เรื่องเด่น “มจร”ติวเข็มพระวิทยากรยุค4.0แนะเน้นกิจกรรมมากกว่าสอน

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 26 ธันวาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    99006_th.jpg

    “มจร”ติวเข็มพระวิทยากรยุค4.0แนะเน้นกิจกรรมมากกว่าสอน


    ระหว่างวันที่ 24-27 ธ.ค.2560 มีการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรการพัฒนาผู้อำนวยการเรียนรู้วิถีพุทธ (Learning Facilitator) ตามโครงการพัฒนาสมรรถนะพระสอนศีลธรรมระดับเชี่ยวชาญ ซึ่งจัดโดยสำนักงานพระสอนศีลธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ และโรงเรียนรุ่งอรุณ เป็นการเรียนรู้ที่มุ่งจัดการเรียนรู้มากกว่าการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย “ครูยุคใหม่ไม่เน้นการสอน แต่เน้นจัดการเรียนรู้” ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการเข้าอบรมในครั้งนี้

    โดยวันที่ 26 ธ.ค.นี้ พระศรีธรรมภาณี ดร. ผู้อำนวยการสำนักงานครูพระสอนศีลธรรม มจร ได้ร่วมแบ่งปัน “การร่วมเรียนรู้กับเด็ก” ความว่า เราจะต้องเรียนรู้กับเด็กจากสภาพจริง เด็กเขามีการเรียนรู้อย่างเร็วในยุคปัจจุบัน ครูต้องต้องปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน

    จากนั้นพระมหานพดล ธัมมานันโท นักวิชาการการศึกษา สำนักงานครูพระสอนศีลธรรม มจร ได้ชวนแบ่งปันประเด็น “จุดพลิกของเราในการสอน” คืออะไร ซึ่งพระปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร วิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี ได้ระบุว่า จุดของธรรมะโอดี คือ “พลิกเพราะครู พลิกเพราะสถานการณ์ และพลิกเพราะองค์ความรู้ใหม่” การมีครูเป็นแรงบันดาลใจจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการสอนให้มีส่วนร่วมในการเกิดการเรียนรู้ ผู้สอนต้อง “ลงจากบัลลังก์” มาร่วมเรียนรู้กับผู้เรียน ให้เขาเปลี่ยนชีวิตด้วยตัวเขาเอง อย่าเน้นบังคับให้เปลี่ยนแปลง

    เรียนรู้ด้านการอภิวัฒน์การสอนพระพุทธศาสนาของครูพระสอนศีลธรรม เปลี่ยนวิธีการจากสอนหนังสือเป็นสอนคนให้เป็น ในฐานะครูพระสอนศีลธรรมระดับเชี่ยวชาญ ต้องยึดคำกล่าวว่า ” จิตวิญญาณความเป็นพระสูงกว่าจิตวิญญาณของความเป็นครู ” เมื่อจิตวิญญาณของความเป็นพระไม่มี จะทำให้จิตวิญญาณความเป็นครูหายไป อย่ามีแต่จิตวิญญาณความเป็นครู เราต้องฝึกถอดบทเรียนบ่อยๆ เราจะเห็นความบกพร่องของตนเอง และจุดเด่นของตนเองมากขึ้น สถานที่ถอดบทเรียนต้องสัปปายะผ่อนคลาย เราต้องฝึกข้อความที่ส่งผลให่เกิดการพัฒนา

    ทำไมเราต้องอภิวัฒน์การสอนของพระสอนศีลธรรม เป็นการแลกเปลี่ยนเป็นการสอนแบบ Active learning ซึ่งการสอนจากบุคคลภายนอกมอง คือ ” ธรรมะสะอาด ฉลาดประยุกต์ สนุกมีสาระ ตลกคาเฟ่ ” พระสอนศีลธรรมเชี่ยวชาญจึงควรใช้ “ฉลาดประยุกต์ สนุกมีสาระ” เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางพัฒนาไปถึงคุณค่าแท้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน ทุกวันนี้ท่านจัดการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาอย่างไร? เน้นสาระวิชาเป็นตัวตั้ง และเน้นผู้เรียนเป็นตัวตั้ง เราต้องไม่เป็น ” เผด็จการในการสอน ” สั่งให้เด็กทำนั่นนี่ ใช้อำนาจให้ห้องเรียน คำถามเราจะสอนพระพุทธศาสนาอย่างไรให้มีความสุข เราต้องออกแบบการสอนให้ผู้เรียนมีความสุข นโยบายการสอน ” เราอย่าทอดทิ้งเด็กไว้ข้างหลัง ” ถ้าเราเน้นผู้เรียนเป็นตัวตั้ง เราต้องเป็นนักจินตนาการออกแบบการสอนสร้างความคิดสร้างสรรค์

