เรื่องเด่น แพทย์เผย!! ใครๆก็เป็นได้ 8 สัญญาณเตือน “โรคไบโพลาร์” หรือ “โรคอารมณ์สองขั้ว” เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย!!

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 14 สิงหาคม 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    Image-7-1.png

    โรคอารมณ์สองขั้วหรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “โรคไบโพล่าร์” (Bipolar Disorder) คือความผิดปกติของสมองที่ประชากรประมาณ 60 ล้านคนทั่วโลกกำลังเป็นอยู่ โรคนี้มีอาการพื้นฐานอยู่ทั้งหมด 4 อาการ ซึ่งอาการพื้นฐานเหล่านี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เรี่ยวแรง และความคล่องตัว และยังส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบในชีวิตประจำวันรวมทั้งหน้าที่การงาน โดยทั่วไปผู้ที่เป็นโรคไบโพล่าร์จะเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า Manic Episode คือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของโรคไบโพลาร์ เป็นช่วงที่ผู้ป่วยมีอาการฟุ้งพล่าน (Mania) ซึ่งจะเกิดสลับกับช่วงที่มีอาการซึมเศร้า (Depressive Episode) อาการที่เกิดขึ้นในช่วง Manic Episode ได้แก่ อยู่ไม่สุข ชอบทำงานหรือลุกเดินไปมา ความคิดแล่นเร็ว พูดเร็ว ความต้องการในการนอนน้อยลงหรือไม่อยากนอนหงุดหงิดง่าย ตัดสินใจไม่เหมาะสม ไม่มีสมาธิ และอาจทำอันตรายต่อผู้ใกล้ชิด ยิ่งไปกว่านั้นผู้ป่วยบางรายอาจจะเผชิญกับภาวะ Hypomanic Episode ซึ่งจะมีความรุนแรงน้อยกว่า Manic Episode

    %B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99.jpg

    1. มีปัญหาในการทำงานให้สำเร็จ

    บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยไบโพล่าร์จะไม่มีปัญหาในการเริ่มต้นทำงานต่างๆ แต่เมื่ออารมณ์ของผู้ป่วยเริ่มเปลี่ยนแปลง การทำงานให้สำเร็จลุล่วงจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นงานต่างๆที่ยังค้างคายาวเป็นหางว่าวคือหนึ่งในสัญญาณที่กำลังบอกว่าคุณอาจจะเป็นโรคไบโพล่าร์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นโรคไบโพล่าร์จะมีอาการนี้เพราะมีหลายคนที่สามารถเรียนรู้วิธีการจัดการตัวเองและพัฒนาให้เป็นคนขยันในขณะที่กำลังเป็นไบโพล่าร์

    2. มีอาการต่างๆของโรคซึมเศร้า
    ในช่วงของโรคไบโพล่าร์ ผู้ป่วยจะมีอาการลักษณะเดียวกับคนที่กำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เช่นความอยากอาหารลดลงมีปัญหาเรื่องการนอนหลับไม่ค่อยมีสมาธิไม่มีเรี่ยวแรงแต่โรคไบโพล่าร์และโรคซึมเศร้าไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการเดียวกันได้ ความจริงแล้วถ้าคนที่เป็นไบโพล่าร์ทานแต่ยาต้านเศร้าเพียงอย่างเดียว อาการของพวกเขาอาจจะร้ายแรงขึ้น และอาจทำให้เขาตัดขาดตัวเองออกจากความเป็นจริง เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากว่าการรับประทานยาทุกชนิดต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

    %E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87-01.jpg

    3. พูดเร็ว
    การที่คนส่วนใหญ่พูดเร็วขึ้นเมื่อพวกเขารู้สึกตื่นเต้นถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติมากและบางคนพูดเร็วกว่าคนอื่นถึงแม้ว่าสถานการณ์จะปกติ อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่การพูดเร็วเป็นสัญญาณหนึ่งของโรคไบไพล่าร์ โชคดีที่มีหลายวิธีที่ใช้ดูว่าลักษณะการพูดเร็วแบบนี้ถือว่าเป็นอาการหนึ่งของโรคไบโพล่าร์หรือไม่

    คนที่เป็นไบโพล่าร์จะพูดแทรกคนอื่นและไม่สนใจบทสนทนาของคนรอบข้าง เขามักเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอยู่บ่อยๆ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับคนรอบข้างที่จะเข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไรอยู่ เขาจะพูดแบบนี้ก็ต่อเมื่อพวกเขากำลังอยู่ช่วงที่ผู้ป่วยมีอาการฟุ้งพล่าน (Mania Episode)

