลังเร่งเก็บขยะ โดยจ้างบุคคลภายนอก 2,595 คน ในอัตราวันละ 300 บาท และประสานขอความร่วมมือจากทาง ศปภ. ให้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยงานดังกล่าว อีกทั้งมีอาสาสมัครเข้ามาช่วย โดยทางสนน.ได้จัดกำลังเข้าไปเก็บขยะเป็นกรณีพิเศษในสถานีสูบน้ำใหญ่ เช่น สถานีสูบน้ำพระโขนง สถานีสูบน้ำบางซื่อ และอาคารบังคับน้ำพระราม 9 ซึ่งแต่ละสถานีมีขยะกว่าวันละ 100 ตัน

    ตายแล้ว 533 ราย

    นาย ภานุ แย้มศรี ผอ.ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถาน การณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 24 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 533 ราย สูญหาย 2 ราย นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข รายงานผู้ป่วยกลุ่มอาการสงสัยโรคฉี่หนู ใน อ.ภาชี และพื้นที่ข้างเคียง จ.พระนครศรีอยุธยา 7 ราย และมีรายงานผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.นนทบุรี จากการสอบสวนพบผู้ป่วย 72 ราย มีปัจจัยเสี่ยง คือการดื่มน้ำประปาโดยไม่ได้ต้มสุก ซึ่งสอด คล้องกับน้ำประปาในพื้นที่ดังกล่าวมีคุณภาพต่ำ

    แจงน้ำค้างทุ่งถล่มกรุง

    กรม ชลประทาน ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีน้ำเหนือค้างทุ่งจำนวนมหาศาลรอถล่มกรุง ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำท่าในลุ่มน้ำปิงและลุ่มน่านลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ปริมาณน้ำท่าที่อยู่ในแม่น้ำต่างๆ ก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยในลุ่มน้ำยมที่อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จะลดลงอยู่ในระดับตลิ่งภายใน 7 วัน สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าตลิ่งภายในวันที่ 20 พ.ย. ที่อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าระดับน้ำจะต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 27 พ.ย.

    รับมีค้าง 4 พันล้านลบ.ม.

    ส่วน ปริมาณน้ำค้างทุ่ง ซึ่งกระจายอยู่ในทุ่งทางตอนบนของพื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่ น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 4,394 ล้านลบ.ม. โดยอยู่ในพื้นที่ทางด้านฝั่งตะวันออก 1,831 ล้านลบ.ม. และในพื้นที่ด้านฝั่งตะวันตก 2,563 ล้านลบ.ม. ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ต้องระบายออกทะเลผ่านระบบระบายน้ำ ของกรมชลประทานและกทม. โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะค่อยๆ ไหลลงมาสู่พื้นที่ทางตอนล่าง

    กรมชลฯระบาย181ล้านลบ.ม./วัน

    ใน ส่วนของกรมชลประทาน เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 8-9 พ.ย.54 สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้น เป็น 121 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ทั้งนี้ยังไม่รวมการระบายน้ำผ่านประตู ระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสมุทรปราการ อีกประมาณ 50-60 ล้านลบ.ม.ต่อวัน และยังมีปริมาณน้ำที่ระบายออกตามธรรมชาติผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง อีกด้วย รวมแล้วสามารถระบายน้ำได้วันละ 181 ล้านลบ.ม.

    ส่วน พื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานยังมีมาตรการชะลอปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาสู่พื้นที่ทางตอนล่าง โดยลดการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำพลเทพและประตู ระบายน้ำบรมธาตุ รวมทั้งยังได้เร่งซ่อมแซมอาคารชลประทานและคันกั้นน้ำในเขตจ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี แล้วเสร็จ 13 แห่ง จาก 14 แห่ง ซึ่งสามารถช่วยชะลอ น้ำที่จะไหลเข้าพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาได้

    กรุงระบาย 30 ล้านลบ.ม./วัน

    ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะทำงานจัดการน้ำในพื้นที่วิกฤต กล่าวถึงสถานการณ์น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ตอนเหนือและตะวันออกของกทม. ว่า ขณะนี้ระบายน้ำออกได้ประมาณวันละ 30 ล้านลบ.ม. โดยที่ปริมาณน้ำเข้าเหลือเพียงวันละ 10-20 ล้านลบ.ม. แต่ที่ยังเห็นว่ามีน้ำท่วมขังอยู่เป็นเพราะน้ำยังระบายออกไปไม่หมด แต่ยืนยันว่าน้ำที่อยู่หลังแนวบิ๊กแบ๊กจะไม่ทะลักเข้ามาจนเกิดวิกฤตซ้ำสอง ตามที่บางฝ่ายเป็นห่วง หลังจากนี้คาดว่าตามถนนสายหลักในกทม.จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในสิ้น เดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าฝั่งตะวันตกยังระบายได้ช้า เพราะพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย เพราะเป็นที่ลุ่มต้องใช้เวลานานกว่าฝั่งตะวันออก แต่มั่นใจว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้ก่อนปีใหม่แน่นอน

    ไม่วิตกน้ำป่าสักฯ

    นาย อานนท์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ที่เก็บน้ำเกินความจุนั้น สถานการณ์ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยเขื่อนพร่องน้ำออกมาวันละ 20-30 ล้านลบ.ม. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่น่าก่อให้เกิดปัญหา แต่ที่น่าเป็นห่วงคือปริมาณน้ำที่เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์มากกว่า แต่เท่าที่รับรายงานยังอยู่ในขั้นที่สามารถควบคุมได้ โดยระบายน้ำออกมาวันละ 20-30 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ส่วนใหญ่จะระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และไหลออกสู่ทะเล ไม่ได้ไหลบ่าไปทางแม่น้ำท่าจีน จนทำให้เกิดปัญหากับฝั่งตะวันตกอีก จุดนี้จึงน่าจะพอรับมือได้

    ทีมกรุ๊ปชี้กทม.ชั้นในไม่ท่วม

    นาย ชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาภายใน ทีมกรุ๊ป เผยว่า แม้ปริมาณน้ำจะสูงกว่าปีก่อนๆ ถึง 1.4 เท่า แต่ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมในเขตกทม. เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากการบริหารจัดการน้ำของกทม. ที่มีทั้งระบบคลอง ระบบสูบน้ำ ตลอดจนอุโมงค์ยักษ์ที่เริ่มทำงานแล้ว นอกจากนี้กระสอบทรายยักษ์หรือบิ๊กแบ๊กช่วยชะลอน้ำที่จะเข้าสู่ ถ.วิภาวดีฯ ได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ จึงยืนยันว่ากทม.ชั้นในจะไม่ถูกน้ำท่วม เพราะมีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ

    "ช่วง 3 วันที่ผ่านมามีสงครามประสาทเกิดขึ้นในโลกสังคมออนไลน์บ่อยครั้ง ทั้งข่าวเครื่องสูบน้ำบริเวณคลองบางซื่อเสีย 5 ตัว ทั้งที่จริงเสียเพียงตัวเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น คลองบางซื่อยังมีประสิทธิภาพในการระบายน้ำเป็นอย่างดี คาดว่าหลังเทศกาลลอยกระทงสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น ส่วนในฝั่งธนบุรี สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นใน 2 สัปดาห์จากนี้ไป"นายชวลิตกล่าว

    นิคมบางชันเตือนระดับ 1

    น.พ.วรรณ รัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงการรักษานิคมอุตสาหกรรมบางชัน ว่า ที่นิคมฯ บางชัน ระดับน้ำคลองแสนแสบขึ้นมาเหนือกว่าระดับน้ำทะเล 1 ม. อยู่ระดับพื้นของนิคมฯ บางชัน ซึ่งเตรียมเครื่องสูบน้ำ 43 ตัว มีกำลังสูบ 8.8 หมื่นลบ.ม.ต่อวัน รวมทั้งเตรียมเรือดันน้ำ 52 ลำ และเตรียมกระสอบทรายมาอุดรูรั่วที่กำแพงนิคม ซึ่งมีคลองล้อมรอบทุกด้าน

    "ยอม รับว่านิคมบางชันวิกฤต แต่เราพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ คิดว่าตอนนี้ยังรับได้อยู่ โอกาสรอดยังเป็นไปได้ถ้าปริมาณการไหลเข้า-ออกของน้ำรักษาความสมดุลไว้ได้" น.พ.วรรณรัตน์กล่าว

    น้ำด้านเหนือขึ้นสูง

    นายยงยุทธ ทองสุข รองปลัดอุตสาหกรรม คณะกรรมการป้องกันน้ำท่วมนิคมฯ บางชัน กล่าวว่า ช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ย.น้ำจากทางทิศเหนือฝั่งถนนรามอินทรา ซึ่งไหลจากมีนบุรี คลองสามวา ไหลมาเต็มลงคลองกระเทียม ด้านเหนือของโรงงาน บริเวณถ.หม่อมเจ้าสง่างามสุประดิษฐ์ สูงถึง 1.19 ม. ขณะที่ฝั่งคลองแสนแสบ ระดับน้ำคืนวันที่ 9 พ.ย. เวลา 22.30 น. มีระดับน้ำสูงขึ้น 1 ม. เจ้าหน้าที่ต้องประกาศเตรียมใช้แผนฉุกเฉินขั้นที่ 1 คือ ให้ผู้ประกอบการยกของขึ้นที่สูง แต่เวลา 08.00 น. วันที่ 10 พ.ย. สามารถสูบน้ำออกดีขึ้น ทำให้ระดับน้ำลดลงมาอยู่ที่ 98 ซ.ม. แต่น้ำฝั่งคลองกระเทียมยังสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องเร่งผันน้ำลงคลองแสนแสบให้เร็วขึ้น เพราะน้ำส่วนนี้อาจไหลเข้าโรงงานได้

    นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาห กรรม เผยว่า ยังมั่นใจว่าระบบการป้องกันน้ำในนิคม และโรงงานต่างๆ ก็ยังไม่ขนของหนีย้ายออกจากนิคมไปไว้ที่อื่น

