หลวงปู่จวน กุลเชฏฺโฐ ไม่ขอคืนสู่ชีวิตที่สละแล้ว

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 5 เมษายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่จวน กุลเชฏฺโฐ คือพระสุปฏิปัณโณผู้สร้างวัดเจติยาคีรีวิหาร
    ตั้งอยู่ที่ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย
    ซึ่งเป็นศาสนสถานที่เหมาะสมยิ่งแก่การเจริญภาวนา

    ในปี ๒๕๑๒ ท่านริเริ่มการสร้างบันไดวน ๗ ชั้น ขึ้นไปยังยอดภูทอก
    ผู้ที่ได้ไปเยือนย่อมรู้สึกอัศจรรย์และซาบซึ้งในภูมิปัญญา ศรัทธา และวิริยะ
    ของทั้งพระสงฆ์และผู้ที่มีส่วนร่วมในการรังสรรค์สิ่งก่อสร้างดังกล่าวนี้

    หลวงปู่จวนอุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ในฝ่ายมหานิกาย
    ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๔๘๖ ได้บวชในฝ่ายธรรมยุต
    พระอุปัชฌาย์คือพระครูทัศนวิสุทธิ (พระมหาดุสิต เทวิโร)
    ซึ่งเป็นหลานของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)
    หลวงปู่จวนเล่าถึงเหตุที่พระอุปัชฌาย์ตั้งฉายาให้ว่า “กุลเชฏฺโฐ” ไว้ดังนี้

    “พอได้รับแต่งตั้งให้เป็นอุปัชฌาย์ได้เพียง ๕ วัน
    ก็มาอุปสมบทข้าพเจ้าเป็นนาคแรก
    นับว่าข้าพเจ้าเป็นนาคแรกที่สุดของท่าน

    ท่านจึงได้ตั้งฉายาให้ข้าพเจ้าว่า “กุลเชฏฺโฐ”
    แปลว่า พี่ชายคนใหญ่ที่สุดของหมู่ของพวกในวงศ์ตระกูลนี้”

    หลังจากญัตติเป็นธรรมยุตแล้ว ในพรรษาที่ ๔
    หลวงปู่จวนได้มีโอกาสร่วมจำพรรษากับ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
    ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จึงได้รับโอวาทและคำชี้แนะในการปฏิบัติที่มีประโยชน์ยิ่ง
    เมื่อออกพรรษา ท่านได้กราบลาท่านอาจารย์เพื่อออกธุดงค์
    โดยเดินทางไปจนถึงจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งในพื้นที่นี้เอง

    ท่านต้องเผชิญภัยจากมาตุคาม (ผู้หญิง) อยู่หลายครา
    จนถึงครั้งที่หนักหนาสุดเพราะฝ่ายหญิงเป็นผู้มีกิริยาดี
    ตลอดจนผู้ปกครองของเธอก็สนับสนุน
    ให้ท่านลาสิกขาออกมาเพื่อช่วยกันทำมาหากิน

    หลวงปู่จวนซึ่งในขณะนั้นยังเป็นพระหนุ่ม
    ได้พยายามเจริญอสุภกรรมฐาน แต่ก็ไม่เป็นผล
    ในคืนที่กำลังจะตัดสินใจว่าจะลาสิกขาหรือไม่นั้น ท่านได้อธิษฐานว่า

    “...หากข้าพเจ้าจะได้มีวาสนาได้เห็นธรรมเจริญต่อไปในทางพระพุทธศาสนา
    ก็ขอให้มีเหตุใดเหตุหนึ่งมาช่วยคลี่คลายเรื่องที่กำลังประสบนี้ด้วยเถิด...”


