สิ่งที่พระศาสดาทรง สาธยายเมื่ออยู่ผู้เดียว.. ปฏิจจสมุปบาท

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย พุืทธวจน000, 12 พฤศจิกายน 2012.

  1. พุืทธวจน000

    พุืทธวจน000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,051
    ๏ บทสวด ปฏิจจสมุปบาท จากพระโอษฐ์ ๏
    อิธะ ภิกขะเว อริยะสาวะโก ปะฏิจจะสะ-
    มุปปาทัญเญวะ สาธุกัง โยนิโส มะนะสิกะโรติ
    ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
    ย่อมกระทำไว้ในใจโดยแยบคายเป็นอย่างดี
    ซึ่งปฏิจจสมุปบาทนั่นเทียว ดังนี้ว่า
    อิมัส๎มิง สะติ อิทัง โหติ
    ด้วยอาการอย่างนี้ เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี
    อิมัสสุปปาทา อิทัง อุปปัชชะติ
    เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
    อิมัส๎มิง อะสะติ อิทัง นะ โหติ
    เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี
    อิมัสสะ นิโรธา อิทัง นิรุชฌะติ
    เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
    ยะทิทัง
    ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ

    อะวิชชาปัจจะยา สังขารา
    เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย
    สังขาระปัจจะยา วิญญาณัง
    เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
    วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง
    เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
    นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนัง
    เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
    สะฬายะตะนะปัจจะยา ผัสโส
    เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
    ผัสสะปัจจะยา เวทะนา
    เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
    เวทะนาปัจจะยา ตัณหา
    เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
    ตัณหาปัจจะยา อุปาทานัง
    เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
    อุปาทานะปัจจะยา ภะโว
    เพราะมีอุปทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ
    ภะวะปัจจะยา ชาติ
    เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
    ชาติปัจจะยา ชะรามะระณัง โสกะปะริเทวะ-
    ทุกขะโทมะนัสสุปายาสา สัมภะวันติ
    เพราะมีชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะ โสกะปริเทวะ
    ทุกขะโทมะนัสอุปายาสะทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน
    เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ
    สะมุทะโย โหติ


    ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้
    ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้

    อะวิชชายะเต๎ววะ อเสสะวิราคะนิโรธา สังขาระนิโรโธ
    เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือ
    แห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว
    จึงมีความดับแห่งสังขาร
    สังขาระนิโรธา วิญญาณะนิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งสังขาร
    จึงมีความดับแห่งวิญญาณ
    วิญญาณะนิโรธา นามะรูปะนิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ
    จึงมีความดับแห่งนามรูป
    นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งนามรูป
    จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ
    สะฬายะตะนะนิโรธา ผัสสะนิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ
    จึงมีความดับแห่งผัสสะ
    ผัสสะนิโรธา เวทะนานิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งผัสสะ
    จึงมีความดับแห่งเวทนา
    เวทะนานิโรธา ตัณหานิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งเวทนา
    จึงมีความดับแห่งตัณหา
    ตัณหานิโรธา อุปาทานะนิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งตัณหา
    จึงมีความดับแห่งอุปาทาน
    อุปาทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน
    จึงมีความดับแห่งภพ
    ภะวะนิโรธา ชาตินิโรโธ
    เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ
    ชาตินิโรธา ชะรามะระณัง โสกะปะริเทวะ-
    ทุกขะโทมะนัสสุปายาสา นิรุชฌันติ
    เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล
    ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัส
    อุปายาสะทั้งหลายจึงดับสิ้น
    เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ
    นิโรโธ โหตีติ
    ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้
    ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้

    นิทาน.สํ. ๑๖/๘๕/๑๕๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...