วัตถุมงคล หลวงพ่อฤาษีฯ- หลวงปู่ชื้น-เหล็กไหล หลวงพ่อหวล-ของทนสิทธ์ฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย saipote, 19 สิงหาคม 2012.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบการโอนค่า ขอบคุณค่า:cool:
     
  2. อโศกาชน

    อโศกาชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +449
    ส่งให้ผมหรือยังครับ
     
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่งเรียบร้อยแล้วค่า พรุ่งนี้น่าจะได้รับค่า:cool:
     
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 05/10/58

    - คุณภาษิต EK 9564 0093 6 TH
    - คุณวีระ EK 9564 0091 9 TH
    - คุณธนา EK 9564 0095 3 TH
    - คุณพัชรเชษฐ์ EK 9564 0092 2 TH
    - คุณมาริสา EK 9564 0094 0 TH
    - คุณนิธิโชติ EK 9564 0096 7 TH
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** ตะกุดวัชระธาตุ-แบบสำเร็จองค์ **5
    (หุงจากเหล็กไหลเงินยวง + ปรอท หรือเรียกอีกอย่างว่า ปรอทพรหม)

    วัชระธาตุได้อัญเชิญมาจากตามถ้ำ มาจากการเล่นแร่เเปลธาตุ ของฤๅษีสมัยก่อน แล้วเกาะตามผนังถ้ำ และนำมาเล่นแร่แปรธาตุตามสูตรโบราณ ประกอบด้วย เหล็กไหลเงินยวงสำเร็จองค์ และนำมาหุงกับปรอทเพิ่ม ทำให้ฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 5 เท่า

    มีฤทธิ์ทางโชคลาภ ค้าขายดี คลาดแคล้ว ปลอดภัย เมตตามหานิยม เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ(ใช้คู่กับการทำสมาธิในการรักษา)

    ช่วยป้องกันพระเวทย์ คุณไสย เสน่ห์ยาแฝด มนต์ดำ โดนกระทำ และยังถอดถอนคุณไสยต่าง ๆ รวมถึงเสนียดจัญไรต่างๆ โดยวางในตำแหน่งหน้าผาก แล้วว่า " นะโม พุท ธา ยะ นะ มะ พะ ทะ มะ อะ อุ " หรือจะใช้ ถอนเสมา คาถาถอดคุณไสยอื่นๆ ก็ได้

    ทั้งหมดนี้ได้หุงและปรุงเหล็กไหลปรอทจนได้เป็น ปรอทเพชรชั้นเหล็กไหลจักรพรรดิ์ มีความเปราะจากการหุงจนได้เนื้อจักรพรรดิ์ ควรระมัดระวังการใช้เพราะถ้าตกจะทำให้แตกได้

    1. ไม่ควรใช้ร่วมกับทองคำ หรือวางรวมกับทองคำ ไม่งั้นทองท่านจะสีซีดหรือกลายเป็นเงินยวงด้วย

    2. ผู้หญิงที่มีประจำเดือนจะทำให้ประจำเดือนหมดไว (ขึ้นอยู่กับธาตุของแต่ละบุคคล)

    3. กรณีโดนจีวรขาด,บาตรแตก ให้เอาตะกุดวัชระธาตุไปแช่น้ำ แล้วสวดมนต์ชัยน้อย 9 จบ ทำน้ำมนต์รดคนรดบ้าน และเอาวัชระธาตุเสียบไว้กับคานขื่อบ้าน หรือใช้ถุงแดงห่อแล้วนำไปห้อยที่คานขื่อกรณีไม่สามารถเสียบได้


