เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 25 กุมภาพันธ์ 2006.

แท็ก: แก้ไข
  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"บะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง" เส้นเหนียวนุ่ม หมูแดงนิ่ม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มีนาคม 2549 16:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งกินในร้านบะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เพราะความโหยหาอยากกินบะหมี่-เกี๊ยว ซดน้ำซุปร้อนๆ "ผ่านมาแวะกิน"จึงออกเสาะหาร้านบะหมี่-เกี๊ยวรสเด็ด มาสนองความอยากของตนเองสักหน่อย

    และก็ได้มาเจอะเข้ากับร้าน"บะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง" ตรงถ. ลูกหลวงเรียบคลองผดุงกรุงเกษมเข้า ที่แค่เดินผ่านหน้าร้านก็ได้กลิ่นหอมๆ ของน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวลอยมาเตะจมูก ยั่วยวนให้เข้าไปชวนลิ้มลองยิ่งนัก

    พอเดินเข้ามาในร้านหาที่นั่งได้เหมาะเจาะ ก็ไม่รอช้าสั่งเมนูบะหมี่-เกี๊ยวมาสนองความอยากทันที ซึ่งที่ร้านนี้เขามีขายแต่เส้นบะหมี่กับเกี๊ยวเท่านั้น และก็มีแต่หมูแดงกับปูให้เลือกสั่ง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกี๊ยวน้ำปูหมูแดง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ฉะนั้นเราจึงสั่ง เกี๊ยวน้ำปูหมูแดง (30 บาท) มากินเป็นชามแรก น้ำซุปหอมๆ กับเกี๊ยวลูกโตกำลังดี มีเนื้อปูกับหมูแดงใส่มา ตักชิ้นเกี๊ยวส่งเข้าปากสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มของแผ่นเกี๊ยวเนื้อบาง และไส้เกี๊ยวเป็นเนื้อหมูกับเนื้อกุ้งผสมกันที่มีรสชาติกลมกล่อมเข้ากัน ซดน้ำซุปร้อนๆ ที่หอมหวานคล่องคอพร้อมกับตักชิ้นเกี๊ยวเคี้ยวนุ่มปาก โดนใจปากมากๆ ขอบอก เรียกว่าจัดการไม่เหลือคราบ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่หมูแดง (ล่าง) บะหมี่ปู (บน)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เลยต้องรีบสั่งเมนูต่อไปตามมาติดๆ เป็น บะหมี่หมูแดง (25 บาท) บะหมี่เหลือง เส้นกลมเล็กๆ มีหมูแดงชิ้นหนากำลังดีใส่มา บะหมี่ของที่นี่เคี้ยวแล้วเหนียวนุ่มปาก เพราะว่าทางร้านคัดบะหมี่ไข่ที่สั่งมาเป็นพิเศษ นำมาลวกด้วยน้ำร้อนเดือดๆ จนสุก แล้วก็จุ่มด้วยน้ำเย็นอีกที และก็กลับมาลวกด้วยน้ำร้อนอีกครั้ง จึงทำให้เส้นบะหมี่นั้นเด้งอยู่ตัว ไม่เละ ไม่แฉะ และเหนียวนุ่มได้ที่ ส่วนหมูแดงทางร้านเลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันคอนำมาหมักกับเครื่องปรุง และเครื่องเทศ โดยที่ไม่ใส่สีผสมอาหาร และนำไปอบด้วยเตาถ่านจนหมูสุก ออกมาเป็นหมูแดงที่หอม เนื้อนุ่มนิ่มออกรสหวานกลมกล่อมในตัว กินเข้ากันดีกับบะหมี่เส้นเหนียวนุ่ม

    สุดท้ายขอปิดมื้ออิ่มด้วย บะหมี่ปู (25 บาท) อีกหนึ่งชาม เป็นบะหมี่เหลืองเส้นเหนียวนุ่มอีกเช่นเคย แต่ว่าใส่เนื้อปูขาวๆ ซึ่งเป็นปูทะเลที่ทางร้านเลือกมาอย่างดี และนำมานึ่งจนสุกอีกที เนื้อปูที่มีรสชาติหวานอยู่ในตัว กินคู่กับบะหมี่เส้นนุ่ม เหนียว ขอบอกว่าสุดยอดต้องมาลอง

    และนอกจากนี้ก็ยังมีอีกสารพัดเมนูบะหมี่-เกี๊ยวให้เลือกสั่ง อาทิ เกี๊ยวหมูแดง (25 บาท) เกี๊ยวปู (25 บาท) บะหมี่ปูหมูแดง (30 บาท) เกี๊ยวปูหมูแดง (30 บาท) บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง (30 บาท) บะหมี่เกี๊ยวปู (30 บาท) บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง (35 บาท) เรียกว่าอิ่มหนำโดนใจปากผู้ที่รักบะหมี่-เกี๊ยวกันไปหากว่าได้ลองแวะมาชิมกัน


    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *


    คลิก!!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "บะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง"


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เด็กเส้น" สารพัดเส้นรสเด็ด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 พฤศจิกายน 2548 14:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้าน "เด็กเส้น" นั่งกินก๋วยเตี๋ยวในห้องแอร์เย็นๆ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หากพูดถึงคำว่า "เด็กเส้น" ขึ้นมา คิดว่าหลายคนคงจะนึกถึงความหมายไปในทางที่ไม่ค่อยดี ประมาณว่า พวกที่ชอบใช้เส้นใช้สายในการทำงาน หรือทำการใดๆ เพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จ

    แต่ผิดกันกับความหมายของ "เด็กเส้น" ที่ "ผ่านมาแวะกิน" จะพูดถึงในมื้อนี้กลับเป็นความหมายที่ดี ที่หมายถึงการอิ่มกายสบายท้อง เพราะ "เด็กเส้น" ที่ว่านี้ เป็นชื่อของร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ร้านหนึ่งที่มีคุณ บุณย์สิยา กฤดาภร เป็นเจ้าของร้าน

    ซึ่งร้านนี้เน้นขายก๋วยเตี๋ยวนานาชนิด ชนิดที่ว่ามีก๋วยเตี๋ยวมากมายกว่า 108 เมนูก็ว่าได้ และเมนูก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่เน้นหนักไปทางก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสจัดจ้าน ที่หากเป็นเป็นคอก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้วล่ะก็ ขอบอกว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ กับสารพัดเมนูก๋วยเตี๋ยวของที่นี่ที่มีให้กินกัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มาม่าไข่ต้มยำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เพราะแค่ลำพังเส้นก๋วยเตี๋ยวก็มีหลากหลายเส้นให้เลือกสั่งมากิน มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ขาว บะหมี่ วุ้นเส้น มาม่า และเส้นจันทร์ ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็มีสารพัดรายการ เอาที่ "ผ่านมาแวะกิน" เลือกสั่งมาลองลิ้มก็มี มาม่าไข่ต้มยำ (45 บาท) หน้าตาดีชวนกิน มีไข่ต้มสุกเหมือนไข่ดาวโป๊ะมาบนเส้นมาม่า และก็มีหมูหมักใส่มาด้วย แต่ทีเด็ดอยู่ตรงที่น้ำซุปผ่านการปรุงแบบต้มยำมาครบสูตร ชนิดที่ว่าตักน้ำซุปซดเข้าปากเปรี้ยว เผ็ด ได้รสชาติต้มยำ หมูหมักนั้นเนื้อนุ่มได้รสชาติของเครื่องหมัก ส่วนไข่ที่ต้มใส่มาด้วยสุกได้ที่กำลังดี เรียกว่ากินเข้ากับเส้นมาม่า และหมูหมักได้ดี เรียกว่ากินชามนี้เล่นเอาอิ่มท้องไม่น้อยเลย อ้อ! ถ้าไม่ชอบเส้นมาม่าจะเปลี่ยนเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างอื่นก็ได้

    อีกหนึ่งเมนูเป็น ยำก๋วยเตี๋ยวบก (59 บาท) เมนูนี้ขอบอกว่าถ้าสาวๆ กลัวอ้วนสั่งมากินช่างเหมาะนัก เพราะเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ และมีสารพัดผักใส่มา มีทั้งกะหล่ำปลี แครอท แตงกวา กะหล่ำปลีสีม่วง ผักกาดหอม และใบโหระพา ใส่หมูเด้ง และมีถั่วป่น กับกากหมูโรยหน้ามา แล้วก็มีน้ำยำมาด้วย เวลากินก็ราดน้ำยำแล้วคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน ลิ้มรสชาติทั้งผักที่สดกรอบและเส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่ม เข้ากับน้ำยำรสเด็ดออกหวานนำ เปรี้ยว เค็ม เผ็ดนิดหน่อย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ยำก๋วยเตี๋ยวบก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แหมกินไปแค่ 2 เมนูก็เล่นเอาแน่นท้องขนาด แต่อีกใจก็ยังอยากจะกินเมนูอื่นๆ อีก เพราะเห็นจากรายการเมนูแล้วยังมีก๋วยเตี๋ยวที่น่ากินอีกเพียบเลย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวปลากะพงต้มยำสมุนไพร (59 บาท) ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยต้มยำแห้ง (39 บาท) บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงต้มยำแห้งพริกเผา (49 บาท) บะหมี่ซี่โครงหมูตุ๋นอบยอดผัก (49 บาท) ก๋วยเตี๋ยวปีกไก่ตุ๋นตำลึง (49 บาท)

    ของกินเล่นก็มีตั้งหลายอย่าง อาทิ เกี๊ยวทอด (59, 80 บาท) ส้มตำผลไม้ (59 บาท) หมูเด้งลวกจิ้ม (69 บาท) ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งน้ำผลไม้สดปั่น (30-49 บาท) กาแฟสารพัด (45-59 บาท) และมิลค์เชคต่างๆ (49 บาท)

    แต่เห็นทีว่า "ผ่านมาแวะกิน" คงจะกินไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะไม่มีพื้นที่เหลือในกระเพาะแล้ว ขอติดเอาไว้ก่อน รับรองว่าคราวหน้าจะไม่พลาด จะกลับมาจัดการเมนูอื่นๆ ที่ร้าน "เด็กเส้น" ให้หมดเลย

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    คลิกอ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "เด็กเส้น"

    อ่านเรื่องร้านก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
    รสเด็ดโดนใจ "ก๋วยเตี๋ยวไก่นายหาญ"(ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระธนิยะ)
    "ก๋วยเตี๋ยวปลาสดปราจีนบุรี" กินทั้งที ต้องมีดี
    "นายโส่ย" ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเด็ด
    "ก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งเจ้โส่ย" รสแซบถึงใจ
    หมูรสนุ่ม น้ำรสเนียน ก๋วยเตี๋ยว “เจ๊ตุ๊”
    ก๋วยเตี๋ยวเป็ด“ส.รุ่งโรจน์” รสรื่นลิ้น
    ก๋วยเตี๋ยวปลาสดสี่จ่า” ลิ้มรสปลาหลากหลาย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิ่มกระเพาะกับ "กวยจั๊บมิสเตอร์โจ"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 สิงหาคม 2548 12:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลูกค้ากำลังยืนรอกวยจั๊บร้านมิสเตอร์โจ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    หากจะกล่าวว่า กวยจั๊บ เป็นหนึ่งในอาหารที่กินได้กินดีทุกที่ทุกเวลาก็คงจะไม่แปลกนัก เนื่องจากหากกินเวลาเช้าก็ถือเป็นอาหารเช้าที่อุดมด้วยประโยชน์มากมาย หรือหากกินตอนกลางวันก็เข้าทีช่วยหลีกหนีจากรสชาติข้าวแกงเจ้าประจำไปได้ แต่หากเปลี่ยนเวลามากินตอนดึกๆก็ช่วยให้คืนนั้นอุ่นท้องหลับสบายไปได้อีกคืน

    ส่วนจะกินเวลาไหนนั้นถือว่าเป็นจังหวะชีวิตของแต่ละคน สำหรับ "ผ่านมาแวะกิน" ว่า กินกวยจั๊บเวลาหิวดีที่สุด ฮ่าๆๆ

    อย่าง "กวยจั๊บมิสเตอร์โจ" แถวเจริญกรุงที่ขึ้นชื่อลือชาด้านความอร่อย การันตีได้จากระยะเวลาการขายที่ยาวนานมากว่า 40 ปี เปลี่ยนที่ตั้งร้านมาก็หลายครั้งแต่ก็ยังมีลูกค้าขาประจำและตอนหลังๆก็เพิ่มขาจรที่จะแวะเวียนมาหม่ำมิได้ขาด

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กวยจั๊บน้ำใสที่ใส่สารพัดเครื่องในชิ้นโตๆ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า กวยจั๊บมิสเตอร์โจ นี้เป็นกวยจั๊บน้ำใส (ธรรมดา 30 พิเศษ 40 บาท) ที่มีความเด่นตรงที่น้ำซุปในชามจะหนักพริกไทย เวลาซดน้ำแล้วให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน ส่วนเครื่องในของที่นี่จะเน้นชิ้นใหญ่และสดไม่มีกลิ่นคาว ไม่ว่าจะเป็น กระเพาะ ตับ เสี้ยงจี๊ ปอด ม้าม หมูกรอบ เวลาเคี้ยวให้ความรู้สึกเต็มปากเต็ม ส่วนเส้นกวยจั๊บไม่เละแต่เหนียวหนึบหนับเคี้ยวเพลินปากดี