    ในยามเช้าที่ออกบิณฑบาตตามปกติ
    ก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น สมดังคำอธิษฐานในคืนที่ล่วงมา

    “เช้าวันต่อมาเมื่ออกบิณฑบาต หญิงสาวผู้นั้นก็มายืนรอใส่บาตรตามเคย
    ข้าพเจ้าพยายามไม่มองหน้าหญิงนั้นเลย พอเปิดฝาบาตรจะรับบาตร
    ก็ให้บังเอิญว่าผ้าประจำเดือนของหญิงนั้นได้หลุดลงที่พื้นดิน

    แม้หญิงนั้นจะตกใจ พยายามใช้เท้าเหยียบให้จมโคลน ปกปิดภาพของจริงไว้
    แต่ข้าพเจ้าก็ทันเห็นเลือดสีแดงเต็มตา
    ในใจเกิดความรู้สึกสลดสังเวชขึ้นมาทันที
    ด้วยเห็นถนัดเป็นของปฏิกูลพึงรังเกียจ

    ระลึกขึ้นมาได้ว่า เราได้อุตส่าห์สละชีวิตจากเพศฆราวาส มาสู่เพศบรรพชิต
    หนีจากของต่ำ มาหาของสูงแล้ว เรายังจะย้อนกลับไปหาชีวิตที่เราสละแล้วอีกหรือ


    เมื่อคิดได้ดังนี้แล้วท่านจึงปิดฝาบาตรทันที กลับไปยังที่พัก
    เก็บบริขารและหนีออกไปจากที่แห่งนั้น โดยที่ยังไม่ได้ฉันภัตตาหารใดๆ
    ต่อมาภายหลังท่านได้เล่าเรื่องนี้ถวายท่านพระอาจารย์มั่น
    เมื่อท่านอาจารย์ได้ฟังแล้ว ก็กล่าวว่า

    “เป็นธรรมดาของพระหนุ่มที่จะต้องพบเหตุการณ์เช่นนี้
    ความสำคัญอยู่ที่ว่าจะต้องเจริญกรรมฐานต่อสู้
    เอาชนะกิเลสมารตัวร้ายนั้นอย่างไรต่างหาก”

    หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ ได้ต่อสู้กับกิเลสมารอย่างสง่างาม
    ครองสมณสารูปอันเป็นที่เคารพเลื่อมใสตราบจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต

    --------------------------------

    เอกสารประกอบการเขียน

    “กุลเชฏฐาภิวาท” ที่ระลึกเนื่องในวโรกาสทรงเป็นประธานในพิธีพระราชทาน
    และเปิดเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พิมพ์เมื่อปี ๒๕๓๒

    “พระธุตังคเจดีย์ เจดีย์แห่งพระอรหันต์” ธรรมบรรณาการเนื่องในงานฉลองพระธุตังคเจดีย์
    เจดีย์แห่งพระอรหันต์ และในงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายครบรอบวันมรณภาพปีที่ ๔๗
    พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร) ๒๒-๓๐ เมษายน ๒๕๕๑

    โดย เทียบธุลี <!-- m -->Dharma@Hand Lite ธรรมะใสใส...ใกล้ตัวคุณ
     
  2. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    <TABLE class=tborder id=post3155808 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175></TD><TD class=alt1 id=td_post_3155808 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีขอเจ้ากรรมนาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>เวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ และจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName><st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName>
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข">และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เทพยดาทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า เทพยดาทั้งหลายทั่วสากลพิภพและพระยายมราช ขอเทพยดาทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้และจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด</st1:personName>