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0624.jpg
      DSCN0624.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.1 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN0625.jpg
      DSCN0625.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.3 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN0626.jpg
      DSCN0626.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.8 KB
      เปิดดู:
      27
    • DSCN0627.jpg
      DSCN0627.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.5 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN0628.jpg
      DSCN0628.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN0629.jpg
      DSCN0629.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.4 KB
      เปิดดู:
      38
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** สีผึ้งสายล่าง ครูบาคำเป็ง **
    สีผึ้งหลวงปู่แบ่งแยกเป็น ๒ สาย สายบนใช้ด้านโชคลาภ หนุนดวง เสริมดวง สายล่าง เสน่ห์ล้วนๆ ใช้ได้ผลดี แรงที่สุดมีความเข็มขลัง ท่านตั้งชื่อ สีผึ้ง ผูกจิต ดลใจ ท่านเขี้ยวมาชั้นดี สะอาดที่สุด หลวงปู่ใช้เวลาเสกตั้งแต่ สมัยอยู่ถ้ำ เป็นเวลาหลายปี ถ้าหากสีผึ้งนี้ไปตกอยู่กับหนุ่มคนไหน หนุ่มคนนั้นจะได้เมียสวย ได้เมียรวย เมียรัก เดินไปไหนผู้หญิงมารุมล้อม ขอไปอยู่ด้วย หลวงปู่หัวเราะฮึๆ สำหรับหญิงสาว ใช้สีผึ้งนี้ พอใกล้ชายคนไหน ชายคนนั้นจะถวิลหาทุกค่ำคืน สีผึ้งนี้ยังใช้ได้กับนักเรียน ครูบาอาจารย์ นักร้อง นักแสดง ให้ใช้กับคนที่ตัวเองปราถนา อยากให้เขารัก วิธีใช้ สีผึ้งสายล่าง ให้ป้าย ต้ังแต่เอวลงมา ทุกๆวัน หลวงปู่บอกสีผึ้งนี้ไม่มีผลอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัย หากว่าเราอยู่ในศิลในธรรม ห้ามใช้ผิดลูกเมียเขานะโยมไป สำหรับสายบน ให้ใช้ด้านโชคลาภ ค้าขาย เรียกเงินเรียกทอง เสริมดวง หนุนดวง เวลาจะไปทำมาหากิน ทำงาน สมัครงาน เข้าหาเจ้านาย เจรจาธุรกิจ ใช้สีผึ้งทาที่ปาก ฝามือ แขน และอธิฐานขอ สีผึ้งก็จะสำแดงฤทธ์ ดลบันดาลให้ผู้ที่เราไปติดต่อ พูดคุยได้เมตตาเอ็นดู ถูกชะตาสนใจเรา เจรจาราบรื่นตลอดไป ทั้งยังช่วยให้ดวงดีขึ้นเรื่อยๆ คุณวิเศษของสีผึ้ง ทั้ง ๒ สาย คือสามารถเสี่ยงทายได้ โดยท่อง คาถา"ฮัมฮำอำอะ อึอะอะอำ" ๓จบ วนที่หน้าขา อธิฐานจะบอกให้ยกขาแล้วเบาหรือหนักตามแต่ใจจะเสี่ยงทาย สีผึ้งครูบาคำเป็ง เป็นอะไรที่ลูกศิษย์ต่างแสวงหากันและรู้ถึงพลังอำนาจในสีผึ้ง โดยฉะเพราะสีผึ้งสายล่างของหลวงปู่สุดยอด......ขอบอกๆๆๆ
    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 08/10/58

    - คุณไอลดา RJ 2356 4805 1 TH
    - คุณประเสริฐ RJ 2356 4806 5 TH
     
  8. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** สิงห์ (แกะจากกระดูกเสือ) ครูบาคำเป็ง **


    เป็นเครื่องรางประเภทจิ๋วแต่แจ๋วอีกชิ้นหนึ่งของหลวงปู่ แกะจากกระดูกเสือโคร่ง ใช้แก้ชงปีเสือหรือปีอื่นๆ เพราะเสือเป็นสัตว์ที่มีอำนาจ เมื่อนำมาแกะเป็นสิงห์ สัตว์ทีี่ถือว่าเป็นจ้าวป่าเช่นกัน ก็เพิ่มพลังอำนาจอย่างไม่มีขีดจำกัด ทรงอานุภาพเป็นคงกระพัน , กันคุณไสย , กันอาภรรพ์และภูติผีปีศาจ , เป็นมหาอำนาจ , แฝงด้วยเสน่ห์แบบจ้าวป่า

    เหมาะกับทุกเพศทุกวัย องค์เล็กจิ๋ว แต่สูงด้วยพลังกฤตยาคมของเสือโคร่งและราชสีห์ มีติดตัวไว้แล้วดีแน่ๆ หากฝังลงในสีผึ้งของหลวงปู่ ก็เพิ่มพลังแบบเมตตาเจืออำนาจไว้อีกด้วย (คือทั้งรักทั้งเกรง)

