๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๓ ๙๗ ปี หลวงตามหาบัว ข้อเตือนใจสำหรับชาวพุทธ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Lokudtradham, 9 สิงหาคม 2010.

  1. Lokudtradham

    Lokudtradham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +339
    [​IMG]





    ให้พากันตั้งใจใส่ศีลใส่ธรรมนะ ศีลธรรมพึ่งเป็นพึ่งตายได้จริงๆ สิ่งทั้งหลายกองเท่าภูเขาก็ตามเถอะ บทเวลาจะเอาจริงเอาจังจะประมวลเข้ามาหาใจหมด มีอะไรๆเข้าสู่ใจหมด มีบาปมีบุญจะเข้าที่นั่นหมด ให้ระวังบาปให้มาก บาปเป็นภัยต่อตัวของเรา อย่าไปทำลายตัวเองโดยการทำบาปทำกรรมต่างๆ ไม่เหมาะ ให้พยายามระมัดระวังรักษา นตฺถิอตฺตสมํเปมํ ความรักอื่นเสมอด้วยการรักตนไม่มี นั่นเขียนไว้แล้ว รักตนละมากกว่าเพื่อน ขึ้นต้นตนเสียก่อน
    <O:p</O:p
    ให้พยายามรักษาตนด้วยการสร้างความดี สร้างความดีพอแล้วมันรู้ในใจนะ เวลาสร้างมันพอพอในหัวใจแล้ว ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกัน ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วพอ เป็นอย่างนั้น รวมการสร้างความดีความงามทั้งหลายนี้มันจะเป็นกิ่งก้านดอกใบสาขาประดับต้นลำของมัน ต้นลำก็คือหัวใจ จำให้ดี เวลาเราบำรุงต้นลำดีแล้วกิ่งก้านสาขาดอกใบก็จะสดสวยงดงามไปตามๆ กัน เรามีแต่หวังว่าจะเอาๆ เหตุไม่ดูไม่ได้นะ ต้นเหตุนั้นละ เหตุดีเหตุชั่วอยู่กับนั้น ถ้าทำเหตุไม่ดีแล้วความชั่วก็ติดตามมา ถ้าทำเหตุดีแล้วความดีก็ติดตามมาเหมือนกัน

    ให้พากันระมัดระวัง นี่ก็จวนแล้วนะ มันก็ได้ ๙๖ ปีแล้วนี่ ไม่นานละอายุ ๙๖ แต่จะเป็นอะไรก็ตามเถอะเราพูดให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายฟังให้ชัดเจนเสียว่า เราไม่มีวิตกวิจารณ์กับการเกิดการตายของเรา ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหนไม่มี จะก้าวหน้าก็ไม่มี จะถอยหลังก็ไม่มี คงเส้นคงวาหนาแน่น ภายในใจกับธรรมเป็นอันเดียวกัน เป็นธรรมธาตุอยู่ในหัวใจพอ นี่ละเราสร้างมากๆ แล้วก็กลั่นกรองกันไปๆ ก็กลายเป็นธรรมธาตุภายในใจดวงเดียว นั่นละพอ พออยู่ที่นั่น
    <O:p</O:p

    จึงไม่วิตกวิจารณ์เรื่องการเป็นการตาย เมื่อมันพอแล้วมันพอหมด ความพอมันอยู่ในใจดวงเดียวนะ สิ่งเหล่านี้ไม่พอ ยังบกพร่องขาดเขินอยู่ตลอดมา ไม่มีเวลาสม่ำเสมอ ส่วนใจนั้นเราอบรมให้ดีแล้วเสมออยู่ตลอดเวลาเลย จะเป็นจะตายอะไรก็ไม่ได้วิตกวิจารณ์เมื่อมันพอในใจแล้ว ไปรวมอยู่ที่ใจนะ ทุกข์ทั้งมวล สุขทั้งมวลมาอยู่ที่ใจหมด จะสร้างอะไรก็ตามๆ ใจเป็นคลังใหญ่สำหรับรับดีและชั่ว
    <O:p</O:p

    ให้พากันระมัดระวัง ความชั่วอย่าทำ การทำความชั่วมากน้อยเท่ากับการทำลายตนเองมากน้อยเหมือนกัน ทำความดีมากน้อยเป็นการส่งเสริมตนเองให้ดีขึ้นโดยลำดับลำดา ไม่เช่นนั้นตายทิ้งเปล่าๆ นะ เราเกิดมานี้กี่วันกี่ปีกี่เดือนเราได้สร้างความดีมากน้อยเพียงไร แล้วสร้างความชั่วมากน้อยเพียงไรเอามาวัดมาตวงกันนะ วัยเหล่านี้เป็นวัยที่ควรคิดแล้วนะ อายุ ๔๐ ปีขึ้นไปแล้วเริ่มคิดละคนเรา ถ้าไม่ได้คิดตอนนี้แล้วก็หมดโอกาส ให้คิดเสียตอนนี้ อายุตั้งแต่ ๔๐ ปีขึ้นไปแล้วมักจะคิดเรื่อยๆ ละ คิดเรื่อยเข้าไป
    <O:p</O:p

