up date ข่าวภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย อนันตรา, 5 กรกฎาคม 2007.

  1. อนันตรา

    อนันตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +325
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • เกิดพายุหมุนเกิดความเสียหายหลายพื้นที่ในจ.จันทบุรี และตราด[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 2007-07-04 | 11:19 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เมื่อคืนได้เกิดลมกระโชกและฝนตกหนักในอำเภอท่าใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัด จันทบุรี วัดปริมาณได้ 150-200 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังเล็กน้อย บริเวณที่ลุ่ม
    นายสมพล คุ้มม่วงดี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ กำลังติดตามการเคลื่อนตัวของลมมรสุมที่พัดเข้าอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอมะขามและกิ่งอำเภอคิชฌกูฏ ต้องระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ เนื่องจากมีพื้นที่ใกล้ภูเขา
    ...(เสียงนายสมพล คุ้มม่วงดี หน.สถานีอุตุนิยมวิทยาจ.จันทบุรี)
    อิทธิพลของลมมรสุม ยังทำให้เกิดพายุหมุนพัดบ้านปากคลองน้ำเชี่ยว หมู่ 3 ตำบล หนองโสน อำเภอเมือง จังหวัดตราด ได้รับความเสียหายหลายหลังรถยนต์ และรถปิคอัพ ที่จอดในโรงรถถูกโครงสร้างหลังคาทับ และยังมีสวนผลไม้หักโค่น เป็นพื้นที่กว้าง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ฝูงแมลงปีกแข็งนับล้านตัวบุกบ้านชาวบ้าน จ.ชลบุรี[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 2007-07-04 | 08:20 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ครอบครัวของนายสมพงษ์ จันทรา อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 103 / 3 หมู่ 3 ซอยเขาเพ็ชร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ต้องออกไปกางเต้นท์นอนนอกบ้าน หลังถูกแมลงปีกแข็ง นับล้านตัว ขึ้นไปอาศัยทำรัง และกัดกินเนื้อไม้บนบ้าน มานานหนึ่งสัปดาห์แล้ว ถึงแม้เจ้าหน้าที่อบต.สัตหีบ จะเข้าไปฉีดพ่นยา แต่ก็ไม่ทำให้แมงปีกแข็งตายลงได้
    นายสมพงษ์ เล่าว่า แมลงปีกแข็งเริ่มไต่มากขึ้น ทำให้ต้องอพยพสมาชิกในครอบครัว ไปอาศัยกับเพื่อนบ้าน และนอนกางเต้นท์ เพราะนอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นแล้ว ยังมีผื่นขึ้นตามผิวหนังด้วย
    ...(เสียง สมพงษ์ จันทรา,เจ้าของบ้าน)
    ส่วนในพื้นที่ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง บ้านเรือนราษฏร ในละแวก เดียวกัน กว่า 20 หลัง ถูกฝูงตะเข็บ ลักษณะลำตัวคล้ายตะขาบ แต่มีขนาดเล็กสีดำ ปีนเข้าไปอาศัยตามตู้กับข้าว โอ่งน้ำ และ ฝาบ้าน หลายพันตัว โดยเฉพาะบ้านที่มี เด็กอ่อน ต้องคอยระวังไม่ให้ไต่เข้าหูเด็ก ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างมาก ขณะที่กำนันตำบลป่างิ้ว ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปกำจัดแล้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. อนันตรา

    อนันตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +325
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">
    • พายุฝนกระหน่ำพัทยากลายเป็นเมืองบาดาลในพริบตา[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 2007-07-05 | 23:25 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"> <table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ศูนย์ข่าวศรีราชา-พายุฝนกระหน่ำเมืองพัทยาน้ำท่วมครึ่งเมืองรถติดเป็นอัมพาต ขณะที่เกิดเหตุดินทรุดกำแพงห้างดังถล่ม ส่วนชายหาดนักท่องเที่ยวแตกตื่น หลังพายุพัดกระหน่ำต้นไม้ใหญ่หักโค่นตลอดแนว
    เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ปรากฏว่า มีลม พายุ และฝนฟ้าคะนองตกมาอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้ถนนทุกสาย โดยเฉพาะบนถนนสุขุมวิท ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกจากเมืองพัทยา รวมถึง ถนนสายหลักในเมือง มีปริมาณน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมากระดับความสูงกว่า 30 ซม. ส่งผลให้ยานยนต์ที่สัญจรไปมาติดขัดเป็นทางยาว โดยไม่มีทีท่าว่าฝนจะเบาบางลงแต่อย่างใด
    นอกจากนี้ด้วยปริมาณน้ำท่วมขังที่มีจำนวนมาก ทำให้ผนังกำแพงปูนของโครงการ ก่อสร้างห้างสรรพสินค้าภายในซอย 9 พัทยากลาง ระดับความสูงกว่า 2 เมตร เป็นแนวยาวกว่า 150 เมตร ถูกน้ำกัดเซาะใต้ฐานทำให้พังถล่มลงมา ทับรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย
    ส่วนตามแนวพื้นที่ชายหาดพัทยาไปจนถึงจอมเทียน ปรากฏว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ ประเภท ก้ามปู ต้นไม้ ถูกพายุพัดหักโค่นลงมาขวางตามแนวชายหาดและถนน จนทำให้การสัญจรไปมาติดขัด รวมไปถึงระบบไฟฟ้าหลักของเมืองพัทยา ซึ่งพบว่าเกิดปัญหาขัดข้องกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจนดับไปกว่า 30 % ของพื้นที่ โดยกรณีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาได้ร่วมกับกลุ่มอาสาสมัคร และหน่วยกู้ภัย เตรียมระดมพลกว่า 100 นาย เพื่อลงพื้นที่คลี่คลายสภาพปัญหา โดยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในเวลา 20.00 น.ที่ผ่านมา
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="3">
    • ภูเก็ตพบซากโลมาเกยหาดกมลา คาดตายมากว่า 5 วัน [​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 2007-07-05 | 18:16:27 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"> <table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ภูเก็ตพบซากโลมาเกยหาดกมลา คาดตายมากว่า 5 วัน ส่วนสาเหตุการตาย ยังไม่ทราบชัดเจน โดยจะเก็บเนื้อเยื้อและกระดูกไว้เพื่อศึกษาต่อไป
    น.ส.กาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมง 8 ว. หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ขุดนำซากโลมาที่ชาวบ้านไปฝังกลบไว้ บริเวณชายหาด กมลา หลังจากคลื่นซัดซากขึ้นมาบนหาด โดยสภาพเน่าเปื่อยและส่วนหางขาดหายไป คาดว่า ตายมาแล้วกว่า 5 วัน ซึ่งอาจเป็นโลมาพันธุ์กระโดด หรือโลมาลายแถบ เพศเมีย ความยาวประมาณ 2 เมตร ส่วนสาเหตุการตายยังไม่ทราบชัดเจน โดยจะเก็บเนื้อเยื้อ และกระดูกไว้เพื่อศึกษาต่อไป สำหรับโลมาตัวแรกที่ช่วยเหลือ มาจากหาดกะตะ-กะรน ล่าสุดอาการยังน่าเป็นห่วง เจ้าหน้าที่ต้องให้ยา และดูแล อย่างใกล้ชิด ซึ่งยาที่ให้นั้น เป็นยาเฉพาะที่สัตวแพทย์คิดขึ้นมา และเคยใช้ได้ผลกับ สัตว์ทะเล อย่างไรก็ตาม ถือว่า ยังสัญญาณบ่งชี้ที่ดีที่โลมาเริ่มกินอาหาร และส่งเสียงร้องได้ แม้จะไม่สามารถทรงตัวว่ายน้ำ
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td colspan="3">