    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName><st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName>
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข">และขอแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ ให้แก่ท่านทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่ก็ดีที่ล่วงลับไปแล้วก็ดี ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี ที่เสวยความทุกข์อยู่ก็ดีเป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี อาทิ บิดามารดา เป็นต้นขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์และความสุขเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด</st1:personName>
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName><st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName>
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข">[COLOR=blue][COLOR=red]และขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว [/COLOR][COLOR=red]สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ ทุก ๆ พระองค์[/COLOR][COLOR=red]ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน [/COLOR][COLOR=red]มีพระราชประสงค์สิ่งใดขอให้สำเร็จตามพระราชประสงค์ทุกประการเทอญ[/COLOR][/COLOR]</st1:personName>
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName><st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข"></st1:personName>
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข">ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด หากไม่สามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ได้ ขอให้คำว่า ไม่มี ไม่รู้ ไม่เป็น ไม่สำเร็จ จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ</st1:personName>
    <st1:personName w:st="on" ProductID="เวรทั้งหลาย จงมีความสุข">สาธุ สาธุ ขอโมทนา</st1:personName>
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->http://palungjit.org/forums/ขம.ml#post3146526[.179/COLOR]<!-- google_ad_section_end --> ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคท่อส่งน้ำถวาย วัดเขาชี จ.พิษณุโลก<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. สว่างแสง

    สว่างแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +162
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ พระอรหันต์ผู้หลุดพ้นไกลจากกิเลสทั้งปวง
     
  4. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ขออนุญาติ จากการที่ได้อ่านประวัติพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษทั้งหลาย ที่ได้ข้ามผ่านมหานที สีทันดร (อาจจะเขียนไม่ถูก) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกองค์ล้วน มีผู้หญิงเ้ข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น ก่อนที่ท่านจะบรรลุธรรมอันวิเศษ พญามารจะส่งนางตันหา ราคะ โมหะ (ผู้หญิง) มาเพื่อสกัดกั้นไม่ให้บรรลุธรรมได้ ด้วยเดชะความตั้งใจอันแน่วแน่ของแต่ละองค์ทำให้ นางมารทั้งหมด ที่มายั่วยวนให้หลงใหล ให้ติดอยู่ในรูปกาม ให้ติดในรสแห่งราคะ ถูกทำลายสายใยแห่งนางจนหมดสิ้น แล้วจึงก้าวข้ามสู่ฝั่งได้ แต่อนิจจาหลายท่านก็ไม่สามารถข้ามด่านนี้ได้ จึงต้องเวียนว่ายไม่รู้จักจบสิ้น ฉะนั้นท่านทั้งหลายที่ได้เดินทางเข้าสู่ธรรมแห่งองค์พระศาสดาแล้ว เมื่อใดที่ท่านได้ประสบกับนางมาร ทั้ง 3 ให้พึงระลึกเถิดว่า ท่านได้ปฏิบัติธรรมมาถูกทางแล้ว ท่านต้องก้าวข้ามนางทั้งสามให้ได้ แล้วท่านจะพบกับธรรมความหลุดพ้น ตัวผมเองก็กำัลังว่ายอยู่ในกระแสแห่งนทีสีทันดร นี้ บางครั้งก็ก้าวข้ามคลื่นลูกใหญ่ได้ บางครั้งก็โดนพัดกลับมาแพ้ราบคาบอย่างไม่เป็นท่า ขอให้ท่านผู้ปฏิบัติทั้งหลายจงอดทน อดกลั้น เด็ดขาด อย่าปราณีกับ กิเลสเป็นอันขาด ลูกล่อลูกชนเขาเยอะมาก จงใช้ปัญญาในการพิจารณาหาเหตุผล ใช้สมาธิตั้งมั่น ใช้วิปัสนาพิจารณาให้รู้แจ้ง อีกไม่นาน คงจะข้ามนทีสีทันดรนี้ได้ เปรีบกับพระมหาชนก ว่ายน้ำข้ามทะเล จนถึงฝัง ขออนุโมทนา
     
  5. sustrawut

    sustrawut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +28
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  6. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เป็นเรื่องปกติ ของพระหนุ่ม ผู้หญิงที่เข้าวัด ฟังธรรมส่วนใหญ่ ล้วนเคยมีบุญมีกรรมกันมาก่อน มาเจอพระหนุ่มๆ ยิ่งชอบเพราะเคยเกี่ยวเนื่องเกี่ยวโยงกัน มันเป็นเรื่องที่เหมือนแปลก แต่ก็ไม่แปลก สมัยก่อนหากพระรูปใดยังจิตไม่แข็งพอ หากรู้ตัวก็ต้องหนีไปอยู่ที่อื่น เพื่อให้ความรู้สึกมันเสื่อมคลาย
     
