แฟนเพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 2 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เรื่อง หลวงพ่อฝากลูกศิษย์กับพระองค์อื่นๆ

    (ด๊อกเตอร์ปริญญา ถามว่า)

    ” เรื่องพระสุปฏิปันโนที่มาที่วัด ที่หลวงพ่อไปนิมนต์มาีนี่ ”

    พ.ศ. 17, 18 หรือไงนี่ ท่านก็กลัวว่าท่านจะมรณภาพหรือไงไม่รู้นะ เพราะถ้าหลวงพ่อเกิดมรณภาพนี่ พวกเราเพิ่งเริ่มต้น พอนึกอยากนั่งกรรมฐานกัน พอรักษาศึลกันบ้าง ลูบๆ คลำๆ บ้าง ได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าเกิดหลวงพ่อละสังขารเสียช่วงนั้นล่ะ ไอ้พวกนี้ก็จะเคว้งคว้างไปหมด ท่านก็ดำริว่า พระมาบอกกับหลวงพ่อว่าให้พาลูกศิษย์คุณไปรู้จักกับพวกสายเดียวกันสิ ทางเหนือนี่ หลวงพ่อก็คงจะพาพวกเราไปฝากไว้น่ะ ถ้าเกิดท่านมณภาพจะได้รู้จักพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

    (ด็อกเตอร์ปริญญา พูดเสริมว่า)

    ” เพราะว่าท่านสำเร็จปี 06 ต่ออายุอีก 12 ปี จะตายไม่ได้ ต้องเป็นนักเรียนทุนก่อนก็จะเป็น 18 ”

    คือท่านเป็นนักเรียนทุนใช่ไหม พอจบแล้วต้องสอน 12 ปี พอสอน 12 ปีนี่ พอคนจะเริ่มอยากทำก็จะมรณภาพเสียแล้วนี่ คือว่าถ้าท่านมรณภาพตอนนั้นก็จะฝากพระสุปฏิปันโนองค์อื่นไว้

    ” ทีนี้ก็ได้ไปรู้จัก ก็ได้นิมนต์มางานวัด ”

    ทีนี้ก็พาพวกผู้ใหญ่ไป ขึ้นทางเหนือกันละ ไปล่าพระอาจารย์ ก็ล่าไปเรื่อย ตอนแรกก็ไปเจออะไรล่ะ หลวงปู่วัดพระบาทตากผ้านี่ หลวงปู่แหวน หลวงปู่วัดน้ำบ่อหลวง วัดสวนดอก และก็ครูบาคำแสนวัดสันกำแพง ดอนมูลนู่น แล้วก็หลวงพ่อสิม ครูบาทึม ครูบาทึมนี่ ไม่ได้ปรามาสท่านนะ ชื่อทึมแต่ไม่ทึมเลยนี่

    ครูบาทึมนี่หลวงพ่อมาหาพิเศษกว่าเขา วัดจามเทวี องค์นี้ใช่ไหมที่ไปหาแ้ล้วท่านทำไม่รู้ไม่ชี้ ไปหาท่านไม่รู้ไม่ชี้ ครูบาบุญทึมอยู่ไหมครับ ไปถามบอก อยู่ข้างในนู่น เขาว่าเดินตามไป พอไปนั่งปุ๊บ นี่นะครูบาบุญทึมละ ท่านไม่แสดงตัว ทึมจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าพระอรหันต์อยู่ที่นั่น ครูบาชุ่มเป็นคนแนะนำ ครูบาคำแสนเอ่ยชื่อขึ้นก่อน หลวงพ่อท่านสั่งให้ตามบอกว่าพระอินทร์สั่ง บอกว่่ามีครูบาทึมมีอยู่ ท่านปู่พระอินทร์บอกว่าชื่อทิม ไล่ไปไล่มาเป็นครูบาทึม

    527126_456773174343572_895834829_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เรื่องหลวงปู่ชุ่มเข้านิโรธสมาบัติ

    พระผู้ใหญ่ที่่หลวงพ่อแนะนำส่วนมากเป็นพระอรหันต์ทั้งนั้นนี่ ที่เข้านิโรธสมาบัิติก็ครูบาชุ่มนี่เอง แหม..สมัยก่อนนี้ไม่มีใครเขาพูดหรอกเข้านิโรธสมาบัติ หลวงพ่อนี่ก็…หมายความว่ายังไงล่ะ ไอ้เราเองก็ไม่มีปัญญาใช่ไหม หลวงพ่อเข้านิโรธสมาบัติให้หน่อยนะ อย่างนั้นอย่างนี้ ต้องคนเก่งกับพวกเก่งคุยกัน หลวงพ่อบอกว่าให้หลวงปู่ช่วยสงเคราะห์ลูกหลานด้วยเถอะ ลูกหลานจะได้ทำบุญกับพระที่เข้านิโรธสมาบัติอะไรอย่างนี้ หลวงพ่อบอกให้ครูบาชุ่มเข้า ครูบาชุ่มท่านบอกว่าป่วย บอกไม่ไหว ร่างกายไม่ดี หลวงพ่อก็บอกว่าหลวงปู่ ถ้าห่วงร่างกายละก็ ไม่ต้องเข้าหรอก แหม โดน อีไม้เข้าหลวงปู่…..(หัวเราะ)

    ” ลิ้นการฑูตจริงๆ จะพลิกพลิ้วชิวหาเป็นอาวุธ ”

    ท่านเข้าในอิริยาบท 4 หรือไงนะ เข้าในอิริยาบท 4 นี่ ยืน เดิน นั่ง นอน 7 วัน ทีนี้พอเข้าเสร็จนี่ โอ้โห คนไปนี่นะ หามกันไป ทันมั่ง ไม่ทันมั่ง เป็นพันเป็นหมื่นละมั๊ง ได้เงินกี่แสนก็ไม่รู้ สองสามสี่แสนหรือเปล่าไม่รู้

    พอหลวงพ่อบอกเข้านิโรธสมาบัตินี่ เราเกิดมายังไม่เคยได้ยินเลยว่าพระเข้านิโรธสมาบัติเป็นยังไง คนแตกตื่นกันไป ทีนี้เพื่อนฉันนี่ก็อยู่วัดขุยโพธิ์ เป็นพระ ก็ไปกับเขามั่ง ไปทำบุญกับหลวงปู่ชุ่ม พระจะไปเบียดโยมอยู่ยังไงล่ะ พวกก็คว้าหลวงปู่แห่ไปไหนต่อไหนแล้ว พระก็ตาลีตาเหลือกอดข้าวอดปลากัน ไปแย่งอะไรเขาไม่ได้ สายสิญจน์นี่พวกแย่งกันกระจุยหมด เพื่อนฉันก็ไม่ได้อะไรกับเขา ไปเห็นไอ้ที่เขาเรียกว่า ขัดแตะ ภาษา บ้านนอกเขาเรียกว่าขัดแตะ ไม้ไผ่ที่ทำลูกกรงรอบเป็นซี่บางๆ ขัดแตะทำเป็นลูกกรงที่กระท่อมที่ท่านอยู่น่ะ เขาปลูกกระท่อมพิเศษให้ท่านเข้าไปอยู่ ไอ้นี่เขาไม่ได้อะไรก็เอาไม้ขัดแตะมาหน่อยวะ เอาไม้ขัดแตะมาเป็นที่ระลึก

    พอกลับมาบ้านก็เอามาไว้ที่บ้าน มาให้โยม บ้านท่านอยู่อุตรดิตถ์ พระเดชะนี่อยู่อุตรดิตถ์ พ่อแกสมัยเป็นหนุ่มๆ ไม่หนุ่มแล้ว อาจจะแก่แล้วละ ก็ไปกับอา ไปขุดได้ลายแทงสมบัติมา ก็ไปขุดกัน ไอ้อาหนุ่มก็ขุดอยู่ข้างล่าง ไอ้พี่ชายอยู่ข้างบน พอขุดไปได้สักเมตรนึงนี่ ก็ไปเจอรากไม้ ไอ้อาขุดนี่เจอรากไม้ ไอ้พี่ชายก็บอก เฮ้ย ทองคำนะมึง เอาขึ้นมาเลย(หัวเราะ) ไอ้อาอยู่ข้างล่างก็บอก นี่มันรากไม้ ทองคำอะไรเล่า อยู่ข้างบนเห็นเป็นทองคำ พอเถียงกันน่ะ เสียงลมพัดอื้ดๆๆ มายืนถือกระบองจังก้า อีตอนนี้เอง เผ่นไม่รู้ทองคงทองคำแล้ว(หัวเราะ) คนละทางสองทางแล้ว

    แล้วพอถึงวัน 15 ค่ำนี่ ไอ้เจ้าของนี่มันจะมา ลูกน้องท้าวเวสสุวรรณหรือเปล่าไม่รู้ มันจะมาทวงที่บ้าน มันจะมาหมาจะหอนกันเกรียว แล้วไอ้น้องสาวนี่พอผีเข้ามันจะบีบคอตัวเอง มันจะบีบคอต้วเองให้ตาย จะผูกคอตายอยู่เรื่อย ถึงเวลาก็ต้องทำพิธีกันใหญ่ตอนนั้นน่ะ ก็หนี ไม่ตายสักที เกือบตายทุกที

    ทีนี้เจ้าเดชะนี่ก็เอาไม้ขัดแตะมาให้ที่บ้าน พอมาให้ที่บ้านปุ๊บ ไอ้ผีนี่ขึ้นเรือนไม่ได้ มันวนรอบบ้าน ขึ้นไม่ได้่ เอชักดีแล้ว ไม้อันเดียวขึ้นไม่ได้แล้ว ทีนี้ทำยังไง เอาไว้ที่รั้วบ้าน เอาสายสิญจน์โยงรอบ สองสามเที่ยว ไม่มาเลย เดี๊ยวนี้ไม่มาเลย เจอไม้ขัดแตะหลวงปู่ชุ่ม

    (จากคอลัมภ์ จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ ตุลาคม 2538)

    582794_456821084338781_994852036_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อกล่าวถึง คำภาวนาระหว่างคำว่า
    “นะมะพะธะ กับ พุทโธ”

    คำภาวนา นะมะพะธะ นั้น ใช้เมื่อใช้อภิญญา และควรใช้เป็นปกติ อารมณ์จะได้แจ่มใส คำภาวนา พุทโธ และอย่างอื่นภาวนาเมื่อยามว่าง ถ้าต้องการอารมณ์สงัดตามปกติ

    แต่พ่อเห็นว่า นะมะพะธะ นั่นแหละดีแล้ว เพราะลูกได้อภิญญา จิตจะได้ไม่มั่ว พุทโธ เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าที่คนเข้าไม่ถึง คือเห็นไม่ได้ก็เรียกให้ช่วย แต่ นะมะพะธะ นี้เราเข้าถึงพระองค์และรับโอวาทได้

    ลูกว่าควรจะใช้อย่างไหน ถ้าเป็นพ่อ พ่อคงใช้ นะมะพะธะ จะได้ไม่ต้องตะโกนเรียกท่าน ไปหาท่านเลย

