เรียงอันดับการเกิด คน นรกสวรรค์ เปรต สัตว์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย noum77, 23 กันยายน 2013.

  1. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    เข้าเรียงอย่างนี้ถูกหรือเปล่าครับ อย่างพวกเราเนี่ยถ้าตายไปถ้าทำเลวมากๆก็ไปใช้กรรมที่นรกก่อน เหลือเศษกรรม ก็ไปเป็นเปรต อสุรกาย เเละก็ไปเป็นสัตว์ เเล้ค่อยวนเป็นคนอีกรอบนึง ถ้าเป็นอย่างนี้พวก หมา เเมว กา ไก่ อีกหน่อยพวกนี้เค้าก็ไปดีกว่าคนเราใช่หรือเปล่าครับ
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    ไม่ใช่ครับ การได้เกิดเป็นอะไรๆในที่ใหนๆนั้น ไปด้วยบุญและบาปเป็นปัจจัย ไม่ได้เวียนไปเหมือนการเลื่อนชั้นเรียนหนังสือ หรือเข้าคิวอะไรอย่างที่ท่านแสงเทียนเข้าใจครับ..


    อย่างพวกที่ไปนรก เปรต เดรัจฉาน นั้น ขอบอกว่า"ยากส์มากส์"ที่จะได้กลับมาเกิดในสุคติภูมิ มีมนุษยภูมิเป็นต้น เว้นไว้แต่จะมีบุญใหญ่มีกำลังมากมาฉุดดึงออกมาได้..เพราะในอบายภูมินั้น สัตว์ในอบาย ไม่มีโอกาสหรือมีก็น้อยเต็มทีที่จะได้ทำบุญอะไรๆ...ตลอดเวลามีแต่เหตุปัจจัยให้ทำแต่บาป มีโลภะโทสะโมหะ กลุ้มรุม ต้องคอยหนีตายบ้าง หิวกระหาย ตื่นกลัวภัยฯลฯตลอด เวลา จะได้เข้ามานั่งถามปัญหาธรรมะในเว็บพลังจิตนั้น ไม่ใช่ฐานะเลย...

    สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ได้เกิดมาใช้วิบากกรรมอย่างเดียว ต่างทำกรรมใหม่เพื่อการเกิดตลอดเวลาจึงเพิ่มพูนภพชาติที่ต้องเวียนตาย-เกิดนับไม่ถ้วน จึงเรียกว่าสังสารวัฏอันหาที่สุดไม่พบ..

    เว้นแต่ผู้ที่ได้สดับพระธรรมของพระพุทธเจ้า แล้วปฏิบัติตามจนบรรลุมรรคผลเท่านั้นที่สามารถทำลายการเกิดได้..
     
  3. Youkai

    Youkai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,683
    เรื่องที่ ๕๖ ตายจากคนที่ “ความชั่วมีมาก ความดีไม่ปรากฎ” แล้วไปเกิดเป็นเทวดา


