วิธีลดโทสะจริต ความเกรี้ยวกราดอึดอัดด้วยพรหมณ์วิหารสี่ และกสิณ

กสิณเฉพาะกสิณ ๔ ถึงมีผล
แต่ต้องเป็นไปในลักษณะของ
การพิจารณาเพื่อเป็นแนวทาง
(คือพิจารณาสภาพแวดล้อมรวมทั้ง
นิมิตมันมีการเปลี่ยนแปลงหรือมัน
เป็นอย่างไรบ้าง)เพื่อ
ให้เกิดปัญญาทางธรรมในอนาคต
ที่สำคัญก็คือ ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังสมาธิสูงมาก
ก็สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งย้ำว่ามันเป็นแนวทางเดิน
ให้จิตเพื่อให้เกิดปัญญาทางธรรมได้..
และถ้าพิจารณาได้บ่อยๆ จิตจะลง
ไปในไตรลักษณ์ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
ย้ำว่าลงได้อย่างเดียวขึ้นอยู่กับจริตเดิมแท้ของจิตนั้นๆ
ส่วน พรหมวิหาร ๔ เป็นเรื่องปกติที่ควรมีเป็นทุน
แต่ถ้าไปฝึกให้ถึงระดับใช้งานได้
ซึ่งเป็นไปได้ยากหน่อย เพราะส่วนมากร้อยละ 99
ชอบไปยึดในกิริยาที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง
ก่อนที่จะถึงผลสำเร็จ ซึ่งส่งผล
ให้หลงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ....
แม้ว่าความสามารถใช้งานได้บ้างจะต่ำ
และไม่คล่อง ใช้เวลานาน เหนืี่อย
ภูมิต้านทานทางจิตไม่ดี
ก็จะยังหลงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ...

ยกเว้นว่า ถ้าฝึกถึงระดับใช้งานได้
ค่อยมาต่อกันเรื่องเดินปัญญาเพื่อลดละคลายกิเลส
แล้วค่อยต่อยอดไปทางด้านปัญญาญานต่อไป
ตัวจิตก็จะพัฒนาได้เองตามวาระต่อไป
ที่สำคัญสิ่งที่ทำได้ ก็จะพัฒนาได้ของมันเอง
เรื่อยๆโดยไม่ต้องย้อนกลับไปฝึกอีกให้เมื่อยตุ้ม..

จะฝึกกรรมฐานอย่างนี้ อย่าไปหวังผลว่าฝึกแล้ว
มันทำอะไรได้ หรือ มันจะทำให้เราวิเศษอย่างไร
ต้องรู้จักพัฒนาไว้เป็นแนวทาง
สำหรับเรื่อง การ ลด ละ คลาย กิเลสเป็นหลัก
แล้วจะปลอดภัยทั้งต่อกายทั้งต่อจิตตัวเอง