อยากทราบคำตอบ จากพระไตรปิฏก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วรณ์นิ, 3 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เออ....ไอ้หนาสันตินิวรณ์เฮีย....ถ้าเป็นแก


    แกว่าแก...ผ่านขั้นตอน การรู้เห็น กายใจ (กายเวทนาใจความคิด)มาตามจริงมั้ย....หรือว่าแกก็เป็นประเภท นั่งสมาธิ ระงับกายใจ...เหมือนๆ ที่คนอื่นๆเขาทำกัน
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อันนี้....เอาตามที่ผมเข้าใจมาได้นะว่า
    ....
    เกือบทั้งหมด..พากันนั่งสมาธิระงับกายใจ เอาไว้...คือ เข้าฌาณสี่ กัน...แล้วค่อย หาทางฝึก ต่อในแบบ..ของตนเอง..เพื่อจะต้องการชำระ จิตอวิชชาที่มีในตน...(ผมเข้าใจแบบนี้นะ)...ก็เลย..ออกมาเป็น...มโนมยิทธิ ธรรมกาย สุญตา....ตามที่..เราๆได้ยินได้ฟังกันมา...(แบบนี้แน่ๆ

    แต่จะชำระ อวิชชา ได้จริงหรือไม่นั้น..(ผมตอบเองว่า..ไม่..แน่นอน)
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เหตุผลที่ผม...อ้างว่า ชำระอวิชชา กันไม่ได้...แต่พากันหลงไปกับ..อวิชชาแทน ก็คือ ฝึกจิต...เป็น มโนมยิทธิ เป็นธรรมกาย เป็นสุญตา กันไป..โดยการข้าม การรู้เห็นกายใจ ตามจริง...ตามหลักของสติปัฏฐานสี่...

    เมื่อ ถนัดแต่ เข้าฌาณ...ก็เลย..ข้าม กาย เวทนา ใจ(ความคิด)....ไปที่จิต เลย

    แบบนี้ ผมถึง มั่นใจได้ว่า ...เมื่อถึงฐานจิตจริงๆ...ชำระอวิชชา ..เลยไม่ได้หรอก...เพราะ ปัญญา..ขั้นรู้เห็น กายใจตามจริง....ทำไม่ได้....นั่นเอง
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ก็ พึ่งอธิบายไป หยกหยก สิบหกหย่อนๆ ว่า

    สุญญตา ใช้ ปฐมฌาณ แล้ว ขาด !!

    หลวงพ่อวัดปากน้ำ ใช้ อุคหนิมิต ปฏิภาคนิมิต กำหนดรู้ เห็นหนอ แล้ว ขาด !!

    มรรคมีหนึ่งเดียว แต่แตกต่างวิธีการ จะใช้ ปฐมฌาณก็ได้ ฌาณ3 4 ก็ได้
    หรือ มโนมยิทธิ เอาแบบ สัญญาเวทยิตนิโรธน ก็ได้ เวลาเป็น
    มรรค มันเหมือนกันหมด จะใช้ ฌาณระดับไหนก็ได้ เพราะ สัมมาสมาธิ ไม่ใช่ฌาณ

    น้าจร งง เต็ก !! ขั้นฝึกสติ ให้มี สัมปชัญญะ ก็ หาไม่เจอ แว้ว!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2017
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ที่แกอธิบายมาเนี่ย...แกอธิบายเข้าข้างตนเองชัดๆ...ไม่ได้อธิบายแทนหลวงพ่อสด แต่อย่างใด.....อีกอย่าง ทั้งหมดที่แกอธิบายมา...มันไม่ได้อธิบาย ตรงที่ผมแย้ง ไปว่า ไม่ได้ผ่านการเข้าไปรู้เห็น ความจริงของ กายใจ เลย....

    ตรงนี้ แก จะอธิบายอย่างไร...หรือ อธิบายไม่ได้ เพราะ ทำไม่ได้ ...พากันนั่งสมาธิ...เข้าฌาณข้ามกายใจ ไป...หาจิต..ตามถนัด ...ก็..อธิบายมาดิ
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    กาย มันเป็น ภาษาบาลี เขาหมายถึง อาการของสรรพสิ่งที่มาประชุมกัน

    ฌาณ ก็คือ พวกเจตสิก วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา มันประชุมกัน

