(A) การให้อภัย จัดเป็นการให้ชั้นสูง .. แม้คนทำบุญทำทานมามาก ก็ใช่ว่าจะทำได้

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย VisionPower, 16 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    การให้อภัย จัดเป็นการให้ชั้นสูง .. แม้คนทำบุญทำทานมามากก็ใช่ว่าจะทำได้

    การให้อภัยที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่การลืม
    ที่ฝรั่งจะมีคำคล้ายๆ กันคือ Forgive (ยกโทษให้) และ Forget (ลืม)

    แม้ว่าบางคนอาจจะ ให้อภัย ด้วยวิธีการลืม ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายๆ
    แต่จริงๆ แล้ว การให้อภัยที่แท้จริง คือ ต้องให้อภัยได้ โดยที่ไม่ได้ลืม

    การให้อภัย จัดเป็นการให้ชั้นสูง (เฉพาะในแง่ของการกระทำเท่านั้น ยังไม่รวมอานิสงส์)
    ที่ชั้นสูงเพราะว่า แม้คนทำทานมามากต่อมาก ก็ใช่ว่าจะให้อภัยได้
    เชื่อหรือไม่ ว่ามันเป็นเช่นนั้น?

    เพราะอะไรรู้ไหม ?

    ก็เพราะการให้ที่ผ่านมาของเรา ส่วนมาก เราสละวัตถุ กัน
    คำว่าเคยทำทานมามากต่อมาก มันมากที่วัตถุ ที่เราสละออกไป
    แต่ใจเรานี้สิ ตอนสละวัตถุ แม้ใจเราก็สละเต็มที่จริงๆ นั้นล่ะ
    แต่เรายังมักหวังผลในบุญในกุศล ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย ถูกเสียด้วย

    แต่มันมีอยู่จุดหนึ่งที่คนไม่ได้คิดกัน ที่เป็นเหตุให้ไม่สามารถก้าวข้าม
    ไปยังการให้อภัยได้

    เพราะอาการของการให้อภัยนั้น ใจต้องสละทิ้งทั้งหมดได้
    หรือ ยกให้ได้ทั้งหมด ตรงที่ในใจ

    ดังนั้น ถ้าคุณจะฝึกให้อภัย จะต้องทำบุญทำทานสละวัตถุแล้ว ยังต้องสละบุญด้วย
    เพราะใจยังไปยึดเอาบุญอยู่ไม่ได้ทิ้ง. การสละบุญ ถ้าพระอรหันต์ท่านจะใช้คำว่า ไม่เอาทั้งบุญ ทั้งบาป. คำว่าไม่เอาบุญ นั้นไม่ใช่ทิ้งไปเปล่าๆ หรือ ไม่ต้องทำความดีอีกแล้ว แต่หมายถึงการยังคงทำความดีอยู่แล้วให้อุทิศบุญให้กับสรรพสัตว์ในโลกวิญญาณทั้งหมดนั้นเอง

    ที่กล่าวว่า ต้องฝึกสละบุญนั้น ไม่ใช่ว่า จะให้สละมันทุกบุญก็ไม่ใช่ ไม่ได้หมายความเช่นนั้น
    ที่เคยทำทานมามากแบบไหน ก็ให้ทำไปเช่นเดิม

    แต่ที่จะต้องเพิ่มเติมบ้าง ก็คือ การทำบุญบางครั้งบางคราว เมื่อทำบุญแล้ว
    ก็ให้อุทิศให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยที่ไม่ได้หวังว่าเราจะได้บุญนั้นด้วยเลย
    วิธีเริ่มง่ายๆ คือ การสวดมนต์ ใช่.สวดมนต์นี้ล่ะแล้วอุทิศให้สรรพสัตว์ทั้งหมด
    หรือจะใส่บาตรก็ได้ จะเอาสัปดาห์ละครั้งก็ได้ แล้วอุทิศให้สรรพสัตว์ทั้งหมด

    ลองดูครับ.. พอได้ลองทำแบบนี้แล้ว แล้วมาลองสังเกตุใจตัวเองดู
    ในขณะที่ให้อภัย


    ส่วนอานิสงส์การให้อภัยนั้นก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ไม่เช่นนั้นมันจะทำยากเหรอ
    การจองเวรนี้ มันไม่ได้จบแค่ชาติเดียวนะ บุญต่อให้มีมากเท่าไหร่
    ก็จะถูก การจองเวร เอาไปถลุงหมดได้นะ ที่ทำบุญมาก็จะกลายเป็น.... สูญเปล่า !!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2017
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ต้องแบ่งบุญกันบ้างจะได้สุขทั่วๆ หน้า ไม่งั้นพวกมีกะตังก็ได้บุญอยู่ฝ่ายเดียวสิ
    คนจนก็ดิ้นรนต่อไป ทำมั่งไม่ทำมั่ง ท้อ หาเงินมาเลี้ยงตัวเองยัังไม่ค่อยจะไหวเลย
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    การสละ แล้ว กระทำไว้ในใจ ว่าจะไม่ทวง ....นั่นคือ การฝึกการลืม

    ยิ่งสละ ยิ่งเสียสติ ยิ่งขาดสัมปชัญญะ

    การสละ แล้ว พิจารณาว่า เขาจะได้ประโยชน์ ไม่วันนี้ ก็วันหน้า
    หากวันนี้ไม่เห็นแล้วยังขอด่า คนให้ ก็เป็นเรื่องที่เขาจะเป็นไปได้

    แม้นเป็นอย่างนั้น ให้แล้วกลายเป็นโทษ ก็รับรู้ว่า เกิดกันได้

    การสละ แบบเล็งเห็นผลไปตาม แต่จะเป็นไป แบบนี้ จะขาดจริง

    และไม่ใช่ ฝึกเพื่อทำใจลืม ไม่ทวง ไม่เอา ...

    แต่เป็นการ ฝึกสละ ที่ตามเห็น " สภาพธรรมของผู้ติดข้อง " ในวัฏฏะ
    สละแบบนี้ นิพพานได้ทันที
     
  4. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    รูปประโยคอ่านยากจัง .. ค่อยๆ เขียนก็ได้ครับ ..
    ผมเองยังเกลาสำนวนตั้งหลายรอบ

     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ในหลุมดำใครจะใช้ภาษาไม่สวยก็ไม่มีใครว่าอะไร
    เพราะเครดิตคนหลุมดำมัน
    น้อยอยู่แล้วฮะ
    แต่ถ้าต้องการแจ้งเกิดในหลุมดำล่ะก้อ
    ภาษาต้องเจ๊งกว่าหลุมห้องอื่นๆ 10 เท่า
    ไม่งั้นเกิดยากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...