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0682.jpg
      DSCN0682.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.6 KB
      เปิดดู:
      33
    • DSCN0683.jpg
      DSCN0683.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.8 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN0684.jpg
      DSCN0684.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.7 KB
      เปิดดู:
      36
    • DSCN0685.jpg
      DSCN0685.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43 KB
      เปิดดู:
      26
    • DSCN0678.jpg
      DSCN0678.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30 KB
      เปิดดู:
      21
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2016
  9. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** น้ำมันชาตรี **
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)

    ผลของน้ำมันมนต์

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง น้องชายของลูกชื่อ "นายสมนึก แดงสี" เป็นคนรับจ้างขับมอเตอร์ไซด์ในซอย ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ขับไปสวัสดีกับปิกอัพ ผลปรากฏว่าสลบไสล ตื่นมาก็กลายเป็นคนอัมพาตทั้งเนื้อทั้งตัว บังเอิญลูกมีโอกาสไป วัดท่าซุง คราวงานเป่ายันต์เกราะเพชร เช่าน้ำมันมนต์ หลวงปู่ปาน ที่วัดมาขวดหนึ่ง พอทาปุ๊บปรากฏได้ผลคือ ขณะนี้แกนั่งได้แล้ว พูดจาเป็นปกติ ทีนี้ต่อไปลูกจะเอาอีกขวดหนึ่ง แต่จะเอาจริง ๆ

    หลวงพ่อ : จริง ๆ เบาไป ต้องเเกล้ง ไอ้เเกล้งมันหนักกว่าจริง ๆ เกล้งให้เดินได้ทำงานได้อยู่เป็นปกติ แล้วต่อไปเอาอีกขวดหนึ่งเกล้งให้รวย อีกขวดหนึ่งแกล้งให้ถูกหวยทุกงวด ( หัวเราะ) ต้องแกล้งมันแรงกว่าธรรมดา ๆ จริง ๆ มันเบา ท่านอนุโลมนะ เกรงจะชอกช้ำ ถ้าแกล้งไม่กลัวช้ำ มีความเข้มแข็ง

    ผู้ถาม : นี่เขาเล่าให้ฟังนะ หมดกันเป็นหมื่น ๆ แหม....แค่น้ำมันขวดเดียว สิบบาท ยี่สิบบาทไม่ได้ ไม่เป็นที่พอใจ หลวงพ่อ : ความจริงจ่ายไม่ครบนะ น้ำมันเขาแพงกว่านั้น (หัวเราะ) ใช่ถ้าหวยก็ราคาแพง ถ้าไม่หายก็เฉย ๆ ไว้ เดี๋ยวเขาจะด่าเอา (หัวเราะ) _________________________________________
    ผลของน้ำมันชาตรี

    ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่ามันที่ ๒๖ ต.ค . ๒๕๓๔ เดือนที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสขี่จักยานยนต์ไปด้วยความรวดเร็ว เพราะว่าจะซื้อยามาให้คนป่วยที่บ้าน ด้วยความเร็วปรากฏว่า รถจิ๊ปคันหนึ่งก็มาด้วยความเร็ว มันหับผมสวัสดีกันกลางทาง ปรากฏว่าล้อรถของผมน่ะ ข้างหน้าข้างหลังอยู่กันคนละทางเลย คนมาดูนึกว่า เละตุ้มเป๊ะแล้ว! ปรากฏว่าผมลุกขึ้นมาปัดแข้งปัดขา เดินด้วยความสบายใจไม่เป็นอะไรเลย ตำรวจมาถามว่า " คุณ! ไอ้คนที่ตายตรงนี้ไปอยู่ที่ไหน?" ผมก็ตอบว่า "ไม่รู้ครับ แต่ไอ้คนที่ขี่รถคันนี้คือผมเอง" ตำรวจถามผมว่า "เอ๊งเป็นลูกศิษย์ใครมีดีอะไร ?" ผมตอบว่า "ผมเป็นลูกศิษย์ น้ำมันชาตรี" ถามว่า "พระองค์นี้อยู่วัดไหน ?" ผมนึกไม่ถูกเลยไปบอกเขาว่า "วัดท่าบุง"

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ใช่ได้ ๆ ๆ ดีเขาไม่บอกวัดขวดเอานะ ผู้ถาม : แล้วบอกว่าอยู่จังหวัดนครสวรรค์

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ได้เรื่อง! วัดท่าบุง นครสวรรค์ ใช้ได้

