"ภาวะโลกร้อน" ความจริงช็อกโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 26 พฤศจิกายน 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    "ภาวะโลกร้อน" ความจริงช็อกโลก

    ขณะที่บ้านเราเจอภาวะฝนตกน้ำท่วม ไข้หวัดนกระบาด อีกด้านในซีกโลกตะวันตก ผู้คนกำลังเผชิญหน้ากับภาวะโลกร้อน และร้อนในระดับปรอทแทบแตกในความรู้สึกของคนที่อยู่อากาศหนาวมาเกือบชั่วชีวิต ร้อนจนร่างกายทนไม่ไหว บางประเทศมีผู้เสียชีวิตเป็นร้อยราย เดือนที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คลื่นความร้อนปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกของสหรัฐ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 160 ราย ในพื้นที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย

    นอกจากนี้คลื่นความร้อนยังส่งผลให้เมืองใหญ่หลายเมืองไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ก ชิคาโก บัลติมอร์ วอชิงตัน บอสตัน ฟิลาเดลเฟียไปจนถึงแอตแลนตา ล้วนแต่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งคลื่นความร้อนดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนใช้พลังงานไฟฟ้าสูงจากเครื่องปรับอากาศ ซึ่งกำลังเป็นปัญหา ที่รัฐแคลิฟอร์เนียกำลังวิตก เกรงว่าพลังงานไฟฟ้าจะไม่เพียงพอต่อประชาชน ปรากฏการณ์ความแปร ปรวนของสภาวะอากาศอย่างสุดขั้ว ในทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าสภาพเช่นนี้เป็น “ภาวะโลกร้อน” อันเป็นผลจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซ อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติดักจับความร้อนออกไปยังบรรยากาศของโลก ก๊าซเหล่านี้จะรวมตัวกันจนกลายเป็นผ้าห่มหนาๆ ดักจับความร้อนของดวงอาทิตย์ และทำให้โลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้น ยิ่งก๊าซเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ความร้อนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

    ก๊าซเหล่านี้เกิดขึ้น จากการเผาผลาญพลังงานฟอสซิส ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน
    ** ดังนั้นเมื่อเราขับรถ เท่ากับเพิ่มกระบวนการสร้างโลกร้อน **รวมไปถึงการสูญเสียป่าธรรมชาติ เพราะไม่มีต้นไม้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงการทำเกษตรและปศุสัตว์ ที่ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนก๊าซที่ทำให้โลกร้อนได้เช่นกัน

    นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ามนุษยชาติกำลังนั่งอยู่บนสุสานแห่งเวลา โลกมีเวลาเพียงสิบปีเท่านั้นที่จะปัดเป่าหายนะครั้งใหญ่ ที่อาจทำให้ระบบอากาศของโลกกลายเป็นเครื่องทำลายล้าง อาทิ สภาพอากาศอันรุนแรง น้ำท่วม ความแห้งแล้ง โรคระบาด และคลื่นความร้อนที่มีอำนาจทำลายล้างแรงกว่าที่เคยพบมา

    อย่างไรก็ตามมีสถิติทางวิทยาศาสตร์ที่น่าแปลกอันเป็นสัญญาณว่าโลกอาจวิกฤติเกิดขึ้นแล้วก็เป็นได้ โดยมีข้อมูลจากแกนน้ำแข็งที่แอนตาร์คติก เมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ว่าปัจจุบันการจับตัวของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกช่วงเวลาในระหว่าง 650,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไกลเกินกว่าที่มาตรฐานใดๆ จะไปถึงได้

    ปี 2005 คือปีที่โลกมีอุณหภูมิร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการวัดอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ เป็นสิบปีที่ถือว่ามีอากาศร้อนที่สุด เท่าที่เคยมีมานับแต่ปี 1990 ในฤดูร้อนปี 2005 หลายร้อยเมือง ในอเมริกามีอากาศร้อนสูงระดับทำลายสถิติตลอด 50 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ในปี 2003 คลื่นความร้อนทำให้คนในยุโรปเสียชีวิตถึง 30,000 ศพ และในอินเดีย มีผู้เสียชีวิตไป 1,500 ศพ นับแต่ปี พ.ศ. 2521 ทะเลน้ำแข็งที่ขั้วโลกลดปริมาณลง 9 เปอร์เซ็นต์ต่อทุกสิบปี

    เราไม่ได้ต้องการให้คนมีรถเลิกขับรถ แต่เราอยากให้ทุกคนเปลี่ยนไปใฃ้ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีผลกระทบต่อโลก เช่น NGV หรือก๊าซธรรมชาติอื่นๆ เสียเงินเพิ่มอีกไม่กี่หมื่น แต่จะช่วยสภาพแวดล้อม เพื่อส่วนรวมเราคิดว่าคุ้มนะ ขอขอบคุนทุกคนที่เปลี่ยนมาใช้ NGV ค่ะ
    SAVE THE WORLD AND HUMAN<!--detail--> <!--[​IMG] --> โดย : คนๆนึง (Guest !)
    อีเมล์ : o@O
    วันที่ : 2006-11-25 00:39:52



    http://webboard.mthai.com/7/2006-11-25/284763.html
     
  2. surapong chot

    surapong chot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +1,212
    ผมเคยอ่านเจอคำนายของพระป่า และของใครมั่งก็จำไม่ได้ กล่าวถึงภัยพิบัติของโลก ทำนายว่า จะเกิดภัยจากน้ำ และพายุ ซึ่งตามที่ผมดูข่าวเฉพาะประเทศไทย ปีนี้ท่วมไม่รู้กี่จังหวัดแล้ว และบางจังหวัดท่วมยังไม่ลดเลยน่าสงสารมาก แต่ผมก็ได้แต่ทำใจ(ปลง) และก็ส่งใจไปช่วยขอให้เขากลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว......ผมเห็นด้วยกับคุณรินนน ที่แนะนำให้หันมาใช้ NGV ผมก็กะจะเปลี่ยนมาใช้อยู่ครับ แต่ที่อุดร ยังไม่มีปั้มNGV เลย ผมก็ได้แต่รอไปก่อน จนกว่าจะมีปั้มโนน่แหละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...