ไหว้พระเยซู โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ไหว้พระเยซู
​

ลูกศิษย์ : หลวงพ่อคะ ถ้าหากว่าบ้านเราอยู่ใกล้โบสถ์คริสต์ จำเป็นต้องเดินผ่าน เราจะไหว้พระเยซูได้ไหมเจ้าคะ....?<O</O
หลวงพ่อ : ไหว้ได้ เราไหว้แล้วต้องว่าดูรับไหว้ไหม ถ้ายกมือรับไหว้เราก็ไหว้เรื่อยไป ถ้าไม่ยกมือรับไหว้เราก็ไม่ไหว้ต่อไป(หัวเราะ) จะเป็นไรไปไม่เห็นจะเสียหาย การคารวะท่านไม่ได้ห้าม ไหว้พ่อไหว้แม่ ไหว้ปู่ย่าตายาย เขาไม่ได้ห้าม อย่างพระเยซูเขาก็มีความดี ถ้าพระเยซูไม่ดีจริงๆ ก็ไม่มีใครเคารพนับถือ
<O</O
หลวงพ่อ : ถ้าจะถามว่าเรานับถือศาสนาพุทธเราจะไหว้ได้ไหม ก็บอกมือมันไม่เลือกศาสนา ความจริงถ้าเราไหว้เขานะต่อไปเราไม่อดขนม คนนั้นเห็นไหว้แม่พระเรา เลี้ยงขนมเลย เป็นมหาเสน่ห์ อย่างที่เราไปอินเดีย เห็นแขกมาไหว้พระพุทธรูปเราก็ดีใจ แต่ถ้าแขกไหว้พระพุทธรูปเราก็ต้องสังเกต ว่าเขาเป็นชาวพุทธแท้หรือเปล่า เขาอาจจะไม่ใช่ชาวพุทธแท้ เพราะศาสนาของเขา เขาไม่สามารถทำลายพระพุทธศาสนาได้ นักปราชญ์ของเขาจึงเขียนเป็นประวัติขึ้นมา ว่าพระพุทธเจ้าเป็นปางหนึ่งของพระนารายณ์ก็ได้ ใช่ไหม แต่เมื่อเราเห็นเขาไหว้เราก็ดีใจว่าเขาไหว้พระของเรา
<O</O
ทีนี้ถ้าเราอยู่ในเขตคริสต์ เราไหว้พระคริสต์เขาก็ดีใจ อย่างน้อยที่สุดเราก็ไม่อดน้ำประปา อันนี้ความจริงไม่ใช่ของแปลกนะ ทำเพื่อเป็นการรักษากำลังใจกัน แล้วเราก็ปลอดภัย ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ใครเขาว่าเสียก็เป็นเรื่องของเขา ฉันว่าไม่เสีย เรานับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็เป็นเรืองของเรา เราอยู่ในเขตของเขา เราไหว้พระของเขา อย่างน้อยก็เป็นเสน่ห์ ก็เป็นความดีอย่างหนึ่ง จะเคร่งครัดเกินไปก็อาจจะเกินพอดีก็ได้ ต้องดูความเหมาะสม
<O</O
ถ้าถามว่าพระพุทธเจ้าห้ามไหม พระพุทธเจ้าไม่เคยห้ามใคร เรื่องการคารวะซึ่งกันและกัน แสดงความเคารพมันเป็นความดี พระพุทธเจ้าไม่เคยห้าม ยิ่งสอน สอนให้รู้จักทำอย่างนั้น เพื่อความเป็นอยู่เป็นสุข ถ้าเราอยู่ในเขตของเขา เขาก็ชอบใจ ในเมื่อคนชอบมจมาก เราก็มีความสุขมาก คนชอบใจน้อยเราก็มีความสุขน้อย การทำให้คนชอบใจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนศาสนา
<O</O
ลูกศิษย์ : หลวงพ่อคะ แล้วถ้าลูกถามว่าพระเยซูเป็นใคร เราจะตอบว่าอย่างไรเจ้าคะ...?
หลวงพ่อ : พระเยซูเป็นพระเจ้าของพวกคริส แต่พระเจ้าจริงๆก็ไม่ใช่พระเยซู พระเยซูท่านก็ถือว่าเป็นศาสดา ศาสดาแปลว่าครู เป็นครูสอนในศาสนานั้น ถ้าถามว่าพระเจ้าเป็นใคร พวกคริสต์พวกแขกก็ตอบไม่ได้อีก เพราะไม่เคยเห็นพระเจ้า เป็นอันว่าพระเยซูจะว่าท่านไม่ดีไม่ได้ เขาต้องถือขันติ ความอดทนระงับความโกรธ ความไม่พอใจ ตอนที่พระเยซูถูกฆ่า ถูกทำร้าย กางแขนกางขา ในเมื่อเขาถูกทรมานอย่างนั้น ตายแล้วไปสวรรค์ได้ถือว่าเก่งมาก ไม่ใข่เก่งน้อยนะ การถูกทรมานอย่างนั้นปกติจิตต้องวุ่นวาย มีความกลุ้ม ท่านสามารถระงับได้ แต่ความจริงยังไงต้องพูดตามนั้นนะ
