เรื่องเด่น ยาป้าย/สะกดจิต/คุณไสย /เราเบลอเอง หรืออะไร

เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เอามาเขียนไว้เพื่อสมาชิกท่านอื่นๆ นั่งอยู่ในบ้านภัยก็มาถึงไม่ต้องไปไหนไกล
วันนั้นเรารับลูกค้า ลูกค้าหน้าตาดีคนนึง (อายุน่าจะประมาณ 20 เอง) ไม่ยอมพูดอะไร ยื่นสมุดเล่มนึงให้เราลอกตาม เรารู้สึกงงๆ เบลอๆ ในใจคิดว่า อาจจะเพราะอาการป่วย แต่ผิดปกติที่ว่า เราไม่เรียกแฟนมาช่วยงาน (ถ้าปกติ ใครคนใด สมองไม่พร้อมทำงาน จะให้อีกคนมาช่วย) เรามึนขึ้นเรื่อยๆ เขียนหนังสือผิดๆ ถูกๆ มีเสียงอะไรไม่รู้กวนเราดังมาก รับเงินลูกค้าเท่าไหร่เราก็ไม่ทราบ และกำลังจะหยิบเงินทอน

แล้วเราก็เกิดอาการขนลุก(เป็นปัจจัตตังค่ะ ว่าอาการขนลุกมุมนี้ จะหมายถึง มีสิ่งไม่ดีอยู่) เราสะดุ้งเลย และมองหน้าเด็กคนนั้น ถามว่า “เฮ้ย meng ทำไร” เด็กผู้ชาย รีบเอาเงิน ให้เราอีก และบอกว่า “ให้เงินครบแล้วนะ” (จริงๆครบหรือเปล่าเราก็ยัง งงอยู่) และหยิบเงินทอนให้ (ทอนถูกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้)
ตอนนั้นเรานึกถึงกระทู้นี้ http://palungjit.org/newreply.php?do=newreply&p=3065037

ตอนนั้นพอมีสติแล้ว เพิ่งรู้ว่า เสียงดังๆ ที่เราได้ยินคือเสียงโทรศัพท์ (เราก็บอกให้เขาปิด) เด็กยังคงยิ้มให้ตลอด
เราโมโหมาก ในใจคิดแล้วว่า น่าจะเป็นคุณไสย เลยจะวิ่งตามออกไป แฟนเราก็มาห้ามดึงเราไว้ ลูกค้าคนนี้ยังคงมองหน้าเราตลอดเวลาและยิ้มให้
แล้วก็ยกมือไหว้และพูด “ขอโทษ” (ยังคงยิ้มให้อยู่)
เราต้องเดินเลี่ยงออกไปกินน้ำ ยังไม่รับลูกค้ารายต่อไป และท่องคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าอยู่หลายรอบมาก จนสติเริ่มกลับมา และลำดับเหตุการณ์ให้แฟนฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
เด็กคนนี้ ต่างกับลูกค้าคนอื่นคือ จ้องหน้าเราอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เข้ามาในร้าน และไม่ยอมพูดอะไร ยิ้มอย่างเดียว

เรายังคงมีอาการมึนงง อยู่อีกหลายวัน เราก็ท่องคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า บางครั้งนอกจากมึนงง ก็จะมีอาการปากเบี้ยว พอท่องคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าก็หายไป
และกลับมานั่งสมาธิทุกวัน (ห่างไป 1 เดือนกว่า เพราะลูกปิดเทอม) ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ ทุกอย่างก็กลับมาปกติดี
มาตั้งกระทู้ไว้เป็นประสบการณ์นะค่ะ เผื่อท่านใดเจอะคนแปลกหน้า แล้วรู้สึกมึนงง หรือไม่เป็นตัวของตัวเอง ขอให้อย่าประมาทค่ะ เตรียมตัวให้พร้อม เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องออกนอกบ้าน ก็เข้ามาถึงในบ้านแล้ว

