เบอร์บัญชีพระอาพาธทั่วไทย รพ. ราชวิถี 2559 หน้า 5 #92 ใหม่

ร่วมทำบุญเพื่อพระภิกษุอาพาธ ร.พ.ตราดกับพระอาจารย์บัว ถามโก

จากดำริของท่านพระอาจารย์ บัว ถามโก วัดเกาะตะเคียน ที่ต้องการสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์ โรงพยาบาลตราด ของสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เพื่อพระภิกษุ-สามเณรอาพาธ และผู้ป่วยยากไร้

ท่านพระอาจารย์บัว ได้ย้ำเจตนารมณ์ของท่านด้วยการให้จัดสร้างเหรียญเสมา (ไม่มีอักษรคำว่า “ถามโก” ) เพื่อการนี้ท่านให้ความสำคัญกับเหรียญเพื่อ ร.พ.ตราดนี้และเมตตาจารเหรียญทุกเหรียญด้วยตัวท่านเอง (แม้จะมีศิษย์ทักท้วงด้วยความห่วงใยสุขภาพท่าน แต่ท่านย้ำว่าอยากให้เหรียญนี้ดีและพิเศษกว่าเหรียญทุกรุ่นที่มีมา เพื่อ ร.พ.ตราด โรงพยาบาลบ้านท่าน ทั้งนี้เมื่อ ๓-๔ ปีก่อน ที่ท่านอาพาธก็ได้เข้าพักรักษาตัว ที่ร.พ.ตราดนี้นานนับเดือน) รวมถึงโค๊ตที่ตอกก็เป็นโค๊ตส่วนตัวที่อยู่กับท่านเองตลอด

ในการนี้ทุกท่านสามารถร่วมบุญได้โดยตรงกับท่านพระอาจารย์บัว หรือ จะผ่านทางเราก็ได้ ทั้งนี้เราได้สนองเจตนากุศลของท่านพระอาจารย์ โดยเป็นธุระในการรวบรวมปัจจัยทำบุญดังกล่าวถวายท่านพระอาจารย์

โดยทุกท่านที่ร่วมบุญในครั้งนี้ ทุก ๕,๐๐๐ บาท จะได้รับเหรียญเสมา เนื้ออัลปาก้า ๑ เหรียญ ที่ท่านอาจารย์ บัว ให้ความสำคัญและ จาร ”นะ ชา ลี ติ” (หัวใจพระฉิมพลีหรือพระลีวลี พระอสีติมหาสาวกผู้มากด้วยโชคลาภ) และจารเลช ๙ ย่อแทนคำอวยพรให้ผู้ที่บูชามีความรุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า หรือหากท่านที่ไม่สะดวกจะร่วมบุญถึง ๕,๐๐๐ บาท ทางเราก็ยินดีรับ โดยทางเราจะรวบรวมทำเป็นรายชื่อ พร้อมปัจจัยที่ร่วมทำบุญในครั้งนี้ ถวายท่านพระอาจารย์ บัว ถามโก ให้ท่านพระอาจารย์ได้รับทราบว่าท่านใดบ้างที่ได้ร่วมบุญ “เพื่อพระภิกษุ-สามเณรอาพาธ และผู้ป่วยยากไร้ โรงพยาบาลตราด” กับท่านพระอาจารย์

ท่านสามารถร่วมบุญกับท่านพระอาจารย์บัว ในการนี้ผ่านทางเราได้โดย ชำระเงินสดและลงรายชื่อที่มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก หรือ

โอนเงินผ่านบัญชี
ธนาคารกรุงไทย สาขาศรีย่าน บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี “ ชินพร สุขสถิตย์ “
เลขที่ ๐๑๒ – ๑ – ๖๔๔๓๐ – ๘

(ท่านที่ทำบุญทุก ๕,๐๐๐ บาทและประสงค์รับเหรียญ หากต้องการให้เราจัดส่งให้กรุณาเพิ่มค่าจัด ๖๐ บาทต่อการส่งที่ไม่เกิน ๕-๖ เหรียญต่อครั้ง / หลังโอนเงินแล้วรบกวน แฟ๊กซ์สลิปการโอนเงิน พร้อมเขียนชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ของท่านมาที่ เบอร์แฟ๊กซ์ ๐ - ๒๙๓๖ – ๗๙๖๑)

ติดต่อสอบถามที่ โทร ๐๘ – ๐๑๐๑ – ๙๗๔๔ งดรับจองหน้าเวป ขอความกรุณาติดต่อโดยตรงหรือทางโทรศัพท์เท่านั้น

ทั้งนี้เฉพาะท่านที่ทำบุญทุก ๕,๐๐๐ บาท จะได้รับเหรียญเสมาอัลปาก้า ๑ เหรียญ ซึ่งท่านพระอาจารย์บัวเป็นผู้กำหนด (ไม่จำกัดจำนวนเหรียญ ท่านหนึ่งจะทำบุญเท่าไหร่ หรือทำบุญกี่เหรียญก็ได้ ) และ เปิดให้ทำบุญเพื่อการนี้ตั้งแต่บัดนี้ หรือสั่งจองเหรียญอย่างเป็นทางการและชำระเงินทันที ในวันอังคารที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ (อังคารขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑ ปีขาล)

ในส่วนของการรับเหรียญที่ระลึก(เสมาอัลปาก้า) ท่านพระอาจารย์บัวกำหนดเบื้องต้นในวันอันเป็นมงคลวันอธิบดี คือ วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๔ (วันรุ่งขึ้นเป็นวันพญาวัน - เถลิงศกใหม่ของทางเหนือพอดี) โดยในระหว่างนี้ท่านพระอาจารย์บัว ได้ทำการปลุกเสกเหรียญมาแล้วตลอดไตรมาส ๒๕๕๓ และจะปลุกเสกเรื่อยไปจนกระทั่งจ่ายเหรียญ

ดังนั้นเหรียญเสมา(ไม่มีคำว่า "ถามโก") ที่ระลึกสร้างตึกสงฆ์โรงพยาบาลตราด ของท่านพระอาจารย์บัว จึงได้รับการปลุกเสกอย่างดีและยาวนานอย่างตั้งใจ ยาวนานตลอดพรรษา ๒๕๕๓ จนถึง ๑๔ เมษายน ๒๕๕๔ รวมเวลาคร่าวๆกว่า ๘ เดือน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ โทร ๐๘-๐๑๐๑-๙๗๔๔

อ้างอิงแหล่งข่าวมาจาก www.ittiyano.com

ร่วมทำบุญเพื่อพระภิกษุอาพาธ ร.พ.ตราดกับพระอาจารย์บัว ถามโก

 

การร่วมทำบุญแด่พระภิกษุสามเณรอาพาธ ณ โรงพยาบาลสงฆ์

ด้วยโรงพยาบาลสงฆ์ได้จัดให้มีกิจกรรมการทำบุญในรูปแบบต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านเจ้าภาพผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา และเพื่อการหาเงินสมทบทุนไว้ดูแลรักษา พระภิกษุสามเณรอาพาธ โดยให้บริการแก่ท่านสาธุชนทั่วไปร่วมทำบุญ บริจาคโดยที่ไม่ต้องแจ้งความประสงค์ไว้ล่วงหน้า เช่น การบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ บริจาคค่าภัตตาหาร ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าโลหิต, บริจาคค่าน้ำ-ค่าไฟ และบริจาคบำรุงทั่วไป และการทำบุญ เนื่องในโอกาสต่าง ๆ เช่น
-การทำบุญเลี้ยงรุ่น
-การทำบุญวันเกษียณอายุ ฯลฯ
-การทำบุญครบรอบวันเกิด
-การทำบุญครบรอบวันแต่งงาน
-การทำบุญบังสุกุล
-การทำบุญสะเดาะเคราะห์
-พิธีมงคลสมรส

ขั้นตอนการทำบุญ
ท่านสามารถแจ้งความจำนงในการทำบุญกับเจ้าหน้าที่แผนกรับจองการทำบุญได้ทุกวัน ( ไม่เว้นวันหยุดราชการ ) ตั้งแต่เวลา 06.30 น.- 16.00 น. ด้วยโทรศัพท์ หมายเลข 02-3544271-2 และ 02-6409537 ต่อ 3501, 3502 เมื่อท่านได้รับการตอบรับแล้ว เจ้าหน้าที่จะเรียนให้ทราบถึงกำหนดการต่างๆและนัดหมายการชำระเงินต่อไป

ข้อควรปฏิบัติในการทำบุญในโรงพยาบาลสงฆ์เพื่อให้ถูกต้องตามพระวินัย
เจ้าภาพมีความประสงค์จะจัดอาหารมาถวายเอง กรุณาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายโภชนาการ เพื่อถูกต้องตามหลักโภชนาการ และยาที่แพทย์ให้การรักษา ( โรงพยาบาลได้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมทุกอย่างแล้ว ) โรงพยาบาลสงฆ์ให้บริการการรักษาฟรีแก่พระอาพาธ ( ฉะนั้นการถวายปัจจัยกับท่านโดยตรงจึงควรหลีกเลี่ยง ) การถวายสังฆทานกับพระอาพาธให้ถวายเท่าที่เป็นประโยชน์จริง เพราะพระอาพาธในโรงพยาบาลจะใช้เครื่องใช้ที่จำเป็นเช่น สบู่, ยาสีฟัน, แปรงสีฟัน, มีดโกน, แป้งโรยตัว, ขันน้ำ, ผ้าเช็ดตัว, และกระดาษชำระ ฯลฯ เพื่อความสะดวกในการถวายสังฆทาน ขอให้ท่านผู้มีจิตศรัทธานำไปถวายไว้ที่เป็นส่วนกลางที่วิหาร เพราะ
1. สะดวก รวดเร็ว
2. ถวายได้ตั้งแต่ เวลา 08.30 14.00 น. ทุกวัน ( ไม่เว้นวันหยุดราชการ )
3. เครื่องสังฆทานที่ถวาย พระอาพาธ จะได้ใช้จริง
นอกจากท่านจะได้ถวายสังฆทานที่ถูกต้องตามพระวินัยแล้ว ท่านยังจะได้กราบนมัสการพระพุทธสัมปทานนิโรคาพาธ พระพุทธปฏิมากร สมัยเชียงแสน, สมัยอู่ทองและสมัยสุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคล ( โบราณเรียก อู่แสนสุข อันเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ที่มีแต่ความสงบสุขร่มเย็นของชาวพุทธ )

การร่วมทำบุญแด่พระสงฆ์สามเณรอาพาธ ณ โรงพยาบาลสงฆ์
การจองถวายภัตตาหารพระอาพาธ บริการได้ 2 เวลา
- เวลาเช้า เริ่ม 06.30 น.
- เวลาเพล เริ่ม 10.30 น.
ค่าภัตตาหารพระอาพาธ รูปละ 40 บาท
กรณีที่เจ้าภาพต้องการนำอาหารถวายพระอาพาธเอง กรุณาติดต่อโภชนากรของโรงพยาบาลสงฆ์

การสั่งจองพิธีมงคลสมรสหมู่ ( เวลาเช้า 06.30 น. )
- รับบริการได้วันละไม่เกิน 20 คู่
- รับจัดพิธีรดน้ำสังข์วันละ 5 คู่

อัตราค่าบริการพิธีมงคลสมรสหมู่
- ค่าภัตตาหารวายพระ ค่าจัดสถานที่ ( ไม่รดน้ำสังข์ ) 1,200 บาท
- ค่าภัตตาหารวายพระ ค่าจัดสถานที่ รดน้ำสังข์ ที่หอฉัน 1,700 บาท
- ค่าภัตตาหารวายพระ ค่าจัดสถานที่ รดน้ำสังข์ ที่อาคารมูลนิธิ 3,000 บาท

อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีรดน้ำสังข์
1. ดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมของปัจจัยถวายพระ 9 ชุด ( บ่าว-สาว เตรียมมาเอง )
2. มงคลแฝด ( โรงพยาบาลมีจำหน่าย ) ชุดละ 50 บาท
3. พวงมาลัย คู่บ่าว-สาว 1 คู่ ( โรงพยาบาลรับสั่งทำ ) คู่ละ 600 บาท
4. พานดอกไม้รองรับน้ำสังข์ 2 พาน ( โรงพยาบาลรับสั่งทำ ) ชุดละ 600 บาท
รวมเป็นเงิน 1,250 บาท
อาหารเช้าสำหรับเลี้ยงแขก
กาแฟ หรือโอวัลติน และขนม 2 อย่าง 30 บาท ( สั่งล่วงหน้า 15 วัน )
- กรุณาชำระเงินค่าบริการให้เรียบร้อยในวันสั่งจอง
- โปรดแต่งกายสุภาพ ( ไม่สวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ และรองเท้าแตะ )
- สำหรับบ่าว-สาวที่ทำพิธีหลั่งน้ำสังข์ ถ้าต้องการป้ายชื่อต้องจัดเตรียมมาเอง

จัดพิธีสะเดาะเคราะห์บังสุกุลต่ออายุ อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีที่เจ้าภาพต้องเตรียม
1. ดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมของปัจจัยถวายพระ 9 ซอง
2. เทียนขาว หนัก 4 บาท 1 คู่
3. ผ้าขาวยาว 2 เมตร 1 ผืน

การจัดพิธีบังสกุลอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับ อุปกรณ์ใช้ในพิธีที่เจ้าภาพต้องเตรียมมาก
1. ดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมซองปัจจัยถวายพระ 9 ซอง
2. โกฐอัฐิ รูปถ่าย หรือชื่อผู้ล่วงลับ ( อย่างใด อย่างหนึ่ง )
การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ( เพล เวลา 10.00 น. )
หอฉัน
ห้องพิธีสงฆ์ อาคารมูลนิธิ และอาคารพิธีสงฆ์

 

สำนักฯถวาย20,000บาทหลวงปู่ศรีโรจน์ พยาบาลพระอาพาธ20/01/2554
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center>« เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 06:24:18 PM »
</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>
วันนี้20/01/2554 เวลา 14.30น.ทางสำนักอ.เม้ง ขุนแผน โดยการนำของท่านอาจารย์ได้นำปัจจัยที่ได้จากการบูชาล๊อกเก็ตพ่อปู่ชีวกฯที่ทางสำนักได้จัดสร้าง ซึ่งได้ยอดแรกเป็นเงิน20,000 บาท เดินทางสู่วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา เพื่อนำปัจจัย20,000บาทนี้ถวายแด่ หลวงปู่ศรีโรจน์ พระอริยะแห่งเมืองกรุงเก่า พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบสมกับเป็นหน่อเนื้อแห่งพระศาสดา และพระศาสนา อายุกาล90พรรษา

ต้องยอมรับครับว่าขนลุกครับ ปกติผมก็เดินทางไปทำบุญกับท่านอยู่บ่อยๆ ผมไปขึ้นกรรมฐานครั้งแรกกับท่านตั้งแต่เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมที่4 ทุกครั้งที่ไปจะเห็นรอยยิ้มของหลวงปู่ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาให้กับทุกคนที่ไปหา ปัจจุบันท่านอาพาธและต้องใช้ปัจจัยในการรักษาพยาบาลจำนวนมากเนื่องมาจากการผ่าตัดเอาพังพืดที่เกาะลำไส้ออก และท่านยังป่วยด้วยโรคชราภาพตามอายุกาล