    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าตำรวจคนนั้นไปเอา น้ำมันชาตรี คงไปหาทั้งจังหวัด แล้วก็ ตำรวจเขาเลยบอกว่า จะขอจดที่อยู่วัดไว้ ผมก็นึกได้ตอนหลังว่าอ่านหนังสือแล้วไม่ใช่ ผมก็นึกวิตกว่า ตำรวจคนนั้นคงไปหาที่นครสวรรค์แล้วก็สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณ น้ำมันชาตรี ของหลวงพ่อด้วย ผมมีเทคนิคในการใช้ดังต่อไปนี้ครับ ตืนเช้าขึ้นมารีบกินก่อน มันจะชนเมื่อไหร่ผมไม่กลัวแล้ว แปลกจริง ๆ นะครับ ที่หลวงพ่อเคยพูดอะไร เบา อะไรนะ ?

    หลวงพ่อ : ชาตรีนี่เขาเรียก "ลูกเบา" อันเดียวกัน เวลาถูกแล้วมันรู้สึกเบา ไม่หนัก รู้จักลูกเบาไหม ? " ..ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมันมนต์แล้วว่า อิติปิ โส ตามนั้น แล้วก็สวด นะมะพะธะ เหมือนกัน เอาน้ำมนต์มาทาที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวัน กฏของฏรรมจะคลายตัว.."

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0591.jpg
      DSCN0591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      40
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** หุ่นพยนต์ - รุ่นหวงบ้าน **
    (ครูบาคำเป็ง ปลุกเสก)

    หุ่นพยนต์ ถ้าพูดถึงหุ่นพยนต์ สำนักที่มีชื่อเสียงที่สุดจะต้องบอกสายอยุธยา คือของอาจารย์ลอยหรือที่เรียกหมอลอย และหุ่นพยนต์ในสายนี้ก็ได้วิชาจากลูกศิษย์สายตรงของหมอลอย โดยบอกกล่าวให้ดวงวิญญาณของหมอลอยทราบ เป็นว่าได้ผนวนวิชาหุ่นพยนต์ของหมอลอยกับวิชาของหลวงปู่ครูบาคำเป็งไว้ด้วยกัน มีคนตรวจสอบแล้วมีตัวตนจริง มีจิตวิญญาณจริง ใช้งานได้จริง คุ้มครองได้ เฝ้าบ้านได้ ช่วยเหลือได้ ค้าขายช่วยได้ อีกมากมาย

    และที่เห็นเหมือนของเล่นหน้าตาน่ารักและมีหลายรูปแบบ ไม่เป็นรูปลักษณ์แบบหุ่นพยนต์ทั่วๆไปจะได้ลดความกลัวเอาไปใช้และคนอื่นไม่รู้ว่านี่คือหุ่นพยนต์ นำติดตัวไปเหมือนของเล่นแขวงสวยงาม นำติดตัวได้ทุกเพศวัย และในทุกตัวหุ่นจะมีตะกรุดหนึ่งดอกเป็นตะกรุดเจ้าปัญญาเสริมปัญญาให้หุ่นและผู้ครอบครองได้ผ่านการปลุกเสกเรียกดวงจิตเป็นเวลายาวนานและได้ทศสอบในการใช้ดูมีผู้เห็นและสำผัสได้ และดวงจิตที่ใส่ในหุ่นนี้เป็นดวงจิตของเทวดา ไม่มีทางทูตผี ไม่เป็นอันตรายแก่เจ้าของให้คุณไม่มีโทษ หุ่นพยนต์มีประสบการณ์ต่างๆนานาเช่นเปิดทีวีเอง เล่นของเล่น เฝ้าเงิน เคยเรียกลูกน้องไปเอากระเป๋าเงินอยู่ที่รถ ลูกน้องเห็นคนอยู่ที่รถไม่กล้าไปเอากระเป๋า มาบอกและอีกเหตุการหนึ่ง คนงานขโมยเงินจับได้แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร ตกกลางคืนนอนคนงานนอนอยู่เหมือนมีคนมาเหยืยบอกเขาบอกกลัวมาก แล้วเอาเงินมาคืนละอายลาออกไปในที่สุด
    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0049.jpg
      DSCN0049.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.6 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN0678.jpg
      DSCN0678.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30 KB
      เปิดดู:
      25
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  11. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** สีผึ้งสายล่าง **
    (หลวงปู่ครูบาเป็ง ฐิตปัญโญ ปลุกเสก)
    สำนักอาศรมสุขาวดี ต.ท่าเดื่อ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