    “..ท่านสุปติฎฐิตเทพบุตร ท่านทำกรรมชั่วหนักมากเรียกว่า “ความชั่วมีมาก ความดีไม่ปรากฎ” แต่ท่านไม่มีโอกาสลงนรก ก็เพราะตอนที่ใกล้จะตาย ท่านนึกถึงความชั่วของท่านได้ ท่านมีความทุกข์หนัก จิตเลี้ยวเข้าไปหาพระรัตนตรัยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน คิดว่าเขาเล่าลือกันว่า “พระพุทธเจ้าช่วยคนที่มีความทุกข์ให้มีความสุขได้ ก็เลยนึกถึงความดีของพระพุทธเจ้า นึกถึงคำว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ ขอบารมีพระพุทธ ขอบารมีพระธรรม ขอบารมีพระสงฆ์ จงช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด” จิตจับอยู่ในไตรสรณาคมณ์ เมื่อตายแล้วจิตออกจากร่างกลายเป็นเทวดา เลยไม่ได้รับผลของความชั่ว ตอนที่เป็นเทวดาขณะที่พระพุทธเจ้าไปเทศน์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ บนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ปรากฎว่าท่านสุปติฎฐิตเทพบุตรจะต้องจุติพอดี ท่านอากาสจารีเทพบุตร ก็เข้าไปเตือน ท่านจึงมองดูตัวของท่านว่าท่านตายจากเทวดาแล้วท่านจะไปไหน เพราะเทวดามีอารมณ์เป็นทิพย์จึงรู้สถานที่ไป ก็ทราบชัดว่าเมื่อจุติจากเทวดาแล้วก็ต้องไปเกิดในอเวจีมหานรกระยะเวลา ๑ กัปตามอายุของอเวจี เมื่อออกจากอเวจีมหานรกแล้วก็มาผ่านนรกบริวารอีก ๔ ขุม เมื่อพ้นจากนรกบริวาร ๔ ขุมแล้วก็ต้องมาตกยมโลกียนรกอีก ๑๐ ขุม เพราะท่านทำกรรมหนักคือ กรรมในยมโลกียนรกมีกี่อย่างท่านทำหมด เมื่อพ้นจากยมโลกียนรก ๑๐ ขุมแล้วก็ต้องมาเป็นเปรตตามลำดับ ๑๒ จำพวก พ้นจากเปรต ๑๒ จำพวกแล้วก็มาเป็นอสุรกาย เมื่อพ้นจากความเป็นอสุรกายแล้วก็มาเป็นสัตว์เดรัจฉานคือ เป็นแร้ง ๕๐๐ ชาติ เป็นกา ๕๐๐ ชาติ เป็นสุนัขบ้า ๕๐๐ ชาติ เมื่อพ้นจากความเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วก็มาเกิดเป็นคนคือ เป็นคนหูหนวก ๕๐๐ ชาติ เป็นคนตาบอด ๕๐๐ ชาติ เป็นคนบ้า ๕๐๐ ชาติ เป็นคนพิการง่อยเปลี้ยเสียขา ๕๐๐ ชาติ จึงจะมาเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์

    เมื่อท่านรู้กฎของกรรมของท่านแล้วท่านก็ตกใจ จึงบอกให้อากาสจารีเทพบุตรช่วย ท่าน อากาสจารีเทพบุตรก็บอกว่า “เราก็เป็นเทวดาเหมือนกันจะช่วยท่านอย่างไร คนที่จะช่วยได้ก็เห็นจะมีท่านพระอินทร์องค์เดียว” ก็เลยพากันไปหาพระอินทร์ พระอินทร์ก็เลยบอกว่า “ฉันก็เป็นเทวดาเหมือนท่านช่วยไม่ได้ ท่านที่จะช่วยได้ก็คือ พระพุทธเจ้า เวลานี้พระองค์กำลังมาแสดงพระธรรมเทศนาอยู่ที่พระแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์” ต่างก็พากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระอินทร์ก็กราบทูลเรื่องราวของสุปติฎฐิตเทพบุตรให้พระพุทธเจ้าทราบ พระพุทธเจ้าทรงทราบด้วยอำนาจพระพุทธญาณว่า “เทวดาองค์นี้มีกรรมหนัก สมัยเป็นมนุษย์เป็นมิจฉาทิฐิอย่างหนัก แต่มาเป็นสัมมาทิฐิชั่วเวลาไม่กี่นาที คือเวลาใกล้จะตาย จิตน้อมเข้ามาเคารพในคุณพระรัตนตรัย”

