เรื่องเด่น เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน หินพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า เขาสามร้อยยอด ของดีที่หายาก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 27 พฤษภาคม 2017.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน หินพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า เขาสามร้อยยอด ของดีที่หายาก
    18670865_10213192589679008_8633358648963459406_n.jpg 18740065_10213192592399076_6109330097587471592_n.jpg
    หินพระธาตุ เขาสามร้อยยอดนั้นเป็นหินที่อยู่ตามถ้ำต่างๆ บนภูเขาสามร้อยยอด ซึ่งมีอยู่หลายถ้ำ และหลายถ้ำอยู่บนเขาสูงต้องปืนขึ้นไปสกัดหินพระธาตุลงมา คิดดูครับ แบกหินพระธาตุที่มีน้ำหนักหลายกิโลกรัม ออกจากถ้ำและลงมาจากเขา แค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับ ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะได้หินพระธาตุมา ลักษณะหินพระธาตุแต่ละถ้ำจะมีความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ของถ้ำนั้นๆ หินพระธาตุแต่ละก้อนนั้นมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น "ไม่มีซ้ำ" เพราะหินแต่ละก้อนมีลวดลาย มีชั้นหิน มีจำนวนเม็ดพระธาตุและสี ไม่เหมือนกัน (อาจมีคล้ายแต่ไม่เหมือน)
    *ปัจจุบันทางอุทยานสั่งห้ามไม่ให้มีการนำหินพระธาตุ ลงมาจากเขาสามร้อยยอดแล้ว หินพระธาตุสวย ๆ จึงหายากและราคาสูงขึ้นทุกวัน
    ข้อมูลส่วนใหญ่ที่นำเสนอ ผมไม่ได้เขียนหรือพิมพ์เอง แต่เป็นการรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซด์ต่างๆ หลายเว็บ นำมาเรียบเรียงรวมกัน และต้องขอขอบพระคุณเจ้าของข้อมูลทุกๆท่าน ณ ที่นี้ด้วย

    หินพระธาตุ เขาสามร้อยยอดนั้น ตามความเชื่อ เชื่อกันว่าคือ "พระปัจเจกพระพุทธเจ้า....พระพุทธองค์ตรัสแก่พระอานนท์ในคัมภีร์ปัจเจกพุทธาปธานว่า "ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย"*****

    คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า
    พุทธะ มะ อะ อุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
    จะทำให้มีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ เงินไม่ขาดมือ

    ก่อนอื่นขอนำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ตามด้วยข้อมูลตามคำบอกเล่าและความเชื่อนะครับ

    โดยทางธรณีวิทยาชั้นหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เกิดจากการละลายของหินปูนที่มีแร่ธาตุต่าง ๆ เจือปนอยู่จึงมีสีต่างกันลงมาสะสมเป็นชั้นตะกอนในเบื้องล่าง ส่วนเม็ดพระธาตุนั้นก็เป็นการสะสมของหินปูนเช่นกัน เหมือนกับพระธาตุหินในถ้ำอื่น ๆ ส่วนที่จะเป็นเม็ดพระธาตุที่เกิดจากอริยะบุคคลหรือไม่นั้นไม่อาจเทียบเคียง ได้มากนักเพราะอรหันต์ธาตุในปัจจุบันแต่ละองค์ก็มีลักษณะต่างกันไป แต่ตามประวัติที่มีการเขียนหนังสือขายก็มักจะอ้างหลวงพ่อฤาษีลิงดำบ้าง หลวงพ่อยิดบ้าง หลวงพ่อคูณบ้าง ครูบาวงศ์บ้าง ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพระธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกอื่น ๆ ซึ่งเกินวิสัยของคนธรรมดาอย่างเราจะรู้ได้ แต่จากเหตุการณ์จริงที่รู้คือ หลวงพ่อคูณไม่พรมน้ำมนต์ลงไปที่หินพระธาตุท่านบอกว่าแก่กว่ากู และป้าอุดมได้ทำบาตรและแจกันหินพระธาตุถวายหลวงพ่อฤาษีลิงดำไว้ด้วย