    • อบต.แม่สลองใน อพยพบ้านชาวเขาหนีรอยแยกแผ่นดิน[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 2007-07-05 | 16:42 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"> <table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> เชียงราย -นายก อบต.แม่สลองใน พร้อม จนท. กรมทรัพยากรธรณี จ.เชียงราย เข้าตรวจสอบความปลอดภัยที่หมู่บ้านห้วยหยวกป่าโซ หลังพบรอยแยกพื้นดิน ปรากฏตัวอยู่ที่สนามเด็กเล่น ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน จึงได้กันชาวเขาใกล้เคียง จุดเกิดรอยแยกแผ่นดิน ออกไปสร้างที่พักอาศัย ที่มีการกันไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการยุบ หรือทรุดตัวพร้อมเฝ้าระวังใกล้ชิด
    นางรุจิรา ใจจักร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เปิดเผยว่าวันนี้ (5ก.ค.) ได้นำคณะช่างสำรวจของ อบต. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ กรมทรัพยากรธรณี เข้าตรวจสอบความปลอดภัยที่หมู่บ้านห้วยหยวกป่าโซ หมู่ที่ 9 ต.แม่สลองใน พื้นที่โครงการพระราชดำริ
    หลังตรวจสอบพบรอยแยกพื้นดินปรากฏตัวอยู่ที่สนามเด็กเล่น ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน มีขนาดความลึก 3 เมตร และแตกเป็นรอยยาวกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่ กรมทรัพยากรธรณี ได้เข้าตรวจสอบสภาพพื้นดินบริเวณดังกล่าว พบว่า เป็นชั้นดิน ผสมหินทราย มีลักษณะสีขาว ไม่แข็งแรงทาง อบต. จึงได้กันประชาชนชาวไทยภูเขา เผ่าอาข่า ที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดรอยแยกแผ่นดินจำนวน 7 หลังคาเรือน ออกไปสร้างที่พักอาศัยใหม่ในที่ดินชุมชน ที่มีการกันไว้ก่อนหน้านี้
    ทั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการยุบ หรือทรุดตัวของแผ่นดินบริเวณดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะมีการขยายตัวออกไปอีก จึงได้สั่งเฝ้าระวังและดูสภาพอากาศ ประกอบด้วยหากมีปริมาณฝนตกลงมาในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดพื้นดิน บริเวณดังกล่าว อุ้มน้ำไว้มาก และอาจทรุดตัวและขยายรอยแยกออกไป จนอาจทำให้ แนวที่ตั้งบ้านเรือนชาวเขา ได้รับผลกระทบได้จึงต้องเฝ้าตรวจสอบอย่างใกล้ชิด แม้จะมีการอพยพชาวบ้านออกไปแล้ว 7 หลังก็ตาม
    นางรุจิรา กล่าวว่า จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าหมู่บ้านห้วยหยวกป่าโซ เป็นหมู่บ้าน ชาวไทยภูเขาอีกแห่งบนยอดดอยชายแดนไทย-พม่า ของตำบลแม่สลองใน ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ น้ำป่าไหลหลากและดินภูเขาถล่ม จนมีแม่ลูก เสียชีวิตพร้อมกัน 2 ศพ ซึ่งภัยธรรมชาติ ทั้งสองเกิดขึ้นเป็นประจำยากแก่ การคาดการณ์ล่วงหน้า ส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงเรื่อง การเกิดรอยแยก บนแผ่นดิน ขึ้นมาอีก โดยปัจจัยทั้งหมดนี้ อบต.จึงนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะว่าเป็นภัยธรรมชาติใกล้ตัว ที่หากไม่ตรวจสอบและเฝ้าระวัง จะมีผลเสียหายต่อทรัพย์สิน และชีวิตประชาชนบนดอยได้ในวงกว้าง
    นายก อบต.แม่สลองใน กล่าวอีกว่าในระยะนี้ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง มีความ เสี่ยงสูงที่บนดอย ต.แม่สลองใน จะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ระลอกใหม่ ได้แจ้งเตือนประชาชนผู้นำหมู่บ้าน ตรวจสอบหาความเปลี่ยนแปลง ในหมู่บ้านตลอดเวลา หากพบความผิดปกติทุกอย่าง ให้รีบแจ้งมาที่ อบต. หรือส่งสัญญาณเตือนภัยจากเครื่องไซเรนที่ อบต. ได้นำไปติดตั้งไว้กว่า 20 จุด ในตำบล จะได้เข้าไปอพยพ หรือช่วยเหลือในทุกกรณี ที่เกิดเหตุภัยธรรมชาติ ขึ้นมาได้อย่างทันท่วงที
    ทางด้าน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เชียงราย กล่าวว่า กรณีรอยแยกที่เกิดขึ้นบนดอย ต.แม่สลองใน เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติ ของชั้นดินบริเวณดังกล่าวมากกว่า จะเกิดขึ้นโดยรอยเลื่อนใต้พิภพจากเหตุ แผ่นดินไหว เนื่องจากพื้นที่ ต.แม่สลองในไม่มีแนวรอยเลื่อนพาดผ่าน แต่มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูง มีเหตุภัยธรรมชาติน้ำป่าไหลหลากบ่อย อาจเป็นไปได้ว่า จะเกิดจากปริมาณน้ำฝนสั่งสมใต้พื้นดินจนเกิดรอยแยกขึ้นมา
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td></tr></tbody></table>
     
