ระดม ตร.คุมเข้ม ย้ายพระทองคำ

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">ระดม ตร.คุมเข้ม ย้ายพระทองคำ
[17 ก.ย. 51 - 04:02]

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

การเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรครั้งนี้ เป็นที่เปิดเผยขึ้นโดยพระเทพภาวนาวิกรม (ธงชัย ธมฺมโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ได้กล่าวเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ว่าขอแจ้งให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชน ที่จะเดินทางมากราบไหว้สักการะ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรหรือหลวงพ่อทองคำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ อายุหลายร้อยปีตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยวัดจะงดให้สักการะเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ตั้งแต่กลางเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ เพื่อเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำจากวิหารหลังเดิม ที่ประดิษฐานมาตั้งแต่ปี 2478 หรือนานกว่า 73 ปี ไปประดิษฐานในพระมหามณฑปหลังใหม่ ที่วัดจัดสร้างขึ้น เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานยอดฉัตรอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนยอดพระมหามณฑปฯ โดยสมเด็จพระราชาคณะ 3 รูป ประกอบด้วยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงครามและสมเด็จ พระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ เป็นผู้ประกอบพิธี
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำ จะมีการประกอบพิธีถอดพระเกตุมาลา องค์หลวงพ่อทองคำ ถือเป็นปฐมฤกษ์แห่งการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อทองคำ โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เป็นประธานในพิธีถอดพระเกตุมาลาหลวงพ่อทองคำ มีความยาว 75 เซนติเมตร น้ำหนัก 45 กิโลกรัม ในวันจันทร์ที่ 22 ก.ย.นี้ เวลา 17.30 น. จากนั้นจะถอดองค์หลวงพ่อทองคำเป็น 9 ชิ้นส่วน ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากหลวงพ่อทองคำมีน้ำหนักถึง 5.5 ตันหรือ 5,500 กิโลกรัมและมีความสูงถึง 3.04 เมตร จึงต้องใช้ความประณีต เพื่อไม่ให้เกิดความกระทบกระเทือนหรือชำรุดเสียหาย โดยชิ้นส่วนของหลวงพ่อทองคำ จะหุ้มด้วยพลาสติก พันผ้าดิบและพอกปูนปลาสเตอร์ ก่อนจะฉีดโฟมหุ้มองค์พระอีกชั้นหนึ่ง เพื่อยึดองค์พระไม่ให้มีการขยับระหว่างการเคลื่อนย้าย ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.
พระเทพภาวนาวิกรมกล่าวอีกว่า กระบวนการเคลื่อนย้าย ถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากหลวงพ่อทองคำ เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ที่มีค่ามหาศาล ถึง 5,000 ล้านบาท ขณะที่ระบบการรักษาความปลอดภัยหลายฝ่ายค่อนข้างเป็นห่วง เนื่องจากวัดตั้งอยู่ใกล้สถานที่ชุมชนแออัดและใกล้สถานีรถไฟหัวลำโพง ที่มีผู้คนคับคั่งตลอดเวลา ดังนั้นวัดจึงได้ประสานกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดระบบรักษาความปลอดภัย ขณะนี้ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทั่ววัดและจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายทั้งในและนอกเครื่องแบบ รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี พล.ต.ต.ดุสิตสันต์ เถระพัฒน์ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ช่วยราชการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รับผิดชอบ ดังนั้นขอให้วางใจว่า การเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อทองคำ จะทำให้ดีที่สุด จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชนได้ สักการะอีกครั้งในช่วงปลายปี 2551

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
---------------
ที่มา:

http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=104441

รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เนต​

 

อนุโมทนา สาธุ...ข่าวมงคล มหามงคลยิ่งครับ

 

อนุโมทนาครับ ท่านหลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรจะได้มีที่ประดิษฐานที่กว้างขึ้นนะครับ สาธุ

 

ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

"สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"​

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
​

 

ชื่อเต็มของท่านคือ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ"หลวงพ่อทองคำ" ตามที่ท่านเรียก นี่คือองค์จริง ๆ ของท่านครับ