ขอพี่น้องทุกๆท่านร่วมอนุโมทนาที่ร่วมกันทำบุญบูชาล๊อกเก็ตพ่อหมอชีวกฯไปจำนวน200องค์แรก และได้นำไปถวายแด่หลวงปู่ศรีโรจน์วันนี้ และอีก300องค์ที่เหลือยังรอการร่วมบุญจากพี่น้องทุกๆท่านอยู่ครับ เพื่อจะนำถวายวัดต่อไป
สำนักฯถวาย20,000บาทหลวงปู่ศรีโรจน์ พยาบาลพระอาพาธ20/01/2554

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>

</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%">
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เปิดศูนย์สุขภาพ "วัดราชบูรณะ" ดูแลพระอาพาธ-ในพิษณุโลก

Submitted by อิทธิ on เสาร์, 2 August 2008 Tags:

• แวดวงสงฆ์

​

ในสภาพปัจจุบัน การเดินทางไปโรงพยาบาลของพระภิกษุสามเณร เพื่อไปตรวจสุขภาพร่างกายหรือไปรับการรักษาพยาบาล เป็นเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อยทีเดียว
จากข้อมูลที่หน่วยงานสาธารณสุขพบว่า พระภิกษุและสามเณรจังหวัดพิษณุโลก มีสุขภาพดี ร้อยละ 64.8 และอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้อยละ 17.7 และเป็นโรคร้อยละ 17.5 การดูแลสุขภาพพระภิกษุสงฆ์และสามเณรไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดปัญหาการเป็นโรคตามมา จึงไม่สามารถดูแลรักษาได้ทันเวลา ตลอดทั้งความสะดวกในการเดินทางและไปรับการรักษา
ซึ่งต้องไปตรวจร่วมกับบุคคลทั่วไป อาจจะมองดูแล้วไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่กับสมณศักดิ์ผู้ถือศีล ทั้งนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว โรงพยาบาลสงฆ์ได้จัดทำโครงการพัฒนาสุขภาพพระภิกษุ-สามเณร จึงได้จัดตั้งศูนย์สุขภาพประจำวัด จำนวน 81 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานดูแลสุขภาพพระ โดยมีสถานพยาบาลเบื้องต้นเป็นศูนย์สุขภาพประจำวัด แบบปฐมภูมิ ซึ่งมีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ดำเนินโครงการพัฒนาศูนย์สุขภาพพระสงฆ์และสามเณรแบบองค์รวม และการมีส่วนร่วมตามโครงการจัดตั้งศูนย์สุขภาพประจำวัดสายสัมพันธ์ วัด-โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการประสานงาน ในการดูแลสุขภาพพระภิกษุและสามเณร ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้รับการส่งเสริมป้องกันและองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพตนเอง

​

ส่วนพระภิกษุสงฆ์หรือสามเณร ที่มีอาการป่วยจะต้องได้รับการรักษาดูแลเป็นประจำ จำเป็นต้องจัดระบบการดูแล มีสถานที่เหมาะภายในวัด เพื่อใช้เป็นสถานที่ดูแลสุขภาพพระภิกษุสงฆ์และสามเณรในขณะพักฟื้น
ดังนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้คัดเลือกวัดราชบูรณะ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดศูนย์สุขภาพประจำวัดสายสัมพันธ์วัด-โรงพยาบาล ขึ้นเป็นแห่งแรกของจังหวัดพิษณุโลก โดยมีพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาส ให้ความร่วมมือกับทางสำนักงานสาธารณสุข
โดยใช้สถานที่บนศาลาการเปรียญดำเนินการก่อสร้างห้องสำหรับการตรวจรักษาดูแล พระสงฆ์และสามเณรในเบื้องต้น ซึ่งจะมีพระภิกษุสงฆ์ที่ได้รับการอบรมดูแลการตรวจร่างกายหรือการรักษาเบื้อง ต้นตามหลักวิชาการ คอยดูแลรับการรักษาให้กับพระสงฆ์และสามเณรในพื้นที่
สำหรับโครงการเปิดศูนย์สุขภาพประจำวัดสายสัมพันธ์วัด-โรงพยาบาล โดยมีพระราชธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายนริศ ปิยพฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย น.ส.วไลพร ดิษฐ์ไชยวงศ์ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเปิดศูนย์ดังกล่าว ซึ่งทางนายนริศ ปิยพฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นเปิดเครื่องสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หลังจากนั้น พระราชธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ทำพิธีเจิมป้ายศูนย์สุขภาพฯ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ต่อมานายนริศ ปิยพฤทธิ์ เป็นประธานตัดริบบิ้นเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการ
ในอนาคตศูนย์สุขภาพประจำวัดสายสัมพันธ์วัด-โรงพยาบาล สถานที่ตั้งอยู่วัดราชบูรณะ จะใช้เป็นศูนย์ให้การดูแลพระสงฆ์และสามเณรในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อลดปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ โดยมีพระสงฆ์ไปรับการฝึกอบรมขั้นตอนการดูแลรักษาเบื้องต้น เพื่อนำความรู้มาใช้ในการดูแลพระสงฆ์และสามเณร ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ
ศูนย์แห่งนี้เปิดให้พระสงฆ์และสามเณรทุกวัด เข้ามารับการดูแลรับการรักษาสุขภาพทุกวันคาดว่า จะสามารถลดปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับพระสงฆ์และสามเณรได้ในระดับหนึ่ง

ผู้เขียน:
อนุชา แก้วคำมา


ที่มา:
ข่าวสด

เปิดศูนย์สุขภาพ "วัดราชบูรณะ" ดูแลพระอาพาธ-ในพิษณุโลก | phrathai.net

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=725 border=0><TBODY><TR><TD align=right>[SIZE=+3][/SIZE]
</TD></TR><TR><TD align=right>[SIZE=+2][/SIZE]</TD></TR><TR><TD align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=725 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=155><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=155 border=0><TBODY><TR><TD align=right width=130>[SIZE=-1]ความเปลี่ยนแปลง[/SIZE]</TD><TD align=right width=5></TD><TD vAlign=top width=2 bgColor=#e6e6fa rowSpan=9></TD><TD width=3></TD></TR><TR><TD align=right>[SIZE=-1]ด้วยความระลึกถึง[/SIZE]</TD><TD align=right> </TD><TD width=3> </TD></TR><TR><TD align=right>[SIZE=-1]ชีวิตและผลงาน[/SIZE]</TD><TD align=right> </TD><TD width=3> </TD></TR><TR><TD align=right bgColor=#e6e6fa>[SIZE=-1] ชีวิตกับความตาย[/SIZE]</TD><TD align=right bgColor=#e6e6fa> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD align=right>[SIZE=-1]สุขภาพกาย–จิต[/SIZE]</TD><TD align=right> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD align=right>[SIZE=-1]ศิลปะ–วัฒนธรรม[/SIZE]</TD><TD align=right> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD align=right>[SIZE=-1]กองทุนเครือมาศ
วุฒิการณ์[/SIZE]</TD><TD align=right> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD align=right>[SIZE=-1]จุดเชื่อมต่อ[/SIZE]</TD><TD align=right> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD align=right> </TD><TD align=right> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top>[SIZE=+2]
[/SIZE][SIZE=-1]อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข
ความประจวบสิ่งอันไม่เป็นที่รักเป็นทุกข์[/SIZE]
<!-- #BeginEditable "text" -->

[SIZE=+3][/SIZE]
ตัดตอนมาจาก วศิน อินทรสระ, พระอานนท์ พุทธอนุชา​

พระศาสดาเสด็จเข้าไปภายในกุฏิ ภาพที่ปรากฏ ณ เบื้องพระพักตร์ทำให้พระองค์สังเวชสุดประมาณ… ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในมัชฌิมวัย นอนนิ่งอยู่บนเตียงน้อย ร่างกายของท่านปรุพรุนไปด้วยรอยแผล มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มท่วมกาย เตียงและผ้าของภิกษุรูปนั้นแปดเปื้อนด้วยปุพโพโลหิตส่งกลิ่นคาวคลุ้ง ท่านนอนจมอยู่ในกองเลือดและหนอง ซึ่งแห้งกรังไปแล้วก็มี ที่กำลังไหลเยิ้มอยู่ก็มี เมื่อได้ยินเสียง ภิกษุรูปนั้นก็ลืมตาขึ้น ภาพพระศาสดาซึ่งประทับยืนอยู่ ณ ริมเตียงนั้น ทำให้ท่านมีอาการตะลึงจะยกมือขึ้นถวายความเคารพแต่ยกไม่ขึ้น เหลียวไปอีกด้านหนึ่งของเตียง ท่านได้เห็นพระพุทธอนุชายืนสงบนิ่ง อากาศเศร้าฉายออกมาทางดวงหน้าและแววตาของพระอานนท์ผู้ประเสริฐ และแล้วเมื่อเหลียวมาสบพระเนตร ซึ่งสาดแววแห่งพระมหากรุณาออกมาของพระศาสดาอีกครั้งหนึ่ง คราทีนั้น ความตื้นตันใจได้ท่วมท้นหทัยของพุทธสาวกจนเอ่อล้นออกมาทางดวงตาทั้งสอง แล้วค่อย ๆ ไหลซึมอาบแก้มซึ่งแห้งและตอบ เพราะอานุภาพแห่งโรคนั้น
"ดูก่อนติสสะ" พระศาสดาตรัส "เธอได้รับทุกขเวทนามากหรือ?"
"มากเหลือเกินพระเจ้าข้า เหมือนนอนอยู่ท่ามกลางหนาม" เสียงซึ่งแหบเครือผ่านลำคอของพระติสสะออกมาโดยยาก
"เธอไม่มีเพื่อนพรหมจารี หรือสหธัมมิก หรือลัทธิวิหาริกอันเตวาสิก คอยปฏิบัติช่วยเหลืออยู่บ้างเลยหรือ?"
"เคยมีพระเจ้าข้า แต่เวลานี้เขาทอดทิ้งข้าพระองค์ไปหมดแล้ว"
"ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น"
"เขาเบื่อพระเจ้าข้า เพราะข้าพระองค์ป่วยมานานและรักษาไม่หาย เขาเลยพากันทอดทิ้งข้าพระองค์ไป"
"อาการเริ่มแรกเป็นอย่างไรนะ ติสสะ?"
"แรกทีเดียว เป็นต่อมเล็ก ๆ ประมาณเท่าเมล็ดผักกาด ผุดขึ้นทั่วกายพระเจ้าข้า แล้วค่อย ๆ โตขึ้นตามลำดับ ๆ เท่าเมล็ดถั่วเขียว เท่ามะตูมและแล้วก็แตก น้ำเหลืองไหล สรีระทั้งสิ้นก็เป็นรูน้อยรูใหญ่ สบงและจีวรเปรอะไปด้วยเลือดและหนอง อย่างนี้แหละพระเจ้าข้า" ทูลได้เท่านี้ พระติสสะก็มีอาการหอบเล็กน้อย อ่อนเพลียไม่สามารถทูลต่อไปได้อีก
พระศาสดาและพระอานนท์เสด็จออกจากกุฏินั้นไปสู่โรงไฟ พระศาสดาทรงล้างหม้อน้ำด้วยพระองค์เอง พระอานนท์ติดไฟ เสร็จแล้ววางหม้อน้ำไว้บนเตา ทรงรอคอยจนน้ำเดือด แล้วเสด็จไปหามเตียงภิกษุไข้ พระองค์จับด้านหนึ่งและพระอานนท์จับอีกด้านหนึ่ง หามมาสู่เรือนไฟ ภิกษุหลายรูปเดินมาเห็นพระศาสดาทรงกระทำเช่นนั้นก็ช่วยเหลือคนละไม้คนละมือ ทรงให้เปลื้องผ้าของพระติสสะออกแล้วซักให้สะอาด อาบน้ำให้พระติสสะด้วยน้ำอุ่น ทรงชำระเรือนกายอันปรุพรุนด้วยพระองค์เอง พระอานนท์คอยช่วยเหลืออยู่อย่างใกล้ชิด เมื่อร่างกายนั้นสะอาดพอสมควรแล้ว และผ้าที่ซักไว้ก็พอนุ่งห่มได้เรียบร้อย ครั้นพระพุทธองค์ทรงเห็นสังขารของพระติสสะค่อยกระปรี้กระเปร่าขึ้นพอสมควรแล้ว จึงประทานพระโอวาทว่า
"ติสสะ! ร่างกายนี้ไม่นานนักดอก คงจักต้องนอนทับถมแผ่นดิน ร่างกายนี้เมื่อปราศจากวิญญาณครองแล้ว ก็ถูกทอดทิ้งเหมือนท่อนไม้ที่ไร้ค่า อันเขาทิ้งเสียแล้วอย่างไม่ไยดี
จงดูกายอันเปื่อยเน่านี้เถิด มันอาดูรไม่สะอาด มีสิ่งสกปรกไหลเข้าออกอยู่เสมอ ถึงกระนั้นก็ตามมันยังเป็นที่พอใจปรารถนายิ่งนักของคนผู้ไม่รู้ความจริงข้อนี้"
เมื่อพระศาสดาแสดงธรรมจบลง พระติสสะได้สำเร็จพระอรหัตผลพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา และเนื่องจากอาการป่วยหนักมาก ท่านไม่สามารถทนต่อไปได้อีก จึงนิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพาน พระศาสดาทรงให้กระทำฌาปนกิจ แล้วให้ก่อเจดีย์ขึ้นเพื่อบรรจุพระธาตุแห่งพระติสสะนั้น…
อีกครั้งหนึ่งพระพุทธองค์มีพระอานนท์เป็นปัจฉาสมณะ เสด็จไปตามเสนาสนะต่าง ๆ ทอดพระเนตรเห็นภิกษุอาพาธหนักรูปหนึ่ง นอนจมกองอุจจาระและปัสสาวะของตนอยู่ ภิกษุรูปนั้นป่วยเป็นโรคท้องร่วงไม่มีใครพยาบาลเลย ทั้งนี้เพราะเมื่อคราวท่านปกติดีอยู่ ท่านไม่เคยอุปการะใคร พระพุทธองค์อันพระมหากรุณาเตือนแล้ว ได้ให้พระอานนท์ไปนำน้ำมา พระองค์ราดรดลง พระอานนท์ขัดสี พระองค์ทรงยกศีรษะ พระอานนท์ยกเท้า แล้ววางไว้บนเตียงนอน ให้ฉันคิลานเภสัชเท่าที่พอจะหาได้
เย็นวันนั้นเองก็ทรงให้ประชุมสงฆ์ ปรารภข้อที่ภิกษุอาพาธไม่มีผู้พยาบาล ได้รับความลำบาก แล้วตรัสพระพุทธพจน์อันจับใจว่า
"ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอบัดนี้ไม่มีมารดาไม่มีบิดาแล้ว ถ้าพวกเธอไม่รักษาพยาบาลกันเอง ใครเล่าจะพยาบาล ภิกษุทั้งหลาย! ผู้ใดมีความประสงค์จะปฏิบัติบำรุงเรา ขอให้ผู้นั้นปฏิบัติบำรุงภิกษุอาพาธเถิด เท่ากับได้ปฏิบัติบำรุงเรา
ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อภิกษุอาพาธลง ภิกษุผู้เป็นศิษย์ พึงรักษาพยาบาลจนกว่าเธอจะหาย ถ้าศิษย์อาพาธลง อุปัชฌายะอาจารย์พึงทำเช่นเดียวกัน ภิกษุใดไม่ทำ ภิกษุนั้นย่อมเป็นอาบัติคือฝ่าฝืนระเบียบของเรา ถ้าอุปัชฌายะอาจารย์ไม่มี ให้ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะอาจารย์เดียวกันปฏิบัติ ถ้าไม่ทำย่อมเป็นอาบัติ อนึ่ง ถ้าภิกษุร่วมอุปัชฌายะอาจารย์เดียวกันไม่มี ให้เป็นหน้าที่ของสงฆ์ ที่จะพึงรักษาพยาบาลเธอจนกว่าจะหาย อย่าได้ทอดทิ้งเธอไว้เดียวดาย"