  3. อนันตรา

    อนันตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +325
    น้ำท่วม 2 อำเภอในจังหวัดสุราษฏร์ธานี น่าเป็นห่วง หลายหมู่บ้านยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายน

    น้ำท่วม 2 อำเภอในจังหวัดสุราษฏร์ธานี น่าเป็นห่วง หลายหมู่บ้านยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    โดย สำนักข่าวไทย [ 2007-07-10 | 09:26:40 น. ]

    หลังจากเมื่อคืนผ่านมา น้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน กิ่งอำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไหลทลักเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มสองฝั่งแม่น้ำคลองยัน สูง 2 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ 3 หมู่บ้าน ตำบลตะกุกใต้ กิ่งอำเภอวิภาวดี ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยง ไปอยู่ที่ปลอดภัย ถนนสายหลักเชื่อมระหว่างกิ่งอำเภอวิภาวดีกับอำเภอคีรีรัฐนิคม และเส้นทางระหว่างหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และเริ่มขาดแคลนน้ำดื่ม แต่ยังไม่มีรายงานผู้รับบาดเจ็บ สูญหาย หรือเสียชีวิต ขณะที่ทางอำเภอ ยังคงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน และเผ้าระวังพื้นที่ เสี่ยงภัยดิน-โคลนถล่ม บ้านคลองควาย/คลองไส/คลองมุ๋ย ตำบลตะกุกเหนือ อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อว่าหากฝนไม่ตกลงมาอีก สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติบ่ายวันนี้

    ส่วนที่อำเภอคีรีรัฐนิคม บ้านเรือน พื้นที่ 4 หมู่บ้าน ตำบลน้ำหัก ถูกน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่อพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
     
  4. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    เยี่ยมเลยครับ คุณ anantra
     
  5. อนันตรา

    อนันตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +325
    ผวาบุ้งขนนับล้าน-บุกวัดกัดกินไม้ เกรง "พระ-เณร" เกิดอันตราย

