หลวงปู่โลกอุดรคือองค์สมเด็จปัจจุบัน

อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ . . . . ดีแล้วชอบแล้ว


อ่านแล้วเกิดปิติดีครับ ขอบคุณครับ


.

 

อนุโมทนาจ่ะหนูปุ๊ก...

ทำให้ตาสว่างขึ้นอีก...

 

สาธุ สาธุ ขอโมทนา
ขอเชิญร่วมทำบุญกฐิน สร้างฐานรองเมรุ วัดราชบัลลังก์ (ของพระเจ้าพ่อตากสินมหาราช) ระยอง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

พุทโธ อัปมาโณ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ

 

หลวงปู่โลกอุดร

ฉันฟังมาตั้งนาน โลกอุดร โลกอุดรใครหนอ มีวันหนึ่งก็เลยนั่งอยู่ ใครกันหนอ...? อ้อ...พอเจอหน้าก็ร้องอ้อเลย แต่ว่าท่านพวกนี้ทั้งหมด เดิมทีต้องมาจากพุทธภูมิก่อน พอใกล้จะเต็มก็ลา ลาจากพุทธภูมิเป็นสาวก ก็เลยต้องทำงานพุทธภูมิ ถ้าสาวกจริง เขาไม่เอาด้วยหรอก เขาทำงานเฉพาะเรื่องของเขา ที่เห็นว่ามีเยอะๆ ทำได้ก็เงียบฉี่ คืองานของเขาไม่มี พวกนี้ถ้าถึงจุดเขาเว้นงาน คือต้องทำงานตามหน้าที่

มันมีเรื่องหนึ่งที่เราพูดกันแล้วเหมือนคนบ้า...

ไอ้ก่อนที่จะลงมานี่มันมีสัญญาใจ ว่าจะมาทำงานอะไร เวลาลงมาเกิดใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องหรอก จิตไม่ถึงที่สุด ถ้าจิตถึงที่สุดกระเทาะเปลือกสัญญา อีตอนนี้แหละงานอื่นที่เคยทำมาแล้วก็โยนทิ้งหมด เอาเฉพาะงานของตน

ไปๆ มาๆ ก็ไปเจอะท่าน ไปเจอะกับท่าน ฉันอยากนึกจะเจอก็ชนปั้งเลย เมื่อชนปั๊บ ถามว่า

"เป็นพุทธภูมิมาก่อนใช่ไหม"

คือว่าพวกนี้ถ้าไม่สงสัยแกก็ไม่รู้เรื่องฉัน ถ้าสงสัยก็ชนกันเมื่อนั้นแหละ ต่างคนต่างขี้เกียจด้วยกัน มันไม่เก่งแล้ว มันต้องเก่งมาตอนต้นๆ ตอนต้นก็อยากเก่ง ไอ้นักมวยตอนที่หัดใหม่ๆ ไปไหนกำหมัดยิกๆๆ ฉันเป็นนักมวย เอาเข้าเป็นแชมป์แล้ว เขาก็เลิก พระก็เหมือนกัน แก่แล้วก็เลิก แก่ก็มีเรื่องเด็ก ขี้เกียจ จะรู้อะไรไปทางไหนก็ตายแหงๆๆ อย่างพวกนี้ ตายแล้วจะไปไหน หาทางให้มันให้ไปแล้วไม่มาใช่ไหม อะไรบ้างที่เราจะเปลื้องความทุกข์ไอ้การเวียนว่ายตายเกิด ก็ภาวะจิตมุ่งตรงสู่นิพพาน คือไอ้การอยากรู้ อยากเห็นก็เลิกกัน แต่ว่าเหตุใหญ่มันชนกันเข้าก็ต้องรู้ สงสัยเขาก็พูดกันเรื่อยเลย โลกอุดรๆๆ คือใคร

ก็มีคนหนึ่งบังเอิญเข้าไปพบ และก็ขอถ่ายภาพ ภาพแรกเป็นพระ กล้องเดียวกันถ่ายทีเดียว ขอถ่ายอีกทีกันเสีย มีภาพนุ่งโสร่ง ผ้าขาวม้าคาดพุงมีดเหน็บข้างหลัง ถามมึงถ่ายอะไร ฟิลม์เดียวกันครับ ขอถ่ายครั้งที่ ๒ แกร็ก...กันเสีย ก็ไม่เสีย ได้อีกภาพหนึ่ง ถ้าได้ซ้ำก็เสียฟิลม์เปล่าใช่ไหม พวกตกใจใหญ่ เป็นไปได้รึ เขาเป็นจะถามทำเกลืออะไร ก็เพราะมันเอง มันเห็นเอง ถามเป็นไปได้หรือ เป็นไปได้แล้ว ไม่น่าจะมาถามเลย

โลกอุดร ชื่อจริงๆ ก็ อุตตระ พระที่นำพระไตรปิฎกเข้ามาสุวรรณภูมิ อุตตระกับโสณะ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว...ถ้าถามว่าอยู่ได้ยังไง อย่าลืมคำหนึ่ง พระพุทธเจ้ารตรัสว่า

