ใช้หนี้กรรมพ่อ-แม่

เรื่องนี้เราไม่เขียนเล่าใน เวบไซด์ multiply ถ้าลองตามไปอ่านจะเจอหัวข้อเดียวกันนี้ แต่เนื้อหาไม่เหมือนกัน มันสะเทือนใจเรา ทำให้เราเขียนเล่าแค่วิธีใช้หนี้พ่อแม่ตามที่หลวงพ่อสอน แต่ไม่เล่าเรื่องของตัวเองเพราะ มันกระทบถึงพี่สาวของเรา แต่วันนี้คิดว่าจะเล่าให้หมด เพื่อประโยชน์ต่อผู้อ่าน ในวันนี้



ในช่วงที่ปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง ๓ ชม. ทุกวัน ส่วนใหญ่ก่อนเริ่มปฏิบัติเราจะอธิษฐานว่า “สติจ๋า ช่วยบอกเตือนสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ที่เราควรทำ กรรมที่ควรแก้ให้เบาบาง” เมื่อนั่งสมาธิได้ไม่นาน จิตก็ดิ่ง สติโผล่ออกมา คราวนี้มาแปลก เรารู้สึกว่า เรากลับไปยืนอยู่ในอดีตอีกครั้ง ตอนอายุ ๑๕ ปี เรียนม. ๓ อยู่เลย เรายืนที่หน้าประตูห้องนอนพ่อแม่ เงี่ยหูฟัง ได้ยินเสียงพ่อแม่ ร้องไห้ แม่สะอื้นไห้ อย่างที่เราไม่เคยได้ยินแม่ร้องไห้มาก่อนในชีวิต เรารู้สึกเศร้า หดหู่ ตอนนั้น เกิดเรื่องขึ้นที่บ้าน พี่สาวหนีออกจากบ้านไป พี่งัดลิ้นชักที่ห้องนอนพ่อแม่ ที่เก็บทองไว้ เราไม่รู้ว่างัดไปได้หรือเปล่า ไม่เคยกล้าถามพ่อแม่


เราพูดกับ สติ “นั่น ไม่ใช่กรรมที่อรทำนี่ ของพี่นี่นา ทำไมต้องให้อรเห็นกรรมอันนี้ด้วยล่ะ”


สติ ตอบกลับมา ด้วยเสียงเรียบ “เพราะอรควรจะพาพี่สาว เขา ใช้หนี้พ่อแม่ ซะ กรรมหนักนะ เป็นสิ่งที่ควรทำที่สุดในตอนนี้”


เราก็ทำตามที่หลวงพ่อสอน วิธีใช้หนี้พ่อแม่ เราชวน ๓ คนพี่น้องทำพร้อมกันเลย ซื้อแพธูปเทียน ดอกไม้ มาไหว้พ่อแม่ พร้อมด้วย เตรียมน้ำมาล้างเท้าให้พ่อและแม่ เราเรียกท่านทั้งสองคน มานั่งเก้าอี้ ยกแพธูปเทียนดอกไม้ มาไหว้ท่านพูดนำให้พี่กับน้องเราว่า “ตอนเด็กจนถึงตอนนี้กรรมใด ที่เถียงพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เสียใจ ต้องขอโทษพ่อแม่ด้วยนะ (พูดไป ร้องไห้ไป เป็นเผาเต่าเลยเรา ) แล้วล้างเท้าพ่อ แม่ ทั้งสองคนกล่าวนิ่งๆ ยิ้มๆ “จ้า พ่อ แม่ อโหสิกรรมให้” แล้ว สามคนพี่น้องก็ร้องไห้กันหมดเลย สบายใจที่สุดหลังจากขอขมาพ่อแม่ไปแล้ว


หลังจากนี้ เราสามารถทำพิธีขอขมาพ่อแม่ได้ทุกปี นะค่ะ เหมือนเค้าจะแอบแฝง วิธีขอขมาพ่อแม่ มาให้ช่วง สงกรานต์ที่มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่นะค่ะ ครอบครัวไหนเขินๆกัน ก็อาสัยช่วงสงกรานต์ ก็ได้ค่ะ


หมายเหตุ : โปรดใช้วิจารณญาน ในการอ่าน นะค่ะ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องความเชื่อ หนึ่งในนั้น คือ อย่าเชื่อเพราะฟังคนอื่นมาต้องเชื่อเมื่อได้พิสูจน์แล้วเห็นจริง
<!-- End main-->


***ขอบคุณเรื่องราวน่าประทับใจของน้องอร blonggang ค่ะ***

ตามไปอ่านเรื่องราวดีๆของน้องอรได้ในลิงค์ข้างล่างนี้เลยค่ะ

http://www.bloggang.com/viewblog.ph...date=26-11-2009&group=4&gblog=10]BlogGang.com : : Aorn_N -

 

อนุโมทนา สาธุด้วยครับ การขอขมาและบิดามารดาให้อโหสิกรรมนั้นมีค่าสูงที่สุดแต่สิ่งที่สำคัญกว่าอย่าได้กระทำซ้ำอีกต่างหาก มิใช่ขอขมาได้แล้วทำซ้ำๆทำเสร็จก็ขอขมาอีกยังงี้ไม่มีผลครับเมื่อสำนึกผิดในสิ่งที่ทำแล้วต้องแก้ไขไม่ทำซ้ำนั้นแหละถึงเรียกว่าคนดีชอบแก้ไขส่วนคน.......ชอบแก้ตัว5555555 สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ ตอนนี้ใครที่ยังมีพ่อแม่อยู่ควรรีบทำซะเพราะยังมีโอกาส สำหรับเราไม่มีแล้วทั้งสองคน ได้แต่นึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสมั่ง รู้ธรรมช้าไปเสียแล้ว

 

อนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ

น้องก็จัดพิมพ์หนังสือธรรมะ เรื่องวิธีใช้หนี้พ่อแม่เหมือนกันค่ะ
อ่านแล้วก็ซึ้ง กะว่าจะทำทุกวันเกิดของตัวเองค่ะ

 

ขอชื่นชมในความดีที่ผู้ตั้งกระทู้ได้กระทำ พลอยทำให้ผมชุ่มชื่นในหัวใจไปด้วย สาธุครับ อนุโมทนามิ

 

อนุโมทนาค่ะ ได้ข้อคิด และความรู้สึกที่ดี แล้วถ้าพ่อ แม่ สิ้นไปแล้วจะทำอย่างไรจึงจะดีที่สุดคะ

 

อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ เราก็ทำทุกปีล้างเท้าให้พ่อแม่แล้วยกเท้าท่านวางบนศรีษะบอกท่านว่าหนูรักพ่อรักแม่ แต่สงกรานต์ปีหน้า เราคงทำให้พ่อได้เพียงคนเดียวเพราะแม่เพิ่งเสียปีนี้