มณฑาทิพย์ ดอกไม้สวรรค์

สิริบุญแห่งผู้บำเพ็ญบุญบารมี
เทพไท้ ผู้มีคุณผู้สูงชาติ ผู้สงคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ท่านมาอนุโมทนา น่ะค่ะ

 

ต้นมณฑา ในความหมายของผมเป็นตัวแทนแห่งความรักอันบริสุทธิ์ ใครชอบและคิดอย่างไร บอกเล่าให้ฟังบ้างจะขออนุโมทนาด้วยจ้า

 

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
เพลงเพราะมากครับ ทำให้นึกถึงเรื่องสี่แผ่นดิน
ฟังแล้วมีความสุขแถมอ่านเรื่องดอกไม้
ทำให้บรรยากาศดูหอมหวานละมุน
อนุโมทนาในการเผยแพร่บทความดี ๆ และเพลงที่ไพเราะ ครับผม

 

อันว่าท้อง ถิ่นแคว้น แดนธรรมนี้
เป็นถิ่นมี ที่สำคัญ ร่วมมั่นหมาย
รวมพลัง สามัคคี ไม่มีคลาย
สร้งถวาย แด่องค์ พระทรงธรรม

 

เมตตาจิตตัง นะมามิหังยะ มีพระคาถามาฝากครับ มีคนฝากมาบอกได้มาจากนิมิตในฝันนะครับ เล่าให้ฟังว่าในฝันนั้นเดินทางไปที่ศาลาโบราณแห่งหนึ่งแต่เป็นศาลาเปิดนะครับไม่มีผนังและก็ไม่ใหญ่มา มีพระนั่งเรียงกันเป็นรูปตัวยูหันหน้าเข้าด้านในศาลาล้วนแต่เป็นพระเถระทั้งนั้นแต่มีรูปหนึ่งหันหน้าออก ด้านนอกพอไปอยู่ตรงหน้าท่านที่ห้นออกจึงได้รู้ว่าท่านหน้าเด็กเหมือนสามเณร ท่านให้พรและให้คาถามาบทหนึ่งที่บอกไว้นะครับแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นคาถาอะไรด้วย หลังจากนั้นก็เดินออกจากศาลาไม่ไกลก็เจอพยามาร พยายามจะทำร้าย(ในฝัน) ก็ใช้คาถาที่เรียนมาต่อสู้ก็สู้ไม่ได้เสร็จแล้วก็เลยต้องกลับไปที่ศาลาให้ท่านช่วย ก็ไม่มีใครอยู่แล้วเลยร้องเรียกให้ท่านช่วย ท่านก็มาปรากฏตัวท่านก็บอกให้ใช้คาถาที่บอกไป ก็ท่องคาถาไปพยามารก็ใจอ่อนเปลี่ยนมาเป็นมิตรกับเราทันที ก็เลยสงสัยว่าคาถานี้มีความหมายว่าอย่างไร ระหว่างพิจารณาจึงเกิดปัญญา เราก็ท่องคาถาทุกอย่างที่ครูบาอาจารย์สอนแล้วทำไมจึงไม่ชนะพยามารแล้วคาถาบทสุดท้ายชนะพยามารได้อย่างไร ........ผมทิ้งคำถามไว้ให้ช่วยกันพิจารณานะครับ คาถาบทนี้ชนะพยามารได้อย่างไรแนะนำกันเข้ามานะครับผู้อ่านท่านทั้งหลายที่มีสัทธาในธรรมจะได้เจริญปัญญาเพื่อเป็นธรรมทานแก่ทุกท่านด้วยร่วมทั้งกระผมครับ ขอบคุณครับ อนูโมทนาสาธุทุกรูปทุกนามครับ

"ความรักกำลังจะมา"

 

บ้านปลูกไว้เวลาบานหอมอย่างแรง...กลิ่นไทยๆมาก

 

ขออนุโมทนากับทุกท่านทุกรูปทุกนาม ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนามเทอล อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

 

งามมากครับดอกไม้สวรรค์ เพลงก็ไพเราะเข้าบรรยากาศมากครับ

 