    เรื่องที่น่าคิดอีกเรื่องหนึ่ง ว่าเหตุใดสมัยนี้ธาตุกายสิทธิ์จากเขาสามร้อยยอดหรือจากที่ต่างๆถึงได้มีออก มาสู่ตลาดต่างๆ ทั้งภายในวัดหรือร้านค้าทั่วไปมากมาย เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการคลายตัวของเงื่อนเวลาที่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ของหายากก็จะกลับเป็นง่าย เหล่านี้เป็นความลี้ลับของโลกธาตุที่ยากจะเข้าใจ
    แต่สามารถอธิบายได้คร่าวๆว่า ในขณะนี้โลกของเราเข้าสู่กึ่งกลางของพระศาสนา นับวันโลกจะยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ มีโรคแปลกๆ ออกมาเพื่อคร่าชีวิตมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ได้ปลดปล่อยสัตว์ร้ายจากนรก ออกมาทำลายมนุษย์เราเอง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และบางครั้งก็เป็นความจงใจของเขา โลกเราที่ร้อนขึ้นทุกวันนี้เพราะเกิดช่องโหว่ของชั้นโอโซน ทำให้รังสีอัลต้าไวโอเลต ผ่านเข้าในชั้นบรรยากาศได้มากขึ้น ทำให้เกิดการเผาไหม้ผิวหนังของมนุษย์ จนก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง การทดลองทางชีวภาพอีกหลายต่อหลายอย่างที่สร้างสรรค์ชีวิตนอกรูปแบบของ ธรรมชาติที่มีอยู่เดิม เหล่านี้ คือการการปลดปล่อยและสร้างสัตว์ร้ายขึ้นมา หากแต่ศาสตร์และศิลป์ ของศาสนาโบราณ ได้มีวิธีช่วยเหลือ ป้องกันภัยจากมหันตภัยร้ายเหล่านี้ไว้ให้เราแล้ว เพียงแต่ เราจะเชื่อหรือไม่ท่านั้น ธาตุกายสิทธิ์ที่มีอยู่บนโลกและที่เรากำลังกล่าวถึง คือ หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราจากภาวะดังที่เป็นอยู่ *** แร่บางอย่างที่พบในศตวรรษที่ 20 เช่น เรเดียม ยูเรนียม โคบอลต์ 60 เหล่านี้นับว่าเป็นธาตุที่อันตรายมาก *** เพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลง และทำลายโครโมโซมที่มีอยู่ในตัวสิ่งมีชีวิต ให้เกิดการผิดเพี้ยนทางพันธุกรรม สามารถส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดไขสันหลังได้ โดยที่เราแทบไม่รู้ตัว แต่ในขณะเดียวกันความเชื่อแห่งพลังของลัทธิศาสนาโบราณได้กล่าวว่า หินพระธาตุ จากดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์เขาสามร้อยยอด มีอานุภาพในการป้องกันกัมมันตภาพรังสีได้ แม้เพียงน้ำที่ใช้แช่หินพระธาตุ ก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรักษาอาการป่วยของผู้ที่ทุกข์ทรมานจากรังสีมหันต ภัยเหล่านี้ เรียกได้ว่าอำนาจจากธรรมชาติแท้นี่เอง ที่จะสามารถเยียวยาความทุกข์ร้อนอันเกิดจากการฝืนภาวะทางธรรมชาติของมนุษย์ เรา

    * ข้อสันนิษฐานอย่างหนึ่งคือ หินพระธาตุเหล่านี้ได้รับพลังปราณจากผู้สำเร็จเช่น พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านผู้บริสุทธิ์ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ ทำให้วัตถุนั้น ๆ เมื่อนานเข้าก็กลายเป็นพระธาตุ เป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพ มีเทพ หรือผู้เฝ้ารักษาบางทีก็เรียกกายสิทธิ์รักษาของวิเศษนี้ไว้ ซึ่งลักษณะที่อยู่ของหินพระธาตุนั้น ก็อยู่ในถ้ำบนเขาซึ่งมีลักษณะตัดคือสูงชะลูดขึ้นไปไม่มีตีนเขาให้ป่ายปีน ขึ้นไปได้อย่างปกติเหมือนเขาอื่น ๆ ซึ่งถ้ำที่อยู่บนเขาลักษณะอย่างนี้ส่วนมากจะเป็นที่อาศัยปลีกวิเวกของพระ พุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ผู้มีฤทธานุภาพสูง ไปมาโดยการเหาะไปในอากาศเข้าถ้ำไปในทันทีโดยไม่มีการป่ายปีนเดินขึ้นเขา และถ้ำเหล่านี้จะไม่มีสัตว์ป่ามาอยู่อาศัยรบกวนความสงบ หรือทำความสกปรกให้กับถ้ำนั้น ๆ เหตุที่ท่านเหล่านั้นอาศัยพำนักอยู่ในถ้ำก็อาจจะนิพพานในบริเวณถ้ำเหล่านั้น ทำให้สิ่งของบริเวณนั้นได้รับพลังปราณเกิดอิทธิฤทธิ์เป็นพระธาตุขึ้นดังเช่น ที่เขาสามร้อยยอดนี้ก็เป็นได้ครับ

    หินพระธาตุศักดิ์สิทธิ์นี้ มีแหล่งกำเนิดอยู่ในบริเวณเทือกเขาที่ซับซ้อน ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะเป็นเม็ดหินสัณฐานกลมเป็นปริมณฑล มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเท่ากำปั้น ไข่ไก่ จนกระทั่งขนาดเท่า ไข่จิ้งจกและไข่ปลาดุก สีที่พบส่วนมากเป็นสีขาวคล้ายไข่จิ้งจก ส่วนสีอื่นก็มี สีแดงคล้ายดินเผา ออกใสคล้ายสีน้ำผึ้งก็มี หินดังกล่าวจะซ่อนตัวโดยการฝังอยู่ในแท่งหิน แท่งหินเหล่านี้จะทำหน้าที่คล้ายฝักและมีหินพระธาตุเหล่านี้อยู่ภายใน บางคนอาจเรียกหินพระธาตุดังกล่าวอีกชื่อหนึ่งว่า พระธาตุไข่ในหิน
    หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินศักดิ์สิทธ์ที่นิยมในหมู่ผู้ชอบสะสมของแปลกและพวกเครื่องรางของขลัง มานานกว่า 40 ปีแล้ว มีการขอสัมปทานขุดหินเขาสามร้อยยอดออกมาขาย โดยจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ เช่น หินดิบที่มีพระธาตุฝังอยู่ นำมาแกะเป็นพระ เจียร์เป็นเครื่องประดับต่างๆ ก็มาก
    มีผู้รู้ทั้งหลายกล่าวกันว่า พระธาตุส่วนมากที่พบในลักษณะของไข่ในหินนั้น เป็นพระธาตุของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า และยังอาจมีพระธาตุของพระสาวกรูปอื่นๆรวมอยู่ด้วย ในแผ่นหินหนึ่งแผ่นจึงอาจเป็นที่รวมของพระธาตุหลายชนิด มีอานุภาพครอบจักรวาล เป็นของมหามงคลสูงสุด ที่ใครได้ไว้นับว่าเป็นโชคลาภมหาศาล

