รบกวนผู้รู้เข้ามาตอบ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ไม่ยึด, 30 ตุลาคม 2013.

  1. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    การจะแยกจิตออกจากกายนั้นมีหลากหลายวิธี
    วิธีที่จะแนะนำคือ
    การละอัตตากำหนดใจให้เป็นดวงแก้วกลมพอประมาณ
    แล้วละวางกายเนื้อแห่งตัวตนนี้ เคลื่อนจิตออกไปตามสถานที่หรือภพภูมิต่างๆ
    วิธีนี้ให้ละถอนอัตตาแห่งตัวตนที่ปรากฏเป็นกายเนื้ออยู่ในขณะนี้
    ใช้พลังสมาธิและปัญญากำหนดให้จิตเป็นรูปต่างๆตามต้องการ
    และกำหนดเคลื่อนออกมาจากกายเนื้อ อย่างนี้เป็นต้น
    โมทนา...​
     
  2. ไม่ยึด

    ไม่ยึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +263
    อันนี้เคยลองทำครับ แต่อยากจะไปแบบทั้งตัวดูจะได้รู้เห็นว่าเป็นอย่างไรบ้างต้องทำอย่างไรบ้าง
     
  3. btme

    btme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +319
    ไม่ใช่ผูรู้นะครับ แต่ขอเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาตอบ ไม่รับลองว่าถูกหรือผิด อย่ายึดเอาเป็นตำรา
    การที่ว่าแยกกายกับวิญญาณที่ว่าคงจะหมายถึงการถอดจิต ถอดกายทิพย์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรียกกัน ในที่นี้ขอเรียกว่าการถอดจิต เมื่อถอดจิตแล้วเอาจิตไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องของปุถุชนคนทั่วไปสามารถทำได้ทุกคนครับ ขึ้นอยู่กับว่าทำถึงกันรึเปล่า มันเป็นอาการอย่างหนึ่งของสมาธิ ซึ่งมีทั้งจริงและหลอกไม่ควรยึดถือเป็นสำคัญ อันนี้ต้องระวังไม่งั้นแก้ยากครับ
    วิธีหนึ่งง่ายๆเลยที่ทำได้สำหรับกาถอดจิตแบบตั้งใจนะครับ อย่างแรกคือคุณต้องเข้า-ออกสมาธิได้ถึงฌาณสี่ ได้คล่องพอสมควร ซึ่งขั้นนตอนในการถอดจิตก็มีดังนี้ครับ
    เข้าสมาธิจนถึงฌาณสี่=>อุปจารสมาธิ=>อธิฐาน=>เข้าสมาธิจนถึงฌาณสี่=>อุปจารสมาธิ=>อธิฐาน=>เข้าสมาธิจนถึงฌาณสี่=>จิตแยกกับกาย
    **ในขณะที่อยู่ในฌาณสี่คุณจะไม่สามารถกำหนดอะไรได้ทั้งสิ้น ถ้าคุณกำหนดได้แสดงว่ายังไม่ถึง การที่คุณจะกำหนดเข้าออกสมาธิได้นั้น คุณต้องกำหนดไว้ในตอนที่คุณอยู่ที่อุปจารสมาธิครับ และจากที่คุณบอกว่าพอจิตนิ่งดีแล้ววิตกวิจารย์หายแล้วจิตจะรวมเข้ามาเราจะรู้สึกเหมือนตกจากที่สูง นั่นเป็นอาการของสติที่ไม่ทันกับจิตครับ จริงๆรายละเอียดมีเย๊อะ ถ้าจะเอาแบบละเอียดคงเป็นหน้า เลยขอเล่าแบบคร่าวๆ ทางที่ดีถ้าอยากทำได้จริงๆลองไปหาหนังสื่ออ่าน ที่ครูอาจารย์หลวงพ่อที่ท่านเก่งเรื่องอภิญญาท่านสอนไว้ครับ หรือหาครูอาจารย์ที่ท่านแนะนำได้ครับ**
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ท่านเจ้าของกระทู้และท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอขัดคอคัดค้านสักหน่อย เพราะมีเมตตา ไม่อยากเห็นพวกท่าน หลงเข้าใจผิด ด้วยความเขลา เบาปัญญา ไม่คำนึงไม่คิดถึงหลักความจริงตามหลักพุทธศาสนา