    4. หงุดหงิดง่าย
    ในบางกรณี คนที่เป็นไบโพล่าร์อาจจะมีอาการฟุ้งพล่านและภาวะซึมเศร้าพร้อมๆกัน เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น พวกเขาจะหงุดหงิดง่ายมาก แน่นอนว่ามันอาจเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าอาการที่เขากำลังเป็นตอนนี้เกิดจากอาการของโรคไบโพล่าร์หรือแค่อาการหงุดหงิดเท่านั้น แต่ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์มักจะถึงจุดที่ความหงุดหงิดเริ่มส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะในเรื่องของความสัมพันธ์ต่างๆกับคนรอบข้าง นอกเหนือจากนั้นพวกเขาอาจจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมตัวเองแต่รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้

    aHR0cDovL3A0LmlzYW5vb2suY29tL3dvLzAvdWQvOS80NzI0NS9lZHdlZmZmLmpwZw.jpg

    5. ใช้ยาเสพติดหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
    ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์ส่วนมากจะเริ่มต้นใช้ยาเสพติด กินเหล้า หรือใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันเพื่อช่วยคลายอาการซึมเศร้าระหว่างที่อยู่ในช่วงซึมเศร้า (Depressive Episode) แต่พอใช้วิธีการแบบนี้บ่อยๆเพื่อบำบัดความซึมเศร้า มันก็มักจะนำไปสู่ภาวะการติดสารเสพติด ยิ่งไปกว่านั้นยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นอุปสรรคในการรักษาเพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ของยาลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงที่ไม่ต้องการ และลดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในทุกด้านอีกด้วย

    6. อารมณ์ดีมากเกินไป (ไฮเปอร์)
    อาจฟังดูแปลกแต่การแสดงออกทางอารมณ์ที่ดีมากเกินไปอาจเป็นสัญญาณของโรคไบโพล่าร์ได้เช่นกัน แน่นอนว่าอาการนี้จะเกิดขึ้นสลับกับภาวะซึมเศร้า (Depressive States) อาการสุดโต่งแบบนี้เรียกว่า Manic Episode แต่ผู้ป่วยไบโพล่าร์หลายคนก็ไม่ได้มีอารมณ์สุดโต่งแบบนี้ ผู้ป่วยเหล่านี้อาจจะแค่รู้สึกค่อนข้างดี (Hypomanic Episode) คล้ายๆกับคนปกติและสามารถใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ส่วนมากผู้ที่เป็นโรคไบโพล่าร์จะประสบกับภาวะทั้ง 2 แบบสลับกันไปคือ บางครั้งจะเป็น Manic Episode และบางครั้งก็จะเป็น Hypomanic Episode

    418-342620832174478224-1.jpg

    7. นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
    เป็นเรื่องปกติที่โรคไบโพล่าร์จะมีผลข้างเคียงต่อการนอนของผู้ป่วย คนที่เคยมีประสบการณ์ของภาวะฟุ้งผล่าน (Manic Episode) จะมีปัญหาในการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอแต่จะไม่เคยรู้สึกเหนื่อยล้า ในทางกลับกัน ช่วงที่ผู้ป่วยมีภาวะซึมเศร้าจะนอนหลับมากขึ้นแต่ยังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่ดี แน่นอนว่าการที่นอนหลับมากเกินไปหรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำและพฤติกรรมนี้ยังสามารถทำให้อาการของโรคไบโพล่าร์แย่ลง ดังนั้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่ายกายในแต่ละวันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ที่เป็นโรคไบโพล่าร์

    8. มีพฤติกรรมที่สม่ำเสมอ – ไม่คิดหน้าคิดหลัง
    เวลาที่ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์อยู่ในช่วงฟุ้งพล่าน (Manic Episode) เขามักจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากจึงทำให้มักจะแสดงกิริยาโอ้อวด ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยแสดงออกโดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่างๆที่จะตามมาในภายหลัง ทำให้ผู้ป่วยทำสิ่งต่างๆที่พวกเขาไม่มีทางทำหากอยู่ในภาวะปกติ บ่อยครั้งที่โรคไบโพล่าร์เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงหรือใช้เงินฟุ้มเฟือยอย่างน่ากลัว และอาจมีการแสดงออกในรูปแบบของพฤติกรรมอื่นๆร่วมด้วยเช่นกัน

    3-691.jpg

    ลักษณะพฤติกรรมและอาการต่างๆที่ได้ระบุไว้ข้างต้นคือสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์ แต่อาการต่างๆเหล่านี้ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นได้ด้วยเช่นกัน โรคไบโพล่าร์สามารถรักษาได้หากได้รับการรักษาที่ตรงจุดและถูกวิธีจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างมีความสุข

    cr.th.thecabinbangkok.co.th


    ---------------
    ที่มา
    http://www.chicvariety.com/2381
     
  2. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    โรคนี้พอจะทราบไหมครับว่ามีสาเหตุมาจากอะไรครับเพราะคนไกล้ตัวก็มีอาการเข้าข่ายแบบที่ว่านี้ละครับ
     
  3. น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู

    น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู ค ว า ม ต า ย คื อ ก า ร เ ริ่ ม ต้ น ข อ งชี วิ ต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2017
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +156
    สาเหตุมาจากความผิดปกติทางสมอง
    จึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ต่างๆค่ะ
     
  4. น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู

    น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู ค ว า ม ต า ย คื อ ก า ร เ ริ่ ม ต้ น ข อ งชี วิ ต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2017
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +156
    คนเดี๋ยวนี้เป็นกันเยอะค่ะ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
    ที่เจอบ่อยสุดเลย คือชอบพูดแทรก คนนึงกำลังอธิบาย อีกคนอยู่ๆก็พูดแทรกขึ้นมา
    ไม่รู้ว่าเป็นอาการไบโพล่า หรืออาการไร้มารยาท
    หนูล่ะเบื่อ :confused:
     
  5. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    โรคนี้มีคนเป็นเยอะหรอฮะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...