    ส่วนในคู่มือแนะนำให้ภาวนา พุทโธ ก็เพื่อคนใหม่ที่ยังไม่ได้อะไร ให้เรียกท่านเพื่อช่วยกำลังตนเองไปพลางก่อน เมื่อมีโอกาสเข้าเฝ้าท่านได้ก็คงไม่จำเป็นต้องตะโกนเรียกท่าน จงอย่าคิดว่าพ่อว่าภาวนา พุทโธ ไม่ดีนะ ภาวนา พุทโธ ดี แต่เมื่อเราได้อภิญญาควรภาวนาตามสายอภิญญา อภิญญาจะได้แจ่มใสเสมอ

    นะ มะ พะ ธะ ก็เป็นคำภาวนาที่พระพุทธเจ้าท่านสอนมา เวลาจะภาวนาก็นึกถึงท่านอยู่แล้ว และมีกำลังไปหาท่าน คำว่า พุทโธ เป็นคำภาวนากลาง ๆ ใช้เมื่อเริ่มปฏิบัติ ถ้าแยกเข้าอภิญญาหรือวิชชาสาม หรือปฏิสัมภิทาญาณ ต้องภาวนาตามสายของตน แต่ไม่ถือว่าขาดพระรัตนตรัย เพราะใจเราถึงเป็นปกติอยู่แล้ว

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

    ที่มา : FB ศูนย์พุทธศรัทธา

    599329_424788094223131_2033976015_n.jpg
    หลวงพ่อกล่าวถึง คำภาวนาระหว่างคำว่า
    “นะมะพะธะ กับ พุทโธ”

    คำภาวนา นะมะพะธะ นั้น ใช้เมื่อใช้อภิญญา และควรใช้เป็นปกติ อารมณ์จะได้แจ่มใส คำภาวนา พุทโธ และอย่างอื่นภาวนาเมื่อยามว่าง ถ้าต้องการอารมณ์สงัดตามปกติ

    แต่พ่อเห็นว่า นะมะพะธะ นั่นแหละดีแล้ว เพราะลูกได้อภิญญา จิตจะได้ไม่มั่ว พุทโธ เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าที่คนเข้าไม่ถึง คือเห็นไม่ได้ก็เรียกให้ช่วย แต่ นะมะพะธะ นี้เราเข้าถึงพระองค์และรับโอวาทได้

    ลูกว่าควรจะใช้อย่างไหน ถ้าเป็นพ่อ พ่อคงใช้ นะมะพะธะ จะได้ไม่ต้องตะโกนเรียกท่าน ไปหาท่านเลย

    ส่วนในคู่มือแนะนำให้ภาวนา พุทโธ ก็เพื่อคนใหม่ที่ยังไม่ได้อะไร ให้เรียกท่านเพื่อช่วยกำลังตนเองไปพลางก่อน เมื่อมีโอกาสเข้าเฝ้าท่านได้ก็คงไม่จำเป็นต้องตะโกนเรียกท่าน จงอย่าคิดว่าพ่อว่าภาวนา พุทโธ ไม่ดีนะ ภาวนา พุทโธ ดี แต่เมื่อเราได้อภิญญาควรภาวนาตามสายอภิญญา อภิญญาจะได้แจ่มใสเสมอ

    นะ มะ พะ ธะ ก็เป็นคำภาวนาที่พระพุทธเจ้าท่านสอนมา เวลาจะภาวนาก็นึกถึงท่านอยู่แล้ว และมีกำลังไปหาท่าน คำว่า พุทโธ เป็นคำภาวนากลาง ๆ ใช้เมื่อเริ่มปฏิบัติ ถ้าแยกเข้าอภิญญาหรือวิชชาสาม หรือปฏิสัมภิทาญาณ ต้องภาวนาตามสายของตน แต่ไม่ถือว่าขาดพระรัตนตรัย เพราะใจเราถึงเป็นปกติอยู่แล้ว

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

    ที่มา : FB ศูนย์พุทธศรัทธา

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เรื่อง หลวงพ่อเข้านิโรธสมาบัติ

    หลวงพ่อท่านบอกกับฉันนี่ 2 ครั้ง แต่ท่านเข้าเป็นอาจินต์ทุกวัน ท่านบอกเข้าแล้วนี่ ความเป็นอยู่ของคนจะดีขึ้น เพราะว่ามีลาภมาก

    ที่นี่เคยเข้า ท่านเคยเล่าครั้งหนึ่งนะ ฉันถามท่าน มีอยู่วันหนึ่งรับแขกมาก มันเพลียร่างกายไม่ดี ท่านขึ้นไปนอนข้างบนโน่น ก็เข้าทีนี้เวลารับแขกตอนทุ่มหนึ่งนี่ พระก็ไปปลุก หลวงพ่อครับๆ ท่านก็ตัวแข็ง ดาบตระกูลก็บอก ผมเองๆ หลวงพ่อครับๆ หลวงพ่อก็ตัวกลิ้งไปกลิ้งมา แต่ก่อนก็จับขาเฉยๆ ดาบตระกูลจับตัวเลย หลวงพ่อครับๆ กลิ้งไปกลิ้งมา ไม่ตื่น ดาบตระกูลก็บอก กูไม่เอาแล้วอย่างนี้ ไปไกลแน่ (หัวเราะ)

    ทีนี้กลับไป เราก็ถามหลวงพ่อครับ ได้ข่าวว่าหลวงพ่อปลุกไม่ตื่นเลยที่สายลม หลวงพ่อเพลียมากใช่ไหมครับ ท่านบอก ไม่ใช่ เข้านิโรธสมาบัติลึกไปหน่อย ร่างกายมันเพลียมาก ร่างกายไม่ไหว นี่ท่านบอกกับเราครั้งหนึ่งนะ

    ครั้งที่สองที่ชิคาโก คือ หลวงพ่อนี่ลำไส้จะเหมือนกับกระบอกที่มันไม่บีบรัดอย่างนี้ มันเหมือนกระบอกเฉยๆ กระบอกข้าวหลาม มันไม่บีบรัด อาหารไม่ย่อย พอฉันอะไรไปแล้วนี่อาหารมันจะเป็นพิษ มันไม่สลายตัว ไม่ย่อย ต้องเอาน้ำสบู่กับดีจรเข้ ยาดำ เรานี่ดีจรเข้หน่อยนึงกับยาดำก็โอ้โห วิ่งโจนทะยานแล้ว ใช่ไหม ของท่านยาดำ ดีจรเข้ กับน้ำสบู่ผสมกัน แล้วก็สวนทวาร สวนครั้งหนึ่งประมาณ 1,200 ซีซี มันไม่ออก ก็ทำไงล่ะ มันไม่เอิ๊กไม่อ๊าก มันก็ทรมาน ท่านก็บอก เอ้อ เอาชีวิตมาทิ้งเสียที่นี่ซะแล้วมั๊งนี่ ท่านก็เข้าดับทุกขเวทนาไปเลย เข้านิโรธสมาบัติบ้านนั้นไปเลย ท่านก็เล่าว่าบ้านนี้เป็นอะไร เคยมีพระพุทธเจ้ามา มีพระอรหันต์มา เป็นมงคลใหญ่ ที่ชิคาโกนะ นั่นก็ครั้งหนึ่ง

    ทีนี้ก็ทำบุญใหญ่ละสิ พอรู้ว่าเข้านิโรธสมาบัติ คือเข้าแล้วทำบุญกันหลายคน ความเป็นอยู่คล่องตัว ถ้าคนเดียวก็จะรวยไปเลย ตามพุทธกาลนะ

    ” แล้วไอ้สบู่ออกไหมครับวันนั้นน่ะ ”

    ไม่ออกเป็นวันเหมือนกัน โอ้โห ทรมาน

    ครั้งที่ 3 นี่ก็ตอนป่วยอยู่ที่วัด ท่านประทีปก็นอนเฝ้าอยู่ เราก็เห็นนอนหลายวัน เราก็ไปเปลี่ยนมั่ง เราก็บอกว่า เออ..ทีป วันนี้ท่านนอนไปเลย ผมจะอยู่ดูหลวงพ่อเอง ท่านก็ป่วยมาก สักตีสองได้ท่านลุกมาเข้าห้องน้ำ เราก็ประคองเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วก็ไปนั่งที่เตียง ท่านบอก นันต์ ข้าไมได้นอนตั้งแต่หัวค่ำเลยวันนี้ พระพุทธเจ้ามาให้เข้านิโรธสมาบัติตั้งแต่หัวค่ำ เราก็โอ้โฮ พูดถึงนิโรธสมาบัตินี่ หูผึ่งเลย ย่ามเยิ่มไม่ได้เอาเงินทองเข้ามาสักบาทเลย นึกอยู่ ถ้ากูทำวันนี้กูรวยตายเลย(หัวเราะ) นึกรวยเหมือนกัน กูรวยตายเลย ไม่มีใครรู้เท่ากูเลยวันนี้ พอเราคิดอย่างนั้น ท่านบอก เออ..ไม่เป็นไรหรอก เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ความเป็นอยู่เป็นสุขทั้งตัวเราเองและคนอื่น

    พอคุยไปได้สักประเดี๊ยวท่านก็บอก นันต์ สร้างประสาททองคำนะ เราก็เอ๊ะ หลวงพ่อครับ สร้างตรงไหนครับ โรงอิฐน่ะ สร้างตรงโรงอิฐ ตอนนั้นมันก็เป็นโรงอิฐ หลวงพ่อทำอิฐบล๊อกอยู่ เราก็คิดว่าหลวงพ่อสร้างประสาทแก้วแล้ว จะสร้างประสาททองคำบ้างอะไรบ้างนี้ ก็ไม่รู้ พอท่านบอกเท่านั้นเราก็เก็บเอาไว้ในใจ หลวงพ่อมาสายลมท่านก็ไม่พูด ไม่เห็นพูดที่ไหนนะ มาบอกกับเราตอนท่านเข้านิโรธสมาบัติ

    พอหลวงพ่อมรณภาพก็มาคุยกับพระ พระสุรจิตคุมงานก่อสร้างก็บอกว่า หลวงพ่อชี้เหมือนกันตรงโรงอิฐ ให้สร้างที่สำหรับเก็บพระพุทธรูป เราก็นึกว่า เออ หลวงพ่อนี่บูชาพระพุทธเจ้าด้วยทองคำ ก็คงจะสร้างประสาทนี่เอาไว้พระพุทธรูป ทีนี้ก็ลงมือ ให้พระสามารถออกแบบอะไรต่ออะไรด้วย เริ่มทำกันมา ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ปัญหาก็มีอยู่ว่าช่างน้อยไปสักหน่อย ช่างมี 15 คน โอ้โห หลังใหญ่ มันไม่ทันกินเลย เราก็แหม อย่างน้อยสักร้อยนึงถึงจะไปถึงโน่นถึงนี่ได้ มันช้า

