ภัยพิบัติมาใกล้แล้ว!แผ่นดินไหวเมียนมา 13 ระลอก แตะระดับ 5.9 เฝ้าระวังเขื่อนใหญ่!

เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.9 ศูนย์กลางอยู่ในพม่า คนบนตึกสูง พื้นที่เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และ กทม. รับรู้แรงสั่นไหวได้
เมื่อเวลา 01.26 น. สำนักแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.9 ศูนย์กลางอยู่ในประเทศพม่า ลึกลงไปใต้ผิวดิน 10 กม. ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 225 กม. และห่างจากกรุงเทพฯ 704 กม.
เบื้องต้น พบว่าชาวบ้านในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และบนตึกสูงในเขตกรุงเทพฯ ยังสามารถรับรู้แรงสั่นไหวจากเหตุดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหาย



ขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USGS รายงานว่า ในเวลาดังกล่าว เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ศูนย์กลางอยู่ในพม่า
จากนั้นเวลา 01.38 น. เกิดแผ่นดินไหว ในประเทศพม่าอีกครั้ง ขนาด 5.2 ที่ความลึก 13 กม. ศูนย์กลางอยู่ใกล้เคียงกับจุดเดิม
ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ขอบคุณที่มา
อ่านข่าวต่อได้ที่:
https://www.thairath.co.th/content/1175267

 

ภัยพิบัติมาใกล้แล้ว!! แผ่นดินไหวเมียนมา 13 ระลอก แตะระดับ 5.9 เขย่าตึกสูงเมืองกรุงฯ เฝ้าระวังเขื่อนใหญ่!


นอกเหนือสภาพความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับผู้คน ทั้งจากอากาศหนาวที่เกิดขึ้้นในสหรัฐอเมริกาและหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ล่าสุดกับเหตุการณ์ระทึกขวัญอย่างแผ่นดินไหว ก็ลามบานปลายมาถึงประเทศไทยแล้ว ถึงขั้นอาคารสูงหลายแห่งในกทม.รับรู้แรงเขย่าได้



ทั้งนี้เมื่อเวลา 01.46 น. ของวันที่ 12 ม.ค. 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศพม่า จุดศูนย์กลำงอยู่ที่ละติจูด 18.39 องศาเหนือ ลองจิจูด 96.06 องศาตะวันออก ขนาด 5.9
ความลึก 10 กิโลเมตร ทำงทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประณ ๒๒๔ กิโลเมตรได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ และ อาคารสูงในกรุงเทพมหำนคร หำกมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบโดยด่วนต่อไป




อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าในรอบหลายชั่วโมงที่ผ่านมา ทางสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ได้บันทึกค่าตัวเลขแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เวลา 01.26 น. ถึง 05.30 น. พบว่ามีตัวเลขแตกต่างกันจากต่ำสุดที่ขนาด 3.2 -5.9 ทำให้อาจต้องมีการเฝ้าระวังเขื่อนขนาดใหญ่ในประเทศไทยด้วย ว่าจะมีผลกระทบต่อแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้หรือไม่



















เรียบเรียงโดย

ศิริพงษ์ หนูแก้ว
http://www.tnews.co.th/index.php/contents/400179