สวรรค์มีอยู่จริงหรือ

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6533 ข่าวสดรายวัน


สวรรค์มีอยู่จริงหรือ

คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา

สมชาย สุรชาตรี ผู้อำนวยการกองพุทธสารนิเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ



ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจให้ตรงกันเสียก่อนว่าสวรรค์ที่จะพูดถึงนั้น เป็นสวรรค์ในพระพุทธศาสนา เพราะทุกวันนี้มีนักตีความจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย และต่อต้านสวรรค์หรือเข้าใจสวรรค์แบบที่ตนชอบ

ถ้าเช่นนั้นก็ยอมรับว่าสวรรค์มีอยู่จริงน่ะสิฝ่ายต่อต้านแย้งขึ้น ก็มีน่ะสิอยู่เมืองไทยนี่เองก็นครสวรรค์นั่นไง คนไทยรู้จักกันหมด ผู้เขียนพูดแบบนี้จึงคุยกันได้ไม่นาน

ทีนี้ลองมาดูคำยืนยันจากพระวิชัย สุภโร (แสนอินทร์) นิสิตมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ท่านได้ศึกษาเรื่อง "การศึกษาสวรรค์เชิงประจักษ์ในพระพุทธศาสนาเถรวาท" ถือเป็นวิทยานิพนธ์ระดับดี ที่มหาวิทยาลัยนำออกเผยแพร่ ในงานบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศถวายบูรพาจารย์ของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ท่านบอกว่า คำสอนเรื่องสวรรค์มีมากับมนุษย์ตั้งแต่อดีตกาลจวบจนปัจจุบัน มีทั้งพวกที่เชื่อว่าสวรรค์มีอยู่จริง พวกไม่เชื่อก็มี พวกที่ทั้งเชื่อและไม่เชื่อก็มี แต่ทุกผ่ายก็ไม่สามารถพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าสวรรค์มีหรือไม่มี ทำให้ต้องมาศึกษาเรื่องสวรรค์กัน

สวรรค์ เป็นชื่อแห่งความสุขความดี เมื่อนึกถึงก็มีความสุข คนเราจึงปรารถนาไปเสวยสุขในสวรรค์ สวรรค์จึงเป็นสถานที่ที่พรั่งพร้อมไปด้วยความสุข ความบันเทิง เพลิดเพลิน รื่นเริงด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เต็มไปด้วยทิพยสมบัติทุกอย่าง

คัมภีร์พระพุทธศาสนาระบุว่า สวรรค์ เป็นที่อยู่ของเหล่าเทวดา มี 6 ชั้น แต่ละชั้น มีวิมานที่สวยงามให้เทพยดาได้อาศัย ดังนี้ครับ

สวรรค์ชั้นที่ 1 ชื่อ จาตุมหาราชิกาสวรรค์ เป็นที่อยู่ของทวยเทพมีมหาราชทั้ง 4 ปกครอง

สวรรค์ชั้นที่ 2 คือ ดาวดึงส์สวรรค์ เป็นแดนสุขาวดี

สวรรค์ชั้นที่ 3 คือ ยามาสวรรค์ เป็นแดนสุขาวดีเช่นกัน

สวรรค์ชั้นที่ 4 คือ ดุสิตสวรรค์ เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุข บุคคลที่มีชื่อเสียงในพระพุทธศาสนาสถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นนี้

สวรรค์ชั้นที่ 5 คือ นิมมานรดีสวรรค์ ชั้นนี้มีปราสาทเงินปราสาททอง ปราสาทแก้ว สวยงามเท่าชั้นดุสิต

สวรรค์ชั้นที่ 6 คือ ปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์ ชื่อเรียกยาก แต่เป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด ต้องทำบุญบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก

สวรรค์ชั้นที่ 6 มองด้วยตาเนื้อไม่เห็นหรอกครับ ใครอยากสัมผัสต้องมีศรัทธาแล้วเชื่อว่ามีอยู่จริง จากนั้น ก็ผ่านกระบวนการปฏิบัติจนถึงขั้นกายทิพย์ตาทิพย์ หรือทำบุญไว้มากๆ ตายไปก็ขึ้นสวรรค์ตามบุญที่ทำไว้

ยังมีสวรรค์ที่คนรู้จักและสัมผัสได้ นั่นคือสวรรค์ที่อยู่ในใจ ท่านผู้อ่านได้ยินบ่อยๆ คือ "สวรรค์ในอก นรกในใจ" ซึ่งหมายถึง ความสุขที่เกิดจากการทำความดีหรือความทุกข์ที่เกิดจากการทำความชั่วย่อมอยู่ในใจของผู้ทำเอง

สวรรค์แบบนี้ไม่ต้องอธิบายมาก รับรู้ได้ทันทีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพระพุทธศาสนาจึงสนับสนุนให้เว้นความชั่วทำแต่ความดี

หลักธรรมเพื่อชีวิตที่ดีงามในพระพุทธศาสนาก็เพื่อการอยู่ในโลกแห่งปัจจุบัน (โลกมนุษย์) และโลกในอนาคต (คือโลกสวรรค์) เวลาของคนมีน้อย ควรสร้างแต่คุณงามความดี เพื่อประโยชน์ตนและสังคมส่วนรวม ผลของการทำดีจะส่งให้ไปสวรรค์ ไม่ต้องรอโลกหน้ายังสามารถขึ้นสวรรค์ได้อย่างทันท่วงที อย่างเช่นบางกอกที่แปลว่า เมืองฟ้าเมืองสวรรค์ถึงแม้จะเป็นเพียงความหมายเชิงสัญลักษณ์

แต่ที่บางกอกก็มีคำว่าสวรรค์อยู่มากทั้งเวียงสวรรค์ ถนนนครสวรรค์ และซอยบุปผาสวรรค์

ที่มา นสพ.ข่าวสด http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHhNQzB4T0E9PQ==

 

ถ้าบุคคลใด มีความคิดว่า สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากโลก คือ อยู่ ณ.ที่ใด ในแกเลคซี่ หรือจักรวาล คือ สวรรค์
ข้าพเจ้ายืนยัน ได้เลยว่า สวรรค์มีอยู่จริง
ดวงจันทร์ ,ดวงอาทิตย์, ดาวพุธ และอื่นๆอีกหลายดวง รวมไปถึงสุดขอบจักรวาล คือสวรรค์ มีเทวดา นางฟ้า ,เทพเจ้าต่างๆ อยู่จริงขอรับ

 

สวรรค์ แดนที่คนหลายคนอยากไปอยู่....

แต่..สิ่งที่ทำในชีวิตประจำวันหลายคนทำสวนทางกับการที่จะได้ไปสวรรค์...

 

ฮ่า..จริงครับ ทำในสิ่งที่สวนกัน พอรู้ว่าจะตายหรือรู้จักอนิจจังเข้าแล้วก็อุทานณ์ออกมาว่า "ถ้าตายขอไปนิพพาน" อ่านแล้วก็ขำ..มันจะไปยังไงล่ะครับ..ฮ่าฮ่า

รู้ไว้เพื่อประดับความรู้ก็พอครับ เพราะนั่นมันไม่ใช่สิ่งที่เราควรที่จะถวิลหามันหรอก
อย่าไปคิดถึงมันเลยครับ อยู่กับจิตตัวเองให้มากๆดีกว่าครับ
เพราะยังไงแล้วก็ไม่มีทางได้เจอด้วยการคิดหรือครุ่นคิดโดยปราศจากการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง
อย่าประมาทนะครับ มีสติอยู่กับปัจจุับันให้มากทำเท่าที่ทำได้ก็พอ..


เจริญธรรมครับ