    ขุนเขาแหล่งพระธาตุแห่งนี้ มีครูบาอาจารย์ทั้งหลายจาก ทุกภาคของประเทศ นิยมมาอัญเชิญพระธาตุไปประดิษฐาน ณ บ้านเมืองตน ที่เขาสามร้อยยอดนี้ยังเต็มไปด้วยพระธาตุสาวกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พระองคุลีมาล พระอัญญาโกณฑัญญะ พระโมคคัลลา พระสารีบุตร และพระสีวลี ทั้งนี้ยังปรากฏผงพระธาตุสีต่างๆ อีกด้วย หรือมี่เรียกกันว่า ผงพระเจ้า เท่าที่ทราบผงพระธาตุที่พบมีสีขาวบริสุทธิ์คล้ายแป้ง ภายในจะเป็นเกล็ดแก้วสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีสีคล้ายน้ำตาลปี๊บ ผงแต่ละสีจะอยู่แยกกันตามธรรมชาติในถ้ำไม่ปะปนกัน เหมือนมีผู้นำมาแยกเอาไว้
    ที่มาของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จากคำบอกเล่าของลุงไล้ ชาวจังหวัดประจวบฯ เล่าให้ฟังว่า หินพระธาตุนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักเพราะเก้ง ธรรมดา ตัวเดียว มีนายพรานพบเห็นเก้ง ในเขตเขาสามร้อยยอดนี่แหละ จึงทำการขึ้นนกสับไกปืนขึ้นเล็งเตรียมที่จะยิง เมื่อได้จังหวะดีก็เหนี่ยวไกออกไป เสียงแชะ ปรากฏว่าลูกกระสุนปืนด้าน ยิงไม่ออก เก้งรู้ตัวจึงวิ่งหนีไป นายพรานตามมาทันได้จังหวะ ก็ลองยิงซ้ำอีกครั้ง เสียงดังแชะ อีกเช่นเคย ลองยิงเป็นครั้งที่ สาม และสี่ก็เป็นเหมือนเดิม จึงลองหันปากกระบอกปืนไปยังทิศทางอื่น ปรากฏว่าปืนสามารถยิงได้เป็นปกติตามเดิม นายพรานนึกแปลกใจ จึงค่อยๆตามอีเก้งตัวนั้น พบว่าเก้งตัวนั้น เลียน้ำจากโขดหินอันหนึ่งที่มีลักษณะแปลกตา โขดหินที่ว่า มีลักษณะคล้ายไข่ไก่ ไข่เป็ด ขนาดเขื่อง ฝังตัวอยู่ภายในก้อนหินทั้งแท่ง ตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดก็เริ่มแพร่สะพัด ระยะแรกเป็นที่รู้กันในเฉพาะกลุ่มพรานป่า ที่นิยมมาแงะเอาหินเขาสามร้อยยอดพกติดตัวป้องกันภัย โดยพลังอำนาจที่ร่ำลือกันมากที่สุดคือ อำนาจทางด้านมหาอุด คงกระพันนั่นเอง

    ตามคำบอกเล่าจากชาวบ้านที่เชื่อต่อๆ กันมาว่า
    เคยมีคนนำหินลักษณะนี้ไปถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ว่าเป็นอะไรกันแน่
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำพอเห็นก็ยกมือไหว้ท่วมหัวแล้วบอกว่าเป็นพระธาตุปัจเจกพระพุทธเจ้า

    มีคนนำหินพระธาตุเป็นพระสมเด็จ แล้วนำไปให้ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ปลุกเสก ปรากฏการณ์ว่าเมื่อถึงพิธีปลุกเสก หลังจากนั่งปรกแล้วถึงขั้นตอนที่ท่านจะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ลงบนพระเครื่อง โดนพระเครื่องที่แกะจากหินพระธาตุแพ็กไว้ในลังไม่มีใครอื่นรู้ เมื่อหลวงพ่อคูณมาถึงลังพระสมเด็จหินพระธาตุ ก็ชะงัก ไม่ประพรมน้ำมนต์เหมือนลังอื่นๆ ที่ผ่านมา ญาติโยมจึงถามว่า ทำไมท่านถึงไม่พรมลังนี้ ท่านบอกว่า บารมีท่านไม่ถึง
    พระที่แกะจากหินนี้พุทธคุณสูงในตัว ไม่จำเป็นต้องปลุกเสกนับว่าเป็นของกายสิทธิ์ดีอยู่แล้ว พระชุดเดียวกันนี้ได้นำเอาไปให้ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลุกเสกอีกครั้ง แต่ก็ได้รับคำยืนยันแบบเดียวกับหลวงพ่อคูณ