    สีผึ้งหลวงปู่แบ่งแยกเป็น ๒ สาย สายบนใช้ด้านโชคลาภ หนุนดวง เสริมดวง สายล่าง เสน่ห์ล้วนๆ ใช้ได้ผลดี แรงที่สุดมีความเข็มขลัง ท่านตั้งชื่อ สีผึ้ง ผูกจิต ดลใจ ท่านเขี้ยวมาชั้นดี สะอาดที่สุด หลวงปู่ใช้เวลาเสกตั้งแต่ สมัยอยู่ถ้ำ เป็นเวลาหลายปี ถ้าหากสีผึ้งนี้ไปตกอยู่กับหนุ่มคนไหน หนุ่มคนนั้นจะได้เมียสวย ได้เมียรวย เมียรัก เดินไปไหนผู้หญิงมารุมล้อม ขอไปอยู่ด้วย หลวงปู่หัวเราะฮึๆ สำหรับหญิงสาว ใช้สีผึ้งนี้ พอใกล้ชายคนไหน ชายคนนั้นจะถวิลหาทุกค่ำคืน สีผึ้งนี้ยังใช้ได้กับนักเรียน ครูบาอาจารย์ นักร้อง นักแสดง ให้ใช้กับคนที่ตัวเองปราถนา อยากให้เขารัก วิธีใช้ สีผึ้งสายล่าง ให้ป้าย ต้ังแต่เอวลงมา ทุกๆวัน หลวงปู่บอกสีผึ้งนี้ไม่มีผลอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัย หากว่าเราอยู่ในศิลในธรรม ห้ามใช้ผิดลูกเมียเขานะโยมไป สำหรับสายบน ให้ใช้ด้านโชคลาภ ค้าขาย เรียกเงินเรียกทอง เสริมดวง หนุนดวง เวลาจะไปทำมาหากิน ทำงาน สมัครงาน เข้าหาเจ้านาย เจรจาธุรกิจ ใช้สีผึ้งทาที่ปาก ฝามือ แขน และอธิฐานขอ สีผึ้งก็จะสำแดงฤทธ์ ดลบันดาลให้ผู้ที่เราไปติดต่อ พูดคุยได้เมตตาเอ็นดู ถูกชะตาสนใจเรา เจรจาราบรื่นตลอดไป ทั้งยังช่วยให้ดวงดีขึ้นเรื่อยๆ คุณวิเศษของสีผึ้ง ทั้ง ๒ สาย คือสามารถเสี่ยงทายได้ โดยท่อง คาถา"ฮัมฮำอำอะ อึอะอะอำ" ๓จบ วนที่หน้าขา อธิฐานจะบอกให้ยกขาแล้วเบาหรือหนักตามแต่ใจจะเสี่ยงทาย สีผึ้งครูบาคำเป็ง เป็นอะไรที่ลูกศิษย์ต่างแสวงหากันและรู้ถึงพลังอำนาจในสีผึ้ง โดยฉะเพราะสีผึ้งสายล่างของหลวงปู่สุดยอด......ขอบอกๆๆๆ

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  12. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 09/10/58

    - คุณกมล RH 4862 0467 5 TH
    - คุณทวีศักดิ์ EP 0840 7523 5 TH
     
  13. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** กำไรข้อมือหางช้าง (สีขาว) **

    ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกันอาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้องเดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.

    ********************************

    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว**
    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0782.jpg
      DSCN0782.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  14. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณทีวีศักดิ์ EK 9564 0098 4 TH
    - คุณเฉลิมพล RH 4862 0466 7 TH
    - คุณสมชาย EK 9564 0097 5 TH
     
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** สีผึ้งสายล่าง **
    (หลวงปู่ครูบาเป็ง ฐิตปัญโญ ปลุกเสก)
    สำนักอาศรมสุขาวดี ต.ท่าเดื่อ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