    ครูยุคใหม่ไม่เน้นการสอนแต่เน้นจัดการเรียนรู้ ต้นแบบของนักสอน Active learning คือ พระพุทธเจ้าสอนผ่านประสบการณ์ตรง เช่น กรณีนางกีสาโคตมีถือว่าเป็นการสอนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง ครูยุคใหม่ต้องมี Mindset หรือ วิธีคิด ด้วยการไม่เน้นสอนแต่เน้นจัดการเรียนรู้ทักษะและความรู้ที่จำเป็นActive learning ทำไมพระพุทธเจ้าไม่ใช้เทคนิคการสอนแบบบรรยายเพราะนางกีสาโคตมียังมีความทุกข์ พระพุทธเจ้าจึงออกแบบการสอนด้วยการเป็นโค้ชนางกีสาโคตมี ถามว่าเวลาเราไปสอนเราจึงต้องออกแบบ กระบวนการโครงงานคุณธรรมถือว่าเป็น Active learning เน้นลงมือการปฏิบัติ บทบาทของพระพุทธเจ้าในการสอนนางกีสาโคตมี พระพุทธเจ้ามีบทบาท 20% ส่วนนางกีสาโคตมีเรียนรู้ 810% ผู้สอนต้อง ” พูดให้น้อย เรียนรู้ให้มาก ” พระพุทธเจ้าสอนไตรลักษณ์นางกีสาโคตมี จึงมีการบูรณาการเป็นหลักปฏิบัติ 5 ประการ คือ ” ปฏิเสธความจริง ประวิงเวลา โทษเทวดาฟ้าดิน ถวิลหาร่ำไห้ ทำใจยอมรับ ”

    “ดังนั้น ทำอย่างไรให้เด็กไทยหัวใจพุทธ เราจะต้องสอน 1) ให้ความรู้ คือ สุตมยปัญญา 2) ให้ความเข้าใจพัฒนาควมมคิด คือ จินตามยปัญญา 3)ให้ถึงคุณค่าแก่นแท้ คือ ภาวนามยปัญญญา ด้วยการลงมือปฏิบัติ ถือว่าเป็น Active learning หรือ AL จึงต้องออกแบบการสอนให้เด็กไทยหัวใจพุทธ ผู้สอนจะต้องมีการออกแบบการสอนแบบลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นเจ้าของการเรียนรู้” วิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี ระบุ

    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.banmuang.co.th/news/education/99006
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ธันวาคม 2017
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    ถ้าจะให้ดี สอนให้เด็กเคารพสิทธิของผู้อื่น
    เวลาเด็กมาขอให้ไปรังแกคนอื่นก็อย่าไปตามใจเด็ก
    สอนให้เขาเป็นคนหนักแน่น มีเหตุผล ไม่หูเบา ไม่เอาอารมณ์เป็นใหญ่
    และควรสอนให้เด็กรู้จักสร้างพรรคพวกเอาไว้มาก ๆ
    เพราะโลกของเรา นิยมระบบพวกมากลากไป มีพวกมากเอาไว้ก่อนเป็นดี
    และต้องสอนให้เด็กมีศีล 5 ควบกรรมบท 10 เข้าไปด้วย
    และสอนด้วยว่า เวลาเด็กเจอกับความอยุติธรรม โดนกลั่นแกล้ง เด็กควรที่จะทำยังไง


    นอกจากนี้ ควรสอนให้เด็กฝึกสมาธิ ฝึกอภิญญาไปด้วย เน้นตรงนี้ให้มาก
    เด็กจะได้เรียนเก่ง และมีวิชาเอาไว้ป้องกันตัวได้
    เพราะประเทศไทยทุกวันนี้ ถูกคนชอบใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงมาก
    ใช้อำนาจเงิน กำลังคน สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นมาก
    ดังนั้น เด็ก ๆ ทุกวันนี้ ควรที่จะมีอภิญญา มีสมาธิเอาไว้ป้องกันตัว
    และยังจะช่วยให้ประเทศชาติพัฒนาได้มากขึ้นอีกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...