    ดังนั้น การฝึกเห็น ฌาณประชุมกันตามวาระ โอกาส บึ๊ดจ้ำบึ๊ด เขาก็เรียกว่า ดูกาย
    คือ เห็นมันประชุมกัน ....ซึ่ง ถ้าจะทำ ฌาณเพื่อดูกายจริงๆ จะต้องเดินให้สุด
    หมายถึงจะต้อง อ้อมไปโน้น ไปอภิญญาด้วย ไม่เช่นนั้น มันเหมือน ภรรยา
    น้าจรมาสกิดแล้วไม่ได้สะเด็ด มันค้างๆคาๆ หลอกว่า สุข แต่จริงๆ น้าจร นกกระจอกกินน้ำ

    ทีนี้

    ฌาณ หรือ เอกัคตา อะไรนี่ จริงๆ ไม่ต้องไปทำมันขึ้นมา เพราะ มหาภูตรูป
    ดิน น้ำ ลม ไฟ มันเคี่ยว มันขึ้นวิถีก่อตัว มีเวทนา มีอุเบกขา ตามมีตามเกิด
    เป็นไฟแมลงวันบ้าง เป็นสิวบ้าง เป็นหัวฝี หัวหนองบ้าง มันมี ฌาณอยู่ในวิถีของจิต
    ของมันอยู่แล้ว แต่ก็ต้อง กำหนดรู้ให้เป็น กำหนดรู้เป็น ไม่ใช่ไปทำฌาณเฮีย
    อะไรแล้วถอยมาพิจารณา กาย

    แต่ พิจารณายังไงจึงเป็น

    ไม่ใช่แบบ นอนหลับ ฝันละเมอ แบบน้าจร แน่ๆ เพราะเขาจะทำตอน เดิน ยืน
    นั่ง นอน ดื่ม ทำ พูด คิด
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    กาย ของคนขาดการสดับ หูไม่กระดิก แต่อยาก โชวว่า มีศาสนา

    เขาก็ เอออวยไปว่า กายเนื้อ

    กายเนื้อ ไปดูทำ สันติ อะไร นั่น เขาแค่ ปลอมประโลม หลอกเด็ก
    ไปก่อน
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    นิวรณ์ แกรู้อะไรมั้ย....ที่แกตอบมาเนี่ย...สุดท้ายแกก็ไม่ได้เข้าใจ เรื่อง อายะตนะใจ อยู่ดี...แกพูดถุยๆไถๆแต่เรื่องกาย..(ไม่รู้เรื่องอายะตนะกายด้วยซ้ำ)...พูดกายเสร็จ แกก็แถข้าม ใจ ไปเรื่อง จิต...เลย...

    อย่างหรือแกจะปฏิเสธล่ะว่า ไอ้อภิญญาของแก...มันฝึกด้วยจิต...แกยังใช้จิต อยู่เลย.. ไม่รู้เรื่อง ของ อายะตนะใจ...ด้วยซ้ำ...อิอิ
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ยกตัวอย่าง ตอนโน้น น้าจรไปดู45องศา

    เขาก็ต้อง ฝึก 45องศา ออกไปให้คล่อง ทุกวัน ไม่ว่า จะยืน เดิน นั่ง นอน
    ดื่ม ทำ พูด คิด ต้องออกไปได้

    ออกไปได้ ไม่ใช่จบ

    เขาให้ตามเห็นว่า มันไปเดี๋ยวมันก็กลับ บางวันทำได้ บางวันทำไม่ได้

    ตามเห็นความเจริญ แล้วเสื่อม จนมันคล่องตัว

    พอมันคล่องตัว พอไม่ได้เจตนาจะทำ บางที มันออกไปเอง

    มันออกไปเอง ก็ไม่ใช่ ฮานาก้า สำเร็จ ไม่เกี่ยวเลย

    มันออกไปเอง มันก็กับมาเอง

    เสร็จแล้ว ทำไมมันออกไปเอง ก็เพราะ มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา

    แล้วอะไนหละ ที่ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา มันจะ เอ๊ะ เกิดการ
    กังขาว่า ความพ้น ความวิสุทธิอยู่ไหน การพ้น การประชุมกัน
    ของมัน อยู่ตรงไหน

