พุทธวจน-ใช้ฝึกสมาธิง่ายๆครับ

เออ บอร์ดนี้ พลอยฟ้า พลอยฝน...เพี้ยนๆกันไปหมดแล้ว..มั้ง
....
อิอิ อาการหนักกันทุกคนเลย...แถวนี้ มารเดินดิน ตามมาติดๆ

 

คุยธรรม กันเล่นๆ...เหรอ....เพิ่ง รู้นะเนี่ย ว่า คุยกันเล่น ไม่ต้องรัยผิดชอบอะไร แบบนี้รึเปล่า.......โห...กรรมอันใด..ส่งผล นะเนี่ย...จึงพากันเป็น แบบนี้ กัน

 

ชาวโลกเขามอง..เรา..เพี้ยนๆ กันทั้งนั้นแหละ
เช่น คนบ้าอะไร เดินกลับไปกลับมา(เดินจงกลม)
เขาไม่เข้าใจ ปล่อยเขาไปเถิด..เขาฉลาดแล้ว

อย่างมาคุยในบอร์ดนี้..เขาว่าคนบ้า..เขียนอะไรอ่านไม่รู้เรื่องเลย..

 

กราบขออนุญาติ พี่เกิด ครับ

พี่เกิด ปรารภอย่างน่าเสียดายว่า " ผมว่าไปตามแผนที่ " กระผมฟังแล้วก็ สะท้อนใจ
สะเทือนใจมาก ที่นักภาวนาเราพากเพียรภาวนา แต่ก็เคว้ง แต่อาศัยอินทรีย์ชื่อศรัทธา
ยังทำให้เกิดการ บ่ายหน้า โน้นนำคำสอน มาประพฤติเป็น วัตร ไปก่อน

ตรงนี้จึงขออนุญาติ ชี้ ตรงที่พูดว่า " ต้องเกลี่ยให้ลงเป็นอุเบกขาเวทนา "

ตรงนี้ ถ้า สัททา ไม่พอ นักภาวนาจะ แทรกแซงจิต ดูไม่ถึงจิต รู้ไม่ถึงฐาน
จะเป็นเพียงแค่ ศีล และ วัตร หรือ อย่างมากก็ ญาณทัศนะวิสุทธิ ลงจาก
หลังม้าตัวที่หก ไม่เป็น

ตรงเนี่ยะ ต้องไม่มีการทำ
จะมีแต่ สัททา หมั่นประกอบ [ ถ้าไม่เข้าใจ วรรคสองบันทัดนี้ แนะนำ พุทธวจนะ เกี่ยวกับ โพชฌงค์บริบูรณ์ได้อย่างไร ]

ถ้า พี่เกิดมีแววทางเจโตวิมุตติ ก็จะพูดว่า ให้อาบปิติในส่วนของกาย ที่พิจารณา
อย่าให้มีส่วนใด ปิติ ไม่ถูกต้อง(สัมผัส รับรู้) แล้ว อย่าให้มี อามิสสุข(จะใช้คำ
คล้ายๆกัน กับ คำว่าเกลี่ย แต่เน้นนะว่า ไม่มีการทำ จะมีแต่ การใช้จิตรับรู้
สิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเป็น จำนวนมหาศาล ลูกเดียว)

แล้ว จิตจะวิวัฏ ลงจาก ญาณทัสนวิสุทธิ ....ซึ่ง จะค่อยๆ แนบแน่น มั่นคง ไปเรื่อยๆ


เว้นแต่มี ตาดี เห็นเป็น ขันธ์5 ได้ตลอด ก็ พลั๊ว !!!!
[ ถ้าไม่เห็น ขันธ์5 จะปรารภติดอยู่ ปฏิบัติเพื่อ นิพพาน พระปุณมัณตลีบุตร จะส่ายหน้าเอาได้ ]

 

จะจริงจังอะไร
ธรรมก็สมมุติ
กิเลสก็สมมุติ

จิตดวงเดียวผลิตได้ทั้งธรรมและกิเลส...
เป็นของสมมุติทั้งคู่

 

ในภาคปฏิบัติ ทุกคนมาติด เวทนานี่หมด แพ้หมด..มีแต่แต่หลวงตา แหละที่นั่งชนะจนฝีแตก มันบีบคั้นจิตจนแทบแตกละเอียดตกตายไปในบัดดล ..ก็ต้องสู้กันต่อนะ อาจารย์ นิวรณ์ อิอิ (โจทก์้เยอะขึ้นรึครับนี่) ผมชอบคุยกับคนที่มีพื้นฐานปฏิบัติแบบสัมมาบ้าง จะเข้าใจภาคปฏิบัติ กับตำราได้เจือสมกัน หากผสมผสานกันได้จะเข้าใจที่ผมโพสต์หมดเลย ..ผมยังข้ามขั้นตอน อีกมากเพราะบรรยายไม่ละเอียด คนไม่เคยลงมือทำจะไม่เข้าใจครับ แถมตีรวนอ่อนใจไม่อยากคุยและ อิอิ