    แต่หากใครอยากกินกับข้าวสวยก็สามารถสั่ง เกาเหลา (ธรรมดา 30 พิเศษ 40 บาท)ได้ ส่วนผสมก็เหมือนกับกวยจั๊บน้ำใสเพียงแต่จะไม่มีเส้นกวยจั๊บเท่านั้น ซึ่งหากใครชอบเครื่องในชนิดไหนเป็นพิเศษก็สามารถเลือกสั่งได้ หรือจะใส่แต่หมูกรอบล้วนก็เข้าที เวลากินกับข้าวสวยร้อนๆซดน้ำซุปตามหมดชามไม่รู้ตัว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมูกรอบที่เนื้อข้างในนุ่ม หนังกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับใครที่ชื่นชอบหมูกรอบเป็นพิเศษ ประมาณว่ากินหมูกรอบในชามกวยจั๊บแล้วยังไม่หนำใจก็สามารถสั่งหมูกรอบมากินเล่นได้ (จานละ 35 บาท)หมูกรอบของที่นี่หนังกรอบ เนื้อข้างในนุ่มไม่เหนียว เวลากินจิ้มน้ำจิ้มซีอิ้ว รสชาติจะออกหวานหน่อยๆ ได้กลิ่นหอมของซีอิ้ว หรือจะกินหมูกรอบเพียวๆก็เคี้ยวกรุบๆมันปากดี

    เอาเป็นว่าหากใครผ่านมาแถวเจริญกรุง อยากจะลองลิ้มกวยจั๊บน้ำใสของร้านมิสเตอร์โจ ก็แวะเวียนกันเข้ามาได้ รับรองว่าได้อุ่นกระเพาะกลับบ้าน อิ่มไปอีกหนึ่งมื้อ

    อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "กวยจั๊บมิสเตอร์โจ" ได้ที่นี่
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งเจ้โส่ย" รสแซบถึงใจ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 พฤษภาคม 2548 15:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศชั้นล่างของร้าน"ก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งเจ้โส่ย" ลูกค้านั่งแน่นร้าน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ขนาดปลายเดือนเมษาฯอย่างนี้ อากาศบ้านเราก็ยังร้อนระอุอยู่ดี ถึงจะมีฝนตกลงบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คลายร้อนสักเท่าไหร่ ทำเอาหลายคนยังบ่นเรื่องอากาศร้อนไม่เลิก ผิดกับ "ผ่านมาแวะกิน" ที่เริ่มทำตัวคุ้นเคยกับอากาศร้อนๆ เพราะไม่ว่าฤดูไหนบ้านเราก็ร้อนไม่แตกต่างกัน

    "ผ่านมาแวะกิน" ว่าอากาศร้อนๆ อย่างนี้ เรามาประชดอุณหภูมิเล่น ด้วยการหาของหม่ำเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับกระเพาะกันดู เอาแบบว่าได้ซดน้ำร้อนๆ ของน้ำซุปอย่างก๋วยเตี๋ยวน่าจะเข้าท่าดี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งทะเลรสแซบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ฉะนั้นมื้อนี้เราเลยพามาหม่ำก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งเจ้โส่ย" ที่นี่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งทะเล (30, 40 บาท) เมนูเด็ดรสแซบที่เจ้โส่ยคิดค้นขึ้นมาเอง เป็นการนำเอาเครื่องต้มโคล้งทั้ง ข่า ตะไคร้ หอมเผา ใบมะกรูด มาปรุงกับน้ำต้มกระดูกหมู เพิ่มความเปรี้ยวด้วยน้ำมะขาม ใส่พริกทอดลงไปด้วย พร้อมใส่เครื่องทะเลมีเนื้อปลาเก๋า ปลาหมึกสด ปลาหมึกแช่ ลูกชิ้นปลา กุ้ง เมนูนี้โดดเด่นตรงความหอมของพริกทอดที่ใส่มาหอมเตะจมูก ลิ้มรสได้ถึงความแซบของเครื่องต้มโคล้งที่ปรุงรสได้เข้มข้น เปรี้ยวนำ เค็มตาม แซบถูกลิ้นไม่ต้องปรุงรสเพิ่ม

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=220 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=220>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟโบราณ (ล่าง) ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล (บน) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล (30, 40 บาท) อีกหนึ่งเมนูรสแซบที่ภูมิใจนำเสนอ รสชาติเด็ดสะระตี่ตรงที่เป็นการปรุงเครื่องต้มยำต่างหาก ใส่พริก น้ำมะนาวคั้นสดๆ และถั่วลิสงที่คั่วและป่นเองใหม่ๆ ได้ทั้งความหอมของมะนาวและถั่ว พร้อมด้วยรสชาติที่เปรี้ยว เผ็ด ถึงใจคนชอบกินเผ็ด แต่สั่งได้ว่าจะเอาเผ็ดมากเผ็ดน้อย

    เมนูปิดท้ายที่ขอแนะนำเป็น ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟโบราณ (25, 30 บาท) เห็นชื่ออย่าแปลกใจที่ว่าโบราณนะไม่มีอะไรมาก เจ้โส่ยตั้งชื่อเก๋ๆ อย่างนั้นเอง เย็นตาโฟที่นี่เน้นเครื่องเย็นตาโฟสดๆ ทั้งกุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้น และเด่นตรงน้ำซอสแดงที่ปรุงเอง รสชาติออก 3 รสกลมกล่อม เปรี้ยว เค็ม หวาน และใส่พริกขี้หนูตำมาให้ด้วยสำหรับคนชอบทานเผ็ด แต่ถ้าไม่ชอบก็บอกว่าไม่ต้องใส่

    แต่ถ้าใครคิดว่าหม่ำก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวจะไม่อิ่ม ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกสั่งมาหม่ำอีก อาทิ เนื้อปลาลวกจิ้ม (30, 50, 100 บาท) ทะเลลวกจิ้ม (50 บาท) ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวมันไก่ทอด (ทุกอย่างจานละ 25 บาท) แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าหม่ำแต่ก๋วยเตี๋ยวแซบๆ ร้อนๆ แล้วจะร้อนตับแตก เพราะร้าน"ก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งเจ้โส่ย" มีที่นั่ง 2 ชั้น ชั้นบนติดแอร์นั่งหม่ำสบายๆ

    การเดินทางไปร้านก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งเจ้โส่ย

    อ่านเรื่องร้านก๋วยเตี๋ยวที่น่าสนใจ

    หลากรสชาติกับก๋วยเตี๋ยวที่ “เย็นตาโฟ นิเวศน์ 2”
    “ลิ้มเหล่าโหงว” มีดีเรื่องก๋วยเตี๋ยว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กรุ่นกลิ่นคั่วไก่เตาถ่าน ที่“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 มีนาคม 2548 16:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศด้านในร้าน โปร่งโล่ง นั่งหม่ำก๋วยเตี๋ยวสบายๆ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> โดยส่วนตัวของ “ผ่านมาแวะกิน” เอง จัดได้ว่าเป็นคนที่ชื่นชอบกินก๋วยเตี๋ยวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวเป็ด และอีกสารพัดก๋วยเตี๋ยว

    และก็มีก๋วยเตี๋ยวอยู่ประเภทหนึ่ง ที่เราได้ลองลิ้มแล้วถึงขั้นติดใจติดปาก ในรสชาติของก๋วยเตี๋ยวที่ไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวประเภทอื่นๆ ตรงที่เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งที่ใช้การผัดแบบคั่วในการปรุงและพิเศษสุดก็ตรงกลิ่นหอมๆ ของก๋วยเตี๋ยวนี่ละที่เป็นเสน่ห์และเพิ่มรสชาติให้ก๋วยเตี๋ยวนี้ชวนกินเอามากๆ

    ใช่แล้ว “ผ่านมาแวะกิน” กำลังหมายถึง “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่” ร้อนๆ ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนน้ำลาย ที่พอนึกถึงทีไรอดน้ำลายสอปากไม่ได้ ทำให้ต้องรีบบึ่งไปหา “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่” หม่ำให้สมอารมณ์อยาก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=260 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=260>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นใหญ่คั่วไก่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับร้านที่เรามักจะแวะเวียนไปกินอยู่บ่อยๆ ก็คือร้าน “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ” ซึ่งร้านนี้มีก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ทีเด็ดอยู่ที่ เป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่ทำแบบจานต่อจาน ที่มีกลิ่นหอมมากๆ โดยทางร้านจะนำไก่ที่ผ่านการหมักเครื่องปรุงเรียบร้อยแล้วมาคั่ว (หรือผัด) ให้สุกก่อนบนเตาถ่าน ซึ่งการคั่วบนเตานี่ละที่ส่งให้กินไก่นั้นหอม และจึงใส่เส้นใหญ่ ลงไปผัดกับไก่ และใส่ไข่ตาม ใส่ปลาหมึกกรอบด้วย ผัดให้เข้ากันจนแห้งกำลังดี

    รสชาติความเด่นของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ร้านนี้ อยู่ตรงที่นอกจากจะหอมกลิ่นคั่วไก่เวลาส่งเข้าปากแล้วนั้น พอลิ้มรสสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเส้นใหญ่ที่ไม่เละ ไม่แห้งจนเกินไป เนื้อไก่นุ่มมีรสชาติในตัว และถ้ายิ่งใส่ซอสพริกกับพริกไทยลงไปอีกหน่อย ช่วยเพิ่มรสชาติเผ็ดลิ้นได้ดีนักเชียว มีให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ และเส้นหมี่ โดยสนนราคาอยู่ที่ ธรรมดาไก่, หมู 25 บาท หากสั่งพิเศษใส่กุ้งก็ 40 บาท


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=260 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=260>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวน้ำ (ใส่กุ้ง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> และหากใครยังไม่อิ่มน่าลองลิ้ม ก๋วยเตี๋ยวน้ำ (ธรรมดาไก่, หมู 25 บาท พิเศษใส่กุ้ง 40 บาท) ที่เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ใส่เส้นใหญ่ หรือเส้นหมี่ ใส่เครื่องแล้วแต่เลือกจะเป็น หมู ไก่ หรือกุ้ง และใส่ปลาหมึกกรอบมาให้ด้วย รสชาตินั้นเด่นตรงน้ำซุปหวาน ซึ่งเป็นน้ำซุปกระดูกไก่ที่ต้มกับฟัก เรียกว่ากินโดยไม่ต้องปรุงก็ได้รสชาติกลมกล่อมลงตัว ซดน้ำซุปร้อนๆ ผ่านคอชุ่มคอดีแท้

    สำหรับใครที่อยากกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กลิ่นหอมๆ ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ” เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ” ตั้งอยู่ที่ 319 ถ.ยุคล 2 แขวงเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จากสี่แยกโรงพยาบาลกลาง ให้ตรงไปถนนยุคล 2 เลยจากสถานีดับเพลิงสวนมะลิมาประมาณ 50 ม. ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ติดริมถนน อยู่ตรงข้ามกับคลินิกครอบครัวรักฟัน เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 10.00-17.00 น. โทร. 0-2223-7505

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หมูรสนุ่ม น้ำรสเนียน ก๋วยเตี๋ยว “เจ๊ตุ๊” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 มกราคม 2548 13:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ช่วงเที่ยงถึงบ่ายจะมีคนมากินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊ตุ๊กันเนืองแน่นแทบทุกวัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เหมือนเป็นประเพณีปฏิบัติไปแล้วที่พอถึงช่วงปีใหม่ทีไร “ผ่านมาแวะกิน” ต้องไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต

    สำหรับปีนี้พอเหตุการณ์ร้ายๆจากสึนามิเริ่มคลี่คลายเราก็เดินทางไปไหว้ “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธชินราช” พระพุทธรูปที่ถูกยกย่องว่างดงามที่สุดในเมืองไทย ที่ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร” หรือ “วัดใหญ่” แห่งเมืองสองแคว จ.พิษณุโลก

    ในปีนี้พระพักต์และพระวรกายของหลวงพ่อใหญ่เปล่งปลั่งเรืองรองรัศมีมาก เพราะทางกรมศิลป์เพิ่งทำการปิดทองหลวงพ่อใหญ่ที่ในรอบร้อยปีจะมีสักครั้งเสร็จไปได้ไม่นาน ทำให้เมื่อสักการบูชาแล้วรู้สึกอิ่มเอิบใจมากๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่น้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่ออิ่มเอิบใจแล้วก็ต้องไปหาอะไรอร่อยๆหม่ำให้อิ่มท้องกันเสียหน่อย ครั้นจะไปกินก๋วยเตี๋ยวยกขาที่ชื่อดังมากแห่งเมืองสองแควก็เคยไปกินมาบ่อยแล้ว เป้าหมายของเราจึงเบนไปที่ก๋วยเตี๋ยวร้าน “เจ๊ตุ๊” ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดใหญ่

    ชื่อเสียงของก๋วยเตี๋ยวเจ๊ตุ๊นี่ถือว่าอยู่ในระดับหัวแถวของเมืองสองแคว เปิดขายมานานกว่า 10 ปี โดยก๋วยเตี๋ยวชามเด่นก็เห็นจะหนีไม่พ้น ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูอ่อน ที่ถือเป็นทีเด็ดของร้านเจ๊ตุ๊เขาเลยหล่ะ เพราะว่าซี่โครงอ่อนหมูเจ๊ตุ๊คัดอย่างดี ตัดเอาพังผืดออก ก่อนจะนำไปตุ๋นในสูตรเฉพาะของเจ๊ตุ๊ที่มีส่วนผสมของสมุนไพร จนหมูเนื้อนิ่มมีกินหอม