แมคโนเลีย เป็นพวก จำปี จำปูน จำปา มีสีสรร ขนาดแตกต่างกันไป ความหอมก็แตกต่างกันไป เป็นต้นไม้ที่ชอบขึ้นในเขตหนาว บ้านเราปลูกได้ดีทางภาคเหนือ พวกดอกใหญ่ๆ สีขาว สีแดงในรูปนั่นแหละค่ะ บานไม่ค่อยทน1-3 วันก็โรย ดอกใหญ่ที่เคยเห็นก็ขนาดมือผู้ใหญ่ที่ประนมไหว้นั่นแหละค่ะ

คามิเลีย เป็นพวกดอกชา ไม่ค่อยมีกลิ่น แต่สีสรรสวยงามบานทน บานนานชอบขึ้นในเขตหนาว

มีขายที่จตุจักรเยอะแยะไปค่ะ ราคาก็แล้วแต่ขนาดลำต้น

ดอกปริชาติ หรือ ดอกลำเจียก ปาหนัน ปะหนัน เตยทะเล มีกลิ่นหอมจากดอกตัวเมีย แต่ก็ยังไม่เคยได้กลิ่นเหมือนกันค่ะ

ชื่ออื่นๆ : ปะหนัน
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Pandanus odoraissimus
วงศ์ : PANDANACEAE

ลำเจียกเป็นไม้พุ่ม ต้นจะแตกเป็นกอใหญ่ สูง 4-6 เมตร บริเวณโคนต้นมีรากอากาศโผล่ออกมา ใบ เขียว ลักษณะคล้ายใบสับปะรด ยาวและหนา ขอบใบเป็นจัก มีหนามแหลม ใต้ท้องใบมีแกนกลาง ดอก โผล่ออกจากกลางลำต้น ดอกเริ่มบานเวลาเย็นและมีกลิ่นหอมฉุน การขยายพันธุ์ แยกกอหรือแยกหน่อ

ประโยชน์ รากมีรสเย็นและหวานเล็กน้อย ปรุงเป็นยา แก้พิษเสมหะ ขับปัสสาวะ ลำเจียกชอบขึ้นตามชายน้ำ ต้องการความชื้นและน้ำในปริมาณที่ มาก ขึ้นดีในดินอุดมสมบรูณ์ ร่วนซุย หรือดินเหนียวปนทรายอุ้มน้ำ

ที่มา..วังตะไคร้ดอทคอม – วิกีพีเดีย - thaigoodview.com- ภาพจากอินเตอร์เน็ต

รูปภาพหาดูได้จาก กูเกิ้ลค่ะ
ลำเจียก

 

งามมากๆครับ

อนุโมทนาด้วยนะครับ

 

​

​

ดอกมณฑา บุปผาทิพย์ แห่งแดนสรวง
เราทั้งมวล ล้วนยินดี ด้วยสีสรร
มีกลิ่นหอม จรุงจิต พิศเพลินพลัน
อีกความหมาย ค่าอนันต์ สุดพรรณนา​

มีค่ามาก ในดวงจิต เกินเอื้อนเอ่ย
สุดเฉลย ออกมา เป็นภาษา
ขอนอบน้อม แด่ผู้ตั้ง กระทู้มา
..อนุโมทนา สาธุการ..​

​

​

 

​

อนุโมทนา ทุก ๆ ท่าน ทุก ประการค่ะ ที่ได้แบ่งปันสาระประโยชน์ จรุงใจ

มาได้เห็น ดอกมณฑา ที่คุณเจงนำมาฝาก หวลนึกถึง ช่วงเวลาไปปฏิบัติธรรมกลางเดือนเพ็ญวิสาขบูชา เมื่อปีกลาย

.... ณ ที่นั่น กลางป่าโปร่ง เกิดมีต้นไม้สูง ดอกสะพรั่ง สีเหลืองราวอัญมณี ส่งกลิ่นรื่นกำจาย (หอมรื่น ชื่นใจมั๊ก ๆ)

หมู่ชายเขาไปเตรียมการณ์ เก็บท่อนไม้แห้ง หวังก่อไฟล้อม สวดมนต์ยามค่ำคืน
... กลับมาฝากเรา ด้วยมวลไม้สีทอง เขาว่า .. เก็บจากกลีบร่วงลงดิน

