หลวงปู่สิมเล่าเรื่อง "หลวงปู่ตื้อเข้าฌานไปดูศพพระมหากัสสปเถระ"

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย นวกะ36, 18 กรกฎาคม 2010.

  1. นวกะ36

    นวกะ36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +2,997
    [​IMG]


    เรื่องฌานนี้ หลวงปู่สิม มีเกร็ดฝอยเกี่ยวกับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม มาเล่าให้ฟังว่า
    หลวงปู่ตื้อท่านเคยเข้าฌานไปดูศพพระมหากัสสปเถระ ซึ่งตามตำนานมีว่า ยังคงเก็บรักษาไว้แถบภูเขาหิมาลัย คือก่อนที่จะเข้าสู่นิพพาน พระมหากัสสปเถระท่านได้อธิษฐานให้ภูเขาปิดล้อมศพเอาไว้สามด้าน รอเวลาพระศรีอาริย์มาตรัสรู้ แล้วจะได้เผาศพของท่านบนฝ่ามือของพระศรีอาริย์ เนื่องจากมีบุพกรรมต่อกัน

    [​IMG]


    เรื่องมีอยู่ว่าครั้งหนึ่ง พระมหากัสสปเถระ ท่านมีชาติกำเนิดเป็นช้างแสนรู้ ของจักรพรรดิ์คือพระศรีอาริย์นั่นเอง วันหนึ่งพระจักรพรรดิ์ทรงช้างเสด็จออกประพาสป่า ช้างหนุ่มกัสสปะ พอเห็นช้างสาวก็วิ่งเข้าหาทันทีตามประสา วิ่งไม่วิ่งเฉยๆ สะบัดเอาพระจักรพรรดิ์ตกจากหลังไปด้วย เลยถูกทำโทษให้เอางวงจับเหล็กเผาไฟจนตาย จึงมีเวรกรรมต่อกันตั้งแต่ครั้งกระโน้น จนเดี๋ยวนี้ศพของพระมหากัสสปเถระ ก็ยังรอพระศรีอาริย์อยู่
    เมื่อหลวงปู่ตื้อเข้าฌานไปดูถึงที่เนปาลโน้นต้องไปถึงสองครั้ง เพราะไปครั้งแรกประตูไม่เปิด ในห้องหรือภูเขาที่เก็บศพนั้น มีแสงสว่างเรืองรองแต่ไม่ยักจะมีดวงไฟสักดวง
    เล่ามาถึงตรงนี้หลวงปู่ฯ ก็กระเซ้าคนฟังว่า “ใครอยากพิสูจน์ให้เห็นจริงก็ให้เร่งภาวนา เอาให้ได้ให้ถึง ภาวนาเอง เห็นเอง ฟังคนอื่นเล่ามันก็ไม่สิ้นสงสัย”

    [​IMG]


    รูปภาพประกอบจาก internet​


    ที่มา:���紻���ѵ� ��ǧ������ �طڸҨ��� �Ѵ��Ӽһ��ͧ
     
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    กราบอนุโมทนาค่ะ พระอาจารย์ของติงเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังค่ะ
    ที่กุฏิของพระอาจารย์ มีรูปเหมือนองค์พระมหากัสสปเถระ
    พระอาจารย์ท่านสั่งช่างที่กรุงเทพฯ ทำทางโทรศัพท์ จากนิมิตของพระอาจารย์
    และจะมีพิธีเปลี่ยนขันครู ทุกวันวิสาขบูชา
     
  3. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    พระมหากัสสปเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงธุดงค์ อนุโมทนาสาธุ เจริญพร

    [​IMG]
     