    เพชรเกษมท่วมขังอยู่

    เวลา 15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจบริเวณถ.กาญจนา ภิเษกตัดถ.เพชรเกษม โดยที่ถ.เพชรเกษม ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงที่ระดับ 60-80 ซ.ม. เข้าสัปดาห์ที่ 2 แล้ว และมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งน้ำเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น โดยกทม.นำรถน้ำจุลินทรีย์ชีวภาพหรือน้ำอีเอ็มมาฉีดเพื่อลดจุลินทรีย์

    ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า ถนนเพชรเกษมน้ำลดลงเล็กน้อย แต่น้ำแผ่ไปในบางพื้นที่อื่นช้าๆ ส่วนที่ฝั่งธนบุรี เช่น บางพลัด ระดับน้ำก็ได้ลดลงเช่นกัน ซึ่งหากกทม.รับมอบเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จากศปภ. จะสามารถผันน้ำจากคลองภาษีเจริญไปยังคลองมหาชัยไปยังแม่น้ำท่าจีนได้ หากน้ำใหม่ไม่เข้ามาในเส้นทางหลัก คาดว่าจะแห้งใน 2-3 สัปดาห์

    น้ำกทม.ลดหลายจุด

    ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุดวันที่ 10 พ.ย. หน้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักรน้ำลดลง 8 ซ.ม. คลองสองลดลง 11 ซ.ม. นอกคันบิ๊กแบ๊กลดลง 10 ซ.ม. และความต่างระหว่างนอกคันและในคันบิ๊กแบ๊กอยู่ที่ 30 ซ.ม. ส่วนหัวน้ำล่าสุดยังอยู่ที่แยกสะพานควาย จตุจักร กำลังเข้าสู่สะพานควายและถนนพระราม 2 น้ำจากเขตบางขุนเทียน หัวน้ำห่างจากถนนพระราม 2 อยู่ 700 ม.

    แสนแสบยังแห้งอยู่

    ผู้ สื่อข่าวรายงาน สภาพระดับน้ำในคลองมหา นาคและคลองแสนแสบ ช่วงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มีระดับน้ำเกือบแห้งขอด ขณะที่อาคารต่างๆ ริมฝั่งคลองแสนแสบ ต่างหาทางป้องกันตัวอาคาร เนื่องจากเกรงว่า น้ำจากย่านบางชัน มีนบุรี และบางกะปิ อาจถูกระบายลงคลองแสนแสบจนเอ่อล้นริมตลิ่ง โดยเฉพาะชุมสายโทรศัพท์ ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ข้างอาคารอิตัลไทย เสริมกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กสูงกว่า 4 ม. นอกจากนั้นยังระดมวางกระสอบทรายเป็นกำแพงสูงกว่า 2 ม. รอบอาคารชุมสาย เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำที่อาจเกิดขึ้น โดยคาดการณ์ว่า ระดับน้ำบริเวณดังกล่าว อาจสูงถึง 1 ม.

    น้ำผุดแยกสุทธิสาร

    ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณฐานสูบน้ำที่ 5 คลองบางซื่อ ถ.วิภาวดีฯ ขาออก ก.ม.8 มวลน้ำหยุดนิ่งอยู่ที่จุดดังกล่าว และลงในคลองบางซื่อ และซึมผ่านท่อเอ่อล้นออกมาบนผิวการจราจรบริเวณแยกสุทธิสารแล้ว แต่ระดับน้ำไม่สูง รถเล็ก สัญจรได้

    รถใต้ดินยังสู้-ให้บริการ

    พล.ต.ชาติ ชาย ประดิษพงษ์ ผอ.งานส่งเสริมและเผยแพร่กิจกรรม บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที เผยว่า ระดับน้ำบริเวณ 4 สถานีที่มีความเสี่ยง ล่าสุดระดับน้ำยังคงทรงตัว น้ำปรับเพิ่มขึ้น-ลงเฉลี่ยประมาณ 1-2 ซ.ม. สถานีลาดพร้าว จตุจักร พหลโยธินและกำแพงเพชร น้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 40 ซ.ม. จากระดับพื้นทางเท้า หรือท่วมสูงถึงบันไดขั้นที่ 2 ทั้งนี้ที่ สถานีพหลโยธิน ประตู 3 บริเวณทางเข้าและออกด้านสวนสมเด็จย่า 84 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลลาดพร้าว มีความเสี่ยงสูง ต้องจับตาระดับน้ำเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำท่วมมิดบันไดขั้นที่ 2 หรือท่วมขังระดับ 60 ซ.ม. ซึ่งตามแผนเดิมเอ็มอาร์ทีจะปิดให้บริการ แต่เมื่อประชาชนจำนวนมากมีความต้องการใช้บริการ และความมั่นใจระบบความปลอดภัย ของทางสถานีที่ป้องกันน้ำท่วมสูงได้ถึง 3.50 ม. จึงตัดสินใจเปิดให้บริการต่อไป แต่หากน้ำท่วมสูงขึ้นอีก จะปิดประตู 3 แต่ยังมีทางเข้าออกอื่นที่ให้บริการอยู่

    ขุดถนนระบายอ้อมน้อย

    ที่ จ.สมุทรสาคร ตัวแทนชาวบ้านในต.สวน หลวง และต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน กว่า 20 คน รวมตัวที่บริเวณถนนพุทธสาคร ริมทางเข้าเทศบาลตำบลสวนหลวง เพื่อขอให้ขุดร่องน้ำริมถนนพุทธสาคร เพื่อเร่งระบายน้ำลงคลองภาษี เจริญให้เร็วขึ้น เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ทั้ง 2 ตำบลที่ถูกน้ำท่วมขัง

    นาย อภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองผู้ว่าฯ สมุทร สาคร กล่าวว่า ทางจังหวัดอนุมัติให้ขุดเจาะร่องน้ำริมถนนพุทธสาครตามที่ร้องขอ เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ตำบล อ้อมน้อยและตำบลสวนหลวงได้ในระดับหนึ่ง โดยจะขุดร่องกว้างประมาณ 2-2.5 ม. ลึก 40 ซ.ม. ยาวประมาณ 50-100 ม.

    พายุหมุนซ้ำอ่างทอง

    ที่ จ.อ่างทอง เกิดพายุงวงช้างพัดเข้าบ้านเรือนหมู่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง ทำให้บ้านเลขที่ 46 ของนายเผือด คันทรง ถูกพัดจนระเบียงชั้น 2 หายไปหมด ไม่ห่างกันมีต้นไม้ถูกพัดล้มระเนระนาด เรือคว่ำหลายลำ รวมทั้งบ้านเรือนใกล้เคียงเสียหายอีกจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่กำลังเก็บข้อมูลความเสียหายอยู่
    [/FONT]


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEV4TVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4TVE9PQ==-

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    .

    คนที่พูด ต้องรู้จักรับผิดชอบในคำพูด

    หากทำไม่ได้ก็ให้ลาออกไป
    อยู่ก็เปลืองเงินแผ่นดิน



    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [FONT=Tahoma,]แนะเลิก"หยาม" การเมืองเรื่องเพศ



    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>จาก การแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในสื่อออนไลน์ของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีข้อความกล่าวถึงสาวชาวเหนือในทางที่ไม่เหมาะสม เป็นเหตุให้กลุ่มเครือข่ายสตรีภาคเหนือไม่พอใจ นำไปสู่การรวมตัวเพื่อเรียกร้องให้ออกมาขอโทษผู้หญิงชาวเหนือ

    ล่า สุด กระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการใช้คำพูดโจมตีเพศหญิงและสาวชาวเหนือ ของนายเอกยุทธในโลกออนไลน์ยังทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

    ด้านองค์กรสตรีส่วนกลาง ร่วมแสดงทัศนคติในเรื่องนี้เช่นกัน

    น.ส.สุ เพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า เนื่องจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ การออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีนั้นทำได้ แต่การใช้คำพูดทำนองว่าผู้หญิงชาวเหนือ ถือว่าเป็นการใช้คำที่ขาดความเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่า "ห้ามมิให้มีการกีดกัน เลือกปฏิบัติ" การใช้ คำพูดของนายเอกยุทธเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม เป็นการละเมิดสิทธิสตรี ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนภาคเหนือ

    "คนในประเทศไทยบางส่วน ยังขาดความเข้าใจเรื่องการเคารพความเป็นมนุษย์ของบุคคลหรือของเพศ หากพูดถึงการทำงานถ้าทำไม่ดีก็ว่าเฉพาะบุคคล เพื่อให้คนที่อ่านได้วิเคราะห์แยกแยะ ถ้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง การกล่าวหาด้วยความประมาท หรือการเผยแพร่โฆษณา หากเป็นข้อความไม่เหมาะสมก็เป็นการหมิ่นประมาทโดยการเผยแพร่ด้วยโฆษณา แยกกันระหว่างความผิดทางกฎหมาย และการขาดมารยาทในการแสดงความคิดเห็น อยากให้มองว่าผู้หญิงในภาคเหนือมีมากมาย ไม่เพียงแต่ผู้หญิงไทยอย่างเดียวเท่านั้น ต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วย"

    นางศิริพร สะโครบาเนค ประธานมูลนิธิผู้หญิง กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์บุคคลถือเป็นเรื่องปกติที่ใครก็สามารถวิจารณ์ได้ แต่จะมาเจาะจงว่าเป็นเพศหญิงหรือสาวเหนือไม่ได้ เพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องความสามารถส่วนบุคคล บุคคลที่พูดจะต้องได้รับบทเรียนในความคิดว่าคิดอะไรได้แค่ไหน

    การ พูดวิพากษ์วิจารณ์โดยกล่าวหาแบบรวมๆ มันไม่แฟร์ เป็นการดูถูกผู้หญิง ซ้ำซ้อน ทั้งการดูถูกผู้หญิงภาคเหนือ และดูถูกผู้หญิงที่ประกอบอาชีพขายบริการว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่มีสติปัญญา ทำอะไรไม่เป็น

    "การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์เป็นเวทีประชันความคิด กัน มีทั้งถูกบ้างผิดบ้าง เป็นการถ่ายทอดทัศนคติของแต่ละคน แต่ถ้าคนไหนได้รับผลกระทบก็สามารถออกมาเรียกร้อง คนที่สื่อสารจะต้องรับผิดชอบหรือหาเหตุผลที่จะมาลบล้าง