    พวกคุณลองใช้สมองสติปัญญาของพวกคุณคิดพิจารณาดูซิว่า

    จิต คือ อะไร
    จิต อยู่ที่ไหน
    กายคือ อะไร
    กายกับจิตมันแยกกันได้หรือขอรับ
    ถ้าไม่มีกาย ก็ไม่มีจิต คำว่า ไม่มีกาย ก็ไม่มีจิต หมายถึง หากร่างกายของพวกท่าน ไม่ทำงานตามระบบการทำงานของร่างกาย นั่นแหละ จิตผิดปกติ
    หากร่างกายของพวกท่านหยุดทำงาน โดยเฉพาะ ระบบหายใจ ระบบสมอง นั่นแหละ พวกท่านไม่มีจิต
    จิตกับ กาย จะแยกออกจากกันไม่ได้
    แต่ มนุษย์ อาจมีความสามารถ แบ่งแยกจิตได้ คำว่าแบ่งแยกจิต หมายถึง สามารถแบ่งแยกการรับรู้ทางอายตนะได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา
    แต่ก็อาจมีบางบุคคลที่ไม่สามารถแบ่งแยกจิตได้ เหตุเพราะสมาธิไม่ได้ ขอรับ
     
  5. btme

    btme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +319
    คุณ telwada คุณคิดอะไรที่มันลึกเกินไปเปล่าครับ คุณว่าจิตคืออะไรเหรอ แล้วจิตมันอยู่ตรงส่วนไหนของร่างกาย จิตมีสภาพเป็นอย่างไร จึงไม่สามารถแยกจากร่างกายได้ บอกได้มั้ย คุณไปบอกปลาว่าบนต้นไม้มันเป็นแบบนั้นแบบนี้ด้วยความที่คุณเป็นนกปลามันก็ไม่รู้หรอกครับ คุณก็ต้องบอกปลาด้วยความเข้าใจของปลา ต่อเมื่อวันเขาถึงตรงนั้นเขาก็จะเข้าใจเองแหละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คำถามที่คุณถามมา ข้าพเจ้าเคยถาม พวกสมาชิกหลายๆท่านมาก่อน และไม่เคยได้คำตอบเลย และข้าพเจ้าเอง ก็ตอบให้ไปหลายครั้งแล้ว
    คุณเอา ปลามาเกี่ยวอะไรกับ มนุษย์ ปลามันรับรู้ ตามสภาพของมัน นั่นหมายถึง ปลา มันก็มี จิต ตามชนิดความเป็นสัตว์ของมัน
    คุณกลาวมาแบบคนปัญญาอ่อนที่จะให้มนุษย๋ไปบอกปลา ถึงอย่างไรก็ตาม ปลากับมนุษย์ ก็สามารถสื่อสารกันได้ ในบางเรื่องบางอย่าง


    เพราะจิต หมายถึง สภาพการรับรู้อารมณ์ ถ้าหากจะอธิบายให้ละเอียด เกรงว่า จะเป็นการสีซอให้ควายฟัง (ไม่ได้ด่านะขอรับ) แต่ข้าพเจ้าจะโปรดสัตว์ประเสริฐอย่างคุณเอาไว้ว่า

    จิต ของมนุษย์ หากจะกล่าวให้เป็นไปตามหลักวิชาการในสมัยปัจจุบัน ก็ย่อมหมายถึง อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย และยังหมายรวมไปถึง ระบบการทำงานทุกชนิดภายในร่างกาย
    ร่างกายมนุษย์ ประกอบไปด้วย อะตอม นิวเคลียส หลายๆอะตอม หลายๆนิวเคลียส รวมกันเป็นเนื้อเยื่อ (ข้ามไปนิด) หลายเนื้อเยื่อรวมกันเป็นอวัยวะ หลายๆอวัยวะ รวมกันเป็นระบบการทำงาน หลายๆระบบการทำงาน รวมกันเป็นร่างกายของมนุษย์

    ในทางการแพทย์ จิต ของมนุษย์ จะมีศูนย์รวมอยู่ทึ่ หัวใจ และสมอง โดยสมองจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในหลักวิชาการแพทย์ หากสมองหยุดทำงาน นั่นหมายถึง ตาย ถึงแม้ว่าหัวใจจะยังคงทำงานอยู่ นั่นก็หมายความว่า จิตส่วนใหญ่ของมนุษย์ มีศูนย์กลางอยู่ที่สมอง
    แต่ในทางพุทธศาสนา
    จิต ของ มนุษย์ จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ หัวใจ และสมอง
    หัวใจแม้จะทำงานอยู่ แต่หากระบบการทำงานของหัวใจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ สมอง ก็จะไม่ตอบสนองต่อการรับรู้ใดใดทั้งสิ้น นั่นหมายถึง จิต ของมนุษย์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ หัวใจ และสมอง