  7. เบเบ้

    เบเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,156
    ค่าพลัง:
    +14,155
    อนุโมทนาสาธุการด้วยครับ

    กามสุข ที่เกิดจากกามตัณหาความอยากในกาม เราก็ต้องปล่อยวาง
    ต้องเห็นว่าสิ่งที่เราไปรักไปชอบนั้น ไม่ใช่สิ่งที่สวยงาม รูปร่างหน้าตาของคนเรานั้น
    พอดูได้แต่เพียงเฉพาะเปลือกนอก คือผิวหนังเท่านั้นเอง

    ถ้ามองทะลุเข้าไปใต้ผิวหนังแล้ว ก็จะเห็นอวัยวะต่างๆ น้อยใหญ่ ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในของร่างกาย รวมถึงสิ่งที่เป็นปฏิกูลต่างๆ ที่ร่างกายจะต้องขับถ่ายออกมา

    ถ้าพิจารณาอย่างสม่ำเสมอด้วยปัญญา ด้วยความแยบคาย ก็จะเห็นว่าร่างกายนี้
    ไม่สวยงามเลย ไม่สะอาดหมดจด แต่เป็นร่างกายที่สกปรก มีความไม่สวยไม่งามซ่อนเร้นอยู่ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังเป็นอย่างนี้ ในขณะที่ตายไป ยิ่งสกปรก ยิ่งน่าเกลียด
    น่ากลัวขึ้นไปใหญ่

    แต่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่ค่อยพิจารณากัน ไม่ค่อยคิดกัน ก็เลยเกิดความรักความยินดีในร่างกาย เห็นเพศตรงกันข้ามแล้ว เกิดความอยากจะอยู่ใกล้ด้วย อยากจะสัมผัสด้วย เพราะเห็นเพียงแต่อาการภายนอก ไม่เห็นอาการภายใน จึงทำให้มีความยึดติดกับร่างกายของเพศตรงกันข้าม

    แต่ถ้าได้ศึกษาได้พิจารณาอย่างต่อเนื่อง อย่างสม่ำเสมอ ต่อไปเวลาเห็นร่างกายของเพศตรงกันข้าม หรือเพศเดียวกันก็ตาม จะเห็นทะลุไปถึงอาการทั้ง ๓๒ อาการ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย คลายความกำหนัดยินดีในร่างกายของผู้อื่น

    เมื่อคลายความกำหนัดความยินดี จิตก็หลุดพ้นจากความเป็นทาสของกามตัณหา ความอยากในกาม สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพัง โดยไม่ต้องมีคู่ครองอีกต่อไป

    คนที่อยู่ตามลำพังได้เป็นคนมีบุญมีกุศล เพราะไม่ต้องทุกข์กับคู่ครอง เพราะเวลามีคู่แล้วถึงแม้จะมีความสุขบ้าง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับความทุกข์ที่ได้มาแล้ว มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว

    เพราะเมื่ออยู่ด้วยกันก็ต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งกัน มีการขัดใจกัน มีความไม่พอใจกัน หรือถ้าไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีการขัดแย้งกัน มีแต่ความรักต่อกัน ก็ต้องมีความห่วงใยกัน กลัวว่าเขาจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเป็นต้น ล้วนแต่เป็นความทุกข์ทั้งนั้น

    แต่เนื่องจากว่าเรายังอยู่ตามลำพังไม่ได้ ยังมีความหลงอยู่ ยังมีความยินดีในกามอยู่ จึงทำให้ ไม่สามารถที่จะอยู่ตามลำพังได้ จึงต้องยอมรับความทุกข์ ที่มาจากความสุขที่เกิดจาก
    การเสพกาม