 

ผมไปละ ไม่ว่างแล้ว โชคดีทุกท่าน

 

เพิ่งจะรู้ว่า ..ธรรมเป็นผลผลิดจากจิต จิตเป็นตัวผลิดธรรม

ถ้าอย่างงั้น ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ ชำระจิต...ก็ผิดน่ะสิเนี่ย...เฮ้อจิตเอ๊ย... จิตสุดยอดจริงๆ เจ็งกว่าพระพุทธเจ้าอีก เพราะ พระพุทธเจ้าท่านเป็นได้แค่ผู้ค้นพบพระธรรม ที่จิตเป็นเจ้าของผู้ผลิต...เท่านั้นเอง จิต เจ๋งกว่า พระพุทธเจ้า ...รึเนี่ย

 

พวก ก๊อปปี้ ลีลา ไง

หลวงตามหาบัว จะมี ประวัติส่วนหนึ่ง กล่าวเรื่อง จิตลงใจให้อาทิตยสูตร แต่ไม่ลงใน อนันตลักษณสูตร (อะไรนี่แหละ )

พวก ก๊อปปี้ มันก็ ก๊อปปี้ลีลา ทำเป็นรู้ พระสูตรแต่ละพระสูตร จบในตัว ไม่เหมือนกัน

เขามีแต่ จะประกาศว่า ทุกพระสูตรสอดคล้องกัน แนบสนิท ไม่ขัดกันเลย

แต่ พวกก๊อปปี้ ไม่เข้าใจไง เห็นหลวงตา สารภาพแบบนั้น คิดว่า เป็น ลีลาคนรู้ธรรมทั่วถึง
ก็เลย เอาหละ ถ้า kuสามารถ เขียะพระสูตร แต่ละ พระสูตร ให้ไม่เหมือนกันได้ นี่ จบกิจ

เฮีย!!

พุ คำเดียว ยังไม่ต้องเป็น พระสูตร ก็สอดคล้องกับ 84000 พระธรรมขันธ์

ปู่อย่า งง นะ

"ขันธ์5" นั่นแหละ ....ใช้มุขนัยนี้ ไม่มีหลอก จะ เห็นอะไรต่างกัน ไม่ลงใจ

 

เอาไปดูแก้ฟุ้งครับ
ใครดูจนจบไม่ข้ามเลยแสดงว่าเก่ง

 

ดู เพี้ยน กับ เพ้อ เจอกัน คุยกัน....เบลอ(มารเดินดิน) ...ไปซะละ
งั้นผู้ที่ยังพากันอ่านอยู่ ดูอยู่ ก็คงจะ งงๆ ..มึนๆ....ตามๆกัน อิอิ

มีแบบนี้ด้วย...อิอิ

 

ไม่งงหรอกครับถ้าเข้าใจสติปัฏฐานจริงๆ
ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้อย่างละเอียดก็เพื่อป้องกันคนมาถกเถียงกันแบบนี้แหละครับ
ลมเข้าออกสั้นยาวก็รู้ชัดก็บอกแล้ว
กายรู้ว่าหายใจ เวทนารู้สึกถึงลมกระทบ สัญญารู้ว่าลมที่กระทบเข้าหรือออก สั้นหรือยาว
แค่นี้ดีกว่าเดี๋ยวเจอผู้รู้ตัดแปะ
อิอิ
สังขาร วิญญาณไปหาเอาเด้อ

 

อจ.นิวรณ์ ผมเข้มแข็งขึ้นเยอะ เข้มแข็งกว่าพวกนี้อีก สุขหรือทุกข์ มันขึ้นอยู่กับจิตของเรา ไม่ใช่สิ่งที่มากระทบ สงครามนี้ต้อง เข้มแข็งและมีเกียรติ์ นะครับ

 

พูดแบบนี้ .....