    แต่ครั้งนี้ การเหมารวมว่าผู้หญิงภาคเหนือขายบริการ ไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้ สติปัญญาด้อย จะต้องทำอาชีพนี้ เป็นการดูถูกดูหมิ่น โดยหลักจริยธรรมหรือหลักทั่วไปไม่ควรทำแบบนี้"

    ด้าน นายจิตติ มงคลชัยอรัญญา อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว ผู้ที่ไปแสดงความคิดเห็นใดๆ ในสื่อสาธารณะจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ไม่ใช่บอกว่ามีความเห็นอย่างนี้ จึงไปแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ ต้องมองว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สาธารณะ มีบุคคลหลายคนที่เข้าไปอ่าน และบุคคลเหล่านั้นอาจจะได้รับผลกระทบ

    หากจะสื่ออะไรออกไปแล้วต้อง ผ่านสื่อสาธารณะมันต้องสื่อด้วยข้อเท็จจริง สื่อด้วยข้อ มูล ไม่ใช่สื่อด้วยความคิดเห็น เพราะถ้าแสดงความคิดเห็นกันไปมา จะทำให้สังคมเสียหาย ซึ่งไม่ได้หมายถึงกระทบผู้หญิงหรือบุคคลในภาคไหนเท่านั้น โดยรวมจะต้องใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงมาสื่อสารกัน ไม่อย่างนั้นจะก่อให้เกิดปัญหา

    "การสื่อสารในสื่อออนไลน์ต้องหลีก เลี่ยงความคิดเห็นส่วนตัวให้มาก แม้ว่าจะเป็นการ วิพากษ์วิจารณ์ตัวบุคคลที่เป็นนักการเมืองซึ่งถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ อาสามารับใช้ประชาชน ห้ามไม่ได้ที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถึงอย่างไรหลักการวิพากษ์วิจารณ์ต้องมีข้อเท็จจริงมาเป็นตัวตั้ง อย่าเอาความคิดล้วนๆ ซึ่งไม่แฟร์กับนักการเมืองเช่นกัน"

    ขณะที่ ดร.สุธาดา เมฆรุ่งเรืองกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย ให้ความเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นในเรื่องเพศและทัศนคติเป็นการพูดคนละเรื่อง หากจะวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีก็ทำได้ แต่อย่านำนายกรัฐมนตรีไปผูกติดกับความเป็นผู้หญิง

    "การวิพากษ์ วิจารณ์การบริหารบ้านเมืองเป็นเรื่องปกติ ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ทุกสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันได้แต่อย่าปนเป ต้องคิดในเชิงบทบาท ไม่ใช่เรื่องเพศ เมื่อไหร่ที่นำเรื่องเพศเข้าไปเกี่ยวกับการเมือง จะกลายเป็นเรื่องที่เพี้ยนไปหมด การเหมาอย่างนี้จะกลายเป็นการซ้ำเติมสถานภาพของผู้หญิงมากยิ่งขึ้น"
    [/FONT]

    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNVEV4TVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4TVE9PQ==-

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    นิคมฯ บางชันใกล้วิกฤต เหตุไม่มีน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำ ส.ก.โวย ศปภ.เอาแต่นั่งเทียน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2554 16:17 น.</td></tr></tbody></table>

    ทหารทำแผน "มะรุมมะตุ้ม"กู้ ถ.เสรีไทย ขวางน้ำเข้านิคมฯ บางชัน สุดอนาถ น้ำสูงทุกวันเพราะไม่มีน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำและเรือดันน้ำลงคลองแสนแสบ ส.ก.มีนบุรี สุดทนโวย ศปภ. เอาแต่นั่งเทียน ไม่เคยลงดูพื้นที่จริง ปล่อยน้ำสูงจนใกล้วิกฤต

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากนิคมอุตสาหกรรมบางชันว่า วันนี้ ได้มีการประชุมสรุปสถานการณ์น้ำ และการรับมือปัญหาน้ำท่วม นายยงยุทธ ทองสุข รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ได้ตกลงให้กองกำลังทหารจัดทำแผนทำให้ถนนเสรีไทยบริเวณแยกบางชันที่ผ่านไปยัง นิคมอุตสาหกรรมบางชันแห้งลง ภายใต้ชื่อแผน "มะรุมมะตุ้ม" โดยจะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันที่ 11 พ.ย.เป็นต้นไป ด้วยการอุดและบล็อกท่อระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่ไหลเอ่อมากลับไปสู่ระบบคลอง จากนั้นจะสูบน้ำออกจากถนนเสรีไทย โดยเชื่อว่าถ้าแผนนี้ประสบความสำเร็จ ในช่วงเวลา ตี 5 และ 6 โมงเช้าของวันที่ 12 พ.ย.น้ำบนถนนเสรีไทยที่ท่วมอยู่ 20 ซม.จะแห้งสนิท โดยการดำเนินการภายใต้แผนนี้ เพื่อแก้ไขภาพลักษณ์และการจราจรบริเวณด้านหน้านิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งถูกสื่อมวลชนรายงานทุกวันว่า มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนรถขนาดเล็กผ่านไม่ได้ ขณะเดียวกันได้หารือแนวทางป้องกันน้ำที่เริ่มมีน้ำเอ่อและซึมจากแนวใต้กำแพง ของนิคมอุตสาหกรรมเข้ามาในบริเวณบริษัท สยามธานีเฟอร์นิเจอร์ จำกัด และบริษัทฮั่วฮงเส็งจำกัด ซึ่งอยู่ติดกับบึงกระเทียม ถ้าหากไม่ป้องกัน จะทำให้ น้ำไหลเข้าสู่บริเวณโดยรวมของนิคมฯได้

    สำหรับการระบายน้ำออกจากบึงกระเทียม ซึ่งอยู่ด้านหลังนิคมฯบางชัน เพื่อลงสู่คลองหลอแหลและคลองบางชัน เพื่อระบายสู่คลองแสนแสบและอุโมงค์พระราม 9 ยังติดปัญหาเรื่องไม่มีน้ำมันที่จะเติมในเครื่องสูบน้ำ และน้ำมันที่จะเติมในเรือดันน้ำ 24 ลำ จนทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารไม่เป็นไปตามแผน ที่ประชุมจึงสรุปให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ออกค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วจึงประสานเบิกเงินจาก ศปภ.ต่อไป

    นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก. เขตมีนบุรี เปิดเผยว่า รู้สึกอึดอัดตั้งแต่ ศปภ.ไม่มีอำนาจตัดสินใจและทีมงานยังนั่งเทียน ไม่ลงพื้นที่จริง รับแต่ข้อมูลจากกรมชลประทานและกรุงเทพ มหานคร ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลจริง ทำให้การแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ไม่ทันเวลา ตัวอย่างนิคมฯบางชัน นายกรัฐมนตรีสั่งการมาร่วมเดือน แต่เครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อม แม้แต่น้ำมันที่จะมาเติมในเครื่องสูบน้ำและเรือดันน้ำเพื่อดันน้ำไปลงคลอง แสนแสบไปสู่อุโมงค์พระราม 9 ในตอนนี้ก็ยังไม่มี

    นอกจากนี้ การจัดทำแผนป้องกันนิคมฯประชุมกันมาหลายครั้ง แต่ไม่มีใครตัดสินใจ ทั้งๆ ที่วิธีการระบายน้ำทำไม่ยาก แค่ให้ระบายไปตามคลองรับน้ำ คลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำ ซึ่งไม่ได้ทำเลย กลับปล่อยไปตามยถากรรมลงในท่อระบายน้ำ และถนน บ้านเรือนประชาชน โดยไม่ได้วางแผนไว้เลย กรณีนิคมฯบางชันก็ปล่อยให้น้ำลงบึงกระเทียม และปล่อยให้ไหลเข้าท่อระบายน้ำ รอบนิคมฯและท่วมถนนในบริเวณนิคมฯ ซึ่งง่ายนิดเดียวที่น้ำจะไม่ท่วมไปในบ้านจัดสรร คือ การบล็อกน้ำไม่ให้เข้าสู่ท่อระบายน้ำ เพราะระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครใช้ระบายน้ำจากท่อระบายน้ำลงสู่คลอง ในทางกลับกันถ้าน้ำท่วม คือมาจากท่อระบายน้ำลงสู่ถนน ถ้าป้องกันไม่ให้น้ำคลองเข้าสู่ท่อระบายน้ำได้ ก็จะป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชน

    นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครไม่ได้เตรียมการเปิดปิดประตูระบายน้ำอย่างเหมาะสม ไม่มีการตรวจค่าระดับน้ำ เพื่อระบายน้ำสู่ระบบของกรุงเทพมหานคร เช่น อุโมงค์พระราม 9 และสถานีสูบน้ำพระโขนงทำให้ประชาชนหลังประตูระบายน้ำเดือดร้อนมากว่า 3 เดือนแล้ว และกรุงเทพมหานครก็ไม่เคยบอกข้อมูลที่แท้จริงของการเปิดประตูระบายน้ำ ให้เข้าสู่กรุงเทพมหานคร เช่น การเปิดประตูระบายน้ำหม้อแตก ประตูระบายน้ำหนองใหญ่ เพื่อให้น้ำจากคลองหกวาสายล่างเข้าสู่กรุงเทพฯ

    -http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144185-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .


    เปิดหลักเกณฑ์รับเงินชดเชยบ้านน้ำท่วม5,000บาท


    [​IMG]


    เปิดหลักเกณฑ์-เอกสาร-ขั้นตอนการขอรับเงินชดเชยกรณีบ้านน้ำท่วม 5,000บาทต่อครัวเรือนในพื้นที่ 30 เขต ของกรุงเทพฯ

    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พ.ย. มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) ครัวเรือนละ 5,000 บาท ในเขตกรุงเทพมหานครรวม 30 เขต จำนวน 6 แสนครัวเรือน

    <ins>สำหรับเอกสารเพื่อขอรับเงินชดเชย 5,000 บาท มีดังนี้</ins>

    1. บัตรประจำตัวประชาชน

    2. ทะเบียนบ้าน

    3. สัญญาเช่า หรือ หนังสือรับรองการเช่าจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น

    <ins>เงื่อนไขการรับเงินชดเชยน้ำท่วม มีดังนี้</ins>

    1. เป็นบ้านพักที่มีทะเบียนบ้าน อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร หรือพื้นที่ประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน แต่หากไม่มีทะเบียนบ้าน เช่น บ้านพักคนงาน ก็มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเช่นกัน

    2. หากเป็นบ้านเช่า ผู้เช่าจะได้รับเงินช่วยเหลือ ในกรณีที่บ้านเช่ามีหลายชั้น หรือคอนโดมิเนียมจะมีเพียงชั้นที่น้ำท่วมถึงเท่านั้นที่ได้รับเงินช่วยเหลือ

    3. ต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยจากสำนักงานเขตในสังกัด กทม.ออกให้เท่านั้น

    <ins>เขตที่เป็นพื้นที่ประสบภัย ประกอบด้วย</ins>

    1.เขตบางซื่อ 2.เขตดุสิต 3.เขตพระนคร 4.เขตสัมพันธวงศ์ 5.เขตสาทร
    6.เขตบางคอแหลม 7.เขตยานนาวา 8.เขตคลองเตย 9.เขตบางพลัด 10.เขตบางกอกน้อย
    11.เขตธนบุรี 12.เขตคลองสาน 13.เขตราษฎร์บูรณะ 14.เขตคลองสามวา 15.เขตมีนบุรี
    16.เขตหนองจอก 17.เขตลาดกระบัง 18.เขตดอนเมือง 19.เขตคันนายาว 20.เขตจตุจักร
    21.เขตตลิ่งชัน 22.เขตบางเขน 23.เขตบางแค 24.เขตภาษีเจริญ 25.เขตลาดพร้าว
    26.เขตวังทองหลาง 27.เขตสายไหม 28.เขตหนองแขม 29.เขตหลักสี่ 30.เขตทวีวัฒนา

    <ins>ขั้นตอนการจ่ายเงินช่วยเหลือ</ins>

    ขณะที่ ขั้นตอนการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีดังนี้

    1.หน่วยงานระดับท้องที่ เช่น ฝ่ายพัฒนาชุมชน ฝ่ายทะเบียน ให้ดำเนินการสำรวจรายชื่อและรับรองรายชื่อของผู้ประสบอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ ของตัวเอง

    2.ฝ่ายปกครองให้การรับรองความถูกต้อง

    3.ผู้อำนวยการสำงนักงานเขต ตรวจสอบข้อมูลและรับรองความถูกต้อง

    4.ปลัด กทม. ตรวจสอบข้อมูลและรับรองความถูกต้อง

    5.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย (มท.) ตรวจสอบข้อมูลและความซ้ำซ้อนของข้อมูลครัวเรือน จากนั้นส่งเรื่องให้ธนาคารออมสิน

    6.ธนาคารออมสินตรวจสอบตามระบบธนาคารและจ่ายเงินช่วยเหลือ

    7.จ่ายเงินให้กับผู้ประสบอุทกภัย


    [​IMG]


    -http://bit.ly/vpqPnw-

    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8.84/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1./120862/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A15-000%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-

    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    -------------------------------------------------------

    ชาว กทม.ยื่นเรื่องรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม 5,000 บาทได้แล้ว ที่สำนักงานเขต <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2554 12:12 น.</td></tr></tbody></table>

    กทม.แจ้ง ยื่นคำร้องรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม ครัวเรือนละ 5,000 บาท ได้ที่สำนักงานเขตตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ระบุดำเนินการแล้วเสร็จใน 45 วัน ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมรวม 32 เขต เตรียมออกประกาศเพิ่ม 2 เขต ได้แก่ บึงกุ่ม และบางบอน ส่วน 6 เขตน้ำท่วม ดอนเมือง บางพลัด ทวีวัฒนา คลองสามวา ตลิ่งชัน และบางแค ไม่สามารถให้บริการได้ แต่จะออกใบรับแจ้งเกิด-ตายใช้เป็นหลักฐานชั่วคราว

    <table align="Right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="200"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="200"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นายสมภพ ระงับทุกข์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> วันนี้ (10 พ.ย.) นายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามที่มีมติคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตระหว่างที่กำลังฟื้นฟูสภาพความเสียหาย และยังไม่สามารถประกอบอาชีพเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1.กรณีน้ำท่วม ถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และ 2.กรณีบ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ซึ่ง กทม.ได้ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้อำนวยการเขต และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยให้ประชาชนยื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ หรือสถานที่ที่สำนักงานเขต กำหนดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    นายสมภพกล่าวด้วยว่า เมื่อยื่นคำร้องแล้ว กทม.จะเร่งรัดตรวจสอบข้อมูล และรับรองความถูกต้อง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ภายใน 2 สัปดาห์ จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อตรวจสอบความถูก ต้อง แล้วส่งรายชื่อต่อไปยังธนาคารออมสินเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือต่อไป โดยจะต้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน

    “สำหรับ หลักฐานประกอบการแจ้งสิทธิ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ ได้แก่ รูปถ่ายบ้านน้ำท่วม สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือสัญญาเช่ากรณีเป็นบ้านเช่าอยู่อาศัย หนังสือรับรองของผู้ให้เช่า/หนังสือรับรองของประธานชุมชน และหนังสือมอบอำนาจกรณีผู้มีสิทธิไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองพร้อมสำเนา บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบ” นายสมภพกล่าว

    รองปลัด กทม.กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมตามประกาศกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยทั้งสิ้น 32 เขต ประกอบด้วย เขตบางซื่อ ดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย บางพลัด บางกอกน้อย ธนบุรี คลองสาน ราษฎร์บูรณะ คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ดอนเมือง คันนายาว จตุจักร ตลิ่งชัน บางเขน บางแค ภาษีเจริญ ลาดพร้าว วังทองหลาง สายไหม หนองแขม หลักสี่ ทวีวัฒนา ดินแดง และบางกอกใหญ่ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเสนอให้ออกประกาศเป็นพื้นที่ ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเฉพาะหน้าในพื้นที่กรุงเทพฯ อีก 2 เขต ได้แก่ เขตบึงกุ่ม และบางบอน

    นายศุภพงษ์ กฤษณพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการที่กรุงเทพมหานคร ได้ประสบกับปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ส่งผลให้สำนักงานเขตไม่สามารถให้บริการงานด้านทะเบียนได้ตามปกติ จำนวน 6 สำนักงานเขต ได้แก่ ดอนเมือง บางพลัด ทวีวัฒนา คลองสามวา ตลิ่งชัน และบางแค เพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้ประชาชนที่จะขอรับบริการด้าน การ ทะเบียนราษฎรเฉพาะกรณีการแจ้งการเกิด-การตาย สำนักงานเขตดังกล่าวจะออกหลักฐานใบรับแจ้งการเกิดหรือใบรับแจ้งการตาย สำหรับใช้เป็นหลักฐานเบื้องต้นก่อน เมื่อการให้บริการงานทะเบียนราษฎรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ตามปกติ จะแจ้งให้ประชาชน มารับสูติบัตรหรือมรณบัตรต่อไป

    ทั้งนี้ หากประชาชนไม่สามารถแจ้งการเกิดหรือการตายในท้องที่ที่เกิดหรือตายได้สามารถ แจ้งเหตุต่างท้องที่ได้ โดยนำหนังสือแจ้งการเกิดหรือแจ้งตายที่โรงพยาบาลออกให้ไปเป็นหลักฐานประกอบ ซึ่งแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งการเกิดหรือการตายต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ อื่น พ.ศ. 2551


    -http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144032-

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    หมอแนะสาวมีประจำเดือนใส่ผ้าอนามัยแบบสอดถ้าต้องลุยน้ำท่วม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2554 17:38 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG] [​IMG]


    หมอสูติฯห่วงสาวมีประจำเดือนที่ต้อง เดินลุยน้ำท่วมหรืออยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ควรรักษาความสะอาด และเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างสม่ำเสมอและทุกครั้งภายหลังการลุยน้ำลึก หรือใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเพื่อสุขอนามัยที่ดี สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำท่วมหรือใส่รองเท้ากางเกงกันน้ำ ได้จะดีที่สุด เพราะน้ำที่ท่วมขัง เป็นน้ำที่มีความสกปรกและมีเชื้อโรคปะปนอยู่ อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายผ่านทางอวัยวะสืบพันธุ์ของสาวๆ ได้อีกด้วย

    นพ. วิบูลย์ กมลพรวิจิตร สูตินรีแพทย์ ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือสุขภาพร่างกายของผู้หญิง เพราะว่าอวัยวะซ่อนเร้นล้วนแต่บอบบาง จึงอาจเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้ามาทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้โดยง่าย โดยเฉพาะน้ำที่ท่วมขังในในปัจจุบันมีความสกปรกและมีเชื้อโรคปะปนอยู่มากมาย ในจำนวนนั้นประกอบด้วย เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อโรคอื่นๆ การเดินลุยน้ำเป็นประจำไม่เพียงแต่ทำให้เกิดโรคผิวหนังในบริเวณที่สัมผัสกับ น้ำเท่านั้น แต่ยังทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายผ่านทางอวัยวะสืบพันธุ์และช่องทางเดินปัสสาวะ ของสตรี เพราะเป็นอวัยวะที่มีการติดเชื้อได้ง่าย ผู้ติดเชื้อเริ่มแรก จะมีอาการระคายเคืองบริเวณช่องคลอดหรืออวัยวะเพศ มีอาการตกขาวในปริมาณมาก มีสีและกลิ่นที่ผิดปกติ หรืปัสสาวะแสบขัดได้

    นพ.วิบูลย์ กล่าวถึง ดูแลตัวเองห่างไกลจากการติดเชื้อที่อวัยวะซ่อนเร้น ว่า หลัง เดินลุยน้ำ ควรชำระล้างร่างกายให้สะอาด โดยเฉพาะในบริเวณจุดซ่อนเร้น ควรล้างด้วยสบู่เหลวอ่อนๆ ชำระล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นซับให้แห้ง เพื่อลดความอับชื้น และเลือกสวมใส่ชุดชั้นในที่มีความโปร่งสบาย และระบายอากาศได้ดี หากเป็นไปได้ควรรองน้ำประปาทิ้งไว้ก่อนเพื่อลดปริมาณสารคลอรีนใช้เพราะในบาง พื้นที่อาจมีปริมาณสูงซึ่งอาจระคายเคืองต่อจุดซ่อนเร้น

