คำถามสำคัญสำหรับการอพยพ....จะไปใช้ชีวิตอย่างไรในชนบท

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 13 พฤศจิกายน 2011.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    สำหรับผู้ที่คิดจะอพยพเพราะเชื่อว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นในอนาคตนั้น
    นอกจากคำถามที่ว่าควรอพยพเมื่อไหร่ และอพยพไปที่ไหน
    ยังมีคำถามคาใจมากมายหลายประการ ที่ผู้เขียนได้รับการสอบถาม

    คำถามที่น่าสนใจคือ
    ในเมื่อมีภาระหน้าที่การงานอยู่ในกรุงเทพ
    แล้วจะอพยพหรือหนีไปได้อย่างไร


    เบื้องหลังคำถามนี้จริง ๆ แล้ว อาจเป็นคำถามว่า
    ถ้าไปต่างจังหวัดแล้วเราจะไปทำมาหากินอะไรต่างหาก


    เราจะไปใช้ชีวิตอย่างไรในชนบท ในเมื่อคุ้นเคยแต่ชีวิตในเมือง
    เคยแต่ทำงานใช้สมอง เชี่ยวชาญในกองเอกสารและคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องจักรกล
    เราทำการเกษตรก็ไม่เป็น ญาติในต่างจังหวัดก็ไม่มี
    จะต้องมีที่ดินอย่างน้อยซักเท่าไหร่ จะเริ่มต้นอย่างไร
    และคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย

    อันที่จริงพ่อหลวงของเราท่านอาจได้ทรงชี้ทางรอดไว้แล้วด้วยคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง
    สิ่งที่เรายังขาดอาจเป็นตัวอย่างจริงหรือไอดอลเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ
    สิ่งเหล่านี้ท่านอาจจะสามารถหาได้จากชีวิตจริงของผู้ชายที่ชื่อว่า โจน จันได
    วันนี้เขาได้กลายเป็นไอดอลของคนเมืองหลาย ๆ คนที่อยากใช้ชีวิตพอเพียง

    ขอเชิญศึุกษาจากในคลิปนะครับ ท่านไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
    บางครั้งเมื่อเราไม่เห็นทางออก หากเราเปลี่ยนมุมมอง หรือมองจากมุมของคนอื่น
    เราอาจจะมองเห็นทางออกหรือทางรอด



    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=lw0nVKo04pU"]ครอบครัวเดียวกัน โจน จันได ตอน 1 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=qw7HYMrLll0&feature=mfu_in_order&list=UL"]ครอบครัวเดียวกัน โจน จันได ตอน 2 - YouTube[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=-d_I1eYiKKo&feature=related"]วิกฤติเมล็ดพันธุ์ 1 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=hhF9YbO0wyk&feature=related"]วิกฤติเมล็ดพันธุ์ 2 - YouTube[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=MU-bCxhTFIU&feature=mfu_in_order&list=UL"]กินอยู่คือ - โจน จันได 19 nov.10 1/4 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=SbKBmHKTwrE&feature=mfu_in_order&list=UL"]กินอยู่คือ - โจน จันได 19 nov.10 2/4 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=yYo0RO48A9Y&feature=related"]กินอยู่คือ - โจน จันได 19 nov.10 3/4 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=3ua7rHL-nf0&feature=related"]กินอยู่คือ - โจน จันได 19 nov.10 4/4 - YouTube[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=tAvsJfLbrOY"]พี่โจน จันได@ลับน้อง - YouTube[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=uWNRzX1STQg"]โจน จันได มนุษย์บ้านดิน - YouTube[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ye-9J1wP5b8"]ปราชญ์เดินดิน-โจน จันใด ตอนที่ 1 (1/3) - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=P57MBbf5qlU&feature=mfu_in_order&list=UL"]ปราชญ์เดินดิน-โจน จันใด ตอนที่ 1 (2/3) - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=vAXJSwQ3lEo&feature=related"]ปราชญ์เดินดิน-โจน จันใด ตอนที่ 1 (3/3) - YouTube[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=PWDvIwXuDL4&feature=related"]ปราชญ์เดินดิน-โจน จันใด ตอนที่ 2 (1/3) - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=pKkZ6WtRPfw&feature=related"]ปราชญ์เดินดิน-โจน จันใด ตอนที่ 2 (2/3) - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=vB_z0XnY07g&feature=mfu_in_order&list=UL"]ปราชญ์เดินดิน-โจน จันใด ตอนที่ 2 (3/3) - YouTube[/ame]




    เศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตเป็นเรื่องง่าย ๆ ในแบบ โจน จันได

    [​IMG]
    โจน จันได​
    [​IMG]
    พืชผัก ของ โจน จันได​
    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก กรุงเทพธุรกิจ

    "ชีวิตมันเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่เราทำให้มันยากเอง..."

    ท่ามกลางยุคแห่งทุนนิยมที่พรั่งพร้อมไปด้วยความทันสมัย ผสมปนเปกับความวุ่นวายทางการเมือง เราได้รู้จักกับนักปราชญ์ผู้ซึ่งใช้ชีวิตสวนกระแสกับสังคมสมัยใหม่อย่างสุด ขั้ว หลายคนคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ "ความบ้า" หรือวิถีชีวิตอันแปลกแยกของเขามาบ้าง แต่ในความแตกต่างนี้มีคนจำนวนไม่น้อยยกย่องเขาว่าเป็นอัจฉริยะด้านการใช้ ชีวิตที่แท้จริง ....และนี่คือ "โจน จันได"

    โจน จันได หรือที่หลายคนรู้จักเขาในนาม "โจน บ้านดิน" คนจนผู้ยิ่งใหญ่จากรายการ เจาะใจ เมื่อหลายปีก่อน มาวันนี้ เขาคือผู้เชี่ยวชาญในการสร้างบ้านดินของประเทศไทย โจน จันได เป็นผู้ปลุกกระแสบ้านดินให้ฟีเวอร์ในปัจจุบัน เขาเดินทางไปรอบโลกเพื่อนำเสนอแนวทางในการสร้างบ้านดิน โดยเรียนรู้ชีวิตผ่านประสบการณ์ตรงนอกระบบการศึกษา จนแตกแขนงออกเป็นเครือข่ายคนสร้างบ้านดินในทุกวันนี้

    เดิมที โจน จันได เกือบจะได้เป็นนักกฎหมาย เมื่อครั้งจากบ้านที่ยโสธรเข้ามาร่ำเรียนศาสตร์สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่กรุงเทพมหานคร เขาใช้ชีวิตอยู่วัด กินข้าววัด และทำงานพิเศษเพื่อหาเงินค่าเล่าเรียนเอง แต่แล้วลูกอีสานคนนี้ ก็ตัดสินใจทิ้งอนาคตนักกฎหมาย และลาสังคมเมืองที่หลายคนหลงใหล ด้วยเหตุว่าถามหาความสุขที่แท้จริงให้ชีวิตไม่เจอ !?!

    "คนเราจำต้องไหลไปตามกระแสส่วนใหญ่ของสังคม จริงหรือ... ทั้งที่เราไม่ชอบ เราก็จำเป็นต้องแต่งตัว เที่ยว ตามเพื่อน ๆ เพื่อป้องกันคำครหานินทางั้นหรือ.."

    "คนเราเรียนมาก ๆ แล้วจะทำงานดี ๆ ได้เงินเยอะ ๆ จริงหรือ แล้วการมีเงินเยอะมันคือเป้าหมายของชีวิตงั้นหรือ มีเงินเยอะทำให้มีความสุขจริงหรือเปล่า และการที่เราทำงานหนัก จะทำให้ลูกเมียเรามีความสุขจริงหรือ.."


    โจน จันได ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ในป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ เขาอยู่โดยไร้ซึ่งความสะดวกความสบายทุกชนิด ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้า มีแต่ตัวเองกับธรรมชาติ โดย โจน จันได อาศัยอยู่ภายใต้หลังคาบ้านดินที่เขาสร้างเองกับมือ โดย โจน จันได ปลูกบ้านจากดินเหนียวหลังแรกจากความคิด ผสมกับที่ได้เห็นภาพการทำ บ้านดิน ในหนังสือของฝรั่ง เมื่อบ้านดินหลังแรกสำเร็จ โจน จันได ก็ทำหลังต่อ ๆ มาให้กับชุมชนแถบนั้นโดยไม่เก็บเงิน โดย โจน จันได อยู่อย่างง่าย ๆ ปลูกผักปลูกข้าวกินเอง เขาไม่มีเงินเก็บ เพราะคิดว่าเงิน เก็บไว้ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ข้าวและพืชผักปลูกไว้แล้วเลี้ยงชีวิตได้ สบายใจกว่า...