ภาพตัดเข้า ฉาก จูมง ประลองยิงธนุ ปิดตา ยิงจึ๊ก ยิงจึ๊ก

แล้ว ผมก็ นั่งไม่ติดที่นั่ง หลุดปากออกมาว่า

"ส ส สง ครามพระ "

 

ป๊าดดดดดดดดดด ชมตัวเอง เฉยเลย
สงครามนี้ ตามนิวรณ์ ไปติดๆ หรือนำหน้า นิวรณ์กันแน่นะ
อิอิ

 

สนใจหรอ เขาเรียกว่า "ธรรมกถึก" ไง

ตาม พุทธวจน ด้วยเหตุเท่าไหร่ เรียก ธรรมกถึก ก็ ด้วยเหตุ อภิปรายสาธยายลงเป็น ขันธ์5

ถ้าเว้นจาก ปฏิสัมภิทา ผู้ประกอบฌาณ ..... ก็ให้ เข้าหา นั่งใกล้ เสวนากับ ธรรมกถึก

บุคคลที่อภิรายลงเป็น ขันธ์5

น้าจร สนใจ หายไปจากบอร์ดเลย ไปฝึกมาใหม่ รอบที่ ล้าน !!! ฮิววววววส์

 

ไม่สนหรอก ไม่อยากเพี้ยนเหมือน นิวรณ์....แค่เห็นนิวรณ์เพี้ยน นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับผมแล้วครับ อย่างน้อยก็คิดได้ว่า ตัวเรายังคงดีอยู่....อิอิ..ยังหน้ามาชักชวนให้ผม ไปเพี้ยนตามด้วยเหรอครับ..ฮึ

 

ดูจากกิริยาใน#rep 1
ส่วนตัวเรียก การเจริญสติ
ในชิวิตประจำวันวิธีหนึ่ง
ถ้าทำได่ต่อเนื่อง
มันก็เกิดเป็นสมาธถ้าอายุมากๆ

ส่วนตัวเรียกกิริยาที่คุณเข้าใจนี้ว่า
การเจริญสติในชีวิตประจำวันครับ
ถ้าทำได้ต่อเนื่องมันเกิดสมาธิได้
ถึงในระดับปฐมฌานอยู่แล้วครับ
ถามว่าเพียงพอต่อการเดินปัญญาไหม
ตอบพอครับ ต้องเดินปัญญาต่อนะครับ
ถึงจะมีประโยชน์ ไม่งั้นจะกลายเป็น
การจมหรือแช่ในสมาธิได้ครับ

อืม แต่ว่านะครับ
ถ้าอายุมากๆ ผ่านโลกมาเยอะ
มักจะไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่อง
ของการตัดขันธ์ฝ่ายนามธรรมครับ

ถ้าเป็นวัยรุ่นอยู่รับรองว่ามาเป็นสายฝน
ที่นี้ก็จะเกิดคำถามตามมาว่า
เอาอะไรไปตัดขันธ์นามธรรมต่างๆ
ที่มาเป็นสายฝนเหล่านั้นได้
ตามมาอีกระรอกครับ
เพื่อรักษาสภาวะนี้
เพื่อเอื้อสำหรับการเดินปัญญา

หรือเพื่อที่จะยกระดับสมาธิต่อ
สำหรับคนที่จะไต่ระดับฌานครับ
การที่คุณเอาวิญญานมาอยู่ที่กาย
มันก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ตัดขันธ์
นามธรรมได้อยู่แล้วโดยธรรมชาติ

แค่ว่ายังไม่เกิดปัญญาทางธรรม
หรือพูดแค่ในส่วนสมาธิเท่านั้น
ทางปฎิบัติก็ถือว่าจบตั้งแต่ #rep 1
ได้แล้วหละครับ

 

ถูกต้องครับ เมื่อได้สภาวะจิตตั้งมั่น เดี๋ยว"สภาวะ"..เขาจะดูดเราไปเอง วิปัสสนาเป็นต้องได้ปฏิบัติแน่นอนครับ ขอให้มีสติตามทันเท่านั้นครับ
มรรค8 คือ ปัญญา-ศิล-สมาธิ ย่อลงเหลือ สมถะ-วิปัสสนา เท่านั้นครับ (ทั้งหมดแฝงอยู่ในภาคการปฏิบัติ ขณะดูเกิด-ดับ ในวงจรปฏิจจฯลครับ)
ดีใจ ที่อย่างน้อยก็มีคนมองเห็นอีกคนครับ

 

ถ้าเราเอาจิตจี้ที่เวทนา ตั้งไว้ที่เวทนาจนจิตเป็นกลางต่อเวทนา จะเกิดสติ จิตจะแยกออกจากกายจากเวทนา ใช่ไม๊ครับ อันนี้เป็นสมถะใช่ไม๊ครับ แล้ววิปัสสนาหละครับ