 

เมื่อเดือนที่แล้วแถวบ้านผมก็เจอ มีผู้ชายอ้างเป็นเพื่อนกับลูกชายของลุงกับป้า มาพูดคุยแล้วบอกว่าแม่เสียชีวิตอยู่ที่โีรงพยาบาล ขอยืมเงิน 5000 เพื่อไปจัดการศพแม่ โดยขณะที่พูดก็มาจับแขนบีบนวดให้ ลุงก็ขึ้นไปหยิบเงินมานับชายผู้นั้นก็แย่งเงินมาบอกว่าจะนับเอง ป้าก็โดนบีบนวดแขนเหมือนกันก็รู้สึกว่ามีแต่ความสงสาร สรุปว่าหมดไป 12,000 บาท พอชายผู้นั้นเดินออกจากบ้านไปก็เพิ่งนึกขึ้นได้ เลยโทรไปถามลูกชาย ๆ บอกว่าไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าเป็นใคร ไปแจ้งความที่โรงพัก ตำรวจบอกว่าตำรวจยังโดนเหมือนกัน ก็ขอให้ระมัดระวังนะครับ

 

เราเองก็มาค้นในกูเกิ้ลเรื่องนี้ ตอนนั้น มีคนตอบกระทู้ว่า ถ้ามีจริง ทำไมไม่ไปทำกับพนง. ธนาคาร(คุ้มกว่า)
เราเป็นลูกค้าธนาคารคนนึง ที่เคยได้รับโทรศัพท์ ว่า ให้เงินเข้าผิดหรือเปล่า เพราะเงินหายไป 2-3หมื่น
อีกวันนึงเราเลยไปธนาคารเพื่อถามเรื่อง (เนื่องจากเราไม่ได้โกงธนาคาร) พนง. บอกเราว่า เขารับเงินแล้วก็ งงเอง
หายไป 2-3หมื่นได้ยังไงไม่รู้ แต่เอาคืนได้ เพราะกล้องวงจรปิดจับได้
(พนง.ธนาคารบอกว่า โทรไปทวงแล้ว ไม่ยอมรับ จนต้องมาจับได้จากภาพ จึงยอมคืนเงินให้)

ซี่งเรื่องยาป้ายเราตัดทิ้งไป(และเราเองก็ไม่ค่อยเชื่อว่า มียาป้ายออกฤทธิ์เร็วด้วย) เพราะว่า เรานั่งลักษณะเดียวกับพนง.ธนาคาร คือไกลจากลูกค้าและมีเคาเตอร์กั้นอีกที (ห่างกันเราราวๆ เกือบ 1 เมตร) ไม่มีการแตะโดนตัว(นอกจากโดนสมุดเล่มเล็กๆ ให้เราออกบิล)
ซึ่งเราเองเพิ่งมีเพื่อนโดนคุณไสยมา ก็ลักษณะเดียวกับเราคือ มึนๆ งงๆ (แต่เขาคาถาแรงกว่าเรา ต้องเอาของออก)
ส่วนเราโดนแบบคาถาไม่แรง เสื่อมเองได้ แต่ต้องอาศัยท่องคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าเวลามีอาการ และนั่งสมาธิอย่างเคร่งครัดกว่าเดิม (วันที่รู้สึกอาการดีขึ้นเลยคือ วันนั้นนั่งได้จนลมหายใจดับ ) เนื่องจากทิ้งการนั่งสมาธิไป 1 เดือนกว่า ต้องใช้เวลาทวนของเดิมพอสมควร
เราว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีพอสมควร เพราะ เราไม่เสียเงิน (ถ้าเสียก็เสียน้อยมาก) ไม่เสียตัว ฯลฯ และยังรู้วิธีเวลาเจอะสถานะการณ์แบบนี้อีก และทำให้เรากลับมานั่งสมาธิทุกวันเหมือนเดิม

 