    ต่อมามีคนนำไปให้เถระทางภาคเหนือช่วยอธิฐานจิตปลุกเสก เช่น ครูบาชัยวงศาพัฒนา
    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม และครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่
    แต่ท่านเหล่านั้นบอกว่าไม่ต้องนำมาปลุกเสกหรอกเพาระเป็นของที่สูงส่งมาก
    มีบางคนนำไปให้คนทรงดู คนทรงบอกว่าอย่านำเข้ามาเพราะแสบตา โดยแลเห็นเป็นแสงสว่างเจิดจ้า
    ซึ่งครูบาหลายท่านต่างก็ยืนยันตรงกันว่าเป็นพระธาตุที่มีพลังมาก

    และในหนังสือมาตาบูชา ปิยารำลึกของคุณหญิงสุรีพันธุ์ ก็ได้กล่าวไว้เช่นเดียวกัน
    แม้แต่ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ก็เคยบอกว่าเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องปลุกเสก
    ส่วนครูบาชัยวงศ์ท่านก็ได้รวบรวมหินพระธาตุจำนวนหนึ่งตั้งไว้ให้คนสักการะบูชาที่วัดของท่าน

    แม้แต่คนไต้หวันก็ศรัทธาในหินพระธาตุชนิดนี้มีการจ้างช่างในระเวกสามร้อยยอดแกะเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิม
    นำไปสักกการะบูชาในประเทศของตน ต่อมาทางอุทยานฯเกรงว่าชาวบ้านจะนำหินลงมาจากภูเขาจนหมด
    จึงมีการประกาศห้ามนำหินชนิดนี้ลงจากเขาอีกเป็นอันขาด

    ซึ่งปัจจุบันค่านิยมในพระเครื่องที่แกะจากหินพระธาตุนี้ค่อนข้างสูงเพราะมีประสบการณ์ป้องกันภัยดีมาก
    เป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว

    อำนาจของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้นมีมากมายเหลือคณานับ
    แต่หากจะทำการสรุปอานุภาพแห่งหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดแล้วสามารถสรุปได้ ๙ ประการด้วยกัน คือ

    ๑. ดีทางร่มเย็นเป็นสุข บังเกิดความเย็นใจแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของหากใครได้สัมผัสหินเสมอๆ จะทำให้สงบในใจแก่ผู้นั้น
    ๒. ช่วยในการเจริญสมาธิภาวนา เรียกว่าเจริญในธรรม
    ๓. เป็นเมตตามหานิยม ทำให้ผู้ที่พบเห็นเราเกิดความรักใคร่อยากช่วยเหลือแต่ไม่เด่นทางเสน่หา หรือเรื่องทางชู้สาว
    ๔. ดีทางคุ้มครอง เป็นแคล้วคลาด คือผู้ที่พกพาหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดจะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ สามารถรอดตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลย และยังดีทางคงกระพัน คือแม้ว่าต้องผจญด้วยเหตุการณ์อันไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้วก็เป็นคงกระพันรอด ตัวมาได้เสมอ
    ๕. ดีทางโชคลาภ หินพระธาตุเขาสามาร้อยยอด เป็นสื่อนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เรียกว่า ในหินพระธาตุนั้น มีกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยงรักษาอยู่ภายในผู้ที่หมั่นนำเอาหินนี้มาสวดมนต์ ภาวนา นำมาพกติดตัวเสมอๆมักได้โชคได้ลาภไมขาดเลย
    ๖. ดีทางสมบูรณ์ด้วยสุขภาพพลานามัย เนื่องจากหินพระธาตุนี้เป็นสิ่งที่สะสมปราณ ฟ้าดิน พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา ทะเล มานานนับร้อยนับพันปี จึงทำให้มีพลังชีวิตแห่งจักรวาลอยู่ในตัวอย่างสูงส่ง ผู้ที่พกหินนี้หรือมีหินพระธาตุอยู่ใกล้ๆตัวย่อมเป็นผู้ได้รับกระแสพลังปราณ อันลี้ลับ พลอยทำให้สุขภาพสมบูรณ์ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บมีอายุยืนนาน
    ๗. ดีทางเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานประสบความสำเร็จในชีวิต หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด จะมีลักษณะเด่นคือ เมื่อนำหินมาเจียรแล้วจะมีลักษณะคล้ายพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ทรงกลด อันเป็นมงคลลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของลายหิน โดยลักษณะดังกล่าว เป็นลักษณะแห่งพลังธรรมชาติที่นำพาความรุ่งเรืองความสำเร็จมาสู่ผู้บูชาดัง นั้นพลังลี้ลับศักดิ์สิทธิ์จากหินเขาสามร้อยยอดจึงเป็นแรงผลักดันอย่างลี้ ลับในการนำพาชีวิตของผู้นั้นไปสู่ความเจริญในหน้าที่การงานและความสำเร็จใน ชีวิต
    ๘. หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินแห่งญาณทัศนะ ข้อดีในความหมายนี้คือ ผู้ที่พกพาหินพระธาตุเป็นประจำ จะบังเกิดญาณหยั่งรู้ที่พิเศษกว่าปุถุชน สามารถรู้เหตุดีร้อยล่วงหน้า เนื่องจากกระแสญาณบารมีจากเทพเซียนที่รักษาหินนั้นจะคอยสอดญาณหยั่งรู้หรือ บันดาลเทพสังหรณ์ให้แก่ผู้นั้น นับเป็นคุณวิเศษอันลี้ลับของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด
    ๙. ค้ำคูณดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ คนที่รู้ว่าดวงชะตาตนเองไม่ดีหรือชงกับปีนั้นๆหากได้หินพระธาตุเขาสามร้อย ยอดมาบูชา อำนาจจากอริยะธาตุแห่งหินเขาสามร้อยยอดจะทำการเกื้อหนุนดวงชะตาของท่านไม่ ให้ตกต่ำลงไป ผ่อนหนักเป็นเบาสามารถรอดพ้นจากอำนาจ จากดวงดาวหรือผ่อนปรนภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นกับตัวท่านได้