    "ผมเคยไปอยู่กรุงเทพฯ เจ็ดปีไม่เคยกินอิ่มเลย และถามตัวเองว่า ชีวิตเราทำงานให้ใคร ผมก็เลยกลับบ้านไปเป็นชาวบ้าน แต่ผมก็ไม่ได้อยู่อย่างชาวบ้าน เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกผักเพื่อขาย ยิ่งปลูกยิ่งไม่เหลืออะไร ทั้ง ๆ ที่ชีวิตเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ทำให้ชีวิตซับซ้อน จนไม่มีเวลาคิดถึงตัวเอง คิดถึงแต่งาน งาน หาเงินและใช้เงิน ทำงานหนักขนาดนี้แล้วไม่พอกิน ก็ต้องคิดแล้ว" โจน จันได กล่าว

    [​IMG]
    พืชผัก ของ โจน จันได​


    ปัจจุบันนอกจากการอยู่กับธรรมชาติอย่างมีความสุขแล้ว โจน จันได ยังได้รับเชิญจากหลายหน่วยงานให้ไปสอนการปลูกบ้านดิน โดย โจน จันได ไม่คิดค่าใช้จ่ายสักบาท เพียงขอแต่ค่าเดินทาง เพราะอย่างที่บอกเขาไม่ใช่คนที่มีเงินมากนัก แต่กระนั้น หลังจากที่ทำงานบ้านดินมากว่า 10 ปี โจน จันได บอกว่าเขาได้ค้นพบอีกสิ่งหนึ่งที่อยากทำมาก ๆ ในตอนนี้

    "ทำงานบ้านดินมา 10 ปี รู้สึกว่าเหนื่อย จึงอยากพัก บ้านดินทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สิ่งที่อยากทำจริงๆ ในตอนนี้ คือการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านแท้ ๆ มาเพาะปลูก การเก็บเมล็ดพันธุ์มีความสำคัญกว่าการทำบ้านดิน เพราะความรู้ในการทำบ้านดิน เรียนรู้ได้ง่าย ทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมล็ดพันธุ์นับวันจะหายไปจากโลกทุกวัน การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ต้องรีบทำ ไม่อย่างนั้นจะหายไปจากโลก ต้องเร่งรีบเก็บรักษาไว้" โจน จันได กล่าว

    ด้วยความคิดนี้ โจน จันได จึงจัดแจงหาซื้อที่ดินที่ใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และลงมือปลูกพืชผัก ตั้งชื่อว่า "ไร่พันพรรณ" มีคนอาศัยและช่วยงานอยู่ 7-8 คน เป็นครอบครัวเล็ก ๆ เขามีลูกและภรรยาชาวอเมริกัน หญิงที่รักงานด้านเอ็นจีโอจากโคโลราโดเป็นคู่ชีวิต ที่ไร่ของ โจน จันได มักจะมีแขกแวะเวียนไปเยี่ยม ทั้งคนไทย ฝรั่ง ต่างผลัดเปลี่ยนกันมาเรียนรู้วิถีชีวิตแบบสมถะในแบบของเขา

    "ฝรั่งที่มาเรียนรู้ บางคนเป็นสถาปนิก ผู้พิพากษา นักเขียน บางคนตกงานแต่สับสนในชีวิต ไม่ชอบวิถีชีวิตแบบเดิม ไม่รู้จะไปไหน หลายคนมาก็เปลี่ยนแปลงชีวิต แต่คนไทยมาฝึกฝนเรื่องเกษตรน้อย เพราะมองว่าการเกษตรเป็นเรื่องต่ำต้อย คนที่มาเป็นชนชั้นกลาง ไม่ใช่ชาวนาหรือเกษตรกร การเป็นเกษตรกรทำให้ผมมีเวลา ทำอะไรก็ได้อย่างอิสระ ผมจะไม่กลับไปทำงานแบบเดิม ตอนนี้ผมพอใจกับสิ่งที่ได้ประสบในชีวิตแล้ว และก็จะใช้ชีวิตที่เหลือให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ไม่มีอะไรให้กังวล" โจน จันได เล่า

    ....การเอาชนะใจตัวเอง ชนะกระแสสังคม ชนะระบบเงินตรา และใช้ชีวิตอยู่อย่างสามัญในแบบ โจน จันได ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับใครหลายคน (จริงไหม)

    [​IMG]
    พืชผัก ของ โจน จันได​


    ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม ลิ้งค์


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    - เว็บบอร์ด มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
    - volunteerspirit.org
    - kanuay.kanuay.com




    [​IMG]



    ข้อมูลจาก
    http://thai.punpunthailand.org/?page_id=95

    เรารับอาสาสมัครมาช่วยและร่วมเรียนรู้ตลอดทั้งปี เรารับรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ งานที่นี่จะเป็นการสร้างบ้านทำสวนเก็บเมล็ดพันธุ์ มีการฝึกอบรมในบางครั้ง ระยะเวลาในการเป็นอาสาสมัคร
    เรารับอาสาสมัครตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 ปี สำหรับผู้ที่มาที่นี่เป็นครั้งแรกอยากให้ลองมาดูมาทดลองอยู่ก่อนว่าอยู่ได้ ไหม? เพราะวิถีชีวิตที่นี่ค่อนข้างเรียบง่าย เรากินอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์มาก ส่วนใหญ่เป็นข้าวแดง ข้าวเหนียว (ไม่มีข้าวขาว) ผัก มีไข่หรือปลาเป็นบางมื้อและไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงแต่งอาหารเลย ที่พักจะมีสองลักษณะคือบ้านดิน กับบ้านไม้ไผ่ซึ่งภายในมี มุ้ง กับเสื่อให้ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในการอำนวยความสะดวกมากนักอาจจะแตกต่างจากที่อื่นที่ ท่านคุ้นเคย จุดมุ่งหมายของเราคือ รับอาสาสมัครมาอยู่เพื่อเรียนรู้และลงมือปฏิบัติทำงานจริงด้วยตัวเอง เราจึงไม่รับนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อพักผ่อนกินอยู่แล้วกลับไป สำหรับอาสาสมัครคนไทยอยู่เรียนรู้ได้ไม่เกิน 1 เดือน และต้องนำเต็นมาด้วยเพราะจำนวนที่พักไม่พอกับการรองรับ

    ค่าใช้จ่ายในการเป็นอาสาสมัคร
    สำหรับค่าอาหารและที่พักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเราคิดคนละ 300 บ./วัน โดยจำนวนเงินที่ได้รับจากการบริจาคทั้งหมด เราจะนำเข้ากองทุนการเก็บเมล็ดพันธ์ุ สำหรับผู้ที่มาเป็นหมู่คณะควรแจ้งจำนวนคน เวลาในการพักอยู่กับเราและความจำนงอื่นๆ เช่น ต้องการให้เราจัดตารางกิจกรรม ต้องการใช้พื้นที่ ต้องการวิทยากร ต้องการเวิร์คช๊อปการกับเรา เราจะคิดค่าใช้จ่ายให้เป็นกรณีไป
    นักฝึกงาน
    เรามีหลักสูตรฝึกงานปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 เดือน ครั้งละ 15 คน หลักสูตรนี้ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด
    โดยมีการเรียนรู้เทคนิคในการพึ่งพาตนเอง ลงมือปฏิบัติทำงานจริงด้วยตัวเอง สร้างบ้านทั้งหลังทำปุ๋ยหมักทำสวน ทำอาหาร นวดและการดูแลสุขภาพในรูปแบบอื่นๆรวมถึงวิธีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
    สนใจติดต่อได้ที่
    โทรศัพท์
    : 081-470-1461 (โจน) ในเวลาทำการ 09.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
    email : jonjandai@hotmail.com
    ที่อยู่ : พันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเอง และศูนย์เมล็ดพันธ์ ตู้ ปณ.5 อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 50150


    วิธีการเดินทางและแผนที่

    http://thai.punpunthailand.org/?page_id=101
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  2. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    คำถาม : ไม่รู้จะอพยพไปอยู่ที่ไหน ทำมาหากินอะไร

    คำแนะนำ :
    อาจเป็นเพียงการหลบภัยชั่วคราวเท่านั้น คนที่ยังไม่ค่อยเชื่อก็ให้เพียงแค่ติดต่อหรือเกริ่นๆกับญาติ หรือเพื่อนฝูงที่มีญาติอยู่นอกเขตพื้นที่เสี่ยงภัยว่าช่วงนั้นเราอาจไป เที่ยวหรือไปหลบภัยสักพัก ระหว่างนี้ก็ทำงานเก็บเงินคิดซะว่าเก็บเงินไปเที่ยว เวลาไปหลบภัยจะได้มีเงินมีเสบียงอาหารไม่เป็นภาระของคนอื่น ที่ดินต่างจังหวัดหลายแห่งราคาไม่แพงนัก ต่างจังหวัดตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆก็มีงานให้ทำมากมายลองหาดูในอิน เทอร์เน็ต ถ้าหาความรู้หรือฝึกฝนการนวดไทย โยคะ การทำอาหารไทย คอมพิวเตอร์ การเกษตรไว้บ้างก็ดี อยู่เมืองไทยถ้ารู้จักใช้เศรษฐกิจพอเพียงคงไม่อดตาย เมื่อพ้นระยะเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติแล้วอาจค่อยกลับมาใช้ชีวิตปกติตามเดิม