ให้อธิบายมั้ย
1.ยาที่คุณโดนคือ ยาสลบแบบฉีดพ่น ปกติจะใช้ฉีดใส่ตัวบุคคลในระยะ 1 เมตร และต้องอยู่เหนือลม คุณจะสลบภายใน 15-30 วินาที แล้วแต่ระยะ และความเข้มข้นของยา
2.แต่ปกติหากต้องการหวังผลมาก เค้าจะใช้วิธีฉีดใส่ผ้า แล้วปิดจมูกเลย
3.แต่บางทีเค้าก็ใช้วิธีการใส่บางอย่างที่ระเหย เช่น ฉีดผสมน้ำหอมที่ แขน ที่ผ้า หรือผู้หญิงบางคนฉีดที่ผม หรือชุดชั้นใน เวลาจะมอมผู้ชาย

หากมาวิเคราะห์ ผมจะบอกว่า เอาใส่กระดาษจดหมาย หากคุณเปิดอ่าน สารก็จะระเหย แต่ด้วยความเข้มข้นน้อยทำให้แค่มึนๆ ไม่ถึงกับสลบ ยาพวกนี้มีฤทธิ์กดประสาท

มีบางพวกที่บอกว่าเล่นคุณไสย แต่ก็จะมีน้ำมัน ซึ่งพวกหมอผีให้มา จริงๆส่วนผสมของน้ำมันนั้น มีส่วนผสมที่เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิกดประสาท มันหาได้ครับ

คุณจะลองไปหาดูในเน็ตก็ได้นะ มีขายทั่วไปในเน็ต ราคา ประมาณ 3000 -6000 กว่าบาท สมัยนี้ ของไม่ดีอะไรก็หาง่ายครับ

คำเตือน ระวังพวกพูดดีไว้ก็แล้วกัน พวกนี้โน้มน้าว และโกหกเก่งมากๆ ครับ เจอมาเยอะ ไล่เตะไปก็เยอะ จริงๆเราต้องรู้ว่า คนเลวเค้าทำแบบไหน เพื่อป้องกันตนเองนะ

 

แล้วเรื่อง ทำไมไม่ทำกับ พนง.ธนาคาร ผมขอบอกครับ คิดแบบโจรดูสิ อย่าลืมว่าธนาคารมีกล้องเพื่อตรวจสอบพนักงานเอง และลูกค้าด้วย เค้าทำ เค้าก็ซวยสิ เพราะทุกเย็น พนง.ต้องเคลียร์บัญชีตลอด มีปัญหาเปิดกล้องดูทันที คิดสิ.... ไปแอบหลอกพวกผู้หญิงดีกว่า หลอกง่ายดี เพราะขนาดผู้หญิงยังหลอกตัวเองได้เลย ใช่ม่ะ

 

ขอตอบว่า ไม่ใช่ยาป้าย/สะกดจิต/คุณไสย/หรือ อาการผิดปกติใดๆของร่างกาย

เหตุการณ์ที่คุณThanks-Epi เจอนี้ คือ การทดสอบของมาร ตัวจริง เสียงจริง (แต่จะมาในร่างแฝงซะมากกว่า)

สิ่งที่ใช้สังเกตก็คือ 1.รอยยิ้มแบบไม่เห็นฟัน 2.ตาไม่กระพริบ 3.ไม่พูด


หวังว่าคุณThanks-Epi จะผ่านการทดสอบได้ด้วยดีนะครับ
ผู้ที่มารจะมาทดสอบนั้นต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมในขั้นสูง ขอโมทนาครับ


เจริญในธรรมครับ

 

เราถึงบอกว่า มันเป็นปัจจัตตังไง ว่า ทำไมขนลุกมุมนี้เลยรู้ว่าเป็น ของไม่ดี (แต่ไม่แน่ใจเต็ม 100 เท่านั้นเอง เลยต้องให้คนอื่นเช็คอีกทีว่าเป็นอะไร)
ถ้าไม่เข้าใจคำว่า "ปัจจัตตัง" เป็นไง ลองหัดนั่งสมาธิจนลมหายใจดับดู แล้วจะเข้าเอง มีอะไรให้สัมผัสเยอะเลย