    ” วันนั้นเอาอะไรถวายหลวงพ่อหรือเปล่า ออกจากนิโรธสมาบัติ ”

    ไม่มีสักบาทหนึ่งเลย ก็ไปนอนเป็นเพื่อนท่าน ไม่ได้มีอะไรไปเลย(หัวเราะ) พอคิดในใจว่าไม่มีเงินสักบาทหนึ่ง ท่านก็บอก เออไม่เป็นไรหรอก เพื่อประโยชน์ของคนส่วนรวม ความเป็นอยู่เป็นสุขของตัวเราเอง สอง เพื่อประโยชน์ของคนส่วนรวมอะไรอย่างนี้ พอคิดในใจท่านก็ตอบแล้ว

    ” นึกว่าจะไปเปิดก๊อกน้ำ เอาน้ำมาถวายตอนออกนิโรธสมาบัติ นึกว่าจะถอดจีวงจีวรถวายสักหน่อย ”

    จะโดนตะพดหงายท้องผึ่ง (หัวเราะ)

    (จากคอลัมภ์ จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ ตุลาคม 2538)

    294646_457185910968965_831448349_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เรื่อง พระสุปฏิปันโนมาวัดท่าซุง

    (ด๊อกเตอร์ปริญญา พูดว่า)

    ” เดี๊ยวทีนี้กลับมาถึงเรื่อง…ยังไม่ถึงงานหลวงปู่ปานเลย เพิ่งจะถึงพระสุปฏิปันโน มาถึงนี่แล้ว เอ้ากลับไปงานหลวงปู่ปาน ”

    เพราะตอนนั้นคนกำลังตื่นมาก ตื่นพระสุปฏิปันโนนี่ เอ้าองค์นู้นก็พระอรหันต์ หลวงพ่อบอกว่าไม่ใช่พระอรหันต์ พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สุปฏิปันโนนี่ ฉันไม่ได้รับรองว่าเป็นพระอรหันต์นี่ คนก็โอ้โห..มาทำบุญกัน หลวงพ่อก็จะเอาพระมานั่งเป็นแถว องค์นั้นนั่งตรงนั้นนั่งตรงนี้ และก็ให้คนมาทำบุญเข้าแถว ไม่มีใครเขาทำกันหรอก มีวัดท่าซุงนี่แหละ ลิเกละครไม่มี ก็มาทำบุญกัน ไอ้คนมันเกิดศรัทธาอยู่แล้วนี่ ศรัทธานี่โอ้โฮ ห้ามไม่อยู่เชียวนะ

    ทีนี้ก็เกิดทำอาหารถวายพระสุปฏิปันโนน่ะ ใครกินอาหารหลังพระสุปฏิปันโนแล้วนี่เป็นทิพย์ เป็นยา สมองดี ปัญญาเลิศ ประเสริฐกว่าคนไม่ได้กินทั้งปวงอะไรอย่างนี้ คนมีศรัทธาแล้ว กินของหลังพระอรหันต์ท่านต้องเสกแล้วใช่ไหม เข้าใจกันว่าอย่างนั้น มงคล 39 ใครไกล้ชิดก็หากินของดีๆหน่อย ไอ้พวกหางแถวก็กินของที่ว่าเหลือจากคนกิน

    ทีนี้วันดีคืนดีก็มีหลวงปู่บุดดา หลวงปู่คำแสนเล็ก หลวงปู่คำแสนใหญ่ หลวงปู่สิม หลวงปู่ชุ่ม ลูกศิษย์ก็เยอะใช่ไหม วัดน้ำบ่อหลวงเป็นสำรับอย่างนี้นี่ ทีนี้เวลาหลวงปู่ท่านฉันแล้วนี่ ก็แบ่งกันกิน ไอ้คนอยู่ใกล้ชิดกินมาก ก็กินไป ที่เหลือก็กินน้อย

    ทีนี้ก็ของหลวงปู่บุดดา เอ้าของหลวงปู่บุดดาเหรอ เอ้าคนนี้ก็กิน กินแล้วก็หน้าเจื่อนๆ แบ่งคนอื่นมั่ง ไปถึงไอ้คนปากเปราะเข้า เอ้ากินๆ โอ้โห กูไม่เห็นมีรสมีชาติอะไรเลยวะนี่ ไอ้ลูกศิษย์ที่ถือมาก็บอก ไหนล่ะ ยี๊..ไอ้นี่จะมีรสชาติอะไรเล่า ก็ถ้วยล้างฟันปลอมหลวงปู่นี่ (หัวเราะ) เอาแล้ว ไอ้คนที่ปลงไม่ได้ก็กูนึกแล้ว กูเห็นพริกลอยอยู่ (หัวเราะ) ทีนี้ก็ อ้วก..พุ่งเหมือนแหลน พิษอรหันต์ออกแล้วนี่ กูไม่เห็นมีรสชาติอะไรเลยวะนี่ ถ้าไอ้คนนั้นไม่พูดคงจะกินกันอีกหลายเจ้า ไอ้พวกกินมาแล้วมันไม่พูด ก็มีคุณน้อยกานดานี่ แกปากโป้งอยู่แล้ว แกก็พุ่งแหลนแล้ว (หัวเราะ)

    ” ตอนนั้นมีพิธีพุทธาภิเษกด้วยไม่ใช่หรือครับ ”

    มีพุทธาภิเษก พระเปลี่ยนกันเข้าหรือไงนี่ ใครมาทีหลังก็เข้าทีหลัง

    ” แล้วหลวงพี่ได้เข้าไปในโบสถ์บ้างหรือเปล่าครับ ตอนท่านทำพิธีพุทธาภิเษกน่ะ ”

    เข้าบ้างไม่ได้เข้าบ้าง

    ” ของที่ปลุกเสกวันนั้นมีอะไรบ้าง พอจะจำได้ไหมครับ วัตถุมงคลน่ะ ”

    เดี๊ยวนี้ก็มีพระหลายองค์ที่เป็นเหรียญน่ะ (เหรียญพระสุปฏิปันโน)

    (ด็อกเตอร์ปริญญาพูดเสิรมว่า)

    ” แล้วก็ตอนกำลังทำพิธีพุทธาภิเษกน่ะ หลวงปู่ชุ่มลุกขึ้นเปลี่ยนสบงจีวรหมดเลย ”

    นี่ไม่ได้เข้าหรอก พระเล็กพระน้อยน่ะ ไม่ค่อยได้เข้า เข้าว๊อบๆ แวมๆ ไม่ได้ละ หลวงพ่อท่านสั่งเด็ดขาดนะ สั่งคำเดียวนี่ไม่มีใครแล้ว ไม่ว่าคนหรือตำรวจทหาร มันมีกระตุกสร้อยเหมือนกัน จับได้ ขอทงขอทานจับหมด เพราะมันคอยลักรองเท้าเขา

    ” มีคนไปถามหลวงพ่อว่าทำไมหลวงปู่ชุ่มต้องลุกขึ้นเปลี่ยนเครื่องทรง หลวงพ่อบอกว่า ไม่มีใครทนอยู่ได้หรอก เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จน่ะ ต้องเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย คือชุดเก่าแล้ว เปลี่ยนใหม่เลย ”

    ” เป็นอันว่างานปลุกเสกคราวนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จมา ”

    เราเข้าไปเห็นท่านเสด็จอยู่นานแล้ว

    ” ได้ทิพจักขุญาณหรือเปล่านี่ เห็นตาเนื้อเลยหรือครับ ”

    โอ้โฮ เห็นตาเนื้อเลย ท่านเสด็จอยู่นานก่อนเราจะเข้าไปอีก ปลุกเสกในโบสถ์(หมายถึงพระประธานในโบสถ์)

    คือ หลวงพ่อท่านนิมนต์พระสุปฏิปันโนมา เงินที่เขาทำบุญถวายท่านหมด ไม่ได้เก็บไว้ที่วัดนะ ถวายท่านกลับไปหมด ท่านให้เอากลับไป ไปสร้างวัดที่ท่านอยู่ ท่านก็เอามาคืน แต่ว่าหลวงพ่อท่านถวายกลับไปหมดแล้วเงินที่ท่านมีก็ถวายท่านไปอีก เรียกว่าเอาบุญกันทั้งนั้นเลย

    ทีนี้มันไม่เหมือนชาวบ้านเขาอยู่อย่างหนึ่ง ทำบุญกลางวัน กลางคืนก็พักผ่อนกัน นั่งคุยสนทนาธรรมกันอะไรอย่างนี้ ไม่อึกทึกครึกโครม หลวงพ่อท่านส่วนมากจะเน้นความปลอดภัย ความปลอดภัยมาก กลางคืนไม่ทำงาน คนก็ไม่จุ้นจ้านใช่ไหม เหมือนกับคนภายในเราอยู่กัน กลางวันก็มาทำบุญกัน

    ” เอ้าทีนี้ตอนในหลวงกับสมเด็จเสด็จนี่ ตอนเสด็จนี่มีใครตามเสด็จครับ นอกจากสมเด็จ 2 พระองค์แล้วมีใครครับ ”

    ก็มีฟ้าหญิงจุฬาภรณ์กับพระเทพฯ นี่ 2 องค์ ไอ้ฉันก็เป็นพระตื่นด้วย อยู่ที่นวราชตื่น พระก็อยู่เป็นกระจุกที่นี่น่ะ ไม่ได้ปล่อยพระเพ่นพ่านไปไหนเลย มีหลวงพ่อรับแขกอยู่ในโบสถ์ พอรับแขกได้นานหน่อยก็ ทางจังหวัดหาว่าหลวงพ่อล๊อคตัวในหลวงไว้ หลวงพ่อเก่งนะ ล็อคตัวในหลวงไม่ให้ไปไหน

    ” แล้วเรื่องจริงๆ เป็นยังไง ล๊อคหรือเปล่า หรือยังไง ”

    หลวงพ่อก็คุยกับในหลวง ในหลวงก็ทรงปรารถว่าห่วงบ้านเมือง เรียกว่าคอมมิวนิสต์ยังเยอะอยู่น่ะ ท่านก็บอกว่าบ้านเมืองไม่มีอะไร ไม่เป็นขี้ข้าของรัสเซียหรอก ของจีนแดงอะไร ท่านรับรอง แต่ต่อไปน้ำมันจะปรากกฏขึ้น แต่ปรากฏขึ้นทีละน้อย เพราะคนยังโกงกันอยู่

    ” ตอนในหลวงกับสมเด็จเสด็จมานี่ก็แวะที่โบสถ์วัดเก่าก่อน แล้วเสร็จแล้วถึงจะเดินมาที่โบสถ์ใหม่ ตอนเดินมานี่ก็มีเจ้าอาวาสเก่าเดินนำหน้า แล้วก็ตอนนั้นกลดไม่กาง หุบกลดมา เข้าวัดไม่กางกลด หุบกลดมาเลย ที่ว่าฝนโบกขรพรรษตกนี่ช่วงนี้แหละ ”