    ข้อควรปฏิบัติ
    >๑. เชื่อมั่นในพุทธคุณของหินพระธาตุ อย่าคิดลองของ
    >๒. ไม่ทุบหรือทำลายหินพระธาตุ แต่แกะสลักเพื่อความสวยงามได้
    >๓. ปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรม

    ชื่อถ้ำต่างๆที่มีผู้นำหินพระธาตุออกมา

    "ถ้ำสามสี" วรรณะมีสีถึงสามสี มีอิทธิคุณเมตตา มหาเสน่ห์(ไม่เด่นด้านชู้สาว) มหานิยมอานุภาพ ความศักดิ์สิทธิ์ของหินพระธาตุ "ถ้ำสามสี" นานัปการมาก
    เพราะเป็นถ้ำที่มีท้าวสหัสนัยดูแลปกปักรักษา อิทธิคุณจึงครอบคลุมทุกด้านและเป็นที่ประจักษ์
    เป็น เมตตา มหาเสนห์-มหานิยม (ไม่แพ้พระขุนแผน)....(ไม่เด่นด้านชู้สาว) ช่วยในการค้าขายดี ให้ร่ำรวยอย่างอัศจรรย์ พูดสิ่งใดก็สำเร็จสมปรารถนา หน้าที่การงานดีทุกอย่าง แคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอุดหยุดปืน สามารถนำหินที่แกะจาก "ถ้ำสามสี" นี้ไปแช่น้ำ ทำเป็นน้ำมนต์ช่วยรักษาคนได้ ก็มีประสบการณ์มาแล้ว เคยมีคนโดนของเข้าตัว แล้วมาจับโดนองค์พระที่แกะจากหินพระธาตุถ้ำนี้ ต้องหงายหลังล้มตึงทันที แม้แต่สัตว์ป่าที่อาศัยบริเวณ "ถ้ำสามสี" ก็ปลอดภัยจากพรานป่าปืนยิงไม่ออก

    "ถ้ำเม็ดเลือด 7 สี" วรรณะสีแดงเข้ม หินพระธาตุถ้ำนี้มีสีลักษณะเม็ดเลือดสีแดงเข้ม พบ เมื่อปี 2540 เป็นถ้ำอยู่สูงมาก คนที่เข้าไปขุดบนบานอธิษฐานบอกเจ้าที่ หากเจ้าที่แห่งนี้อนุญาตให้ตัดหินนำกลับไปบูชาได้ขอให้โปรดกรุณาแสดง ปาฏิหาริย์ให้ปรากฏเห็นด้วย ปรากฏว่า!!!ทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าลงมาภายในถ้ำถึง 3 ครั้ง แต่ทุกคนไม่ได้รับอันตรายใดๆ หินพระธาตุจาก "ถ้ำเม็ดเลือด 7 สี" มีลักษณะคล้ายเลือด สีแดงเข้ม มีความศักดิ์สิทธิ์มาก อิทธคุณดีทุกด้าน
    "ถ้ำพระโมคคัลลาน์" วรรณะน้ำตาลอ่อนเจือจาง สีหินออกโทนจำปา เหลืองพิกุล มีอิทธิคุณครบทุกด้านปัจจุบันหายากมาก มีอิทธิคุณดีทุกด้านตามแต่อธิษฐาน ดั่งฤทธิ์พระเถระผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นถ้ำที่มีลักษณะคล้ายฝาชี ต้องนอนขดตัวกลิ้งเข้าไปในถ้ำ ถ้ำโมคคัลลาน์มีอิทธิคุณดีทุกด้าน และปัจจุบันหายากแล้ว เนื่องจากถูกสั่งปิด และเป็นเพราะการเข้าไปในถ้ำที่แสนจะลำบากด้วย จึงมีหินชนิดนี้ออกมาน้อยมากนั่นเอง ถ้านำมาแกะเป็นพระจะมีสีสันวรรณะคล้ายพระธาตุพระโมคคัลลานะ สีหินจะอ่อนกว่าสีหินถ้ำเม็ดเลือด ๗ สี
    "ถ้ำเหลือง" ถ้ำ เหลืองจะอยู่ต่ำกว่าถ้ำพระโมคคัลลาน์ ภายในถ้ำเหลืองเป็นถ้ำที่ใหญ่โตและสวยงาม องค์พระธาตุส่วนมากเสด็จหนีเกือบหมด หินพระธาตุจากถ้ำเหลือง จะมีสีเหลืองอ่อนและสีขาว มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ มีอิทธิคุณที่ดีครบทุกด้าน และหายากมีค่านิยมสูง
    "ถ้ำมังกร" วรรณะจะคล้ายกระดูก น้ำตาลเข้ม ดำแซมขาว มีความศักดิ์สิทธิ์มาก หินพระธาตุจากถ้ำนี้เชื่อกันว่า พระพุทธสิขี พระพุทธเจ้าในอดีตกาลมาประสิทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ให้