  4. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    พระมหากัสสปะ เป็นบุตรของกปิลพราหมณ์ ตระกูลกัสสปะในบ้านมหาติฏฐะ
    แคว้นมคธ ชื่อเดิมของท่านคือ “ปิปผลิ” แต่คนทั่วไปมักเรียกท่านตามวงศ์ตระกูลว่า
    “กัสสปะ” เมื่อท่านอายุได้ ๒๐ ปี ได้ทำการอาวาหมงคลกับนางภัททกาปิลานี ซึ่งเป็นสาวงามวัย ๑๖ ปี ธิดาของพราหมณ์ตระกูลโกลิยะ ณ เมืองสาคลนคร แคว้นมคธ
    • ปิปผลิมาณพถูกแปลงสาร
      เมื่อปิปผลิมาณพ อายุได้ ๒๐ ปี บิดามารดาได้ปรึกษากันว่าจะหาภรรยาให้แก่บุตรชาย จึงได้มอบเงินและทองให้แก่พราหมณ์ ๘ คน เพื่อสืบแสวงหาสาวงานที่มีฐานะเสมอกัน พราหมณ์เหล่านั้นเที่ยวสืบแสวงหาไปตามเมืองต่าง ๆ มาจนถึงสาคลนคร ได้พบธิดาของโกลิยพราหมณ์นามว่า “ภัททกาปิลานี” วัย ๑๖ ปี เป็นที่ถูกอกถูกใจยิ่ง จึงสู่ขอกับบิดามารดาของนาง ตกลงแล้วได้มอบสิ่งของเงินและทองหมั้น กำหนดวันอาวาหมงคลแล้วกลับไปแจ้งข่าวสารแก่กปิลพราหมณ์
      ปิปผลิมาณพ ได้ทราบข่าวสารนั้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะตนไม่มีความปรารถนาจะแต่งงาน จึงหลบเข้าไปในห้อง เขียนจดหมายบรรยายความประสงค์ของตนให้นางทราบว่า “ตนไม่ปรารถนาจะแต่งงาน ขอให้นางจงแต่งงานกับชายที่มีชาติตระกูลเสมอกัน และอยู่ครองชีวิตคู่ด้วยความสุขสำราญเถิด ส่วนข้าพเจ้าจะออกบวช” เมื่อเขียนเสร็จแล้ว ก็มอบให้คนใช้สนิทนำไปส่งให้แก่นางภัททกาปิลานี แม้นางภัททกาปิลานีก็มีใจตรงกัน และได้เขียนจดหมายซึ่งมีใจความเหมือนกัน มอบให้คนรับใช้นำไปส่งให้แก่ปิปผลิมาณพ บังเอิญคนถือจดหมายทั้งสองฝ่ายมาพบกันระหว่างทาง ทัก
      ทายปราศรัยถามไถ่กิจธุระของกันและกันแล้วนำจดหมายทั้งสองฉบับออกอ่าน ทราบความโดยตลอดแล้วฉีกทำลายทิ้งแล้วเขียนจดหมายขึ้นมาใหม่ บรรยายความรักแก่กันและกันแล้วนำไปส่งให้แก่เจ้านายของตน การอาวาหมงคลระหว่างคนทั้งสองจึงเกิดขึ้น