    สูตินรีแพทย์ ยังเตือน ผู้หญิงที่มีประจำเดือนว่า การมีประจำเดือนก็เกิดการอับชื้น และรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัวอยู่แล้ว ยิ่งต้องเดินลุยน้ำในขณะที่มีประจำเดือนยิ่งรู้สึกไม่สบายตัวทั้งโอกาสที่ เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายก็มีมากกว่าปกติเนื่องจากปากมดลูกเปิดกว้างกว่า ช่วงปกติ เตือนว่า หากอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ควรรักษาความสะอาด และเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างสม่ำเสมอ หรือหากมีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำท่วมในช่วงที่มีประจำเดือน หากเป็นไปได้ควรเลือกใช้ผ้าอนามัยแบบสอด หรือหากใช้แบบแผ่นก็ให้เปลี่ยนทุกครั้งหลังลุยน้ำเพื่อสุขอนามัยที่ดีของตน เอง ร่วมทั้งต้องชำระล้างให้สะอาด เปลี่ยนกางเกงชั้นใน และเสื้อผ้า ทันที
    “สำหรับสตรีตั้งครรภ์ การเดินลุยน้ำอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำสกปรก อีกทั้งการเดินย่ำน้ำบริเวณที่มีน้ำขังหรือย่ำโคลน อาจทำให้ลื่นล้มได้ง่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างมาก แต่ถ้าต้องลุยน้ำอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็สามารถป้องกันเชื้อโรคที่มากับน้ำท่วมได้ด้วย การสวมชุดกันน้ำ หรือรองเท้าบู๊ท ในขณะที่ต้องเดินลุยน้ำ เพื่อให้อวัยวะในร่างกายสัมผัสกับน้ำได้น้อยที่สุด ซึ่งจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโรคได้ บางรายอาจมีความจำเป็นต้องย้ายโรงพยาบาลเพื่อฝากท้องหรือคลอดเนื่องจากน้ำ ท่วมจึงควรเตรียมข้อมูลต่างๆ เช่น ประวัติการฝากครรภ์ ผลอัตราซาวนด์ และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ให้พร้อมและติดตัวไว้ เพื่อให้การตั้งครรภ์และการคลอดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัยทั้งแม่และลูก” สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าว

    "นพ. วิบูลย์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินชีวิตในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม จะทำให้ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ อันเนื่องมาจากการคมนาคมที่ไม่สะดวก จึงต้องกลั้นปัสสาวะบ่อยครั้ง และเป็นเวลานาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบขึ้นได้เช่นเดียวกับการลุยน้ำ การป้องกันที่สามารถทำได้คือปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนการเดินทางและไม่ควร กลั้นปัสสาวะนานจนเกินไป อย่างไรก็ตามภาวะน้ำท่วม เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณผู้หญิงจึงต้องปฏิบัติตัวเพื่อเตรียมพร้อมและตั้งรับ โดยการดูแลสุขภาพกายและใจของตนเองให้ดีอยู่เสมอ เพื่อที่จะดำรงชีวิตในช่วงวิกฤตน้ำท่วมได้อย่างปกติสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ


    -http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144237-

    .
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เรื่องของฤกษ์งามยามดี ผมก็ไม่เข้าใจว่า ไปเล็งเห็นว่าตัวเลข 11.11.11 เวลา 11.11 น. ดีหรือยังไง หรือเห็นว่าของแปลกที่มีวันเดียวในรอบพันปี ทั้งๆที่วันนี้เป็นโจโรฤกษ์(ฤกษ์โจร) คู่แต่งงานก็ล้วนเป็นลูกสาว ลูกชายนักการเมือง ผู้มีชื่อ หนำซ้ำทางจีนก็ยังมีผู้เลือกจะคลอดวันนี้อีกต่างหาก หนุ่มสาวแต่งงานในฤกษ์โจร ทารกคลอดในฤกษ์โจร อีกไม่นานเราทั้งหลายคงจะได้ยิน"ข่าวคาว" กัน เมื่อทดลองลองวางดวงชะตาของบุคคลที่เกิดในวันนี้แล้ว พบว่า ดีก็มี(ดาว 5/7) ร้ายก็มี(2/7มฤตยู และอังคาร) มีดาวมฤตยูอยู่เป็นแกนหลักในดวงชะตาแบบนี้ยังจะเลือกอีกก็ช่วยไม่ได้แล้ว ทางเดินของภพส่วนใหญ่จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ครูบาอาจารย์ที่สอนโหราศาสตร์นี้บอกว่า ขั้นสูงของวิชานี้สามารถบอกภพภูมิที่มา ที่ไปของดวงชะตาได้ว่ามาจากไหน และน่าจะมีทางไปเป็นที่ใด ท่านเคยถ่ายทอดไปเพียง ๒ ท่าน ล้วนแล้วแต่เป็นเพศบรรพชิต เพราะเหตุผลของการป้องกันไม่ให้อธรรมนำไปหาประโยชน์บนความรู้ที่ไม่เท่าการณ์ของผู้ทำนาย ศิลปะการเลือกฤกษ์ยามเพื่อความสุข ความราบรื่นของชีวิตจะเลือกเอาตามใจ เอาความแปลกไม่ได้ครับ การแต่งงานถือว่าเป็นการร่วมหอลงโลงเดียวกันกลับใช้ฤกษ์โจร เมื่อเห็นรายชื่อบุคคลที่ใช้ฤกษ์ยามนี้จึงไม่รู้สึกสงสัยครับ..

    -“เอม” ไม่กลัวน้ำ ถือฤกษ์ 11/11/11 หมั่น-แต่งงาน สุดสวีต “โอ๊ค”พี่ชายโพสต์รูปสุดไฮโซ ญาติผู้ใหญ้คึกคักตามประเพณีนิยมไทยผสมจีน แต่ไม่มี “ยิ่งลักษณ์” ที่ติดภารกิจ เปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่นครพนม

    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 11 เดือน 11 ปี ค.ศ.2011 ที่โรงแรม สวิส โฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ ได้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานระหว่าง น.ส.พิณทองทา ชินวัตร หรือ เอม บุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ กับ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ หรือ พงศ์ ซึ่งนายพานทองเเท้ ชินวัตร พี่ชายของ น.ส.พิณทองทา ได้โพสต์ภาพบรรยากาศงานหมั้นดังกล่าวพร้อมภาพของ น.ส.แพรทองธาร น้องสาว ในหน้าเฟซบุกส่วนตัวด้วย

    สำหรับงานหมั้นและแต่งงานครั้งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.39 น. ฝ่ายเจ้าสาวมีคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา นายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นญาติผู้ใหญ่ โดยงานดังกล่าวจัดเป็นส่วนตัว ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าว โดยมีเครือญาติมาร่วมงานประมาณ 200 คน แต่ไม่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรีคนใดมาร่วมงาน มีเพียง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และพี่น้องตระกูลชินวัตร

    รายงานข่าวแจ้งว่า พิธีหมั้นและแต่งงานครั้งนี้ได้จัดตามฤกษ์และตามดวงเจ้าบ่าวเจ้าสาว เป็นไปอย่างเรียบง่ายตามประเพณีนิยมไทยผสมจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการครองชีวิตคู่ โดยมีพิธีหลั่งน้ำสังข์ในเวลา 12.10 น. ส่วนงานฉลองสมรสจะจัดขึ้นวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ และรอยัล เมอริเดียน

    ทั้งนี้ เป็นที่จับตาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอวยพรให้ลูกสาวและลูกเขยด้วยวิธีใด จะโดยผ่านสไกป์หรือวีดีโอลิงค์ หรือในรูปแบบอื่น ๆ

    อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่วางแผนจัดพิธีหมั้นที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 แต่เนื่องจากเกิดปัญหาน้ำท่วม จึงเปลี่ยนสถานที่จัดงาน และลดขนาดการจัดงานลง ส่วนพิธีฉลองมงคลสมรสมีขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค. ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เช่นเดิม ทั้งนี้ ในพิธีหมั้นของ น.ส.พินทองทา นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้เป็นอา ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย เนื่องจากติดภารกิจ ต้องไปเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ที่จังหวัดนครพนม

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณืน้ำท่วมไปทั่วกรุงเทพฯ ทำให้บ่าวสาวหลายคู่ได้ยกเลิกงานแต่งและงานหมั่นเป็นจำนวนมาก แม้บางคู่จะกำหนดฤกษ์แล้วด้วย เช่น บุตรสาวของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ก็ต้องเลื่อนงานแต่งงานไปเป็นปีหน้า เป็นต้น

    "แม้ว"วิดีโอลิงก์อวยพรงานแต่งลูกสาว

    ต่อมา มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงก์เข้ามาอวยพรในงานมงคลสมรสของลูกสาว โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งได้กล่าวให้กำลังใจ พร้อมสอนแนวทางการใช้ชีวิตในการครองเรือน สรุปใจความสำคัญได้ว่า ความรักคือการเสียสละและต้องปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งทำให้ทั้งคู่มีอาการตาแดงคล้ายจะร้องไห้เพราะความซาบซึ้ง

    ด้านนายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรส น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีไม่มีความเครียดในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแล้ว และได้โทรศัพท์เข้ามาอวยพรให้หลานมีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิตการครองเรือน และไม่ได้มีของขวัญอะไรให้เป็นพิเศษ แต่จะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงฉลองในวันที่ 12 ธันวาคม และคาดว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณเร็วๆ นี้
    [​IMG]


    นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลูกชาย พล.ต.สนั่น และนางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ เข้าพิธีมงคลสมรสกับ น.ส.สิชา อัญชนานันท์ ลูกสาวของนายวิชัย และนางธัญชนก อัญชนานันท์ โดยทั้งคู่ถือฤกษ์สวมแหวนหมั้นในเวลา 09.09 น. และทั้งคู่ได้ถือฤกษ์มงคลในเวลา 11.11 น. ทำการจดทะเบียนสมรส ที่บ้านขจรประศาสน์ สนามบินน้ำ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554
    [​IMG]
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    แต่งตัวลุยน้ำ กางเกงผ้าแห้งเร็ว และชุดเอี๋ยมสู้น้ำท่วม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2554 10:23 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>