[SIZE=-1]"คนที่รักใคร่ ตายจากไปแล้ว ย่อมไม่ได้พบเห็นอีก
เหมือนคนตื่นขึ้นไม่เห็นสิ่งที่ได้พบในฝัน"[/SIZE]
[SIZE=-1]พระพุทธพจน์[/SIZE]
​

<!-- #EndEditable --></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=155> </TD><TD vAlign=top align=middle>

[SIZE=-1]ชีวิตกับความตาย > โศกอันเกษม > ภาคที่ ๑ > <!-- #BeginEditable "title" -->พระศาสดาพยาบาลภิกษุอาพาธ<!-- #EndEditable -->[/SIZE]​

<HR noShade SIZE=1>[SIZE=-1]ความเปลี่ยนแปลง | ด้วยความระลึกถึง | ชีวิตและผลงาน | ชีวิตกับความตาย | สุขภาพกาย–จิต
ศิลปะ–วัฒนธรรม | กองทุนเครือมาศ วุฒิการณ์ | จุดเชื่อมต่อ[/SIZE] <HR noShade SIZE=1>

[SIZE=-1]สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | Site Map[/SIZE]
[SIZE=-1]kruamas.org
e-mail : admin@kruamas.org
<!--Begin extreme --><SCRIPT language=javascript><!--an=navigator.appName;d=document;functionpr(){d.write("<img src=\"http://t0.extreme-dm.com","/0.gif?tag=kruamas&j=y&srw="+srw+"&srb="+srb+"&","rs="+r+"&l="+escape(d.referrer)+"\" height=1 ","width=1>");}srb="na";srw="na";//--></SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.2><!--s=screen;srw=s.width;an!="Netscape"?srb=s.colorDepth:srb=s.pixelDepth;//--></SCRIPT><SCRIPT language=javascript><!--r=41;d.images?r=d.im.width:z=0;pr();//--></SCRIPT> <NOSCRIPT></NOSCRIPT><!--End extreme --><!-- BEGIN D'STAT CODE V2.0--><SCRIPT language=javascript><!--Durl="http://stat.dserver.org/";Dstat="cgi-bin/stat.pl";Dview="cgi-bin/viewstat.pl";Dusr="kruamas";an=navigator.appName;s=screen;d=document;Dsrw=s.width;an!="Netscape"?Dsrb=s.colorDepthsrb=s.pixelDepthDre=document.referrer;d.write('');d.write('');//--></SCRIPT> <NOSCRIPT></NOSCRIPT><!-- END D'STAT CODE --><!--BEGIN WEB STAT CODE----><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://truehits2.gits.net.th/data/d0006561.js"></SCRIPT> <!--END WEB STAT CODE---->[/SIZE]​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

การบริจาคเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
<TABLE borderColor=#eeeeee cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center border=0><FORM name=form1><TBODY><TR><TD align=middle>โครงการ </TD><TD><SELECT onchange="javascript:if(document.form1.sc.value==200){}else{document.location='moneydonate_internet.php?sc='+document.form1.sc.value+'&insertflag=1&sid=a21c183ac7032d3e5a3c37251e65c706' ;}" name=sc> <OPTION value=200>เลือกโครงการ</OPTION> <OPTION value=0000>บำรุงสภากาชาดไทย</OPTION> <OPTION value=0001>โครงการค่ายา</OPTION> <OPTION value=0002>โครงการค่าอาหาร</OPTION> <OPTION value=0003 selected>โครงการพระอาพาธ</OPTION> <OPTION value=0004>โครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์</OPTION> <OPTION value=0005>โครงการจัดซื้ออุปกรณ์การให้โลหิต</OPTION> <OPTION value=0006>โครงการสร้างอาคารทางการแพทย์</OPTION> <OPTION value=0007>โครงการศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์</OPTION> <OPTION value=0008>หน่วยแพทย์คืนเสียงสู่โสต (สำนักงานบรรเเทาทุกข์ฯ)</OPTION> <OPTION value=0009>โครงการแว่นสายตาสภากาชาดไทยเพื่อเด็กนักเรียนในชนบท(สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ))</OPTION> <OPTION value=0010>หน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรม สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี(สำนักงานบรรเทาทุกข์) )</OPTION> <OPTION value=0011>โครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไข ปากแหว่ง เพดานโหว่ และความพิการอื่น(สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ)</OPTION> <OPTION value=0012>บรรเทาทุกข์ผู้ประสบสาธารณภัย (สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ)</OPTION> <OPTION value=0013>สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ</OPTION> <OPTION value=0014>เบ็ดเตล็ดบำรุงสำนักงานอาสากาชาด</OPTION> <OPTION value=0015>โครงการอาสากาชาดฟื้นฟูสุขภาพถึงบ้าน(Home Care)</OPTION> <OPTION value=0016>โครงการรณรงค์ขจัดโรคขาดสารอาหารไอโอดีน</OPTION> <OPTION value=0017>โครงการอาสากาชาดร่วมใจช่วยเด็กไทยในถิ่นทุรกันดาร</OPTION> <OPTION value=0018>โครงการอาสากาชาดนักเรียนแกนนำต้านภัยยาเสพติด</OPTION> <OPTION value=0019>โครงการบำรุงใจและปลอบขวัญเด็กผู้ด้อยโอกาส</OPTION> <OPTION value=0020>โครงการอาสากาชาดรณรงค์ต้านภัยบุหรี่</OPTION> <OPTION value=0021>บัญชีเงินฝากพิเศษประเภท 3</OPTION> <OPTION value=0022>เงินบริจาคโครงการอาสา"เพื่อนพึ่ง (ภาฯ)ยามยาก"</OPTION> <OPTION value=0023>ร่วมบุญ(ข)</OPTION> <OPTION value=0024>โชคชัยปัญจทรัพย์(ข)</OPTION> <OPTION value=0025>ท่านผู้หญิงโพยมเสนีณรงค์ฤทธิ์(ข)</OPTION> <OPTION value=0026>วันสุทธาสา กองอาสากาชาด 2 (ข)</OPTION> <OPTION value=0027>อาสาสงเคราะห์(ก)</OPTION> <OPTION value=0028>อาสากาชาดเฉลิมพระเกียรติ 72</OPTION> <OPTION value=0029>โครงการบริจาค "ช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก" สภากาชาดไทย</OPTION> <OPTION value=0030>กองทุนพระวรราชาทินัดดามาตุ เพื่อช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก สภากาชาดไทย</OPTION> <OPTION value=0031>กองทุนนมสำหรับเด็กในโครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก สภากาชาดไทย</OPTION> <OPTION value=0032>กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุ สำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ สภากาชาดไทย</OPTION> <OPTION value=0033>โครงการรณรงค์ในการขอบริจาคดวงตาในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์</OPTION> <OPTION value=0035>ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร (สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ)</OPTION> <OPTION value=0036>ช่วยเหลือผู้ประสบภาวะอากาศหนาวเย็น (สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ)</OPTION> <OPTION value=0038>โครงการชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทย บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย (สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ)</OPTION> <OPTION value=0040>หน่วยแพทย์ศัลยกรรม หู คอ จมูก(สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ)</OPTION> <OPTION value=0041>โครงการกองทุนก้าวหน้า 112 ปี สภากาชาดไทย (สำนักงานจัดหารายได้)</OPTION> <OPTION value=0045>บำรุงศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย</OPTION> <OPTION value=0046>โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย</OPTION></SELECT> </TD></TR></FORM><TR><TD colSpan=2><FORM name=form2 action=moneydonate_internet.php method=post><CENTER>บริจาคเงินสมทบโครงการ "โครงการพระอาพาธ"</CENTER>เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสำหรับพระอาพาธ <CENTER>[ รายละเอียด -> ]</CENTER>

<CENTER>บริจาคเงินจำนวน <INPUT size=50 name=fmoney> บาท</CENTER><!-- <select name=fcurrency> <option value="THB" selected>บาท(Baht)</option> <option value="USD">USD</option> </select> --><INPUT type=hidden value=THB name=fcurrency> <INPUT type=hidden value=0003 name=sc> <INPUT type=hidden value=a21c183ac7032d3e5a3c37251e65c706 name=sid> <INPUT type=hidden value=1 name=flag> <CENTER><INPUT onclick=Checkempty2(); type=button value=" บันทึกรายการบริจาค " name=nextprocess></CENTER></FORM></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

.ซี.ซี.มอบรายได้การจัดมินิมาราธอนเฉลิมพระเกียรติ ฯ
อ, 21/12/2010 - 10:45 | sermsak_d

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">พุทธบูชาคลินิก

ด้วยพุทธานุภาพของธรรมะ และความเมตตาของหลวงพ่อเมือง แห่งวัดมัชฌิมวาส หรือวัดหลวงพ่อเมือง แห่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อให้เกิดพุทธบูชาคลินิก ซึ่งเป็นคลินิกที่ให้การรักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ และสามเณรที่จำพรรษาที่วัดมัชฌิมวาส และวัดอื่นๆ ทั้งในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียง โดยในอาคารอเนกประสงค์ขนาดความกว้าง 13.7 ม. ยาว 40 ม. มีห้องตรวจรักษาฟัน 5 ห้อง ห้องตรวจรักษาโรคทั่วไป 5 ห้อง ห้องผ่าตัดเล็ก 1 ห้อง ห้องจ่ายยา 1 ห้อง ห้องตรวจโรค 1 ห้อง ดำเนินการเพื่อการกุศล ไม่ได้หวังผลกำไร เป็นการให้ทานอันเป็นธรรมขั้นพื้นฐานอันสำคัญยิ่งของพุทธศาสนิกชน เป็นการฝึกฝนและพัฒนาตนเองเพื่อการปลุกจิตสำนึก สาธารณะ ความรับผิดชอบต่อสังคม การเสียสละโดยปราศจากสิ่งตอบแทน อันจะนำไปสู่สังคมที่สงบสุข มีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกันด้วย

สำหรับ พื้นที่บริเวณวัดเป็นสถานที่ร่มรื่น ร่มเย็น มีองค์พระพุทธรูปและวัตถุเก่าแก่ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนไปกราบไหว้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม สะอาด มีสัตว์ป่าขนาดเล็กอาศัยอยู่กับวัดอย่างมีความสุข เช่น ไก่ป่า ไก่แจ้ กระรอก นกยูง ปลานานาชนิด ในวัดมีโรงอาหารเพื่อจัดเป็นโรงทาน มีกุฏิตั้งสอดแทรกไปตามป่าสวยงาม มีพระวิหารตั้งอยู่กลางน้ำสวยงาม ทุก ๆ วันจะมีประชาชนหลั่งไหลเข้ากราบไหว้เยี่ยมชมตลอดจนเข้ารักษาโรคภัยไข้เจ็บ จากคุณหมอและพยาบาลชื่อดังทั่วประเทศ อย่างเป็นกันเองและมีความสุข ถ้าผู้ป่วยหนักก็ได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นำโดย นพ. สมอาจ ตั้งเจริญ รอง ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์, นางนวลจันทร์ พูลสมบัติ รอง ผอ. ฝ่ายพยาบาล, อุดร ผิวขาว รอง ผอ.ฝ่ายบริหาร และ รพ. ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาติดต่อร่วมบริจาคเป็นค่าเวชภัณฑ์สำหรับพระภิกษุ สามเณร และผู้ยากไร้ที่มารับการรักษาวันละไม่ต่ำกว่า 50 คน ( ในวันที่มีการตรวจตาจะมีคนไข้มากกว่า 100 คนขึ้นไป ) ที่ “พุทธบูชาคลินิก” ได้ที่ วัดป่ามัชฌิมวาส บ้านดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมือง โทร. 08-1612-2020 ( นพ. ผู้ก่อตั้งโครงการ ), 08- 1954-3459 ( เบอร์วัดป่ามัชฌิมวาส ) หรือ
โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์
ธนาคารกสิกรไทย สาขากาฬสินธุ์
ชื่อบัญชี “วัดป่ามัชฌิมวาส (พุทธบูชาคลินิก) "
เลขที่บัญชี 130-2-57278-6
</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%">พุทธบูชาคลินิกช่วยเหลือพระที่อาพาธ</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอเชิญร่วมบริจาคสร้างตึกสงฆ์อาพาธ 80 ปี พระมงคลกิตติธาดา และจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์

 

โครงการพัฒนาระบบการให้ข้อมูลแก่พระภิกษุสงฆ์อาพาธfficeffice" /><O></O>


<O></O>​

1. ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาระบบการให้ข้อมูลแก่พระภิกษุสงฆ์อาพาธ<O></O>
2. หน่วยงาน/ผู้รับผิดชอบ ตึกสงฆ์อาพาธ (อาคาร 7 บน)<O></O>
3. การตองสนองต่อยุทธศาสตร์ของโรงพยาบาล ข้อที่ 2เรื่อง พัฒนาคลินิกบริการผลิตภัณฑ์สุขภาพและศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก<O></O>
4. การตองสนองต่อยุทธศาสตร์ของกลุ่มการพยาบาล ข้อที่ 2เรื่อง พัฒนาระบบบริการพยาบาลสู่ความเป็นเลิศ เป็นการใช้ความรู้เป็นฐานการตัดสินใจ<O></O>
5. ความเป็นมา<O></O>
ทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ องค์กรที่มีการพัฒนาก็เกิดจากบุคลากรในองค์กร พัฒนาตนเองตลอดเวลา โรงพยาบาลสุรินทร์เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่<O></O>
ดูแลสุขภาพประชาชน ในจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักๆ คือ งานบริการ และที่สำคัญ อาคาร 7 บน เป็นหอผู้ป่วยสงฆ์อาพาธ ให้บริการผู้ป่วยพระภิกษุสงฆ์ที่ได้รับความเจ็บป่วยจึงจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ ซึ่งปัญหาที่พบในพระภิกษุสงฆ์อาพาธเกี่ยวกับความรู้แรกรับในการปฏิบัติตัวเมื่อมานอนพักรักษา<O></O>
ดังนั้นการให้ความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวแรกรับ อาทิ คำแนะนำแรกรับเกี่ยวกับ อุปกรณ์/สถานที่ ระเบียบการเยี่ยม การลงนามยินยอมในการรักษา การเก็บของมีค่าหรือเงิน รวมทั้งสิทธิบัตรจะช่วยให้ผู้ป่วยและญาติเกิดความพึงพอใจและลดการเกิดข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการบริการได้ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมในพระภิกษุสงฆ์อาพาธแรกรับ จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยพระภิกษุสงฆ์อาพาธทุกรายที่มานอนพักรักษาในอาคาร 7 บน<O></O>
6. วัตถุประสงค์<O></O>
พระภิกษุสงฆ์อาพาธได้รับข้อมูลความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวแรกรับทุกราย<O></O>
7. กลุ่มเป้าหมาย<O></O>
พระภิกษุสงฆ์อาพาธทุกราย<O></O>
8. วิธี/ระยะเวลาดำเนินการ<O></O>
ปีงบประมาณ 2552 ( ตุลาคม 2551- กันยายน 2552)<O></O>
ขั้นเตรียมการ

