觀自在 มองอย่างอิสระ มองอย่างเบาสบาย

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ศักดิ์, 20 พฤษภาคม 2009.

  1. ศักดิ์

    ศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,187
    ค่าพลัง:
    +2,022
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=lbl_highlight>觀自在 มองอย่างอิสระ มองอย่างเบาสบาย</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-TOP: 10px" align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=lbl_normal> 觀自在 มองอย่างอิสระ มองอย่างเบาสบาย
    โดย ศิโรฒน์ รัตนาภรณ์ siroat_07@hotmail.com
    10 พฤษภาคม 2552

    เมื่อเรามีโอกาสได้สวดมนต์บท ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (般若波羅蜜多心經) หรือหฤทัยสูตร (心經) เราพบพระนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เป็นเบื้องแรก ว่า กวน จือ ไจ้ ผู่ ซ่า (觀自在菩薩) ซึ่งแปลว่า พระโพธิสัตว์ผู้มองอย่างอิสระ พระนามนี้แปลโดยพระสมณะเสวี๋ยนจ้าง (玄奘) หรือที่เรารู้จักในนามพระถังซำจั้ง

    พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ถือเป็นพระโพธิสัตว์ฝ่ายกรุณาองค์สำคัญทางพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน พระองค์มีแววพระเนตรที่มองดูเหล่าสัตว์ผู้ทุกข์ทรมานด้วยกิเลสอย่างคนที่คิดแต่จะให้ พระองค์จะทรงช่วยเหลือเขาเหล่านั้นให้พ้นจากวังวนแห่งความทุกข์ ในพระคัมภีร์ชื่อ สัทธรรมปุณฑริกสูตร สมันตมุขปริวรรต (妙法蓮華經觀世音菩薩普門品) กล่าวถึงการโปรดสัตว์อย่างเป็นอิสระของพระองค์อย่างน่าสนใจ ว่าพระองค์สามารถนิรมานกายได้ถึง 33 พระรูปกายในการโปรดเวไนยสัตว์ผู้มีพื้นฐานทางจิตใจแตกต่างกัน และเมื่อสรรพสัตว์มีทุกข์ภัยที่ไหนพระองค์ก็สามารถปรกโปรดช่วยเหลือเขาเหล่านั้นให้พ้นจากทุกข์ภัยนานา

    การที่พระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งจะมีความสามารถในการโปรดสัตว์อย่างเป็นอิสระแบบไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีประมาณได้นั้น ต้องถือว่าพระโพธิสัตว์พระองค์นั้นมีฐานในการสร้างบารมีมาอย่างดี เพราะการมองสรรพสัตว์อย่าสมภาค เท่าเทียมกันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พระองค์มองสัตว์โลกอย่างถึงแก่น คือ เห็นว่าทุกคนไม่มีอะไรต่างกัน ทุกคนมีพุทธจิต มีธรรมญาณ ด้วยกันทั้งสิ้น ทุกคนมีศักยภาพในการเข้าถึงธรรมได้ทั้งนั้น การมองของพระองค์จึงไม่แบ่งแยกว่า คนนี้ชั่ว คนนี้ดี คนนี้ผู้หญิง คนนี้ผู้ชาย คนนี้ถูกใจ คนนี้ไม่ถูกใจ พระองค์จะมองด้วยสายตาที่อิสระ สายตาที่มีความเบาสบาย

    คนในยุคปัจจุบันมักมองอะไรแล้วไม่ กวน จื้อ ไจ้ มองไม่อิสระอย่างท่าน เรามักมองว่าคนนี้สีนี้ ไม่ใช่สีเดียวกับเรา ตายไปซะก็ดี คนนี้ไม่เห็นด้วยกับเรา เจอที่ไหนก็ฆ่าได้ทันที เรามักมองกันแบบมีกรอบ ไม่อิสระ ไม่มองถึงจิต ไม่มองถึงธรรมชาติว่าคนทุกคนก็ไม่มีอะไรต่างกัน ทุกคนต่างประกอบด้วยธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ด้วยกันทั้งนั้น ถ้าขาดธาตุใดธาตุหนึ่ง ก็เป็นดั่งท่อนไม้ เป็นชีวิตที่ตายแล้ว

    เรามัวแบ่งแยก ด้วยความโกรธ ความกลัว และความหลง ซึ่งพระโพธิสัตว์ท่านเหนือไปจากเราตรงสภาวะใจที่เหนือสมติบัญญัติ ทวิบัญญัติ พระองค์จึงมองดูพวกเราอย่างลึกซึ้งถึงเนื้อใจ เนื้อพุทธจิต ธรรมญาณ ที่อยู่ในตัวของเรา ที่ท่านฉุดช่วยเราเพราะท่านเห็นว่าเราก็มีธาตุรู้ มีพุทธะในตัว การฉุดช่วยเราก็เหมือนการปลุกพุทธจิตในตัวของเราให้ตื่น เพื่อการสร้างคุณงามความดี สร้างบุญบารมี

    การสร้างบุญบารมี ถือเป็นการไม่ประมาทในชีวิต เพราะชีวิตนั้นแสนสั้น เราเกิดมาล้วนเดินเข้าสู่ความตายอยู่ทุกขณะ การหลงยินดีกับเสื้อสี กับความขัดแย้ง การแบ่งแยก แล้วทุ่มชีวิตและจิตใจเพื่อเป้าประสงค์ที่เป็นมิจฉากิริยา นับเป็นผู้ถูกกระแสแห่งมารเหนี่ยวรั้ง ถูกความมืดมิดบังจิตใจแห่งพุทธะ พระพุทธองค์ทรงตรัสเตือนเราไว้อย่างน่าฟังว่า “ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย” ถ้าเรายังหลงยินดีกับมุมมอง 2 ด้าน แล้วจมอยู่กับมันก็นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

    พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จึงเป็นพระโพธิสัตว์ที่เราควรให้ความสำคัญในภาวะปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะ จริยาของท่านที่เหนือการมองแบบแบ่งแยก สู่การมองอย่างลึกซึ้ง มองอย่างอิสรเสรี มองอย่างเบาสบาย เราจะเห็นถึงความเหมือนในความต่างทางรูปลักษณ์ภายนอก แล้วเราจะไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่พยาบาทอาฆาตใคร เราจะมองเขาอย่างกรุณา ความกรุณานี้แหละเป็นทางออกของความขัดแย้งในปัจจุบัน การมองอย่างอิสรเสรีนี้แหละจะทำให้ความเหลื่อมล้ำทางสังคมลดน้อยลงไป

    ขอให้ท่านลองนำพระนามและคุณลักษณะของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ไปพิจารณา ถ้าหากเราสวดมนต์บทปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร อยู่ทุกเช้าค่ำ ก็ขอให้เราพิจารณาบทสวดมนต์บทนี้อย่างลึกซึ้ง ด้วยปัญญาอันเห็นชอบ แล้วเราจะเห็นว่า คนทุกคนบนโลกล้วนเท่าเทียมกัน คนทุกคนบนโลกไม่มีใครควรค่าแก่การเกลียดชัง ชีวิตของคนทุกคนบนโลก ควรแห่งการรักษา ไม่ควรเข่นฆ่ากัน และคนทุกคนบนโลกล้วนแต่เป็นเพื่อนพี่น้องกันอย่างถึงที่สุด
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ศักดิ์

    ศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,187
    ค่าพลัง:
    +2,022
    ออมีทอฝอ....ขออนุโมทนากับน้องพีช(เจ้าของบทความ) ที่ได้เขียนงานดีๆเพื่อพระศาสนาฯ ท้ายนี้ขอพุทธบารมีแห่งพระผู้มีประภาสเจ้าทั่วทั้งทศทิศได้โปรดอภิบาลเทอญ....
     
  3. ศักดิ์

    ศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,187
    ค่าพลัง:
    +2,022
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    [​IMG]<O:p</O:p
    อนุโมทนาครับ (พระโพธิสัตต์ในภาพผมปักเองใช้เวลาเกือบ3เดือน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2009
  4. janepat2549

    janepat2549 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,963
    ค่าพลัง:
    +1,284
    [​IMG]

    หน่านม๋อกวานจื่อไจ้ผู่ซ่า...พระผู้ทรงพิจารณาอย่างอิสระ พระโพธิสัตว์พระองค์นี้ คือพระเมตตา พระกรุณาอันหาที่สุดมิได้ ในปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร คือพระโอวาทขององค์อวโลกิเตศวร โดยมูลเหตุแห่งพระสูตรนี้คือท่านพระสารีบุตร ได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า "ความว่างคืออะไร?" พระพุทธองค์ทรงประทานวโรกาศให้พระอวโลกิเตศวรที่บรรยายธรรมเรื่อง "ความว่าง"แก่พระสารีบุตร เหตุใดพระพุทธองค์ถึงได้ให้พระอวโลกิเตศวรทรงบรรยายธรรมเรื่องนี้? ก็เพราะพระองค์ท่านทรถึงแล้วซึ่งความเป็นอนัตตา ทรงถึงแล้วซึ่งปารมิตา ก็เป็นมูลเหตุแห่งพระสูตรนี้ ในปารมิตาหัวใจสูตรนี้ ได้กล่าวด้วยเรื่อง "อนัตตา" ทุกอย่างคืออนัตตา หรือสูญตา หรือความว่าง ไม่ว่าจะเป็น รูป รส กลิ่น เสียง วิชา อวิชา เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ...สรรพสิ่งทั้งปวงล้วนเป็นอนัตตา...พระพุทธเจ้าทั้งปวงก็ถึงซึ่งอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณได้ก็เพราะปัญญาปารมิตา ดังนั้นจงทราบได้ว่า ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร เป็นมหาสูตร มหามนต์ที่ยอดเยี่ยมของพระอวโลกิเตศวรพระผู้มองดูโดยอิสระ พระผู้ทรงพระเมตตาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ...ขออนุโมทนากับพี่พีชที่ประพันธ์บทความดีๆกับญาติธรรมและขออนุโมทนากับพี่ศักดิ์ที่นำหัวข้อธรรมนี้เผยแผ่สู่ญาติธรรมนะครับ^^...นโมอามิตาพุทธ...นโมโพธิสัตว์กวานอิน

    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=19558[/MUSIC]
     
  5. ศรัทธาในพระองค์

    ศรัทธาในพระองค์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +40
    อนุโมทนาค่ะ

    อยู่เพื่อทำความดีนี้เพื่อแม่ อยู่เพื่อแผ่อายุพระพุทธศาสนา
    อยู่เพื่อสร้างบารมีที่ทำมา อยู่เพื่อพาสรรพสัตว์ขัดจิตใจ

    ขอบุญบารมี จงมีแด่ผู้เมตตาด้วยเถิด
     
  6. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,824
    ค่าพลัง:
    +6,434
  7. ศักดิ์

    ศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,187
    ค่าพลัง:
    +2,022
    อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...