แม้ไม้เหี่ยวแห้ง หากแปลกพรมน้ำ กลับเบ่ง - ชื่นบาน จนยามเช้า จัดบูชาพระบรมธาตุฯ สุขใจ (หลวงพี่ท่านว่า แปลกปกติ ฤดูไหน ๆ ไม่เคยมีเห็น - เก็บภาพถ่ายมา ดังรูปค่ะ)

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.731627/[/MUSIC]​

 

เห็นสวยแปลกดีเลยนำมาฝากค่ะ เป็นอีกหนึ่ง idea ที่แสดงให้เห็นว่า..
แม้แต่ดอกไม้ที่ร่วงแล้ว หากเรามีจิตยินดีที่จะน้อมบูชา ก็สามารถนำมาจัดแต่งให้สวยงามได้

หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่จะเด็ด หรือสอยลงมา ก็สามารถน้อมจิต แล้วจัดตกแต่ง
ถวายเป็นพุทธบูชาได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ



เกิดเหตุประหลาดขึ้นทันทีที่ได้ตอบกระทู้อยู่ในขณะนี้ ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ด้วยค่ะ
ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านนะคะ..สาธุค่ะ..

 

ใครมีเมล็ดพันธุ์ มณฑา เก็บไว้และอยากจะแบ่งปันบ้างครับ ผมอยากได้ขอความเมตตาจากทุกท่านที่มี ผมอยากนำไปปลูกเพื่อขยายพันธุ์และทำเป็นสวนมณฑา มีหลายสายพันธุ์เลยครับ ใครอยากร่วมด้วยในการสร้างกุศลครั้งนี้ยินดีมากเลยครับ ขอโมทนาสาธุล่วงหน้า

 

ข้อมูลหลากหลายน่าสนใจเกี่ยวกับพันธ์ไม้นี้ทางนี้เลยนะคะ
เขาตั้งกันเป็นชมรมเลยเชียวล่ะ
http://www.magnoliathailand.com/webboard/index.php
http://www.ruammitra.890m.com/tree-magnolia-montha.html

สาธุ เจริญสุข เจริญธรรมนะคะ
อย่างไร ก็เชิญแวะเยี่ยม -ย้ายไปเข้าห้องสวดมนต์ พระคาถา บ้างก็ได้นะคะ
ที่นั่น ก็สงบเย็นค่ะ

​

ขอได้รับคำอนุโมทนาสู่ เพลงความรักของต้นไม้ -ดอกไม้บาน
บทเพลงแห่งความอ่อนโยนด้วยจิตของผู้เป็นแม่ : คุณแม่ชีศันสนีย์ เสถียรธรรมสถาน ค่ะ

 

ขอขอบพระคุณ

ยินดีมากเลยครับ ขอโมทนาด้วย

 

ภายหลังเมื่อพระพุทธองค์ได้ปลงมายุสังขารแล้ว<O</O
พระอานนท์ได้ทูลถาม กรณีการปฏิบัติบูชาพระตถาคต จะกระทำได้อย่างไร

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ........

กถาว่าด้วยการบูชาพระตถาคต<O</O​

<O</O​

[๑๒๘] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า <O</O
ดูกรอานนท์ มาไปกันเถิด เราจักไปยังฝั่งโน้นแห่งแม่น้ำหิรัญวดีเมืองกุสินารา และสาลวัน อันเป็นที่แวะพักแห่งพวกเจ้ามัลละ
<O</O
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จไปยังฝั่งโน้นแห่งแม่น้ำหิรัญวดี เมืองกุสินารา และสาลวัน อันเป็นที่แวะพักแห่งพวกเจ้ามัลละ ครั้นแล้วรับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า
<O</O
ดูกรอานนท์ เธอจงช่วยตั้งเตียง ให้เราหันศีรษะไปทางทิศอุดร ระหว่างไม้สาละทั้งคู่ เราเหน็ดเหนื่อยแล้ว จักนอน
<O</O
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ตั้งเตียงหันพระเศียรไปทางทิศอุดร ระหว่างไม้สาละทั้งคู่ พระผู้มีพระภาคทรงสำเร็จสีหไสยาโดยพระปรัสเบื้องขวาทรงซ้อนพระบาทเหลื่อมพระบาท มีพระสติสัมปชัญญะ ฯ