      สภาพชีวิตการครองคู่
      ภายหลังจากแต่งงานกันแล้ว การครองคู่ของคนทั้งสองนั้นไม่เหมือนสามีภรรยาคู่อื่น ๆ เพราะสักแต่ว่าอยู่ร่วมห้องกันเท่านั้น ต่างก็ไม่มีจิตคิดจะร่วมสังวาสกัน แม้เวลาจะขึ้นเตียงนอนก็ขึ้นกันคนละข้าง มีแจกันดอกไม้ตั้งอยู่ตรงกลางเตียง ตลอดระยะเวลาที่ทั้งสองอยู่ร่วมกันนั้น มิได้สัมผัสถูกต้องกันเลยจึงไม่มีบุตรหรือธิดาสืบสกุล
      เมื่อบิดามารดาถึงแก่กรรมแล้ว ทรัพย์สมบัติและหน้าที่การงานทุกอย่างจึงเป็นภาระของสองสามีภรรยา และเนื่องจากตระกูลทั้งสองเป็นตระกูลมหาเศรษฐีมีทรัพย์มาก เมื่อรวมสองตระกูลเข้าเป็นตระกูลเดียวกันแล้วทรัพย์สมบัติก็ยิ่งมากมายมหาศาล มีสัตว์เลี้ยงและคนงานจำนวนมาก สองสามีภรรยาต้องบริหารสั่งการทุกอย่าง
      จนกระทั่งวันหนึ่ง ในขณะที่ปิปผลิกำลังตรวจดูทาสและกรรมกรทำงานอยู่ในไร่นา ได้
      เห็นนกกาจิกกินสัตว์น้อยมีไส้เดือนเป็นต้น ก็รู้สึกสงสารและสลดใจที่สัตว์เหล่านั้นต้องตายเพราะตนเป็นเหตุ ส่วนนางภัททกาปิลานี ก็ให้คนนำเมล็ดถั่วงาออกมาตากที่ลานหน้าบ้าน เห็นหมู่นกกามาจิกกินตัวหนอนและแมลงต่าง ๆ ก็เกิดความสงสารและสลดใจเช่นกัน เมื่อสองสามีภรรยามีโอกาส อยู่กันตามลำพังได้สนทนาถึงเรื่องความในใจของกันและกันแล้ว จากนั้นทั้งสองก็มีความคิดตรงกันว่า“ผู้อยู่ครองเรือน แม้จะไม่ได้ลงมือทำการงานเอง แต่ก็ต้องคอยรับบาปที่ทาสและกรรมกรทำให้” จึงเกิดความเบื่อหน่ายเพศฆราวาสพร้อมใจกันสละทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ญาติและบริวาร
      ส่วนทั้งสองสามีภรรยาพากันออกบวช จัดหาผ้ากาสาวพัสตร์และบริขารพากันปลงผม แล้วครองผ้ากาสาวพัสตร์ อธิฐานเพศบรรพชิตบวชอุทิศต่อพระอรหันต์ในโลกแล้วเดินร่วมทางกันไป พอถึงทางสองแพร่งจึงแยกทางกัน ปิปผลิไปทางขวา ส่วนนางภัททกาปิลานี ไปทางซ้าย นางเดินทางไปพบสำนักปริพาชกแล้วได้เข้าไปขอบวชในสำนักนั้น เนื่องด้วยขณะนั้น พระผู้มีพระภาคยังมิได้ทรงอนุญาตให้สตรีบวชในพระพุทธศาสนา ต่อเมื่อพระนางปชาบดีโคตรมีได้บวชแล้ว นางจึงได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระเถระ ศึกษาพระกรรมฐาน บำเพ็ญวิปัสสนา ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล
    • อุปสมบทด้วยวิธีโอวาท ๓ ข้อ
      ปิปผลิ เดินทางไปตามลำดับ ได้พบพระผู้มีพระภาคเสด็จประทับที่ภายใต้ร่มไทร
      ระหว่างกรุงราชคฤห์กับนาลันทา เห็นพุทธจริยาน่าเลื่อมใสแปลกกว่านักบวชอื่น ๆ ที่ตนเคยพบมา ปลงใจเชื่อว่าต้องเป็นพระอรหันต์แน่นอน จึงน้อมกายกราบถวายบังคมแทบพระบาท กราบทูลขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา
      พระพุทธองค์ ประทานการอุปสมบทด้วยวิธีให้รับโอวาท ๓ ข้อ เรียกว่า
      “โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา” โอวาท ๓ ข้อนั้นคือ
      ๑) กัสสปะ เธอพึงศึกษาว่า เราจักตั้งความละอายและความเกรงใจไว้ในภิกษุทั้งที่
      เป็นพระเถระผู้เฒ่า ผู้มีพรรษาปานกลาง และทั้งผู้บวชใหม่
      ๒) กัสสปะ เธอพึงศึกษาว่า เราจักฟังธรรม บทใดบทหนึ่งอันประกอบด้วยกุศลด้วย
      ความตั้งใจฟังโดยเคารพ และพิจารณาจดจำเนื้อความธรรมบทนั้น
      ๓) กัสสปะ เธอพึงศึกษาว่า เราจะไม่ละสติไปในกาย คือ พิจารณากายเป็นอารมณ์
      โดยสม่ำเสมอ
     
  5. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    จะมีวาสนาได้เผาพระศพท่านไหนนี่

    ช่างลึกลับซะเหลือเกิน
     
  6. pawang

    pawang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +193
    อย่าแต่หิมาลัย แค่ถ้ำผาปล่อง นี่ลองไปดูก็ระเบิดตูมสนั่นหวั่นไหวแล้วครับ เทพยดาท่านมีฤทธิ์มาก
     
  7. วินกะปาล์ม

    วินกะปาล์ม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +94
    อนุโมทนาครับ เรื่องราวดีๆชวนให้ติดตามครับอยากให้นำเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกะหลวงปู่ตื้อ มาลงให้อ่านอีกครับ เคยได้ฟังมาบ้างว่าท่านเป็นพระที่เทศน์ได้ดุเด็ดเผ็ดมันมากครับ
     
  8. Pratya_Philosophy

    Pratya_Philosophy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +125
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  9. ณัฐปพน

    ณัฐปพน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +416
    อนุโมทนาสาธุค่ะ

    แค่ไม่ทุกข์ก็สุขแล้ว;k05
     
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ไม่ได้คิดว่าตนวิเศษวิโสกว่าใคร
    แต่เป็นบุพกรรมที่นำให้ต้องมาพบ