    เวลาสั่งก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูอ่อนเจ๊ตุ๊ ทางร้านจะใส่เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวมาชามโตและใส่ซี่โครงมาแบบไม่หวง เมื่อตักกินเนื้อซี่โครงจะนุ่ม แน่น ไม่เปื่อยยุ่ย ส่วนน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่นี่ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้เจ้าไหน เพราะนอกจากจะปรุงรสมากลมกล่อมแบบต้องชิมก่อนเติมแล้ว น้ำซุปของเจ๊ตุ๊ยังเต็มไปด้วยส่วนผสมของสมุนไพร มีกลิ่นหอมชวนซดยิ่งนัก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่แห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนใครที่สั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง ก็จะสัมผัสได้ถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ลวกมากำลังดีไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป สำหรับเครื่องปรุงต่างๆเจ๊ตุ๊จะเน้นที่ของดีที่คัดมาเป็นพิเศษ เน้นความสด สะอาด เพราะเจ๊แกบอกว่าของที่ขายลูกค้าต้องทำเหมือนของที่ทำกินเอง

    นอกจากก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูอ่อนแล้ว ร้านเจ๊ตุ๊ยังมี ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น เป็นอีกหนึ่งเมนูชูโรง โดยสนนราคาก๋วยเตี๋ยวในร้านจะขายธรรมดา 25 บาท พิเศษ 30 บาท ซึ่งหากใครมีโอกาสไปยังเมืองสองแควก็สามารถไปแวะกินก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดของเจ๊ตุ๊ได้ตามที่ปากและท้องปรารถนา

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้านเจ๊ตุ๊ ตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก-หล่มสัก หน้าบขส. ตรงข้าม ธนาคารอาคารสงเคราะห์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6.00 น.-16.30 น. โทร. 0-1604-1105
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเป็ด“ส.รุ่งโรจน์” รสรื่นลิ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 มกราคม 2548 13:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“ส. รุ่งโรจน” ก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านเก่าแก่ย่านตลาดนางเลิ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คงจะไม่ช้าเกินไป ที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะสวัสดีปีใหม่กับแฟนๆ นักหม่ำทั้งหลาย วันเวลาแต่ละปีผ่านไปเร็วเสียจริงๆ ลองมานั่งนึกมานึกไป ก็หม่ำอาหารมาหลากหลายรสชาติ และหลายร้านพอดู บางร้านไปหม่ำครั้งเดียวแล้วไม่มีโอกาสได้แวะกลับไปหม่ำอีก ผิดกับบางร้านที่แวะไปหม่ำอยู่บ่อยๆ เรียกว่าเป็นลูกค้าประจำกันไปแล้ว

    อย่างร้านที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะแนะนำในมื้อนี้ เป็นร้านที่เราฝากท้องกันมานาน ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด “ส.รุ่งโรจน์” ตรงย่านตลาดนางเลิ้ง ที่ถ้าบรรดานักหม่ำผู้ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวเป็ดทั้งหลายเชื่อได้แน่ว่าต้องรู้จัก

    ก๋วยเตี๋ยวเป็ด “ส.รุ่งโรจน์” นี้เปิดขายมานานกว่า 41 ปีแล้ว จากร้านเล็กๆ เมื่ออดีต ปัจจุบันขยับขยายเป็นตึกแถว 2 ห้อง แถม 1 ห้องยังติดแอร์ให้ลูกค้าได้นั่งหม่ำกันอย่างสบายๆ ถึงตัวร้านจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ว่าเรื่องอาหารที่นี่ไม่เปลี่ยนแปลง จะมีเปลี่ยนบ้างก็เป็นการเพิ่มเมนูมาใหม่ๆ

    พูดถึงก๋วยเตี๋ยวเป็ดแล้วละก็ รสชาติถูกลิ้นยังไง ปัจจุบันก็ยังถูกลิ้นอย่างนั้น เอาเป็นว่าเราไปรำลึกอดีตกัน (เอ้ย! ไม่ใช่) เอาเป็นว่าไปดูกันดีกว่าว่าก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่ว่าเด็ดนั้นเป็นยังไง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น (30 บาท) ความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวชามนี้ก็อยู่ตรงเป็ดตุ๋นนี่ละ กว่าจะมาเป็นเป็ดตุ๋นนั้น ทางร้านจะพิถีพิถันคัดเป็ดให้ได้ตามสเป็กทั้งวันเลี้ยงและน้ำหนักแล้วจึงนำเป็ดสดที่ผ่านการทำความสะอาดแล้วมาคุลกซีอิ้วดำ และทอดทั้งตัวให้สุกประมาณ 50 % เพื่อให้ความร้อนละลายไขมันจากตัวเป็ด แล้วนำมาสับเป็นชิ้น จากนั้นนำมาตุ๋นลงในหม้อตุ๋นที่ประกอบเครื่องตุ๋นสมุนไพรจีนและสมุนไพรไทยกว่า 11 ชนิด ตุ๋นนานกว่า 1 ชม. จนได้เนื้อเป็ดที่เปื่อยนุ่ม หนังเป็ดนุ่มไม่มีมัน แถมได้รสชาติเครื่องสมุนไพรในตัว และยิ่งซดน้ำซุปที่หอมหวานตามลงไป เด็ดสะระตี่นักแล

    หรือถ้าใครจะสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ (25 บาท) ชามนี้ก็เด็ดสูสีกัน ตัวเนื้อเป็ดพะโล้นุ่มเปื่อยไม่แพ้กัน หอมหอมกลิ่นเครื่องพะโล้ เพราะว่าทางร้านนำเป็ดมาต้มรวมกับเครื่องพะโล้ 19 ชนิด และเครื่องสมุนไพรจีน ต้มนานกว่า 45 นาที เพื่อให้เครื่องพะโล้และสมุนไพรซึมลึกลงในเนื้อเป็ด และนุ่มไปในตัว เวลาหม่ำจะได้กลิ่นหอมของเครื่องสมุนไพรจีนเตะจมูกก่อนส่งเนื้อเป็ดเข้าปาก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวหน้าเป็ดพะโล้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แต่ถ้าใครสั่งก๋วยเตี๋ยวมาหม่ำอย่างเดียวแล้วกลัวจะไม่อิ่มท้อง แนะนำข้าวหน้าเป็ดพะโล้ (25 บาท) ที่มีเนื้อเป็ดพะโล้นุ่มๆ เครื่องในเป็ด เลือดเป็ด ใส่ผักคะน้าเป็นเครื่องเคียง หรือจะเป็นข้าวหน้าเป็ดตุ๋น (30 บาท) หม่ำสองจานนี้หมดคงเพิ่มพื้นที่ในกระเพาะให้ลงน้อยลงไปได้เยอะ

    นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าหม่ำอีก อาทิ ไส้เป็ด (ชุดละ 30 บาท) เกี๊ยวปู (30 บาท) ขาห่านอบหม้อดิน (หม้อละ 100 บาท) สำหรับ “ผ่านมาแวะกิน” เองขอเลือกที่จะหม่ำน้อยๆ แต่ว่ามาหม่ำบ่อยๆ จะดีกว่า เพราะเกรงว่าถ้ามื้อเดียวหม่ำหมดไปเสียทุกอย่าง จะกลายร่างเป็นหมู อู๊ดๆๆ แทน

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p>“ส. รุ่งโรจน์” ตั้งอยู่ที่ 141-3 ซอยนครสวรรค์ ซอย 6 ถ.นครสวรรค์ แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. อยู่ในตลาดนางเลิ้ง เดินเข้ามาในซอยนครสวรรค์ ซอย 6 แล้วก็เลี้ยวอีกทีตรงซอยเล็กๆ ซ้ายมือ ก็จะเห็นร้าน เปิดทุกวันเวลา 09.00-16.00 น. มีรับบริการนอกสถานที่ โทร. 0-2629-9800</o:p>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวปลาสดสี่จ่า” ลิ้มรสปลาหลากหลาย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 ธันวาคม 2547 17:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภายในร้าน “ก๋วยเตี๋ยวปลาสดสี่จ่า” โต๊ะเก้าอี้สีขาวสะอาดตาดูโล่งโปร่งสบาย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “ปลา” เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื้อปลาอุดมไปด้วยโปรตีน และไขมันไม่อิ่มตัว ให้กรดไลโนเลอิกและโอเมก้า 3 ช่วยลดและป้องกันการอุดตันของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด มีวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย รวมไปแคลเซียมที่ได้จากปลาตัวเล็กตัวน้อย

    แหมประโยชน์จากการกินปลาช่างมากมายเหลือเกิน มื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” จึงขอชวนมิตรรักแฟนกินทั้งหลายไปหม่ำปลาให้สบายกระเพาะกัน ที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวปลาสดสี่จ่า”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่พริกเผาปลาทอด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ซึ่งจุดเด่นของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวปลาสดสี่จ่า”นี้ อยู่ตรงที่เนื้อปลากะพงที่นำมาทำอาหารนั้น เป็นเนื้อปลาชั้นเยี่ยมระดับเกรดส่งออก ซึ่งเจ้าของร้านไปซื้อเองถึงที่มหาชัยโดยไม่ต้องผ่านมือพ่อค้าคนกลางให้เสียเวลา คุณภาพของดีๆอย่างนี้แต่ขายกันไม่แพง ราคา 20- 70 บาทเท่านั้น แถมไม่ต้องห่วงเรื่องว่าจะสั่งเมนูอะไรดี เพราะมีเมนูหลากหลายเปลี่ยนไปแต่ละอาทิตย์ หรือถ้ายังคิดไม่ออกแค่บอกแม่ครัวว่าอยากได้อยากกินแนวไหน แม่ครัวก็จะจัดแจงทำให้ได้ทันที

    ซึ่งการมาแวะหม่ำของเราในมื้อนี้ ก็ขอสั่งเมนูเด็ดของที่นี่มาลองลิ้มชิมรสกันก่อนแล้วกัน ประเดิมกันที่เมนูแรก เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้น (30 บาท พิเศษ 40 บาท) เส้นเล็กเหนียวนุ่ม ชุ่มด้วยน้ำต้มยำรสเข้มข้นด้วยส่วนผสมถึงใจ ทั้งพริกขี้หนู ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และยังกลมกล่อมหอมมัน เพราะใส่ทั้งกะทิและนมสดรวมกัน มีเนื้อปลากะพงขาวๆ ชิ้นใหญ่ แล้วยังมีลูกชิ้นปลากับฮือก้วยใส่มาด้วย แต่ถ้าใครอยากกินเมนูนี้เป็นต้มยำน้ำใสที่นี่ก็ทำให้ได้ หน้าตาจะเหมือนโป๊ะแตก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปลาลวกจิ้ม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ตามต่อมาด้วยก๋วยเตี๋ยวชามนี้ บะหมี่พริกเผาปลาทอด (30 บาท พิเศษ 40 บาท) จานนี้ก็เป็นปลากะพงชุบแป้งทอดที่กรอบนอกนุ่มใน และมีบะหมี่เส้นเหนียวนุ่มส่งมาพร้อมกับน้ำพริกเผาปรุงรสกลิ่นหอมฉุย มีผักกวางตุ้งลวกส่งมาเป็นเครื่องเคียง เวลากินก็คลุกเคล้าเข้ากัน มีน้ำซุปร้อนๆ ให้ซดคล่องคอ

    ปิดท้ายด้วย ปลาลวกจิ้ม (40 บาท) เป็นปลากะพงเนื้อขาวๆ ชิ้นใหญ่ๆ ไม่ติดมัน ที่ทั้งใหม่และสดมาลวก จึงไม่มีกลิ่นคาว โดยที่ไม่ต้องอาศัยเทคนิคการดับกลิ่นคาวด้วยสมุนไพรชนิดใดเลย จิ้มกินกับน้ำจิ้มรสเด็ดที่มีให้เลือกทั้งน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสออกเค็มนิดๆ และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเปรี้ยวจี๊ด

    ก็ถ้าใครได้ลองแวะมาหม่ำกันแล้วอยากจะสั่งเมนูอื่นๆ ก็มีให้เลือกสั่งอีกมาก อาทิ สลัดปลาทอด (40 บาท) ปลาชนไก่ (60 บาท) ลูกชิ้นปลาทอด (40 บาท) ปลากะพงผัดพริกไทยดำ (60 บาท) ผัดฉ่ารวมมิตร (70 บาท) และอีกสารพัดเมนูปลารสเด็ด ส่วนตอนนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ขอตัวไปจัดการกับเมนูปลาๆ ที่สั่งมาก่อนแล้วกัน

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    “ก๋วยเตี๋ยวปลาสดสี่จ่า” ตั้งอยู่ที่ 27/256 ซ.ลาดพร้าว 101 ม.นครไทยซอย 13 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เข้าไปในซอยลาดพร้าว 101 ประมาณ 300 เมตร ร้านอยู่ฝั่งขวามือ โดยสังเกตที่ซอยนครไทย 13 ตรงข้ามร้านวีดีโออีซี่ และอู่ประสิทธิยนต์ จอดรถได้ที่หน้าร้านและในซอยนครไทย 13 เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 น.-22.00 น. โทร. 0-1309-9979

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวมีหลุม ที่ “เตี๋ยวเรือหลุม” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 กรกฎาคม 2547 15:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นั่งเปิบก๋วยเตี๋ยว ที่ร้าน “เตี๋ยวเรือหลุม” </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ถามใครๆ ว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือจะไปกินที่ไหนดี คำตอบส่วนใหญ่บอกว่าต้องไปกินแถวรังสิตสิดี แถวนั้นเขาขึ้นชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือมานานแล้ว แถมมีหลายร้านให้เลือกกิน แต่ว่าเห็นทีคงไม่ไหว เพราะระยะทางนั้นมันไกลเกินอยาก