    ตกจริงๆ เราก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ เม็ดโป้งๆเลยนะ

    ” เข้ามาแล้วก็เข้าโบสถ์ก่อน คุยกับหลวงพ่อ เสร็จแล้วถึงออกไปเททอง เททองเสร็จก็ไปทักทายญาติโยม แล้วก็ราษฏร แล้วเสด็จกลับ ”

    คล้ายๆ กับมันเริ่มที่วัดเราหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ที่ทำบุญกลางถนนกันนี่ พวกเรามันพวกนักบุญอยู่แล้ว นี่ก็ทำบุญกลางถนน ในหลวงก็รับ รับกันเรื่อยเปื่อยตอนนี้เอง ในหลวงรับกับมือเอง มันเพิ่งเริ่มที่นี่ ฉันไม่เคยเห็นที่ไหนนะ

    ” แต่หลวงพ่อเคยบอกว่าเริ่มต้นจากวัดท่าซุง ในหลวงเริ่มรับแบงค์จากมือประชาชน เริ่มครั้งแรกที่วัดท่าซุง เคยพูดที่ซอยสายลมไว้ ”

    แต่ก่อนไม่เคยเห็นน่ะ เดินไปก็รับไปเรื่อยๆ

    (จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ ตุลาคม 2538)

    564342_457871714233718_382318937_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เจ้าพ่อขุนด่าน

    วันนี้วันที่ 3 ธันวาคม 2514 เมื่อวานนี้ฉันพูดถึงเรื่องเจ้าพ่อขุนด่าน ท่านใช้บาทากระทบ เจ้าลาวอันธพาลคนนั้นเข้า จนเจ้าลาวเจ็บและบวมไปทั้งตัว ในที่สุดพระองค์ปากเสียก็ต้องเป็นเจ้าภาพนำส่งหลวงพ่อปาน คนที่จัดรายการนี้ก็คือเจ้าลิงขาวเขาเป็นผู้สั่ง เพราะเขามีฐานะเป็นผู้รักษาความปลอดภัย ที่เขาสั่งอย่างนั้นก็ประสงค์ให้ทั้งสองฝ่ายเลิกอาฆาตมาดร้ายกันเสีย เมื่อเจ้าลาวอันธพาลไปพบหลวงพ่อปาน ท่านขอให้ขมาพระรัตนตรัย ด้วยทำกับพระที่ช่วยเสริมสร้างพระศาสนา เป็นการทำลายความเจริญรุ่งเรืองของพระศาสนา ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล ความเห็นของท่านเป็นอย่างนี้ เมื่อหายแล้วจะบวชมันก็ยอมรับ เพราะถ้าไม่ยอมรับท่านไม่รักษาให้ เมื่อมันยอมรับแล้วท่านทำน้ำมนต์ให้กิน เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงมันก็หายเป็นปกติ ลูกหลานอาจจะสงสัยว่าน้ำมนต์วิเศษอย่างไรจึงแก้โรคได้ชะงัดนักและหายรวดเร็ว เรื่องนี้จงทราบว่าไม่ใช่โรคธรรมดาที่เกิดกับร่างกาย มันเป็นโรคบาทากระทบและเกิดจากบาทาของผี นี่ว่ากันตามภาษาชาวบ้าน ถ้าพูดตามภาษาพระที่พอจะเอาแบบเอาแผนตามพระพุทธเจ้าสักหน่อย ไม่มาก ก็เพียงใช้ฌานโลกีย์ ก็ต้องพูดว่าโรคเกิดจากบาทาเทวดาหรือบาทายักษ์ คำว่ายักษ์ จงทราบไว้ด้วยว่าไม่ใช่ยักษ์ในแบบเรื่องรามเกียรติ์ เพราะยักษ์พวกนั้นพระที่ทรงฌานไม่รู้จัก ยักษ์ที่กล่าวนี้เป็นชื่อของเทวดาพวกหนึ่งที่มีอานุภาพมาก ตายจากมนุษย์ที่ทรงฌาน แต่ทว่าเวลาตาย ๆ นอกฌาน ไม่ได้เข้าฌานตาย ไปเป็นบริวารของท่านท้าวเวสสุวัณ ท่านเรียกว่ายักษ์ แปลว่าผู้ที่คนควรบูชา ไม่ใช่ยักษ์อันธพาลอย่างพวกยักษ์ทศกัณฐ์ ความจริงยักษ์พวกทศกัณฐ์จะหาว่าเป็นอันธพาลก็อาจจะบาปเกินไปสำหรับคนพูด ด้วยยักษ์พวกนี้มีจริงหรือไม่ ไม่มีใครรับรอง หาเหตุหาผลกันยากเต็มที ถ้ามี ฉันก็คิดว่าคงจะไม่น่ากลัวเท่ายักษ์อีกพวกหนึ่ง ยักษ์พวกนี้มีตื่นในสมัยปัจจุบัน มีทั้งที่ตัวเราเอง ที่ลูก ที่เมีย ที่บริวาร แม้ในวงราชการก็ได้ยินข่าวว่ายักษ์พวกนี้เข้าสิงอยู่หมด เห็นวิทยุออกข่าวว่าอย่างนั้น ทางหนังสือพิมพ์เขาก็ลงข่าวว่ายักษ์พวกนี้ แม้ชาวบ้านชาวเมืองชาวราชการเขาก็พูดกันว่ายักษ์พวกนี้มีมาก มันมีอำนาจมากด้วย ไม่เกรงกลัวใคร แม้พวกทหาร ตำรวจที่ถืออาวุธ เจ้ายักษ์พวกนี้ก็ไม่กลัว ยักษ์พวกนี้เวลาเขียนหนังสือไม่ต้องใช้ตัว ข หรือตัว ษ การันต์ ด้วยมันเป็นยักพิเศษ ลูกหลานที่รักรู้จักยักพวกนี้ไหม ลองนั่งนึกสักครู่ นึกออกไหม ถ้านึกไม่ออกจะบอกให้ เจ้ายักพวกนี้เราเรียกชื่อเต็มเขาว่ายักยอก เมื่อรู้จักชื่อแล้วลองช่วยกันใคร่ครวญกันดูทีหรือว่ามันร้ายแรงมากไหม มันยักไม่เลือกที่ ไม่เลือกบุคคล ยักดะไปหมด ยักผัว ยักเมีย ยักลูก ยักหลาน ยักญาติ ยักราชการ มันยักได้ทุกสถานที่ แม้ตัวเราเองที่คบมันไว้ มันก็ยัก จะสมมติให้เห็นอาการที่มันยักตัวเราเองก็คือ สมมติว่าลูกหลานทำงานรับจ้าง นายจ้างจะเป็นรัฐหรือบุคคลก็ตาม ตามระเบียบงานเขาว่าเขาจะให้เงินเดือนเพื่อเลี้ยงตัว เวลาที่เราจะทำงานเราก็ว่าจะเอาเงินมาเลี้ยงตัว จะจ่ายในสิ่งที่เป็นประโยชน์ พอได้เงินเข้าจริง ๆ เจ้ายักพวกนี้มันก็สอนให้เราเป็นยักษ์ คือ ยักเงินค่าอาหารประจำวัน ค่าเล่าเรียนของลูก ค่ากระโปรงเมีย ค่ากางเกงตนเอง เอาไปซื้อเหล้าเมายาเสีย บางรายก็ยักเมีย ได้รับเงินมามากบอกเมียว่าได้น้อย แอบไปหาความสำราญนอกบ้าน ฯลฯ เอากันเท่านี้พอ เห็นหรือยังว่าเจ้ายักพวกนี้มีความร้ายแรงกว่ายักษ์ในเรื่องรามเกียรติ์มาก เรื่องยักษ์พักกันดีกว่า มาว่ากันถึงเรื่องท่านเจ้าพ่อขุนด่านต่อไป ว่าท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกฉัน หมายถึงพระทุกองค์อย่างไร และรู้ได้อย่างไรว่าบาทาที่กระทบเจ้าลาวอันธพาลนั้นเป็นบาทาท่านเจ้าพ่อขุนด่าน

    216190_457918924228997_1979299641_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ

    ทราบ จากท่านผู้ว่าแม่ฮ่องสอนว่ามีคนมาบอกว่า สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ เรื่องนี้เป็นปรกติเพราะสมเด็จพระสังฆราชองค์นี้เป็นพระที่ควรแก่การบูชา ไม่มีเวร มีภัยกับใครๆ ตั้งแต่รับตำแหน่งมา ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่พระใต้บังคับบัญชา มีแต่เตือนให้สามัคคีกัน เมื่อท่านเสด็จมา ก็ลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพด้วยศรัทธาแท้ คิดว่าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ท่านจะยืนรับเหมือนผู้เขียน เห็นท่านนั่งเป็นปรกติ สมเด็จพระสังฆราชท่านเข้ามาถึง ท่านนั่งกับพื้น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์นั่งบนเตียงตามปรกติ สมเด็จพระสัึงฆราชท่านกราบแล้วถวายของ(เครื่องสักการะและของใช้) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์พนมมือให้พร

    386796_457947954226094_948712050_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ท่านที่ควรบูชา

    เป็นอันว่า เมื่อเห็นเข้าอย่างนั้น จิตก็มีอารมณ์คิดบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้นอย่างยิ่ง ท่านอาจจะเคารพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ในฐานะอะไรเป็นเรื่องของท่าน แต่ที่่เพิ่มความเคารพบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้น เพราะท่านไม่มีมานะ คำว่า มานะ แปลว่า การถือตัวถือตน หรือถือยศถือศักดิ์ โดยคิดว่าเวลานี้ฉันเป็นสังฆราช ใครจะโตกว่าฉันไม่ได้ ฉันต้องโตกว่าทุกคนที่เป็นพระสงฆ์ การตัดมานะตัวนี้ เป็นเรื่องที่่ผู้เขียนบูชาน้ำใจอย่างยิ่ง และบูชาทุกคนที่ตัดได้ ไม่ใช่เฉพาะสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น วันนั้นถือว่า เฮงที่สุด ท่านที่ตัดมานะ หมดการถือตัวถือตน ตามภาษาพระที่่เรียกว่า สังโยชน์ ท่านถือว่ามีความดีสูง ควรแก่การบูชาอย่างยิ่ง ใครบูชา คนนั้นเป็นคนมีอุดมมงคล คือมงคลสูงสุด(หรือเฮงที่สุด)

    551831_458722040815352_1773867634_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เรื่องทรงจ้าว

    ยกทรง : เมื่อวานหลวงพ่อบอกว่าผีนิมนต์ เป็นอย่างไรครับ

    หลวงพ่อ : อ๋อ คำว่า ผี หมายความว่า วันนั้นเจ้าแม่บังไพรเข้าทรง ท่านก็เลยนิมนต์ เพราะวัดนี้ท่านจะสร้าง ตอนที่มาบ้านท่านเจ้ากรมฯ ครั้งแรกสุดก็มีคนเอาดอกไม้ธูปเทียนเต็มถาดมาถวาย เขาว่าเจ้าแม่บังไพรเอามาถวาย เที่ยวสองเที่ยวสามก็เหมือนกัน ก็เอ๊ เจ้าแม่บังไพร อยู่ที่ไหน ทีหลังไปพบเข้าจึงรู้ ไปพบที่ดาวดึงส์