    เรื่องของการเดินฌานแล้วเอาแต่จิตไป
    แต่กายสังขารยังคงอยู่ที่เดิม
    จิตที่เราเรียกกายทิพย์นั่นแหละ เค้าไปพบพระศพและเข้าไปกราบศพพระมหากัสสปะเถระเจ้าถึงชั้นในพระศพนอนบนแท่งศิลาแกะเป็นกลีบดวกบัวพันกลีบบุญบารมีใหญ่ที่สร้างสมไว้จนได้อริยะฐานะมีบัลลังก์บัวพันกลีบรองรับคงไว้ชื่อพระมหากัสสปะเถระเจ้าเป็นที่สักการะบูชาของคนในโลก ที่นั่นมีสภาพเป็นป่าหิมพานต์ ผู้ที่มีกำลังฌานมากกำลังสูงก็จะไปได้ไปถึง

    ไม่ต้องสังสัยอะไรทั้งนั้น จิตเค้าจะเป็นตัวบอกเองว่าอะไร
    เบื้องหน้าที่เห็นคือพระศพพระมหากัสสปะ เข้าไปกราบท่านซะสิที่นั่นมีลมเย็นพัดผ่าน อากาศโล่งโปร่งมวลธาตุที่นั่นมีความเบาตัวอย่างยิ่ง สรรพสัตว์ก็มากมีในแดนทิพย์แดนธรรมล้วนดูแลอารักขาพระศพพระมหากัสสปะ ท่านทราบด้วยกำลังญาณของท่าน
    ขณะที่ผมนำเรื่องที่จิตผมไปสัมผัสคุณธรรมอันบริสุทธิ์ขององค์ท่านมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ร่างกายตนโยกโคลง คล้ายเรือกระทบคลื่นปีตินี่จะทำให้ปฐมฌานเกิด
     
  11. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คลิปชุดนี้ จะมีพระอมิตาภะท่านนอนอยู่บนแท่งศิลาหินดอกบัวพันกลีบเพื่อน ๆสังเกตดูกันดีๆ นะครับ

    กดเข้าไปดูได้เลยครับไม่เสียตังดูฟรี

    ไซอิ๋ว 1 คลิป คลิปจากหมวด ซีรี่ย์ โพสต์โดย CorNettOLovE แหล่งรวมคลิปวีดีโอ video clips
     
  12. ป่ากุง

    ป่ากุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    416
    ค่าพลัง:
    +784
    อนุโมทนาสาธุครับ....กราบเหล่าพระอรหันต์ด้วยเศียรเกล้า
     
  13. rose_za

    rose_za เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +164
    **********************************
    ดูแล้วคะ...แต่ว่า ให้สังเกตดู อะไรหรือคะ.... pity_pig...

    บอกหน่อยได้ไหมคะ
     
  14. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    จะมีพระอมิตาภะท่านนอนอยู่บนแท่งศิลาหินดอกบัวพันกลีบ

    สันฐานแบบที่พระอมิตาภะมหากัสสปะนอนในท่าสีหไสยาสน์

    [​IMG]

    พระพุทธองค์ท่านก็ทรงได้ประทับท่านี้<WBR>บรรทม ตลอดถึงพุทธปรินิพพาน
     
  15. rose_za

    rose_za เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +164
    โอ... กระจ่างแล้วคะ...ขอบพระคุณนะคะ....
     
  16. โลกุตตระ

    โลกุตตระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    448
    ค่าพลัง:
    +2,624
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  17. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]

    โมทนาสาธุครับ

    พระธาตุนิมิต พระมหากัสสปะเถระเจ้า

    ถวาย ณ วัดถ้ำอินทนิล (สาย ลป.มั่น) แม่สอด ตาก

    โดย กองทุนหาพระถวายวัด ชมรมรักษ์พระวังหน้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  18. doopup5454

    doopup5454 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +58
    ท่านคือ หลวงพ่อกัสสปมุนี แห่งวัด ปิปผลิวนาราม จังหวัดระยอง ใช่หรือเปล่าครับ เพราะผมเคยได้อ่านประวัติของท่าน พระชาติหนึ่งท่านคืพระมหากัสสป นิครับ ซึ่งท่านเป็นพระที่ผมมีความรู้สึกศรัทธาท่านมาก ซึ่งหากใครใคร่อยากอ่าน เรื่องราวบันทึกของท่าน สามารถเข้าชมได้ที่
     

แชร์หน้านี้

Loading...