    ถ้าเป็นคนฉลาด ก็จะเจริญธรรม ให้เห็นว่าร่างกายนี้ เป็นร่างกายที่ไม่สวยงาม เป็นปฏิกูลของสกปรก จนปล่อยวางได้ ก็จะไม่ยินดีกับการมีคู่ครองอีกต่อไป ก็จะสามารถอยู่ตามลำพังได้ เพราะจิตที่ไม่มีกามตัณหานั้น เป็นจิตที่สงบสงัดจากกาม เป็นจิตที่มีความสงบนิ่ง เป็นสมาธิ เป็นจิตที่มีความสุขโดยธรรมชาติของจิตเอง เป็นความสุขที่ประเสริฐ เป็นความสุขที่เลิศกว่าความสุขที่ได้จากการเสพกาม

    ดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่า ไม่มีความสุขอันใดในโลกนี้ จะดีเท่ากับความสุขที่เกิดจากความสงบของจิต ที่เรียกว่าสันติสุข นี่แหละคือความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขที่อยู่กับเราไปตลอด เพราะอยู่ในจิตของเรา ไม่ต้องอาศัยสิ่งหนึ่งสิ่งใด มาทำให้จิตมีความสุข

    ไม่มีใครสามารถแย่งชิงความสุขนี้จากเราไปได้ ไม่เหมือนกับกามสุข ที่ต้องอาศัยบุคคลอื่น เป็นเครื่องให้ความสุขกับเรา ถ้าเผลอก็อาจจะถูกคนอื่นแย่งคนๆ นั้น จากเราไปก็ได้ ถ้าถูกแย่งไป เราก็จะต้องเศร้าโศกเสียใจ เป็นความทุกข์ขึ้นมาทันที

    นี่แหละคือโทษของกามสุข กามสุขไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง

    กามสุขมีโทษซ่อนอยู่ มีความทุกข์ซ่อนอยู่ เปรียบเหมือนกับระเบิดเวลาที่จะระเบิดขึ้นมา
    เวลาไหนเราก็ไม่รู้ สามีของเรา ภรรยาของเรา จะจากเราไปแบบไหน เมื่อไร เราก็ไม่รู้ จะหย่ากัน จะไปมีสามีใหม่ ภรรยาใหม่ หรือจะตายจากเราไป อย่างใดอย่างหนึ่ง เราก็ไม่รู้

    แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเรายังหวง ยังยึด ยังติดกับเขาอยู่ เราก็จะต้องเศร้าโศกเสียใจ ร้องห่มร้องไห้ไปเป็นธรรมดา นี่คือปัญหาของพวกเรา เพราะไม่ใช้ลิ้นของเราให้เป็นประโยชน์ กลับไปใช้ทัพพี คือใจของเรานั้น เป็นได้ทั้ง ๒ อย่าง เป็นทัพพีก็ได้
    เป็นลิ้นก็ได้ ถ้าเป็นลิ้นก็ต้องสำเหนียก เตือนสติสอนใจเราอยู่เสมอ ต้องเข้าหาธรรมอยู่เสมอ ฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่เสมอ ถ้าไม่มีโอกาสได้ฟังเทศน์ฟังธรรม ก็หาหนังสือธรรมะมาอ่านอยู่เสมอ เพราะเมื่อได้อ่านแล้ว ก็จะได้จดจำ แล้วธรรมก็จะไม่ห่างจากใจของเรา
    ;aa2
     
  8. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    กราบอนุโมทนาสาธุคะ ท่านพ้นจากกิเลสทั้งปวง ด้วยเดชะความตั้งใจอันแน่วแน่
    สตรีเพศ เป็นข้าศึกพรหมจรรย์ ดิฉันจะระวังมาก ในกาย วาจา ใจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...