    เนื้อหาบางตอนจากเอกสาร PDF กระทู้ [FONT=&quot]ข้อมูลและคู่มือเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ สำหรับการส่งต่อและแจกจ่าย[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2011
  3. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    สวัสดีค่าพี่ karan diya กะลังโหลดรายการครอบครัวเดียวกันเพื่อจะมาลงในพลังจิต
    เลยอ่าค่า ไม่ทันพี่ซะแว๊ววว อิอิอิ ดีจังเลยนะคะ ดูแล้วทำให้มีแรงกำลังใจมากมาย
    ทำให้รู้ว่า มันก็ไม่ได้ยากน๊า สำคัญที่เราต้องไปทำมันน่ะค่ะ ตอนนี้อิจฉาคนมีที่ดินอยู่ตจว.เจงๆๆๆ :cool:

    ปล.รายการนี้ยังมีอีกตอนในวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. 54 เวลา 17.30 น. อย่าลืมติดตามกันนะคะ
    เพลิดเพลินเจริญใจมากกกกก ขอบอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2011
  4. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    สวัสดีครับ
    ชอบแนวคิดของคุณโจน จันได หลายเรื่องครับ
    คิดว่าอยากจะโหลดมาเป็นไฟล์แนบเพื่อไว้ให้ดาวน์โหลดเพื่อการแจกจ่าย
    สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2011
  5. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    คัดลอกจากข้อความของคุณเกษม [​IMG]
    พี่ เกษมคะ หนูอยากทราบว่าถ้าสมมุติอิสราเอลกับอิหร่านถ้าเค้าทะเลาะกันจริงๆประเทศไทย เราจะโดนผลกระทบอะไรรึเปล่าคะ และถ้าหากมีเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรเพราะตอนนี้หนูว่าทุกอย่างมันไม่มี ความแน่นอนเลยทำไมทุกคนไม่รักและอารีต่อกันเหมือนเช่นอดีตเลยนับวันใจคนมี แต่ถอยหลังลงทุกที
    </td> </tr> </tbody></table>
    ตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

    ถ้าประเทศอิสราเอลกับประเทศอิหร่าน รบกันจริงๆ ในระยะแรกๆ คงยังไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่ถ้าประเทศจีนและกลุ่มประเทศอาหรับเข้ามาช่วยประเทศอิหร่าน ส่วนประเทศอเมริกา อังกฤษ ก็เข้ามาช่วยประเทศอิสราเอล สงครามคงลุกลามบานปลาย กลายเป็นสงครามศาสนาระหว่างศาสนาคริสต์กับอิสลาม ซึ่งเมื่อถึงระยะนั้นจึงจะน่าเป็นห่วง เพราะจะเป็นสงครามที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เข้าโจมตีกันในที่สุดครับ

    ส่วนผลกระทบที่จะเกิดกับประเทศไทยนั้น ผมคิดว่าทั้งประเทศจีนและอเมริกา คงต้องส่งกองทัพเข้ามายึดครองประเทศไทย เพราะเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของโลก เมื่อถึงตอนนั้นประเทศไทยคงมีสภาพคล้ายตอนที่ประเทศญี่ปุ่นส่งกองทัพเข้ามา ยึดครองประเทศไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่คราวนี้ประเทศไทยอาจต้องถูกแบ่งออกเป็น 2 ซีก ภาคเหนือและอีสานอาจต้องอยู่ในความครอบครองของประเทศจีน ภาคกลางกับภาคใต้อาจต้องอยู่ภายใต้การครอบครองของประเทศสหรัฐอเมริกา

    ในตอนนั้นระบบการเงินการธนาคาร กิจการห้างร้านต่างๆ คงต้องปิดกิจการไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนหนุ่มคนสาวที่เคยทำงานอยู่ตามโรงงาน และห้างร้านต่างๆ คงต้องกลับไปประกอบอาชีพเกษตรกร ทำไร่ ทำนา ปลูกพืชผัก ตามชนบทต่างๆ เพื่อผลิตอาหารให้กับกองทัพฝ่ายจีน และกองทัพฝ่ายอเมริกา เพื่อการทำสงครามไปจนกว่าจะเกิดภัยทางธรรมชาติครั้งใหญ่ ที่จะมายุติการทำสงครามของทั้งสองฝ่ายครับ


    </td></tr></tbody></table>
     
  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    คัดลอกจากข้อความของคุณพสพัธ ลื้งค์อ้างอิง




    <table id="post5328600" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">พสภัธ
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 6,089
    พลังการให้คะแนน: 4246 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5328600" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม [​IMG]
    จำไว้เถิด จะหมดยุคกลุ่มเศรษฐี !!!


    [​IMG]

    [​IMG]

    natthapatpun สมาชิก
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset; font: 12pt verdana,geneva,lucida,'lucida grande',arial,helvetica,sans-serif; color: rgb(0, 0, 0); background-color: rgb(247, 243, 247);">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Lazaza [​IMG]
    ขอบคุณค่ะ ดิฉันเชื่อค่ะ และเชื่อมานานแล้ว
    กำลังวางแผนอพยพอยู่ แต่ไม่นึกว่าจะกินระยะเวลา
    นานขนาดนี้ ถ้านานขนาดนี้ ก็คงต้องปรับแผนหน่อย
    ดิฉันก็ติดตามข่าวตลอด และก็เห็นว่าสัญญานมันก็มาเรื่อยๆ
    เห็นขนาดนี้แล้ว ใครนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยชีวิตตามเวรกรรม
    ดิฉันว่านั่นก็เรียกว่าประมาทได้เหมือนกัน
    ต่อเมื่อเราได้ทำเต็มที่แล้ว ค่อยปล่อยตามเวรตามกรรม
    นั่นถึงจะเรียกว่าถูกต้องเหมาะสม

    ตามที่รวบรวมข้อมูลมานั้น
    คุณลุงคนเชียงใหม่พูดไว้ว่า ถ้าเชียงใหม่เละเมื่อไหร่
    เตรียมอพยพได้ ส่วนสัญญาณของทางกลุ่ม ซึ่งคุณอาk_97
    ก็เคยบอกไว้ว่า สึนามิมาอีกรอบเมื่อไหร่ ให้ขึ้นที่สูง
    และจากข้อความของคุณnatthapatpun เข้าใจได้ว่า
    ทั้งเรื่องเชียงใหม่เละ กับทั้งสึนามิ น่าจะมาปีหน้า งั้นก็พอดีกัน
    หลังจากนั้น เตรียม49 วันวิปโยค ซึ่งถ้าเป็นไปตาม
    ท่านน้องปลาบู่ว่า ก็หลังปีใหม่ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นปีหน้า(55-56)
    ถ้าเหตุเกิดปี 56 จริง แล้วจาก56-62 มันคืออะไรอะคะ
    จะเป็นยังงัย จะอยู่ยังงัยอะคะ พอจะวิเคราะห์ได้มัยคะ



    </td></tr></tbody></table>
    "เห็นขนาดนี้แล้ว ใครนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยชีวิตตามเวรกรรม
    ดิฉันว่านั่นก็เรียกว่าประมาทได้เหมือนกัน
    ต่อเมื่อเราได้ทำเต็มที่แล้ว ค่อยปล่อยตามเวรตามกรรม
    นั่นถึงจะเรียกว่าถูกต้องเหมาะสม"

    ถูกต้องคร้าบ ที่ดิฉันเน้นและย้ำบ่อย ๆ ว่าไม่ให้ประมาท ก็คือข้อความที่ท่านกล่าวมาข้างบนนี้ค่ะ ในวิถีของมนุษย์แบ่งไปตามระดับสติและปัญญา การที่เราจะไปเคี่ยวเข็ญให้ใครเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เคยชินและสั่งสมมานาน ให้เปลี่ยนไปทันทีทันใดคงไม่ได้ ก็ได้แต่บอกว่าอย่าประมาท อย่าเชื่อ รอพิสูจน์

    แต่ถ้าท่านเห็นตัวอย่างกันอยู่แล้ว ท่านไม่เชื่อจะรอพิสูจน์อย่างเดียว ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นการประมาทในชีวิตเกินไป การเตรียมตัวให้พร้อมโดยการไม่ประมาท ท่านต้องใช้สติปัญญาตรึกตรองดูด้วยว่า ถ้ามันเกิดท่านจะทำอย่างไร และถ้ามันไม่เกิดท่านจะทำอย่างไร ต้องมีแผน 1 แผน 2 และแผนอื่น ๆ รองรับฐานะของตนเองและคนในครอบครัวไว้บ้าง