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ผวาบุ้งขนนับล้าน-บุกวัดกัดกินไม้ เกรง "พระ-เณร" เกิดอันตราย[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ข่าวสด วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6068</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เมื่อเร็วๆ นี้ นายประวัติ ถีถะแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับการร้องเรียน จากพระภิกษุ-สามเณรที่วัดเหนือ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ว่าได้เกิดตัวหนอนขน จำนวนมาก กัดกินใบไม้ และต้นไม้จนบางต้นไม่มีใบเหลืออยู่เลย ทำให้พระภิกษุ-สามเณร เกรงว่าจะเกิดอันตราย นายประวัติจึงได้สั่งการให้ทีมงานสำนักงานเกษตร จังหวัดร้อยเอ็ด นำโดยนายวสันต์ สวัสดิรัมย์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร พร้อมด้วยนายธำรงค์ จำเริญสาร นายปราโมทย์ กาญจนรัตน์ นักวิชาการส่งเสริม การเกษตร 7ว. นายวิชัย กิตติศรีวรพันธ์ นายวินัย ลือชา นักวิชาการส่งเสริม การเกษตร 6ว. และเจ้าหน้าที่เกษตรอีก 3 นาย ลงไปตรวจสอบในพื้นที่ พบว่า มีหนอนขนจำนวนนับล้านตัวกำลังกัดกินใบไม้และต้นไม้ในวัด จนหมดทั้งต้นไป หลายต้นแล้ว และกำลังระบาดไปทั้งวัด เมื่อหน่วยป้องกันกำจัดสำนักงานเกษตร จังหวัดร้อยเอ็ดไปถึง ได้ช่วยกันฉีดพ่นยาเชื้อแบคทีเรียที่เก็บจากตัวหนอน ไปสกัดเป็นสารกำจัดตัวหนอน ฉีดพ่นไปตามต้นไม้ทั่วทั้งวัด ท่ามกลางพระภิกษุ-สามเณร และประชาชนชาวคุ้มวัดที่แห่มาดูจำนวนมาก นายปราโมทย์ กาญจนรัตน์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 7ว. กล่าวว่า ตัวหนอนขน ที่บุกวัดในครั้งนี้ คือ หนอนผีเสื้อกลางคืนหรือที่ชาวบ้านภาคอีสานเรียกว่า บุ้งขน หรือ บ้งขน เมื่อเติบโตเต็มที่จะกลายเป็นผีเสื้อ ออกไข่คราวละมากๆ เป็นแมลงศัตรูพืช กัดกินใบและลำต้นไปเรื่อยๆ สามารถระบาดไปได้โดยตัวแก่จะบินไปเล่นไฟ ไปเกาะกลุ่มกันวางไข่ไปเรื่อยๆ หากมีมากก็จะทำความเสียหายให้กับต้นไม้มากมาย เหมือนกับที่เกิดขึ้นในวัดนี้ และอาจเป็นอันตรายแก่คนได้หากขนถูกผิวหนัง ซึ่งนับว่าเป็นการระบาดอย่างรุนแรงที่ไม่เคยพบเห็นในจังหวัดร้อยเอ็ดมาก่อน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. อนันตรา

    อนันตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +325
    ใต้เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

    <TABLE height=45 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=522 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom width=500 height=24>7จว.ใต้เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก <!-- End Show Head --></TD><TD width=10> </TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD bgColor=#d7d4d2>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width=10> </TD><TD height=20>โดยทีมข่าว INN News <!-- Show Date -->11 กรกฎาคม 2550 07:24:48 น. [​IMG] <!-- End Show Date --></TD><TD width=10> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=522 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=522 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD width=502>
    [​IMG]
    </TD><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=522 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=20> </TD><TD width=462 bgColor=#dae4ea><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=460 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=522 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD width=500 bgColor=#d3d4d4>[​IMG]</TD><TD align=left width=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=522 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD width=1 bgColor=#d3d4d4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width=140>


    <!-- Show Image -->[​IMG] <!-- End Show Image -->
    คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

    </TD><TD width=1 bgColor=#d3d4d4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width=2>
    </TD><TD vAlign=top width=368>
    <!-- Show Detail -->กรมอุตุฯ เตือน จังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย

    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่และลมแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี นครพนม และสกลนคร อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    กรองสถานการณ์ภัยพิบัติ

    วันนี้เวลา 21.30น. อย่าลืมติดตามชมรายการ "กรองสถานการณ์" (สด) ทางโทรทัศน์ช่อง 11 คะ วันนี้เขาจะพูดเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติคะ

    http://tv.siamha.com/popuptv.php?station=station11
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2007
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** ข่าวสารเหล่านี้ ****

    จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
    ตั้งใจรวบรวม...แล้วเราจะประเมิน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้อย่างใกล้เคียง

    เพราะ...ทุกสรรพสิ่งทุกอย่าง....เชื่อมโยงกัยหมด
    ไม่เว้น...แม้แต่ ใจคน สำคัญที่สุด
    เพราะ คือ ต้นเหตุภัยพิบัติทั้งมวล

    - " หยนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    กรองสถานการณ์การรับมือภัยพิบัติ

    <a href="mms://mms.prd.go.th/archivetv11/krong.wmv" target="show" onMouseOver="MM_displayStatusMsg('Media Center :: กรมประชาสัมพันธ์ ::');return document.MM_returnValue"><br>
    <img src="http://www.prd.go.th/tv_radio_online/img/krong.jpg" width="160" height="30" border="0" alt="กรองสถานการณ์"></a>