    อนึ่ง มนุษย์ ปุถุชน คนทั่วไป ไม่สามารถ แยกจิต ออกจากร่างกายได้ แต่มนุษย์ สามารถ แย่งแยกจิตในการรับรู้ได้
    แค่นั่งสมาธิ จะแยกจิตออกจากร่างกาย ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า.....ฮ่า......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  7. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    หัวแม่เท้าคือผัสสะ ร่วมกันของสอง อายตนะ
    เปลี่ยนเป็นเพ่งลูกแก้ว เอากสิน

    แล้วเลยไปหัดอรูปสมาบัติเลยครับ

    แยกกายบางทีอาจจะมีกรรมบางอย่างขวางให้ยังทำไม่ได้

    แสงจากลูกแก้วใสๆ
    ทำให้ผัสสะ ที่แยกไม่ออกว่าข้างในข้างนอก
    มันหมดความหมาย
    คุณอาจจะแยกกาย จิตสำเร็จด้วยการเพ่งลูกแก้ว ถ่ายภาพลูกแก้วใสๆ ส่องแดดก็ได้
     
  8. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    เอาขวดใสๆ ใส่น้าก็ได้

    เพราะจะแค่ให้สภาพกลมของขวดและน้ำใสๆ
    มันหักเหแสง เหมือนกระจกโค้ง จนแสงที่มองจากมุมไหนของ
    ขวดน้ำ มีสภาพเดียวกันหมด

    ท่านลองเอาขวดน้ำใสๆวางกลางแดด
    แล้วลอง หาระยะห่าง จะมีระยะหนึ่งที่ทุกมุม
    แสงจะมีสภาพเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน

    อาการที่หัวแม่เท้า ร้อน แยกไม่่ออก
    อาจจะเป็นเพราะท่านเอาเท้า ไปทำเรื่องไม่ดี
    เช่นเขี่ย หรือเหยียบ อะไรที่ สำคัญๆ
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    หัวแม่เท้าเป็นประตูลม ทั้งสองข้างครับ
    เชื่อมกับขมับ ทั้งสองข้าง

    ท่านเคยโดนใครตีดทัดดอกไม้ หรือตีคนอื่นหรือเปล่าครับ
    ประมาณว่ามีทั้งเจ้ากรรมนายเวรตามทวง
    และตามช่วย

    อาการนี้ จะแกล้งไม่ให้ท่านภาวนาได้
    ลองคาถาจักรพรรดิ์ สายหลวงปู่ดู หลวงตาม้า อุทิศกุศล
    ให้ทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่ตาม ช่วย
    และตามแกล้ง

    อาการ ข้างในไม่ต่างจากข้างนอกของลูกแก้ว กระทบแสง
    จะทำให้เจ้ากรรมนายเวรสองแบบ
    เข้าร่วมใจกันก็ได้

    ผัสสะของสองอายตนะ รวมเหมือนแยก

    และอาการพลัดจากที่สูง
    เหมือนกายจะบิน แบบปิติ

    แต่จิตไม่บินไปตามกาย

    นี่ยังถือเป็นอุปจาระสมาธิอยู่นะครับ
    ไม่อัปนาสมาธิ
     
  10. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    เจ้ากรรมนายเวรชุดหนึ่ง จองร่าง อยากได้ปิติ จากร่างกาย
    เจ้ากรรมนายเวรชุดสอง อยากได้ปัสสะธิ จากจิต

    ถ้าจิดรวมเป็นอัปนาสมาธิ ผัสสะระหว่างสองโพชฌงค์
    อาจจะจะย้ายไปผัสสะ ที่สมาธิแทน
     
  11. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ลม มีแบบ ภายในกับภายนอก ร่างกายคนเราเหมือนขลุ่ย

    จากหัวแม่เท้า มาผ่าเท้า
    น่อง เหนือเข้าขาหนีบ หัวเหน่า ช่องท้อง
    กระบังลม ถ้าเป็นเท้าซ่้ายก็ผ่านหัวใจ
    ช่องอก ลำคอ กกหู ขมับ และจอมขวัญ

