เทวดาจุติเป็นเทวดาอีกได้หรือไม่?

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย Tatisaetae, 7 เมษายน 2013.

  1. Tatisaetae

    Tatisaetae สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +11
    เคยได้ยินแต่ว่าเทวดา จุติ ลงนรก เป็นมนุษย์ หรื่อฟังธรรม จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเข้านิพพานเลย แล้วเป็นไปได้ไหมคับเมื่อเทวดาถึงเวลาจุติจะเกิดเป็นเทวดาต่อในชาติต่อไป....(ขอความคิดเห็นแต่ละท่านคับ ขอบคุณคับ)
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    เป็นไปได้ครับ..

    หลักฐานจาก.."สักกปัญหสูตร"

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=10&A=5727&Z=6256

    เนื้อความที่เกี่ยวข้อง...

    การได้รับความโสมนัสของข้าพระองค์ เพราะได้ฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้น ไม่เป็นทางมาแห่งอาชญา ไม่เป็นทางมาแห่งศาตรา ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อพระนิพพาน ฯ
    ดูกรจอมเทพ ก็พระองค์ทรงเห็นอำนาจประโยชน์อย่างไรเล่า จึงทรงประกาศ การได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ
    ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ ๖ ประการ จึงประกาศการได้รับ
    ความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ

    [๒๖๔] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่หนึ่งอย่างนี้ว่า
    เมื่อเราเกิดเป็นเทวดาดำรงอยู่ในภพดาวดึงส์นี้ เราได้อายุเพิ่มขึ้นอีก ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ขอจงทรงทราบ อย่างนี้เถิด ดังนี้

    จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ

    [๒๖๕] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่สองอย่างนี้ว่า
    เราจุติจากทิพยกายแล้ว ละอายุอันมิใช่ของมนุษย์แล้ว เป็นผู้ไม่หลง จักเข้าสู่ครรภ์ในตระกูลอันเป็นที่พอใจของเรา ดังนี้

    จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ

    [๒๖๖] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่สามอย่างนี้ว่า
    เรานั้น ยินดีแล้ว ในศาสนา ของท่าน ที่มิได้หลง ปัญหา เรามีสัมปชัญญะ มีสติมั่นคง จักอยู่โดยธรรม ดังนี้

    จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ

    [๒๖๗] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่สี่อย่างนี้ว่า ถ้าความตรัสรู้ จักมีแก่เราในภายหน้า โดยธรรมไซร้ เราจักเป็นผู้รู้ทั่วถึงอยู่ นั่นแหละ จักเป็นที่สุดของเรา ดังนี้

    จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ

    [๒๖๘] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่ห้าอย่างนี้ว่า
    หากเราจุติจากกายมนุษย์แล้ว ละอายุอันเป็นของมนุษย์แล้ว จักกลับเป็นเทวดาอีก จักเป็นผู้สูงสุดในเทวโลก ดังนี้

    จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ

    [๒๖๙] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่หกอย่างนี้ว่า
    พวกเทวดาชั้นอกนิฏฐาเหล่านั้นเป็นผู้ประณีตกว่า มียศ เมื่อภพที่สุดเป็นไปอยู่ นิวาสนั้นจักเป็นของเรา ดังนี้

    จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ หกประการนี้แล
    จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ
     
  3. Tatisaetae

    Tatisaetae สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +11
    ขอบคุณครับ จากที่ท่านยกมา ผมเข้าใจว่า ถึงอย่างไร ก็ต้อง จุติเป็นมนุษย์ก่อนอยู่ดี ถึงได้เกิดใหม่เป็นเทวดาอีก ถูกต้องไหมคับ ตามข้อ267นั้นคือได้อายุเพิ่ม .... ผมเข้าใจถูกไหมคับ
    เพราะไปได้ยินพุทธวจนะมาว่า เมื่อเทวดาใกล้จะหมดอายุขัย พุทธองค์ตรัสว่า สุคติของเทวดานั้นคือภพมนุษย์ ประมาณนี้อ่ะคับ เลยเข้าใจว่าเทวดาแม้อายุจะยาวนานเท่าไหร่ก็ต้องมาจุติเป็นมนุษย์ก่อน คือดีที่สุด แล้วทำความดี จึงไปเกิดเป็นเทวดาได้อีก ไม่นับเข้านิพพานเลยนะคับ (นี่ความเห็นผมนะคับ)
    เชิญท่านผู้รู้ให้ความเห็นกันมาได้อีกนะคับ
    (ธรรมนี้อาจไม่ใช่ธรรมเพื่อความหลุดพ้นขั้นสูงสุด ก็ขออภัยท่านที่ไม่ชอบเนื้อหานี้ด้วยละกัน ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความเห็นคับ)
     
  4. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940

    จากข้อความที่quote มาข้างบนนี้ ท้าวสักกะเมื่อบรรลุโสดาบันแล้ว ตายลงก็บังเกิดใหม่ทันทีในดาวดึงส์อีกจึงกล่าวว่าท่าน"ได้อายุเพิ่ม"ดังนี้

    เมื่อเทวดาผู้ได้สดับพระธรรม บรรลุธรรมขั้นสูงขึ้นไปย่อมไม่กลับมาสู่โลกมนุษย์อีกครับหรือนางวิสาขา ซึ่งเวลานี้เกิดอยู่ี่สวรรค์ชั้นนิมมานรตีก็ยังปรารถนาจะท่องสวรรค์อยู่ ท่านคงปฏิบัติจนเลื่อนชั้นเป็นพระอนาคามี และพระอรหันต์ต่อไป จึงจะนิพพานบนสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่ง เช่นสุธาวาสเป็นต้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...