“ผู้ใดถ้าคล่องอิทธิบาท ๔ สามารถจะอธิษฐานร่างกายอยู่ถึงกัปหนึ่ง”
<O</O
อย่าลืมนะผู้ที่คล่องอิทธิบาท ๔ คือ พระอรหันต์ พระอนาคามีนี่ถือว่ายังไม่คล่อง เพราะอะไร ยังตัดสังโยชน์อีก ๕ ไม่ได้ ถ้าพระอรหันต็ถือว่าคล่อง ไอ้คล่องไม่ใช่ว่าเฉยๆ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อั๊วะก็ว่าได้นี่ นี่ไม่ได้นะ

จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๕๖ หน้า ๔๗-๔๘

ที่มา : http://www.pranippan.com/new/board/index.php?showtopic=1199&pid=3250&st=0&#entry3250<O</O

 

อนุโมทนาสาธุ
นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ<!-- google_ad_section_end -->

 

สวัสดีครับ ผมมีความสงสัยว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านเป็นพระอุตระเถระ ที่มาเผยแผ่พระศาสนา หรือเป็นพระศาสดาของเรา วอนผู้รู้จริงโปรดชี้แนะด้วยครับ
กรุณาส่งข้อความมาที่ kakooii69@gmail.com
ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ครับ

 

ขอกราบบูชาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยใจเคารพ

 

คำว่า "โลกอุดร" ในบทสวดแปลบทหนึ่ง (ไปค้นหากันเอง) ก็หมายถึงพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว


พระพุทธเจ้าหมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ตรัสรู้ถึงแล้วด้วยพระองค์เอง (ตามธรรมที่เป็นจริงของโลก)

พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ คือ บรมครูแห่งโลกอุดรทั้งนั้น

พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ท่านต้องการให้พวกเราทำตามท่าน เป็นอย่างท่าน คือ ปฏิบัติให้อยู่เหนือโลก มีนิพพานเป็นที่สุด

มีพระอริยะเจ้าหลาย ๆ พระองค์ เข้าสู่กระแสโลกอุดร แต่ยังคงทรงสังขารหรือนิรมิตรสังขารมาเพื่อยังประโยชน์ต่อพระศาสนาตามกำลังที่ท่านต้องการ

..........................................

 

ตามความเชื่อที่ผ่านมา หลวงปู่เทพโลกอุดร คือ พระอุตตระเถระ แต่ความจริงมีพระเถระเจ้าในอดีตที่ท่านปรากฏให้ลูกศิษย์ได้พบเป็นกายเนื้อ และเจริญอิทธิบาท ๔ และศิษยานุศิษย์เหล่านั้นเรียกท่านว่า หลวงเทพโลกอุดร เช่นเดียวกัน เท่าที่ทราบมี..

๑. หลวงปู่โพรงโพธิ์ (ท่านเข้าสมาบัติในโพรงโพธิ์) ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า บางท่านก็เชื่อว่า ท่านเป็นหนึ่งในพระธรรมทูต ที่มาพร้อมกับพระโสณณะ พระอุตตระ

๒. พระอุปคุต ทางภาคเหนือมีความเชื่อว่า พระอุปคุตท่านยังมีชีวิตอยู่ จึงมีประเพณีใส่บาตรวันเพ็ญพุธ (วันขึ้น ๑๕ ค่ำ ที่ตรงกับวันพุธ)

๓.สมเด็จลุน พระภิกษุจากฝั่งลาว หลายท่านก็เรียกท่านว่า หลวงปู่เทพโลกอุดร เช่นเดียวกัน เนื่องจากท่านเคยมากสอนลูกศิษย์ด้วยกายเนื้อเช่นเดียวกัน

เท่าที่ทราบ สำหรับพระเถระเจ้าที่ท่านเจริญอิทธิบาท ๔ นั้น ส่วนใหญ่มักเป็นผู้เคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน และมาโปรดผู้ที่เคยเนื่องกับท่านมาแต่อดีตทั้งนั้น ส่วนผู้ใดจะได้พบท่านองค์ไหน ขึ้นอยู่กับบุพกรรมที่เคยเนื่องกับท่านมาก่อนค่ะ


ขอเจริญในธรรม และขออนุโมทนาบุญค่ะ

Numsai

 

โฮ โมทนาด้วย ปุ๊กก้าที่นำข้อความดีๆมาให้อ่าน ซาบซึ้งจัง

 

หมดความสงสัยแล้วครับ
พุทโธ อัปมาโณ

 

เยี่ยมมากครับ การให้ธรรมะเป็นทาน เป็นการให้สูงสุดครับ

 

โมทนาสาธุคะ

อ่านแล้ว วางไม่ลง อ่านจนจบ มีประโยชน์มากมาย ขอบคุณมากคะ

 

หลวงปู่โลกอุดร

ฉันฟังมาตั้งนาน โลกอุดร โลกอุดรใครหนอ มีวันหนึ่งก็เลยนั่งอยู่ ใครกันหนอ...? อ้อ...พอเจอหน้าก็ร้องอ้อเลย แต่ว่าท่านพวกนี้ทั้งหมด เดิมทีต้องมาจากพุทธภูมิก่อน พอใกล้จะเต็มก็ลา ลาจากพุทธภูมิเป็นสาวก ก็เลยต้องทำงานพุทธภูมิ ถ้าสาวกจริง เขาไม่เอาด้วยหรอก เขาทำงานเฉพาะเรื่องของเขา ที่เห็นว่ามีเยอะๆ ทำได้ก็เงียบฉี่ คืองานของเขาไม่มี พวกนี้ถ้าถึงจุดเขาเว้นงาน คือต้องทำงานตามหน้าที่

มันมีเรื่องหนึ่งที่เราพูดกันแล้วเหมือนคนบ้า...