    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">กางเกงผ้าแห้งเร็ว ใน 5-10 นาที</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> จากสถานการณ์น้ำท่วม หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของผู้ประสบภัย รวมถึงผู้ไม่ประสบภัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเตรียมเครื่องแต่งกาย เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราคงจะไม่ได้อยู่ในบ้านได้ทุกวัน จำเป็นต้องออกไปลุยน้ำ เพื่อไปทำงาน สำหรับพนักงานประจำ หรือคนทั่วไป ที่ต้องออกไปทำมาหากิน

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> กางเกงผ้าแห้งไว และ ผ้ากันน้ำ

    สำหรับเครื่องกายที่เหมาะสมในช่วงนี้ มีออกมาในหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้น คือ กางเกงผ้าแห้งไว กางเกงผ้ากันน้ำ อย่างไรก็ตาม กางเกงผ้าที่กล่าวมาข้างต้นก็คงจะกั้นน้ำไม่ได้ 100% ดังนั้น เราก็จำเป็นจะต้องสวมกางเกงพลาสติกกันน้ำท่วม จากการสำรวจตลาดได้พบว่า กางเกงผ้าแห้งไว กางเกงผ้ากันน้ำ ที่กลุ่มนักเดินป่า นิยมกัน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมให้ความสนใจ และซื้อสวมใส่กันในช่วงนี้

    “บรินทร์ ใจอุตม์” เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ขายกางเกงผ้าแห้งไว และกางเกงผ้ากันน้ำ ที่ใช้สำหรับการเดินป่า เล่าว่า กางเกงทั้ง 2 แบบที่เธอขาย เป็นกางเกงมือสองแบรนด์เนมที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าเป็นกางเกงใหม่ราคาตัวหนึ่งหลายพันบาท ซึ่งบางครั้งลูกค้ามองว่าสูงเกินไป จึงหันมาซื้อกางเกงมือสองจากเรา โดยเราจะคัดเลือกกางเกงที่คุณภาพต้องสมบูรณ์แบบ 80% ราคาอยู่ที่ 500 บาทถึง 700 บาท แล้วแต่สภาพ ยี่ห้อก็จะต้องเป็นยี่ห้อดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี Columbia, Airwalk ,VANS เป็นต้น

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สำหรับช่องทางการขาย ขายผ่านทางเว็บไซต์เป็นหลัก แหล่งรับสินค้ามาจากทางสิงคโปร์ และผ่านมาทางมาเลเซีย โดย บ้านอยู่ที่จังหวัดยะลา ก็จะง่ายในการที่จะนำสินค้ามาขาย ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง โดยส่งสินค้าทางไปรษณีย์เป็นหลัก ซึ่งยอดการสั่งซื้อต่อวันประมาณ 2,000 บาทถึง 3,000 บาท กางเกงจะมีหลายรูปแบบตามแฟชั่น ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะเป็นผู้ชาย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> โดยลักษณะของกางเกงผ้าแห้งไว ผ้าภายในซับด้วยผ้าพรีช เอวจะมีเข็มขัดล็อค ปลายขามีสายปรับขนาดได้ ถอดได้ 2-3 ชั้น ส่วนกางเกงผ้ากั้นน้ำ จะเป็นกางเกงที่ต่างประเทศใช้สำหรับเล่นหิมะ ซึ่งภายในจะซับตาข่าย ปลายขา 2 สั้น มีตัวล็อคปลายขา กั้นน้ำเข้าอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กางเกงทั้ง 2 แบบไม่เหมาะกับการแช่ หรือลุยน้ำท่วมนาน แต่ถ้าใส่ลุยน้ำมีคุณสมบัติเพียงแค่แห้งเร็ว ภายใน 5-10 นาที และด้วยรูปแบบทำให้สามารถสวมใส่ในชิวิตประจำวันได้

    บรินทร์ เล่าว่า เธอได้ทำธุรกิจดังกล่าวมาได้ประมาณ 3 ปี เริ่มต้นมาจากสามีชอบการเดินป่า และชื่นชอบการสวมใส่กางเกงแบบนี้ แม้ในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้เดินป่าจะสวมใส่ เพราะสวมใส่สบาย และสามีเริ่มธุรกิจตัวนี้ก่อน เป็นรายได้เสริมจากการทำงานประจำ และตัวเองก็มารับทำงานตรงนี้ต่อ ปัจจุบันทำเป็นรายได้เสริมเช่นกัน

    **** โทร.08 -1897-6455 *****



    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นิภาพันธ์ รัตนรังสรรค์ เจ้าของชุดเอื๋ยมสู้น้ำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    กางเกงเอี๋ยมลุยน้ำ ชุดหมีสู้น้ำท่วม

    จากสถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในครั้งนี้ สิ่งที่น่ากลัว ก็คงจะเป็นสภาพน้ำที่เน่าเสีย และเต็มไปด้วยเชื้อโรค และสัตว์มีพิษ เป็นอันตรายต่างๆ ที่มาพร้อมกับน้ำ ดังนั้น ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุด คือ ชุดกันน้ำ ทำให้เราได้เห็นกางเกงกั้นน้ำหลากสีสัน และหลายรูปแบบนำออกมาจำหน่าย

    สำหรับกางเกงเอี๋ยมลุยน้ำ เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เป็นผลงานการออกแบบและตัดเย็บของ “นิภาพันธ์ รัตนรังสรรค์” โดยทำงานร่วมกับทางโรงงานแห่งหนึ่ง ทำ ชุดดังกล่าว ออกมาขาย โดยตั้งใจว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้มีทางเลือก ในการสวมใส่ชุดป้องกันและลุยน้ำท่วมออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย จากสัตว์อันตรายที่มากับน้ำ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="388"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="388"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> โดยเป็นกางเกงลุยน้ำ ที่ทำจากวัสดุพลาสติก PVC ใส ซึ่งมีคุณสมบัติ เนื้อจะหนากว่าพลาสติกทั่วไป เหนียว และทน โดยจะออกแบบให้มีสายคล้องไหล่ ช่วยยึดไว้ทำให้ไม่ต้องกลัวหลุดเวลาออกไปลุยน้ำ ช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัวและเดินสบายไม่ติดขัดเวลาเดินลุยน้ำ โดยนำไปสวมใส่กับชุดทำงานอีกที่หนึ่ง ขนาดเป็นขนาดFree size โดยกว้าง 40 นิ้ว สูง 130 เซนติเมตร สามารถสวมใส่ได้ทั้งคนอ้วน ผอม สูง เตี้ย ราคาขาย 400 บาท

    นิภาพันธ์ เล่าว่า เธอได้ตัดเย็บชุดดังกล่าวมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากตนเองป๋วยมีบาดแผลที่ขา ถ้าเกิดน้ำท่วมกลัวว่า จะกระทบกับบาดแผลดังกล่าวอย่างแน่นอน จึงได้ลองออกแบบและทำชุดดังกล่าวออกมา โดยพยายามออกแบบให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเวลาออกไปลุยน้ำจริงบางครั้งมือต้องถือของออกแบบเป็นเอี๋ยมช่วยให้ไม่ ต้องคอยกังวลกับมือคอยจับชุด ส่วนความสามารถในการกันน้ำนั้นประมาณ 90-95%

    ส่วนช่องทางการขายผ่านทางเว็บไซต์เป็นหลัก . ปัจจุบันขายได้ไม่มากเท่าไหร่นัก เพราะทำออกมาช้า ลูกค้ามาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก และผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยลูกค้าสามารถมารับสินค้าเอง ได้

    ***** โทร.08-1620-9015,08-1686-4065 ****** </td></tr></tbody></table>



    -http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9540000143928-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    คปภ.ผนึกสภาอุตฯเร่งบ.ประกันจ่ายสินไหม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2554 16:11 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG] [​IMG]


    คปภ.ผนึกสภาอุตสาหกรรมไทย เร่งหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ดูแลการจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่เสียหาจากน้ำท่วมให้เร็วที่สุด พร้อมแจงอัตราดอกเบี้ยประกันอาจปรับตัวสูงขึ้น เหตุรีอินชัวเรอร์ยังรอความชัดเจนเรื่องค่าเสียหาย

    นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผย ภายหลังการหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่าที่ประชุมได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยพบว่าสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลในขณะนี้มี 2 ประการหลักๆ คือ การประเมินมูลค่าความเสียหายที่อาจมีความล่าช้าเนื่องผู้ได้รับความเสียหาย มีจำนวนมาก และแนวโน้มเบี้ยประกันภัยที่อาจปรับตัวสูงขึ้นรวมถึงบริษัทประกันภัยบางแห่ง ไม่รับต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย

    ทั้งนี้แนวทางหนึ่งในการเร่งกระบวนการชำระค่าสินไหมทดแทนคือการเพิ่ม บุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและเหมาะสมเป็นผู้ประเมินความเสียหายอาทิ เช่น คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันการศึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิในสมาคมวิชาชีพ อาทิเช่น สมาคมวิศวกรรมสถาน สมาคมสถาปนิก ฯลฯ

    โดยสำนักงาน คปภ.จะปรับหลักเกณฑ์ให้ผู้ทรงวุฒิเหล่านี้สามารถเป็นผู้ประเมินความเสียหาย ในทรัพย์สินจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากผู้ประเมินที่ขึ้นทะเบียนอยู่กับสำนักงาน คปภ. อยู่ก่อนแล้ว ทั้งนี้สำนักงาน คปภ.จะร่วมหารือกับสมาคมประกันวินาศภัย ผู้ประเมินความเสียหาย และผู้ทรงคุณวุฒิข้างต้น เพื่อกระจายงานสำรวจความเสียหายและลดการกระจุกตัวของการเข้าไปสำรวจภัยใน พื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยให้บริษัทประกันภัยมีบุคคลากรที่เพียงพอในการประเมินความเสียหาย เพื่อจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้เร็วขึ้น

    สำหรับกรณีที่เบี้ยประกันภัยปรับตัวสูงในช่วงนี้เป็นผลจากภาพรวมความ เสียหายที่เกิดขึ้นและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆยังไม่สิ้นสุด เราต้องเร่งรัดการให้ความชัดเจนในมาตรการบริหารความเสี่ยงอุทกภัยของภาครัฐ และเอกชนตลอดจนผู้เอาประกันภัยต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับประกันภัยในประเทศและผู้รับประกันภัยต่อใน ต่างประเทศ