    แต่มีเพื่อนแนะนำมาอยู่ร้าน บอกว่าขายก๋วยเตี๋ยวเรือรสชาติก็ถูกปากดี แล้วที่แน่ๆ อยู่ใกล้ๆ แค่วัดแขก ถ.สีลมนี่เอง แถมร้านนี้มีความแปลกตรงที่เป็นก๋วยเตี๋ยวมีหลุม ส่วนหลุมอะไร เป็นหลุมยังไงนั้นดันไม่บอก “ผ่านมาแวะกิน” เลยต้องออกตะลุยกินและหาคำตอบด้วยตัวเอง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=230 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=230>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเรือจัดเสิร์ฟแบบวางลงหลุม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> พอมาถึงที่หมาย เห็นชื่อร้านแปลกตาว่า “เตี๋ยวเรือหลุม” ก็ยังไม่ถึงบางอ้อเสียที จนกระทั่งเดินเข้ามาในร้านก็ต้องสะดุดตากับโต๊ะที่เต็มไปด้วยหลุม ยังไงก็ยังงงว่าหลุมนี้มีไว้ทำอะไร จนกระทั่งลงนั่งแล้วสั่ง ก๋วยเตี๋ยวเรือ (30 บาท) มาหนึ่งชาม แม่ค้าจัดนำมาเสิร์ฟวางลงบนหลุมที่ว่า ที่นี้ละก็ร้อง อ๋อ!! ทันทีเลย เตี๋ยวเรือหลุมที่ว่า ก็คือ การนำชามก๋วยเตี๋ยวเรือเสิร์ฟลงในหลุม ทำให้ชามไม่ลื่นไม่ไหลอยู่ในหลุมนั้นละ เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับการกิน ช่วยให้กินแบบถนัดมือถนัดปากดี

    ว่าแล้วก็ลงมือโซ๊ยก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่เต็มไปด้วยเครื่องทั้งหมูหมัก ตับสดลวก ลูกชิ้นหมู โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและกากหมู หมูหมักเนื้อนุ่มรสดี ตับสดไม่คาว ลูกชิ้นหมูก็เคี้ยวนุ่มหนึบหนับ สัมผัสได้ถึงเนื้อหมูแท้ๆ ไม่มีแป้งปน น้ำซุปก็เข้มข้นหวานหอมกลมกล่อม เพราะเขาใส่เครื่องยาจีนได้กลิ่นหอมกรุ่นๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=230 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=230>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวผัดปลาทูใส่กากหมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ทีเด็ดของร้านนี้ใช่จะมีแต่ ก๋วยเตี๋ยวเรือหลุม มีอีกเมนูที่น่ากิน อย่าง ข้าวผัดปลาทูใส่กากหมู (30 บาท) เป็นข้าวผัดใส่ปลาทูที่แกะเอาแต่เนื้อล้วนๆผัดคลุกเค้ารวมกับพริกขี้หนู และต้มหอม มีกากหมูทอดกรอบโรยหน้า ข้าวผัดเม็ดสวยร่วนไม่แฉะ รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ออกเค็มๆ มันๆ ยิ่งเคี้ยวกากหมูกร้วมรวมกันเข้ากันกับข้าวผัดดี

    แต่ถ้าใครกลัวไม่อิ่มแบบสุดๆ ก็มีเมนูอื่นๆ ที่น่ากินอีกหลายอย่าง อาทิ ลวกจิ้ม (50 บาท) ส้มตำเรือหลุม (35 บาท) สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม (40 บาท) ซึ่งถ้าใครอยากลองความแปลกใหม่ กับการกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็แวะมากินกันได้ที่ร้าน “เตี๋ยวเรือหลุม” แล้วจะรู้ว่า แปลกแต่จริง!! ก๋วยเตี๋ยวมีหลุม

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    “เตี๋ยวเรือหลุม” ตั้งอยู่ที่ซอยวัดแขก ถ.ปั้น สีลม เข้ามาจากปากซอยประมาณ 150 ม. ร้านอยู่ทางซ้ายมือ มีร่มคันใหญ่สีเหลืองหน้าร้านเป็นจุดสังเกต เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 09.30-17.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) มีที่จอดรถอยู่ก่อนถึงร้านประมาณ 100 ม. โทร. 0-2235-6496, 0-6779-1234


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=244 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=244>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หลากรสชาติกับก๋วยเตี๋ยวที่ “เย็นตาโฟ นิเวศน์ 2” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 เมษายน 2547 11:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน “เย็นตาโฟ นิเวศน์ 2” ลูกค้านั่งแน่นร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ช่วงที่อากาศร้อนๆ อย่างนี้ หลายคนคงคิดถึงแต่อาหารเย็นๆ อย่างไอศกรีม หวานเย็น หรืออะไรที่กินแล้วเย็นๆ คลายร้อน แน่นอนว่าช่วยได้ แต่เรื่องอิ่มท้องนี่สิค่อนข้างจะลำบากกระเพาะอยู่เสียหน่อย ฉะนั้น “ผ่านมาแวะกิน” เลยอยากจะแนะนำเมนูที่กินแล้วอิ่มท้องมาฝากกัน อย่าง “ก๋วยเตี๋ยว” ที่กินแล้วรับรองอยู่ท้องนาน แถมหาร้านกินง่าย

    อย่างร้านที่ “ผ่านมาแวะกิน” อยากจะแนะนำเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวสารพัดอย่าง แต่เด่นตรงก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟที่สมกับชื่อร้านว่า “เย็นตาโฟ นิเวศน์ 2” ถึงจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเล็กๆ แต่ลูกค้านั่งกินกันแน่นร้านเลย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เย็นตาโฟรสเด็ด </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ซึ่งลูกค้าที่มากินที่ร้านนี้เป็นต้องสั่งเมนูเด่นของที่นี่มากินเป็นอย่างแรก คือ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (25 บาท พิเศษ 30 บาท) ชามโตน่ากิน ครบเครื่องเย็นตาโฟ ที่ประกอบไปด้วยปลาหมึกกรอบ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย เลือดหมู เต้าหู้กรอบ เกี๊ยวกรอบ รสชาติของเย็นตาโฟที่นี่เด็ดตรงที่ชิมแค่น้ำซุปก็ไม่ต้องปรุงเพิ่มแล้ว น้ำซุปหวานหอมอมเปรี้ยวนิดๆ จากซอสแดงเย็นตาโฟที่ทางร้านทำเอง ส่วนพวกเครื่องลูกชิ้นก็เหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบไม่มีกลิ่นคาว

    แต่ถ้าใครไม่อยากซดน้ำแกงร้อนๆ จะสั่งเป็น เกาเหลาเย็นตาโฟแห้ง (25 บาท พิเศษ 30 บาท) ซึ่งส่วนประกอบก็เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟทุกอย่าง แต่ได้อารมณ์การกินที่ต่างกันตรงที่มันจะออกแห้งๆ แบบน้ำขลุกขลุกนิดหน่อย

    และใช่ว่าที่ร้าน“เย็นตาโฟ นิเวศน์ 2” จะมีแต่เย็นตาโฟเท่านั้น เขายังมีก๋วยเตี๋ยวอย่างอื่นอีกด้วย อย่าง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (25 บาท พิเศษ 30 บาท) ที่ใส่เครื่องเคียงทั้งหมูชิ้นสด หมูสับบด ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา ฮือก้วย รสชาติต้มยำแซบถึงใจมาก หอมกลิ่นน้ำมะนาวสดแท้ และถั่วลิสงบด เรียกว่าไม่ต้องปรุงก็ได้รสชาติ เปรี้ยว เผ็ดกำลังดี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หรือจะเป็นบะหมี่แห้ง (25 บาท พิเศษ 30 บาท) เส้นบะหมี่เหลืองน่ากิน ใส่เครื่องหลายอย่าง ทั้งลูกชิ้นปลา ฮือก้วย ลูกชิ้นกุ้ง หมูชิ้นสดหมัก หมูสับบด ตับหมู และเกี๊ยวกรอบทอด รสชาติครบเครื่อง เส้นบะหมี่นุ่มเหนียว หมูหมักรสนุ่ม

    และนอกจากสารพัดก๋วยเตี๋ยวแล้ว ก็ยังมี ติ่มซำ ที่จะสั่งมากินเพิ่มความอิ่มก็มี ไม่ว่าจะเป็น ฮะเก๋ากุ้ง สาหร่ายห่อหมู ปูอัด ก้ามปู ขนมจีบกุ้ง ขนมจีบหมู และซาลาเปา เพียงราคาเข่งละ (18 บาท) รับรองว่าคราวนี้อิ่มท้องสมใจกันแน่ๆ แค่ลองแวะมากินกันที่ร้าน “เย็นตาโฟ นิเวศน์ 2”

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    “เย็นตาโฟ นิเวศน์ 2” ตั้งอยู่ที่ 70 / 759 ถ. สามัคคี อ.เมือง จ.นนทบุรี อยู่ติดกับธนาคารทหารไทย เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา09.00 น. – 18.00 น. และทางร้านยังรับส่ง-จัดงานนอกสถานที่ โทร.0-2980-0527, 0-1343-2489

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ลิ้มเหล่าโหงว” มีดีเรื่องก๋วยเตี๋ยว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มีนาคม 2547 21:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ร้านลิ่มเหล่าโหงว ก๋วยเตี่ยวรสชาติดี </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> พอให้นึกถึงอาหารเมนูเบสิกของคนไทยก็คงมีไม่กี่อย่าง หนีไม่พ้นพวก ข้าวผัด ผัดกระเพรา ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า แล้วก็รวมไปถึงสารพัดก๋วยเตี๋ยว ที่ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ เพราะก๋วยเตี๋ยวหากินง่าย แถมไม่ต้องเสียเวลาในการรอกินให้เมื่อยตุ้ม จึงทำให้ก๋วยเตี๋ยวเป็นอีกหนึ่งในอาหารเบสิกที่ยามใดท้องหิว แค่มองหาร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วสั่งมาหม่ำสักหนึ่งชามก็แก้หิวสบายท้องกันได้แล้ว

    อย่างมื้อหิวๆ มื้อนี้ของ “ผ่านมาแวะกิน” ก็เลยขอไปหม่ำก๋วยเตี๋ยว ที่ร้าน “ลิ้มเหล่าโหงว” อยู่แถวตรอกจันทร์ ซึ่งเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่มีทั้งเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส และต้มยำ แล้วร้านนี้เขาก็ขึ้นชื่อเรื่องลูกชิ้น โดยเฉพาะลูกชิ้นปลาที่ทางร้านทำเอง ซึ่งทำมาจากปลาดาบลาวและปลาหางเหลืองผสมกัน จะได้ลูกชิ้นปลาที่เนื้อแน่น เหนียวนุ่ม โดยไม่ได้ใส่สารบอแรกซ์และแป้ง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่แห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ว่าแล้วก็ไม่อยากพล่ามให้เสียอารมณ์หิวไปหม่ำก๋วยเตี๋ยวกันดีกว่า เริ่มต้นกันที่ชามแรกเอาแบบเดินเครื่องเบาๆ ท้องก่อนด้วย เกาเหลาแห้ง (30 บาท) ที่ใส่เครื่องสารพัดทั้งลูกชิ้นปลา ฮือก้วย ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา ถั่วงอก แล้วโรยหน้าเพิ่มความหอมมันด้วยกระเทียมเจียวและตั้งฉ่าย รสชาติดีตรงที่ลูกชิ้นปลาไม่คาว ลูกชิ้นกุ้งเนื้อแน่น เกี๊ยวปลาชิ้นโต มีไส้เป็นเนื้อหมูรสชาติกลมกล่อม เคี้ยวนุ่มหนึบหนับดี จะกินแบบไม่ปรุงเลยก็กลมกล่อมลงตัวอยู่แล้ว หรืออยากจะให้เด็ดขึ้นจะใส่เครื่องปรุงเพิ่มก็จะได้รสชาติตามใจปากไปอีกแบบ

    จากเกาเหลาแห้งๆ ไม่มีเส้นต่ออารมณ์หิวแบบมีเส้นกันด้วย บะหมี่แห้ง (30 บาท) เป็นบะหมี่แห้งที่แปลกกว่าที่อื่น ตรงที่ทางร้านจะใส่ซอสเปรี้ยว (จิ๊กโฉ่) สูตรเฉพาะของทางร้าน และไม่ใส่ถั่วงอกเพราะเป็นสูตรโบราณของทางร้าน ทำให้บะหมี่แห้งชามนี้หอมกลิ่นซอสเอามากๆ เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ไม่แฉะ ส่วนเครื่องที่ใส่มาก็มีทั้งลูกชิ้นปลา ลูกกุ้ง ฮือก้วย เกี๊ยวปลา

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกาเหลาเย็นตาโฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> กินแต่ของแห้งๆ ขอตบท้ายมื้ออิ่มด้วยก๋วยเตี๋ยวน้ำ อย่างเกาเหลาเย็นตาโฟ (30 บาท) ที่ทางร้านปรุงรสชาติมาให้เสร็จสรรพพร้อมกิน เด่นตรงที่ซอสเย็นตาโฟเป็นซอสมะเขือเทศที่ปรุงรสมาด้วยแล้ว และก็น้ำซุปที่เป็นน้ำซุปปลาได้มาจากการทำลูกชิ้นปลา รสชาติออกหอมหวานแต่ไม่มีกลิ่นคาว ซดน้ำซุปร้อนๆ เคี้ยวสารพัดเครื่องลูกชิ้นที่ใส่มาทั้งรสชาติดีและไม่มีกลิ่นคาว