    วัยนี้เราได้เทียบดูในร่างกายของเราเอง อายุ ๒๓ ปีนี้กำลังเต็มที่เลย พออายุ ๔๕-๔๖ ลดลง รู้สึกว่าค่อยลดลง จากนั้นก็ลดลงเรื่อยๆ มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ที่มันก้าวหน้ามันเสมอก็คือตั้งแต่อายุ ๒๓ ปี แล้วเสมอก้าวหน้า กำลังวังชาก้าวหน้าเสมอไปเรื่อย พออายุ ๔๕-๔๖ ปีแล้วจะค่อยเริ่มลด ลดลงๆ อย่างทุกวันนี้ลดมากทีเดียว เดินไปไหนโซซัดโซเซ คอยแต่จะหกล้มก้มกราบไปเรื่อยๆ มันอ่อนกำลัง
    <O:p</O:p

    ทีนี้มาดูจิตใจเป็นอย่างไร จิตใจไม่อ่อน นั่นเป็นอย่างนั้นนะ สิ่งที่ทำความอบอุ่นให้เราก็คือความดีงามที่เราสร้างแล้วรวมเข้าไปอยู่ที่ใจหมด ทีนี้ใจไม่เอนไม่เอียง ร่างกายสังขารนี้มันจะเอนจะเอียงพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงไปไหน วันหนึ่งเป็นอย่างหนึ่งๆ ก็ช่าง แต่จิตใจของเราให้ดีเถอะ ถ้าดีแล้วเสมอ ไม่มีทางสงสัยเจ้าของละ
    <O:p</O:p

    คนกำลังตื่นโลกตื่นสงสารเป็นบ้ากันทั่วโลกดินแดนพากันรู้ไหม อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี ได้อะไรมานี้เท่ากับเสริมเชื้อไฟนั่นละ ได้นั้นมาได้นี้มาอย่าเข้าใจว่าคนนั้นจะมีความสุขนะ ไม่มี ได้พิจารณาเรียบร้อยหมดแล้ว ได้อันนั้นมายิ่งคืบยิ่งคลานยิ่งดีดยิ่งดิ้นเข้าไป ที่จะให้มีความสุขความสบายเพราะโลกพาได้พามีนี้ไม่มี ได้เท่าไรยิ่งดิ้นยิ่งดีด มีเท่าไรยิ่งเป็นบ้าเข้าไป ไม่รู้วันรู้คืน ไม่รู้จักวันตาย บทเวลาจะตายจริงๆ แล้วก็มานับข้อมือ นับอะไรล่ะคุณพ่อ อยู่เฉยๆ ก็ไม่อยู่ นับข้อมือเท่านั้นเท่านี้ มีตัวอย่างนะ แต่เราไม่ระบุชื่อ นับอะไรข้อมือ โอ๋ นี่พ่อจะตายแล้วเงินจำนวนที่เขาติดหนี้เรา คนนั้นเท่านั้นๆ รวมเป็นเงินเท่านั้นไม่มีหวังได้แหละ ที่เขาติดหนี้นี้ก็ตายทิ้งเปล่าๆ นั่นแหละ นั่นเห็นไหมล่ะ เป็นอย่างนั้นละ
    <O:p</O:p

    เพราะฉะนั้นมีอะไรให้ชำระให้หมดในใจของเรา สร้างแต่ความดีให้พอ อย่าไปตื่นบ้าตามโลกตามสงสารเขานะ เวลานี้โลกกำลังกิเลสหนาๆ ตลอดเลย หนามากเข้าโดยลำดับลำดา ไม่ได้บางลงนะ ได้อะไรมาเท่ากับเสริมไฟ ได้อะไรมาเสริมไฟให้ดีดเรื่อยๆ เลยจะเป็นบ้าเพราะความได้มา ความเสียไปก็เอาอีกแหละก็เป็นบ้าอีกแบบหนึ่ง ความได้มาก็เป็นบ้าอีกแบบหนึ่ง บ้าไม่เลิกคือบ้าของกิเลสตัณหาอยู่ภายในหัวใจของสัตว์โลกนั่นแหละ คำว่าพอไม่มี ถ้ากิเลสพาได้พาเสียไม่มีคำว่าพอ ได้เท่าไรก็ไม่พอ เสียไปเท่าไรก็ไม่พอ ให้ใจดีดดิ้นเป็นบ้าอีก
    <O:p</O:p

    ธรรมในใจบำเพ็ญเข้าไป บำเพ็ญเข้าไปให้พอพอ ไม่มีอะไรที่จะหามาเพิ่มเติมอีกแล้ว ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันเรียกว่าเป็นธรรมธาตุ นี่ละที่จิตพอ พอหมดด้วยอำนาจแห่งการสร้างความดีมารวมอยู่ในคำว่าจิตกับธรรมเป็นอันเดียวกัน พอหมดเลย ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัตินะ อย่าสักแต่ว่าไปว่ามาเฉยๆ เพ่นๆ พ่านๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร พากันจำให้ดี
    <O:p