    สีผึ้งหลวงปู่แบ่งแยกเป็น ๒ สาย สายบนใช้ด้านโชคลาภ หนุนดวง เสริมดวง สายล่าง เสน่ห์ล้วนๆ ใช้ได้ผลดี แรงที่สุดมีความเข็มขลัง ท่านตั้งชื่อ สีผึ้ง ผูกจิต ดลใจ ท่านเขี้ยวมาชั้นดี สะอาดที่สุด หลวงปู่ใช้เวลาเสกตั้งแต่ สมัยอยู่ถ้ำ เป็นเวลาหลายปี ถ้าหากสีผึ้งนี้ไปตกอยู่กับหนุ่มคนไหน หนุ่มคนนั้นจะได้เมียสวย ได้เมียรวย เมียรัก เดินไปไหนผู้หญิงมารุมล้อม ขอไปอยู่ด้วย หลวงปู่หัวเราะฮึๆ สำหรับหญิงสาว ใช้สีผึ้งนี้ พอใกล้ชายคนไหน ชายคนนั้นจะถวิลหาทุกค่ำคืน สีผึ้งนี้ยังใช้ได้กับนักเรียน ครูบาอาจารย์ นักร้อง นักแสดง ให้ใช้กับคนที่ตัวเองปราถนา อยากให้เขารัก วิธีใช้ สีผึ้งสายล่าง ให้ป้าย ต้ังแต่เอวลงมา ทุกๆวัน หลวงปู่บอกสีผึ้งนี้ไม่มีผลอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัย หากว่าเราอยู่ในศิลในธรรม ห้ามใช้ผิดลูกเมียเขานะโยมไป สำหรับสายบน ให้ใช้ด้านโชคลาภ ค้าขาย เรียกเงินเรียกทอง เสริมดวง หนุนดวง เวลาจะไปทำมาหากิน ทำงาน สมัครงาน เข้าหาเจ้านาย เจรจาธุรกิจ ใช้สีผึ้งทาที่ปาก ฝามือ แขน และอธิฐานขอ สีผึ้งก็จะสำแดงฤทธ์ ดลบันดาลให้ผู้ที่เราไปติดต่อ พูดคุยได้เมตตาเอ็นดู ถูกชะตาสนใจเรา เจรจาราบรื่นตลอดไป ทั้งยังช่วยให้ดวงดีขึ้นเรื่อยๆ คุณวิเศษของสีผึ้ง ทั้ง ๒ สาย คือสามารถเสี่ยงทายได้ โดยท่อง คาถา"ฮัมฮำอำอะ อึอะอะอำ" ๓จบ วนที่หน้าขา อธิฐานจะบอกให้ยกขาแล้วเบาหรือหนักตามแต่ใจจะเสี่ยงทาย สีผึ้งครูบาคำเป็ง เป็นอะไรที่ลูกศิษย์ต่างแสวงหากันและรู้ถึงพลังอำนาจในสีผึ้ง โดยฉะเพราะสีผึ้งสายล่างของหลวงปู่สุดยอด......ขอบอกๆๆๆ

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** กำไรข้อมือหางช้าง (สีดำ) **

    ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกันอาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้องเดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.

    ********************************

    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว**

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0779.jpg
      DSCN0779.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.8 KB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  17. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** ตะกรุดเหล็กไหล วรรณเงินยวง **
    (หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์)

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)

    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง
    (((ปิดรายการนี้ีค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0663.jpg
      DSCN0663.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN0664.jpg
      DSCN0664.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.5 KB
      เปิดดู:
      77
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  18. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** น้ำมันชาตรี **
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)

    ผลของน้ำมันมนต์

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง น้องชายของลูกชื่อ "นายสมนึก แดงสี" เป็นคนรับจ้างขับมอเตอร์ไซด์ในซอย ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ขับไปสวัสดีกับปิกอัพ ผลปรากฏว่าสลบไสล ตื่นมาก็กลายเป็นคนอัมพาตทั้งเนื้อทั้งตัว บังเอิญลูกมีโอกาสไป วัดท่าซุง คราวงานเป่ายันต์เกราะเพชร เช่าน้ำมันมนต์ หลวงปู่ปาน ที่วัดมาขวดหนึ่ง พอทาปุ๊บปรากฏได้ผลคือ ขณะนี้แกนั่งได้แล้ว พูดจาเป็นปกติ ทีนี้ต่อไปลูกจะเอาอีกขวดหนึ่ง แต่จะเอาจริง ๆ

    หลวงพ่อ : จริง ๆ เบาไป ต้องเเกล้ง ไอ้เเกล้งมันหนักกว่าจริง ๆ เกล้งให้เดินได้ทำงานได้อยู่เป็นปกติ แล้วต่อไปเอาอีกขวดหนึ่งเกล้งให้รวย อีกขวดหนึ่งแกล้งให้ถูกหวยทุกงวด ( หัวเราะ) ต้องแกล้งมันแรงกว่าธรรมดา ๆ จริง ๆ มันเบา ท่านอนุโลมนะ เกรงจะชอกช้ำ ถ้าแกล้งไม่กลัวช้ำ มีความเข้มแข็ง