    แต่นะ...แต่เมื่อเตรียมพร้อมเต็มที่ขนาดนั้นแล้วยังไม่พ้นอีก ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรม เราทำได้แค่ไหนก็พอใจแค่นั้น เพราะกำลังของเรามีแค่นั้น ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นมีขึ้นให้ได้ เมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ ทางกายเราอาจจะแพ้แต่ใจเราไม่แพ้ เพราะเราสู้เต็มที่เต็มกำลังความสามารถแล้ว เราชนะที่ใจแล้ว ชนะที่ใจตนเองแล้วค่ะ

    จาก56-62 มันคืออะไรอะคะ
    จะเป็นยังงัย จะอยู่ยังงัยอะคะ พอจะวิเคราะห์ได้มัยคะ

    เรื่องสำคัญคือต้องผ่านช่วงวิกฤตไปให้ได้ก่อน หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความระทึกวุ่นวายไปแล้ว ประเทศไทยยังอยูได้ค่ะ อาจจะอยู่สบายกว่าประเทศอื่นด้วยซ้ำ เพียงแต่ท่านต้องเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตใหม่ จะอยู่อย่างไรขอให้ศึกษาตัวอย่างของชาวชนบท ไม่ใช่ชนบทในเมืองนะคะ แต่เป็นชนบทนอกเมือง อยู่แบบนั้นน่ะค่ะ ปรับหน้าดิน(จอบ เสียม คราด) ปลูกพืช ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์(ถ้าจะยังพอมีพันธุ์สัตว์ให้เลี้ยงน่ะนะ)

    ถ้าคนในเมืองใครเคยเล่นเกมปลูกพืชปลูกผักจะเห็นชัดค่ะ แต่ชาวชนบทไม่ต้องเล่นเกม เกมของคนในเมืองเป็นชีวิตจริงของพวกเขา นอกนั้นก็หาฟืน ติดเตาถ่าน เหมือนออกค่ายไงคะ สนุกดีออก สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมคือเมล็ดพันธุ์พืชค่ะ หลากหลายพันธุ์ยิ่งดี แต่เรื่องเนื้อสัตว์คิดว่าหลายท่านที่รอดไปจากภัยพิบัติคงจะกินเนื้อสัตว์ ไม่ลงไปอีกนาน เพราะท่านจะเห็นสัจธรรมที่ว่า เนื้อสัตว์ที่แสนอร่อยก็คือซากศพขึ้นอืด ผุพอง เน่าเปื่อย มีกลิ่นเหม็น แมลงวันตอมหึ่ง หนอนขึ้น พอง-ยุบ-พอง-ยุบ อยู่ในตัวสัตว์เป็นที่น่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งท่านจะเห็นอยู่เกลื่อนกลาด คนที่ยังไม่ได้ฝึกกินมังสวิรัติหรือเจก็ยังพอมีเวลาค่ะ

    นอกจากภัยธรรมชาติแล้ว(รวมถึงภัยจากโรคระบาด อุกาบาต และนิวเคลียร์-นิวเคลียร์ในความเห็นของข้าพเจ้ามันอาจจะไม่ใช่สงคราม แต่อาจจะเป็นผลกระทบอันเกิดจากภัยพิบัติที่ไม่อาจยับยั้งได้มากกว่า) จะมีภัยจากสงครามกลางเมืองเพราะแย่งชิงอำนาจกัน ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนบ้าอำนาจไป เราคนรักสงบอย่าเข้าไปยุ่ง ดูแลตนเอง ดูแลครอบครัว ดูแลชุมชนเล็ก ๆ ของเราให้อยู่ได้อย่างปลอดภัยก็พอค่ะ

    ถึงตอนนั้นผู้นำระดับประเทศแทบจะไม่มีความหมาย ผู้นำระดับชุมชนระดับท้องถิ่นจะมีความสำคัญมากกว่า ผู้นำระดับท้องถิ่นไม่ใช่คนที่เราเลือกตั้งกันอย่างทุกวันนี้ แต่เป็นผู้นำระดับผู้ที่มีสติปัญญาสามารถคิดอ่านแก้ปัญหาและดูแลชุมชนของท่านได้

    นอกจากภัยจากสงครามกลางเมือง ก็ยังมีภัยจากสงครามแย่งชิงปัจจัยสี่ มาถึงตรงนี้มันอาจลุกลามกลายเป็นภัยระหว่างประเทศ เฮ้อ คนที่อยู่รอดถึงตรงนั้นก็ค่อยว่ากันไปเถอะค่ะ

    นอกจากเรื่องภัยแล้วเรามาพูดถึงเรื่องดี ๆ กันบ้าง ตามที่ข้าพเจ้ารับทราบมา มนุษย์ต่างดาวเขาจะมาช่วยฟื้นฟูโลกประมาณปี 2562 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่พระเจ้ามหาจักรพรรดิ์จะลงไปเกิด...มีเรื่องเล่าอีก เล็กน้อยค่ะ แต่พูดตอนนี้ก็จะยาวไป เอาไว้วันหลังถ้ามีเวลาจะลองลงเรื่องเล่าให้อ่าน แต่ถ้าเห็นว่านานเกินไปหรือข้าพเจ้าลืมก็ช่วยเตือนด้วยละกัน

    เราเดินทางมาถึงปี 2562 แล้วคร้าบพี่น้อง


    8-11-2011, 7:20 AM

    ที่มา เตือนน้ำท่วม พ.ย.54 ชาวเมืองเชียงใหม่ เชียงรายและผู้ที่สนใจช่วยเข้ามาอ่านหน่อยค่า

    </td> </tr> </tbody></table>
    เรื่อง นี้จริง จำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงสงคราม(อ่าวเปอร์เซีย) บังเอิญเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยา(ฝื้น) มีธุระกับท่านเจ้าคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่บ้านเลยรับหน้าที่ไปส่งท่านเลขาสมเด็จไปวัดท่าซุง พอ..หลวงพ่อพบพวกเราที่ตึกรับแขก หลวงพ่อก็ทักทายกับจนหายคิดถึง คุณแม่ถามหลวงพ่อเกี่ยวกับเรื่องที่ดินที่ซื้อติดค้างอยู่ตอนสมัย(คุณชาติ ชายเป็นนายก) หลวงพ่อบอกกับแม่ว่า...(เก็บเอาไว้อย่าขาย นะ อีกหน่อยจะหาไม่ได้แล้ว แต่ถ้าเค้าให้กำไรเรามากพอก็ขายไป แต่อยากให้เก็บไว้ ต่อไปจะสบาย ขายข้าวขายผักรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีใหญ่) ต่อไปชาวนารวย เค้ามัวแต่ตีกัน เราขายข้าวขายปลารวยอย่างเดียว ...
    __________________
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  7. onekisswithlove

    onekisswithlove Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +57
    นี่แหล่ะ ชีวิตที่เราต้องการมาตลอด สำหรับคนที่เกิดมาแล้วเจอแต่เตาแก็สกับหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอย่างเรา คอยดูนะ เราจะเป็น โจน จันได หญิง คนต่อไป เหอๆ.........
    (เอิ่ม....ว่าแต่ว่า เค้าก่อไฟกันยังไงอ้ะ บอกหน่อยจิ๊)
     
  8. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ท่านกล่าวว่า

    จงอย่าหวั่นไหวต่อสงคราม ขอยืนยันว่า ถึงแม้ว่าสงครามจะเกิดก็จริงแหล่ แต่ทว่าเราจะไม่ตายเพราะสงครามโลก เราจะไม่อดตายเพราะสงครามโลก และนักเกษตรศาสตร์ก็ดี นักเกษตรศาสตร์นี่จะมีโชคดีมาก คือ จะรวย .. ข้าวจะแพง .. พวกที่เลี้ยงสัตว์ก็ดี ราคาจะแพง จะร่ำรวยทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าไม่มีความประมาท บรรดาท่านพุทธบริษัท ประเทศไทยจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ..