http://palungjit.org/attachmen...1&d=1253782736<O</O​

<O</O



[๑๒๙] สมัยนั้น ไม้สาละทั้งคู่ เผล็จดอกสะพรั่งนอกฤดูกาล ดอกไม้เหล่านั้นร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชาแม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่น โปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่น โปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต ฯ

http://palungjit.org/attachmen...1&d=1253783202<O</O​

<O</O


ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า<O</O
ดูกรอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็จดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชาแม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่น โปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่น โปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต
<O</O
ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแลจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะเคารพนับถือ บูชาตถาคตด้วยการบูชาอย่างยอด เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้ ฯ

http://palungjit.org/attachments/a.703861/​

ปัจฉิมโอวาท

"ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อม ความสิ้นไปเป็นธรรมดา
ท่านทั้งหลาย จงบำเพ็ญไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" ​

<O</O

 

ดอกมณฑา สวยงามมากเลยค่ะ
โมทนาบุญกับเรื่องดีๆ ที่นำมาบอกเล่านะคะ

^_^

 

เข้ามาฟังพักใจ ฟังเพลงเย็น ๆ เอาบุญมาฝากคุณบุญญสิกขา (แอบปลื้มเธออยู่ อิอิ..) และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ

Numsai

 

ล่วงบรรพ์ แรงบุญ ด้วยรอยบาท <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

แรกพบสบพักตรพาตาประสาน
ยินเพลงหวานลาวคำหอมพร้อมสู่ฝัน<o></o>
รักระริกระเรื่อเร้าเคล้าแสงจันทร์
โอ้สวรรค์จัดสรรมาให้ข้าเคียง<o></o>
กรุ่นกลิ่นมณฑารพกะทบรื่น
นาสิกชื่นโสตแว่วเพราะไพเราะเสียง<o></o>
เอ่ออ้อนคำรักพร้อมเป็นคู่เรียง
เพลงสิ้นเสียงเพลงภวังค์ช่างปวดใจ <o></o>
สรรคำพร่ำเรียงเพียงถ้อยเทพ
ทิ้งรอยเจ็บเหน็บหนาวร้าวเพียงไหน<o></o>
วนกรรมก่อเกลียวซ้ำคำสาปใคร
สาบานใดสัญญาดลมนต์เพรงพรหม
ย้อนปางบรรพ์ทัณฑ์โทษามารุมเร้า
ล่อหลอกเราร้อนตัญหาพาอุ้มสม<o></o>
แลพลันพรากกระชากมานให้ซานซม
เหนี่ยวรักล้มล่มสลายปลายเหมันต์<o></o>
อันบุพเพพาพลาดสู่ชาติภพ
สานประสบด้วยแรงบุญหนุนกระสันต์<o></o>
แต่กรรมแรงแซงหน้าพาโทษทัณฑ์
ทุกข์โศกศัลย์เลือดน้ำตาคั่งคาใจ<o></o>
กี่แสนกัปล์วนว่ายในสังสาร
อีกกี่ล้านวัฎฎะ อสงไขย<o></o>
อวิชชาพามืดบอดทอดอาลัย
โซ่สังโยชน์ร้อยรัดไว้ให้อับจน<o></o>
ยังลืมหลงยึดขันธ์ห้าเป็นที่ตั้ง
อนิจังอนัตตาข้าไม่สน<o></o>
ยิ่งเวียนว่ายตายเกิดยิ่งทุกข์ทน
จุติวน ดิรัจฉาน มารวิชา<o></o>
ด้วยรอยบาทสัพพัญญูผู้รู้แจ้ง
ทรงเปล่งแสงธรรมส่องมองปัญหา<o></o>
ให้ตื่นรู้ เบิกบาน ญาณ ปัญญา
วิปัสสนา ดูกาย จิตพิจจารณ์ธรรม<o></o>
คงล่วงบรรพ์แรงบุญด้วยรอยบาท
โลกนาถพุทธองค์ทรงอุปถัมภ์<o></o>
มั่นศิล ทาน ภาวนา เท่าทันกรรม
ปรมัตถ์ธรรมนำสุขานิพพานัง<o></o>