เรื่องยุคอภิญญา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 13 มกราคม 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,103
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    ?temp_hash=881474bb8b6c481ca66dca4e9680d50a.jpg








    เรื่องยุคอภิญญา
    Cr.เฟซบุ๊ค:Kuntana Satterrawut



    ประมาณปีพ.ศ.2530 อาจารย์ศุภรัตน์ ได้สนทนากับหลวงปู่ถึงคำกล่าวของหลวงพ่อมหาวีระถาวโร ที่ว่าต่อไปจะเป็นยุคของอภิญญาแปลว่าความรู้ยิ่งในส่วนโลกีย์หรือทางโลก คือ จิตที่มีฤทธิ์เหนือธรรมชาติหลวงปู่ท่านได้กล่าวว่านับจากนี้ไปอีก 10 ปีอภิญญาจะเกิดขึ้นท่านยังได้กล่าวต่อไปว่าพระที่ข้าทำไว้ก็เพื่อในวาระนั้นตอนนี้ทำเหมือนหลอกชาวบ้านเพราะยังหาสิ่งพิสูจน์ให้เห็นกับตาไม่ได้คนนั่งดูเวลาข้าเสกพระ ก็บอกกันว่าเห็นพระพุทธเจ้าเห็นพระอรหันต์มาเสกมีเทวดาคอยรักษาถ้าคนที่ไม่ปฏิบัติบางคนก็เชื่อบางคนก็ปรามาสแต่วิชาของพระพุทธเจ้านั้นมีจริงขอเวลาต่อไปอีกนิดจะได้รู้ว่าจริงหรือไม่ ไม่เกิน 10 ปีนับจากนี้ไปหรอก
    หลวงปู่พูดเสร็จท่านยังเสริมต่อไปอีกว่าตอนที่ข้าบวชได้ไม่นาน ข้าตั้งจิตอธิฐานขอให้พระเดินได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าจะไม่ขอสึกหาลาเพศ อาจารย์เรียนถามท่านว่า แล้วหลวงปู่มีนิมิตหรือแรงจูงใจอะไรหรือไม่ท่านตอบว่า ข้า ก็มองไปตามก้านธูปกับเทียนที่จุดบูชาพระ เห็นพระท่านเดินมาตามควันธูปเป็นร้อยเป็นพันองค์ พร้อมกับได้ยินเสียงในจิตว่า สำเร็จ สำเร็จ
    ข้าเลยตั้งใจไม่สึกตั้งแต่นั้นมา ในส่วนของการปฎิบัติท่านได้เล่าถึงขั้นตอนของจิต พอจิตมันได้ มันเป็นแกรู้ไหมมันเหมือนเสียงระเบิดเหมือนฟ้าผ่า ดังสนั่นหวั่นไหว ต้องออกจากสมาธิดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นออกมาหน้ากุฏิจึงรู้ว่านี่มันเดือนห้า ฟ้าที่ไหนจะมาผ่า เพราะไม่มีฝน โง่ไหมล่ะแก เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านไม่รับนิมนต์ออกนอกวัดหลวงพี่หวานได้เล่าให้อาจารย์ฟังว่าแต่ก่อนท่านก็รับมีอยู่ครั้งหนึ่งพอจะออกนอกวัดพอลงเรือฟ้าเกิดผ่าขึ้นมา 2-3ครั้ง ท่านเลยไม่รับนิมนต์ออกนอกวัดอีกเลย
    ตอนที่อาจารย์ได้รับคำสั่งให้สร้างลูกแก้วสารพัดนึกท่านบอกว่าแกนั่งไปวิมานแก้วพระพุทธเจ้าแกเห็นลูกแก้วพระพุทธเจ้าลอยอยู่เต็มวิมานเลยใช่ไหม อาจารย์ตอบว่า มีผู้ที่ได้มโนยิทธิที่เห็นกันหลายคน สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้จากการนี้ท่านตอบว่าอธิฐานขอพระพุทธเจ้าแล้วกลืนเข้ามาไว้ในตัวเรา เวลาข้าเสกลูกแก้วข้าก็อธิษฐานให้มาสถิตย์อยู่ในลูกแก้ว เพื่อให้เป็นลูกแก้วของพระพุทธเจ้าอาจารย์เรียนถามท่านว่าอย่างนี้เรียกว่าแก้วมณีนพรัตน์ได้ไหม ท่านตอบว่าได้ สิ่งที่แกทำนั้นเป็นลูกแก้วเรียกว่ารูปพ่อมีนามคือพลังของพระมาสาธิตจึงเรียกว่าลูกแก้วสารพัดนึกเรื่องราวที่คุยกับหลวงปู่ในวันนั้นอาจารย์ไม่คิดว่าจะประสบด้วยตนเองไม่ใช่ผู้เขียนคนเดียว สิ่งที่แกทำนั้นเป็นลูกแก้วเรียกว่ารูปพ่อมีนามคือพลังของพระมาสาธิตจึงเรียกว่าลูกแก้วสารพัดนึกเรื่องราวที่คุยกับหลวงปู่ในวันนั้นอาจารย์ไม่คิดว่าจะประสบด้วยตนเองไม่ใช่อาจารย์เพียงผู้เดียวที่พบเห็น แต่มีคนเป็นร้อยๆพบเห็นพร้อมกันเป็นสักขีพยานเพื่อให้หมดสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น