    ลิื้งค์อ้างอิง

    -------------------------


    <dd>ถ้าบังเอิญคนไทยของเราดึง (น้ำมัน) ขึ้นมาได้เอง เราก็กดราคาน้ำมันให้ต่ำลงไป อย่างแพงที่สุดก็เท่าราคาน้ำมันในปัจจุบัน รักษาราคาน้ำมันไว้ ต่างประเทศเขาต้องซื้อแพง เราถูก อุตสาหกรรมของเราก็มีราคาถูก ขายก็ได้กำไร กำไรก็จะมีมาก กำไรจากอุตสาหกรรมด้วย กำไรจากเกษตรกรรมด้วย กำไรจากน้ำมันด้วย และก็จะมีกำไรมากมาย ประเทศไทยก็จะเป็นมหาเศรษฐี

    </dd><dd>ทีนี้ต่อไป มันก็มีเวลาเหลือ บรรดาท่านพุทธบริษํท ก็มาคุยกันว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิด จะว่าอย่างไร ก็ต้องตอบว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิดก็เป็นของดี แต่ว่าท่าน ดร. สรรพศาสตร์นี้ก็เช่นเดียวกัน ท่านบอก เขาไม่เรียก "สงครามโลก" เขาเรียก "สงครามใหญ่" มันเป็นสงครามใหญ่ ไม่ใช่สงครามโลก

    </dd><dd>ก็เป็นอันว่า ถึงแม้จะเป็นสงครามโลกก็ตาม สงครามใหญ่ก็ตาม ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราก็เอาบทเรียนจาก "สงครามโลกครั้งที่ ๒" มาใช้กัน
    ๑. ผ้าในสมัยนั้น หาคนนุ่งผ้าดีได้ยาก ส่วนมากก็จะมีคนนุ่งผ้าขาด ๆ เพราะเวลานั้นโรงงานทำผ้าของเรายังมีน้อย แต่เวลานี้โรงงานทำผ้าของเรามีมาก แต่ก็ไม่แน่นอนนัก บางทีระเบิดเพลิงก็เกิดจากภาคพื้นดินก็ได้ ถ้าระเบิดเพลิงจากภาคพื้นดินเกิดกับโรงงาน โรงงานทำผ้าของเราก็จะสลายตัวไป ผ้าของเราก็จะน้อย

    </dd><dd>อันดับแรก เตรียมผ้าไว้ก่อน

    </dd><dd>อันดับที่สอง เตรียมพื้นดินไว้ ถ้ามีอยู่บ้าง ไม่มากไม่มาย ก็อย่าเพิ่งรีบขายเกินไป ถ้าได้กำไรมาก ๆ เป็นล้าน ๆ ก็ไม่ว่าอะไร ขายเถอะ! แล้วเก็บเงินไว้ให้ดี อย่าใช้ให้มันหมดตัว จะคิดว่าถ้ามันหมดแล้ว เราไม่มีทางจะหาที่ดินมาขายได้ใหม่
    ประการที่สอง ก็เตรียมเนื้อ เตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมใจไว้ นึกถึงความจริงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนว่า "โลกเต็มไปด้วยทุกข์ โลกไม่มีความสุข โลกเป็นอนิจจัง หาความเที่ยงไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นอนิจจัง มันก็เป็นทุกข์ ในที่สุดก็เป็นอนัตตาตายหมด ... "

    </dd><dd>ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ความจริงเป็นอย่างนั้น ถ้าเรายอมรับก็ไม่เป็นไร ถ้าจิตยังไม่ยอมรับมันก็มีความดิ้นรน มันก็มีความเร่าร้อน ถึงจะดิ้นรนจะเร่าร้อนขนาดไหนก็ตาม เราก็จะหนีไม่พ้นในเมื่อหนี้ไม่พ้น เราก็ต้องทนสู้ ทนสู้กับภาวะสงคราม ทีนี้เราจะสู้กับใคร เราก็สู้กับตัวเราเอง นั่นคือ ต้องใช้น้อย กินน้อย นอนมาก ๆ และตื่นไว ๆ ใช้กำลังร่างกายทำการงานให้ดี ได้พูดอย่างนี้ก็พูดเรื่อยเฉื่อยไป

    </dd><dd>เป็นอันว่า ตามคำพยากรณ์ของ ดร. สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่า ประเทศไทยจะเป็นมหาเศรษฐี แล้วคนไทยทุกคนจะเป็นเศรษฐีไหม ก็ต้องขอบอกว่า คนไทยทุกคนไม่เป็นมหาเศรษฐีทุกคน แต่ว่าก็มีจำนวนมากก็จะเป็นลูกศิษย์มหาเศรษฐี คือ เป็นคนงานของมหาเศรษฐี เราก็จะเป็นเศรษฐีเล็ก ในครอบครัวเล็ก ๆ ได้เหมือนกัน สมมติว่าครอบครัวใดยังไม่เคยมีเงินล้าน ครอบครัวเล็ก ๆ ประเภทนั้นจะมีเงินล้านใช้ ประเภทครอบครัวที่มีเงินแสนใช้ต้องถือว่าเป็นครอบครัวที่ยากจนมาก ถ้าบ้านไหนมีเงินล้านใช้ถือว่าเป็นบ้านที่พอมีพอกินพอใช้ พอหาได้เลี้ยงตัวรอด ที่มีเงินเหลือเป็นแสน ก็ถือว่าเลี้ยงตัวรอดเหมือนกัน ที่ได้มาอย่างนี้เพราะว่า เรามีกำไรจากสงคราม แต่เราไม่อยากให้เกิดสงคราม
    </dd>
    ลิื้งค์อ้างอิง
     
  9. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    คัดลอกจากข้อความของคุณเกษม 10 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> เกษม [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2004
    ข้อความ: 7,559
    พลังการให้คะแนน: 4866 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_267380" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> สาส์นจากปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

    ผ่านทางทิพย์นิมิต พระอาจารย์เพลิน นนทโก ให้แจ้งต่อผู้ศรัทธาในปู่ใหญ่ หลวงปุ่เทพโลกอุดร ว่าในอีก ประมาณ....ปี ข้างหน้านี้ จักเกิดภัยพิบัติอันใหญ่หลวงต่อมวล มนุษยชาติทั่วโลก ขอให้ลูกหลานทุกคนจงพากันเตรียมตัว ร้บสถานการณ์ให้ดี โดยให้มีสติอันมั่นคงอย่าวิตกกังวล จงพา กันเร่งบำเพ็ญภาวนาทำสมาธิฝึกฝนพลังจิตให้เข้มแข็ง และ ให้พากันหาสถานที่อันสงบในป่าเขาแหล่งที่ห่างไกลความเจริญ ปลูกต้นไม้ให้มาก ๆ ล้อมรอบที่พักอาศัย แล้วบำเพ็ญภาวนา เก็บกักตุนเสบียงไว้ใช้ในยามขัดสนอันมีปัจจัยสี่ เช่น เครื่อง นุ่งห่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค หากผู้ใดมีเงินขอให้เปลี่ยน เป็นของมีค่าอย่างอื่น เช่น ทองคำเป็นต้น อย่าฝากธนาคาร อย่าซื้อหุ้นให้ฝังดินไว้ทำแผนที่ลายแทงไว้ในพื้นที่ที่ห่างไกล กรุงเทพฯ เชื้อเพลิงให้พากันกักตุนแบตเตอรี่แห้งเป็นต้น อย่าห่วงทรัพย์ในเมืองหลวง จงพากันไปหาที่ปลูกสร้างที่พักไว้ ตามวัดป่า วัดเขาในชนบท ตามถ้ำต่าง ๆ จึงจะพากันรอด จากภัยพิบัติ จงเร่งบำเพ็ญภาวนา



    <center>ผ่านกระแส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2539
    ณ ธรรมสถานวงษ์จิต
    บ้านนาคำน้อย หมู่ 7
    ตำบลบ้านก้อง อาเภอนายูง
    จ้งหวัดอุดรธานี 41380</center>
    </td></tr></tbody></table>
     
  10. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    คัดลอกจากข้อความของคุณเกษม ลิ้งค์อ้างอิง


    <table id="post281310" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">เกษม [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2004
    ข้อความ: 7,559
    พลังการให้คะแนน: 4866 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_281310" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> อาจารย์ศักดา สกุลพนารักษ์เคยเตือนภัยไว้ดังนี้

    นับ ตั้งแต่ วันที่ 11 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป จะเกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง ทั้งจากเบื้องล่างและเบื้องบน......เบื้องล่าง คือ แผ่นดินไหว-แผ่นดินแยก-แผ่นดินทรุด น้ำท่วม (ระดับน้ำสูง 4-6 เมตร) เขื่อนพัง คลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ......ภัยจากเบื้องบน จะเกิดลมพายุพัดกระหน่ำ เป็นพายุหมุน ที่มีความเร็วสูง ทำลายอาคาร บ้านเรือน เรือกสวนไร่นา ชีวิตและทรัพย์สินเสียหายอย่างร้ายแรง......-จังหวัดที่จะได้รับความเสียหาย คือ เชียงใหม่ และลำพูน


    -ภาคกลาง กรุงเทพ และปริมณฑล

    -ภาค ตะวันออก จังหวัดที่อยู่ชายฝั่งทะเล ให้ระวังภัยบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและตะวันตก จังหวัดที่อยู่ใกล้ชายทะเล ให้เตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้ประมาท.......ควรจะหาที่อยู่สำรอง ในกรณีที่จำเป็นจะต้องอพยพหลบภัย ออกจากที่อยู่ในปัจจุบัน ให้พยายามหาที่อยู่บนที่สูง ให้เตรียมเสบียงอาหารสำรองไว้ให้พร้อม รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้ามียานพาหนะ เติมน้ำมันให้เต็ม เพื่อที่จะได้เดินทางออกจากสถานที่เกิดภัยพิบัติให้ไกลที่สุด........