ส่วนที่ขายตามเนต เราเห็นแล้วคุณเคยลองใช้แล้วผลหรือ? ได้ผลเร็วขนาดไม่เกิน ครึ่งนาทีเลยหรือ

ส่วนคำเตือนของคุณ เราก็เขียนออกจะชัดว่า "ไม่พูดอะไรเลย มองหน้า ยิ้มอย่างเดียว" ยิ้มยันยกมือขอโทษเลย

ข้อมูลพวกนี้เราหาประกอบแล้วก่อนจะมาตั้งกระทู้ มีคนในพันธิบออกความเห็นมากมาย (ลองหาอ่านดู ยาลักษณะที่ออกฤทธิ์เร็วขนาดนั้น ..ไม่มี) และเราก็เชื่อว่าไม่มี เพราะเราเป็นคนกรรมเยอะ เข้าออกรพ.ตลอด

อ้อ ยากดประสาทนะ เรากินวันละ 10 กว่าเม็ด 20 กว่าปี (เพื่อรักษาโรค) มาแค่นี้เราอะไรเราไม่ได้หรอก เพราะเราชินกับยากดประสาทแล้ว คนละโดสกันเลยนอกจากยากลุ่มประเภท ฉีดเข้าเส้น (เช่น เวเลี่ยม)

ไปอ่านดีๆ ใหม่ เราบอกว่า พนง.ธนาคารโทรมาหาเรา ว่าเงินเขาหาย เนื่องจากเราเป็นลูกค้าประจำ เราเลยต้องไปถามว่า ตกลงได้เงินคืนมั้ย พนง.เขาบอกว่า เขาก็ งงๆ ว่าทำไมเงินขาด 2-3 หมื่น แต่ไม่รู้ตัว จนต้องเค้นเอาจากภาพกล้องวงจรปิด เลยได้คืน

 

ค่ะ ตามที่บอกเลยคือ 1.รอยยิ้มแบบไม่เห็นฟัน 2.ตาไม่กระพริบ 3.ไม่พูด

โดนเฉพาะตาไม่กระพริบนี่จริงๆค่ะ (เรายังแปลกใจ คิดว่า เด็กเก็กหล่อ)

พูดอีกที คือ ตอนที่เราจะเดินตามออกไปแล้ว(ไม่แน่ใจว่า มีเจโตหรือเปล่า เลยยกมือไหว้ พูด "ขอโทษ" เพราะ เราคิดว่า ขอชกmeng ทีเหอะ ลองของหรือไง)


ส่วนเรื่องมารเป็นอีกความเห็นนึง ที่เราได้ยินนะค่ะ เพราะว่า เราไม่รู้จักว่ามารมีกี่ประเภท แต่ที่เคยได้ยินคือแบบในมารร่างแฝง (แบบสมัยเป็นคนเล่นคุณไสย) อย่างนี้เคยได้ยินค่ะ พอเป็นสัมพเวสีก็ยังคงติดนิสัยเดิมๆ

ยอมรับว่า จิตตกเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมสังคมน่ากลัวจริง ๆ ทำกลับผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเราได้ :''(
เลยได้ขยันตื่นนอนเลย เพราะญาติธรรมเคยแนะว่าให้ตื่นแต่เช้าดีกว่า (เราจะมีปัญหาเรื่องถีนมิทธะ เพราะจากยาประจำตัว/งาน) เราก็ขี้เกึยจตื่นด้วย

เจอะอย่างนี้ ไม่ตื่นไม่ได้แล้วค่ะ วันไหนลืมตาไม่ขึ้น ท่องเลยว่า สักกายะทิฐิ
หนอๆ

 

มีคนรู้จัก ไม่ทราบโดนอะไร ถอดสร้อยทองให้เขาไปเลยค่ะ เขารู้สึกมึนงง

 