1.ประชุมเจ้าหน้าที่ในอาคาร 7 บน เพื่อวางแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน<O></O>
2. เตรียมแผ่นพับ วีดีทัศน์ <O></O>
ขั้นดำเนินการ<O></O>
1.ให้ข้อมูลผู้ป่วยและญาติทุกรายโดยการ<O></O>
- แจกเอกสาร แผ่นพับ เรื่องคำแนะนำแรกรับ<O></O>
- ให้ดูวีดิทัศน์เรื่องการปฏิบัติตัวแรกรับ<O></O>
2. เปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัย<O></O>
ขั้นประเมินผล<O></O>
1.ให้ผู้ป่วยตอบแบบประเมินผลและใช้วิธีสอบถามให้ตอบตามความเข้าใจ<O></O>
9. งบประมาณ <O></O>
แผ่นพับและวีดิทัศน์ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลสุรินทร์<O></O>
10. เครื่องชี้วัดผลสำเร็จของโครงการ<O></O>
8.1 อัตราความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการได้รับข้อมูล ≥ 80 %<O></O>
8.2 ไม่พบอุบัติการณ์การร้องเรียน<O></O>
11. ผลที่คาดว่าจะได้รับ<O></O>
พระภิกษุสงฆ์อาพาธได้รับข้อมูลแรกรับทุกราย<O></O>
12. ผู้เขียนโครงการ<O></O>
12.1 นางบานเย็น เจนขนบ พยาบาลวิชาชีพ 6 <O></O>
12.2 นางสาวจุฑาวดี บรรจุงาม พยาบาลวิชาชีพ 6 <O></O>

ผู้เสนอโครงการ<O> </O>​

(นางวัชชรีภรณ์ รัตรสาร)<O></O>​

ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ 7 <O></O>​

หัวหน้าหอผู้ป่วยตึกสงฆ์อาพาธ<O></O>​

ผู้เห็นชอบโครงการ ผู้เห็นชอบโครงการ
(นางยุวรรณา หวังกีรติกานต์) (นางสาวพรเพ็ญ ฐิติสมบูรณ์)<O></O>
หัวหน้ากลุ่มหอผู้ป่วยศัลยกรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล<O></O>
ผู้อนุมัติโครงการ<O></O>
<O> </O>

(นายธงชัย ตรีวิบูลย์วณิชย์)<O></O>​

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์<O></O>​

 

ปางที่ ๔๘
ปางประทานพร
​

​

http://www.watdo.de/Thai/Menue_Thai/fame/phra_66/048.html​

 

<TABLE width="80%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc>

๔๘. ปางประทานพร
พระพุทธรูปปางนี้มี ๒ แบบคือแบบหนึ่งอยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ และพระหัตถ์ซ้าย วางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาแบฝ่าพระหัตถ์ ยื่นออกไปวางที่พระชานุ
อีกแบบหนึ่งอยู่ในพระอิรยาบถยืน ยกพระหัตถ์ซ้ายขึ้นเสมอพระอุระหงายพระหัตถ์ออกไปข้างนอกบ้าง ยกขึ้นเสมอพระอังสา ถือชายจีวรบ้าง พระหัตถ์ขวาห้อย หันฝ่าพระหัตถ์ออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาประทาน
แบบนั่งสมกับเรื่อง จึงอยู่ในความนิยมของการสร้าง



พระพุทธรูปปางนี้ มีตำนานดังนี้

พระพุทธรูปปางประทานพรนี้ มีเรื่องที่ทรงประทานพรอันควรจะยกขึ้นบรรยายถึง ๓ เรื่องคือ :-

1. เรื่องประทานพรแก่หมอชีวกโกมารภัจจ์
2. เรื่องประทานพรแก่นางวิสาขามหาอุบาสิกา
3. เรื่องประทานพรแก่พระอานนท์พุทธอุปัฏฐาก

จะขอเล่าเรื่องประทานพร แก่นางวิสาขามหาอุบาสิกา เพียงเรื่องเดียว ซึ่งมีตำนานดังนี้ :-
ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จจาริกไปแสดงธรรมสั่งสอนพุทธเวไนย ณ พระนครพาราณสี ครั้นใกล้เทศกาลเข้าพรรษา จึงเสด็จพระพุทธดำเนิน มาพระนครสาวัตถี พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก เสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี
เมื่อนางวิสาขามหาอุบาสิกา ได้ทราบข่าวก็ดีใจ รีบไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ พระเชตะวันมหาวิหารนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงประทานธรรม มีกถา ให้นางวิสาขาซาบซึ้งในธรรม น้อมรับเอาข้อปฏิบัติ มีความอาจหาญร่าเริงในธรรม เมื่อสิ้นสุดกระแสพระโอวาทแล้ว นางวิสาขา ได้กราบทูลอาราธนา พระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยพระสงฆ์ ขอให้ทรงพระกรุณาเสด็จไปรับภัตตาหารยังนิเวศน์ของท่านในวันรุ่งขึ้น
ครั้นนางวิสาขามหาอุบาสิกา ทราบว่าพระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนา ก็ดีใจถวายบังคมลา ทำประทักษิณ พระผู้มีพระภาคแล้วกลับไป
รุ่งขึ้นเช้าฝนตกหนัก ท้องฟ้ามืดมัวไปทั่วทุกทิศ พระผุ้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ฝนตกที่พระเชตะวันวิหารวันนี้ ไม่น้อยกว่าตกในที่อื่นทั่วๆไป ฉะนั้นพวกเธอควรอาบน้ำฝนกันเสีย เพราฝนห่านี้ จะเป็นห่าสุดท้ายของมหาเมฆที่ตั้งขึ้นในเช้าวันนี้
ภิกษุทั้งหลายรับสนองพระบัญชาแล้ว ก็พากันออกมาเปลื้องจีวรสบงออก ใช้ชุดวันเกิดสรงน้ำฝนกันกลางแจ้ง อย่างชื่นอกชื่นใจ ด้วยในเวลานั้นสงฆ์ยังไม่มีผ้าอาบน้ำฝน เพราะยงไม่มีพุทธบัญญัติ ให้พระสงฆ์มีผ้าอาบน้ำฝนใช้
ในเวลาเช้าก่อนฝนตกที่นิเวศน์ของนางวิสาขา ได้จดแจงแต่งขาทนียะโภชนียาหาร อันประณีตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านวิสาขา จึงสั่งจริยาหญิงสาวใช้ต้นห้องว่า จริยาเธอจงรีบออกไปที่พระเชตะวันวิหาร เผดียงพระสงฆ์ว่า ท่านเจ้าขา ! ได้เวลาแล้วเจ้าข้า อาหารสำเร็๗แล้วเจ้าข้า
จริยาหญิงต้นห้องของนางวิสาขา รับคำสั่งแล้วรีบกระวีกระวาดออกไปยังพระวิหาร ด้วยเห็นฝนตั้งเค้าใหญ่มืดไปหมดทุกทิศ ตั้งใจจะไปให้ถึงพระอารามก่อนฝนตก แม้นางจะรีบสาวเท้าเท่าใด ก็หาทันรอดสายฝนที่กระหน่ำลงมาจั๊กๆไม่ แต่เคราะห์ดีที่บังเอิยได้อาศัย ซุ้มประตูพระอารามหลบฝนที่เทลงมา อย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น พอหนักเป็นเบา เพื่อรอเวลาฝนขาดเม็ด จะได้เข้าไปในพระวิหาร แต่ฝนก็ไม่หยุดสักที จริยาเดินวนเวียนอยู่ที่ซุ้มประตูจนรำคาญ จึงได้โผล่ศีรษะ เข้าไปภายใน ใช้สายตากวาดมองดูทั่วๆไปที่ลานวัด
ทันใดนั้น จริยาก็ได้เห็นพระภิกษุอาบน้ำฝนกันเป็นอันมาก อยู่ในรูปลักษณะที่นางไม่เคยคิดฝันว่าจะเห็นหรือจะเป้นไปได้เช่นนั้น ก็ตกใจถึงสะดุ้ง ถอยหลังหดตัวเข้าบังอยู่ในความหนาของผนังซุ้มประตู บ่นอยู่ในลำคอว่า “แหม ! ผิดถนัด เจ้าแม่วิสาขา ทราบจากใครมาว่า พระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระสงฆ์อยู่ที่วัด เราก็พลอยดีใจว่า เป็นโชคดีของตัวที่ได้โอกาสเข้าเฝ้าถวายบังคม พระยุคลบาทในวันนี้ด้วย แท้ก็พวกชีเปลือยทั้งเพ ประเดกันเข้ามาหลบเล่นน้ำฝน อยู่ในลานวัด ต๊าย ! ตาย น่าบัดสีเสียจริงๆ เดชะบุญที่เราไม่ทันถลันแล่นเข้าไปในลานวัด และเป็นเคราะห์ดีที่พระพิรุณกระหน่ำลงมาห้ามมิให้เราเข้าไป หาไม่จะอัปรีย์กินตัวไม่น้อยทีเดียว จริยาร้อนใจ มิทันจะรอให้ฝนขาดเม็ด รีบเดินกรำฝนกลับบ้าน เข้ารายงานนางวิสาขา
“เจ้าแม่ค๊ะ ที่พระเชตะวัน ไม่มีพระดอกเจ้าค่ะ”
“ไม่มีพระ” ท่านวิสาขาทวนคำด้วยความประหลาดใจ
“ ค่ะ ไม่มีพระค่ะ” ต้นห้องเรียนย้ำอีก
“นางวิสาขา กล่าวด้วยความไม่พอใจว่ “พระไม่มีสักองค์เดียวเจียวรึจริยา”
“เจ้าค่ะ” จริยายืนยัน “แม้แต่องค์เดียวก็ไม่มีเจ้าค่ะ”
“อืม์” ท่านวิสาขาครางออกมาด้วยความสนเทห์ ที่ผิดความตั้งใจ แล้วถามเพื่อค้นหาความจริงต่อไปอีกว่า “ จริยา ที่วัดอนาถบิณฑิกะน่ะ! ว่างผู้ว่างคน เอาเทียวหรือ”
“ คนแยะค่ะ เจ้าแม่ แต่ไม่ใช่พระที่เจ้าแม่ต้องการ มีแต่ชีเปลือย พากันชื่นใจอยู่กับน้ำฝน เต็มวัดเต็มวาไปหมด” จริยาเบิกตาพูดแสดงว่าไปตกใจมา ที่ได้พบเห็นเช่นนั้น
นางวิสาขางงงัน ในถ้อยคำของต้นห้องมาก จึงถามติดไปว่า จริยาไปพบเห็นชีเปลือยเหล่านั้นอย่างไร ไหนเล่าให้ฉันฟังถี”
จริยาได้เล่าถึงพฤติการณ์ ที่ตนไปเห็นมา ให้นางวิสาขาฟังจนตลอด
อาศัยที่นางวิสาขา เป็นสตรีมีปัญญา ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างดี ดำรงอยู่ในพระอริยผลชั้นพระโสดาบัน เป็นมหาอุบาสิกา รอบรู้ในพระพุทธศาสนา ดังนั้น เมื่อจริยาหญิงต้นห้องของท่าน เล่าจบลงความจริงของเรื่อง ก็ประจักษ์แก่ท่านโดยแจ่มแจ้ง ครั้นท่านนิ่งรำพึงอยู่ด้วยกุศลจิตสักครู่ ใบหน้าท่านก็สดชื่นดีใจว่า เป็นโชคดีของท่านที่จะได้โอกาสบำเพ็ญกุศล เป็นพิเศษในวันนี้ ครั้นแล้ว ท่านก็ปราศรัยกะต้นห้องของท่านว่า “จริยาขอบใจเธอน๊ะ ที่อุตสาห์รีบกรำฝนมาบอก จนผ้าชุ่มไปด้วยน้ำ นี่ฝนก็หายแล้ว ฉันของให้เธอเปลี่ยนผ้าเสีย แล้ว กลับไปวัดพระเชตะวันอีกสักเที่ยว เชื่อว่าพวกชีเปลือย ที่เธอพบเห็นเหล่านั้น คงจะออกจากวัดไปหมดแล้ว เธอคงจะไม่ได้เห็นสภาพที่น่าทุเรศเช่นนั้นอีกเป็นแน่ และคงจะได้พบพระตามที่ฉันมุ่งหมาย รีบไปหน่อยนะจริยา เวลาจะสาย”
จริยาหญิงสาวใช้ รับคำนายหญิงโดยเคารพแล้ว รีบออกจากบ้านมุ่งหน้าไปวัดพระเชตะวันทันที
เนื่องจากเช้าวันนั้นฝนตกมาก น้ำไหลนองไปทั่ว ลางแห่งน้ำท่วมลึกถึงเข่าถึงสะเอว ยากแก่การเดินทางไปมาในที่ไหนๆทั้งสิ้น แต่ก็หาเป็นข้อขัดข้อง หรือเป็นภัยแก่การเดินทางของท่านผู้ทรงอภิญญาแต่ประการใด
ฉะนั้น ก่อนเวลาที่หญิงสาวใช้ของท่านวิสาขา จะไปถึงพระเชตวันวิหาร และเมื่อเป็นกาลอันสมควร ที่พระศาสดา และพระสงฆ์จะเสด็จไปยังนิเวศน์ท่านวิสาขาแล้ว พระผู้มีพระภาค จึงรับสั่ง ให้พระสงฆ์ ทั้งหมด เตรียมบาตรจีวร เพื่อเดินทางไปยังนิเวศน์ของท่านวิสาขาพร้อมกัน เมื่อทรงเห็นพระสงฆ์มาพร้อมกันแล้ว ก็ทรงปาฏิหาริย์นำพระสงฆ์หายจากเชตะวัน ไปปรากฏพระกายที่ซุ้มประตูเรือนท่านวิสาขาโดยฉับพลัน เหมือนบุรุษที่มีกำลัง งอแขนเข้า เหยียดแขนออกได้ทันใจ นึกฉะนั้น แล้วเสด็จขึ้นประทับบนพุทธอาสน์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ โดยความเรียบร้อยทุกประการ
ท่านวิสาขา รู้สึกอัศจรรย์ใจมาก ตื่นเต้นในเหตุการณ์ที่ได้ประสบอย่างไม่เคยนึกเคยฝัน ด้วยแทนที่จะได้ฟังรายงานจากจริยาหญิงสาวใช้ของท่านว่า พระสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จมาแล้ว ก่อนที่พระสัมพุทธเจ้าจะเสด็จถึงเรือน แต่กลับปรากฏแก่นัยน์ตาของท่านในบัดนี้ว่า พระสัมพุทะเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์ได้เสด็จถึงเรือนก่อนคนใช้ที่ให้ไปเผดียงเสียอีก จึงได้ประกาศความยินดีแก่บรรดาบริษัทบริวารในบ้าน ที่มาประชุมกันช่วยเลี้ยงพระอยู่พร้อมหน้าว่า น่าอัศจรรย์ไหม พวกเรา น่าอัศจรรย์ซีน๊ะ น่าอัศจรรย์มากทีเดียว มากอย่างคาดไม่ถึง พระตถาคตเจ้าทรงมีฤทธิ์มากทรงมีอานุภาพมาก ดูซิ ! กระน้ำจากฝนตกเมื่อสักครู่นี้ ไหลนองไปทุกหนทุกแห่ง ลางแห่ง ลุ่มลึกเพียงเข่า เพียงสะเอว การเสด็จมาจะต้องลำบาก จะต้องช้า จะต้องเปียก แต่พระตถาคตเจ้า ผู้ทรงอานุภาพเป็นที่อัศจรรย์ ทรงพาพระสงฆ์ เสด็จมาได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว จีวรก็ไม่เปียกน้ำ ที่สุดแม้พระบาทก็ไม่เปรอะเปื้อน หรือเปียกด้วยน้ำ ตามระยะทาง ที่ต้องเสด็จดำเนิน ลุยมาแต่ประการใด เป็นที่อัศจรรย์จริงๆ ไม่น่า จะเป็นได้เลย