    ยกทรง : สูงเหมือนกันนะครับ

    หลวงพ่อ : ไม่เชิง ยังดึงถึง (หัวเราะ) เขาบอกว่า เจ้าแม่บังไพร สงสัยว่าต้องเป็นคนทรง วันหนึ่งก็ขึ้นไปจุฬามณี มันนึกไว้ก่อนว่า เจ้าแม่บังไพร น่ะคนไหน พอขึ้นไปก็เจอะเลย จึงรู้ว่าคนไหน ตอนหลังก็พบกันอีกครั้งหนึ่ง เขามานิมนต์ไปให้ไปช่วยสร้างวัดให้ แล้วก็ไม่ต้องถามฉันว่า เจ้าแเม่บังไพร สมัยเป็นมนุษย์คือใคร ฉันไม่บอก เดี๊ยวมาหาฉันบ้าอีก บ้าแค่นี้พอ บ้าครึ่งเดียวพอ

    ยกทรง : อ๋อ แต่ธรรมดาอยู่ข้างบนหรือครับ

    หลวงพ่อ : ปรกติเขาอยู่ข้างบน เป็นเทวดาชั้นสูง

    ยกทรง : ผู้หญิงหรือผู้ชาย

    หลวงพ่อ : เจ้าแม่นี่น่ะ

    ยกทรง : อ๋อ เจ้าแม่

    หลวงพ่อ : เจ้าแม่เป็นผู้ชายก็ซวยละสิ (หัวเราะ)

    ยกทรง : ผมเห็นบางทีคนเป็นผู้ชายทรงเจ้าแม่ คนผู้หญิงทรงเจ้าพ่อ

    หลวงพ่อ : อ๋อ คนทรงเหรอ คนทรงเป็นผู้หญิง เขาขอให้สร้างวัดหลายวัด ถ้าอย่างนี้ก็ไว้ใจได้ ถ้าไปเจอะข้างบนก็ไว้ใจได้ ถ้าไปเจอะข้างบนไม่ได้ เจ้าองค์นั้นก็ไว้ใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไปสังเวยหลอกชาวบ้านเขา

    ยกทรง : กลัวไปเจอนเรศวรปลอมน่ะสิ

    หลวงพ่อ : ไม่ปลอม แท้เลย เป็นเองคนละองค์ มีหลายสวน สวนซ้าย สวนขวา สวนหน้า สวนหลัง องค์ดำน่ะสวนเดียว นเรศวรองค์จริงเวลานี้ยัีงไม่ตาย

    ยกทรง : อ้าว แล้วกัน ก็เห็นว่ากู้ชาติ กู้บ้านเมือง แล้วก็ตายไปแล้ว

    หลวงพ่อ : คนละองค์ นี่องค์จริงอยู่สุพรรณบุรี องค์นั้นสวนอยุธยา พิษณุโลก ใช่ไหม องค์นี้สวนสุพรรณ (หัวเราะ)

    ยกทรง : พูดถึงเรื่องผีเข้าจ้าวทรงจ้าวพ่อ ยุคนี้ทำไมมากเหลือเกิน แต่ละแห่งเรียกร้องค่าบูชาครูหนักๆทั้งนั้น

    หลวง พ่อ : เห็นจะเป็นคนนิยมมาก ถ้าหากคนไม่นิยมเขาก็เป็นไม่ได้ ตั้งร้านค้า ไม่มีคนซื้อ ตั้งไปก็ขาดทุนใช่่ไหม คนนิยมมากจึงมีมาก ถ้าหากว่าท่านเจ้าทรงก็ดี ถ้าท่านเจ้าไม่มาอั๊วทรงเอง เคยเจอะบ่อยๆ แต่ความจริงเรื่องทรงนี้ จะหาว่าเขาเลอะเทอะทุกรายไม่ได้นะ คนที่เขาดีจริงๆมี

    ยกทรง : จะสังเกตุได้อย่างไรครับหลวงพ่อ

    หลวง พ่อ : ก็ต้องหาเหตุหาผล ถ้าเราไปแล้วเขาพูดว่าอย่างไร จะปรากฏเมื่อไหร่ ใช่ไหม ถ้าไม่เกินวิสัยที่่เราจะรู้ได้ ต้องรอเวลา ถ้า้เวลานั้นเป็นผลตามนั้นจริง ก็เชื่อได้ นี่เราพูดตามธรรมดานะ ถ้าหากเรามีทิพจัีกขุญาณ ก็เป็นของไม่ยาก ก็รู้เลยว่าเขาคือใคร เมื่อฉันบวชใหม่ๆฉันไปแพ้มา 3-4 ราย

    ยกทรง : แพ้อะไรครับ

    หลวงพ่อ : แพ้คนทรง

    ยกทรง : หลวงพ่อน่ะ

    หลวง พ่อ : ใช่ เอ้า ไอ้คำว่าแพ้ เราแพ้อย่างมีเหตุผลสิ เขาืลือกันว่าคนไหนเก่ง ต้องไป อ้าวที่เก่งจริงๆ ถึงไป ต้องมีคนขึ้นมากๆ ไปยอมแพ้ เพราะอะไรรู้ไหม ในระหวา่งที่ไปตามทาง เราคุยกับเพื่อนเราว่าอย่างไร ไปปรารถถึงเขา พอถึงปั๊บเขาทรงปุ๊บ เขาพูดเลย พูดในลีลาที่เราคุยกัน องค์นั้นพูดอย่างนั้น องค์นี้้พูดอย่างนี้ แค่นี้เรายอม แค่นี้เรายอมว่าเขาดี มีอยู่องค์หนึ่งได้กำไรหน่อย แพ้เหตุผล แต่ได้กำไรทอง ได้ทองที่ปล่องเหลี่ยม ปล่องเหลี่ยมนี้อยู่ที่่สามพราน ใ่ช่ไหม พอไปเทศน์ที่วัดไม่ไกลนักหรอก เขาลงเรือมาแล้วชาวบ้านเขาก็คุยในวงว่่าจ้าวที่ลงเรือมานี้เก่งมาก เทศน์ 3 องค์ ก่อนขึ้นธรรมาสน์ก็คุยกันว่า เฮ้ย เลิกเทศน์แล้วไปดูกันไหม เวลานั้นเป็นหน้าน้ำ น้ำจะท่วมถึงใต้พื้นบ้าน ไปเทศน์ประมาณ 5 องค์ ก็ไป นั่งเรือจ้างไป

    ไปพอดีคนทรงเขากำลังหั่นปลาจะแกงตอนเย็น เข้าบ้านเขารีบล้างมือวิ่งเข้าห้อง แต่งตัวออกมา ท่าทางเป็นผู้ชายทั้งหมดเลย บอกนิมนต์ครับๆ ผมคอยท่านมาตั้งแต่ก่อนขึ้นธรรมาสน์ แล้วกัน เห็นปรารภว่าจะมาก็เลยมาคอย พอ เ่ท่านี้เราพอ ใช่ไหม คุยไปคุยมาครู่หนึ่งเขาบอกว่า ไหนๆ ก็มาแล้ว ผมจะขอถวายของวิเศษอย่าง ถามว่าอะไร บอกขออภัยครับ เขาเป็นผู้หญิงนะ แต่ท่าทางเป็นผู้ชาย เสียงเป็นผู้ชายทั้งหมดเลย นิมนต์เอาขันน้ำไปตักน้ำในตุ่มสักขัน เราก็ลุกไปตักน้ำในตุ่ม แทนที่เขาจะรับ เขาก็วางตรงหน้าเรา แล้วเขาส่งกระดาษให้ ส่งตะไกรให้ตัดกระดาษ 3 ชิ้น ยาวประมาณนิ้วครึ่ง กว้างประมาณนิ้วหนึ่ง พอตัดเสร็จ ถามแช่ไหน บอกแช่ในน้ำ เอาผ้าปิด แล้วเขาก็นั่งคุยกับเราเรื่อย พอถึงเวลาจะลากลับ บอกเสร็จแล้วครับ ถามอะไรเสร็จ บอกตะกรุดทองคำ ถามที่่ไหน บอกในขัน พอเปิดผ้ามาดู กระดาษมันม้วนเสร็จเรียบร้อยเป็นตะกรุดทองคำ นี่ดันตัดให้น้อยไป(หัวเราะ) พอใหร้านค้าทองคำดู บอกทองคำแท้ครับ แหม ทีแรกเรานึกในใจตัดกระดาษยาวๆกว่านี้ก็ดี(หัวเราะ) ไม่บอกเสียก่อน อันนี้ของจริงนะ ของจริงเขามี

    ยกทรง : เอ๊ะ แล้วที่่เป็นทอง เป็นได้อย่างไรครับ

    หลวงพ่อ : ก็ต้องไปถามเจ้าองค์นั้น ฉันน่ะไม่ต้องถาม กระดาษมันเป็นทองด้วยอำนาจเทวตานุภาพ

    ยกทรง : ยัีงอยู่ที่หลวงพ่อหรือเปล่า

    หลวง พ่อ : ไม่อยู่น่ะสิ หายไปนานแล้ว ไม่ได้ขาย ทหารจะไปรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาหา เราสงสาร ก็บอกเอาตะกรุดนี่ไป เราก็ผูกผ้าไปก่อน ให้แกลองยิง แกลองยิง 3 นัดไม่ติด บอกเอาไปได้ แกะออกมาเป็นทองคำ ดีใจใหญ่

    ยกทรง : กลับมาหาบ้างหรือเปล่า

    หลวง พ่อ : กลับมา ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างหรือเปล่า บอกไม่เป็นอะไรเลย ขนาดข้าศึกสาดกระสุนมาหนามาก แกยังเฉยๆ เก่งมาก นี่ของจริงเขามีนะ พวกเราไปเจอะของปลอมก็เลยไม่เชื่อกัน ถ้าเราไม่ทราบด้วยทิพจักขุญาณ ทิพจักขุญาณทราบได้ใกล้ทันที ก็ต้องรอผลไกลๆ เขาพูดอะไรมา ถ้ามันเป็นจริงก็ต้องเชื่อเขา ถ้าไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่เราจะรู้ได้นะ ถ้าไปถึงแล้วบอกไม่เชื่อเลย

    ยกทรง : ตอนเป็นพระจะไปอินเดีย เขาพาไปหาเจ้าพ่อลิ้นดำ ปิ่นเกล้า อะไรนั่นน่ะ ไม่มีแขกเลย พอผมไปเขาก็รีบแต่งตัว ไปกราบพระแล้วก็มา บอกจะไปอินเดียใช่ไหม ปู่ไม่มีอะไรจะให้ เอาดอกเยอบีร่าสีแดงมาวางที่มือ แล้วแก็เอามือปิดนิดหนึ่งแล้วก็ส่งให้ ก็ได้ลูกแก้วมาใบ ทีนี้อยากจะถามว่าจะเล่นกลหรือเปล่า ใช้อยู่ทุกวันนี้ แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจ

    หลวง พ่อ : แสดงว่าเล่นกล กลดีหรือกลเลว เขาจะเล่นอย่างไรก็ช่าง ในเมื่อเราเป็นฝ่ายได้ก็ช่างมันเหอะ (หัวเราะ) ถ้าเล่นแบบให้เราเป็นฝ่ายเสียอย่าไปยุ่งกับเขา เราก็ไม่ใช่คนเอาเปรียบคน ขอกำไรอย่างเดียวพอ(หัวเราะ) เราไม่ได้บัีงคับเขานี่นะ เขาทำให้ด้วยเมตตา อันนี้ต้องมีผล

    ยกทรง : มิน่าเล่า ขึ้นไปบนเครื่องบิน ฝรั่งไม่รู้หน้ากัน ส่งภาษาไปให้เปิดย่าม ตอนแรกชักใจไม่ดี คิดว่าเขาจะล้่วงอะไรในย่าม เพราะไม่ค่อยเชื่อใจอยู่เหมือนกัน แล้วแก็บอกว่าให้คนเขาแปลให้ฟังบอกว่า จะไปเมืองเขาแล้ว แบ็งค์ไทยไม่อยากได้ เลยใส่ย่ามให้หมดเลย เสียใจเหมือนกันครับ

    หลวงพ่อ : เสียใจเหมือนกัน น้อยไปหน่อย(หัวเราะ)

    ยกทรง : แหม รู้คอเลย

    หลวง พ่อ : รู้สึกไปครั้งนั้นโชคดีตลอดเลย จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เข้าจ้าวเข้าทรงไปตำหนิเขาไม่ได้ แล้วแต่คน อีกทีหนึ่งก็แล้วแต่ผู้มาทรง ผู้มาทรงมีอานุภาพขนาดไหน บางทีก็ไปเจอะอสุรกายมาทรงก็มี สัมภเวสีก็มี พวกนี้เขาก็ทำได้เหมือนกัน ใครจะไปใครจะมาเขาก็บอกได้ นั่งๆ อยู่รถจะมาเขาบอกว่า เอ้อ รถจะมา มาช่วยกันขนของ พวกนี้เขาทำได้ แต่อานุภาพไม่เท่ากัน เหมือนคนเราส่วนสูงมันไม่เท่ากัน

    ยกทรง : พวกนี้ที่มาช่วยชาติ ช่วยศาสนาก็มีนะ

    หลวงพ่อ : มีองค์ที่ทำตะกรุดทองคำ เสียดายไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว จะให้ทำใหม่

    ยกทรง : ทองแพงด้วยตอนนี้

    หลวงพ่อ : ตอนนั้น ไม่บอกด้วยว่าจะทำตะกรุดทองคำ ฉันจะตัดเสียเยอะเลย (หัวเราะ) น่าแปลกนะ ตะกรุดทองคำนี่ลอยน้ำนะ

    ยกทรง : มีอักขระด้วยไม่ใช่เหรอ

    หลวงพ่อ : มี

    ยกทรง : ไม่ได้เสกอะไร นั่งคุยเฉยๆเหรอ

    หลวง พ่อ : เทวตานุภาพ เขาไม่ต้องเสกเป็นแล้ว อย่า่งพระที่ได้อภิญญานี่เขาไม่ได้เสก พอนึกปั๊บมันเป็นเลย พระที่ได้อภิญญา ยังมีเนื้อมีหนัง มีอารมณ์หนักใช่ไหม ถ้าเขาเป็นเทวดาชั้นนิมมานรดี เขาจะเบา สบายกว่า อารมณ์หนักไม่มี ทำได้คล่องกว่า

    (จากสนทนาสายลมในหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 15 หน้า 424)

    321955_458723674148522_70587936_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เรื่องคุณไสย

    ยกทรง : หลวงพ่อเจ้าคะ เวลาหลวงพ่อรดน้ำมนต์ทีไร ถูกตัวหนูปวดศีรษะทุกครั้ง เป็นเพราะอะไรเ้จ้าคะ

    หลวงพ่อ : ดีมาก ทีหลังอย่างนี้ซินะ เอาตัวแมวเข้ามารับแทน

    ยกทรง : อ๋อ หนูจะได้พ้นนะ

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ น่ากลัวจะมีอะไรอยู่ในตัวเีสียอย่างหนึ่ง ที่มันกลัวน้ำมนต์ ใช่ที่เขาเรียกว่าโรคไสยศาสตร์ ที่มันมาโดยที่เขาไม่ตั้งใจ เพราะนักไสยศาสตร์นี่ต้องปล่อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คือว่าวันอังคาร 1 ครั้ง วันเสาร์ 1 ครั้ง จึงได้มาตามลม ตามแล้งนะ ฉะนั้นทุกคนจงอย่าทำปากให้ไว ถ้ามีอะไรตุ๊บตั๊บ ตึงตังขึ้นมา อย่า อย่าไปทัก พวกนี้ถ้าไม่ทักไม่เข้าตัว ใช่ ถ้าไม่ทัก เฉยๆไม่เข้าตัว ถ้าทักแล้วเข้า

    ยกทรง : นี้อย่างลูกก้ง ลูกแก้ว นี่เข้า

    หลวงพ่อ : ถ้าทักเปิดโอกาศให้เขา อย่าลืมนะ ก็เมื่อสมัยที่หลวงพ่อปาน ป่วยที่วาระที่จะตายน่ะ ท่านสั่งบอกว่า ก่อนหน้านั้น 4-5 วันคือว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตอนเย็นก่อนที่พระอาทิตย์จะตก ทุกองค์ให้ปิดหน้าต่างด้านตะวันตกให้หมด เพราะเขาจะปล่อยของมา แล้วก็เป็นความจริง พอค่ำไม่เกิน 2 ทุ่ม ปึงปังๆ โป๊ะเป๊ะเลย เหมือนอะไร เหมือนกับลูกกระสุน ใครขว้างกุฏิเข้าไปดู ไม่เห็นมีวัตถุ อีกคืน พอคืนที่ 2 เจ้าลิงเล็กมันซน เขาก็ทำน้ำมนต์ เอาใส่ถังน้ำนี่ 4 ถัง ไปวางไว้ ดัก พอปุ๋ง จ๋อม ปุ๋ง จ๋อม ลงถัง เข้าไปดูตะปูบ้าง ขวานบ้าง มีดโต้บ้าง เหล็ก เหล็กยาวๆขนาดนี้นะ เลื่อยตัดเหล็กบ้าง ผูกกันมาเป็นไอ้ผูกอย่างนี้ถ้าเข้าตัวก็ตาย มาคืนที่ 3 ประมาณตี 2 เสียงดังวู้ด ดังมากเหมือนของใหญ่ๆ ต้านลมมา ไปหน้าโบสถ์ ถูกต้นอะไร หางนกยูง โป้ง ดังสนั่นเลย เสียงอ๊อด ไอ้ต้นหางนกยูงน่ะโอบไม่รอบนะ ล้มทั้งต้นเลย เช้าขึ้นมา หลวงพ่อพ่อปานบอก นั่นครกนะ เขาจะเอาฉันให้ตาย เราก็ไปหาครกไม่พบ ทำอย่างไร ท่านเลยทำน้ำมนต์ให้ไป พรมไป พรมมา พรมมันดะไปนะ ก็พรมแถวนั้นนะ ไม่ไปไหนหรอก สักครู่หนึ่ง ไอ้ครกมันค่อยๆโต ขนาดนี้ สักประเดี๊ยวเดียว ไม่ถึงชั่วโมง โตเต็มลูก นั่นถ้าถูก ไมทันเช้าล่ะ ตายเลย

    ยกทรง : ตายก่อนเช้าอีก

    หลวงพ่อ : ใช่ ต้นหางนกยูงขนาดโอบไม่รอบยังล้ม มันล้มชัด โอ๊ด แต่ท่านสั่งเลยว่าได้ยินเสียงอะไรอย่าทักเป็นอันขาด นี่ต้องระวังนะ อย่านึกว่ามีของป้องกัน อันนี้จะเปิดทางให้เขาน่ะสิ ถ้าทักเป็นการเปิดทางให้ จะต้องทำปากเงียบไว้

    ยกทรง : อ๋อ อย่างนี้เวลาอะไรก๊อกแก๊กๆ ทำเฉยไว้

    หลวงพ่อ : ก็ไม่แน่ขโมยมา (หัวเราะ) อันนี้ไม่ก๊อกแก๊ก มันจะกระทบแรง เหมือนใคร(ขว้างบ้าน เีสียงหล่นตุ๊บตับ ที่ดินนี่นะ ทำเฉย สังเกตุดูก่อนว่าอะไรกันแน่

    (จากสนทนาสายลม ในหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติเล่ม 13 หน้า 457)

    551663_458932084127681_2043984846_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ไฟจะไหม้บ้าน

    ยกทรง : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อคืนหลวงพ่อได้ตอบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องไฟจะไหม้บ้าน โดยให้ถวายพระพุทธเจ้า มีเทียน 3 เล่ม จุดธูป ถวายเป็นของสงฆ์นั้น บัดนี้ของลูกก็มีบ้านแล้วเจ้าค่ะ แต่ลูกอยู่เขตคลองตัน ตลาดสด คลองตัน เพชรบุรีตัดใหม่ อยากจะทำแบบนั้นบ้าง จะมีทางแก้ไขได้หรือไม่ เพราะเขานั่งทางใน เขาบอกไฟจะไหม้เหมือนกัน

    หลวงพ่อ : ทำได้ แต่เวลาถวายก็จุดเทียนเข้าไปด้วยนะ เป็นการถวายไฟกับพระด้วย

    ยกทรง : อ๋อ

    หลวงพ่อ : ให้พ้นไปเลย

    ยกทรง : อ๋อ

    หลวงพ่อ : อธิษฐานให้กรรมนั้นพ้นไปนะ

    ยกทรง : ครับๆ

    หลวงพ่อ : หนึ่ง นำพระพุทธรูปเข้าไป สอง ขณะนำจุดเทียน 3 เล่ม ใส่ถาดแล้วถือเข้าไปด้วย ประเคนด้วยกันนะ

    ยกทรง : ครับๆ

    (จากสนทนาที่สายลม ในหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 16 หน้า 239)

    562856_458945957459627_2111675940_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทำงานที่คลีนิคทำแท้ง

    ยกทรง : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกทำงานในสำนักงานเถื่อนทำแท้งแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีรายได้ดีพอควร หน้าที่ลูกคือเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเงิน พอมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อไ่ม่นานนักชักไม่แน่ใจไม่ดีเสียแล้ว เพราะมีหุ้นส่วนกับเขาด้วย เลยจะขอพึ่งบารมีถามหลวงพ่อว่า ข้อหนึ่งลูกจะมีบาป มีกรรมร่วมกับบัญชีพระยายมมีบ้างหรือไม่ ข้อสองเอาเงินเดือนจากทำแท้งมาทำบุญกับหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : เอ่อ นี่เข้าท่า เ้ข้าท่าๆ