    พอเอะได้แบบนี้ เขาจะเริ่มเรียกว่า ฝึกสติ

    ถ้ามี สัมปชัญญะ มันจะ เอ๊ะ ได้ทุกครั้งที่มันเกิด ดับ

    ฝึกไปอีก จนกว่าจะคล่องตัวในการเห็น เกิด ดับ

    จนเห็นแต่ ดับ ดับ โดยไม่ต้องเทียบเคียง ตะกี้นี้

    ก็จะ อ้อ นี่ เจริญสติธรรม กว่าจะเจอ กว่าจะเริ่ม

    แต่ ลุงบระขันธ์ ลุงขุงพล หนา สันติ มันดัน รับรองว่า สำเร็จ

    สำเร็จเอีย อะไร สติ มะอึง ยังไม่รู้จักเลย

    สิ่งที่ ไม่ได้ใช้ อายตนะ เข้าไปสัมผัส รับรู้ มะอึง ยังได้ฝึกการเห็นเลย


    ปล. น้องๆ หนูๆ มาอ่าน อาจจะเข้าใจว่า เอ้ย ยุ่งยาก ซับซ้อน
    แบบ ง่ายๆ มันก็มี นะฮับ แต่ บังเอิญว่า น้าจร อ้างว่าใช้การออกไป45องศา
    แล้วดูกายอะไรของเขา มันเป็น หนทางที่อ้อม แล้ว ทุกขโคตะระโคตะระ
    เพราะฝึกแทบตายก็ยังไม่ใช่ พอเจอที่ใช่ มันจะย้อนกลับทันที โง ฉี่ หาย
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แก ช่วย อธิบาย การเข้าใจ ใน อายะตนะกายใจ...ที่แกฝึกมาหน่อยสิ

    ว่ามา....
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตูละเบื่อ..มังจริงๆ....ไอ้หนาสันตินิวรณ์เฮีย..แกจะแถ เบี่ยงประเด็นไปไหนอีกแล้วเนี่ย...แกจะผลิกบ้านเตี่ย แกไปไหนวะ?

    คุยกันเรื่อง กายใจโว้ยยยยย...แกรู้มั้ย รึแค่ จำที่ชั้นโม้เอามาปู๊ดดดดด..เท่านั้น อย่าจำมาปู๊ดดดดดด สิวะ

    อิอิ..
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เชย ระเบิด ระเบ้อ

    เวลาเขาถาม ธรรมะ เขาก็มีแต่ ถาม การปฏิบัติ

    การถามการปฏิบัติ คนมี สติดี ที่ไหน จะไปถามคนอื่น ทำอย่างไร

    เขามีแต่ ตนทำอย่างไร ก็เล่ามา แล้ว ถามว่า ทำยังไงต่อ

    ถ้าคนเขา แนะนำ ทางต่อได้ มันจะยืนยันได้ว่า คนที่แนะนำ เขาทำเป็น
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    โห.....แกมาไม้นี้....คิดได้ไงวะ...คิดได้ไง

    ไอ้หนาสันติ เฮีย นิวรณ์....

    สรุป แกไม่รู้ อายะตนะ กายใจ....แกฝึกจิตแก เหมือน คนอื่น...นั่นแหล่ะ

    อิอิ..พอละ..เบื่อหว่ะ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ย้ำอีกที หน่าคร้าบ กาย เป็น ภาษาบาลี หมายถึง การมาประชุมกัน

    compond อะไรเงี่ยะ ไม่ใช่ body

    ถ้ายัง เสวนาในกรอบของ body ก็เป็นอันว่า คุยกัน คนละเรื่อง

    ถ้าจะ คุยกันทางศาสนา แค่ จิตสัมปยุตกับเวทนา นี่ก็ เกิด "กาย" แล้ว
    (กามแหลกกระบานเหวะหวะไปแล้ว อนาคาฮี ไปแล้ว)
    ไม่ต้องรอมี หัว ไหล ตูด เฮียอะไร คนละเรื่อง
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เออ แกเลย เพี้ยน ภาษา ของแก..ไปวันวัน อยู่นี่แหล่ะ
    ตามสบายแล้วกันนะ...โง้วววววว เหมือนเดิม...นั่นแหล่ะ

    อิอิ...
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ว่าไง น้าจร "กาย หัว ไหล่ ตูด" มาแล้วเหรอ


    ว่าไง น้าจร "กาย หัว ไหล่ ตูด" ไปแล้วเหรอ


    ว่าไง น้าจร "กาย หัว ไหล่ ตูด" จะแบไต๋อะไรเหรอ จุ๊กกรู้ !!!
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผมยังยืนยันตามเดิม...ว่า ไอ้หนาสันตินิวรณ์เฮีย..มันก็ฝึกเข้าฌาณนั่งสมาธิ เข้าหาจิต แล้วฝึกจิต เพื่ออภิญญา...เหมือนที่คนอื่นๆ เขาทำกัน นั่นแหล่ะครับ....มันข้ามการรู้เห็น อายะตนะกายใจ ตามจริง....มันเลย ตอบแค่ว่า..มันเห็นพระไตรลักษณ์ ครึ่งๆ กลางๆ ตามที่มันเคยตอบ กับผม ตั้งกะปีมะโว้