    การเปรียบเทียบบาปกับบุญ

    เรื่องนี้มีคนถามมาหลายคนว่า ทำบาปมาตั้งมากมายแต่ทำบุญนิดเดียวแล้วจะไปสวรรค์ได้อย่างไร ก็ขอเอาถ้อยคำของพระนาคเสนกล่าวตอบพระยามิลินท์มาให้ทราบ พระนาคเสน ท่านเปรียบบาปมีอุปมาเหมือนก้อนหิน บุญมีอุปมาเหมือนเรือ เรือจะใหญ่มากใหญ่น้อยจอดลอยไว้ ก้อนหินจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ถ้าเอาก้อนหินโยนลงไปในเรือ เมื่อหินตกลงไปในเรือแล้วหินจะจมน้ำไม่ได้ แต่ถ้าเราเอาก้อนหินโยนลงไปในน้ำหินมันก็จม การที่หินในเรือไม่จมก็เพราะเรือขวางไว้ ข้อนี้มีอุปมาฉันใดจิตใจของคนก็เหมือนกัน ที่พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า “จิตเต สังกิลิฎเฐ ทุคติ ปาฏิกังขา” ถ้าจิตออกจากร่างมีอารมณ์เศร้าหมองก็ไปสู่ทุคติ คือ อบายภูมิ ๔ มีนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน “จิตเต ปริสุทเธ สุคติ ปาฏิกังขา” ถ้าเวลาจิตจะออกจากร่างมีความบริสุทธิ์ นึกถึงสิ่งที่เป็นกุศลก็ไปสู่สุคติ คือสวรรค์ก่อน ถ้าหมดอำนาจของความดีคือบุญ ก็จะกลับมารับโทษตามเดิม เว้นไว้แต่บำเพ็ญบารมีต่อ ข้อนี้อุปมาได้เหมือนกับคนเรา ถ้าเป็นหนี้เขามากๆ เจ้าหนี้เขาทวง ดีไม่ดีใช้หนี้เขาไม่หมดจะต้องติดตะรางแทนหนี้ แต่ในขณะที่เจ้าหนี้ทวงอยู่นั้น บังเอิญเราถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ สัก ๒–๓ ใบ มีทุนใหญ่แล้วไม่ชำระหนี้ หนีเจ้าหนี้ไปอยู่ต่างประเทศ เจ้าหนี้ก็ไม่มีโอกาสจะทวงได้ เราก็เป็นสุขสบายเพราะทรัพย์สินที่เรามีอยู่ แต่ถ้าหากว่าเราไม่ไปก่อร่างสร้างตัวให้เป็นผู้มีอันจะกินต่อไป กินทุนเก่าถ้าหมดทุนกลับมาที่เก่าเมื่อไร เจ้าหนี้ทวงใหม่ เมื่อนั้นก็จะมีโทษตามที่เราเป็นหนี้เขา ข้อนี้มีอุปมาฉันใด เรื่องบุญกับบาปก็เหมือนกัน

    พระพุทธเจ้าทรงทราบว่า สุปติฎฐิตเทพบุตรคนนี้ สมัยที่เป็นมนุษย์เป็นมิจฉาทิฐิอย่างหนัก คือ เกิดมาตั้งแต่เด็กพอทำงาน แกก็มีปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตลอดเวลา วันดีไม่ละวันพระไม่เว้น ฆ่าสัตว์เป็นอาจิณกรรม อทินนาทานลักขโมยเขา ถ้ามีโอกาสก็เอามาก กาเมสุมิจฉาจาร ท่านชอบจริงๆ ผู้หญิงสาวๆ เด็กๆ ท่านก็ชอบมาก ปรนเปรอด้วยเงินด้วยทอง มุสาวาทเป็นปกติ การดื่มสุราเมรัยเป็นเกมกีฬา ใครเขามาบอกบุญบอกทาน วัดโน้นเขาจะสร้างนั่น วัดนี้เขาจะสร้างนี่ ไปทำบุญตรุษ ไปทำบุญสงกรานต์ แกเห็นแล้วแกล้งทำไม่เห็น ได้ยินแล้วแกล้งทำไม่ได้ยิน ดีไม่ดีพระเทศน์ก็ส่งเสียงกลบ ทำลายพระธรรมเสียอีก ฉะนั้นถ้าพระองค์ไม่ช่วย เธอจุติจากความเป็นเทวดาแล้วจะต้องไปตกอเวจีมหานรกไล่มาตามลำดับ พอมาเป็นคนก็เป็นคนหูหนวก ๕๐๐ ชาติ เพราะกฎของกรรมที่คนเขาบอกบุญได้ยินแล้วแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เวลาพระเทศน์หรือพระสวดแกล้งส่งเสียงกลบให้คนอื่นฟังไม่ชัด

    ต่อจากนั้นก็ต้องเป็นคนตาบอด ๕๐๐ ชาติ เพราะใครมาบอกบุญบอกทาน เห็นแล้วแกล้งทำเป็นไม่เห็น แล้วก็มาเป็นคนบ้า ๕๐๐ ชาติ ก็เพราะดื่มสุราเมรัย หลังจากนั้นก็มาเป็นคนพิการง่อยเปลี้ยเสียขา ๕๐๐ ชาติ เพราะโทษปาณาติบาตที่ทำไว้มาสนับสนุน เป็นเศษของกรรมจึงจะหมด พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาด้วยอำนาจพระพุทธญาณว่า “ถ้าเทศน์อภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ ท่านสุปติฎฐิตเทพบุตรจะไม่ได้พระโสดาบัน จะต้องไปเกิดในอเวจีมหานรก เพราะว่ามีกรรมหนัก จริตไม่พอกับพระอภิธรรมคือ มีอารมณ์หยาบมาก แต่ถ้าเทศน์อุณหิสวิชัยสูตร เมื่อฟังแล้วจะตรงกับอัธยาศัย พอเทศน์จบก็จะได้พระโสดาบัน โทษทัณฑ์ทั้งหมดจะถูกปิดคือ ไม่มีโอกาสจะลงโทษได้ เพราะว่าพระโสดาบันนั้นเกิดเป็นเทวดาแล้วก็เกิดแค่มนุษย์ ถ้ายังไม่ไปพระนิพพานจุติลงมาเป็นมนุษย์ แล้วก็เกิดเป็นเทวดาหรือพรหม