    เอาเป็นว่ามื้อนี้สำหรับ “ผ่านมาแวะกิน” นะเล่นกินจนอิ่มตื้อเลย ส่วนถ้าใครผ่านมาแถวตรอกจันทร์ สะพาน 3 ก็ลองแวะมาลิ้มรสชาติของก๋วยเตี๋ยว ที่ร้าน ““ลิ้มเหล่าโหงว” ด้วยตัวเองก็แล้วกัน อ่านอย่างเดียวไม่รู้รสหรอกต้องลองมากินเอง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “ลิ้มเหล่าโหงว” ตั้งอยู่ที่ตรอกจันทร์ สะพาน3 หน้าปากซอยจันทร์ 18/4 เขตสาทร ร้านจะอยู่ใกล้กับแมคโดนัลด์ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ส่วนวันที่ร้านจะเปิดขายต้องโทรสอบถามทางร้านก่อน เพราะร้านจะปิดรับจัดงานนอกสถานที่ โทรสอบถามได้ที่ 0-2286-9412, 0-1498-3330, 0-1931-4584

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ภัตตาคารสุกี้ นัมเบอร์วัน" รสชาติ ชื่อชั้น สมชื่อร้าน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ตุลาคม 2545 16:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=340 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=340>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สุกี้น้ำข้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แรกที่บอกกับมิตรรักนักกินรอบข้างกายว่าจะไป กินสุกี้ ทุกคนก็นึกว่า "ผู้จัดการตระเวนกิน" คงจะไปนั่งกินสุกี้ สำเร็จรูปตามห้างสรรพค้า ที่ยกน้ำซุปมาปุ๊บ ยกเนื้อมาปั๊บ พอน้ำซุปเดือดปุ๊บ ตักเนื้อใส่ปั๊บ สุกก็ตักใส่ปากกินได้ทันที

    โอ...ชีวิตอะไรมันจะสำเร็จรูปปานนั้น ปุ๊บปั๊บ ปุ๊บปั๊บ กินได้เลย แหมมันช่างเหมือนกับวัยรุ่นที่คบกันสมัยนี้จัง ปุ๊บปั๊บ ปุ๊บปั๊บ ปลุกป้ำ เอ้ย!!! ไม่ใช่ ปิ๊งกันเลย อย่างนี้ "ผู้จัดการตระเวนกิน"ว่าสุกี้มันก็ไม่ต่างจากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จใส่หมู ใส่กุ้ง ใส่ผักเท่าไหร่หรอก (แต่ถ้าไปกินกับสาวหรือมีคนเลี้ยง คงต้องพิจารณาอีกที แฮ่ เพราะชีวิตมันไม่ได้บะหมี่สำเร็จรูปต้องมีลื่นได้ไหลได้เป็นธรรมดา...อามิตตาพุทธ)

    แต่สุกี้ที่"ผู้จัดการตระเวนกิน" จะไป หม่ำในมื้อนี้ไม่ใช่สุกี้สำเร็จรูปแต่เป็นสุกี้สูตรดั้งเดิมที่ "ภัตตาคารสุกี้นัมเบอร์วัน" สุกี้ร้านนี้เขานับเป็นสุกี้น้ำข้นรสจัดจ้านแบบไทยๆที่เปิดขายมาถึง 32 ปี เรื่องรสชาติ ชื่อชั้น นั้นคงต้องบอกว่า นัมเบอรร์วัน สมดังชื่อร้าน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=206 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=206>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บน- ขาห่านอบ ล่าง-กุ้งอบวุ้นเส้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แรกที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เห็นชุดสุกี้ยกมาวางตรงหน้าก็สัมผัสได้ว่าสุกี้ร้านนี้ต่างจากสุกี้สำเร็จรูปทั่วไป เพราะเนื้อสัตว์ที่จะเอามาลวกอย่าง เนื้อ หมู ไก่ กุ้ง หมึก นั้น หอมเครื่องหมักมาเลย พอเอาผักต้ม ใส่เนื้อสัตว์ที่ คุณธีรชัย ธีรวชิรกุล เจ้าของร้าน บอกว่าเป็นสูตรพิเศษของทางร้านต้องใช้เวลาหมักถึง 1 วันเต็มๆ

    พอเอาเนื้อ หมู หมึก กุ้ง ไก่ ใส่ในหม้อ สีน้ำซุปก็เริ่มเปลี่ยน เพราะเครื่องเทศที่ใช้หมักในเนื้อสัตว์เริ่มละลายในน้ำซุป กลายเป็นสุกี้น้ำข้นที่รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ซดคล่องคอถึงใจนัก ส่วนเนื้อหมักนั้นก็หอมรสนุ่มลิ้นมาก จิ้มกินกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่มีกลิ่นของเต้าฮู้ยี้ผสมพร้อมซดน้ำซุปตาม โอโฮยอดเยี่ยมสมชื่อนัมเบอร์วันจริงๆ สนนราคาของสุกี้ก็ชุดละ 150 บาท ถ้าชุดพิเศษ 200 บาท นอกจากนี้ทางร้านยังมีหมูกระทะบุฟเฟ่ต์ ชุดละ 69 บาทให้เลือกกินกันอีกด้วย

    ยัง...มื้อนี้ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะ ที่ภัตตาคารสุกี้นัมเบอร์วัน ยังมีอาหารรสเป็นหนึ่งอีกหลายอย่าง "ผู้จัดการตระเวนกิน" ขอเริ่มที่ เนื้อผัดน้ำมันหอย (50 บาท) เนื้อหมักอย่างเดียวกับที่เอาไปลวกสุกี้ เมื่อผัดออกมาเนื้อจึงนุ่มลิ้นนัก ในน้ำผัดรสมีรสเผ็ดแซมแก้เลี่ยนได้ดีทีเดียว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=215 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=215>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บน-ปูผัดผงกะหรี่ ล่าง-เนื้อผัดน้ำมันหอย </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> โอ้ว!!! นั่น คุณธีรชัย ยกหม้ออบอะไรมาควันโขมงโฉงเฉง เปิดดูก็รู้ว่าเป็น กุ้งอบวุ้นเส้น (300 บาท) กุ้งนั้นเป็นกุ้งแม่น้ำเนื้อ ขาว อวบ น่าเจี๊ยะมาก เมื่อได้กินก็ไม่ผิดหวัง เพราะเนื้อกุ้งแม่น้ำนั้น แน่น หวาน ยิ่งกินตรงหัวที่มีมันกุ้งยิ่งเด็ดสะระตี่จริงๆ ส่วนวุ้นเส้นนั้นรสชาติก็ออกมากลมกล่อมไม่จืดชืด เพราะส่วนผสมของเครื่องปรุงในหม้ออบจะไปผสมกับวุ้นเส้นอย่างลงตัวกันอย่างลงตัว กินได้ทันที สำหรับใครที่ชอบแนวรสเผ็ดจัดจ้าน เมนู กุ้งแม่น้ำผัดพริกเผาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนในไม่น้อย

    จากกุ้งอบ ก็ไปต่อกันที่ ขาห่านอบ (180, 240,300 บาท) แค่เห็นและได้กลิ่นน้ำลายก็สอแล้ว ขาห่านโปแลนด์ชั้นดี อบด้วยศิลปะการทำพอสมควร โดยคุณธีรชัย ได้แย้มเคล็ดลับออกมาว่า เมนูนี้ทำไม่ง่ายเลย เพราะต้องนำขาห่านไปทอดก่อน เสร็จแล้วก็เอามาต้มทิ้งไว้ พอใครสั่งก็จึงนำไปอบ ให้เนื้อเครื่องเทศที่ผสมอยู่ในหม้อซึมเข้าเนื้อจนสีขาห่านออกมาแดงน่ากิน ข้อสำคัญอยู่ที่การควบคุมไฟ เพราะถ้าคุมไฟไม่ดีขาห่านจะออกมาแบบขี้โรคคือมีแต่หนังแห้งติดกระดูก ขาห่านอบของที่นี่จึงเป็นแบบมีเนื้อมีหนัง แทะมัน ส่วนใครจะสั่งเป็นวุ้นเส้น บะหมี่อบขาห่านมากินก็น่ากินไปอีกแบบ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=225 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=225>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คุณธีรชัยเจ้าของ"ภัตตาคารสุกี้นัมเบอร์วัน" ที่อยู่ยืนยงมาถึง 32 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อีกเมนูหนึ่งที่ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับคนที่มากินอาหารที่ภัตตาคารสุกี้นัมเบอร์วันก็คือ ปูผัดผงกะหรี่ (250 บาท) ปูที่ใช้เป็นปูทะเลสดๆ ไม่มีกลิ่นคาวให้ระคายจมูก เนื้อนั้นแน่น หวาน ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งในจานนี้ก็คือน้ำผัดที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน รสออกเข้มข้น มัน มีรสเผ็ดแซมจากน้ำพริกเผาที่ผสมลงในผงกระหรี่ น้ำผัดเอาไปคลุกกินกับข้าวสวยร้อนๆยอดเยี่ยมนัก เมนูนี้คนที่มากินส่วนมากจะไม่เหลืออะไรไว้นอกจากกระดองปู และเปลือกปู

    ใครที่อยากพิสูจน์สุกี้น้ำข้น รสเข้ม และอาหารรสเด็ดๆ อีกหลากหลายเมนูนอกเหนือจากที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ไปหม่ำมา ก็ไปพิสูจน์กันได้ได้ที่ภัตตาคารสุกี้นัมเบอร์วัน ตั้งอยู่บนถนนสาลีรัฐวิภาค ห่างจากสี่แยกสะพานควายประมาณ 300 เมตร ไปไม่ถูกโทร.สอบถามได้ที่ 0-2279-5885,0-2279-4026,0-2279-5195
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวหลอด "ปลาหิมะ" ห้องฟูเจี้ยน "ดาราเทวี" / แม่ช้อย นางรำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 ตุลาคม 2548 16:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=233 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=233>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ติ่มซำ ของกินเล่นตามใจสไตล์กวางตุ้ง ในร้าน "ฟูเจี้ยน"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "ดาราเทวี" โรงแรมหกดาวที่เชียงใหม่
    มีร้านอาหารจีนอร่อยชื่อ "ฟูเจี้ยน"
    "ติ่มซำ"
    ที่นี่มีความหลากหลายมากมาย
    แต่ที่ขึ้นชื่อชนิดไม่สั่งไม่ได้คือ จานนี้


    น้ำท่วม..เชียงใหม่ครั้งที่สอง เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น
    ทำให้อีชั้นคิดถึงอาหารจีนอร่อยที่นั่น
    เพราะเมื่อตอนน้ำท่วมครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อีชั้นอยู่ที่เชียงใหม่
    พักอยู่ที่โรงแรม "ดาราเทวี" หรือถ้าจะเรียกชื่อให้เต็มยศก็ต้องเรียกว่า

    โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล
    “ดาราเทวี เชียงใหม่”

    โรงแรมระดับหกดาว ที่เป็นความมหัศจรรย์ใจของประเทศไทย เพราะว่าเมื่อ
    เข้าไปแล้ว จะไม่รู้สึกว่าอยู่ในโรงแรม แต่เหมือนกลับเดินย้อนยุคเข้าไปอยู่ในเมืองโบราณ บรรยากาศเช่นนี้ใครๆ ก็ต้องหลงใหล

    อีชั้นอยากจะให้เจ้านายไปลองพักดูสักครั้ง เพราะนี่เป็น "โรงแรมมรดกแห่งชาติ" ทีเดียวเชียวนะเจ้าคะ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวหลอดปลาหิมะ"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ที่โรงแรม "ดาราเทวี" ที่ว่านี้
    อีชั้นพบร้านอาหารอร่อยที่มีอะไรแปลก..แปลก เก็บเอามาเล่าฝากเจ้านายได้มันแปลกดีน่ะ!!

    ร้านอาหารฝรั่งเศสที่แสนอร่อย ตั้งชื่อเป็นภาษาไทยง่ายๆ ว่า "ร้านฝรั่งเศส"
    แต่ร้านอาหารคนเมืองที่อาหารเมืองล้ำขนาดเช่นกัน ไหงตั้งชื่อเป็นฝรั่งเศสว่า "เลอ กรังค์"

    แต่ที่อีชั้นจะเขียนแนะนำคราวนี้เป็นร้านอาหารจีนที่ชื่อว่า "ฟูเจี้ยน"
    แต่ถ้าจะว่าไปแล้วนี่ก็แปลกอีกเช่นกัน
    เพราะคำว่า "ฟูเจี้ยน" ร้านอาหารจีนในโรงแรมนั้น หมายถึงเมืองฮกเกี้ยน แต่อาหารที่บริการ..ไหงเป็นอาหารกวางตุ้งไปได้ก็ไม่รู้

    ร้าน "ฟูเจี้ยน" ที่ว่านี้อย่างที่อีชั้นเรียนเจ้านาย ชื่อว่าฟูเจี้ยน
    หรือฮกเกี้ยน ก็แปลกล่ะเจ้าค่ะ..เจ้านาย
    อาหารอร่อยของเขาส่วนใหญ่จะเป็นอาหารกวางตุ้ง
    ดูเหมือนจะมีอาหารฮกเกี้ยนแท้ๆ สักสอง..สามเมนูเท่านั้น เช่น "ผัดหมี่ฮกเกี้ยน"
    อย่างที่เจ้านายชอบกินแถวภูเก็ต ที่เรียกว่า "หมี่สปัน" หรือ "หมี่สปัม" แล้วแต่จะออกเสียงกันตามสบาย