    ..แล้ว ทุกวันนี้ มันเลย เพี้ยน...เป็นไปตามกรรมของมัน

    อยู่กับจิตเพี้ยนๆของมัน...ที่มันนึกว่า ดีเลิศประเสริฐศรี...ซะเหลือเกิน
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สิ่งที่มะอึง ไม่ได้ใช้อายะตนะ เข้าไปสัมผัสรับรู้ มะอึงยังได้ฝึกการเห็นเลย
    .....
    อิอิ...มาขยายความตรงประโยคนี้ ที่ ไอ้หนาสันติเฮียนิวรณ์ แก กล่าวออกมา

    เขายกมาอ้างว่า ในการฝึก ที่ผมฝึก การเข้าไปเห็นความคิด จิต เจตสิก...ไม่ได้ใช้อายะตนะใจ เข้าไปเห็น ยังมีตัวอะไรที่นอกเหนือจาก อายะตนะใจ..ยังเห็นแทนอายะตนะใจได้เลย....อิอิ...ตรงนี้แหล่ะครับ..ที่มันโง้ววววว
    ....
    ที่มันพูดมาเพราะมันไม่เข้าใจ ใน ใจ จิต....หรือ สติ กับสัมปะชัญญะ ที่ผมฝึก
    ไอ้หนาสันติเฮียนิวรณ์...มันเลยเดามั่วๆ ตามที่ผมเคยเล่าให้มันฟังมาแล้ว หลายครั้ง...

    การกำหนดความคิด เป็นเจตสิก...คือใจเป็นผู้คิด และรู้(สัมปะชัญญะ)..โดยมีสติคือผู้ร่วมคิด และร่วมรู้(วิญญาณ).....

    พอมาถึงขั้น อรูปธรรม...คือ มีแต่สภาวะจิตล้วนๆนั้น...สายใยสัมปะชัญญะหรือ รู้ของอายะตนะใจ...มันก็รู้และเชื่อมโยงกันอยู่..กับสติหรือจิต....อยู่นั่นเอง...

    ดังนั้น..การที่ไอ้หนาสันติ นิวรณ์เฮีย ยกมากล่าวว่า...ในขณะที่จิตหรือสติ มันรู้อยู่ในสภาวะ อรูปธรรมของ ขันธ์...มันไม่ได้ใช้ อายะตนะใจเลยนั้น...ไม่จริงครับ.....ใจรู้อยู่ แต่ไม่ร่วมปรุง...เท่านั้นเอง

    ถามง่ายๆ...ระหว่าง ใจ กับจิต...อะไรคือ อายะตนะรับรู้...คำตอบคือใจ

    จิต มันแค่...อุปทาน...จะมาเอาจิต มาฝึกอภิญญา...เพื่อสิ่งใดกัน..ครับ

    ไอ้หนาสันติเฮีย นิวรณ์ครับ....อิอิ
     
  19. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ในสภาวะ ของ โลกุตรธรรม....มันคือการปรุงแต่งของ ขันธ์ล้วนๆ ..แต่ที่รู้ ตามรู้ อยู่ตลอดก็คือ...สัมปชัญญะรู้ ของใจ....แปลว่า..ใจมันไม่ได้ร่วมคิด ไม่ได้ร่วมปรุง..ในส่วนของขันธ์..ด้วยเลย..แต่ ร่างกายคนที่ฝึกมันยังไม่ตาย..การรู้ของใจ(ผมเรียกสัมปะชัญญะ)มันจึง..รู้อยู่ตลอด เวลา...ใครหน้าสันติหน้าเฮียนิวรณ์ตัวไหน มันจะมาพูดว่า....โลกุตรจิตบ้านมัน...รู้โดย พ้นจาก อายะตนะใจไปแล้วนั้น...ผิดครับ มันโง้ว...จึงพูดมาแบบนี้
     
  20. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ถ้ามัน กล้าพูด ว่า ที่ฝึก รู้จิต นั้น พ้นจากอายะตนะกายใจ ไปแล้ว

    ถ้ามันกล้าพูดแบบนี้ ให้มันตาย ให้เขาเผาร่างกายมันเหลือแต่ขี้เถ้าก่อน

    แล้วให้มันเอาแต่จิต มาพูด ดูสิ....ว่ามันจะพูดได้มั้ย...อิอิ

    สุดท้าย ไอ้หนาสันติเฮีย นิวรณ์ มันก็..หลงฝึกจิตอวิชชาของมันอยู่ต่อไป

    อิอิ

    สม
     

แชร์หน้านี้

Loading...