    พระโสดาบันมีอารมณ์หยาบ เกิดเป็นมนุษย์ ๗ ชาติ ไปพระนิพพาน
    พระโสดาบันมีอารมณ์อย่างกลาง เกิดเป็นมนุษย์ ๓ ชาติ ไปพระนิพพาน
    พระโสดบันมีอารมณ์อย่างละเอียด เกิดเป็นมนุษย์ ๑ ชาติ ไปพระนิพพาน

    ฉะนั้นโทษทัณฑ์ทั้งหลายที่จะต้องตกนรก ไปเป็นเปรต ไปเป็นอสุรกาย ไปเป็นสัตว์เดรัจฉานไม่มี แต่ทว่าการมีขันธ์ ๕ เป็นคนก็ต้องพบกับเศษของอกุศลกรรม ในฐานะที่มีร่างกายเป็นเครื่องรับ เมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงเทศน์อุณหิสวิชัยสูตร พอเทศน์จบท่านสุปติฎฐิตเทพบุตรก็เป็นพระโสดาบัน เป็นเทวดาต่อไปจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ท่านก็ยังไม่ได้จุติ

    เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของบุคคลผู้ทำความชั่วมามากแต่ว่ามีความดีนิดหนึ่งก่อนจะตาย เมื่อเป็นเทวดาก็ประมาทในความดี หลงระเริงจนตัวเองจะต้องมารับผลของความชั่ว แต่ว่าได้ดีเพราะท่านอากาสจารีเทพบุตรไปเห็นวิมานเศร้าหมอง เครื่องทิพย์เศร้าหมอง เหงื่อไหลจากรักแร้ ตามธรรมดาเทวดาจะมีเครื่องทิพย์ผ่องใสอยู่เสมอ วิมานก็ผ่องใส เหงื่อไม่มี ถ้ามีเหงื่อเมื่อใด เครื่องทิพย์เศร้าหมองเมื่อใด ก็แสดงว่าเทวดาองค์นั้นจะต้องตายเป็นกฎของเทวดา แต่ท่านสุปติฎฐิตเทพบุตรยังมีบุญอยู่ อาศัยองค์สมเด็จพระบรมครูทรงช่วยจึงพ้นจากนรกไป เมื่อเป็นพระโสดาบันได้แล้วก็ชื่อว่ามีความสุขพ้นจากแดนอบายภูมิแน่นอน..”


    จากหนังสือตายแล้วไปไหน โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2013
  4. Youkai

    Youkai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,683
    เป็นดังที่คุณ ddman ว่าตายแล้วจะไปที่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับจิตก่อนตายค่ะ หากก่อนตายนึกถึงบุญกุศลก็ไปสุคติภูมิ หากนึกถึงบาปที่เคยทำก็ไปอบายภูมิ ลองหาหนังสือตายแล้วไปไหนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาอ่านดูค่ะ เสริมความรู้ดี หรือลองอ่านจากลิงค์นี้ก็ได้ค่ะ

    แสดงกระทู้ - “ตายแล้วไปไหน” โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ • ลานธรรมจักร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2013
  5. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ถ้าเป็นอย่างนี้พวก หมา เเมว กา ไก่ อีกหน่อยพวกนี้เค้าก็ไปดีกว่าคนเราใช่หรือเปล่าครับ