    แต่อีชั้นจะแนะนำถ้าเจ้านายเกิดไปพักอยู่ที่ "ดาราเทวี" เจ้านายจะต้องไปกินอาหารจีนร้านนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเป็นร้านอาหารจีนอร่อยที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ที่นี่ยังมีอาหารกวางตุ้ง ที่เรียกว่า "ติ่มซำ" บริการเป็นประจำทุกกลางวันด้วยเจ้าค่ะ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หน้าร้านมี "นาคมังกร" ศิลปะผสมผสานไทย-จีน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ความไม่รู้เรื่อง
    "ติ่มซำ"
    อาหาร "ติ่มซำ" ถ้าจะแปลตรงตัวก็แปลว่า
    อาหารกินตามใจ
    กินตามใจก็คือการกินแบบเลือกกินทีละน้อยๆ
    (ถ้ากินตามกระเพาะ ก็ต้องกินมาก..มาก)
    คนจีนกวางตุ้งเป็นผู้คิดค้นการกิน "ติ่มซำ" ขึ้นมา
    เพื่อให้คนรับประทานได้เลือกกันตามใจมีทั้งอาหารนึ่ง
    อาหารทอด อาหารตุ๋น อาหารอบ แล้วให้เลือก
    กันทีละนิด กินเพื่อความอร่อยไม่ใช่ให้อิ่ม

    ในบรรดาเมนูอาหารติมซำของร้าน "ฟูเจี้ยน" ที่มีบริการเป็นสิบๆ รายการ
    อีชั้นขอแนะนำว่า เจ้านายจะต้องสั่งก๊วยเตี๋ยวหลอดชนิดพลาดไม่ได้
    ก๊วยเตี๋ยวหลอดที่ร้าน "ฟูเจี่ยน" อร่อยเยี่ยมกว่าร้านอร่อยในฮ่องกงเสียด้วยซ้ำไป

    เส้นก๊วยเตี๋ยวทำสด..สด ทำใหม่..ใหม่ เส้นบางนุ่มลิ้นสบายฟัน หอมแป้งไม่เหมือน
    ก๊วยเตี๋ยวทั่วๆ ไป แต่ที่อร่อยมากๆ ก็คือไส้ที่ใส่ข้างในก๊วยเตี๋ยว ที่เจ้านายเคยกินมาส่วนใหญ่จะเป็นไส้หมูแดงบ้าง ไส้กุ้งบ้าง แต่ที่นี่เป็นไส้ปลาหิมะ ไส้นี้ไม่มีร้านไหนทำกัน

    อันว่าปลาหิมะนั้น เจ้านายก็รู้ว่าเนื้อมันเป็นลิ่มเหมือนเนื้อปู รสชาติก็จะออกหวานมัน เพราะเป็นปลาในเขตหนาว จึงต้องสะสมไขมันในตัวไว้ แล้วมันปลานั้นก็ไม่ใช่มันหมู..มันไก่ มันปลามีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โอเมก้า" กินแล้วไม่อ้วน ยังช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจ หมอแนะนำให้กินปลาเข้าไว้

    "ก๊วยเตี๋ยวเตี๋ยวหลอดปลาหิมะ" ..เป็นเมนูที่พ่อครัวร้าน "ฟูเจี้ยน" โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่คิดค้นขึ้นเอง รับรองว่าเจ้านายจะต้องถูกใจ โดยเฉพาะน้ำซีอิ้วปรุงพิเศษที่เขาราดบนเส้น รสชาติเข้มข้นถูกลิ้นคนไทย

    แต่ถึงจะเป็นหนึ่งในอาหาร "ติ่มซำ" ที่หมายถึงอาหารถูกใจ แต่คงจะไม่ถูกกระเป๋า เพราะถึงแม้เมนูจานนี้ราคาจะไม่เท่าไหร่ แต่ต้องบินไปกินกันถึงเชียงใหม่
    แต่ถึงกระนั้นเจ้านายก็ต้องไป เพราะอย่างน้อยๆ ก็ยังถูกกว่าเจ้านายพาอีหนูบินไปกินติ่มซำที่ฮ่องกง ไปเช้าเย็นกลับอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ

    ..ทำอย่างนั้นมันก็ไม่ไหว ลูกน้องรับไม่ได้ แบบว่า อิจฉานะซีเจ้าคะ..เจ้านาย

    "แม่ช้อย นางรำ"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ห่อฝัน”ตำนานแห่ง “ก๋วยเตี๋ยวอร่อย / แม่ช้อยนางรำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 กรกฎาคม 2548 18:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย...แม่ช้อยนางรำ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยที่สุดของเมืองจีนเฉพาะคนผัดกะทะมี 10 คน-10 เตา ผัดโชว์ในห้องกระจก ห้ามถ่ายภาพ(รูปนี้อีชั้นแอบถ่ายจึงไม่ชัด)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “อาหารจีนอร่อยที่สุด คือ..อาหารกวางตุ้ง
    อาหารกวางตุ้งอร่อยที่สุดได้แก่..ก๋วยเตี๋ยว
    ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้งอร่อยที่สุดอยู่ที่..กวางเจา”


    อย่างที่..เจ้านายก็รู้ว่า

    อีชั้นเป็นคนทำอะไรก็ต้องเอาจริงเอาจัง ว่ากันให้ถึงสุด..สุด

    ยิ่งเรื่องอาหารการกินแล้ว

    ชาตินี้ไม่ยอมใคร ถึงไหนถึงกัน

    สามสิบกว่าปีที่อีชั้นเขียนคอลัมน์แนะนำอาหารให้เจ้านายอ่าน ให้ท่านผู้ศรัทธารู้ อีชั้นถือเป็นจรรยาบรรณสูงสุดในชีวิตก็คือ

    จะต้องเขียนอย่างรู้จริงๆไม่ใช่เขียนจากคำเขาบอก หรือคำเขาหลอก

    หกสิบปีที่มีอายุยืนยาว อยู่ในครัวตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น เดินทางหัวเห็ดเจ็ดย่านน้ำ ก็เพราะต้องการจะรู้ให้ถึงเรื่องจริงของจริงว่า

    อันความอร่อย “ออริจินัล” หรือจะเรียกว่าอร่อยแท้..แท้ นั้นเป็นอย่างไร

    *****

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“ห่อฝัน” ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ก็เพราะเช่นนี้

    เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา อีชั้นกับแฟนนักเปิบพิสดาร ที่บ่ยั่นการเดินทาง ขอให้ไปเจอของอร่อยก็แล้วกัน จึงดั้นด้นเดินทางไปเมืองกวางเจา เมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพื่อจะไปพิสูจน์กันให้รู้ซะทีว่า

    ก๋วยเตี๋ยวอร่อยที่สุดในเมืองจีนนั้น รสชาติหน้าตาเป็นอย่างไร

    ไปมาแล้วแต่เกือบลืมรายงานให้เจ้านายรู้ไว้ เอาล่ะทีนี่เชิญเจ้านายอ่านได้แล้ว

    *****

    เพราะเหตุที่อีชั้นเป็นคนกินก๋วยเตี๋ยวได้ไม่เคยเบื่อ

    กินมาตั้งแต่ชามละบาท ตอนนี้อาละวาดเป็น 30-40 บาทเข้าไปแล้ว จึงต้องเสาะแสวงว่าก๋วยเตี๋ยวที่ไหนอร่อยบ้าง

    (ขออธิบายเพิ่มเติมว่า ก๋วยเตี๋ยวอร่อยที่นี่หมายถึง คือ ก๋วยเตี๋ยวที่ทำแบบโบราณ ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวดัดแปลงที่เต็มบ้านเต็มเมืองตอนนี้)

    ในเมืองไทยเขียนแนะนำไว้แล้วตั้งแต่ปีมะโว้

    คราวนี้อีชั้นจึงต้องไปเมืองจีน ไปกินก๋วยเตี๋ยว ที่คนจีนเขายกย่องว่าอร่อยที่สุดในโลก..อยูที่เมืองกวางเจา

    *****

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“ห่อฝัน” ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่น้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> มีเรื่องเล่ามานมนาน อีชั้นได้ยินได้ฟังจากคนจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งคนจีนอพยพเสื่อผืนหมอนใบเข้ามาทำมาหากินอยู่ในเมืองไทย พูดเหมือนกันว่า

    “ก๋วยเตี๋ยวเมืองกวางเจา” มณฑลกวางตุ้งอร่อย เพราะได้น้ำจากภูเขาชื่อ “เมฆขาว” (ไบหยุ่น) ไหลมาเป็นลำธาร แล้วกลายมาเป็นแม่น้ำชื่อ “ซาเหอ” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “แม่น้ำทราย” (ซา..แปลว่าทราย เหอ..แปลว่าแม่น้ำ)

    ชาวบ้านทำก๋วยเตี๋ยวแล้วเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวไปล้างในแม่น้ำทราย ทำให้เส้นก๋วยเตี๋ยวที่นี่อร่อยกว่าที่ไหนในเมืองจีน คือเส้นจะนุ่มนวลและมีกลิ่นหอมหวล จะต้ม ผัด นึ่งอะไรก็อร่อยทั้งนั้น

    คนจีนทั่วแผ่นดินใหญ่เขาจะกินก๋วยเตี๋ยวให้อร่อยต้องมากินที่เมืองกวางเจา กินเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ล้างจากแม่น้ำทราย

    *****

    ในกวางเจามีร้านขายก๋วยเตี๋ยวมากมาย
    แต่ร้านที่อร่อยที่สุดคือร้านที่อีชั้นไป อร่อยจนกลายเป็นตำนานเล่าขานกันมาอย่างนี้เจ้าค่ะ

    “อี้ เฮอ จู” ตำนาน “ห่อฝัน”

    ร้านนี้อยู่ในเมืองกวางเจาถามใครเขาก็รู้จัก ขายก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดที่เรียกว่า “ห่อฝัน” มานานกว่า 120 ปี เล่ากันว่าแต่เดิมร้านนี้ขายโจ๊กกับปาท่องโก๋ตอนเช้าๆ มีอยู่วันหนึ่งมีคนยากจนเข็ญใจมาขอโจ๊กปาท่องโก๋กินเป็นประจำทุกวัน ร้านไหนก็ให้ไปโดยไม่รังเกียจ

    คราวหนึ่งเจ้าของร้านไม่ขายเพราะไม่สบายกินอาหารไม่ได้ ขอทานเข็ญใจจึงเสนอตัวทำอาหารให้ทาน เจ้าของร้านทานแล้วหายเจ็บไข้ และชื่นชอบในรสอาหารจึงขอเล่าเรียน

    ขอทานจึงสอนให้แล้วบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแต่คนรังเกียจความยากจนของเราโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าแท้จริงเขาเป็นคนครัวของพระนางซูสีไทเฮา ที่ถูกอิจฉาริษยาเกิดความเบื่อหน่ายจึงซัดเซพเนจรไปเพื่อจะหาคนมีเมตตาปราณี และยินดีจะมอบวิชาปรุงอาหารให้ จึงขอมอบวิชาทำ “ห่อฝัน” ให้เป็นการตอบแทน


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> *****

    อีชั้นไปอยู่กวางเจาสามวัน..สามคืน

    ทุกวันจะต้องแวะเวียนไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ เพราะเมนูก๋วยเตี๋ยวเขามีมากมาย เรียกว่ากินได้เจ็ดวันไม่มีซ้ำกัน

    ส่วนเอร็ดอร่อยแค่ไหน เจ้านายมีกะตังค์ก็บินไปกินเองได้ ไม่ต้องมาชวนอีชั้นให้เสียเวลา

    ชวนไปทีไร ไม่เห็นควักสตางค์จ่าย โบ้ยให้ลูกน้องจ่ายแทนเสียทุกที อย่างนี้ไม่ไหวเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ อีชั้นถึงจะพาไป

    ...ไม่เขียนชวนให้น้ำลายไหลแบบสั้นๆง่ายๆอย่างวันนี้หร้อกเจ้าค่ะ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“สุกี้แพะ” ปากปล่องภูเขาไป เกาะไหหลำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 พฤษภาคม 2547 14:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“หยางโหย่ว ขวั่วกลั่ว”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “ใครว่าไก่ตอน “ไก่ตอนบนเขียง” ที่นี่อร่อย
    แต่อีชั้นว่า “สุกี้แพะ” อร่อยที่ซู้ด!!
    และจะยิ่งอร่อยขึ้นอีกมากมายถ้าได้
    กินที่ปากปล่องภูเขาไป “ขวั่วซานโข่ว” ”



    นักกิน..จะมาเกาะไหหลำ เพราะเชื่อกันว่า ข้าวมันไก่ไหหลำอร่อยที่สุด

    แต่ขาไหนขานั่นมาถึงที่นี่เป็นต้องสะดุด

    เพราะข้าวมันไก่ที่เกาะไหหลำ ซึ่งถือกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดเกิดขึ้นของข้าวมันไก่ทั้งหลาย อร่อยสู้บ้านเราไม่ได้จริง..จริงเจ้าค่ะ

    ถึงจะมีใช้ไก่ตอนพันธุ์ดีจากเมืองที่ชื่อว่า “บุนเชียง” อันเป็นแม่พันธุ์ของ “ไก่ตะเภา” ของบ้างเราก็เถิด

    อีชั้นขอเอาพุงเป็นประกันว่า

    ข้าวมันไก่ “ลาวเกี๊ยะ” หรือข้าวมันไก่ฝีมือของคนอีสานบ้านเฮา แซบกว่าเด๊อ
    .................................................

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เครื่องปรุงที่ใช้ผสมทำน้ำจิ้ม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อีชั้น..ไปเกาะไหหลำ มาหลายครั้ง กินข้าวมันไก่กับขนมจีนไหหลำมาหลายเจ้า

    ก็สรุปได้ว่า ถ้ามาเกาะไหหลำอยากจะกินอาหารให้หนำปากถูกใจ ขอแนะนำเจ้านายว่า ควรจะลอง “สุกี้แพะ” จะอร่อยกว่า

    เกาะไหหลำมีชื่อเรื่องสุกี้แพะที่ว่า เพราะแพะในเกาะไหหลำคนจีนเชื่อกันว่า เป็นแพะอร่อยที่สุดในเมืองจีน

    เพราะเจ้าแพะในเกาะนี้มันกินใบชาซึ่งเป็นสมุนไพรจีน เรียกว่า “ชาเจอกู” ซึ่งจะมีเฉพาะบนภูเขาตงซานหลินเท่านั้น

    เขาว่าแพะพวกนี้กินแล้วจะมีกำลังวังชา

    ก็ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ในเมืองจีนมียาชูกำลังโด่งดังยี่ห้อหนึ่งเรียกว่า “หยางไทซู” คือน้ำยาที่สกัดมาจากแพะเกาะไหหลำนี้
    .................................................