    ท่านเคยโดนตี หรือตีใคร ตามช่องทางนี้บ้างหรือเปล่า

    หรือไปดู ไปช่วย คนตีกัน

    เจ้ากรรมนายเวรไม่ได้จองแล้ว
    เค้ามาช่วยทั้งแบบ ที่โดนทำร้าย และโดนช่วย

    แต่กรรมทำให้เค้าไม่เข้าใจกันเอง
    เจอกันแล้ว เขม่น
    ทำให้สองอายตนะ
    คือกายใน กะกายนอก มีผัสสะ แบบนี้
    ให้เลือกเอาหัวแม่เท้าข้างเดัียวครับ
    ถ้าเกิดร้อนหัวแม่เท้า
    ให้ท่านกำหนดจิตเลือกหัวแม่เท้าข้างเดียว
     
  12. btme

    btme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +319
    น่าส่งสารในความเขลา แต่ดันคิดว่าตัวเองประเสริฐ
    "คุณเอา ปลามาเกี่ยวอะไรกับ มนุษย์ ปลามันรับรู้ ตามสภาพของมัน นั่นหมายถึง ปลา มันก็มี จิต ตามชนิดความเป็นสัตว์ของมัน
    คุณกลาวมาแบบคนปัญญาอ่อนที่จะให้มนุษย๋ไปบอกปลา ถึงอย่างไรก็ตาม ปลากับมนุษย์ ก็สามารถสื่อสารกันได้ ในบางเรื่องบางอย่าง"
    เป็นคำเปรียบเทียบอุปมา ปลามันก็รู้ของปลา นกมันก็รู้ของนก ถ้าจะบอกปลาให้มันเข้าใจเรื่องของนก นกมันก็ต้องบอกปลาด้วยภาษาของปลาที่ปลาจะเข้าใจได้ แต่คุณไม่ได้ใช้สติในการอ่านและไม่ได้ใช้ปัญญาในการตอบ ลองกลับไปอ่านใหม่และใช้สติ+ปัญญาด้วยครับ
    "แต่ในทางพุทธศาสนา
    จิต ของ มนุษย์ จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ หัวใจ และสมอง
    หัวใจแม้จะทำงานอยู่ แต่หากระบบการทำงานของหัวใจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ สมอง ก็จะไม่ตอบสนองต่อการรับรู้ใดใดทั้งสิ้น นั่นหมายถึง จิต ของมนุษย์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ หัวใจ และสมอง"
    อันนี้ยิ่งบ่งบอกถึงความเขลาของคุณ จิตนั้นเป็นสภาวะหนึ่งที่เกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัยหลายๆอย่างมารวมกันเป็นปัจจัยให้เกิดจิตในขณะนั้น เกิดขึ้นอยู่ชั่วขณะและดับไป เรียกว่าชั่วขณะจิต จิตรับรู้ได้ว่ามี แต่ไม่มีตัวตน เกิดขึ้นและดับไป เป็นแค่สมมุติบัญญัติขึ้นมาใช้เรียกเพื่อให้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้น แล้วคุณจะไปหาที่อยู่ของมันได้อย่างไร จากที่ผมได้อ่านที่คุณตอบมาก็รู้ได้เลยว่าคุณมันประเภทขุดไม่ขึ้นแล้วครับ ป่วยการที่จะสนทนาด้วยครับ ทิฐิมานะสูงไม่ใช่ปัญญาในการใคร่ครวญในการตอบ แต่ตอบด้วยเหตุแห่งตนที่คิดว่าตนเองรู้ถูกต้อง รู้แบบนกแก้วนกขุนทอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  13. btme

