มารมาเเล้ว กิเลสตัวเเม่สุดท้าย กามฉันทะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 14 มีนาคม 2017.

  1. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ขออภัย ท่านคือท่าน satoใช่ไหมครับนี่
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    สังกิเลส ความเศร้าหมอง, ความสกปรก, สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ธรรมที่อยู่ในหานภาค คือในฝ่ายข้างเสื่อม ได้แก่ ธรรมจำพวกที่ทำให้ตกต่ำเสื่อมทราม เช่น อโยนิโสมนสิการ อคติ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ อวิชชา ตรงข้ามกับ โวทาน



    โวทาน ความบริสุทธิ์, ความผ่องแผ้ว, การชำระล้าง, การทำให้สะอาด, ธรรมที่อยู่ในวิเสสภาค คือในฝ่ายข้างวิเศษ แก่ ธรรมจำพวกที่ทำให้เจริญงอกงามดียิ่งขึ้นไปจนปลอดพ้นจากประดาสิ่งมัวหมองบริสุทธิ์บริบูรณ์ เช่น โยนิโสมนสิการ กุศลมูล สมถะและวิปัสสนา ตลอดถึงนิพพาน ตรงข้ามกับ สังกิเลส
     
  3. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    นิพพาน การดับกิเลสและกองทุกข์ เป็นโลกุตรธรรม


    นิพพานธาตุ ภาวะแห่งนิพพาน, นิพพานหรือนิพพานธาตุ ๒ คือ ๑. สอุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสมีเบญจขันธ์เหลือ ๒. อนุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสไม่มีเบญจขันธ์เหลือ
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    สติ ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ, การคุมใจไว้กับกิจ หรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่เกี่ยวข้อง, จำการที่ทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้
     
  5. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :oops::oops::p อ่านแล้วเพี้ยนหนักเลยคุณ tboon..ไปกันใหญ่แล้ว..การเอาชนะกิเลสตัวแม่นี่นะ คือการยึดมั่นถือมั่น คุณป่วยหนักแล้วครับ ไปหาหมอไป ไม่รู้จักลำดับธรรม ไหนก่อน-หลัง วางเมื่อใด รู้เมื่อใด เวลาไหนควรปล่อยวาง เวลาไหนควรต่อสู้เพื่อทำความเพียร..
     
  6. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อ๋อ คุณกำลังจะส่งเสริมให้เขาเอาชนะกิเลสบนความอ่อนด้อยทางปัญญาไม่ประสีประสากับอำนาจกิเลสของผู้อื่นว่างั้นเถอะ คิดจะฉวยโอกาสตรงนี้เพื่อเห็นธรรมบรรลุธรรม??

    การที่เราไปฉวยโอกาสโดยที่คิดว่ามันเป็นความชอบธรรมที่เราจะใช้การฉวยโอกาสตรงนั้น ทำอะไรก็ได้ เพื่อความสะใจ เพื่อเอาอะไรเข้าตัว หรือคิดว่าจะฉวยโอกาสจากความหลง ความผิดพลาดของผู้ที่เรามองว่าด้อยกว่าเราตรงนั้น เพื่อสร้างโอกาสการบรรลุธรรมให้กับตัวเอง คุณคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมครับ ในเมื่อมันอยู่บนความเบียดเบียนผู้อื่น อันนี้ผมพูดในแง่ที่เจ้าของกระทู้เขากำลังหลงทำอะไรอยู่

    สำหรับคุณตอนนี้ผมว่า ใบลานเปล่าๆแล้วล่ะ กิริยาเยาะเย้ยนี่บอกเลย ใบลานเปล่า คุณกำลังจะนำเสนอพุทธวจน แต่การกระทำของคุณแค่นี้ก็ค้านคำสอนของพระพุทธองค์ซะแล้ว ใครจะเชื่อถือคุณได้ครับ กลับไปดูจริยาตัวเองที่ผ่านมา มือถือสากปากถือศีลรึเปล่า เผลอๆ จะกลายเป็นบ่อนทำลายเสียด้วยซ้ำไป พิจารณาดีๆ นะครับ
     
  7. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ส่วนเรื่องเนื้อหาที่คุณติงนั้น บอกเลยครับ เพราะคุณยังไม่รู้จักคำว่ามัชฌิมาปฏิปทาดีพอ ก็แค่นั้นเอง คนไหนแจ้งในมัชฌิมาปฏิปทา คนๆ นั้นจะต้องรู้ว่าการปฏิบัติของตนๆ ที่ผ่านมานั่นตนหลง พลาดมาโดยตลอด ไม่เคยเป็นกลางจริงสักที เอียงไปเอียงมา โดยเฉพาะความอยากจะเป็นคนดี อยากจะได้ดีนี่แหละ อยากจะชนะกิเลส แต่วิธีการมันแพ้มาตั้งแต่แรกแล้ว กิเลสหัวเราะเยาะ ตัณหาบงการแต่ไม่เห็นเอง