    เพราะฉะนั้น ถ้าเจ้านายจะมาเกาะไหหลำ อีชั้นขอแนะนำให้กิน “สุกี้แพะ” และร้านที่มีชื่อมากที่สุดอยู่ปากปล่องภูเขาไฟที่มีชื่อเรียกว่า “ขวั่วซานโขว่”


    อยู่ห่างจากเมืองซันย่าไปสัก 50 กิโล คนที่นี่ใช้เป็นร้านต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

    “สุกี้แพะไหหลำ” ไม่เหมือนสุกี้ญี่ปุ่นที่ทำมาเสร็จ แต่ของที่นี่เหมือน “จิ้มจุ่ม” บ่นเรา คือ เขาจะยกน้ำแกงใส่หมือหยวนโล่ว หรือหม้อไฟมาตั้งบนเตาถ่านบนโต๊ะ จากนั้นเขาจะยกจานใส่เนื้อแพะสดหั่นบางๆ พร้อมกับบ้าง ขอบกระด้งแพะบ้าง รวมทั้งเลือกแพะสดๆ เอามาให้คนเทลงไปในหม้อไฟ

    จากนั้นก็ใส่บรรดาผักหญ้า เห็ด วุ้นเส้นทั้งหลายใส่ตามลงไป

    แล้วจึงใช้ตะเกียบคีบเนื้อแพะตามใจอยากคือจะสุกมาก หรือสุกน้อยมาจุ่มกับน้ำจิ้มสุกี้ ที่ประกอบด้วย พริกบดผสมเกลือ ผสมด้วยกระเทียมสับ น้ำมันถั่วเหลือง งาดำบด ขิงสับ ส้มจี๊ด บีบใส่ รสชาติปรุงได้ตามใจ
    .................................................

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“ขาแพะน้ำแดง”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> การกินสุกี้แพะแบบไหหลำ เขาจะค่อยๆ กินกัน ความอร่อยสำคัญอยู่ที่น้ำสุกี้ที่ค่อยๆ งวดลงไปทุกที ยิ่งงวดยิ่งอร่อย

    แต่จะอร่อยยิ่งขึ้น จะต้องสั่ง “ขาแพะน้ำแดง” มากินไปพลางๆ

    ขาแพะนั้นจะหั่นติดหนัง เคี้ยวหนุบหนับ ไม่มีมันไม่มีเลี่ยนแบบขาหมู

    แต่สำคัญที่สุด ทุกครั้งที่ เจ้านายได้มากินสุกี้แพะ บนเกาะแห่งนี้ เจ้านายจะต้องจดจำเอาไว้ให้ดีก็คือ

    แพะที่สั่งมา จะต้องเป็นแพะสีดำเท่านั้น

    เขาว่าแพะดำมันโป๊ว กินแล้วมีพลัง เรียกว่ายังไม่หมดชามหมอหม้อไป เจ้านายก็จะกลายเป็นแพะไปทันใด

    ...เพราะฉะนั้นเวลาไปกินสุกี้แพะไหหลำ ต้องพาคู่ขวิดติดตัวไปด้วย ขืนไปขวิดสุ่มสี่สุ่มห้า มันเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางนะเจ้าค่ะ จะบอกให้....

    แม่ช้อยนางรำ
    (SANTI-MAECHOICE@HOTMAIL.COM)

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวปลา และสารพันจิปาถะ

    ก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวปลา และสารพันจิปาถะ

    http://www.matichon.co.th/adm/tour/template1.php?idn=&selectid=2713&sid=&select=
    พลศรี คชาชีวะ
    คอลัมน์ตู้จดหมายพลศรี/เส้นทางเศรษฐี
    ฉบับที่139 15/08/48



    คุณสราวุฒิ อยู่ซอย 2 ถนนประชายินดี หาดใหญ่ สงขลา เขียนจดหมายมาสองหน้าครึ่ง บอกมาด้วยว่าเขียนสั้นๆ ไม่เป็น ครั้นจะลงครบถ้วนกระบวนความก็คงยาวเอาการ ผมขอย่อเพียงสั้นๆ ก็แล้วกันนะครับ
    คุณสราวุฒิ บอกว่า อายุ 31 ปี มีลูกชายหนึ่งคน ตัวเองเรียนจบแค่ ม.1 ต้องออกมาช่วยแม่หาเงิน เป็นลูกจ้างทำความสะอาด หาเดือนกินเดือน คิดจะเปลี่ยนงานไปขายของบ้าง แต่ไม่รู้จะขายอะไร มีคนแนะนำให้อ่านเส้นทางเศรษฐี ได้พบโปรแกรมอบรมอาชีพ จึงตัดสินใจลาออกจากงานแล้วขายรถกระบะเก่าๆ ได้เงินมาแสนกว่าบาท มาเรียนทำลูกชิ้นปลาสูตรโบราณกับอาจารย์ดา เมื่อเดือนเมษายน อยากจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว แต่แล้วก็พบว่าที่หาดใหญ่มีคนขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและฮื้อก๋วยมากแล้ว จึงคิดขายของที่ไม่เหมือนใคร อยากขายเกี๊ยวปลาเหมือนที่ระยอง ที่นั่นเขาขายดีมาก แต่พอกลับมาหาดใหญ่ พยายามหาสูตรทำเกี๊ยวปลา เคยเขียนไปถามทางรายการทีวี แต่เขาก็ไม่ยอมตอบกลับมา ลงทุนซื้ออุปกรณ์ไปหลายหมื่นบาท เงินชักจะร่อยหรอ จึงโทรศัพท์มาถามที่มติชน พี่ๆ ที่นั่นทุกคนใจดี แนะนำให้โทรศัพท์มาถามอาจารย์พลศรี ที่แม่บ้านทันสมัย ผมโทรศัพท์ไปไม่เจอตัวอาจารย์ ที่นั่นเลยแนะนำให้ผมเขียนจดหมายถามที่มติชน ผมอยากได้สูตรหลายอย่างเลยครับ
    ถาม 1. วิธีทำแผ่นเกี๊ยวปลา ทำยังไงครับ?
    ตอบ ผมขอเรียนตรงๆ ว่า ผมเป็นคนไม่ค่อยอยู่ติดสถาบัน หรือบางทีก็ติดสอน คนที่สถาบันเขาแนะนำคุณถูกต้องแล้วล่ะครับ ที่ให้เขียนจดหมายถามที่ตู้จดหมายพลศรี ที่เส้นทางเศรษฐี เพื่อผมจะได้มีจดหมายตอบตามจังหวะ ที่จะส่งต้นฉบับ นี่ขนาดมีจดหมายรออยู่เป็นปึกนะครับ ผมยังส่งต้นฉบับเขาช้าอยู่เลย จนเจ้าหน้าที่เขาต้องโทรศัพท์ไปเร่งให้ส่งเสียที นั่นแหละ ผมถึงจะเคาะสนิมตัวเอง นั่งพิมพ์ต้นฉบับส่งเขา
    ผมเองก็ชอบกินเกี๊ยวปลา ก๋วยเตี๋ยวปลา เส้นหมี่ปลา เมื่อก่อนสมัยทำงานอยู่แถวๆ ถนนตะนาว ยังขยันเดินไปกินเกี๊ยวปลาแถวสี่แยกคอกวัว แต่ไปกินหลายหนเข้า พบว่า เกี๊ยวปลา เส้นหมี่ปลาของเขาชักจะเค็มไปหน่อย และต้องย้ายที่ทำงาน ก็เลยห่างเหเสน่หาไป
    พอคุณถามถึงเกี๊ยวปลา ผมก็เลยต้องตระเวนกินเกี๊ยวปลาเป็นการใหญ่ ทั้งที่บางขุนนนท์ และอีกหลายที่ ก็พบว่า แต่ละที่ก็คล้ายๆ กัน คือมีรสของแป้งมากกว่ารสของปลา ไอ้ครั้นจะทำกินเองก็ขี้เกียจเปลี่ยนอาชีพจากอาจารย์สอนทำอาหาร เป็นคนขายเกี๊ยวปลา จึงได้แต่ถามไถ่คนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง โดยเฉพาะคนที่ทำเกี๊ยวปลาขาย เขามีอารมณ์ดี เขาก็ตอบ อารมณ์ไม่ดีก็บอกว่าอย่าชวนคุย ผมไม่บอกหรอก สูตรใครก็สูตรใคร ผมก็เลยกลายเป็นคนแหยไป
    แต่ไปได้เรื่องจากเจ้าหนึ่ง ไปกินบ่อย เลยคุ้นเคยกัน เขาแนะนำว่า ให้เอาปลาน้ำกร่อย หรือน้ำเค็ม ที่มีเนื้อสีขาวมาทำ เพราะปลาที่มีเนื้อสีขาว จะมีไขมันปลาน้อยหน่อย ผมแอบไปค้นตำรา พบว่า ปลาที่มีสีขาว บางชนิดก็มีไขมันปลา 2% บางชนิดก็กว่านั้นเล็กน้อย เนื้อปลาที่มีไขมันน้อย จะทำให้เหนียวได้ง่ายดีกว่าปลาที่มีเนื้อสีชมพูครับ เช่น สมัยก่อน ใช้ปลากราย แต่เดี๋ยวนี้ปลากรายแพงมาก ต่อมาก็หันมาใช้ปลาอินทรีย์ แต่ปลาอินทรีย์ก็แพงเสียอีก ก็เลยหันไปใช้ปลาดาบลาว หรือดาบยาว แต่บางคนก็ดัดแปลงไปใช้เนื้อปลาทรายแดงแทน เพราะถูกกว่า คุณลองดูนะ
    เอ...ความจริง คุณก็เรียนทำลูกชิ้นปลาแล้วนี่ คุณน่าจะทำเกี๊ยวปลาเป็นนะครับ เพราะมันก็มาแนวเดียวกัน ผมก็อยากให้คุณใช้ความรู้จากการเข้าอบรมทำลูกชิ้นปลากับมติชน มาประยุกต์ใช้ทำเกี๊ยวปลา ก็คงได้ ว่างๆ ก็ลองโทรศัพท์ไปถามอาจารย์ที่สอนลูกชิ้นปลาคุณก็คงจะได้เรื่องเพิ่มเติมบ้างก็ได้ เขาคงรู้บ้างหรอกนะ
    เท่าที่ผมทราบ การทำเกี๊ยวปลานั้น เขาจะเอาเนื้อปลาอย่างที่ว่ามา 1 กิโลกรัม มาใส่เครื่องปั่นให้เหนียว โดยใส่น้ำแข็ง ใส่เกลือลงไปด้วย (เกลือทำให้เหนียว แม้แต่การทำทอดมันปลาเขาก็มักจะเอามือจุ่มน้ำเกลือ หรือน้ำปลา แล้วมานวดเนื้อปลาให้เหนียว เพราะฉะนั้น พวกผลิตภัณฑ์จากปลาพวกนี้จึงต้องมักจะเค็ม
    การใส่น้ำแข็ง ก็เพื่อให้ความร้อนในการปั่นเนื้อปลาลดลง ซึ่งจะทำให้เหนียวดีขึ้น พวกที่บดหมู บดเนื้อ บดปลาทำพวกลูกชิ้น หรือไส้กรอก ก็ต้องใส่น้ำแข็งเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อชวนเคี้ยวด้วยกันทั้งนั้น
    จากนั้น จึงใส่แป้งสาลีลงไปปั่นด้วยสัก 2 ถ้วยตวง โดยค่อยๆ เติมจนหมด
    ทีนี้ ก็เทเนื้อปลาที่ปั่นจนดีแล้ว มานวดบนแผ่นกระดาน โดยมีแป้งสาลีเป็นนวลกันเนื้อปลาติดกระดาน การนวด การแผ่ให้เป็นแผ่น จะใช้ไม้นวดแป้งทานวลแป้งมานวด จนแป้งเป็นแผ่น (บางคนไม้นวดแป้งไม่มี จะเอาขวดเบียร์มานวดก็พอถูไถไปได้ แต่อย่านวดไป ดวดเบียร์ไปด้วยก็แล้วกัน เล่นกินคนเดียว ชักอิจฉา)
    นวดจนเป็นแผ่นแบนเท่าที่ต้องการ ก็ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม เท่าแผ่นเกี๊ยวธรรมดาแล้วจึงใส่หมูบด ผสมซีอิ๊ว กระเทียมบดเล็กน้อย พริกไทยนิดหน่อย เป็นอันเสร็จเกี๊ยวปลา เอาไปต้มจนเกี๊ยวปลาลอย ก็ตักขายได้
    ถาม 2. วิธีทำแผ่นเกี๊ยวหยก
    ตอบ แผ่นแป้งเกี๊ยว เดี๋ยวนี้ทำขายกันเกร่อ ทั้งสีเหลือง สีเขียว มีโรงงานข้างบ้านผมใช้เครื่องจักรนวดแป้ง กึงๆ ประเดี๋ยวก็เอามาเข้าเครื่องนวดแป้ง แผ่แป้งให้เป็นแผ่นบางได้เรียบร้อย มีเครื่องตัดออกมาเป็นแผ่นๆ ซ้อนๆ กัน ห่อกระดาษแล้วก็ส่งไปขายแถวซูเปอร์มาร์เก็ต แถมยังส่งไปขายตามร้านบะหมี่เกี๊ยว ตามที่ต่างๆ โดยมีรถส่งให้เสร็จ แสนสะดวกสบาย
    ไม่เหมือนสมัยก่อน ผมเคยเห็นแถวราชวงศ์ บะหมี่เจ้าเก่ง แกจะเอาแป้งสาลีมากองเข้า เหมือนภูเขาไฟ แล้วทำปล่องตรงกลาง ต่อยไข่ใส่ลงไป เทน้ำด่างใส่ลงไปนิดหน่อยก่อน แล้วนวด ถ้าแป้งแห้งไป เติมน้ำด่างได้อีก เขาว่าน้ำด่างทำให้แป้งเหนียว เมื่อนวดแป้งจนได้ที่ก็จะมีการแผ่ให้เป็นแผ่น สมัยก่อนเมื่อ 50 ปีมาแล้ว ไม่มีเครื่องนวดแป้ง แผ่แป้งเป็นเครื่องจักร เขาก็ใช้ไม้กระบอกอันโตๆ ผูกหัวด้วยเชือกกับหลัก แล้วตัวคนนี้แหละก็จะโดดเข้าคร่อมไม้กระบอกนั่น ขย่มๆ ให้น้ำหนักลงไปที่แป้งจนแป้งแผ่เป็นแผ่นบางจ๋อย บะหมี่เกี๊ยว สมัยนั้น ทำแป้งได้เส้นเล็ก ลวกแล้วบางใส อร่อยมาก เดี๋ยวนี้หากินไม่ได้แล้ว มีแต่เส้นบะหมี่ แผ่นแป้งเกี๊ยวจากโรงงานเหมือนกันหมด แถมบางเจ้าอยากให้เหนียวกรุบๆ ยังแอบใส่บอแรกซ์ลงผสมในแป้งเสียด้วย เอาคนติดใจเข้าว่า ส่วนทีหลังใครจะเป็นมะเร็งเก็งกอยยังไง ก็ช่างหัวมัน
    บะหมี่ หรือแผ่นเกี๊ยว สีเหลือง เขาว่า เหลืองเพราะไข่ แต่ส่วนใหญ่ใส่สีเหลืองผสมลงไปเกือบทั้งนั้น
    ส่วนบะหมี่ หรือแผ่นเกี๊ยวสีหยก หรือสีเขียว บางเจ้าก็ใส่น้ำผักกวางตุ้งบดแล้วคั้น บางเจ้าก็ใส่น้ำใบเตยนั้น แต่ส่วนใหญ่ ใส่สีเขียวผสมอาหาร เพราะดูสดกว่า เวลาลวกแล้วไม่มีเม็ดสีของผักเป็นเม็ดๆ ถ้าลวกนานสีก็จะคล้ำไปด้วย
    ถาม 3. เกี้ยมอี๋ ทำยังไงครับ?
    ตอบ เกี้ยมอี๋ ทำด้วยแป้งข้าวเจ้า ผสมกับแป้งมัน กวนแป้งผสมน้ำด่างเล็กน้อย แล้วเอามากดให้ผ่านรูพิมพ์ จนทะลักออกมา คล้ายตัวลอดช่อง แต่ใหญ่กว่า อ้วนกว่า
    เวลาขายก็ลวกเกี้ยมอี๋เหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยว ใส่ชาม ใส่น้ำซุป ใส่หมูแดง พร้อมผักกวางตุ้ง หรือบางเจ้าก็ใช้ถั่วงอกลวก ใส่กระเทียมเจียวก็เท่านั้นเอง
    ถาม 4. น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ ด้วยครับ
    ตอบ ทั่วไปก็ใช้โครงไก่ หรือกระดูกหมูมาแช่น้ำเย็นก่อนสักครึ่งชั่วโมง แล้วก่อนแช่ก็ต้องทุบกระดูกให้แตก เพื่อให้ไขกระดูกออกมาผสมกับน้ำ หลังจากนั้นก็เอาไปตั้งไฟให้เดือดพล่าน พอเดือดสักพัก ก็ราไฟให้อ่อนลง ใส่หัวผักกาดขาวปอกเปลือกหั่นเป็นแว่นๆ ลงไปต้มด้วยให้น้ำหวาน บางเจ้าก็ใส่น้ำตาลกรวดด้วยให้มีรสหวาน แต่บางเจ้าสมัยนี้เล่นใส่น้ำตาลทรายเอาดื้อๆ (รสชาติไม่เข้าท่า) หมั่นช้อนฟองทิ้ง เคี่ยวไฟอ่อนๆ ไปข้ามคืน น้ำซุปจะหวาน บางเจ้าก็ใส่ผักหลายอย่าง เช่น รากผักชีบุบ ต้นขึ้นฉ่ายมัดให้เป็นฟ่อนลงไปต้มด้วย ปรุงด้วยเกลือพอปะแล่มๆ
    แต่เดี๋ยวนี้ ผมแอบเห็นบะหมี่เกี๊ยว บางเจ้าเล่นทำน้ำซุปสูตรสำเร็จ คือ เอาซุปก้อน ซุปผงลงผสมน้ำต้มเป็นน้ำซุปกันดื้อๆ ใครจะทำไม ก็เห็นคนกินกันเหยงๆ นี่ไม่เห็นมีใครว่าอะไร คนสมัยนี้ ขอให้อิ่มท้องไว้ก่อน ราคายิ่งถูกยิ่งดี ส่วนรสชาติก็ปะล่อมปะแล่มกินเข้าไปกันตาย ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ครับ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.matichon.co.th/adm/tour/template1.php?idn=&selectid=2661&sid=&select=