    ผู้ถาม : นี่เขาเล่าให้ฟังนะ หมดกันเป็นหมื่น ๆ แหม....แค่น้ำมันขวดเดียว สิบบาท ยี่สิบบาทไม่ได้ ไม่เป็นที่พอใจ หลวงพ่อ : ความจริงจ่ายไม่ครบนะ น้ำมันเขาแพงกว่านั้น (หัวเราะ) ใช่ถ้าหวยก็ราคาแพง ถ้าไม่หายก็เฉย ๆ ไว้ เดี๋ยวเขาจะด่าเอา (หัวเราะ) _________________________________________
    ผลของน้ำมันชาตรี

    ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่ามันที่ ๒๖ ต.ค . ๒๕๓๔ เดือนที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสขี่จักยานยนต์ไปด้วยความรวดเร็ว เพราะว่าจะซื้อยามาให้คนป่วยที่บ้าน ด้วยความเร็วปรากฏว่า รถจิ๊ปคันหนึ่งก็มาด้วยความเร็ว มันหับผมสวัสดีกันกลางทาง ปรากฏว่าล้อรถของผมน่ะ ข้างหน้าข้างหลังอยู่กันคนละทางเลย คนมาดูนึกว่า เละตุ้มเป๊ะแล้ว! ปรากฏว่าผมลุกขึ้นมาปัดแข้งปัดขา เดินด้วยความสบายใจไม่เป็นอะไรเลย ตำรวจมาถามว่า " คุณ! ไอ้คนที่ตายตรงนี้ไปอยู่ที่ไหน?" ผมก็ตอบว่า "ไม่รู้ครับ แต่ไอ้คนที่ขี่รถคันนี้คือผมเอง" ตำรวจถามผมว่า "เอ๊งเป็นลูกศิษย์ใครมีดีอะไร ?" ผมตอบว่า "ผมเป็นลูกศิษย์ น้ำมันชาตรี" ถามว่า "พระองค์นี้อยู่วัดไหน ?" ผมนึกไม่ถูกเลยไปบอกเขาว่า "วัดท่าบุง"

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ใช่ได้ ๆ ๆ ดีเขาไม่บอกวัดขวดเอานะ ผู้ถาม : แล้วบอกว่าอยู่จังหวัดนครสวรรค์

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ได้เรื่อง! วัดท่าบุง นครสวรรค์ ใช้ได้

    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าตำรวจคนนั้นไปเอา น้ำมันชาตรี คงไปหาทั้งจังหวัด แล้วก็ ตำรวจเขาเลยบอกว่า จะขอจดที่อยู่วัดไว้ ผมก็นึกได้ตอนหลังว่าอ่านหนังสือแล้วไม่ใช่ ผมก็นึกวิตกว่า ตำรวจคนนั้นคงไปหาที่นครสวรรค์แล้วก็สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณ น้ำมันชาตรี ของหลวงพ่อด้วย ผมมีเทคนิคในการใช้ดังต่อไปนี้ครับ ตืนเช้าขึ้นมารีบกินก่อน มันจะชนเมื่อไหร่ผมไม่กลัวแล้ว แปลกจริง ๆ นะครับ ที่หลวงพ่อเคยพูดอะไร เบา อะไรนะ ?

    หลวงพ่อ : ชาตรีนี่เขาเรียก "ลูกเบา" อันเดียวกัน เวลาถูกแล้วมันรู้สึกเบา ไม่หนัก รู้จักลูกเบาไหม ? " ..ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมันมนต์แล้วว่า อิติปิ โส ตามนั้น แล้วก็สวด นะมะพะธะ เหมือนกัน เอาน้ำมนต์มาทาที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวัน กฏของฏรรมจะคลายตัว.."
    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0591.jpg
      DSCN0591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017
  19. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณนทึก EP 0842 7364 1 TH
    - คุณชาติชาย EP 0842 7365 5 TH
    - คุณวิศณุกร EP 0842 7366 9 TH
    - คุณชัยรัตน์ EP 0842 7367 2 TH
     
  20. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** กำไรข้อมือหางช้าง (สีขาว) **

    ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกันอาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้องเดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.

    ********************************

    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว**
    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0782.jpg
      DSCN0782.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      97
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...