    "ถ้ำขุมทรัพย์" ใคร มีไว้ไม่อดอยาก เป็นเลิศด้านโชคลาภเป็นพิเศษ ลักษณะเนื้อหินพระธาตุมีสีน้ำตาลอ่อน ลวดลายเนื้อหินพระธาตุสวยงาม มีน้อยและหายากแล้ว เป็นถ้ำที่ถูกค้นพบไม่นานนักประมาณปี 2553 ถูกห้ามไม่ให้นำออกมาอีกแล้ว คงเหลือแต่เพียงตำนาน

    "ถ้ำดวงตามหาลาภ" มี ลักษณะคล้ายดวงตา รอบนอกเป็นสีขาว วงในเป็นสีเข้ม เม็ดพระธาตุกระจายเป็นดวง อิทธิคุณดีเด่นด้านโชคลาภ บูชาแล้วจะช่วยให้กิจการ การค้าเจริญรุ่งเรืองอย่างน่าอัศจรรย์

    "ถ้ำแม่ย่า" ทรง อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นเลิศนานัปการ เพื่อใช้ในการสวดมนต์ภาวนาคู่พระคาถาเงินล้าน และในวาระต่างๆ ให้จิตดิ่งเป็นสมาธิ มีความร่มเย็นเป็นสุข ติดตัวให้โชคลาภและเป็นเมตตา-มหานิยม กำจัดทุกข์ภัย ๑o๘ ประการ สีออกขาว
    "ถ้ำขาว" ลักษณะเป็นหินมีสีรวมกันอยู่มองดูเป็นชั้น 3 ชั้น คือ ชั้นบนเป็นสีไข่ไก่ ชั้นกลางสีออกเหลืองนวล และชั้นล่างจะเป็นสีขาว ชาวต่างชาติเคยเข้าไปในถ้ำขาวใช้ปืน ๑๑ มม. ยิงไม่ออก จนต้องโยนปืนทิ้ง ทรงอานุภาพด้านมหาอุดเป็นเลิศนัก
    "ถ้ำมัน" อยู่ด้านหลังวัดเกาะไผ่ เขาสามร้อยยอด หินพระธาตุจากถ้ำนี้ มีอิทธิคุณดีเด่นทุกทาง ด้านโชคลาภก็มีมากด้วยประสบการณ์ของพลังงานในหินพระธาตุ เม็ดหินพระธาตุจะมีลักษณะมันวาวในตัว เนื้อในคล้ายน้ำมัน ถึงแม้ว่าจะมีรัศมีวงรอบหลายชั้น แต่สีจะเป็นเนื้อน้ำมัน จึงเรียกว่า "ถ้ำมัน" เหมือนพระผงน้ำมัน


    "ถ้ำคนธรรพ์" ถ้ำ คนธรรพ์เป็นถ้ำที่ใหญ่มาก เมื่อพบครั้งแรกลักษณะภายในถ้ำมีใบไม้วางบนพื้นอย่างเรียบร้อยสวยงามประดุจ คนธรรพ์มาบรรจงจัดวางเอาไว้ จึงตั้งชื่อว่าถ้ำคนธรรพ์ มีอิทธิคุณครบทุกทางตามอธิษฐาน และค่อนข้างหายากมีค่านิยมสูงพอสมควร อิทธิคุณของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้นมีมากมาย ถือว่าเป็นที่รวมของพระธาตุหลายชนิด เป็นของมหามงคลสูงสุด มีอานุภาพครอบจักรวาล ใครมีไว้บูชานับว่าเป็นโชคมหาศาล

    ''ถ้ำฤาษี''ถ้ำ ฤาษีถูกค้นพบเมื่อ พุทธศักราช ๒๕๔๐ อยู่ในเขากระโดง กลางขุนเขาสามร้อยยอด เป็นถ้ำที่ใหญ่มาก มีหินพระธาตุมากมายหลายสันฐานและพระนาม เช่น หินพระธาตุ ปัจเจกพระพุทธเจ้า หินพระธาตุสีวลี หินพระธาตุอรหันตธาตุองค์อื่น ๆ ฯลฯ


    "ถ้ำเซียน" ถ้ำนี้เมื่อพบครั้งแรกลักษณะด้านหน้าถ้ำมีหินธรรมชาติเหมือนเซียน ภายในถ้ำมีเถาวัลย์หลงมากมาย พอตัดเถาวัลย์หลงออกจนหมดก็ปรากฏว่ามีงูสีขาวนอนตายอยู่บริเวณกลางถ้ำ หินพระธาตุถ้ำนี้มีอิทธิคุณดีเด่นทุกด้าน ถ้ำเซียนเป็นถ้ำที่พบหินพระธาตุไม่มากนัก จึงค่อนข้างจะหายาก เนื้อหินเหมือนกระเบื้องเคลือบ สีเหลืองนวล เย็นตา ยุคแรกๆ จะแกะเป็นพระสมเด็จสามมิติ ที่ค่อนข้างจะหนามาก และมีความสวยงามในเนื้อหิน