ครั้นท่านวิสาขา ได้ประกาศความยินดี ให้บริษัทบริวาร เกิดความปิติยินดี เบิกบานใจทั่วกันแล้ว ก็อังคาสพระบรมศาสดา และพระสงฆ์ สาวกด้วยขาทนียะ โภชนียาหาร อันประณีต ด้วยมือของตนเอง ด้วยความเคารพ อย่างยิ่ง เมื่อพระบรมศาสดา พร้อมด้วยพระสงฆ์ วางพระหัตถ์จากบาตร แสดงว่า ทรงอิ่มหนำสำราญแล้ว ท่านวิสาขามหาอุบาสิกา จึงได้เข้าเฝ้ากราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันขอประทานพร ๘ ประการพระเจ้าข้า

1. ตถาคตเลิกให้พรเสียแล้วนี่ วิสาขา

วิ. หม่อมฉันจะขอประทานแต่พรที่สมควรและไม่มีโทษแต่ประการใดๆเลยพระเจ้าข้า ภ. ไหน วิสาขา จงบอกไปก่อน พระศาสดาทรงรับสั่ง “ เธอต้องการพระอะไร”
วิ. พระเจ้าข้า พรของหม่อมฉันที่ขอประทานแทบฝ่าพระยุคลบาทก็เพื่อความงามและความสุขสำหรับพระสงฆ์
พรที่ ๑ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายวัสสิกสาฏก ผ้าอาบน้ำฝน
พรที่ ๒ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายอาคันตุกภัตร อาหารสำหรับพระต่างถิ่นที่จรมา
พรที่ ๓ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายคมิกภัตร อาหารสำหรับพระเตรียมจะเดินทางไกล
พรที่ ๔ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายคิลานภัตร อาหารสำหรับพระอาพาธ
พรที่ ๕ ขอให้หม่อมฉัน ได้ถวายคิลานภัตร อาหารสำหรับพระอาพาธ
พรที่ ๖ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายคิลานเภสัช ยาสำหรับพระอาพาธ
พรที่ ๗ ขอให้หม่อมฉัน ได้ถวายธุวยยาคู ยาคูประจำ
พรที่ ๘ สำหรับภิกษุณีสงฆ์ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายอุทสกสาฏก ผ้าผลัดอาบน้ำจนตลอดชีวิต
พระศาสดาทรงรับสั่งว่า “ วิสาขา เธอเห็นประโยชน์อะไร ในพร ๘ ประการที่ขอมานั้น
วิ. “เห็นประโยชน์มากพระเจ้าข้า” ท่านวิสาขากราบทูล
พรที่ ๑ ที่หม่อมฉันขอประทานนั้น มีสาเหตุที่สมควรให้หม่อมฉันขอประทาน ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้เอง ก่อนเวลาที่พระองค์พร้อมด้วยพระสงฆ์จะเสด็จมาเรือนของหม่อมฉัน คือพอหม่อมฉัน สั่งให้จัดอาหาร เพื่ออังคาสพระยุคลบาท พร้อมด้วยพระสงฆ์เสร็จเรียยร้อยแล้ว ก็สั่งหญิงรับใช้ของหม่อมฉัน ให้รีบออกไปยังพระ เชตะวันวิหาร เพื่อทูลอัญเชิญเสด็จ หญิงรับใฃ้ของหม่อมฉัน ได้เห็นพระสงฆ์ทั้งหมดเปลือยกายอาบน้ำฝนกันที่ลานวัด ทำให้เธอเข้าใจผิดคิดไปว่า ไม่มีพระในวัด มีแต่พวกชีเปลือย พากันหลบเข้ามาเล่นน้ำฝนในวัด พระเจ้าข้า ความเปลือยกาย เป็นสิ่งไม่ดีงาม น่าเกลียด น่าชัง ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส หม่อมฉันเห็นประโยชน์อย่างนี้ จึงขอประทานพรที่ ๑ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายวัสสิกสาฏก ผ้าอาบน้ำฝน แก่พระสงฆ์ตลอดชีวิต ขอให้พระสงฆ์ได้มีผ้าอาบใช้เพิ่มบริขารอีกสักอย่างหนึ่งเถิด พระเจ้าข้า
พรที่ ๒ หม่อมฉันเห็นบรรดาพระอาคันตุกะ ทีเดินทางมาจากต่างถิ่น เข้ามาพำนักอยู่ในพระนคร เพื่อเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค เนื่องจากท่านเป็นคนใหม่ต่อสถานที่ ไม่ชำนาญทาง ไม่รู้จักที่ควรไปและไม่ควรไป เที่ยวบิณฑบาตไม่ได้ ย่อมลำบากด้วยอาหาร อยู่ในสภาพที่น่าสงสาร ไม่เป็นความผาสุขแก่การตั้งใจมาเฝ้าพระองค์ด้วยกุศลจิตเลยพระเจ้าข้า หม่อมฉันเห็นว่าพระอาคันตุกะเหล่านั้น จะได้ฉันอาคันตุกภัตต์ ของหม่อมฉัน ในระยะแรก ทีเพิ่งเข้ามา พำนักอยู่ พอหรู้จักทางที่ควรไป และไม่ควรไป สะดวกแก่การเที่ยวบิณฑบาต สักระยะหนึ่งก่อน หม่อมฉัน เห็นประโยชน์อย่างนี้ จึงขอประทานพรที่ ๒ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายอาคันตุกภัตต์ แก่พระสงฆ์ตลอดชีวิต ขอให้พระอาคันตุกะได้ฉันอาคันตุกภัตต์ อาหารสำหรับพระต่างถิ่นที่จรมา พอได้มีเวลาศึกษาหาความรู้ ลู่ทางเที่ยวบิณฑบาต ชั่วระยะเวลาหนึ่งเถิด พระเจ้าข้า
พรที่ ๓ หม่อมฉันได้เห็นพระที่เตรียมตัว จะเดินทางไกลไปทางถิ่น โดยต้องอาศัยเรือเดินทางก็ดี หมู่เกวียนก็ดี ซึ่งล้วนแต่มีกำหนดเวลาออก หรือสถานที่ ที่จะเดินไปอยู่ในเวลาจำกัดไม่พลบค่ำ เมื่อพระที่เตรียมตัวจะไป มัวไปเที่ยว บิณฑบาตเสีย ย่อมพลาดเรือ พลาดเกวียน เพราะกลับมาไม่ทันกำหนด หรือไปพลบค่ำตามทาง ย่อมลำบาก อยู่ในสภาพที่น่าสงสาร หม่อมฉันเห็นว่าพระที่เตรียมตัว จะเดินทางไกลเช่นนั้น ควรจะได้รับอนุเคราะห์ ถ้าท่านได้ฉันคมิกภัตต์อาหาร สำหรับพระเดินทางไกล ที่หม่อมฉันจัดถวาย โดยไม่ต้องไปเที่ยวบิณฑบาต สัก ๑ เวลา ท่านก็จะได้ความสะดวกในการเดินทาง ไม่พลาดเรือ พลาดเกวียน ไม่ผิดเวลาที่มุ่งหมาย จะเป็นความผาสุกแก่ท่านหม่อมฉัน เห็นประโยชน์อย่างนี้ จึงขอประทานพรที่ ๓ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายคมิกภัตต์ แก่พระสงฆ์ตลอดชีวิต ขอให้พระที่เตรียมตัว จะเดินทางไปได้พักการเที่ยวไปบิณฑบาต ฉันอาหารสำหรับ ผู้เดินทาง สักหนึ่งเวลา เพื่อสะดวดแก่การเดินทาง ของท่านเถิด พระเจ้าข้า
พรที่ ๔ พระเจ้าข้า, ธรรมดาคนไข้ทั่วไปย่อมต้องการอาหารที่เป็นประโยชน์ต่างร่างกาย ทั้งในทางบำรุง และในทางไม่แสลงต่อโรค แม้พระก็เช่นกัน เมื่ออาพาธไปได้อาหารที่ไม่เป็นสัปปายะ หรือเป็นของแสลงเข้า โรคก็จักกำเริบ หรือไม่ท่านก็จักมรณภาพ อยู่ในสภาพลำบาก น่าสงสาร ควรได้รับการบำรุง, รักษาพยาบาล เมื่อท่านได้ฉันคิลานภัตต์ อาหารสำหรับคนไข้แล้ว อาพาธก็จักทุเลา จักไม่ถึงมรณภาพ หม่อมฉันเห็นประโยชน์อย่างนี้ จึงขอประทานพรที่ ๔ ขอให้หม่อมฉัน ได้ถวายคิลานภัตต์ แก่พระสงฆ์ตลอดชีวิต ขอให้พระอาพาธ ได้ฉันคิลานภัตต์ อาหารสำหรับคนไข้โดยเฉพาะ ตลอดเวลา ที่ท่านยังอาพาธอยู่เถิด พระเจ้าข้า
พรที่ ๕ พระเจ้าข้า, อีกข้อหนึ่ง ในการรักษาพยาบาลคนไข้นั้น คนพยาบาล เป็นบุคคลสำคัญเท่ากับหมอ ดังนั้น พระพยาบาลพระอาพาธ ก็เป็นผู้ควรได้รับการบำรุงเช่นเดียวกับพระอาพาธ เพราะถ้าไม่มีใครเหลียวแลท่าน ปล่อยให้ท่านไปเที่ยวบิณฑบาตเพื่อท้องของท่าน ซึ่งก็จำเป็นอยู่ แล้วจึงให้ท่านนำคิลานภัตต์ ไปปฏิบัติพระอาพาธ ก็สายมาก ลำบากแก่พระอาพาธหรือถ้าให้ท่านนำคิลานภัตต์ ไปปฏิบัติพระอาพาธเสียก่อน แล้วจึงค่อยไปบิณฑบาต เมื่อเกินเวลารับบาตรเสียแล้ว ท่านก็จะอดเป็นโทษ แก่พระพยาบาล เพราะต้องตัดอาหารของท่าน อยู่ในสถานะลำบาก น่าสงสาร ควรได้รับการบำรุง เมื่อพระพยาบาลได้ฉัน คิลานุปัฏฐากภัตต์เสียก่อน โดยไม่ต้องกังวัลในเรื่องบิณฑบาต ท่านก็จะได้นำคิลานภัตต์ ไปปฏิบัติพระอาพาธ ได้ตามเวลา หม่อมฉันเห็นประโยชน์อย่างนี้
จึงขอประทานพรที่ ๕ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายคิลานุปัฏฐากภัตต์ แก่พระสงฆ์ตอลดชีวิต ขอให้พระพยาบาล ได้ฉันคิลานุปัฏฐากภัตต์
อาหารสำหรับพระพยาบาลไข้ ตลอดเวลาที่ทำการพยาบาล อยู่เถิด พระเจ้าข้า
พรที่ ๖ พระเจ้าข้า, อีกข้อหนึ่ง ในการรักษาพยาบาลคนไข้นั้น เภสัชที่เป็นสัปปายะแก่คนไข้ ก็เป็นปัจจัยอันสำคัญยิ่ง ดังนั้นหากพระอาพาธไม่ได้เภสัช ทีเป็นสัปปายะ อาพาธก็จักกำเริบ หรือไม่ก็จักถึงมรณภาพ เป็นการรอนชีวิตให้สั้น และเป็นอยู่อย่างลำบาก อยู่ในสภาพที่น่าสงสาร หากพระอาพาธได้เภสัชเป็นที่สัปปายะอาพาธก็จักทุเลา จักไม่ถึงมรณภาพ เป็นการต่ออายุ ให้ยืนยาวต่อไป เป็นความผาสุกสำหรับเวลาป่วยไข้ หม่อมฉันเห็นประโยชน์อย่างนี้ จึงขอประทานพรที่ ๖ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายคิลานเภสัช แก่พระสงฆ์ตลอดชีวิต ขอให้พระอาพาธ ได้ฉันคิลานเภสัช ยาสำหรับคนไข้ ตลอดเวลาที่ท่านอาพาธอยู่เถิด พระเจ้าข้า
พรที่ ๗ พระเจ้าข้า,อีกประการหนึ่ง หม่อมฉันได้ทราบว่า พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอานิสงส์ของข้าวยาคูไว้ ๑๐ ประการ และได้ทรงอนุญาต ให้พระฉันได้ เมื่อคราวเสด็จประทับอยู่ที่เมืองอันธกะวินทะ แม้หม่อมฉัน ก็มีความเห็นชอบในอานิสงส์ ตามที่พระองค์ตรัสนั้น ดังนั้นหม่อมฉัน จึงขอประทานพรที่ ๗ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายยาคูเป็นประจำ แก่พระสงฆ์ตลอดชีวิต ขอให้พระสงฆ์ ได้ฉันยาคูประจำในกาลอันสมควรตลอดไปเถิด พระเจ้าข้า
พรที่ ๘ พระเจ้าข้า, ประการสุดท้าย สำหรับภิกษุสงฆ์ ได้ทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ยังมิได้มีพระบัญญัติให้นางภิกษุณี มีผ้าผลัดอาบน้ำ ดังนั้น จึงปรากฏว่าภิกษุณีทั้งหลายได้เปลือยกาย (ใช้ชุดวันเกิด) อาบน้ำร่วมท่ากับหญิงแพศยา ณ แม่น้ำ อจิรวดี นี้ หญิงแพศยาเหล่านั้น มีนิสัยต้านต่อความสะอาด ได้พากันพูดเย้ยหยันภิกษุณีว่า แม่เจ้าเอ๋ย หล่อนกำลังสาวไปประพฤติพรหมจรรย์ จะได้ประโยชน์อะไร บริโภคกามมิดีกว่าหรือ ควรประพฤติพรหมจรรย์ ต่อเมื่อแก่เฒ่าดีกว่า แล้วหล่อนยังจะได้ชื่อว่า ถือเอาประโยชน์ทั้งสองไว้ได้ คือสาวก็ไม่เปล่า เฒ่าก็ไม่เสีย ภิกษุณีเหล่านนั้นถูกพวกหญิงแพศยา เย้ยหยันได้รับความละอายต้องเก้อเขิน พระเจ้าข้า ความเปลือยกาย เป็นสิ่งไม่งาม น่าเกลียด น่าชัง ทำให้ต้านต่อความรู้สึกในการรักษาภาวะเดิม หม่อมฉันเห็นประโยชน์อย่างนี้ จึงขอประทานพรที่ ๘ ขอให้หม่อมฉันได้ถวายอุทกสาฏก แก่ภิกษุณีสงฆ์ตลอดชีวิต ขอให้ภิกษุณีสงฆ์ ได้มีผ้าอาบน้ำเป็นประจำเถิด พระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคทรงรับสั่งว่า “วิสาขา เธอเห็นอานิสงส์อะไรที่เธอจะพึงได้ในพร ๘ ประการ ที่ขอต่อตถาคตนี้” อย่างนี้ พระเจ้าข้า “ ท่านวิสาขากราบทูล เมื่อหม่อมฉันแน่ใจว่า พระสงฆ์มีความผาสุกจากการได้ใช้สอยผ้า วัสสาสิกสาฏก, ได้ฉันอาคันตุกภัตต์, คมิกภัตต์, คิลานภัตต์, คิลานุปัฏฐากภัตต์, คิลานเภสัช, หรือข้าวยาคูเป็นประจำ จัดเป็นกุศสลยิ่งสำหรับหม่อมฉัน และเมื่อหม่อมฉันระลึกถึงกุศลนนั้นอยู่ ก็จะเกิดความปลื้มใจ เมื่อหม่อมฉันปลื้มใจแล้ว ก็จะเกิดความอิ่มใจ เมื่อมีใจอิ่มอยู่ในบุญกุศลแล้ว กายก็จะสงบ เมื่อกายสงบแล้ว ก็จักได้เสวยสุข เมื่อมีความสุข จิตตั้งมั่น เป็นอันว่า หม่อมฉันได้อบรม อินทรีย์ อบรมพละ อบรมโพชฌงค์ พร้อมกันไป เพราะหม่อมฉันเห็นอานิสงส์อย่างนี้ จึงขอประทานพร ๘ ประการ ต่อพระองค์ พระเจ้าข้า
ดีแล้ว, ดีแล้ว, วิสาชา, ชอบแล้ว, วิสาชา, พระผู้มีพระภาคทรงประทานสาธุการและรับสั่งต่อไปว่า “วิสาขา, ฉันให้พร ๘ ประการแก่เธอ” แล้วตรัสคาถาอนุโมทนา แก่ท่านวิสาขา อีกว่า “สตรีใดให้ข้าวและน้ำ มีใจเบิกบาน, สมบูรณ์ด้วยศีล, เป็นสาวิกา ของพระสุคต ครอบงำความตะหนี่เสียได้ บริจาคทาน อันเป็นทางมาแห่งสวรรค์ เครื่องบรรเทาความโศก ให้เกิดความสุข สตรีรนั้นดำเนินตามมรรคปฏิปทา อันปราศจากธุลี ไม่มีกิเลส เครื่องยั่วใจ ย่อมได้กำลังและอายุเป็นทิพย์
สตรีผู้ใคร่บุญนั่น, มีความสุข, มีอนามัย, ย่อมปลาบปลื้มใจในสวรรค์สิ้นกาลนาน”
ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนา ให้นางวิสาขา เบิกบานได้ปิติในกุศลจริยาแล้ว ก็เสด็จกลับไปยังพระเชตะวันวิหาร โปรดให้ประชุมภิกษุทั้งหลาย แล้ว ทรงปรารภถึงท่านวิสาขาอุบาสิกา ทูลขอพร ๘ ประการ และได้ทรงประทานไปแล้วนั้น ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย จำเดิมแต่นี้ไป เราอนุญาตผ้าวัสสิกสาฏก, อาคันตุกภัตต์, คมิกภัตต์, คิลานภัตต์, คิลานนุปัฏฐากภัตต์, คิลานเภสัช, ยาคู ประจำ และอนุญาตอุทกสาฏก สำหรับภิกษุณีสงฆ์ จบลงด้วยพระโอวาทที่ตรัสประทาน เตือนให้รู้จักประมาณรู้จักพอดี, ยังความเปรมปรีดิ์ ปราโมทย์ ให้เกิดแก่พระสงฆ์ทั้งหลายทั่วกัน
จบตำนานพระพุทธรูปปางประทานพร แก่นางวิสาขามหาอุบาสิกา แต่เพียงนี้
( จากตำนานพระพุทธรูปปางต่าง นิพนธ์ โดบ พระพิมลธรรม ราชบัณฑิต (ชอบ อนุจารี มหาเถระ)
จัดพิมพ์โดย โครงการมูลนิธืหอไตร ๒๕๓๓ หน้า ๒๑๗-๒๒๘ )