    ถ้าท่านยังไม่มีสถานที่พักสำรองให้ไปพักที่

    -ภาค ใต้......ให้ไปพักที่พระธาตุเจดีย์สันติสุข ควนหินแท่น เส้นทางพัทลุง-หาดใหญ่ หลัก ก.ม.ที่ 41-42 ก่อนถึง อ.หาดใหญ่ บ้านทุ่งนารี อ.ป่าบอน โทร.074-211499

    -ภาคกลาง.... ไปที่พระธาตุเจดีย์สันติสุข อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ถ้ำใหญ่ เขาวง หมู่ 11 บ้านหนองใหญ่ อ.บ้านไร่ (สอบถามเส้นทาง ไปพระธาตุ โทร.09-2304523 และ 07-8442755)

    -ภาคตะวันออก....ไปที่พระธาตุเจดีย์สันติสุข บ้านวังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี (โทร.ถามทาง 05-1707214)

    -ภาค อีสาน....โรงธรรม-โรงทานมังสวิรัติ พนารักษ์10 ถ้ำพระกายสิทธิ์ บานวังมน อ.ภูผาม่าน จ.ชัยภูมิ เส้นทางชุมแพ-หล่มสัก (โทร.06-6418771)

    -ภาคเหนือ....พระไตรรัตนเทวะสถาน ถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย หลัก ก.ม.ที่ 25 อ.ดออยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ (โทร.09-5826926)
    -จังหวัด น่าน........พระธาตุเจดีย์สันติสุข ภูลังกา เส้นทางดอกคำใต้ ไปบ้านสะเกิน ต.ยอด อ.สองแคว จ.น่าน (โทร.06-0162706และ 054-779094)

    สถานที่ดังกล่าว อ.ศักดา ได้เตรียมไว้สำหรับให้เป็นที่พักของผู้ที่อพยพหลบภัยพิบัติ เชิญท่านมาพักได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น......."ภัยที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากการตัดไม้ทำลายป่า ทำลายธรรมชาติแล้ว เกิดจากการที่เราได้เข่นฆ่าชีวิตผู้คนนับ 1,000 คน ในการปราบปรามยาเสพติด เพราะมีผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำความผิด ถูกฆ่าตายและถูกยึดทรัพย์สินไปจำนวนมาก และเกิดจากการฆ่าสัตว์ 30 กว่าล้านตัว เพื่อป้องกันไข้หวัดนก นับเป็นการทำบาปอย่างร้ายแรง จึงทำให้เกิดภัยพิบัติขึ้นมา มันเป็นกรรมของแผ่นดินอย่างแท้จริง!!!"

    ................ อ.ศักดา สกุลพนารักษ์.โทร.09-2304523...................

    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  11. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    คัดลอกจากข้อความของคุณภูติอาคเนย์ ลิ้งค์อ้างอิง


    <table id="post971669" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">ภูติอาคเนย์
    ทีมพลังจิตวีดีโอ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2007
    สถานที่: ในจักรวาลอันไร้กาลเวลา
    ข้อความ: 618
    พลังการให้คะแนน: 277 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_971669" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"><tbody><tr><td scope="col" valign="top">
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"><tbody><tr><td class="textdef" scope="col" height="87">
    วัด ป่าภูก้อน เกิดจากความดำริของพุทธบริษัทผู้ตระหนักถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ และความสำคัญของป่าไม้ธรรมชาติที่เหลือน้อยลงทุกวัน โดยมุ่งดำเนินตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการรักษาความ สมบูรณ์ของป่าไม้ต้นน้ำลำธาร ตลอดจนสัตว์ป่า และพรรณไม้นานาพันธุ์ เพื่อให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยคู่กับแผ่นดินไทย พร้อมทั้งเพื่อจรรโลงส่งเสริมพระบวรพุทธศาสนา ให้เจริญมั่งคงคู่แผ่นดินไทยตราบชั่วกาลนาน
    </td> </tr> <tr><td class="textdef" scope="col" height="84">
    การก่อสร้างวัดป่าภูก้อนได้เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ โดยการริเริ่มของครอบครัวนายโอฬารและนางปิยวรรณ วีรวรรณ และ โดยการเมตตาอนุเคราะห์ให้คำแนะนำปรึกษาของ พระเถราจารย์ฝ่ายวิปัสสนาธุระในภูมิภาคอิสานหลายองค์ ตลอดจนความร่วมมือร่วมใจของพุทธบริษัทหลายฝ่าย
    การก่อสร้างได้สำเร็จลุล่วงในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ.๒๕๓๙ งบการก่อสร้างรวม ๗๑ ล้านบาท
    </td> </tr> </tbody></table> ​
    </td> <td scope="col" width="190">

    </td> </tr> <tr valign="top"><td colspan="2" class="textdef" scope="row">

    วัดป่าภูก้อนเป็นวัดในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูง - น้ำโสม บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เป็นวัดที่ถูกต้องตามระเบียบกรมการศาสนาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ และ ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เข้าทำประโยชน์ เพื่อจัดตั้งพุทธอุทยาน มีเนื้อที่ ๑,๐๐๐ ไร่
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับขนานนามว่า "พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติ" โดยมีท่านพระครูจิตตภาวนาญาณ (ชาลี ถิรธมฺโม) เป็นเจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอนายูง (ธ)
    </td></tr></tbody></table>วัดป่าภูก้อน
    สงบมากเหมาะกับการปฏิบัติธรรมและหลบภัย เพราะมีการจัดสร้างพื้นที่ให้รองรับคนจำนวนมากๆได้
    มีพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระบูรพาจารย์สายหลวงปู่มั่นประดิฐฐา
    และมีพระนอนทำจากหินอ่อนที่ใหญ่และสวยที่สุดในไทยครับ อาจจะที่สุดในโลกด้วยมั้ง*-*
    ในหลวงท่านโปรดจะเสด็จมาเปิดเองในอีก2ปีนี้ล่ะมั้งครับ ก่อนหน้านี้สมเด็จพระเทพฯ ท่านเสด็จมาดูงานและแนะนำแล้ว ปล.วัดนี้เป็นวัดที่ทำให้เกิดกฏหมายพุทธอุทธยานด้วยครับ คือให้วัดป่าสามารถอยู่ร่วมกับป่าเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติได้ คือพอมีวัดอยู่คนจะไม่กล้ามาตัดไม้ครับ
    อ้อมีน้ำอุดมสมบูรณ์ด้วยคือมีน้ำตกล้อมรอบแล้วหลังพิงภูเขา ลองไปกันดูครับอยู่อุดรนั่งเครื่องแป้บเดียวเอง ^^
    __________________
    ธรรมรักษาครับ
    </td></tr></tbody></table>
     
  12. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    คัดลอกจากข้อความของคุณ natthapatpun ลิ้งค์อ้างอิง


    <table id="post5256895" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">natthapatpun
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2009
    ข้อความ: 405
    พลังการให้คะแนน: 121 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5256895" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Twana [​IMG]
    รู้ แต่ปฏิบัติยังไม่ได้ เตรียมแต่ไม่มีที่ไป ก็ไม่รู้จะทำยังไง
    </td> </tr> </tbody></table>
    ปล่อย วางค่ะ การปล่อยวางไม่ใช่ความท้อแท้ทอดอาลัย การปล่อยวางคือการเพิ่มพลังจิตตนเองให้เข้มแข็งขึ้น ตอนนี้จิตตกอยู่ฝ่ายต่ำ ต้องทำให้จิตเป็นกลางก่อน จึงจะยกจิตขึ้นที่สูงได้ ติดขัดตรงไหน ถามมาได้ค่ะ ถ้าตอบได้ก็ยินดีจะแนะนำให้ จะเอาถึงขั้นไหนก็ว่ามาเลย อย่ามัวเกรงใจกันอยู่ ขอโทษค่ะคือจิตมันเข้มข้นมาก การโต้ตอบจะกระทำแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมแล้ว มันจะเสียเวลา

    อันที่จริงเรื่องการเตรียม คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าต้องเตรียมวัตถุ แต่การเตรียมที่ถูกต้องคือเตรียมกายกับใจเท่านั้น นอกนั้นธรรมะท่านจัดสรรเอง ต่อให้ท่านแบกสัมภาระกันไปเป็นลำรถ แต่ท่านจะไม่สามารถฝ่ากระแสภัยที่ถาโถมเข้ามาทุกด้านได้ คนที่ปักหลักสู้ในพื้นที่ให้เตรียมแค่นี้กับเมล็ดพืชแบบซองหรือกระป๋องที่พอ จะนำติดตัวไปได้เท่านั้นเอง