    "ถ้ำหินเหล็กไฟ"ประวัติถ้ำนี้เป็นถ้ำที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแล เมื่อเวลาตอกหินจะมีเสียงดังและมีแสงเหมือนเหล็กไฟ ตอกไปนานได้สักระยะ ทุกคนจะ่ง่วงนอนหลับกันหมด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำมาเข้าฝัน ให้กินของที่นำไปเซ่นไหว้ อาการง่วงนอนจะหายลักษณะหินพระธาตุถ้ำหินเหล็กไฟจะมีวรรณะสีดำเป็นเหลี่ยมต่างๆอยู่ในวงรัศมีสวยงามแปลกตา

    หินพระธาตุเขาสามร้อยยอดไม่ใช่หินธรรมดา เป็นหินศักดิ์สิทธิ์มีเทพรักษา และยังถือว่าเป็นธาตุของผู้สำเร็จทางจิตท่านต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมาแน่นอน ดังนั้นหินดังกล่าวจึงมีศักดิ์ศรีเหนือกว่า วัตถุมงคลโดยทั่วไปมากมายนัก สามารถปัดป้องอุบัติภัยได้
    ข่าวเรื่องหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด ยิ่งแพร่สะพัดเป็นทวีคูณ เมื่อมีผู้หนึ่งพกหินพระธาตุฯไปโดนกับระเบิด เพื่อนที่ไปด้วยตายทั้งคันรถ เหลือรอดอยู่เพียงคนเดียวคือ ผู้มีหินพระธาตุฯติดตัว เรื่องนี้เป็นที่โด่งดังมากมากในเขตชุมพร เมื่อ สามสิบกว่าปีที่ผ่านมา สรรพคุณของหินพระธาตุฯยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก เมื่อผู้ว่าเมืองประจวบฯยุคนั้น พกหินพระธาตุฯ ไปตรวจราชการ ณ บริเวณที่มีระเบิดชุกชุม จะว่าดวงท่านไม่ถึงฆาตหรือเพราะพลังลี้ลับจากหินพระธาตุฯ ก็แล้วแต่ ตลอดเวลาที่ท่านอยู่ในบริเวณนั้น ไม่มีระเบิดลูกใดปะทุระเบิดขึ้นเลย แทนทีที่ท่านจากไป ปรากฏว่าจุดที่ท่านยืนอยู่นั้นเกิดระเบิดขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สรรพคุณของหินพระธาตุฯ เพิ่มมากขึ้น และเป็นที่รู้จักของนักนิยมเครื่องรางของขลังในเวลาต่อมา
    ไม่เพียงแต่การเชื่อถือกันสืบมาว่าหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้น เป็นพระธาตุของพระอรหันต์หลายรูปมาประชุมกัน ณ หุบเขาแห่งนี้ แต่ชาวใต้บางคนยังเชื่อว่านี่คือ เหล็กไหล ธาตุกายสิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย
    คุณสุริยาทิตย์ นักเขียนท่านหนึ่ง ได้ เขียนเรื่องราวของเหล็กไหลในพระธาตุ ตอนหนึ่งว่า ท่านได้เดินทางลงใต้ ชาวบ้านเขาบอกว่ามีเหล็กไหลติดตัวกัน ท่านก็ขอชม ปรากฏว่าสิ่งที่ชาวบ้านนำมาอวดนั้น กลับเป็นเม็ดพระธาตุ ดูแล้วเหมือนกับพระธาตุโมคคัลลา คุณสุริยาทิตย์ก็เลยบอกว่านี่มันพระธาตุ ชาวบ้านก็เถียงว่าเป็นเหล็กไหลต่างหาก จนได้ผลสรุปในที่สุดว่า คุณสุริยาทิตย์ ถูกข้างนอก พวกชาวบ้านถูกข้างใน เพราะสันนิษฐานกันว่ามันคือเหล็กไหลในองค์พระธาตุ ศัพท์เฉพาะที่เรียกเหล็กไหลในองค์พระธาตุว่า หัวใจพระธาตุ พระธาตุพระสาวกทุกองค์ หรือของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า มักพบสิ่งที่เรียกว่า หัวใจพระธาตุ หรือแก่นพระธาตุ ซึ่งชาวใต้เขาเชื่อว่า นี่คือเหล็กไหล ลักษณะของหัวใจพระธาตุนั้น แต่ละองค์แตกต่างกัน บางองค์มีสีแดง บางองค์มีสีขาว บางองค์มีสีดำ เฉพาะที่มีสีดำนั้นเขาเชื่อว่าเป็นพระธาตุเหล็กไหล สรุปได้ว่าหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นของดีที่มีความเป็นมาลึกลับ และเป็นกฤติยาคมแฝด คือเป็นทั้งพระธาตุภายในตัวและยังมีของกายสิทธิ์อย่างเหล็กไหลแฝงไว้ภายใน อีกด้วย
    สำหรับท่านที่มีหินพระธาตุฯติดตัว อย่าริทำการทุบหินพระธาตุเพื่อดูแก่น หรือหัวใจพระธาตุที่เป็นเหล็กไหลอยู่ภายในว่าจริงหรือไม่ เพราะจะเป็นอัปมงคลแก่ตัวเอง และถือว่าเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงรู้ว่ามีของดีมีค่าอยู่กับตัวก็พอแล้ว