    แต่ก็บอกไปแล้วว่า ชัด/ไม่ชัด ให้สมาทานในมัชฌิมาปฏิปทาไปเรื่อยๆ คือ การกระทำไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ให้รู้ทันความหลงในกุศล (อยากดี อยากเอาชนะ) ในอกุศลไปด้วย รู้ยังไงถึงจะเป็นการรู้ตามความเป็นจริงที่ไม่ตกไปในฝ่ายกามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก

    บอกเลยตราบใดยังมีความจงใจยังไงก็ยังกลางไม่พอหรอก ต้องพ้นเจตนาความจงใจจริงๆ แต่สติไม่ห่าง หมายความว่ามีความเพียรอย่างต่อเนื่อง นั่นล่ะถึงจะมีโอกาส จะเห็นทุกข์เห็นธรรมหรือไม่มันอยู่ตรงนี้ บอกไปยังไงก็ไม่เข้าใจหรอก ต้องไปเรียนรู้เอาเอง ต่อเมื่อแจ้งแล้วนั่นแหละจะรู้เอง
     
  8. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    จขกท คงยังไม่บรรลุธรรมหรอกครับ กำลังรบกับมารอยู่ ยังไม่รุ้ใครแพ้ชนะ แต่เขาว่า แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร แนะนำให้ จขกท ยอมแพ้แก่มารซะจะได้เป็นพระไปไงละ ดีไหม หรือ จขกท ว่าไงครับ ทีนี้ว่า จขกท กำลังฉวยโอกาสตรงนี้เบียดเบียนผู้อื่นเพื่อบรรลุธรรม อันนี้พึ่งเคยได้ยิน แปลกดี จขกท น่าจะบรรลุทำเสียมากกว่า
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ลองดูท่านองคุลีมารเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ ท่านต้องวาบดาบ เว้นขาดการเบียดเบียนผู้อื่นก่อน หรือจะดูท่านพาหิยะเป็นอีกตย.ก็ได้ ศรัทธาแรงกล้ามาก พระพุทธองค์กำลังบิณฑบาตอยู่ จะขอฟังธรรมเดี๋ยวนั้น ทรงห้ามเสียในคราวแรก ไม่ใช่เพราะอะไรนะ เพราะศรัทธากล้าเกินไป มันไม่เป็นกลางไง ฟังธรรมก็จะไม่เข้าถึง ไม่สัมผัส ไม่เห็นธรรมตามความเป็นจริง ในพุทธกาลมี ตย.ให้เห็นหมดแล้ว น่าอัศจรรย์นัก เรียกว่า มีทุกเคสเลยแหละ
     
  10. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ความเพียรเพื่อที่จะเผาผลาญกิเลสนั้นก็ส่วนหนึ่ง พระท่านว่าใช้ตัณหาละตัณหา ความยึดมั่นถื่อมั่นมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ความเพียรเพื่อเผาผลาญกิเลสไมใช่แบบของ จขกท แน่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2017
  11. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ตัดที่ต้นเหตุเลยจ้า :D
     
  12. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ผมไม่ได้ค้านเลย ถึงบอกว่า ชัด/ไม่ชัด ก็ให้สมาทานให้สมาทานในมัชฌิมาปฏิปทาไปเรื่อยๆ พ้นเจตนาเมื่อไหร่นั่นแหละ การเห็นตามความเป็นจริงมันถึงจะได้ลิ้มรสแท้นะ ปัญญาเห็นทุกข์จักเกิด ไม่ได้ค้านเลย เพราะตัวเองก็มาแบบนั้น คนเรามันต้องหลงมาก่อนทั้งนั้น เข้าใจอยู่ ไม่ใช่หัวชนฝา ยึดมั่นอย่างบ้าครั่งน่ะครับ
     
  13. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ท่านองคุลีมารเต็มไปด้วยความพยาบาท จึงต้องให้งดเว้นจากการฆ่าผู้อื่นก่อน ส่วนท่านพาหิยะก็มีศรัทธามากไปทำให้ขาดปัญญา คนจะฟังธรรมก็ต้องระงับจากนิวรณ์ธรรมเครื่องกั้นเสียก่อน ตอนนั้นยังไม่มีใครอยู่ตรงกลางหรอกครับ.
     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    กลางเนี่ย มัชฌิมาปฏิปทาเนี่ย ฟังง่ายนะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ละเอียดยิบ ไม่ใช่ของเห็นง่ายๆ เหมือนกัน เหมือนที่พระพุทธองค์ทรงเตือนพระอานนท์เรื่องที่ว่า ปฏิจจสมุปบาทที่ปรากฏกับท่านนั้นเป็นของง่าย
     