    ส่วนคนที่บอกว่าเตรียมแต่ไม่มีที่ไป ถ้าท่านต้องการจะไปต้องไปรวมกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วไปหลบอยู่ในสถานที่ ปลอดภัยล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ เมื่อไปแล้วจะกลับออกมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะนับจากวันที่ท่านละลิ้งบ้านเรือนไป ภัยมันจะค่อยคลืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ ถ้าท่านกลับไปรอตั้งหลักหนีอยู่ที่บ้านท่านจะกลับไปยังสถานที่ปลอดภัยไม่ทัน เมื่อหัวหน้ากลุ่มบอกให้ไปก็ต้องไปทันที ถามว่าท่านทำใจได้ไหม ถ้าทำได้ก็เตรียมเลยแล้วหากลุ่มจะไปกับพวกเขา

    แต่สำหรับคนที่จะปักหลักสู้ต้องฝึกจิตอย่างหนัก คำว่าอย่างหนักไม่ใช่ให้คร่ำเคร่งเสียจนเคร่งเครียด แต่ใจต้องเด็ดเดี่ยวประมาณว่าหน่วยกล้าตาย อะไรจะเกิดก็ต้องรับได้สู้ได้ทั้งนั้น ท่านพร้อมจะทำไหม ต้องถามใจตนเองดูก่อน
    </td></tr></tbody></table>
     
  13. chan2

    chan2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +23
    อยากดู แต่เน็ตช้ามากๆ อดเลย
     
  14. chan2

    chan2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +23
    น่าสนใจมาก ไม่ทราบว่าเขาเข้าไปเยี่ยมชมและเรียนรู้กันอย่างไร

    ผมอยากให้เขาทำแบบ wwoof ที่ทำงานแลกกับอาหารและที่พักสำหรับ นักท่องเที่ยว แต่ในแง่นี้ผมว่าตัดท่องเที่ยวออกแล้วใช้เป็นสถานที่เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบเกษตรกร น่าจะดีนะครับ

    หรือเขาทำอยู่ผมก็ไม่ทราบใครรู้ตอบหน่อย
    ผมก็อยากใช้ชีวิตแบบนี้บ้าง :cool:
     
  15. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174
    มีรายการฅนค้นฅนอีกนะครับที่มีแนวคิดเดียวกัน
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=xqVozapxN70"]ต้นข้าว ลูกไม้ในเงา คนค้นฅน ตอน 1 - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=QW8vk_GL_gY&feature=related"]??????? ??????????? ??????? ??? 2 - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=bdl2p7-M1VY&feature=related"]??????? ??????????? ??????? ??? 3 - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=4kP1RlhCtd4&feature=related"]??????? ??????????? ??????? ??? 4 - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=46vRvI96tC8&feature=related"]??????? "????????????????????????" - YouTube[/ame]

    http://palungjit.org/threads/โจน-จันได-วิธีเลี่ยงภัยพิบัติ.313946/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  16. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379


    ติดต่อสอบถามและสมัครเข้าร่วมกิ<wbr>จกรรมได้ที่ punpun.farm@gmail.com
    0875761102 (ชนินทร์) 0891603588 (นภา)

    facebook : Pun Pun Organic Farm
    www.punpunthailand.org

    --
    "การอยู่บ้านดินเป็นการทำสงคราม สงครามครั้งแรกคือสงครามกับใจตั<wbr>วเอง เพราะปกติถ้าคนเราทำอะไรแล้<wbr>วเหนื่อยเรา ก็จะหยุด อยากพัก อยากเลิก แต่การทำบ้านดินนี่เหนื่อยแต่มั<wbr>นส์ เลยจากความเหนื่อยคื<wbr>อความเบาสบาย แต่คนส่วนใหญ่เวลาเหนื่อยก็<wbr>จะหยุดรวมทั้งผมด้วยเมื่อก่อน ก็เลยไม่หลุดพ้นจากความเหนื่<wbr>อยเพื่อจะพบกับความเบาสบาย
    ต่อมาก็คือสงครามกับโลก จริงๆ แล้วตอนนี้เราตกอยู่<wbr>ในภาวะของสงคราม แต่ก่อนยกปืนไปฟาดฟันกั<wbr>นใครชนะก็จะกวาดต้อนอีกฝ่<wbr>ายไปเป็นทาส แต่ทุกวันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้<wbr>น ระบบทาสเปลี่ยนไป ไม่มีใครรู้เลยว่าเราเป็นทาส บางคนยังเพลิดเพลินกับความร่<wbr>ำรวยที่ตัวเองหามาได้ แล้วใช้จ่ายอย่างมหาศาล บางคนเข้าห้างสรรพสินค้า ซื้อมากๆ ก็ยิ่งดี หลงภูมิใจว่าตัวเองมีเงินซื้<wbr>อของเยอะ แต่นั้นเป็นทาสยุคใหม่ ทำให้คนเราอยู่ในภาวะที่ทุกข์<wbr>ทรมาน แต่รู้สึกว่าเหมือนไม่ทุกข์<wbr>ทรมาน ทำให้เราต้องทำงานมาก ทำให้เรารู้สึกว่<wbr>าการทำงานมากเป็นเรื่องปกติในชี<wbr>วิตประจำวัน ซึ่งจริง ๆ แล้วเราเป็นสัตว์ที่ผิดปกติที่<wbr>สุดในโลกยุคนี้ เพราะประวัติศาสตร์มนุษย์โลก ไม่มีอีกแล้วที่จะทำงานกันวันละ 8 ชั่วโมง เหมือนที่เรากำลังทำกันอยู่<wbr>ในขณะนี้ เราจะรู้สึกอหังกาไม่ได้ว่<wbr>าเราเป็นมนุษย์ที่เจริญที่สุด เพราะเราทำงานมากที่สุด จริงๆ เราคือมนุษย์โง่ที่สุด"
    - โจน จันใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  17. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ลองเข้าไปดูรายละเอียดที่นี่
    Pun Pun - sustainable living and learning center : Organic Farm, Seed Saving, Natural Building, Earthen Building, Organic Restaurant, appropriate technologies, permaculture, etc

    กิจกรรมของเราที่จะเกิดขึ้นตามลิงค์ด้านล่าง
    ตารางกิจกรรมประจำปี 2553-2554 พันพรรณศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งพาตัวเอง

    อ่านต่อ
    อาสาสมัครและนักฝึกงาน

    [​IMG]

    เรารับอาสาสมัครมาช่วยและร่วมเรียนรู้ตลอดทั้งปี เรารับรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
    งานที่นี่จะเป็นการสร้างบ้านทำสวนเก็บเมล็ดพันธุ์ มีการฝึกอบรมในบางครั้ง
    อ่านต่อ

    การใช้สถานที่และจัดกิจกรรม

    [​IMG]

    มีห้องประชุม ที่พัก ห้องน้ำ รับรองคนได้ประมาณ 40 คน ถ้าต้องการเต๊นด้วยเรามีเตรียมไว้ให้
    แต่ทุกอย่างที่นี่จะง่ายๆไม่หรูหราไม่สะดวกสบายมากนัก
    ถ้าท่านต้องการมาใช้สถานที่ก็สามารถรถจัดเองทั้งหมดหรือให้เราจัดหลักสูตรให้เลยก็ได้
    แล้วแต่ว่าสนใจเรื่องอะไรที่เราทำที่นี่
    กิจกรรมที่เราช่วยฝึกอบรมให้ได้ แบ่งออกเป็น 5 อย่างดังนี้คือ
    อ่านต่อ




    [​IMG]



    ข้อมูลจาก
    http://thai.punpunthailand.org/?page_id=95

    เรารับอาสาสมัครมาช่วยและร่วมเรียนรู้ตลอดทั้งปี เรารับรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ งานที่นี่จะเป็นการสร้างบ้านทำสวนเก็บเมล็ดพันธุ์ มีการฝึกอบรมในบางครั้ง ระยะเวลาในการเป็นอาสาสมัคร
    เรารับอาสาสมัครตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 ปี สำหรับผู้ที่มาที่นี่เป็นครั้งแรกอยากให้ลองมาดูมาทดลองอยู่ก่อนว่าอยู่ได้ ไหม? เพราะวิถีชีวิตที่นี่ค่อนข้างเรียบง่าย เรากินอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์มาก ส่วนใหญ่เป็นข้าวแดง ข้าวเหนียว (ไม่มีข้าวขาว) ผัก มีไข่หรือปลาเป็นบางมื้อและไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงแต่งอาหารเลย ที่พักจะมีสองลักษณะคือบ้านดิน กับบ้านไม้ไผ่ซึ่งภายในมี มุ้ง กับเสื่อให้ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในการอำนวยความสะดวกมากนักอาจจะแตกต่างจากที่อื่นที่ ท่านคุ้นเคย จุดมุ่งหมายของเราคือ รับอาสาสมัครมาอยู่เพื่อเรียนรู้และลงมือปฏิบัติทำงานจริงด้วยตัวเอง เราจึงไม่รับนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อพักผ่อนกินอยู่แล้วกลับไป สำหรับอาสาสมัครคนไทยอยู่เรียนรู้ได้ไม่เกิน 1 เดือน และต้องนำเต็นมาด้วยเพราะจำนวนที่พักไม่พอกับการรองรับ