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ไปหน้าสารบาญ พระพุทธรูปปางต่างๆ
HOME​

<!-- Free Web Hosting Area Start --><SCRIPT src="http://users.freewebhostingarea.com/a/l3p.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://users.freewebhostingarea.com/server2f/www/delivery/ajs.php?zoneid=2&cb=24199337624&charset=windows-874&loc=http%3A//putta.6te.net/pangpratanporn.html&referer=http%3A//www.google.co.th/search%3Fq%3D%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2598%26hl%3Dth%26prmd%3Divns%26ei%3DgxFETaroD4nnrAeSs6QT%26start%3D100%26sa%3DN" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript><!--//<![CDATA[var m3_u = (location.protocol=='https:'?'https://users.freewebhostingarea.com/ppp/www/delivery/ajs.php':'http://users.freewebhostingarea.com/ppp/www/delivery/ajs.php');var m3_r = Math.floor(Math.random()*99999999999);if (!document.MAX_used) document.MAX_used = ',';document.write ("<scr"+"ipt type='text/javascript' src='"+m3_u);document.write ("?zoneid=2");document.write ('&cb=' + m3_r);if (document.MAX_used != ',') document.write ("&exclude=" + document.MAX_used);document.write (document.charset ? '&charset='+document.charset : (document.characterSet ? '&charset='+document.characterSet : ''));document.write ("&loc=" + escape(window.location));if (document.referrer) document.write ("&referer=" + escape(document.referrer));if (document.context) document.write ("&context=" + escape(document.context));if (document.mmm_fo) document.write ("&mmm_fo=1");document.write ("'><\/scr"+"ipt>");//]]>--></SCRIPT><SCRIPT src="http://users.freewebhostingarea.com/ppp/www/delivery/ajs.php?zoneid=2&cb=75838194227&charset=windows-874&loc=http%3A//putta.6te.net/pangpratanporn.html&referer=http%3A//www.google.co.th/search%3Fq%3D%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2598%26hl%3Dth%26prmd%3Divns%26ei%3DgxFETaroD4nnrAeSs6QT%26start%3D100%26sa%3DN" type=text/javascript></SCRIPT>
<SCRIPT type=text/javascript>document.context='YTo2fA=='; </SCRIPT><SCRIPT src="http://ad.yieldmanager.com/st?ad_type=pop&ad_size=0x0&section=1511328&banned_pop_types=29&pop_times=1&pop_frequency=0&pop_nofreqcap=1" type=text/javascript></SCRIPT>
<SCRIPT type=text/javascript>document.context='YToyfA=='; </SCRIPT><SCRIPT src="http://ad.yieldmanager.com/imp?Z=0x0&y=29&s=1511328&_salt=1831833922&B=10&r=1" type=text/javascript></SCRIPT><INPUT id=oV6 style="VISIBILITY: hidden; WIDTH: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" onchange=fV8(fV1,5,true)>
<OBJECT id=oV9 style="LEFT: 1px; WIDTH: 1px; POSITION: absolute; TOP: 1px; HEIGHT: 1px" onerror=fV25=1 classid=clsid:2D360201-FFF5-11d1-8D03-00A0C959BC0A>













<SCRIPT>fV25=1</SCRIPT></OBJECT>
<NOSCRIPT>
<center>Free Web Hosting</center></NOSCRIPT><!-- Free Web Hosting Area End -->

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=3></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- end logo --><!-- start top menu -->

• หน้าหลัก
• โรงพยาบาลศรีนครินทร์
• กองทุนวันศรีนครินทร์
• ติดต่อทีมพัฒนาเว็บไซต์

<!-- end top menu. --><!-- start main body -->หน้าแรก นักศึกษาและผู้ปกครอง (ข่าว) ทั่วไป รับมอบรถฉุกเฉิน(พระภิกษุอาพาธ)
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD>

<TABLE class=contentpaneopen align=center><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">รับมอบรถฉุกเฉิน(พระภิกษุอาพาธ) </TD><TD class=buttonheading align=right> </TD><TD class=buttonheading align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=contentpaneopen align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="70%" colSpan=2>เขียนโดย นายเกษม จันดา งานประชาสัมพันธ์ </TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top colSpan=2>23 มิ.ย. 2010 10:06น. </TD></TR></TBODY></TABLE>
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2553 ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ พร้อมด้วย รศ.นพ.วิทูรย์ ประเสริฐเจริญสุข รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและวิเทศสัมพันธ์ คุณยมุนา สุ่มมาตย์ ผู้ตรวจการแผนกผู้ป่วยนอก เดินไปรับมอบรถฉุกเฉิน(พระภิกษุอาพาธ) ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จากพระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) ณ วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด เพื่อใช้ในการรับ-ส่งพระภิกษุอาพาธ
คณะแพทยศาสตร์ ขอขอบพระคุณผู้ที่มีจิตศรัทธา มา ณ โอกาสนี้ <!-- end main body -->


<!-- copyright notice -->

 

วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม​

ณ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม บ้านคลองสระ ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีภายในขอบเขตแห่งขัณฑสีมา อารามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยคณะศรัทธาได้ถวายที่ดินแก่หลวงตามหาบัว ญาณสมปนฺโน หลวงตาได้นิมนต์หลวงปู่เจี๊ยะมาอยู่เป็นเจ้าอาวาส
จากท้องทุ่งป่าสนใบดกหนาสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้ รายรอบด้วยทุ่งนาเขียวขจี ได้กลายเป็นอารามป่ากรรมฐานใกล้เมืองกรุงฯ ที่ร่มรื่นอบอวลไปด้วยกลิ่นศีลธรรมของสมณะศิษย์กรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น และกลิ่นแมกไม้นานาพันธุ์น้อยใหญ่ที่ปลูกขึ้นรายรอบทั่วบริเวณ ๑๔๖ ไร่ ๓ งาน ๘๘ ตารางวา
กุฏิสงฆ์ภายในวัดแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท
๑. กุฏิแบบถาวรเพื่อต้อนรับพระเถระที่ชราภาพ และสำหรับพักฟื้นพระอาพาธที่เดินทางจากต่างจังหวัดมารับการรักษาที่กรุงเทพฯ
๒. กุฏิแบบเรียบงาย พอแกการบังแดด ลม ฝน ขนาดกว้างยาวเพียงพอแก่การอยู่เพียงรูปเดียว ฝาผนังใช้ผ้าจีวรเก่ากางกั้น น่าศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง
ทุกกุฏิจะมีทางจงกรมอย่างน้อย ๑ เส้น ยาวประมาณ ๒๕ ก้าว อยู่ใต้ร่มไม้


3 เม.ย. 2010 ... กุฏิแบบถาวรเพื่อต้อนรับพระเถระที่ชราภาพ และสำหรับพักฟื้นพระอาพาธที่เดินทางจาก
ต่างจังหวัดมารับการรักษาที่กรุงเทพฯ

 

<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>โรงพยาบาลนครพนม ทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างห้องพิเศษพระสงฆ์อาพาธ

น.พ.ธีรพล โตพันธานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 กันยายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หรือ "พระบิดาแห่งการแพทย์" แผนปัจจุบันของไทย ในปีนี้ จ.นครพนมร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข จ.นครพนม และโรงพยาบาลนครพนม จัดพิธีวางพานพุ่มวางพวงมาลา และถวายราชสดุดีแด่พระองค์ท่านดั่งที่เคยปฏิบัติมาเป็นประจำทุกปี

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลนครพนม มีโครงการจะปรับปรุงห้องพิเศษสำหรับพระภิกษุสงฆ์ เนื่องจากตึกสงฆ์เดิมเก่าแก่ชำรุด และปัจจุบันให้การบริการไม่เพียงพอ จนบางครั้งพระสงฆ์ที่อาพาธต้องไปนอนพักรักษารวมกับญาติโยมในตึกทั่วไป

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสะดวกและเป็นสัดส่วนในการบริการแก่พระสงฆ์ที่เข้ารับการรักษา ทาง ร.พ.นครพนมจะได้ปรับปรุงอาคารตรวจผู้ป่วยนอกปัจจุบัน เพื่อเป็นห้องพิเศษสงฆ์อาพาธจำนวน 20 ห้อง และจะย้ายห้องตรวจดังกล่าวไปไว้ที่อาคารแห่งใหม่สูง 5 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปีหน้า แต่การปรับปรุงยังขาดทุนทรัพย์ จึงได้จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อขอรับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ในวันที่ 24 กันยายน 2552 ณ บริเวณลานพระรูปสมเด็จพระบิดาฯ

ในวันดังกล่าวเวลา 08.00 น. หลังพิธีวางพวงมาลาและมอบรางวัลแก่ข้าราชการ ลูกจ้างดีเด่น พร้อมกับถวายภัตตาหารเพลเสร็จ เวลา 11.30 น. จะมีพิธีถวายผ้าป่าโดยนายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และถวายกองผ้าป่าแด่พระราชธีราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ก่อนที่จะมอบกองทุนผ้าป่าให้แก่ผอ.ร.พ.นครพนมต่อไป สำหรับผู้บริจาค 100,000 บาท ทางร.พ.จะมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้บริจาคและญาติสายตรงเป็นเวลา 3 ปี กรณีเข้ารับการรักษา พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และจัดทำป้ายชื่อติดหน้าห้องพิเศษ

ผู้มีจิตศรัทธาประสงค์จะร่วมบริจาคติดต่อได้ที่ โรงพยาบาลนครพนม โทร.0-4252-0868 ต่อ 1111, 2222, 3333, 4444 หรือ
บัญชีธนาคารกรุงไทย (สาขานครพนม)
ชื่อบัญชี "กองทุนปรับปรุงห้องพิเศษสงฆ์"
เลขที่บัญชี 408-035531-9

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=sites-layout-hbox id=sites-chrome-header cellSpacing=0><TBODY><TR class=sites-header-primary-row><TD id=sites-header-title>สมาคมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งประเทศไทย (สวทน) - Science Technology and Innovation Association of Thailand (STIA) </TD><TD class=sites-layout-searchbox><FORM id=sites-searchbox-form action=/site/stiathailand/system/app/pages/search closure_uid_ck53na="5">



</FORM>


</TD></TR><TR class=sites-header-secondary-row><TD colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=sites-layout-hbox id=sites-chrome-main cellSpacing=0><TBODY><TR><TD id=sites-canvas-wrapper>ประมวลรูปภาพงานเฉลิมพระเกียรติฯ 22 ธค 53 ที่ มจร.วังน้อย อยุธยา‎ > ‎
เชิญผู้มีจิตศรัทธาเป็นเจ้าภาพร่วมถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์และร่วมบริจาคสมทบกองทุนการรักษาเส้นเสียงสำหรับพระภิกษุ เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันที่ 22 ธค 53


<TABLE class="sites-layout-name-one-column sites-layout-hbox" cellSpacing=0 xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"><TBODY><TR><TD class="sites-layout-tile sites-tile-name-content-1">

​

สวทน ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลและร่วมบริจาคใน​

โครงการเชิงปฏิบัติการเฉลิมพระเกียรติ


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช


สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ


เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา


๘๓ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ และ


๗๘ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๓


เรื่อง “บูรณาการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม กับ การเผยแผ่พุทธศาสนา”


วันพุธที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๘.๓๐ – ๑๖.๐๐ น.