  15. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ไม่ได้ค้านคุณที เช่นกันครับ คนที่ไม่รู้ในมัชฌิมาปฏิปทาเนี้ย ไม่มีทางกลางได้หรอกครับ ต่อเมื่อเลิกยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงนั้นและครับ จึงพูดได้ว่ากลางแล้ว ที่นี้ส่วนใหญ่จะมาติดตรงที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นนั้นและครับ ครูบาอาจารย์มั่นท่านว่า มองออกไปทั่ว ไม่มีตัวตน สัตว์ เรา เขา มีแต่ความว่าง มองไปที่ไหนๆก็ว่าง แต่ที่เรายืนอยู่ยังไม่ว่าง อันนี้และครับ คือตัวหลุดตัวพ้นจากเจตนา
     
  16. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    อ่า อันเดียวกันกับจุดและต่อมของหลวงตามหาบัวครับอันนี้
     
  17. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ทีนี้คุณที ก็ต้องพิจารณาธรรม ว่า...แม้แต่ในความไม่ยึดมั่นถือมั่นนั้น ยังมีความยึดติดอยู่ไหม
    ถ้ามี มันก็ยังไม่กลาง สังเกตให้ดี แม้แต่ในความไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ต้องปล่อยวาง
     
  18. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    อันนี้สัญญาไม่เที่ยงครับ หลวงตามหาบัว ท่านกล่าวไว้ครับ ขอบคุณที่ชี้แนะครับ
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    รู้ครับ ว่าไม่ได้ค้าน รู้ว่ากำลังส่งมอบความประสงค์ดีบางประการอยู่

    มีเรื่องนึงที่พบประสบเจอมากับตัวเอง ทำให้เห็นถึงความเป็นสัพพัญญูของพระพุทธองค์เลยทีเดียวครับ คือ คาถาแห่งการเข้าถึงธรรม

    ทำความเข้าใจนิดนึงกับคำว่าคาถา ผมเคยได้ยินได้ฟังมาจากครูบาอาจารย์อีกที เอาตามนั้นละกัน คาถาหมายถึงเราฟังแล้วเก็ท ฟังแล้วมีผลให้แจ่มแจ้งในธรรมมขึ้นมา หรือมากขึ้น นั่นจึงจะเรียกว่าเป็นคาถาสำหรับคนๆนั้น คือใช้ได้กับคนๆนั้นพอดี ถ้าใช้ไม่ได้กับเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าคาถานั้นไม่ดีนะ แล้วแต่เหตุปัจจัย เข้าใจตรงกันแบบนี้ก่อน

    ทีนี้ผมคิดเอาเองนะว่า คนเราคงจะมีคาถาที่เป็นคาถาของตัวเองอยู่ เกี่ยวพันกับอุปนิสัย ติดต่อมา เมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อม คาถาบทนั้นแหละจะส่งเรา (ใช้คำบ้านๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ นะ) ให้เห็นแจ้งในธรรมตามความเป็นจริงได้ และจะมีก็แต่พระพุทธองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่จะทรงล่วงรู้อุปนิสัยของแต่ละบุคคลได้ คงไม่ต้องยก ตย. เชื่อว่าทราบอยู่บ้างแล้วแหละ พระไตรปิฎกบันทึก ตย.ไว้หมด ทำไมจะว่าพระไตรปิฎกไม่ใช่ของดี ใครจะกล่าวยังไง ผมมีตัวเองพิสูจน์แล้ว ก็ไม่ติดใจกับคำพูดในทางลบหรอก
     
  20. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    นี่แหละครับถึงบอกว่า ต้องพ้นเจตนา ยังไงจะพ้นเจตนา ต้องไปหาเอาเอง ยิ่งหา..

    และก็ไม่ได้มาคะยั้นคะยอให้เชื่อด้วย มีโอกาสบอกทางกันก็บอกๆกันไป ไม่ฟังไม่เก็ทก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่แปลกเลย ไม่ใช่จะไปรวบลัดตัดตอนให้ใครเห็นจริงไปตามๆ กันได้ ทุกอย่างถ้าเข้าใจในเรื่องของเหตุปัจจัยแล้ว จะเห็นว่า นั่นไม่ใช่ปัญหาของคนบอกทางครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...