    btme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +319
    อาการอย่างที่เจ้าของกระทู้เล่า ไม่เคยเป็น ที่ผมเป็นนั้นครั้งแรกเป็นไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ขั้นตอนก็เป็นอย่างที่ผมบอกไว้แล้วข้างต้น มันเป็นไปเองครับ และในครั้งหลังๆได้ทำตามครั้งแรกที่เคยเป็น แต่ไม่สามารถบังคับได้ว่าเวลานั้นเวลานี้ ขึ้นอยู่กับสมาธิด้วย เคยโทรไปถามคนที่อยู่ที่ที่เคยไปมา พอดีเป็นคนที่รู้จัก ว่าเวลานั้นเวลานี้มีอะไรตรงไหนใครอยู่ตรงไหนทำอะไรอยู่บ้าง ก็ได้คำตอบอย่างที่เราถามไป ผมฝึกสมาธิแบบธรรมดา ใช้ภาวนาพุท-โธ เคยไปถามครูอาจารย์ทั้งเป็นพระป่า และฆารวาส ถึงอาการที่ได้ออกไปเห็นมา ท่านบอกว่ามันเป็นอาการของสมาธิที่เกิดขึ้นได้กับปุถุชน "เรียกว่าโลกียฌาณ" ซึ่งมีทั้งจริงและไม่จริง อั้นนี้ต้องไปพิสูจน์เอาเอง ลองหาหนังสือมาอ่านได้ครับ มีพระหลายรูปที่ท่านสอนไว้ หรือไม่ก็ลองหาจาก google ได้ครับ น่าจะเชื่อถือได้มากกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2013
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    คือถ้าอยากจะพิสูจน์ พอจะแนะนำองค์ประกอบในการเข้าถึงตรงจุดนี้ได้ครับ.
    และต้องมีเวลาให้กับเรื่องนี้ด้วยนะครับ.และภาระทางสมมุติเรื่องต่างๆของเรา
    ก็ต้องที่จะคลายๆลงแล้วร่วมด้วยครับ..ที่สำคัญต้องฟิตพอตัวครับ..
    เอาว่าถ้าทำได้จริงๆนะครับแรกๆก็อยู่ได้ใกล้ๆกับที่เรานั่งนั่นหละครับ..
    และต่อให้เราไปได้ก็ไปได้ไม่เกินชั้นพรหมครับ
    ถ้าอาศัยกำลังตัวเองนะครับ.อาจมีฝลุ๊คเลยไปได้แต่โอกาสน้อยและ
    การเข้าถึงก็ทำได้ค่อนข้างยากครับ ถ้าเราไม่มีความต่อเนื่องจริงๆ.

    .และถ้ายกกายไปยังสุ่มเสี่ยงอีกหลายๆด้าน ถ้าเราไม่ครูบาร์ อาจารย์ทางภพภูมิคอยดูแล
    และมีเครื่องป้องกันตนเองที่ดีพอครับ.
    .เทียบกับการส่งจิตไปดูปลอดภัยกว่าเยอะครับ.ส่วนการส่งจิตไป
    ดูก็มีเทคนิควิธีการเหมือนกันครับ.

    ยกเว้นว่าจะตั้งปลายทางไว้อย่างน้อย
    สมาบัติ ขึ้นไปมาคุยและเปลี่ยนกันต่อได้ครับ
    .แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานเพื่อนำกำลังสมาธิตรงจุดนี้
    มาเพื่อเป็นฐานกำลังสำหรับ..การเดินปัญญา
    เพื่อลด ละ กิเลสในใจเป็นหลักนะครับ..
     
  15. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า...ฮ๋า...ข้าพเจ้าว่าแล้ว "สีซอให้ควายฟังจริงๆเลยขอรับ แถมยังอวดรู้อวดฉลาดซะอีกด้วย (ขออภัยต่อท่านทั้งหลายและเจ้าของกระทู้) อ่านภาษาไทยแล้วไม่รู้เรื่อง ยังเที่ยวกล่าวโทษกล่าวร้ายผู้อื่นอย่างหน้าด้านๆ ไม่ทราบว่าคุณนับถือ หรือ ฝึกปฏิบัติในศาสนาใดหรือขอรับ

    สิ่งที่คุณกล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นเป็น เหตุที่ทำให้เกิดการรับรู้ ไม่ใช่ตัวจิต หรือ สิ่งที่เป็นจิต


    ถามเอง แล้วก็ลืมเอง ว่าให้ผู้อื่นมันก็ตกเข้าตัวคุณนั่นแหละ หรือว่าคุณอ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็อ่านซ้ำแล้วทำความเข้าใจให้ดีว่า ข้าพเจ้าอธิบายถึงเรื่องอะไร ความจริงแล้ว ถ้าคุณมีสมองสติปัญญาหรือได้รับการเรียนรู้ขัดเกลาในทางที่ดีมา คงไม่มีทิฏฐิ เที่ยวกล่าวร้าย อวดรู้อวดฉลาด จะเรียกว่า "เขลาแล้วอวดฉลาด"ก็ว่าได้
    อธิบายก่อนก็ได้ จะได้ลดความโง่แล้วอวดฉลาดลงไปบ้างนะ ข้าพเจ้าเขียนถึงจิต ที่คุณถามมา คุณถามว่าอย่างไร ข้าพเจ้าก็ตอบคุณไปอย่างนั้น แต่ให้คุณพิจารณาเอาเองว่า อันไหนเป็นอันไหน