    รายงานกรองสถานการณ์เมื่อคืนนี้คะ เรื่องเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติ เลื่อนไปประมาณนาทีที่ 20
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ดูแล้วครับ สรุปได้จากอาการของพิธีกร และผู้ให้สัมภาษม์ ว่า เกิดค่อนข้างแน่นอนและแรงด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไร และไม่อยากจะให้ประชาชนกลัวหรือแตกตื่น เพราะจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

    ที่แน่ๆได้รับการยืนยันจากนักวิชาการก็คือ แนวเลื่อนหลายๆรอยที่ตายแล้ว กลับมาแอคทีฟอีก และเกิดแนวเลื่อนใหม่เกิดขึ้นด้วย แต่ที่มีหนาวก็คือแนวเลื่อนที่อยู่ใต้กรุงเทพที่ เป็นเลนไปหมดแล้ว ทำให้เวลาเกิดแผ่นดินไหวจะเกิดการขยายกำลังความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

    หากเป็นไปได้อยากให้คุณตู๋ช่วยประสานกับ สถาบันวิจัยภัยพิบัติของ ม. รังสิต เพื่อนำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่ "บน"แนวรอยเลื่อนมาลงเอาไว้ในเวบพวกเราเพื่อที่จะได้ระวัง ป้องกนและหาวิธีแก้ปัญหากันต่อไปครับ
     
  11. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    จะลองประสานดูคะ แต่ที่ฟังเมื่อวาน เหมือนกับว่าเขายังไม่มีงบวิืจัยเกี่ยวกับรอยเลื่อนดังกล่าวที่อยู่ใต้กรุงเทพเลยนะ

     
  12. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000088244


    เกิดเพลิงไหม้บ้านในชุมชนแออัดซอยธรรมวิทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จากการสอบสวน เจ้าหน้าที่พบบริเวณดังกล่าวปรากฏฝนตกหนัก จากนั้นได้เกิดฟ้าผ่ายังห้องเช่า กระทั่งเกิดเพลิงลุกไหม้สายไฟฟ้าก่อนแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังห้องติดกัน วอดไป 11 ห้อง


    เวลา 05.45 น.วันนี้ ( 28 กรกฎาคม 2550) รับอรุณของวันใหม่ ร้อยตำรวจเอก เอกชัย มูลลี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสัตหีบ ว่าได้เกิดเพลิงไหม้บ้านในชุมชนแออัดซอยธรรมวิทยา หมู่ที่ 2 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ ให้มาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

    ซึ่งนายณรงค์ ได้สั่งการให้รถดับเพลิงจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองสัตหีบ ประสานกับนาย ไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสัตหีบ และทางด้านพลเรือโท ชาญชัย เจริญสุวรรณ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ให้การสนับสนุนรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยดับเพลิง เนื่องจากไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เหตุเพราะชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนแออัดซึ่งสร้างจากไม้เก่า

    ต่อมา ร้อยเวร และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้ง 3 หน่วยงาน ได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ โดยขณะเพลิงกำลังลุกไหม้ถึงแม้จะมีสายฝนกระหน่ำอย่างหนักก็ไม่สามารถจะทำให้เพลิงสงบลงได้ จึงได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงซึ่งกำลังกระจายตัวเป็นวงกว้าง

    ในเบื้องต้นพบว่า ไฟได้ไหม้บ้านเช่ารวมถึงห้องแถวเรือนไม้ จำนวน 11 ห้อง ได้แก่ห้องของ นางตุ้ม นางประกายมาศ นางแต๋ว นายบี นางเพ็ญ นางจิตต์ นางแมว นายขุน และ นายวอ ส่วนอีก 2 ห้องเป็นห้องว่างไม่มีคนพักอาศัย

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถนำทรัพย์สินส่วนตัวและเครื่องใช้ภายในบ้านออกมาได้ นอกจากอุ้มลูกและช่วยชีวิตตัวเองออกมาได้เท่านั้น