    นี้พูดจริงๆ หมดละ การก้าวเดินของเรา การก้าวเดินเพื่อเกิดก็หมด การถอยหลังเพื่อความเดือดร้อนในสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็หมด ที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่ออะไรอีกหมด นี่ละการสร้างความดีให้เห็นเสีย มันจวนจะตายแล้วพูดให้ฟัง เราหมดทุกอย่างแล้ว ในสามแดนโลกธาตุปล่อยหมดโดยสิ้นเชิงไม่มีอะไรเหลือเลย เหลือแต่ขันธ์ ขันธ์นี่ก็ไม่ยึดมัน มันเป็นอะไรก็ดูตามสภาพของมันไป มันทนไม่ได้แล้วก็แตก โลกนี้เป็นโลกที่แตกดับทั้งนั้นละ รู้รอบมันเสียก็สบายๆ
    <O:p</O:p

    เรียนให้จบนะเรียนธรรม เรียนธรรมจบได้ เรียนโลกไม่มีทางจบ ได้เท่าไรยิ่งคืบยิ่งคลานยิ่งบืนกันไป ทางธรรมได้มากเข้าไปๆ พอๆ สุดท้ายพอ ธรรมภายในใจพอ นี่ละธรรมมีคำว่าพอ ถ้าโลกไม่มีคำว่าพอ ได้เท่าไรยิ่งเสริมไฟดีดดิ้นให้เจ้าของเป็นบ้าไปทั้งที่มีรายได้นั่นละ ถ้าไม่ตื่นแล้วก็สบายดีๆ เรื่อยไป นี่พูดให้ชัดเจนเสียเราจวนจะตายแล้วเรานี้หมด ให้ชัดเจนเสียเลยว่าหมดป่าช้า ล้างป่าช้าในชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา ประจักษ์ในหัวใจจ้าไม่ต้องไปถามใคร
    <O:p</O:p

    อย่างพระพุทธเจ้าตรัสรู้มาแต่ละพระองค์ๆ ท่านไม่ถามใคร พระอรหันต์ตรัสรู้ธรรมแต่ละองค์ๆ ไม่ถามใคร แม้ที่สุดพระพุทธเจ้าเป็นครูของสาวกสาวกก็ไม่ไปถามพระพุทธเจ้าเพราะเสมอกันหมด สิ่งที่เสมอกันมีอยู่ เมื่อสร้างเข้าไปๆ ถึงขั้นเสมอกันแล้วไม่มีใครถามใคร เหมือนกันหมด นี่ละความดีเป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้ามีกี่พระองค์ท่านดูองค์ของท่านเท่านั้นพอ พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอย่างไรดูอันเดียวพอ อย่างนั้นละ นี่เรียกว่าพอในตัวเองไม่ต้องถามใครให้พากันจดจำเอา
    <O:p</O:p

    นี่ก็จวนจะตายแล้วแหละ อายุก็ ๙๖ แล้ว ไม่ใช่น้อยๆ อายุถึง ๙๖ บำเพ็ญธรรมตั้งแต่บวชมานี้ได้ ๗๐ ปีเหรอ (๗๕ ปี) ตั้งแต่บวชมาสร้างแต่ความดีนะ ความชั่วไม่ทำ สร้างแต่ความดีๆ อบอุ่นไปทางความดี ตอนที่ฟัดกับกิเลสจะให้ม้วนเสื่อนี้ยิ่งหนักนะ ม้วนเสื่อคือให้ถึงนิพพาน ให้สิ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงในชาตินี้ นี่ละหนักมาก ที่ทำธรรมดาๆ มันก็ธรรมดา ที่ทำที่เอาให้จริงจังมากๆ เอาให้ถึงจุดหมายนี้หนักมากอยู่นะ คือความพ้นทุกข์ความพ้นทุกข์นี้หนักมาก ความพากความเพียรทุกด้านทุกทางจะทำเบาๆ ไม่ได้ ต้องทำให้หนักมือๆ เวลาได้ขึ้นมาก็สมใจ นั่นละถ้าสมใจแล้วพอ ทุกอย่างพอ มาพออยู่ที่สมใจ การที่จะให้สมใจก็คือว่าเอาให้หนักแน่น ไม่อ่อนแอท้อแท้แล้วก็สมใจ เอาเท่านั้นละวันนี้


    รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่<O:p</O:p



    www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th<O:p</O:p


    และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz<O:p</O:p


    พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
    <O:p</O:p

    ดาวน์โหลดเสียงธรรมhttp://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=5312&CatID=2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2010
  2. wir00

    wir00 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +31
    ธรรมใดที่หลวงตาบรรลุแล้ว ขอธรรมนั้นจงเป็นแสงสว่างนำทางให้แก่ศิษยานุศิษย์ทุกๆท่านได้บรรลุธรรมนั้นเช่นเดียวกับหลวงตาด้วยเถิด สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...