เจ้าอาวาสยอดกตัญญู!! พระครูไพศาล สุตตาคม เสร็จกิจที่วัดเดินกลับบ้านดูแลแม่ป่วยอัมพฤกษ์ทุกวัน จนชาวบ้านต่างพากันยกย่องสรรเสริญ

เจ้าอาวาสยอดกตัญญู!! พระครูไพศาล สุตตาคม เสร็จกิจที่วัดเดินกลับบ้านดูแลแม่ป่วยอัมพฤกษ์ทุกวัน จนชาวบ้านต่างพากันยกย่องสรรเสริญ









พระครูไพศาล สุตตาคม เจ้าอาวาสวัดดอนแก้ว บ้านดอนแก้ว หมู่ 5 ต.ดอนแก้ว อ.สารภี จังหวัดเชียงใหม่ ทุกๆวันหลังจากแล้วเสร็จจากกิจของสงฆ์ ก็จะเดินกลับไปที่บ้านของมารดา นางต่อนแก้ว เขียววรรณ์ อายุ 69 ปี ที่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 5 บ้านดอนแก้ว ต.ดอนแก้ว ที่ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก



โดยที่พระครูไพศาล จะคอยปรนนิบัติมารดาทุกอย่าง ตั้งแต่หาจัดสำรับข้าวน้ำ เช็ดตัว จัดยา พาทำธุระหนักเบา ทำกายบริหารให้ พาออกไปเดินเล่น เก็บกวาดเช็ดถูภายในบ้าน โดยทำแบบนี้ทุกๆวันมาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว





“หน้าที่ของคนเป็นลูกนั้น เมื่อพ่อแม่เจ็บป่วยถึงขั้นช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จำเป็นที่ลูกทุกคนต้องดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุดตามศักยภาพของตนเอง อาตมาเป็นมีพี่น้องสามคน อาตมาเป็นพี่คนโต น้องคนนึงตายไปแล้ว เหลือคนนึงต้องออกไปทำมาหากินหาเลี้ยงครอบครัว ช่วงที่เค้าไปทำงานอาตมาก็จะต้องมาดูแลแม่แทน ” พระครูไพศาล สุตตาคมกล่าว



โดยภารกิจในแต่ละวันของพระครูไพศาล หลังจากทำวัตรเช้าและออกบิณทบาตรเสร็จ ก็จะเก็บกวาดถูกบริเวณวัดดูแลข้าวปลาอาหารหมาแมวในวัด พอเสร็จจากนั้นก็จะเข้ามาดูแลมารดาที่บ้าน หลังจากนั้นช่วงเย็นก็กลับไป ทำกิจที่วัดเหมือนเดิมแบบนี้ทุกวัน






โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารเทศบาลมีความเห็นพ้องต้องกันว่า พระครูไพศาลสุตตาคมเป็นลูกกตัญญูอย่างแท้จริง ถึงแม้ยังบวชเป็นภิกษุ แต่ยังมีความกตัญญูดูแลบุพการีของตนเองได้อย่างดี จึงเสนอต่อ นายพัทธนันท์ ทองยศ นายกเทศมนตรีตำบลดอนแก้ว และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลดอนแก้ว ที่เดินทางไปตรวจสอบเรื่องราวที่วัด และได้รับการเหตุชอบว่า ปีนี้จะมอบรางวัลโล่รางวัลลูกกตัญญูให้ในวันแม่แห่งชาติด้วย เพราะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กรุ่นใหม่ เป็นเยี่ยงอย่างที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็ก โดยนอกจากจะมอบรางวัลให้แล้ว ยังเชิญพระครูไพศาลสุตตาคม ปาฐกถาธรรมถึงพระคุณของแม่ให้เด็ก เยาวชน ตลอดจนประชาชนที่มาร่วมงานได้ฟัง เพื่อระรึกถึงบุญคุณพ่อแม่ด้วย



ที่มา: Cr.ทีมข่าว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ / welovemyking.com


เรียบเรียงโดย

อุทัย เลิกสันเทียะ : สำนักข่าวทีนิวส์


------------------------
http://www.tnews.co.th/contents/319850