    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ telwada อ่านข้อความ
    คำถามที่คุณถามมา ข้าพเจ้าเคยถาม พวกสมาชิกหลายๆท่านมาก่อน และไม่เคยได้คำตอบเลย และข้าพเจ้าเอง ก็ตอบให้ไปหลายครั้งแล้ว
    คุณเอา ปลามาเกี่ยวอะไรกับ มนุษย์ ปลามันรับรู้ ตามสภาพของมัน นั่นหมายถึง ปลา มันก็มี จิต ตามชนิดความเป็นสัตว์ของมัน
    คุณกลาวมาแบบคนปัญญาอ่อนที่จะให้มนุษย๋ไปบอกปลา ถึงอย่างไรก็ตาม ปลากับมนุษย์ ก็สามารถสื่อสารกันได้ ในบางเรื่องบางอย่าง

    เพราะจิต หมายถึง สภาพการรับรู้อารมณ์ ถ้าหากจะอธิบายให้ละเอียด เกรงว่า จะเป็นการสีซอให้ควายฟัง (ไม่ได้ด่านะขอรับ) แต่ข้าพเจ้าจะโปรดสัตว์ประเสริฐอย่างคุณเอาไว้ว่า

    จิต ของมนุษย์ หากจะกล่าวให้เป็นไปตามหลักวิชาการในสมัยปัจจุบัน ก็ย่อมหมายถึง อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย และยังหมายรวมไปถึง ระบบการทำงานทุกชนิดภายในร่างกาย
    ร่างกายมนุษย์ ประกอบไปด้วย อะตอม นิวเคลียส หลายๆอะตอม หลายๆนิวเคลียส รวมกันเป็นเนื้อเยื่อ (ข้ามไปนิด) หลายเนื้อเยื่อรวมกันเป็นอวัยวะ หลายๆอวัยวะ รวมกันเป็นระบบการทำงาน หลายๆระบบการทำงาน รวมกันเป็นร่างกายของมนุษย์

    ในทางการแพทย์ จิต ของมนุษย์ จะมีศูนย์รวมอยู่ทึ่ หัวใจ และสมอง โดยสมองจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในหลักวิชาการแพทย์ หากสมองหยุดทำงาน นั่นหมายถึง ตาย ถึงแม้ว่าหัวใจจะยังคงทำงานอยู่ นั่นก็หมายความว่า จิตส่วนใหญ่ของมนุษย์ มีศูนย์กลางอยู่ที่สมอง
    แต่ในทางพุทธศาสนา
    จิต ของ มนุษย์ จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ หัวใจ และสมอง
    หัวใจแม้จะทำงานอยู่ แต่หากระบบการทำงานของหัวใจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ สมอง ก็จะไม่ตอบสนองต่อการรับรู้ใดใดทั้งสิ้น นั่นหมายถึง จิต ของมนุษย์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ หัวใจ และสมอง

    อนึ่ง มนุษย์ ปุถุชน คนทั่วไป ไม่สามารถ แยกจิต ออกจากร่างกายได้ แต่มนุษย์ สามารถ แย่งแยกจิตในการรับรู้ได้
    แค่นั่งสมาธิ จะแยกจิตออกจากร่างกาย ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า.....ฮ่า......
     
  16. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ขออภัย ไม่ทราบว่า ครูอาจารย์ของคุณเป็นใครหรือขอรับ อยู่ที่ไหน จึงสอนแบบ บิดเบือนหลักธรรมและหลักปฏิบัติอย่างนั้น
    ข้าพเจ้าจะสอน ครูอาจารย์ของคุณ ผ่านตรงนี้เลยว่า
    การปฏิบัติสมาธิ ต้องถือเอา ความสงบทางใจเป็นที่มั่น จะคิด จะเห็นภาพ จะนึกเอาเองว่า กายเนื้อ กายทิพย์ หรืออื่นใด ไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งเหล่านั้น คือ วิตก วิจารณ์ อันจักก่อให้เกิด ปีติ(ความยินดี) สุข อุเบกขา
    แม้แต่การใช้การ ภาวนา พุทธ-โธ หรืออื่นใด ก็ยังไม่ถูกต้อง เพราะมันทำให้ใจไม่สงบ ไม่สงบอย่างไร ก็คิดพิจารณาเอาเองเถอะ
    ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...แค่นั่งสมาธิ อยากจะแยกจิตออกจากร่างกาย.....น่าสมเพช อนาถใจจริงๆ
     
  17. ไม่ยึด

    ไม่ยึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +263
    อาการนิ่งแล้วความคิดมันผุดออกมาแถวๆสะดือนี่คืออะไรครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...