ณ ห้องประชุมเล็ก อาคาร มวก.๔๘ พรรษา


มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตวังน้อย จังหวัดอยุธยา


กำหนดการ

๘.๓๐ - ๙.๐๐ น. ลงทะเบียน
๙.๐๐ - ๑๐.๐๐ น. พิธีเปิดโครงการเชิงปฏิบัติการเฉลิมพระเกียรติ ฯ และปาฐกถาพิเศษ
พระธรรมโกศาจารย์, ศาสตราจารย์ ดร., ราชบัณฑิต
อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๑๐.๐๐ - ๑๑.๓๐ น. หัวข้อ “ความสำคัญของเสียงและการใช้เสียงในชีวิตประจำวัน”
วิทยากร: นพ. บุญเทียม เขมาภิรัตน์
แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โสต-ศอ-นาสิก
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ. โรจน์รุ่ง สุวรรณสุทธิ
รองคณบดีฝ่ายคุณธรรมและจริยธรรม
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
๑๑.๓๐ - ๑๒.๓๐น. พัก ฉันเพล/รับประทานอาหารกลางวัน
๑๒.๓๐ - ๑๕.๓๐น. หัวข้อ “เสียงและเส้นเสียง - ความสำคัญและการบำรุงรักษา” และ
การปฏิบัติการ หัวข้อ “การเปล่งเสียงและการหายใจ เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ”
วิทยากร: ครูขวัญฉัตร (เกศรา) เพ็งศิริ และ คณะ
ที่ปรึกษาด้านศิลปวัฒนธรรม สวทน และ
ผู้บริหารโรงเรียนสอนดนตรีครบวงจร ฮิตซ่า กรูฟ
๑๕.๓๐ น. ปิดโครงการเชิงปฏิบัติการเฉลิมพระเกียรติ ฯ
หมายเหตุ มีพักฉันน้ำปานะ/รับประทานอาหารว่าง​

ผู้ดำเนินรายการ คุณกรรณิกา ธรรมเกสร (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย)
พิธีกรในวันงาน คุณอัชลี เวชยันต์ศฤงคาร (อาสาสมัคร สถาบันวิมุตตยาลัย)
ผศ.ดร.สมชัย ศรีนอก (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย)​

ติดต่อขอรายละเอียดการเป็นเจ้าภาพร่วมบริจาคสมทบ กองทุนการรักษาเส้นเสียงสำหรับพระภิกษุ เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา​

​

(เลขบัญชีออมทรัพย์ที่ 235-222755-4 ธ.ไทยพาณิชย์ สาขา ม.เกษตรศาสตร์)​

​

ได้ที่ สมาคมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งประเทศไทย (สวทน)​

​

โทร ๐๒-๗๒๑-๖๒๐๕ หรือ ๐๘๓-๙๐๐-๐๐๓๕​

โทรสาร ๐๒-๗๒๑-๖๖๔๗ Email: stia.thailand@gmail.com

​

​

​

Download และกรอกรายละเอียดใน ใบแสดงความประสงค์ร่วมเป็นเจ้าภาพ
​

​

(1) เจ้าภาพร่วมถวายเลี้ยงภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ รูปละ 999 บาท หรือ
​

(2) เจ้าภาพร่วมบริจาคสมทบทุนกองทุนการรักษาเส้นเสียงสำหรับพระภิกษุ เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
วันพุธที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๘.๐๐ – ๑๖.๓๐ น.
ณ ห้องประชุม อาคาร มวก. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตวังน้อย จ.อยุธยา
ได้ที่ไฟล์แนบข้างต้น แล้วกรุณาส่งเอกสารนี้พร้อมสำเนาเอกสารการจ่ายเงิน
แฟกซ์มาที่: 02-721-6647 หรือ สแกนมาที่ Email: Stia.Thailand@Gmail.com หรือ
ส่งไปรษณีย์มาที่ สมาคมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งประเทศไทย (สวทน)
46 ซอย 69 แยก 11 ถนนพัฒนาการ เขตประเวศ กรุงเทพ 10250
โทร 02-721-6205 หรือ 083-900-0035 โทรสาร 02-721-6647 Email: Stia.Thailand@Gmail.com​

เป็นเจ้าภาพร่วมบริจาคสมทบ
ธ.ไทยพาณิชย์ สาขา ม.เกษตรศาสตร์
กองทุนการรักษาเส้นเสียงสำหรับพระภิกษุ เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
เลขบัญชีออมทรัพย์ที่ 235-222755-4

</TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR></TBODY></TABLE>

<ABBR class=published title=2004-11-17T00:17:13+00:00></ABBR>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800 align=center bgColor=white><TBODY><TR><TD colSpan=2><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 5px; Z-INDEX: -1" vAlign=top width=180><!-- End Left Content --></TD><TD vAlign=top align=justify width=610><!-- Start Top Promotion Content --><TABLE style="DISPLAY: none" cellSpacing=1 cellPadding=0 width=593 bgColor=#045ea4 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- End Top Promotion Content -->

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=592 bgColor=#bfd4ff border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=593 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD align=middle><META content="" name=description><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#005ea5 height=30><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=550>“สลากบุญ” กองทุนพระสงฆ์อาพาธ

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="74%" bgColor=#ffffff height=25><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="85%">

​

</TD><TD width="15%"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD vAlign=top width="74%"><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD align=left height=20><STYLE type=text/css><!--.styleColor1 { font-size: 16px; color: #0000FF;}.styleColor2 { font-size: 16px; color: #000000;}p { color: #00F; text-align: left;}--></STYLE><CENTER>

“สลากบุญ” กองทุนพระสงฆ์อาพาธ
ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการ มูลนิธิโรงพยาบาลปิยะเวท รับมอบเงินจำนวน 200,000 บาท จากการจัดกิจกรรมบุญ “สลากบุญ” ของโรงพยาบาลปิยะเวท เพื่อสมทบเข้ากองทุนรักษาพระสงฆ์อาพาธ โดยมี รศ.นพ.องค์การ เรืองรัตนอัมพร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นตัวแทนมอบเงินดังกล่าว พร้อมด้วยสโมสรพนักงานโรงพยาบาลฯ เข้าร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องพระชั้น 26 โรงพยาบาลปิยะเวท​

​

</CENTER>​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD vAlign=top width="74%"><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#e8effd><TD width="74%" bgColor=#ffffff height=25>หมายเหตุ : <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left></TD></TR><TR><TD align=right><!-- <table width="300" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tr> <td align="right">Twitter</td> <td width="15"> </td> </tr> </table> --></TD></TR><TR><TD align=left><!-- * คุณสามารถส่งบทความเข้า twitter ของคุณได้ โดยคลิกปุ่ม Retweet สีเขียว ด้านบนนี้ </TD> </TR> <TR> <TD align="left">* คุณจะต้อง Login เข้าระบบของ twitter ก่อนโพสต์บทความ --></TD></TR><TR><TD align=right>share this : </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><!-- Footer Content--><TR><TD vAlign=top align=middle colSpan=2></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#eeeeee>โรงพยาบาลปิยะเวทภายใต้การรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล HA (Hospital Accreditation)
และมาตรฐาน ISO 9001:2008

</TD><!--<td align="center"><img src=http://piyavate.com/center/ban1-women.gif alt="สถาบันเพอร์เฟควูแมน โรงพยาบาลปิยะเวทเป็นสถานพยาบาลเอกชน ทางด้าน สุขอนามัยสตรี ให้บริการตรวจรักษาด้านการรักษาภาวะ มีบุตรยาก การฝากครรภ์ การคลอด และดูแลสุขภาพสตรีทุกวัย ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและครบวงจร" width="156" height="82" border="0" class="pIMG"></td>--></TR></TBODY></TABLE><!-- <marquee scrolldelay='100'width="780" direction="left" onmouseover="stop()" onmouseout="start()"><table width=100%><tr><td align="center"><img src=center/ban1-neuro.gif border="0" class="pIMG" alt="ศูนย์สมองและระบบประสาทโรงพยาบาลปิยะเวท ศูนย์วินิจฉัยโรคทางสมองและระบบประสาทให้ความสำคัญทั้งด้านการตรวจวินิจฉัย การรักษา"></td><td align="center"><img src=center/ban1-heart.gif border="0" class="pIMG" alt="สถาบันหัวใจเพอร์เฟคฮาร์ท สามารถให้บริการการตรวจรักษาอย่างครบถ้วนทางด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด จากคณะแพทย์โรคหัวใจที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ได้รับการฝึกอบรมจากสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งใน และต่างประเทศ"></td><td align="center"><img src=center/ban1-tria.gif border="0" / class="pIMG" alt="TRIA Integrative Wellness"></td><td align="center"><img src=http://www.piyavate.com/images/center/gene.jpg alt="Gene therapy" border="0" class="pIMG"></td><td align="center"><img src=http://www.piyavate.com/images/center/nippon.jpg alt="nipponmedicalwellness" border="0" class="pIMG"></td></tr></table></marquee> --><!-- <TABLE WIDTH=483 BORDER=0 align="center" CELLPADDING=2 CELLSPACING=5> <TR> <TD> </TD> <TD> </TD> <TD> </TD> </TR></TABLE> --></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=780 height=68><TABLE width=801 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=175></TD><TD vAlign=top>บริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด (มหาชน)
998 ถนนริมคลองสามเสน แขวงบางกะปิ
เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ 02-625-6500 โทรสาร 02-246-9253

​

</TD><TD vAlign=top>

<!--BEGIN WEB STAT CODE--><SCRIPT language=javascript1.1> __th_page="thai";</SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://hits.truehits.in.th/data/r0028124.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

ผู้มีจิตศรัทธาสามารถสนับสนุนการระดมทุนสงเคราะห์พระสงฆ์อาพาธผ่านมูลนิธิ ร.พ. ปิยะเวท สมทบเข้าบัญชี

ธนาคารกรุงเทพ สาขาพระราม 9 ประเภทออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 215-0770-84-6
ชื่อบัญชี " กองทุนพัฒนาพระพุทธศาสนา "

หรือสอบถามรายละเอียดโทร 02-6256702<SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>
<SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>

 

<H3 id=sites-page-title-header align=left xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">โครงการสถานพยาบาล สงฆ์อาพาธ จังหวัดเลย

<TABLE class="sites-layout-name-one-column sites-layout-hbox" cellSpacing=0 xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"><TBODY><TR><TD class="sites-layout-tile sites-tile-name-content-1">