ไอ้ก่อนที่จะลงมานี่มันมีสัญญาใจ ว่าจะมาทำงานอะไร เวลาลงมาเกิดใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องหรอก จิตไม่ถึงที่สุด ถ้าจิตถึงที่สุดกระเทาะเปลือกสัญญา อีตอนนี้แหละงานอื่นที่เคยทำมาแล้วก็โยนทิ้งหมด เอาเฉพาะงานของตน

ไปๆ มาๆ ก็ไปเจอะท่าน ไปเจอะกับท่าน ฉันอยากนึกจะเจอก็ชนปั้งเลย เมื่อชนปั๊บ ถามว่า

"เป็นพุทธภูมิมาก่อนใช่ไหม"

คือว่าพวกนี้ถ้าไม่สงสัยแกก็ไม่รู้เรื่องฉัน ถ้าสงสัยก็ชนกันเมื่อนั้นแหละ ต่างคนต่างขี้เกียจด้วยกัน มันไม่เก่งแล้ว มันต้องเก่งมาตอนต้นๆ ตอนต้นก็อยากเก่ง ไอ้นักมวยตอนที่หัดใหม่ๆ ไปไหนกำหมัดยิกๆๆ ฉันเป็นนักมวย เอาเข้าเป็นแชมป์แล้ว เขาก็เลิก พระก็เหมือนกัน แก่แล้วก็เลิก แก่ก็มีเรื่องเด็ก ขี้เกียจ จะรู้อะไรไปทางไหนก็ตายแหงๆๆ อย่างพวกนี้ ตายแล้วจะไปไหน หาทางให้มันให้ไปแล้วไม่มาใช่ไหม อะไรบ้างที่เราจะเปลื้องความทุกข์ไอ้การเวียนว่ายตายเกิด ก็ภาวะจิตมุ่งตรงสู่นิพพาน คือไอ้การอยากรู้ อยากเห็นก็เลิกกัน แต่ว่าเหตุใหญ่มันชนกันเข้าก็ต้องรู้ สงสัยเขาก็พูดกันเรื่อยเลย โลกอุดรๆๆ คือใคร

ก็มีคนหนึ่งบังเอิญเข้าไปพบ และก็ขอถ่ายภาพ ภาพแรกเป็นพระ กล้องเดียวกันถ่ายทีเดียว ขอถ่ายอีกทีกันเสีย มีภาพนุ่งโสร่ง ผ้าขาวม้าคาดพุงมีดเหน็บข้างหลัง ถามมึงถ่ายอะไร ฟิลม์เดียวกันครับ ขอถ่ายครั้งที่ ๒ แกร็ก...กันเสีย ก็ไม่เสีย ได้อีกภาพหนึ่ง ถ้าได้ซ้ำก็เสียฟิลม์เปล่าใช่ไหม พวกตกใจใหญ่ เป็นไปได้รึ เขาเป็นจะถามทำเกลืออะไร ก็เพราะมันเอง มันเห็นเอง ถามเป็นไปได้หรือ เป็นไปได้แล้ว ไม่น่าจะมาถามเลย

โลกอุดร ชื่อจริงๆ ก็ อุตตระ พระที่นำพระไตรปิฎกเข้ามาสุวรรณภูมิ อุตตระกับโสณะ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว...ถ้าถามว่าอยู่ได้ยังไง อย่าลืมคำหนึ่ง พระพุทธเจ้ารตรัสว่า

“ผู้ใดถ้าคล่องอิทธิบาท ๔ สามารถจะอธิษฐานร่างกายอยู่ถึงกัปหนึ่ง”
<O</O
อย่าลืมนะผู้ที่คล่องอิทธิบาท ๔ คือ พระอรหันต์ พระอนาคามีนี่ถือว่ายังไม่คล่อง เพราะอะไร ยังตัดสังโยชน์อีก ๕ ไม่ได้ ถ้าพระอรหันต็ถือว่าคล่อง ไอ้คล่องไม่ใช่ว่าเฉยๆ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อั๊วะก็ว่าได้นี่ นี่ไม่ได้นะ

จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๕๖ หน้า ๔๗-๔๘

เชิญอ่าน อ่านหลายๆรอบ หัวกระทู้ควรลบได้แล้ว คนเขาเข้าใจผิดกันเยอะ หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านเป็นพุทธสาวก ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่รู้ว่าบางคนโมทนาอะไรกัน รู้จักยึดหลักครูบาอาจารย์กันบ้าง โดยเฉพาะสายหลวงพ่อ น่าอายจริงๆ
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->