    ยกทรง : มาดีอีตอนทำบุญนี่เองนะ

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ ฟังมาตั้งนาน คิดว่าจะบอกอย่างนี้เหมือนกัน แบ่งครึ่งกัน (หัวเราะ) เอาอย่างนี้ซิ งานก็เป็นงาน อาชีพก็เป็นอาชีพ จิตใจเกาะบุญไว้ พระพุทธเจ้าไม่เคยตำหนิใครเรื่องอาชีพน่ะ อย่างกับอาจารย์ยกทรงพระสารีบุตร 500 องค์เป็นชาวประมง ใช่ไหม ชาวประมงซึ่งต้องฆ่าปลาทุกวันประจำเลยยิ่งกว่าทำแท้ง ต่อมาเมื่อเข้ามาบวชกับสำนักพระสารีบุตร พระพุทธเจ้าก็รับและยังแนะพระสารีบุตรไปสอนอภิธรรม เพราะพวกเขาเคยเกิดชาติก่อนฟังอภิธรรมมา พอฟังอภิธรรมย่อๆจบ เขาเป็นอรหันต์ทั้งหมด เห็นไหม เขาไม่ตำหนิ อาชีพก็ส่วนอาชีพ แล้วเรื่องบุญก็เรื่องบุญไป แต่ว่าจิตอย่าไปเกาะอาชีพประเภทนั้น เกาะบุญอย่างเดียว งานถือว่าทำตามหน้าที่น่ะ หมดเรื่องหมดราวไป

    ยกทรง : อย่างนี้ถ้าจะนึกอะไร ให้นึกถึงบุญที่ทำกับหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ นึกถึงฉันไม่ทันมันไกล นึกถึงยกทรงก่อน ก็นึกอีตาบ้า คนนั้นแกเคยพูดปาวๆเป็นธรรมะธัมโมดีจังเว้ย เพลิดเพลินดี

    ยกทรง : อ๋อ อย่างนี้ต้องแบ่งให้หลวงพ่อครึ่งหนึ่ง

    หลวงพ่อ : ไม่เอาล่ะ (หัวเราะ) ให้ยกทรงร้อยเปอร์เซ็นต์

    ยกทรง : เอาแต่บุญ เรื่องอาชีพเป็นอะไรที่แปลก หลวงพ่อตอบรู้สึกสบายใจขึ้น ตอนนั้นมันยึกยักๆ

    หลวงพ่อ : เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยตำหนิใคร ท่านก็รับทุกด้าน อย่างตัมพทาฐิกโจร เห็นไหม ตัมพทาฐิกโจร โจรเคราแดงนี่ฆ่าคนมาเกินหมื่นคน แกพบพระสารีบุตรเข้า พระสารีบุตรท่านพูดเรื่องฆ่าคน ทีแรกพอกินข้าวเสร็จใช่ไหม ท่านก็เทศน์ เทศน์โทษปาณาติบาตเลย จะฆ่าคน ฆ่าปลา ฆ่าสัตว์ตกนรกขุมไหน ขุมไหน ก็ว่าเรื่อย

    ตัมพทาฐิกโจร เหงื่อแตกพลั่ก พอเทศน์ไปถึงครึ่งกัณฑ์ พระสารีบุตรท่านฉลาด ท่านเทศน์ไปท่านชำเลืองดูไป เห็นตานั่นเหงื่อแตก ท่านหยุดถามโยม ไม่สบายหรือ โยมก็บอกสบายดีพระเจ้าครับท่าน พระคุณเจ้าเทศน์มานั้นผมเรียบร้อย ไม่ได้เหลือเลย (หัวเราะ) ท่านก็เลยถามว่าโยม โยมฆ่าคนตาย ใครเขาใช้ให้ฆ่า หรือฆ่าเอง บอกพระราชาใช้ให้ฆ่า

    พระสารีบุตรท่านฉลาดกว่า ท่านก็ถามว่าโยม สมมุติว่าถ้าโยมเป็นลูกจ้างเขา นายจ้างเขามีนาร้อยไร่ เขาใช้ให้โยมทำ เมื่อได้ข้าวในนาเสร็จ ผลของนาน่ะข้าวทั้งหมดจะเป็นของโยมหรือเป็นของนายจ้าง โยมก็บอกว่าเป็นของนายจ้างครับ ท่านฉลาดกว่า ตัมพทาฐิกโจรโง่กว่า ท่านก็เลยถามว่า ถ้าอย่างนี้ที่พระราชาใช้ให้โยมฆ่าเป็นเพชฌฆาต บาปอยู่กับใคร อีตานั่นแกโง่ แกนึกว่าบาปตกอยู่กับพระราชา (หัวเราะ) พระสารีบุตรเลยเทศน์อานิสงส์ทาน เลยเป็นโสดาบันเดี๊ยวนั้น

    ยกทรง : โอ้….จากเหงื่อแตก

    หลวงพ่อ : ใช่ พอเหงื่อแห้งเป็นพระโสดาบันเลย (หัวเราะ) ไอ้เหงื่อแตกนั่นเป็นน้ำอาบชำระร่างกายให้สะอาด ชำระเข้าไปในจิตใจ ข้างในเลย เอาว่า่ต่อไป เดี๊ยวโม้หมดเวลา (หัวเราะ)

    (จากสนทนาสายลม ในหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติเล่ม 16 หน้า 257)

    293227_459297174091172_1112323875_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เทวดาช่วยสร้างวัด

    สมัยก่อนหลวงพ่อมีคนมาน้อย แ่ต่ท่านก็สร้างตึกริมน้ำ เงินก็ไม่มี สั่งไม้มา สั่งปูน สั่งทรายมา เวลานั่งกรรมฐานท่านปู่พระอินทร์ก็มาบอกหลวงพ่อ ให้อุทิศส่วนกุศลให้แก่เทวดาที่ปกปักรักษาเรา และเทวดาทั่วสากลพิภพ ทั้งนี้เพื่อให้เขาดลใจญาติพี่น้องของเขามาทำบุญ คือเราไม่เห็นเทวดาแต่จะมีความรู้สึกสะดุดใจอยากไปทำุบุญ อันนี้เป็นคำยืนยันอย่างหนึ่งนะ

    ทีนี้ก่อนหลวงพ่อจะมรณภาพ มีการเป่ายันต์ครั้งสุดท้าย งวดนั้นรู้สึกว่าได้เงินตั้ง 15 ล้านบาท หลวงพ่อเ่ล่าให้ฟังว่าต้องไปขอบคุณเขาที่ดาวดึงส์ที่ช่วยสงเคราะห์ แต่พระพุทธเจ้าพูดยิ่งกว่านั้น ทรงตรัสว่า ” ขอบใจท่านทั้งหลายที่ช่วยลูกชายฉัน ” โฮโฮพูดมากไม่ได้มันจะปิติอยู่เรื่อย แต่ในเทปมี ฉะนั้นวัดเราที่หลวงพ่อสร้างได้ใหญ่โตเช่นนี้เพราะเทวดาช่วย

    561739_459339220753634_1419269988_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อก่อนออกรับแขก

    ก่อนออกรับแขกนี่ หลวงพ่อท่านจะดูคนมาก่อน บางทีท่านก็เล่าให้เราฟัง วันนี้จะมีคนมาหาเป็นคนระดับไหน แล้วจะพูดยังไง จะทักมันยัีงไง พูดทุกคำมีเหตุมีผลหมด บางทีแม้แต่ฉันอาหารวันนี้จะทักกับใคร ทักยังไง บางทีทัก ” เออ ลูกสาวเอ้ย ” เพราะว่าเป็นลูกสาวแม่นั้นเขา ให้มาบอกยังงี๊ บางทีออกรับแขก ท่านกวาดตามองหาคนที่แม่เขาบอกมาหรือเปล่า อย่างท่านแม่ศรีมาบอกว่่า ลูกคนนี้มาให้ทักมันเสียหน่อย มีอยู่คราวหนึ่งแขกมารอข้างล่าง ก็เข้าไปกราบเรียนท่าน ” หลวงพ่อครับแขกมา ” ท่านบอกยังไงรู้ไหม ” ปล่อยมันก่อนไอ้นี่มันแอ๊ก แอ๊กว่ามันรวย มันใหญ่โตมาก ” ขนาดยังไม่ลงนะ ท่านรู้แล้ว ปล่อยให้รอไปก่อน ท่านก็ไม่ยอมลง หลวงพ่อท่านรู้จริงๆ

    378708_459613834059506_1531931798_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “อานิสงส์ของทานและการชักชวนคนอื่นทำบุญ”
    โดย หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง อุทัยธานี

    อานิสงส์การให้ทาน ที่สมเด็จพระพิชิตมารทรงตรัสว่า สมัยพระพุทธกัสสปท่านเทศน์อย่างนี้ ท่านบอกว่า

    บุคคลผู้ใดให้ทานด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนคนอื่น ตายจากชาตินี้ไปแล้วไปเกิดใหม่จะมีทรัพย์สมบัติมาก จะเป็นคนร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี แต่ว่าขาดเพื่อน ขาดคนเป็นที่รัก มันก็โดดเดี่ยวแย่เหมือนกัน

    บุคคลผู้ใดดีแต่ชักชวนบุคคลอื่น แต่ว่าตนเองไม่ให้ทาน ท่านบอกว่าตายจากชาตินี้ไปแล้วไปเกิดชาติใหม่ มีพรรคพวกมาก แต่ยากจน

    บุคคลใดให้ทานด้วยตนเองด้วยแล้วก็ชักชวนบุคคลอื่นด้วย ตายจากชาตินี้ไปเกิดใหม่ เป็นคนรวยด้วย มีพวกมากด้วย

    บุคคลใดไม่ให้ทานด้วยตนเองด้วย แล้วไม่ชักชวนชาวบ้านด้วย จะไม่มีทรัพย์สมบัติเป็นคนยากจนเข็ญใจ เกิดเป็นคนยากจนไม่มีคนคบหาสมาคม ขอทานก็ยาก เป็นยาจก ขอทาน แล้วขอก็ไม่ค่อยจะได้ ไม่มีใครเขาอยากจะให้ มีแต่คนรังเกียจ

    การให้ทานน่ะมีความสำคัญอย่างนี้นะ จงอย่าคิดว่าเราต้องการเฉพาะนิพพาน เราไม่ให้ทาน เราเอาเฉพาะศีลภาวนาอันนี้ไม่ได้ ท้องไม่อิ่มนี่ มันภาวนาไม่ไหว มันจะตายเอา ดีไม่ดีมันเป็นโจร