ขอออกความเห็นนะครับ พนักงานที่บ้านลูกสาวเขาก็โดน แบบไปตลาดรุ้สึกตัวอีกที
สร้อยทองไปแล้ว กระเป๋าตังค์ก็ไม่เหลือ ยืนงงจนญาติตามไปเจอยืนร้องไห้เลยครับ
แต่ผมคิดว่าไม่ใช่มงไม่ใช่มารมั๊งครับ อะไรมันจะขนาดนั้นครับ ผมว่าคนนี่ละครับ แต่วิธีการยอมรับว่าไม่รู้จริงๆ ถ้าเป็นยาแบบคุณ นายดอกบัว ว่าทำไมตอนมันใส่ หรือหยดที่เสื้อใน หรือผม มันไม่สลบเองก่อนหรือครับ สงสัยจริงๆมันคืออะไรกันแน่???

 

เพื่อนสาวผมเคยโดน บอกว่าจำอะไรไม่ได้ เครื่องประดับมีค่าถอดให้หมด atm มีเท่าไหร่กดให้เกลี้ยง ดีนะมันเอาไปปล่อยไว้ที่ทุ่งนาอย่างไกล ไม่ได้ทำร้าย แม่ลูกน้องที่ทำงานก็โดน บอกว่ามันให้ทำอะไรทำตามหมด ใครรู้จริง บอกหน่อยว่ามันคืออะไร

 

เหตุการณ์แบบนี้ แม่ผมก็ยังโดนเลยครับ นั่งอยู่ดีๆๆเขาเข้ามาคุย เเล้วถอด สร้อยทองให้เขาไปเฉยๆๆเลย สงใสจะโดน คาถาสะกดจิต นะจังงัง มั่งครับ
มันก็แปลกดีนะ เเต่ผมถามครูบาอาจารย์เเล้วโดนมนต์ จังงังครับเเต่เป็นทางสายดำ
เเสดงว่า คนทีทำก็ เก่งทางจิตพอตัว เลยละ

 

ผมว่ามันก็ไม่ได้เก่งทางจิตแบบได้ญาณ แต่พวกนี้มันมีความเชื่อมั่นในการสวดคาถาสูง แม้จะเรียนทางโลกมาน้อยกว่าพวกเรา คนเรียนมาเยอะอย่างพวกเราไม่เชื่อมั่นในคาถา จิตวอกแวกง่ายเลยใช้ไม่ได้ผล พวกนี้มันมั่นใจมาก

 

ขอบคุณในทุกความเห็นนะค่ะ แรกๆ เราลังเลว่าจะตั้งกระทู้ดีมั้ย (เพราะอาจจะต้องเขียนเรื่องปัจจัตตัง กับนั่งสมาธิ ซึ่งเราไม่ค่อยอยากเขียน ล่อแหลมกับกับคนที่ไม่เข้าใจ เวลา Search ในกูเกิ้ล และเราอาจจะโดนข้อหาเพี้ยนได้
แต่ก็อยากให้บางคนที่เคยมีประสบการณ์แล้วรอดมากได้ ช่วยกันเชียนออกความเห็นบ้าง เพราะส่วนใหญ่ จะเป็นลักษณะ คนใกล้ตัวโดน แล้ว ลืมจำอะไรไม่ได้ (เขียนอธิบายไม่ได้นะค่ะ)
******แล้วจะตั้งที่ไหนดี
-พันธิบ คนอ่านเยอะดี ความเห็นเยอะดี จะได้ช่วยกันเตือน
-พลังจิต อาจจะได้คำตอบใหม่ๆ ซึ่งเราก็คลางใจอยู่ (ถึงถามตรงหัวข้อว่าเราโดนอะไรกันแน่)แต่ประเด็นป่วยตัดได้เลยค่ะ เพราะรู้ตั้งแต่มีอาการขนลุกแล้ว ว่าไม่ใช่ป่วย แต่เป็นอะไรไม่รู้
เรื่องนี้มีข้อน่าคิดอยู่หลายอย่างค่ะ