    เทพนิมิต
    เรื่องราวของพระธาตุเขาสามร้อยยอดยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มีเรื่องของ ลุงจร ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้สัมผัสกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาสามร้อยยอด ลุงจร ได้เล่าว่า ในตำบลเขาสามร้อยยอดนั้น แกนับว่าเป็นคนรุ่นแรกๆ ที่ได้ทำการบุกเบิกนำเอาหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด มาแกะสลักเป็นรูปเคารพต่างๆ แกเล่าประวัติความเป็นมาว่า ก่อนที่จะมายึดอาชีพแกะหินจากเขาสามร้อยยอดนั้น แกไม่มีฝีมือทางด้านแกะสลักหินแต่อย่างใด ต่อมาคืนหนึ่งแกได้เห็นดวงไฟประหลาดเป็นสีเขียวสว่างโร่ลอยเข้ามาหาแก เมื่อใกล้ถึงตัว ดวงไฟนั้นกลับกลายเป็นร่างคน เป็นร่างของนักพรตจีนรูปหนึ่งมีหนวดเครายาว ตัดผมประหลาดเป็นรูปคล้ายสี่เหลี่ยม(เหมือนเซียนในลัทธิเต๋า) ตอนนั้นแกไม่รู้ว่าเป็นอะไร ได้แต่ตะลึงจึงงงอยู่ จำได้แต่เพียงว่า เซียนองค์นั้น ได้มาบอกอนุญาตให้แกนำหินพระธาตุ มาแกะเป็นรูปเคารพของเทพเจ้าตามศาสนานิกายต่างๆได้ เพื่อยังชีพ จะได้ไม่ต้องไปเป็นนายพรานล่าสัตว์ทำบาป ละเมิดศีลข้อปาณาติบาตอีกต่อไป
    แปลกแต่จริง ตั้งแต่นั้นมาลุงจร แกก็สามารถทำการแกะหินพระธาตุ เป็นรูปเคารพต่างๆได้ เช่น แกะเป็นสมเด็จพุทธาจารย์โต พระพิคเณศ พระแม่กวนอิม และเซียนต่างๆได้ จากที่เล่ามาสันนิษฐานได้ว่า เทพเจ้าที่ทำการปกปักรักษาดินแดนแห่งนี้น่าจะเป็นเทพเจ้าในลัทธินิกายจีน หรือเป็นที่น่าเข้าใจอีกประการหนึ่งว่า ดินแดนแห่งนี้เคยมีนักพรตของนิกายเต๋า ธุดงค์มาพักที่นี่แล้วมามรณภาพดับขันธ์ จนกลายมาเป็นเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์คอยพิทักษ์ดินแดนแห่งนี้เอาไว้

    เรื่องโด่งดังเกี่ยวกับปาฏิหาริย์หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด อีกเรื่องหนึ่งคือ การลองของกับหินพระธาตุ โดยมีผู้คนที่ไปสนทนากับลุงจร นำมาเล่าว่า พระแกะหินพระธาตุฯมีลักษณะเป็นองค์พระที่บริเวณพระเศียรที่แกะพอดีกับวงพระ ธาตุเมื่อแกะเรียบร้อยแล้วองค์พระจะมีลักษณะคล้ายกับว่ามีรัศมีแผ่ออกมาเป็น รอบๆ ชั้นๆ ที่บริเวณพระเศียรนั้น เคยมีผู้คนบางท่านนำมาลองยิงด้วยปืนเอ็ม 16 ปรากฏว่ากระสุนด้านทุกนัด อีกเรื่องหนึ่ง มีคนนำหินพระธาตุแกะเป็นพระสมเด็จแล้ว นำไปให้หลวงพ่อคูณปลุกเสก ปรากฏว่าเมื่อถึงพิธีปลุกเสก หลังจากนั่งปรกแล้วถึงขั้นตอนที่ท่านจะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ลงบนพระเครื่อง โดยพระเครื่องที่แกะจากหินพระธาตุแพ็กไว้ในลังไม่มีใครอื่นรู้ เมื่อหลวงพ่อคูณมาถึงลังพระสมเด็จหินพระธาตุฯก็ชะงักลง ไม่ประพรมน้ำมนต์เหมือนลังอื่นๆที่ผ่านมา ญาติโยมก็ถามว่า ทำไมท่านถึงไม่พรมลังนี้ ท่านบอกว่า บารมีท่านไม่ถึง พระที่แกะจากหินนี้พุทธคุณสูงในตัว ไม่จำเป็นต้องปลุกเสก นับว่าเป็นกายสิทธิ์ดีอยู่แล้ว พระชุดเดียวกันนี้ ได้นำเอาไปให้หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ปลุกเสกอีกครั้ง แต่ก็ได้รับคำยืนยันแบบเดียวกับหลวงพ่อคูณ

    ความเชื่อตามวรรณะสีของหินพระธาตุ........หินพระธาตุมีวรรณะหลากหลายวรรณะสี ซึ่งแต่ละวรรณสีจะมีความเด่นด้านต่างๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...