    จากการสอบสวน นายกฤษดา ลือชา อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านเช่าและห้องเช่าเลขที่ 124/3 หมู่ที่ 2 ซอยธรรมวิทยา ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ได้เกิดฟ้าร้องขึ้นหลายครั้งในพื้นที่อำเภอสัตหีบ มีหลังจากนั้นได้มีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง และเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ได้มีเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงไปยังห้องเช่าห้องที่ 2 ซึ่งเป็นห้องของ นายขุน และได้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่สายไฟฟ้า ก่อนจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังห้องติดกัน และลุกลามมายังบ้านหลังใหญ่ 2 ชั้น ซึ่งผู้ที่พักอาศัยอยู่ในห้อง ที่ 2,3,4 ได้ไปขายอาหารทะเลสดในตลาดสดสัตหีบจึงไม่มีใครอยู่

    ส่วนที่เหลือต่างช่วยกันอุ้มลูกหลานหนีออกมาได้ทัน สำหรับความเสียหายในเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายส่วนตัวของผู้พักอาศัยแต่ละห้องได้

    ขณะเดียวกันในส่วนของบ้านพักและห้องเช่า เสียหายไปแล้วประมาณ 1 ล้านบาท

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชุมชนแออัดซอยธรรมวิทยา ส่วนมากเป็นบ้านไม้เก่า มีคนต่างถิ่นมาเช่าพักอาศัยกันเป็นจำนวนมาก มีที่ตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์ราชการห่างกันเพียงมีคลองกั้นเท่านั้น มี ที่ว่าการอำเภอสัตหีบ สถานีตำรวจภูธรอำเภอสัตหีบ สำนักงานที่ดิน สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ เกษตรสัตหีบ และบ้านพักข้าราชการ

    และเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาฟ้าก็ผ่าเจ้าของเรือทัวร์นำเที่ยวเสียชีวิตมาแล้ว 1 ราย




    รอบหลายเดือนที่ผ่านมา ภัยจากสายฟ้าเกิดขึ้นรุนแรงหลายครั้ง ในหลายพื้นที่ พึงระวังอย่าประมาท
     
  13. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อุตุฯ จีน เผยคนตายจากฟ้าผ่าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 กรกฎาคม 2550 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน รายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าในจีนตั้งแต่ต้นปีนี้มีถึง 403 คน เท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าตลอดปีที่แล้ว โดยระบุว่า สาเหตุเกิดจากการที่มีพายุฝนฟ้าคะนองถี่ขึ้นและรุนแรงกว่าในอดีต

    รายงานระบุด้วยว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา พายุฝนฟ้าคะนองในจีนเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุถึง 2,525 ครั้ง ในจำนวนนี้ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ถึง 52 ครั้ง สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ากว่า 80 ล้านหยวน (ประมาณ 400 ล้านบาท)

    ผู้เชี่ยวชาญของจีน เปิดเผยว่า ปัญหาโลกร้อนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พายุเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม


    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000088276


    ประเทศไทย อาจยังไม่มีการเก็บสถิตินี้ดังเช่นจีน อย่างไรก็ตามชาวไทยได้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติชนิดนี้ไปแล้วหลายราย ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กรกฎาคม 2007
  14. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    จะเห็นว่าธรรมชาติได้เปลี่ยนไปอย่างมาก บ้านเราก็ยังมีฟ้าผ่าแล้วไฟไหม้ เจ้ากรรมนายเวรเริ่มทะยอยตามทวงแล้วครับ
     
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ธรรมชาติได้ลงโทษรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆครับ ทั่วโลกเลย
     
  16. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก เปิดขุมนรก
    เหล่าอสูรกาย เจ้ากรรมนายเวร ผุดขึ้นมา มากมายขณะนี้

    แม้คนที่ทำบุญมาตลอด แต่ทำไม่ครบองค์คุณของศีล 5
    โดยเฉพาะข้อ ๔ ห้ามพูดปด ผิดสัจจะ จะถูกลงโทษทันที
    ไม่มีบุญใดในปัจจุบันจะระงับยับยั้งได้
    การลงโทษคือ.......ประสบอุบัติเหตุ..........มีเกิดขึ้นมาแล้ว

    จะไม่ขอกล่าวอะไรมากกว่านี้

    ขอส่งบุญให้เขา ได้รับและระลึกถึงสิ่งที่เขาทำ เพื่อให้แก้ไข
    ถ้าเขาไม่ถึงชีวิต ก็ให้มีจิตคิดจะแก้ไขโดยเร็ว
    อาการเขาสาหัสมาก...น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...