<O</O
ถ้าจะถามว่าพระเยซูอยู่ที่ไหน มีครั้งหนึ่งไปพบที่ดาวดึงส์ เพราะว่าไปคุยกับพวกเก่า เพื่อนเก่า เป็นบาทหลวง คุยกันก็ไม่ได้เถียงกัน ปรารภกันว่า พระเยซูอยู่ที่ไหน พอตกกลางคืนกลับมาที่พัก ก็สองยามกว่า ก่อนจะนอนก็ทำกรรมฐานก่อนเพื่อความสบายใจ พอเริ่มจับอานาปาฯ ดึงลมเข้าไม่ทันดึงลมออก จิตมันก็หลุดไปโน่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไม่แวะที่ไหน เดินอยู่ในบริเวณนั้นก็เห็นบาทหลวงท่านหนึ่งเดินสวนทางมา แต่งตัวเป็นบาทหลวง พอเข้ามาใกล้ก็บอก นี่หยุดก่อนซิ เขาก็หยุด ถามว่าคุณเป็นใคร เขาก็ถามว่า เมื่อตอนกลางวันท่านพูดถึงใคร ความจริงเรื่องของผีมันง่ายต่อการพบกัน เป็นของไม่ยาก ก็บอกว่าพูดถึงพระเยซู เขาก็บอกว่าคุณปรารภใครคนไหนผมก็คือคนนั้น ก็เลยถามว่า คุณอยู่สวรรค์หรือ เขาบอกว่าใช่ ก็เลยบอกว่าคุณสอนผิด แล้วคุณมาสวรรค์ได้อย่างไร เขาถามว่าสอนผิดตรงไหน บอกว่าการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แล้วคุณสอนให้ล้างบาปได้ นี่คุณน่าจะลงโลกันต์ เขาบอกว่า ผมไม่ได้สอนแบบนั้น คนอื่นเขาแปลงต่างหาก ผมสอนว่าถ้าใครทำบาปทำชั่วให้มาสารภาพบาป แบบพระแสดงอาบัติ แล้วก็ตั้งใจไม่ทำต่อไป นี่คนอื่นมาดัดแปลงคำสอนผม ผมไม่บาป เออ...จริงของเขา <O></O>
พอคุยไปได้หน่อยก็ถามว่า ทำไมแต่งตัวแบบนี้ เทวดาทำไมแต่งตัวรุ่มร่ามแบบนี้ เขาก็บอกว่า ท่านเห็นบาทหลวงแบบนี้ผมก็มาแบบนี้ ก็เลยถามว่ารูปจริงๆเป็นอย่างไร เขาก็เลยเปลี่ยนรูปเป็นเทวดาทันที จึงได้ทราบว่าพระเยซูไม่ได้ลงนรก ความเข้มแข็งของจิตมีอยู่ขณะที่ถูกทรมานใช่ไหม ถือว่าเขาเลวไม่ได้ ดีต้องว่าดี ดีมันก็มีหลายชั้น ดีแค่เกิดมาเป็นมนุษย์ ดีแค่เกิดมาเป็นเทวดาบนสวรรค์ ดีแค่เกิดเป็นพรหม หรือดีถึงนิพพาน ดีมีหลายขั้นตอน
<O</O
อย่างศาสนาพราหมณ์ก็ดีไม่เท่ากัน พราหมณ์บางพวกก็เละ แต่พราหมณ์บางพวกเขาก็สอนถึงรูปพรหมก็มี บางพวกสอนถึงอรูปพรหมก็มี ถ้าตายแล้วเขาไปอยู่ที่นั่นจริงๆ ฉะนั้นขึ้นชื่อว่าพราหมณ์จะมีความดีเสมอกันไม่ได้ สุดแล้วแต่คณะ<O></O>
ทีนี้ความรู้ขั้นต้นของพระศาสนาก็เหมือนกับพราหมณ์ คือใช้ลีลาเดียวกัน แต่ใช้กำลังใจต่างกัน ที่เราบอกพระพุทธเจ้าว่าถึงนิพพานแล้ว พราหมณ์เขาตั้งสมาธิไม่ต่างกัน แต่อารมณ์บางอย่างต่างกันเท่านั้นเอง เขาเกาะพรหมเป็นที่สุด เราเกาะนิพพานเป็นที่สุด ไม่เหมือนกัน.<O</O

 

ผมไม่ได้สอนแบบนั้น คนอื่นเขาแปลงต่างหาก ผมสอนว่าถ้าใครทำบาปทำชั่วให้มาสารภาพบาป แบบพระแสดงอาบัติ แล้วก็ตั้งใจไม่ทำต่อไป นี่คนอื่นมาดัดแปลงคำสอนผม ผมไม่บาป เออ...จริงของเขา >>

 

สาธุโมทนาครับพี่

ขอเครดิตได้ไหมครับผมจะขออนุญาติเผยแผ่ต่อน่ะครับ

 

เรื่องมันเป็นมายังไงครับ พอจะเล่าให้ฟังเป็นธรรมทานได้ไหมครับ

 

ไม่มีปัญหาครับ ช่วยกันเผยแผ่ธรรมนั้นย่อมดีอยู่แล้วครับ

 

ใครไหว้พระเยซู ก็เป็นเทวตานุสติ ได้ขึ้นสวรรค์ชัวร์ งั้นผมก็ไหว้พระเยซูได้อะดิ
ผมไม่เคยไหว้เลยนะ
ท่านอยู่ชั้นดาวดึงส์

 

สาธุ สาธุ สาธุ ครับ