    ไม่แน่นอนครับ ถ้าเราทำดีกว่าเราก็ไปดีกว่าเขา เพราะเรามีร่างกายที่เหมาะที่จะสร้างกรรมมากกว่าสัตว์ ซึ่งพร้อมจะทำดีก็ได้ ทำชั่วก็ได้ เพราะหมาแมว นั่งสมาธิไม่ได้ ไม่มีสติปัญญาที่จะเข้าใจพระธรรม แต่ก็ด้วยเหตุผลนี้เราอาจสร้างกรรมหนักได้ เช่น ด่าพระ ก่อวินาศกรรม ซึ่งนับเป็นความโชคดีของสัตว์อยู่บ้าง ที่เกิดมาเพื่อรับกรรมอย่างเดียว พอใช้กรรมหมดก็ไปรับกรรมดีที่ได้ทำไว้ แต่ที่น่ากลัวที่สุดเป็นพวกเทวดานางฟ้าที่ทำชั่วไว้มาก แต่จิตสุดท้ายนึกถึงความดี พวกนี้ถ้าเผลอไม่สร้างความดีต่อ ใช้บุญหมดเมื่อไหร่ ก็พุ่งหลาวลงนรกไปเลย ดังนั้นพวกนี้จึงต้องลงมาเกิดอย่างเดียว เพื่อหวังว่าจะได้สร้างบารมีต่อ

    โมหะ เกิดเป็นเดรัจฉาน
    โลภะ เกิดเป็นเปรต
    โทสะ เกิดเป็นสัตว์นรก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2013
  6. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    กระทู้นี้ดีจังเลยครับ ให้ 10 เต็ม 10 ครับ

    เอ้ยผมโพสได้แล้วหรอ อุ้ย ลืมตัว 55555
     
  7. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ถ้าไปนรกโดยไม่มีบุญแทรก ไม่มีญาติอุทิศบุญให้เลย ก็ขึ้นมาเรียงตามนั้นแหละ
    ยกเว้นภูมิอสุรกาย อาจจะไปแทรกตรงไหนก็ได้ ภูมิอสุรกายมันกว้างมาก
     
  8. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    แล้วถ้าทำบุญไว้มาก แต่คิดอกุศลตอนตาย จะต้องตกนรก แล้วไปสวรรค์ต่อใช่ไหมครับ

    แล้วถ้าหมดอายุขัยในสวรรค์แต่บุญยังไม่หมดก็มีโอกาสเกิดที่สวรรค์อีกรอบใช่ไหมครับ

    ผมเข้าใจถูกไหมครับ ช่วยอธิบายที

    ขอบคุณครับ
     
  9. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    เมื่อน้องไผ่จำใจจำเป็นต้องไปนรกก่อน.เพราะตายด้วยอกุศลจิต.. หากไม่มัววิ่งหนีนายนิรยบาลหรืออีกาปากเหล็กจนสติแตกกระจายไปในนรก ..พอจะมีเวลาคิดถึงบุญที่เคยทำไว้ได้ ครั้นถูกนายนิรยบาลฆ่าตายด้วยหอกหรือขวานก็ตาม จิตคิดถึงบุญได้ในเวลานั้น .. ก็จะไปสุคติภูมิได้จะเป็นมนุษยภูมิหรือสวรรค์ก็แล้วแต่ความสมควรแห่งบุญของน้องไผ่นะครับ...

    แต่ถ้าจิตกระเจิง เป็นไปกับความกลัว คิดว่าจะหนีไปทางไหนดี อยู่ตลอดเวลา แม้ตายลงก็เวียนอยู่ในนรกแล้วๆเล่าๆ เพราะเมื่อกลัว๑ขณะ ก็ทำบาปกรรมให้ตน๑ครั้ง สะสมแต่บาปไว้ท่วมหัวเช่นนั้น จะพ้นอบายได้คงลำบากมากทีเดียว...ดังได้กล่าวแต่แรกแล้วว่าหากไม่มีบุญใหญ่มีกำลังมาช่วยแล้ว ขังลืมแน่งานนี้!!

    ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าไปเลยดีที่สุด..
     
  10. ฮาทณัฐพล

    ฮาทณัฐพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +253
    แล้วสมัยนี้เทวดาจะต่ออายุตัวเองอย่างไรครับ
    พระพุทธเจ้า นิพพานแล้วครับ
     
  11. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
  12. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณมาก copy มันมือไปหน่อย
     
  13. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ต่อได้ขอรับ ด้วยการทำบุญเพิ่มเติม เทวดาสวดมนต์ได้ เทวดาตักบาตรได้ เทวดาอนุโมทนาบุญได้ เทวดาฟังเทศนาได้ ทำบุญไปเรื่อยๆ ก็หนีนรกไปเรื่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2013
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017

แชร์หน้านี้

Loading...