    การให้ทานของบรรดาท่านพุทธบริษัทเราจะต้องให้ ถ้าบุญบารมีของเรายังไม่เต็มเพียงใดเราก็เอาละ เราก็จะต้องใช้ต้องกิน แต่ถ้าบุญบารมีเต็ม เราก็จะมีความอุดมสมบูรณ์

    558699_427054330663174_117697934_n.jpg
    “อานิสงส์ของทานและการชักชวนคนอื่นทำบุญ”
    โดย หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง อุทัยธานี

    อานิสงส์การให้ทาน ที่สมเด็จพระพิชิตมารทรงตรัสว่า สมัยพระพุทธกัสสปท่านเทศน์อย่างนี้ ท่านบอกว่า

    บุคคลผู้ใดให้ทานด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนคนอื่น ตายจากชาตินี้ไปแล้วไปเกิดใหม่จะมีทรัพย์สมบัติมาก จะเป็นคนร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี แต่ว่าขาดเพื่อน ขาดคนเป็นที่รัก มันก็โดดเดี่ยวแย่เหมือนกัน

    บุคคลผู้ใดดีแต่ชักชวนบุคคลอื่น แต่ว่าตนเองไม่ให้ทาน ท่านบอกว่าตายจากชาตินี้ไปแล้วไปเกิดชาติใหม่ มีพรรคพวกมาก แต่ยากจน

    บุคคลใดให้ทานด้วยตนเองด้วยแล้วก็ชักชวนบุคคลอื่นด้วย ตายจากชาตินี้ไปเกิดใหม่ เป็นคนรวยด้วย มีพวกมากด้วย

    บุคคลใดไม่ให้ทานด้วยตนเองด้วย แล้วไม่ชักชวนชาวบ้านด้วย จะไม่มีทรัพย์สมบัติเป็นคนยากจนเข็ญใจ เกิดเป็นคนยากจนไม่มีคนคบหาสมาคม ขอทานก็ยาก เป็นยาจก ขอทาน แล้วขอก็ไม่ค่อยจะได้ ไม่มีใครเขาอยากจะให้ มีแต่คนรังเกียจ

    การให้ทานน่ะมีความสำคัญอย่างนี้นะ จงอย่าคิดว่าเราต้องการเฉพาะนิพพาน เราไม่ให้ทาน เราเอาเฉพาะศีลภาวนาอันนี้ไม่ได้ ท้องไม่อิ่มนี่ มันภาวนาไม่ไหว มันจะตายเอา ดีไม่ดีมันเป็นโจร

    การให้ทานของบรรดาท่านพุทธบริษัทเราจะต้องให้ ถ้าบุญบารมีของเรายังไม่เต็มเพียงใดเราก็เอาละ เราก็จะต้องใช้ต้องกิน แต่ถ้าบุญบารมีเต็ม เราก็จะมีความอุดมสมบูรณ์

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อเป็นคนละเอียดลออมาก

    ” แหม…ชอบใจที่บอกว่าหลวงพ่อให้ไปนับกระดาษห่อทองคำเปลว ”

    โอ…เรื่องเปลือกทองนี่โหดร้ายมาก หลวงพ่อสั่งให้นับ เวลาปิดทอง โบสถ์ต้องใช้ทองเป็นหมื่นเป็นแสนเหมือนกันนี่ ปิดแล้วเอาเปลือกทองมา ทีละห้าหมื่นๆ เราก็ต้องมานับเปลือกทอง เวลาช่างมาส่งต้องนับต่อหน้าช่างด้วยนะ นับไปก็ึนึก เอ๋..หลวงพ่อให้นับทำไมนะ จะขายได้สักเท่าไรนะ ไอ้เปลือกทองนี่ให้นับอยู่เรื่อย มารู้ตอนหลังว่าท่านกันไม่ให้ช่างปิดทองลักทอง สมัยก่อนทองแผ่นละบาท แรงงานวันละ 20 บาท มันลักไปวันละ 10 แผ่น 10 วันก็ 100 แผ่นแล้ว ที่ให้นับมันจะได้โกงไปไม่ได้ มารู้ตอนหลัง

    มีอยู่ทีหัวใจจะวายตาย ไปยกเมฆท่าน คิดว่าตัวเราฉลาดมาก ยกเมฆหลวงพ่อ หลวงพ่อสั่งบอกว่าเวลาเขาเบิกกลอนไปกี่่ตัว แกทำบัญชีไว้นะ แล้วแกไปดูด้วยเขาใส่กลอนตามหน้าต่าง ถูกไหม ตะปูเบิกไปเ่ท่าไร จดไว้ ไอ้เราก็ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ถามบ้าง ไม่ถามบ้าง ขี้เกียจทำ ยกเมฆบ้าง วันหนึ่งก็ไปกราบตอนเช้าๆ

    หลวงพ่อถาม ” นันต์ แกทำบัญชีเบิกหรือเปล่า ”

    ทำครับ

    ” แกทำไว้เรียบร้อย ใช่ไหม ”

    ครับ ท่านมองลอดแว่นมาหาเลย

    ” เดี๊ยวข้าจะขอดูบัญชีแกสักหน่อย ”

    โอ้โฮ..หัีวใจจะวายให้ได้ เวลาท่านดุนี่ด่า 3 วัน 3 คืน ถ้าลงเทปด้วยละก็ไม่ต้องแล้ว ประจานกันทุกวัน เทปเปิดตอนเย็นนี่ เปิดเทปทีก็แปล๊บ

    (จากคอลัมภ์จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ กันยายน 2536)

    303530_459707637383459_1260124972_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    คำทำนายของพระพุทธโฆษาจารย์ ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าทั้ง ๑๐ รัชกาล

    ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงใหม่ ในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละรัชกาลดังนี้

    รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์
    รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม
    รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด
    รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม
    รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด
    รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร
    รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์
    รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ
    รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว
    รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล

    เมื่อพิจารณาถึงคำทำนายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละรัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่า คำทำนายนั้นถูกต้องเพียงใด

    รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ

    รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่

    รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้

    รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน

    รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้

    รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร

    ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก

    รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์

    รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต

    รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น

    สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย

    553807_459993054021584_2099994032_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ท้าวมหาราชช่วยหลวงพ่อ

    ความจริงท้าวมหาราชนี่ท่านช่วยหลวงพ่อตลอด ช่วยดูแลวัด ช่วยในงานก่อสร้างวัด แม้ร่างกายหลวงพ่อตั้งแต่ปี 30 หลวงพ่อป่วยมาก ท่านบอกว่าเหมือนกับต้นไม้ที่ตายแล้ว มีใบร่วงหมดแล้ว จะเดินไปไหน ท่านบอกว่าท้าวมหาราชช่วยประคองตลอด เดินเองจริงๆ เดินไม่ไหวหรอก พอท่านวางก็แทบจะหมดแรง ท่านช่วยหลวงพ่อมาตลอด แม้แต่ศพหลวงพ่อ ท่านก็ช่วยดูแลตลอด

    เวลาที่วัดทำบุญใหญ่ที่หลวงพ่อจะบวงสรวงใหญ่มีอยู่คราวหนึ่ง พอบวงสรวงท่าน ท่านท้าวมหาราชก็ถามหลวงพ่อ ท่านจะต้องการอะไรไหมครับ หลวงพ่อบอกไม่ต้องการอะไรหรอก ท่าวมหาราชถาม ท่านไม่ต้องการเงินเหรอ ต้องการทำบุญใหญ่ หลวงพ่อบอก ต้องการน่ะต้องการแต่ไม่ขอ ท่านขออะไรไหมครับ หลวงพ่อบอกขอให้อากาศครึ้มๆ ไม่ให้ร้อนเกินไป ไอ้เราก็นึก แหม….ตรงข้ามกับเราเลยนะ เรานี่จะขอเงินเลย หลวงพ่อบอกว่า ถ้าอากาศครึ้มใจคนจะดี ใจคนจะไม่เร่าร้อน เย็น เงินเขาก็จะให้เอง ตามกำลังศรัทธาของเขา

    มีเรื่องอะไรท่านจะบอกก่อนเสมอ อย่างมากรุงเทพฯ ท่านจะเช็คก่อน 7 วัน 7 วันต่อไปนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่บ้าง ที่นั่นบ้าง คนจะมายังไงๆ ท่านรู้หมด

    528009_460365337317689_53149885_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อเป็นคนสันโดษ

    หลวงพ่อท่านเป็นคนสันโดษ ไม่ทำอะไรฟุ่มเฟือย การกิน แม่ครัวทำอะไรมากๆ มักจะโดนดุ เวลาเขาทำพิธีบวงสรวง บวงสรวงเสร็จ แม่ครัวเขาจะหั่นหมูทำน้ำจิ้ม ท่านเห็นก็ว่า ” แม่ครัวมันจังไรจริงๆ มันต้องใส่ผักใส่หญ้าบ้างซิ นี่ให้กินแต่เนื้อ ผักไม่ใส่เลย ” ท่านไม่ให้กินดีมาก คนเราถ้ากินดีแล้วไปเจอกินไม่ดีมันกินยาก เป็นพระต้องกินได้ทุกอย่าง ไม่ใช่กินดีตลอด ชาวบ้านเขาให้ดีบ้างไม่ดีบ้าง มันต้องปรับตัวให้เข้าได้ทุกสภาวะ กลดก็อยู่ได้ อาหารไม่ดีก็อยู่ได้ ไปเลี้ยงดีเสียแล้วปรับลงยาก เป็นโทษแก่ต้วเหมือนกัน

    แต่อยู่กับหลวงพ่ออยู่ตั้งแต่จนมานะ หลวงพ่อจะไปไหนก็ลำบาก จะไปเทศน์ที่ 04 ตาคลี หลวงพี่ไปบิณฑบาตสายเรือ หลวงพ่อบอก ” นันต์ แกไปบอกโยมเอี๊ยงทีนะ ตอนเที่ยงแล้วให้มารับข้า จะไปเทศน์ที่ 04 ” ไปเทศน์ที่ 04 ก็ต้องเอาครูนนทาไปด้วย ครูนนทาเป็นคนรวยใช่ไหม ไอ้โจรก็จะมาจับเรียกค่าไถ่ สมัยก่อนไม่มีตำรวจมากอย่างนี้ มีแต่จ่าตระกูล จ่าตระกูลก็มาเย็น ก็ต้องให้ตามไปด้วย จะไปรถเมล์รถสองแถวหน้าวัด

    ตอนมาสายลม เจ้ากรมฯต้องไปรับไปส่ง คนก็ไม่มาก เรื่องก่อสร้างพอถึงปีทีก็จะจ่ายหนี้กันที ก่อนกฐินก็สร้างกันไปเรื่อย

    แต่หลวงพ่อท่านขยันนะ ลงกรรมฐานทุกวัน สอนกรรมฐานทุกวัน เวลาว่างท่านจะอัดเทป เวลาตีสี่ครึ่งท่านจะเดินจงกรม

    320157_460371770650379_1750300129_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...