    ค่าใช้จ่ายในการเป็นอาสาสมัคร
    สำหรับค่าอาหารและที่พักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเราคิดคนละ 300 บ./วัน โดยจำนวนเงินที่ได้รับจากการบริจาคทั้งหมด เราจะนำเข้ากองทุนการเก็บเมล็ดพันธ์ุ สำหรับผู้ที่มาเป็นหมู่คณะควรแจ้งจำนวนคน เวลาในการพักอยู่กับเราและความจำนงอื่นๆ เช่น ต้องการให้เราจัดตารางกิจกรรม ต้องการใช้พื้นที่ ต้องการวิทยากร ต้องการเวิร์คช๊อปการกับเรา เราจะคิดค่าใช้จ่ายให้เป็นกรณีไป
    นักฝึกงาน
    เรามีหลักสูตรฝึกงานปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 เดือน ครั้งละ 15 คน หลักสูตรนี้ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด
    โดยมีการเรียนรู้เทคนิคในการพึ่งพาตนเอง ลงมือปฏิบัติทำงานจริงด้วยตัวเอง สร้างบ้านทั้งหลังทำปุ๋ยหมักทำสวน ทำอาหาร นวดและการดูแลสุขภาพในรูปแบบอื่นๆรวมถึงวิธีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
    สนใจติดต่อได้ที่
    โทรศัพท์
    : 081-470-1461 (โจน) ในเวลาทำการ 09.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
    email : jonjandai@hotmail.com
    ที่อยู่ : พันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเอง และศูนย์เมล็ดพันธ์ ตู้ ปณ.5 อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 50150


    วิธีการเดินทางและแผนที่


    http://thai.punpunthailand.org/?page_id=101
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  18. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    พยามจะลงข้อมูลเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ให้ดู
    แต่โพสอยู่สามรอบ เครื่องก็เด้งออก เออ แปลก
    งั้นไปหาข้อมูลกันดูนะคะ ถ้าใครสนใจ

    อีกเรื่องที่น่าสนใจคือการทำนาโยน
    แถวขอนแก่นมีแปลงสาธิตด้วย
    ไปขอดูงานตามหมู่บ้านก็ได้ ไม่เสียตังค์

    กำลังจะผันตัวไปเป็นเกษตรกร
    มันลำบากจริงๆสำหรับคนไม่เคยทำ
    แต่พอหันซ้ายหันขวา ถามแม่บ้าน
    ถามพี่เลี้ยง เค้าบอกว่า ทำนาง่ายนิดเดียว
    เออ เลยขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ซะเลย
    ก็ได้เห็นคราวนี้แหละ ว่าความรู้จากปริญญา
    สู้ความรู้ของชาวไร่ชาวนาก็ไม่ได้
     
  19. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    วิชาชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง

    “วิชาชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง” ณ ดอยผาส้มเจ้า
    สะเมิง.. เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “สวิสแลนด์ภาคเหนือ สตอเบอรี่ขึ้นชื่อ” เป็นภาพที่สวยงาม แต่ทำไมแค่ “บ้านอมลอง” หมู่บ้านเดียวจึงเป็นหนี้หลานสิบล้าน… แล้วเมื่อชาวบ้านหันกลับมาทำแบบเศรษฐกิจพอเพียง จะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ไหม?
    มาดูการเตรียมพร้อม “รับมือภัยพิบัติ และสำรองปัจจัย 4″ ที่ใช้เวลาเตรียมการมากกว่า ๓ ปี
    การสร้างฝายชะลอน้ำ ทำให้ลำห้วยที่ไม่มีน้ำมา ๓๐ ปี กลับมามีน้ำไหลตลอดปีได้จริงหรือ?
    เมื่อเรามีป่าที่สมบูรณ์ เราก็มีน้ำ มีของกินของใช้ ที่อยู่อาศัยร่มเย็น (ป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง ตามแนวพระราชดำริ) เป็นอย่างไร..

    โปรแกรมเรียนรู้ชีวิตเรียบง่าย เศรษฐกิจพอเพียง และธรรมชาติ ท่ามกลางสายหมอกและขุนเขา แบบเย็นๆ ชิวๆ ท่ามกลางอากาศหนาวระดับ ๑๐ กว่าองศา


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=QeWGS3pLTRw&feature=player_embedded"]โครงการวิชาชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง.mpeg - YouTube[/ame]

    อากาศหนาวระดับ ๑๐ กว่าองศา
    …ขอเชิญมาเรียนวิชาชีวิต พิสูจน์ด้วยตนเอง ตลอด ๕ วัน ๔ คืนนี้
    …จัดโดย: กลุ่มสื่ออาสา และวัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่




    #กำหนดการ

    • ครั้งที่๑: ๑๐-๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ (Confirm แล้ว)
    #โปรแกรม ๕ วัน ๔ คืน
    วันที่๑..

    • เช้า: ทำภารกิจแรกคือ รวมตัวกันให้ได้ทุกคนแล้ว เดินทางไปที่ร้านอาหารเจบุญส่ง (หน้า รพ.หมอวงศ์)
    • ทานอาหารเช้า ก่อนจะเดินทางขึ้นวัด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒ ชม.ครึ่ง)
    • ไหว้พระทันใจ, นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และช่วยกันทำความสะอาดบริเวณมณฑป
    • เดินชมธรรมชาติ เก็บผักพื้นบ้าน ทำอาหารร่วมกัน
    • ค่ำ: ปฐมนิเทศน์
    วันที่๒..

    • ทำวัตรเช้าพร้อมกัน (ตี๕)
    • เรียนรู้วิถีพอเพียง.. ฝากตัวเป็นลูกชาวบ้าน ๒ วัน ๒ คืน
    วันที่๓..

    • ใช้ชีวิตช้าๆ ช่วยพ่อ-แม่ ทำงานต่างๆ กินผัก จ่อมข้าวเหนียว ทานอาหารแบบเมืองๆ
    • ค่ำ: ประชุมในหมู่บ้าน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
    วันที่๔..

    • ทำกิจกรรมร่วมกัน, เีรียนรู้วิธีการเอาชีวิตรอดในภาวะวิกฤติ หรือภัยธรรมชาติ (หลวงพ่อสังคม)
    • ค่ำ: ปัจฉิมนิเทศน์ (นอนวัด)
    วันที่๕..

    • ร่ำราวิถีชีวิตแบบธรรมชาติ, นั่งรถเข้าเวียง กลับบ้าน
    *ปล. โปรแกรมกิจกรรม อาจมีการปรับเปลี่ยนไปได้ ตามความเหมาะสม โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    #ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเอง

    • ค่าเดินไป-กลับ เชียงใหม่
    • ค่ารถสองแถว (โดยประมาณ) จากขนส่ง-วัดฯผาส้ม ๑๕๐ บ., จากวัดฯผาส้ม-ขนส่ง ๑๕๐ บ.
    #วิธีสมัคร

    • เขียนเรียงความขนาดพอประมาณเรื่อง “ความหมายของชีวิต” พร้อมเขียนแนะนำตัว พอให้เรารู้จัก เข้าไปกรอกแบบฟอร์ม: https://docs.google.com/spreadsheet/viewform?formkey=dGZTVUI4YUl1NHI0S3htbmFQeW1EdUE6MQ
    • กิจกรรมนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีการเรี่ยราย ยกเว้นค่าเดินทางที่ผู้มาร่วมต้องจ่ายเอง
    • ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาใบสมัคร ก่อนรับเข้าร่วมกิจกรรม
    • สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ทีมงาน.. อลงกรณ์(กร) ๐๘๑-๔๔๙๕๘๓๖
    #อ่านเพิ่มเติม




    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
    รูปสวยๆที่ดอยผาส้ม ฝีมือเมย์ (สื่ออาสา): Facebook

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  20. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    เรามีชีวิตอยู่ในชนบท เคยชินกับป่าไม้เขียวๆ ลมพัดเย็นๆและเสียงนกร้อง
    เราว่า...มีความสุขนะคะ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...