    นายประเวช กล่าวต่อว่า การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย แนวทางหนึ่งคือการจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัย (sub limit) สำหรับอุทกภัย กล่าวคือ ในอดีตอุทกภัยในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงมีความเสี่ยงที่ต่ำมากและมีการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยที่ต่ำมากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาวการณ์แข่งขันกันของบริษัทประกันวินาศภัย ผู้ขายอยากขาย แต่ก็มีผู้ซื้อไม่มากนัก ในขณะเดียวกันจำนวนทรัพย์สินที่เอาประกันภัยก็เป็นการประกันภัยทรัพย์สินแบบ เต็มจำนวน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนทรัพย์สินที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย โดยทั่วไปแล้ว เป็นพียงส่วนหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมด อาทิเช่น เมื่อน้ำลดแล้ว ตัวโรงงาน อาคาร บ้านเรือนยังอยู่ ความเสียหายเป็นเพียงสัดส่วนจำนวนหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมด

    ทั้งนี้เมื่อเกิดภัยขึ้นในวงกว้างและรุนแรง ลักษณะการทำประกันภัยอุทกภัยเช่นในอดีตทำให้การต่ออายุประกันภัยไม่สามารถ เดินหน้าต่อไปได้ ปัญหาในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับอุทกภัยทำให้ภัยอื่นๆ ที่ไม่ใช่อุทกภัยไม่ได้รับความคุ้มครองไปด้วย การกำหนด Sub limit สำหรับอุทกภัย เป็นการจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัย เฉพาะเหตุอุทกภัยในจำนวณหรือสัดส่วนที่เหมาะสมตามแต่จะตกลงกัน เพื่อให้การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยดำเนินต่อไปได้ ทั้งนี้มาตรการบริหารความเสี่ยงของผู้เอาประกันภัยเองก็ถือว่าเป็นปัจจัย สำคัญอย่างหนึ่งในการกำหนดสัดส่วนทรัพย์สินเอาประกันที่เหมาะสม

    "สำนักงาน คปภ.พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และตระหนักดีว่าหากภาคอุตสาหกรรมได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวดเร็วเท่าใด ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้นเท่านั้น ดังนั้นสำนักงาน คปภ.และภาคธุรกิจประกันภัยจึงได้มีแผนเชิงรุกร่วมกันในการเข้าไปช่วยเหลือ ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมถึงพื้นที่ที่มีการกระจุกตัวของผู้ได้รับความเสียหาย นิคมอุตสาหกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ด้วยการจัดตั้งศูนย์“ประกันภัยร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” เพื่อรับแจ้งเหตุ และให้คำแนะนำการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน อีกทั้งได้เปิดสายด่วนประกันภัย 1186 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ" นายประเวชกล่าว

    ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เราสนับสนุนการเพิ่มบุคลากรผู้ประเมินความเสียหายให้เพียงพอ เพื่อที่จะสามารถเร่งรัดการชำระค่าสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วย เหลือผู้ได้รับความเสีย อีกทั้งการจัดให้มี sub limit สำหรับอุทกภัย ก็เป็นมาตรการสมเหตุสมผลในทางปฏิบัติ ทั้งนี้ ส.อ.ท. ขอให้ สำนักงาน คปภ.และภาคธุรกิจประกันภัย จัดส่งคู่มือประกันภัยสำหรับผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัย เพื่อสร้างความเข้าใจในกระบวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่ชัดเจนด้วย



    -http://www.manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144184-
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 25ปีแห่งความสำเร็จ กับผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


    อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 25ปีแห่งความสำเร็จ กับผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ท่านเซอร์ อเล็กซ์ หรือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือ ปีศาจแดง แมนยูฯ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้คุมทีมแมนยูฯ มาครบ 25ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายแถม อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์มาทุกแชมป์แล้วก็ว่าได้วันนี้เลยจะนำเอา ภาพอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่อยุ่คุมทีม แมนยู 25 ปี มาประมวลให้เหล่าบรรดา เร้ดอาร์มี่ ทั้งหลายได้ชื่นชมกัน

    -http://play.kapook.com/photo/show-119743-

    .


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    -http://play.kapook.com/photo/show-119743-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • alex1.jpg
      alex1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      194.8 KB
      เปิดดู:
      66
    • alex2.jpg
      alex2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      500.5 KB
      เปิดดู:
      73
    • alex3.jpg
      alex3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      277.6 KB
      เปิดดู:
      58
    • alex4.jpg
      alex4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      315.7 KB
      เปิดดู:
      90
    • alex5.jpg
      alex5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      331.8 KB
      เปิดดู:
      71
    • alex6.jpg
      alex6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      358 KB
      เปิดดู:
      75
    • alex7.jpg
      alex7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      347.8 KB
      เปิดดู:
      59
    • alex8.jpg
      alex8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      294.4 KB
      เปิดดู:
      82
    • alex9.jpg
      alex9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      240.1 KB
      เปิดดู:
      96
    • alex10.jpg
      alex10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      307.6 KB
      เปิดดู:
      57
    • alex11.jpg
      alex11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      241 KB
      เปิดดู:
      58
    • alex12.jpg
      alex12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      430.9 KB
      เปิดดู:
      56
    • alex13.jpg
      alex13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      296.1 KB
      เปิดดู:
      62
    • alex14.jpg
      alex14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      344 KB
      เปิดดู:
      63
    • alex15.jpg
      alex15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      455.6 KB
      เปิดดู:
      55
    • alex16.jpg
      alex16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      287.2 KB
      เปิดดู:
      50
    • alex17.jpg
      alex17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      370.1 KB
      เปิดดู:
      59
    • alex18.jpg
      alex18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      58
    • alex19.jpg
      alex19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      349.9 KB
      เปิดดู:
      58
    • alex20.jpg
      alex20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      353 KB
      เปิดดู:
      43
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    พื้นที่น้ำทรง-น้ำลด


    เผยระดับน้ำใน อยุธยา-ปทุมธานี-นนทบุรีและกรุงเทพมหานคร หลังโดนน้ำท่วมนานนับเดือน


    [​IMG]



    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1./121124/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%94-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ค่าซ่อมบ้าน หลังน้ำลด

    อเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์สวิเคราะห์ความเสียหายและอัตราค่าซ่อมบ้านหลังน้ำลด ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ราคาค่าก่อสร้างอาคารธรรมดา เช่น บ้านเดี่ยวตึก 2 ชั้น ราคาตารางเมตรละ 11,400 บาท ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นหน้ากว้าง 4 เมตร เป็นเงินตารางเมตรละ 8,600 บาท ขณะที่อาคารพาณิชย์ 4 ชั้นราคา 7,200 บาทต่อตารางเมตร ส่วนห้องชุดราคาถูกหรืออพาร์ตเมนท์สูงไม่เกิน 5 ชั้น ราคาค่าก่อสร้างตารางเมตรละ 12,500 บาท ส่วนราคาค่าก่อสร้างที่แพงที่สุดคงเป็นอาคารที่จอดรถส่วนใต้ดิน 3-4 ชั้น จะตกเป็นเงินถึง 26,900 บาทต่อตารางเมตร ส่วนอาคารสำนักงานธุรกิจ 21-35 ชั้น ราคาตารางเมตรละ 24,300 บาท ทั้งนี้ราคาข้างต้นเป็นราคาปานกลาง ในกรณีอาคารที่มีรายละเอียดพิเศษ ย่อมมีราคาที่สูงหรือต่ำกว่านี้

    [​IMG]


    ในช่วงปี 2553-2554 ราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ประมาณ 3-5% เท่านั้น ที่เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ คงเป็นอาคารที่จอดรถเป็นสำคัญ เพราะมีราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 7.0-7.4% รวมทั้งสนามเทนนิสที่ราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 7%

    หากพิจารณาการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วง 5 ปี (พ.ศ.2549-2554) พบว่า ค่าก่อสร้างเพิ่มสูงสุดในกรณีของอาคารไม้ ซึ่งปัจจุบันคงมีการก่อสร้างน้อยมาก โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 35% หรือตกเป็นประมาณ 6% ต่อปี ทั้งนี้เนื่องจากไม้เป็นทรัพยากรที่หายากขึ้นในระยะหลังนี้ ส่วนที่เพิ่มขึ้นต่ำมากเป็นพิเศษได้แก่ ทาวน์เฮาส์ 2-3 ชั้นหน้ากว้าง 4 เมตร หรือ 5-6 เมตรมีเสากลาง รวมทั้งอาคารพักอาศัยไม่เกิน 5 ชั้น และอาคารชุดพักอาศัย 16-25 ชั้น ที่เพิ่มขึ้นเพียงปีละ 2.2% เท่านั้น

    หากเทียบในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า อาคารที่เพิ่มค่าก่อสร้างน้อยที่สุดก็คือ ทาวน์เฮาส์ 2-3 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร และ อาคารพาณิชย์ชั้นเดียว โดยเพิ่มขึ้นเพียง 48% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนที่เพิ่ม่ขึ้นมากที่สุดได้แก่อาคารที่มีไม้มากเป็นพิเศษ เช่น บ้านเดี่ยวหรือบ้านแถวไม้ รวมทั้งบ้านไม้ใต้ถุนสูง แต่เป็นสินค้าที่มีการก่อสร้างน้อยมากในปัจจุบัน และหากเทียบระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2539-2554) ก็จะพบว่า แทบทุกกลุ่มมีราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดก็คงเป็น อาคารไม้ 133% ส่วนอาคารทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวเพิ่มขึ้นต่ำสุดคือ 83%

    อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ราคาที่อยู่อาศัยที่ขายในตลาดมีราคาเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1 เท่าตัว ดังนั้นแสดงให้เห็นว่ามูลค่ายังเพิ่มมากกว่าต้นทุนค่าก่อสร้าง โดยนัยนี้แสดงว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพที่ดี ยังมีความต้องการอสังหาริมทรัพย์อยู่ในท้องตลาด

    ปกติในกรณีบ้านเดี่ยวตึก ราคาค่าก่อสร้างจะเป็นประมาณ หนึ่งในสามของมูลค่าบ้าน อีกสองในสามเป็นค่าที่ดิน ค่าดำเนินการ ภาษี ดอกเบี้ย กำไร เป็นต้น เช่น บ้านเดี่ยวหลังละ 3 ล้านบาท ค่าก่อสร้างอาคารจะเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท เป็นต้น ในกรณีที่บ้านถูกน้ำท่วม อาคารที่ประกอบด้วยงานโครงสร้างคงไม่ได้รับผลกระทบ แต่ที่ได้รับผลกระทบคงเป็นงานสถาปัตยกรรม-ตกแต่ง และงานระบบประกอบอาคาร โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ในชั้นล่างของอาคาร

    อนึ่ง ราคาค่าก่อสร้างนี้เป็นราคาที่คำนวณใช้ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ ห้วงกลางปีของทุกปีเป็นสำคัญ ในกรณีพื้นที่อื่นที่มีค่าแรง ค่าวัสดุ ค่าขนส่ง ฯลฯ แตกต่างไปจากนี้ ก็สามารถปรับราคาให้เหมาะสมกับความเป็นจริงได้


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94/121159/%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%94-

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    น้ำท่วมบ้าน ประกันจ่ายไหม?