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จากหนังสือพิมพ์มติชน
    มติชน กิน เที่ยว


    ลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ
    เชี่ยวเรื่องลูกชิ้น



    ปิ่นโตเถาเล็ก
    คอลัมน์ตามรอยพ่อไปชิม/มติชน
    ฉบับวันที่ 03/07/48


    [​IMG]
    ย่านฝั่งธนมีถนนอยู่เส้นหนึ่ง เดิมสมัยเด็กๆ ผมรู้จักในชื่อถนนบางกอกน้อยตลิ่งชัน แต่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นถนนบางขุนนนท์ไปแล้ว ระยะทางสั้นๆ เพียงไม่กี่กิโลแต่มีร้านอาหารอร่อยๆ เด็ดๆ เพียบ
    เริ่มต้นจากสามแยกที่ตัดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ไล่มาเรื่อยๆ ท่านจะพบกับร้านบะหมี่ปู "ตั้งเลียกเส็ง" เป็นเจ้าแรก ถัดมามีเจ้าก๋วยเตี๋ยวตำลึงตั้งเรียงรายเป็นทิวแถวตั้งแต่หัวถนนยันท้ายถนน ผมยังไม่ได้มีโอกาสทบทวนสักที เอาไว้จะไล่ชิมไปเรื่อยๆ เพื่อกลับมารายงานท่านอีกครั้งหนึ่ง
    ต่อจากร้านบะหมี่ปู บริเวณปากซอยเกิดทรัพย์ ก่อนถึงโรงพักบางขุนนนท์ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่ผมจะแนะนำในครั้งนี้
    แต่ขอข้ามไปก่อนเพื่อสาธยายร้านเดิมๆ ที่เคยได้ชิมไว้ ผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงหัวโค้งเป็นที่ตั้งกรมบังคับคดี ต่อจากนั้นจะเป็นสามแยกคลองชักพระ ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนชักพระวิ่งลัดเลาะจนเลียบทางรถไฟจะผ่านเขตตลิ่งชันและไปออกที่ถนนบรมราชชนนีได้ ตรงนั้นก็มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อใส่เครื่องในชิ้นโตๆ สดๆ ซึ่งเป็นของโปรดของคุณชายถนัดศรีชื่อว่าร้าน "เพ็ญจันทร์โภชนา"
    จากแยกชักพระ ถ้าท่านไม่เลี้ยวซ้ายแต่ตรงไปก็จะไปออกถนนบรมราชชนนีได้ตรงวัดไก่เตี้ย บนเส้นนี้ยังมีก๋วยเตี๋ยวเรือหมูใส่ตำลึงที่ยกพลขึ้นบกมาตั้งนานแล้วชื่อว่า "ประสพลาภ(นายแกละ)"
    สรุปได้ว่าถ้าไม่แน่จริงห้ามมาตั้งร้านอาหารบนเส้นนี้เป็นอันขาดเพราะเขามีเจ้ายุทธจักรตั้งประชันกันอยู่ตั้งเยอะแยะแล้ว
    ย้อนกลับมาที่ปากซอยเกิดทรัพย์ ฝั่งเดียวกับโรงพักบางขุนนนท์เป็นที่ตั้งของร้าน "ลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ" ที่เป็นร้านดังประจำเขตนี้เช่นกัน ถ้าไม่อร่อยคงไม่อยู่ยงคงกระพันมาได้ถึง 30 ปีหรอก
    นายเงี๊ยบหรือคุณสมชาติเป็นคนขยัน อัธยาศัยใจคอดีเป็นเลิศ ธรรมะธัมโมชอบทำบุญลูกเดียว คงเป็นเพราะบุญกุศลบวกกับฝีมือพรสวรรค์ของเจ้าของร้านทำให้ร้านนายเงี๊ยบขายดีมีลูกค้าทั่วทุกมุมเมือง
    นายเงี๊ยบรู้จักสนิทสนมลูกค้าไปทั่ว รวมทั้งคุณป้าประดับ เจ้าแม่ตลาดบางขุนศรี ซึ่งครอบครัวคุณป้าสนิทกับพ่อกระผมเป็นอันมาก จนกระทั่งคุณชายตั้งฉายาให้ว่า "มือปืนหัวแม่เท้า" (อยากทราบที่มา ให้ไปถามคุณป้าเองนะครับ อุ๊บส์! )
    ร้านนายเงี๊ยบนี้ยังมีอีกแห่งที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตรงหัวโค้งที่เลี้ยวมาจากถนนบรมราชชนนี ร้านโน้นยังมีทีเด็ดที่ต้องรีบบอกก่อนกันลืม ได้แก่ มะม่วงกวนนุ่มๆ หนึบๆ และขนุนกับส้มโอนครชัยศรีที่รสชาติดีอย่าบอกใคร อย่าลืมซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านคนละหลายๆ เข่งด้วยนะครับ
    ทีเด็ดของร้านนายเงี๊ยบคือ ลูกชิ้นปลาที่ใช้มือปั้นล้วนๆ นายเงี๊ยบบอกว่าเคยลองใช้เครื่องทำ ทำอย่างไรก็ไม่เหนียวอร่อยเท่าใช้มือปั้น ที่นี่จะใช้แต่ปลาสดๆ ไม่แช่แข็ง (ยกเว้นยามน้ำมันแพง เรือประมงไม่ยอมออกไปจับปลาเท่านั้น)
    ปลาที่ใช้ประกอบไปด้วยไซตอหรือปลาดาบยาว ซึ่งให้ความเหนียว ส่วนปลาหางเหลืองนั้นจะให้ความกรอบ ถ้าเป็นปลาอินทรีจะเอาไว้ทำเกี๊ยวเพราะเนื้อจะนุ่ม
    สารพัดลูกชิ้นที่ขายจึงสดกรอบเหนียวอร่อย ไม่คาว มีทั้งลูกชิ้นปลากลม ลูกชิ้นรักบี้ ฮื่อก้วยหรือลูกชิ้นปลาทอด ลูกชิ้นเหลี่ยมใส่เห็ดหอมหรือกุ้ง เกี๊ยวปลา สมควรที่จะสั่งลูกชิ้นลวกหรือสั่งเกาเหลามากินต่างหาก ถ้าชอบกินเส้นมีให้เลือกตั้งแต่ เส้นหมี่ปลา(ทำจากเนื้อปลานั่นแหละ) เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ วุ้นเส้น
    นอกจากนี้ยังมีหนังปลาทำเอง สั่งต่างหากมาจิ้มกินกับน้ำพริกเผาได้ ซึ่งน้ำพริกเผาทำเองเช่นกัน ถ้าติดใจมีขายเป็นขวดๆ สนนราคาขวดละ 50 บาท
    ข้อสำคัญที่ร้านนี้จะไม่มีเย็นตาโฟ เพราะต้องการให้ลูกค้าได้รสชาติแท้ๆ ของลูกชิ้นปลา ไม่ให้มีกลิ่นอื่นมากลบ ซึ่งถ้าไม่แน่ไม่ดีจริงคงไม่ทำอย่างนี้หรอก
    เคล็ดลับความอร่อยของร้านนี้อีกอย่าง มาจากความชอบส่วนตัวของนายเงี๊ยบที่เป็นคนชอบกินก๋วยเตี๋ยวเป็นชีวิตจิตใจ ต้องกินทั้งเช้าและเย็น ขนาดไปตามภัตตาคารอื่นยังถามหาราดหน้า บะหมี่เลย จึงรู้ซึ้งถึงการทำก๋วยเตี๋ยวให้อร่อยได้รสชาติที่ตัวเองชอบ

    เชิญพบปะสนทนากับผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นและลูกชิ้นได้ที่ร้านทุกวัน
    ข้อมูลร้าน
    ลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ
    โดย คุณสมชาติ สาลีพัฒนา
    ที่ตั้ง 61/46 ถ.บางขุนนนท์ บางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700
    โทร. 0-2433-2092 0-2424-4186
    เปิดบริการ 09.00-18.00 น. ทุกวัน
    อาหารแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา และหนังปลาจิ้มน้ำพริกเผา
    หมายเหตุที่สาขาพุทธมณฑลสาย 4 มี มะม่วงกวน ส้มโอ ขนุน ขายด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...