    1f600.png 1แชร์=1ส่งต่อสิ่งที่ดีๆ 1f600.png ฝากกดที่ลิงค์นี้เพื่อติดตามคติธรรมงานบุญกันไว้ด้วยน่ะครับสาธุ https://line.me/R/ti/p/@amatatum



    ********************************************

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,103
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    "ของดีที่แท้จริง ที่หลวงปู่ดู่ ทิ้งไว้ให้ พระคาถามหาจักรพรรดิ"


    พระคาถาบทนี้มีอานุภาพสูงมาก ผู้ใช้ต้องทำให้มีจิตใจสูงตามไปด้วย

    ดังเช่นเรื่องที่เคยเล่า หลวงปู่ดู่ ทำตะกรุดจักรพรรดิ ให้คนใช้ แล้วใช้ไม่ได้ผล ท่านจึงตอกกลับไปว่า ของที่ให้ไปเป็นของสูง แต่เอ็งไม่ทำตัวเองให้สูงตามด้วย พระจักรพรรดิที่ไหนเขาฆ่าสัตว์ กินเหล้า ละ พูดเสร็จท่านก็โยนตะกรุดทิ้งน้ำ


    "คาถา บทนี้เป็นของดี หมั่นท่องไว้ทุกวัน ปกติเขาไม่ให้กันหรอกเพราะเขากลัวลูกศิษย์จะดีกว่าอาจารย์ แต่ข้าไม่เคยกลัวและไม่ปิดบัง ท่องให้ดีนะอีกหน่อยจะรวย เพราะมีการกล่าวถึงพระสิวลีผู้เป็นเลิศทางลาภไว้ด้วย อาบไปเสกไปก็ได้ กินข้าวก็ได้ ดีทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามาบอกพวกแก ข้าทดลองมาแล้วทั้งนั้น เมื่อดีแล้วจึงมาบอก
    ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ศรัทธาและหมั่นฝึกฝนปฏิบัติ คนเราอยู่ดีๆจะให้รวยได้อย่างไร ต้องปฏิบัติเสียก่อน ดูอย่างข้าเมื่อก่อนต้องไปยืมเงินเขามาซื้อธูปเทียนใบชามาเลี้ยงแขก เดี๋ยวนี้ของกินของใช้มีใช้เกลื่อนกลาดไป เรามาพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น แกว่าจริงไหมของดีของอร่อยกินก็ไม่ได้ ฟันไม่มี"

    หลวงพ่อหัวเราะ และยังเสริมอีกว่า

    "คนเราต้องทำให้ดีเมื่อดีแล้วจึงรวย แล้วจะได้ไม่ซวย พระจะดีต้องหมดอยาก
    ถ้ายังอยากอยู่ก็ไม่ใช่พระดี"



    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”


    ---------------------------------------------------------------------------


    “พระคาถามหาจักรพรรดิ” เป็นพระคาถาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก“ชมพูปติสูตร” ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิพญา ชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา
    พระผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์แก้วที่แผ่กิ่งก้านใบบุญบารมีมอบความร่มเย็นเป็นสุข ให้แก่ลูกศิษย์ทั่วทุกชนชั้นอย่างไม่มีประมาณตามแนวทางแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งพระคาถานี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่เมตตาช่วย เหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ
    ฉะนั้นเมื่อเราปรับภพภูมิ ให้ผีเปรต หรือ ผู้ได้รับทุกขเวทนาให้เขา พ้นทุกข์แล้ว พอเขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้นเช่นเทวดา เขาก็จะมาช่วยเรา และเรายังได้บุญกุศลจากการช่วยเขาให้พ้นจากบ่วงกรรมด้วย
    #คาถานี้จึงเป็นของสูง #ผู้สวดจึงควรจิตใจให้สูงตามด้วย เช่น รักษาศีล 5 ให้เคร่งครัด เพราะมีการเชิญพระเข้าตัวด้วย คล้ายๆ ชินบัญชร ถ้าเหล้ายาไม่เคยว่างเว้น อย่างนี้ไม่แนะนำให้สวด เพราะเป็นของสูง


    เปิดดูไฟล์ 5728330
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...