-ทำ ทำไม ในเมื่อเงินที่โกง ประมาณ 3-4 พันบาท (จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ค่ะ) น้อยมากค่ะ
-เราออกบิลก่อน ที่จะส่งของ ซึ่งถ้ามาโกงกันจริง เรามีสิทธิ์ไม่ส่ง และอาจจะแจ้งตำรวจถ้ามาตามของ ว่าเกิดอะไรขึ้น
-ถ้าเราไม่ส่ง ก็ ได้เงินฟรีๆ เลย(ประมาณ หมื่นกว่าๆ) ถ้ามาทวงก็เสี่ยงโดนยำนะค่ะ
-มาถึงในบ้าน ซึ่งมีคนอยู่ประมาณ 4 คน ถือว่ากล้ามากค่ะ เพราะถ้าวันนั้นแฟนไม่ติดลูกค้าคนอื่น(คือรักษามารยาท) อาจจะมีเรื่องยาวๆ ถึงโรงพักค่ะ
-ตาของเขาดูมีพลังค่ะค่ะ (ถึงถามเรื่องสะกดจิต) ผิวพรรณดี อาจจะเพราะเด็กหรือเปล่าไม่ทราบ เรารู้สึกว่าเขามีเจโตด้วย(อาจจะคิดไปเองก็ได้ เพราะเราเป็นคนธรรมดา ไม่มีอภิญญา) เราเคยเห็นคนที่มีเจโต ลักษณะการจ้องก็แบบนี้ ตาจะนิ่งๆ อาจจะพูดบ้าง ทำอย่างอื่น ฯลฯ แต่ตานิ่งนะค่ะ

 

และอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าไม่ทราบ
-เพราะเราขาดการปฏิบัติไปเดือนกว่า ทั้งนั่งสมาธิ /เจริญสติ ระหว่างวัน ไปเดือนกว่า ๆ ต่อของเดิมยากมากค่ะ และทำให้ช่วงนั้นรู้สึก ขี้เกียจมาก และมีความรู้สึกว่า อยากปฏิบัติน้อยลง ปฏิบัติไปก็ไม่เห็นมีอะไร ฯลฯ รวมถึงอยากเลิกนั่งสมาธิ (จากความคิดเราเองนะ ไม่ใช่ปัจจัยรอบด้าน) เป็นความคิดที่ออกมาระหว่างนั่งสมาธิแล้วฟุ้งซ่าน
-อย่างที่บอกไว้ ญาติธรรมเราโดนไปก่อนหน้านี้จากคนในพลังจิตนี้เอง ทำให้เรารู้สึกกังวลมาก กลัว จนต้องหยิบคาถามงกุฎพระพุทธเจ้ามาท่อง(จากเดิมท่องไม่ได้ค่ะ) มีความรู้สึกว่า ตัวเองคงจะโดนบ้าง เพราะเดวนี้สังคมน่ากลัวมาก

ว่าแล้ว คนในพลังจิตที่เก่งเรื่องคุณไสย ไม่ออกมาให้ความเห็นบ้างหรือคะ ว่าคืออะไร

 

ผู้มีกำลังสมาธิสูง ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยกระพริบตา เวลามองอะไรก็จะไม่ค่อยขยับหน้า หรือ เลื่อนลูกตาจากจุดที่มองครับ

แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายด้วยนะครับ ถ้าแสบตาอยู่ ก็ต้องกระพริบตาถี่ๆ เหมือนกัน

ฝึกสติ ให้เต็มที่ครับ แล้วกำลังของเราจะแข็งแรงขึ้นจนไม่หลงไปตามพวกนี้ได้ครับ เหมือนกำลังมันไม่ห่างกัน เขาเลยไม่สามารถควบคุมอะไรเราได้