    สมาคมประกันวินาศภัยแนะลูกค้าโครงการบ้านจัดสรรตรวจสอบเงื่อนไข การประกันที่อยู่อาศัย และเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบ.ประกันภัยได้ กรณีครอบคลุมภัยน้ำท่วม


    นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า ผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเสียหายด้านที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์น้ำท่วม ควรให้ความสำคัญกับการศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ ทำไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้เอาประกันภัยในช่วงที่ยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย จากทางธนาคารต่างๆ เนื่องจากในช่วงที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม หลายคนอาจมีความกังวลใจในเรื่องต่างๆ จนอาจลืมมองข้ามสิทธิด้านการประกันภัยที่อยู่อาศัยที่ได้ทำไว้



    [​IMG]


    “เมื่อเกิดกรณีน้ำท่วม ควรตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยทุกชนิดที่มีอยู่ เช่น กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย และเก็บไว้ในที่ปลอดภัย อนึ่งหากกรมธรรม์นั้นหายไปหรือหาไม่พบและไม่ทราบว่าประกันภัยไว้กับบริษัท ประกันภัยใด ก็สามารถติดต่อที่สมาคมประกันวินาศภัยที่ 0-2256-6032-6 ได้โดยสมาคมจะทำการประสานหาข้อมูลบริษัทประกันภัยให้



    กรณีที่อยู่อาศัยเกิดความเสียหายควรแจ้งบริษัทประกันภัยทราบในทันทีเท่า ที่สามารถจะกระทำได้ หรือหากไม่สามารถแจ้งบริษัทประกันภัยได้ทันทีที่เกิดเหตุ ให้ถ่ายรูปความเสียหายไว้ โดยกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์มือถือ เก็บไว้เป็นหลักฐานและแจ้งการเกิดเหตุไปยังบริษัทประกันภัยภายหลังโดยเร็ว ที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ ทั้งนี้การขอเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ต้องขึ้นอยู่กับภัยที่กรมธรรม์ให้การคุ้มครองและเงื่อนไขรวมทั้งขอบเขตความ คุ้มครองของบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัทด้วย” นายจีรพันธ์ กล่าว


    นอกจากนี้ยังแนะนำว่า สำหรับที่อยู่อาศัย กรณีที่ทำประกันอัคคีภัยและมีเอกสารแนบท้ายคุ้มครองภัยน้ำท่วม แสดงว่ามีความคุ้มครองความเสียหายของตัวบ้านที่ทำประกันภัยไว้ ซึ่งต้องดูว่าเงื่อนไขรายการทรัพย์สินที่เอาประกันภัยระบุครอบคลุมถึงอะไร บ้าง อาทิ สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร รวมเฟอร์นิเจอร์หรือไม่ (แต่ไม่คุ้มครองทรัพย์สินมีค่าหรือพวกเงินทองฯลฯ) โดยเงื่อนไขความคุ้มครองอาจจะแยกมูลค่าทุนประกันภัยของสิ่งปลูกสร้างตัว อาคาร กับเฟอร์นิเจอร์ออกจากกัน



    ส่วนการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วม เมื่อได้สำรวจรายการทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเรียบร้อยแล้ว เจ้าของบ้านสามารถหา บริษัทผู้รับเหมาเพื่อทำการประเมินราคาค่าซ่อมแซมและนำเสนอบริษัทประกันภัย ให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป ซึ่งผู้เอาประกันและบริษัทประกันภัยอาจมีการเจรจากันอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะ มีการตกลงค่าสินไหมทดแทนที่เป็นจริง


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94/121163/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1--

    .
     
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เจ้าหน้าที่ระดับล่างๆที่ทำงานระดับปฏิบัติงานหากกระทำผิด เป็นความผิดซึ่งหน้า แก้ตัวลำบาก ถูกคาดโทษ ลงฑัณฑ์ทันที แต่คนทำงานระดับนโยบาย กว่าจะรู้ความผิด ก็เป็นความเสียหายที่มหาศาล ผิดมหันต์ แล้วแก้ตัวให้หลุดรอดความผิดไปได้ อ้างว่าน้ำมาก อ้างว่าเครื่องสูบน้อย ทั้งๆที่หากค่อยๆปล่อยน้ำจะไม่เสียหายขนาดนี้ ไม่ต้องสั่งเครื่องสูบมามากมายขนาดนั้น ขนาดไปสั่งเครื่องสูบจาประเทศจีนมาอีก 200 กว่าตัว ผู้เชี่ยวชาญเนเธอร์แลนด์ก็แนะนำว่า เครื่องสูบน้ำที่ใช้อยู่ยังใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็แนะนำว่าให้ใช้การซ่อมแซม และการขุดลอกคูคลองเพิ่ม ได้เห็นการตัดสินใจ การทำงานของข้าราชการพวกนี้แล้วประชาชนอย่างพวกเราก็รู้สึกเหนื่อยแทน เพราะผลงานอย่างนี้นี่เองที่ทำให้พระเจ้าอยู่หัวไม่สบายพระทัย มอบอำนาจบริหารให้ดูแลต่างพระเนตรพระกรรณกลับทำงานห่วยแตกแบบนี้ ทำให้พระองค์ท่านกังวลพระทัยจนประชวรถ่ายเป็นเลือด ข้าราชการพวกนี้ตาย ๗ ชั่วโคตรยังไม่สาสมความผิด ไม่มีความสามารถแล้วยังขันอาสาดันทุรังทำทั้งๆที่ไม่มีความรู้ โดยเนื้อแท้ของการเลือกตั้งไม่ได้บอกว่า เขาเหล่านั้นทำงานเป็น คนทำงานเป็นกลับไม่มีอำนาจสั่งการ เช่นดร.เสรี ดร.สมิท คุณปราโมทย์ ฯลฯ ต้องไปรับคำสั่งจากคนเหล่านี้ที่มีอำนาจกำหนดชะตากรรมของบ้านเมือง ข้าราชการต้องทำการบ้านมากกว่านี้ มีซักกี่ท่านที่เคยไปค้นพระบรมราโชวาทมาอ่านมาทบทวน เข้าเฝ้าแต่ละครั้งแต่งตัวโก้หรู ทำหูทวนลม ไม่ได้เข้าใจพระกระแสรับสั่งอย่างแท้จริงแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา น่าจะทบทวนบทบาทหน้าที่ว่าได้ทำหน้าที่ให้สมกับที่พระองค์ท่านได้ทรงไว้วางพระราชหฤทัยหรือไม่...

    </DD>
    <DD>

    </DD></TD></TR></TBODY>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2011
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948

    อ่า ผมว่าต้องแก้ไขทั้งระบบครับ

    ตั้งแต่ปลูกฝังจริยธรรม และ ศีลธรรมให้กับคนรุ่นใหม่ๆ

    อย่าไปเลียนแบบคนรุ่นเก่า ที่ไม่มีความรับผิดชอบ

    ตั้งแต่หัวขบวน ยันท้ายขบวน ไม่มีการทำงานกันเลย

    ตั้งแต่ไปเตะบอล ทั้งๆที่น้ำท่วมทางภาคกลางตอนบนอยู่

    ของบริจาค ก็มีการสวมสิทธิต่างๆ บิดเบือน

    คูคลองต่างๆ ทั้งๆที่เห็นแล้วว่า น้ำมาแล้ว แต่ยังไม่ยอมลอกเลย เครื่องสูบน้ำก็ไม่ได้ดูแล

    ผมนำลงในกระทู้พระวังหน้าฯไว้เยอะแล้ว

    ที่ต้องนำลงไว้ เพื่อไว้เป็นสิ่งเตือนใจสำหรับท่านผู้อ่าน ที่ยังไม่ตื่น

    ให้ตื่นขึ้นครับ

    หากยังโง่อยู่ แล้วเกิดเหตุมหาภัยต่างๆขึ้นอีก ก็ไม่ต้องมาร้องโวยวาย เพราะท่านผู้อ่าน เลือกเอง ด้วยมือของท่านเอง



    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นี่ก็ต้องแก้ไขทั้งระบบเหมือนกัน

    ห่วยแตกมายี่สิบกว่าปีแล้ว

    สมัยก่อนเมื่อสามสิบกว่าปีมาแล้ว

    ทีมไทยเตะกับเกาหลีใต้ ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ

    ทีมไทยเตะกับญี่ปุ่นหรือจีน เราชนะเยอะ

    ปัจจุบัน ให้เกาหลีใต้ , ญี่ปุ่น และ จีน หยุดพัฒนาการเล่นฟุตบอลสัก 30 ปี ทีมไทยก็ยังพัฒนาไปไม่ทันเลย

    ทั้งๆที่เก่งแค่นี้ ดันแอ๊กเยอะอีก

    ห่วยแตกสุดยอด

    -------------------------------

    ไทยสุดต้านบุกพ่ายซาอุ 0-3 <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">12 พฤศจิกายน 2554 01:35 น.</td></tr></tbody></table>
    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144364-



    แข้งไทยถล่ม 4-0 เขี่ยกัมพูชาร่วงซีเกมส์ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2554 19:07 น.</td></tr></tbody></table>
    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144271-

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...