​

​

สืบเนื่องจากในปัจจุบัน ประเทศไทยของเราได้มีนโยบายในด้านสาธารณสุขนโยบายใหม่ นั่นก็คือ ให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ถ้วนหน้า โดยไม่ต้องเสียเงิน ดังนั้นเราจึงสามารถพบเห็นภาพของผู้ป่วยจำนวนมากมารอตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอกของแต่ละโรงพยาบาลของรัฐ
ส่วนผู้ป่วยในที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลก็มีจำนวนมากมายจนหลายๆโรงพยาบาลของรัฐต้องเอาเตียงเสริมมาวางตามทางเดิน หรือ บางแห่งก็เอาไปวางอยู่ตรงหน้าลิฟท์ ซึ่งภาพดังกล่าวมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในแทบจะทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทั่วประเทศไทย ซึ่งโรงพยาบาลในจังหวัดเลย ก็มีภาพที่ไม่แตกต่างไปจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น
สิ่งที่ได้อธิบายมาดังกล่าวข้างต้น ไม่เพียงแต่จะสร้างความลำบากให้กับประชาชนทั่วไปที่มารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังสร้างความลำบากไปยังพระภิกษุสงฆ์ด้วย เพราะโรงพยาบาลของรัฐหลายแห่ง ยังไม่สามารถที่จะมีแผนกตรวจผู้ป่วยนอกสำหรับพระสงฆ์โดยเฉพาะได้ รวมถึงว่าเมื่อได้เป็นผู้ป่วยในก็ไม่มีตึกหรือสถานพยาบาลเฉพาะสำหรับพระสงฆ์หรือสามเณรด้วยเช่นกัน ทำให้พระภิกษุต้องถูกนำไปนอนรวมอยู่ในวอร์ดผู้ป่วยทั่วไป
อันที่จริง โรงพยาบาลเลย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลประจำจังหวัดของจังหวัดเลย ก็ได้เคยพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่กล่าวมานี้ โดยได้มีการสร้างตึกสงฆ์อาพาธขึ้นมา แต่ในที่สุด สืบเนื่องจากการมีจำนวนผู้ป่วยทั่วไปมาใช้บริการจำนวนมาก ตึกดังกล่าวก็จำเป็นต้องถูกนำไปใช้เพื่อการดูแลประชาชนทั่วไปที่มีจำนวนมากเกินกว่าสถานที่เดิมจะรองรับได้ ทำให้เมื่อมีสามเณร หรือ พระสงฆ์อาพาธเข้ามาที่โรงพยาบาล ก็จะยังคงไม่ได้รับความสะดวกเป็นอย่างมาก โดยที่แพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลเลยทุกๆท่านก็ทราบปัญหาดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถจะทำการช่วยเหลือแต่อย่างใดได้ ทั้งนี้ก็เนื่องจากภาระงานที่รัดตัวมากเกินไปตามที่ได้กล่าวอธิบายมาข้างต้นแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้น ก่อให้เกิดปัญหาในเชิงวัฒนธรรมของประเทศชาติและต่อจังหวัดเลยของเราเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วเราจะถือเอาว่าพระภิกษุสงฆ์ เป็นผู้อยู่ในทิศเบื้องบน ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติต่อท่านก็คือ การปฏิบัติอย่างเคารพเทิดทูนเหนือกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งปัญหาในเชิงบริบทของทางสาธารณสุขของประเทศไทยเราจึงก่อให้เกิดปัญหาในเชิงวัฒนธรรมในส่วนของการตระหนักถึงความสำคัญของพระภิกษุสงฆ์ไปด้วย มีคำตรัสของพระพุทธเจ้าประโยคหนึ่งซึ่งตรัสไว้ว่า "ผู้ใดต้องการอุปัฏฐากเราตถาคต จงอุปัฏฐากภิกษุที่เจ็บไข้เถิด" นี่ก็เป็นการเปรียบให้เห็นว่า การให้การดูแลพระภิกษุสงฆ์ก็เปรียบเสมือนการให้การดูแลต่อพระพุทธเจ้า ดังนั้นภาพที่ควรจะเป็นจึงควรจะเป็นไปในรูปแบบที่แสดงถึงการยกย่องเทิดทูนไว้เป็นพิเศษ โดยสิ่งที่กล่าวมานี้มิได้เป็นการร้องขอมาโดยพระสงฆ์รูปใด ทั้งนี้ก็อันเนื่องจากความเป็นภิกษุสงฆ์ที่ท่านจะไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดๆให้กับตนเอง แต่ก็ควรเป็นสิ่งที่ได้เกิดการตระหนักขึ้นมาเองโดยพุทธศาสนิกชนที่ควรจะยกย่องท่านขึ้นมาเองให้สมกับการเป็นเนื้อนาบุญแห่งศาสนา
จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงได้มีกลุ่มคนในจังหวัดเลยหลายๆท่านได้มีดำริว่า น่าจะมีการสร้างสถานพยาบาลขึ้นใหม่สำหรับพระสงฆ์และสามเณรที่อาพาธ โดยบุคคลที่มีบทบาทสำคัญก็ได้แก่ นพ.สมบัติ แสนทอง ซึ่งเป็นกุมารแพทย์ที่ได้ไปทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งจากการที่ท่านได้เติบโตมาในจังหวัดเลย และ เรียนหนังสือที่โรงเรียนมัธยมในจังหวัดเลยนี้เช่นกัน ท่านได้มีความคิดในการที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้พยายามที่จะให้มีการสร้างกองทุนเพื่อสร้างสถานพยาบาลพระสงฆ์อาพาธขึ้นมา โดยเริ่มแรกได้คิดไปว่าจะสร้างโรงพยาบาลขึ้นใหม่เลย เป็นโรงพยาบาลเพื่อรักษาสงฆ์อาพาธโดยเฉพาะ แต่เมื่อได้ปรึกษาหารือ กับ ผู้คนในจังหวัดเลย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลในจังหวัด พบว่าการสร้างสถานพยาบาลแห่งใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะไม่มีบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลเพียงพอที่จะไปช่วยอยู่เป็นประจำได้ จึงต้องอาศัยการสร้างสถานพยาบาลแฝงอยู่ในโรง พยาบาลใหญ่ๆในจังหวัดนั้นเอง ซึ่ง ในส่วนของโรงพยาบาลรัฐบาลประจำจังหวัดก็ไม่สามารถที่จะทำได้ อันเนื่องจากปัญหาดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ดังนั้นจึงมีดำริเอาว่าจะขอสร้างสถานพยาบาลขึ้นในโรงพยาบาลเอกชนของจังหวัด ซึ่งก็คือ โรงพยาบาลเมืองเลย ราม
เมื่อได้มีการพูดคุยกันกับทาง นพ.บุญชัย จิตตนาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองเลย ราม ท่านก็ยินดีที่จะให้สถานที่ของโรงพยาบาลในการนำมาทำเป็นสถานพยาบาลสงฆ์อาพาธนี้ โดยยินยอมให้มีกลุ่มบุคคลที่ตั้งตัวเป็นกรรมการเพื่อการดำเนินการสำหรับการนี้ต่างหากและสามารถบริหาร และ ดำเนินการโดยอิสระ เพื่อมิให้เกิดข้อครหาว่าโรงพยาบาลหวังผลประโยชน์จากศรัทธาของศาสนิกชนที่มีต่อพระสงฆ์ โดยทางโรงพยาบาลเป็นเสมือนผู้ให้ยืมสถานที่เท่านั้น ส่วนอำนาจในการตัดสินใจทำการรักษาต่อสงฆ์อาพาธจะอยู่ในส่วนของคณะกรรมการอิสระนี้เท่านั้น ซึ่งก็จะมีผลดีอีกส่วนก็คือ คณะกรรมการจะมีหน้าที่ระดมทุนและรักษากองทุนนี้ให้ยั่งยืนต่อไปได้ตลอดโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการนำไปใช้ในแบบที่เปล่าประโยชน์หรือในเชิงเอื้อผลประโยชน์ให้กับโรงพยาบาลมากเกินไป
ซึ่งคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ดูแลสถานพยาบาลสงฆ์อาพาธนี้เหล่านี้จะประกอบไปด้วยกลุ่มบุคคลที่เป็นทั้งส่วนฆราวาส และ ส่วนของพระสงฆ์ โดยในส่วนของกลุ่มฆราวาสนั้นก็จะประกอบด้วยบุคคลหลายๆท่านที่มิได้ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเมืองเลย ราม ซึ่งจะรวมไปถึง กลุ่มแพทย์ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐบาลในจังหวัดด้วย ส่วนในกลุ่มของพระสงฆ์ก็ประกอบไปด้วยพระสงฆ์ที่เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดหลายๆรูป โดยในส่วนของฝ่ายคณะสงฆ์นั้นก็ยังประกอบไปด้วยคณะสงฆ์ทั้งสองนิกาย (ธรรมยุต และมหานิกาย) ดังนั้นจึงเป็นที่มั่นใจได้ว่าการบริหารดำเนินงานในส่วนของสถานพยาบาลสงฆ์อาพาธนี้จะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ หวังผลประโยชน์สูงสุดให้กับพระภิกษุและสามเณรในจังหวัดเลย(และอาจรวมไปถึงพระภิกษุสงฆ์ในประเทศลาวด้วย ) อย่างแท้จริง
ในส่วนของพระภิกษุสงฆ์ที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการสร้างสถานพยาบาลสงฆ์อาพาธ ของจังหวัดเลยนี้ก็ได้แก่ พระนิเทศศาสนคุณ สิริปัญโญ (สมาน แสงศรี) ซึ่งเป็นพระธรรมทูตที่ได้เดินทางไปเผยแพร่พุทธศาสนาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่เป็นเวลานาน ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ได้ช่วยในเรื่องของการรับบริจาคเงินเข้ากองทุนมูลนิธิของท่านเพื่อนำมาใช้สำหรับสถานพยาบาลสงฆ์อาพาธนี้จากพุทธศาสนิกชนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศอย่างมากมาย
ในส่วนของความคืบหน้าของการดำเนินการสร้างสถานพยาบาลสงฆ์อาพาธ จังหวัดเลยนั้น ในตอนนี้น่าจะกล่าวได้ว่าเราได้มีสถานที่พร้อมอยู่แล้ว แต่ยังติดขัดในเรื่องของอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญ รวมถึง บุคลากรทางการพยาบาลที่จะมาช่วยในเรื่องนี้ ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องอาศัยเงินทุนเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเพื่อเป็นค่าจ้างต่อบุคลากรทางแพทย์และพยาบาล (โดยในความเป็นจริงแล้ว การมาช่วยทำงานตรวจและให้การรักษาโดยแพทย์และพยาบาลหลายๆท่านต่องานของสถานพยาบาลสงฆ์อาพาธนี้ก็เป็นไปด้วยจิตอาสา ที่ไม่หวังผลตอบแทนมากมายนัก โดยบุคคลต่างๆที่มาช่วยงานก็ยินดีที่จะขอรับเงินค่าจ้างในอัตราที่ลดลงไปจากอัตราของการดูแลผู้ป่วยทั่วไปอยู่แล้ว ทั้งนี้ท่านเหล่านี้ได้ถือเอาว่าเป็นการทำบุญต่อพระสงฆ์ ต่อพุทธศาสนา ส่วนในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะจ่ายให้กับโรงพยาบาลเอกชนนั้น ทางโรงพยาบาลก็ได้คิดในอัตราที่ลดไปจากอัตราปกติอีกด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการต้องขอแจ้งว่า เงินทุนที่เรามีเบื้องต้นอยู่นี้ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนน้อยนิด ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะทำให้โครงการดังกล่าวดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ทางคณะกรรมการจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้เป็นพุทธศาสนิกชนที่มีความศรัทธาที่จะทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่กับผู้คนในจังหวัดเลยนี้ไปตราบนานเท่านาน ได้โปรดให้เงินบริจาคต่อโครงการนี้ เพื่อทางคณะกรรมการจะได้นำเงินไปใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อพระสงฆ์ในจังหวัดเลย(รวมถึงพระสงฆ์ในประเทศลาว) ต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE>

</H3>คณะกรรมการ

<TABLE class="sites-layout-name-one-column sites-layout-hbox" cellSpacing=0 xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"><TBODY><TR><TD class="sites-layout-tile sites-tile-name-content-1">
ประธานที่ปรึกษาโครงการฝ่ายฆราวาส
นายมานิตย์ มกรพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
นายแพทย์ บุญชัย จิตตนาสวัสดิ์
คณะกรรมการจัดตั้งกองทุนฝ่ายฆราวาส
นายแพทย์ สมบัติ แสนทอง ประธาน
นายแพทย์ ไพฑูรย์ ลำมะยศ รองประธาน
ผศ.วินัย ไชยอุดม รองประธาน
นายแพทย์ ทรงพล วงศ์สุวรรณ กรรมการ
นาง นารีรัตน์ สังขปานันท์ ประชาสัมพันธ์
นาง เผด็น ศรีจริยา ประชาสัมพันธ์
ผศ. อัจฉรา ไชยอุดม ประชาสัมพันธ์
นางศมนฐิกร มณีวรรณ ประชาสัมพันธ์
นาวสาว สิญจ์นภัส มณีวรรณ ประชาสัมพันธ์
นางฉวีวรรณ คงชีพ ประชาสัมพันธ์
นาง พรวิมล ราชพัฒน์ กรรมการและเหรัญญิก
นาย สุรสิทธิ์ เหลืองสุวรรณ กรรมการผู้ช่วยเหรัญญิก
นางกมลวรรณ หิรัญรัตน์ กรรมการและเลขานุการ
นาย สะอาด พรหมภักดี กรรมการผู้ช่วยเลขานุการ
ประธานที่ปรึกษาโครงการฝ่ายสงฆ์
พระราชสุเมธี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเลย (ธ.) วันภูตูมวราราม
พระราชวีราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดเลย(ม.) วัดศรีบุญเรือง
พระปิยะทัสสี รองเจ้าคณะจังหวัดเลย(ธ.)วัดป่าผาเจริญ
กรรมการที่ปรึกษาและอุปถัมป์โครงการฝ่ายสงฆ์
พระนิเทศศาสนคุณ สิริปัญโญ (สมาน แสงศรี)
พระสุวรรณธีราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเลย(ม.)วัดศรีวิชัยวนาราม
พระอาจารย์ขันตี ญาณวโร วัดป่าม่วงไข่(ธ.)
พระอาจารย์ผจญ อสโม วัดป่าศิริบุญญาราม(ธ.)
พระอาจารย์นิพนธ์ อภิปสนโน วัดป่าบ้านศาลาน้อย(ธ.)
พระอาจารย์อุทัย ฌาณุตโม วัดป่าห้วยลาด
พระอาจารย์เกรียงไกร โฆสธัมโม วัดป่าภูฝาง
พระอาจารย์อร่าม ชินวโส วัดถ้ำแกลบ
พระอาจารย์พัน ฐิตธัมโม วัดป่าสันติธรรม(ธ.)
พระอาจารย์บุญถม อุทยญาโณ วัดถ้ำข้าวสารหิน(ธ.)
พระครูสังวรกิตติวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอภูกระดึง วัดผาสุการาม
พระครูสิริวัฒนา เจ้าคณะอำเภอวังสะพุง(ธ.) วัดป่าประชาสรรค์
พระครูวีรญาณโสภณ วัดป่าสัมมนานุสรณ์
พระอาจารย์ทองผุด ญาณวโร วัดป่าภูเขาดิน
พระอาจารย์สงกรานต์ สุทธิธัมโม วัดห้วยปลาดุก
พระครูภาวนาวิสุทธาภรณ์ รองเจ้าคณะอำเภอด่านซ้าย วัดเนรมิตวิปัสสนา
คณะกรรมการจัดตั้งกองทุนฝ่ายสงฆ์
พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน) เจ้าคณะจังหวัดเลย (ธ.)วัดศรีอภัยวัน
พระครูกิตติสารสุมณฑ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองเลย(ธ.)วัดศรีสุทธาวาส
พระครูประโชติปัญญาวุธ เจ้าคณะอำเภอด่านซ้าย(ธ.)วัดป่าศิริรุ่งเรือง
พระครูวีรวงศ์วิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอนาด้วง(ม.) วัดวีรราษฎร์บำรุง
พระอาจารย์เสนีย์ สมจิตโต วัดป่าโคนผง
พระอาจารย์เสรี อธิสโร วัดป่าภูคำเป้
พระครูสุทัศน์ธรรมสุนทร เจ้าคณะอำเภอเชียงคาน(ธ.)
พระครูกิตติวิสุทธิธรรม รองเจ้าคณะอำเภอวังสะพุง(ธ.)วัดป่าศรัทธาราม
พระครูปริยัติสัจจญาณ ผู้อำนวยศูนย์บริการวิชาการวิทยาเขตศรีล้านช้าง
พระมหาวัฒนา สุรจิตโต ผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์ศรีล้านช้าง
พระครูปลัดรัศมี ชุตินธโร เลขาณุการเจ้าคณะจังหวัดเลย(ธ.)
พระมหาพุฒิพงศ์ สิริภิญโญ พระปริยัตินิเทศ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ลำดับขั้นการดำเนินงาน

<TABLE class="sites-layout-name-one-column sites-layout-hbox" cellSpacing=0 xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"><TBODY><TR><TD class="sites-layout-tile sites-tile-name-content-1">

พิธีเปิดโครงการ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551



​

​

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการ

​

นพ.ไพฑูรย์ ลำมะยศ กล่าวรายงาน​

​

​

พระนิเทศศาสนคุณ สิริปัญโญ (สมาน แสงศรี) ประธานฝ่ายสงฆ์

​

​

พระอาจารย์สมาน แสงศรี ทำพิธีเจิมป้ายโครงการ

​

นพ.ไพฑูรย์ , นพ.บุญชัย(ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองเลยราม),คุณฉวีวรรณ
นำชมห้องพักสำหรับพระสงฆ์อาพาธ

​

พระสงฆ์ทั้ง 9 รูปที่ได้มาทำพิธิสงฆ์ ในวันเปิดโครงการ

​

​

นพ.สมบัติ แสนทอง , นพ.บุญชัย จิตตนาสวัสดิ์ , นพ.ไพฑูรย์ ลำมะยศ ร่วมกับ ฆราวาสท่านอื่น
ถ่ายภาพร่วมกับพระสงฆ์

​

คณะกรรมการท่านอื่น เช่น
นางศมนฐิกร มณีวรรณ,นางกมลวรรณ หิรัญรัตน์,ผศ.วินัย ไชยอุดม, นายสุรสิทธิ์ เหลืองสุวรรณ,,คุณฉวีวรรณ และบุตรสาว ,นาวสาวสิญจ์นภัส มณีวรรณ
​

​

​

พระอาจารย์สมาน นั่งสนทนา กับ นพ.บุญชัย (ผู้อำนวยการ โรงพยาบาล เมืองเลย ราม) , ผศ.วินัย ไชยอุดม,คุณฉวีวรรณ และบุตร
​

​

พระอาจารย์สมาน , หลวงปู่อร่าม สนทนากับคณะกรรมการ (นพ.สมบัติ แสนทอง , นพ.ไพฑูรย์ ลำมะยศ , นพ.บุญชัย จิตตนาสวัสดิ์,คุณฉวีวรรณ)​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

staffs

 

จัด-ทอดผ้าป่าฯ ช่วยสงฆ์อาพาธ


<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD>ข่าวแวดวงคณะสงฆ์ </TD></TR></TBODY></TABLE>นายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันรูปแบบการทำนุบำรุงหรือส่งเสริมพระพุทธศาสนาสามารถดำเนินการได้หลายวิธี อาทิ บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะและถาวรวัตถุ เป็นต้น
ขณะเดียวกันมีพระสงฆ์ผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจำนวนไม่น้อยที่ประสบ ปัญหาด้านสุขภาพ อาพาธจนไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ ต้องเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลมหาสารคาม ซึ่งพระสงฆ์อาจเกิดความไม่สะดวกด้านปัจจัยการรักษาหรือขาดเครื่องใช้สอยที่จำเป็น ในการนี้ มูลนิธิสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลมหาสารคาม เห็นว่าการมีส่วนช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธจากโรคต่างๆ ให้บรรเทาหรือหายจากอาการเจ็บป่วย จะเป็นบุญกุศลอันแรงกล้า ส่งผลต่อการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงยั่งยืน จึงได้ดำเนินการจัดพิธีทอดผ้าป่ามหากุศล เพื่อหารายได้สมทบทุนสงเคราะห์พระสงฆ์ที่อาพาธ ทอดถวาย ณ วัดอภิสิทธิ์ อ.เมือง จ.มหาสารคาม นอกจากนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถสนับสนุนด้วยการบริจาคเงินสมทบมูลนิธิพระสงฆ์อาพาธ โดยการบริจาคผ่านโรงพยาบาลมหาสารคาม ได้ที่ฝ่ายการเงิน ชั้น 3 อาคารผู้ป่วยนอก หรือสอบถามรายละเอียดโทร.0-4374-0993 ต่อ 209